ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] อลวนรัก หอพักสุดเพี้ยน (Super Junior Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16 : ปฏิบัติการง้อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.65K
      14
      26 ก.ค. 53


     Chapter 16 : ปฏิบัติการง้อ

     

     

     


     

                    การหนีเที่ยวครั้งแรกดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าหอสิบสามชั้นสี่เป็นอย่างมาก หลังจากที่แยกย้ายกันไปเพื่อเตรียมตัว ไม่ถึงห้านาทีทุกคนก็ออกมารวมกันที่หน้าลิฟต์ตามที่นัดกันไว้

     

                    เฮ้ย! นี่พวกเรายังไม่ได้บอกไอ้ฮันมันเลยนะ ซีวอนร้องทักขึ้นเมื่อทุกคนกำลังจะก้าวเข้าลิฟต์ มัวแต่ตื่นเต้นจนลืมเพื่อนไปเสียสนิท

     

                    จริงด้วย ชินดงพูด

     

                    งั้นเดี๋ยวฉันไปตามเอง พูดจบซีวอนก็เดินหันหลังไปที่ห้องของฮันคยองกับฮยอกแจซึ่งอยู่ติดกับลิฟต์พอดี ส่วนเพื่อนๆที่หลงเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วก็ต้องก้าวออกมา

     

                    ซีวอนเคาะประตูอยู่นานกว่าคนด้านในจะออกมาเปิดให้ ฮันคยองมองเพื่อนรักที่เข้ามารบกวนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะเกม help me please! ทำพิษไว้เยอะ

     

                    คืนนี้เราจะไปเที่ยวกัน ไปด้วยกันมั้ย เพราะสีหน้าของฮันคยองทำให้ซีวอนเลือกที่จะถามความสมัครใจจากเจ้าตัวมากกว่า ตอนแรกเขากะว่าจะมาลากออกไปเลยด้วยซ้ำ แต่ท่าทางแบบนี้คงไม่ไหว

     

                    ไม่ดีกว่า ฮันคยองตอบเสียงเหนื่อยๆ สภาพแบบนี้จะไปไหนไหว แถมยังฮยอกแจที่นอนซมอยู่บนเตียงอีก

     

                     ก็คิดว่างั้น แล้วฮยอกแจเป็นไงบ้าง แสดงความเห็นด้วยกับเพื่อนรักก่อนจะถามถึงคนที่กำลังเป็นห่วงอยู่

     

                    ดูท่าไข้จะขึ้น ตัวร้อนจี๋เลย ฉันเพิ่งเช็ดตัวให้เมื่อกี้นี้เอง

     

                    “ห๊ะ! ฮยอกแจไม่สบายเลยเหรอ!” ทำท่าทางตกใจก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกับนั่งลงบนเตียงของฮยอกแจที่กำลังนอนหลับอยู่ เพื่อนๆที่ได้ยินก็รีบเดินมาที่หน้าห้องของฮันคยองกับฮยอกแจทันทีพร้อมกับสีหน้าที่ดูเป็นห่วง

     

                    ซีวอนวางมือสัมผัสลงที่ต้นคอของฮยอกแจเบาๆ เพราะที่หน้าผากมีผ้าชุบน้ำวางแปะไว้อยู่ ก่อนจะชักมือออกมาเมื่อรู้ว่าอุณหภูมิในร่างกายของฮยอกแจมันสูงแค่ไหน

     

                     ฮยอกแจไม่สบายเหรอ แล้วหนักมากหรือเปล่า อีทึกมองเข้าไปในห้องเห็นซีวอนนั่งเอามือลูบผมฮยอกแจอยู่จึงหันกลับมาถามฮันคยอง

     

                    เพิ่งเช็ดให้เมื่อกี้ ตอนนี้ไข้เริ่มลดลงบ้างแล้ว คืนนี้ฉันคงไปกับพวกนายไม่ได้นะ ต้องอยู่เฝ้าไข้ฮยอกแจทั้งคืน ฮันคยองยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยเช่นเดิม เพราะตั้งแต่กลับมาที่ห้องเขาเองก็ยังไม่ได้พักเลยเพราะต้องดูแลฮยอกแจตลอด ถ้าไข้ขึ้นมากกว่านี้จะแย่เอา เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าแค่แข่งเกมมันจะทำให้อาการหนักขนาดนี้

     

                    ไม่เป็นไรฮัน เดี๋ยวฉันอยู่ฮยอกแจเองก็ได้ นายก็ไปพักผ่อนเถอะ ซีวอนอาสาตัวขึ้นมา พักนี้เขาเห็นว่าฮันคยองชักจะอยู่ติดกับฮยอกแจมากเกินไปตั้งแต่ที่เขาบอกชอบฮยอกแจ ก็รู้อยู่ว่าทั้งสองเป็นรูมเมทกันไม่แปลกที่จะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าฮันคยองไม่ได้อยากจะสนับสนุนเขากับฮยอกแจเท่าไหร่นัก

     

                    ไม่ต้องหรอกซีวอน นายไปเที่ยวเถอะ ฮยอกแจเป็นรูมเมทฉัน ที่สำคัญฉันเป็นคนทำให้ฮยอกแจต้องไม่สบายแบบนี้ ฉันสมควรทำหน้าที่ดูแลฮยอกแจเอง ฮันคยองปฏิเสธน้ำใจของซีวอนเสียงแข็ง เรื่องนี้เขาเองก็มีส่วนผิดถึงมันจะเป็นแค่การโทษตัวเองก็เถอะ เพราะก็รู้ว่ามันเป็นเกม แต่ถ้าเขาหากุญแจให้มันเจอฮยอกแจก็คงไม่ต้องมานอนซมไม่สบายแบบนี้

     

                    ให้ฉันดูแลฮยอกจเถอะฮัน แกก็รู้ว่าฉันชอบเขา ฉันก็อยากจะดูแลเขา ซีวอนขอร้องอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังถึงฮันคยองจะเป็นรูมเมทของฮยอกแจ แต่เขาก็เป็นคนที่ชอบฮยอกแจ เขาให้ความสำคัญกับฮยอกแจไม่ได้ลดน้อยไปกว่าฮันคยองเลย

     

                    ไม่ต้อง ฉันดูแลเองได้ นายไปเที่ยวกับเพื่อนๆเถอะซีวอน ปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม ฮันคยองเดินเข้าไปหาซีวอนที่นั่งอยู่บนเตียงของฮยอกแจก่อนจะฉุดให้ลุกขึ้น

     

                    แต่ฉัน....

     

                    ออกมาน่ะซีวอน ฮยอกแจต้องการพักผ่อน ถ้านายไม่ออกฉันจะให้คังอินกับชินดงไปลากนายออกมา อีทึกที่ทนฟังความดื้อรั้นของซีวอนอยู่นานชักจะทนไม่ไหว ไม่รู้ว่าจะอะไรกันนักกันหนา ฮันคยองเป็นรูมเมทกับฮยอกแจสมควรอยู่ดูแลก็ถูกแล้ว

     

                    แต่...

     

                    ไปลากซีวอนออกมา เราจะได้ไปกันซักที และแล้วอีทึกก็ออกคำสั่ง คังอินกับชินดงจึงเข้าไปลากตัวซีวอนออกมาทันที

     

                    อย่าโวยวาย ฮยอกแจหลับอยู่ ฮันคยองออกปากเตือนเมื่อซีวอนทำท่าจะโวยวายออกมา

     

                    ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ซีวอนเลยได้แต่ฮึดฮัดใส่ฮันคยอง งานนี้เขาสมควรจะให้อภัยเจ้าเพื่อนต่างชาติคนนี้ดีมั้ย แทนที่จะช่วยสนับสนุนความรัก แต่ดันมาขัดขวางซะนี่

     

     

     

     

                    เวลาตอนนี้ประมาณหกโมงครึ่งท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว นักศึกษาส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้าหอกัน หลังจากเก็บกวาดสนามเสร็จทุกคนต่างพากันไปเลี้ยงฉลองไม่ว่าหอตัวเองจะแพ้หรือชนะก็ตาม แต่สำหรับหอเจ็ดนั้นเมื่อทำความสะอาดเสร็จต่างคนก็ต่างก็มุ่งหน้าไปยังสถานบันเทิงที่กลุ่มตนเองอยากเที่ยวโดยไม่ต้องมัวมาคำนึงถึงเวลากลับหอ ไม่ต้องห่วงเรื่องจะโดนทำโทษ

     

                    เราจะไปเที่ยวที่ไหนดี เรียวอุกถามขึ้น เพราะที่เดินออกกันมานี่ยังไม่ได้ตกลงกันเลยว่าจะไปที่ไหนกัน แถมตอนนี้ก็เดินใกล้จะถึงป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยกันแล้ว

     

                    ซีวอนว่าไง ชินดงหันไปขอความเห็นจากคนที่น่าจะคุ้นเคยดีที่สุด แต่พอเห็นหน้าบึ้งๆของเพื่อนคนนี้แล้วอยากจะกระโดดถีบหน้ามันจริงๆ

     

                    อย่ามางี่เง่าตอนนี้น่าซีวอน รอฮยอกแจหายนายก็ไปตื้อเค้าใหม่ก็ได้ อีทึกพูดขึ้นบ้าง

     

                    ไอ้ตุ๊ดนำทางเลย ฮีชอลที่รู้สึกหมั่นไส้ซีวอนสุดๆดันตัวรูมเมทตัวเองออกไปด้านหน้าเพื่อให้นำทางเพื่อนๆไป พร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามใหม่ให้เสร็จสรรพ เล่นงอนเพื่อนเป็นเด็กแบบนี้ เรียกไอ้ตุ๊ดน่าจะเหมาะว่าไอ้โรคจิต

     

                    เรียกใครตุ๊ด ซีวอนหันมาถามเสียงเขียว ตอนนี้คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่

     

                    เอาน่า นำๆไป อย่ามาทำให้บรรยากาศเสีย ตอนนี้เรากำลังจะไปเที่ยวกันนะ เป็นอีทึกที่ต้องออกปากอีกรอบ ดูไปดูมาเหมือนเขากลายเป็นผู้ปกครองของเด็กพวกนี้ไปซะแล้ว

     

                    ซีวอนไม่พูดอะไรออกมาอีก เดินนำเพื่อนๆไปยังสถานที่เที่ยวที่ดังที่สุดในย่านนั้น เมื่อเดินเข้ามาภายในซอยที่เติมไปด้วยสถานบันเทิง เด็กต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยได้ออกมาเปิดหูเปิดตาในสถานที่แบบนี้นักก็ดูจะตื่นแสงสีเป็นอย่างมาก

     

                    เหล่าเด็กหอสิบสามชั้นสี่เดินเข้าไปในสถานบันเทิงชื่อดังที่สุดในย่านนั้นก่อนจะเดินไปยังโต๊ะใหญ่ที่อยู่เยื้องออกไปทางขวาของเวทีกลาง หญิงสาวพนักงานของร้านต่างเข้ามาให้บริการเป็นอย่างดีเมื่อเห็นหนุ่มๆหน้าตาดีเดินเข้ามา แต่แขกกลับไม่ต้องการการบริการของพวกเธอเท่าไหร่นัก

     

                    โต๊ะนี้มีเก้าอี้ยาวสองตัวและมีโต๊ะวางอยู่ตรงกลาง คิบอมเลือกนั่งด้านริมสุดของเก้าอี้เป็นคนแรก ดงแฮที่เห็นคิบอมเดินเข้าไปนั่งจึงเดินเข้าไปเพื่อหวังจะนั่งใกล้ๆ แต่พอคิบอมหันมาเห็นกลับลุกหนีไป เห็นแบบนี้ดงแฮเลยยืนนิ่งเริ่มรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าคิบอมต้องการจะหลบหน้าเขาไปถึงไหน ยังไงซะวันนี้คงต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง

     

                    คิบอมย้ายมานั่งข้างๆกับซีวอนแทนซึ่งดูเหมือนซีวอนเองก็คงยังเคืองเรื่องของฮันคยองกับฮยอกแจไม่หายถึงได้ทำหน้าตึงตลอดเวลาแบบนี้ ส่วนดงแฮก็เลือกที่จะนั่งตรงที่ๆคิบอมเพิ่งลุกออกไปเมื่อกี้นี้ เพราะเพื่อนๆได้จับจองที่ของตัวเองกันหมดแล้ว

     

                    เมื่อจับจองที่นั่งกันได้เรียบร้อย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ถูกสั่งมาเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว จะเว้นก็แต่อีทึกที่ขอน้ำเปล่า เพราะเหตุผลอะไรนั้นทุกคนต่างรู้ดี

     

                    จริงสิ ฉันสงสัยอะไรบ้างอย่างเลยอยากจะถามนายสองคน ชินดงเริ่มบทสนทนาขึ้นพร้อมกับเบนสายตาไปยังอีทึก

     

                    อะไร เลิกคิ้วถามกลับพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

     

                    ตอนที่กำลังแข่งทำไมนายต้องหันหน้าหนีคังอินจนหัวกระแทกกันแบบนั้นด้วย ถามคำถามที่อยากรู้ออกไป และเหมือนจะไม่ใช่แค่ชินดงคนเดียวเท่านั้นที่อยากรู้ เพราะเพื่อนๆทุกคนต่างหันมาให้ความสนใจกับอีทึก

     

                    ได้ฟังแบบนี้อีทึกถึงกับเงียบไป คำพูดของคังอินเริ่มลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง แล้วเขาควรจะตอบออกไปว่ายังไงดีล่ะ

     

                    คงเพราะฉันสารภาพรักอีทึกออกไปล่ะมั้ง ฉันขออีทึกคบเหมือนอย่างที่สั่งให้คยูฮยอนคบกับ.... คังอินเห็นอีทึกเงียบไม่ยอมพูดเลยตอบออกมาเอง อีทึกได้ยินแบบนี้ก็ถลึงตาโตทันทีก่อนจะรีบถลามาปิดปากคังอินเอาไว้ ที่เขาไม่ตอบเพราะไม่อยากให้เพื่อนๆรู้ แต่คังอินกลับพูดออกมาซะงั้น

     

                    ไม่ใช่ซักหน่อย คังอินก็แค่พูดเล่นน่ะ เห็นคู่ซองมินกับคยูฮยอนเล่นเป็นแฟนกันแล้วดูสนุกน่ารักดีเลยอยากเล่นบ้างไง แก้ตัวออกมาพัลวันก่อนจะหัวเราะออกมาแห้งๆ ทำเอาคังอินหันไปมองด้วยสายตาไม่เข้าใจนัก ทำไมอีทึกต้องบอกว่าเขาพูดเล่นด้วย

     

                    นี่นายเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุกขนาดนั้นเลยเหรออีทึก ซองมินถามขึ้นและก็ได้รอยยิ้มเจือนๆของอีทึกตอลกลับมา คนอื่นอาจจะสนุกแต่กับซองมินมันอาจจะไม่ได้สนุกเท่าไหร่ เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้สึกล้วนๆ และก็ไม่รู้ด้วยว่าการเล่นเป็นแฟนกันครั้งนี้จะทิ้งความรู้สึกลึกซึ้งอะไรไว้ในหัวใจบ้างหรือเปล่า

     

                    วันหลังก็เล่นเกมคิงกันใหม่ ใครใจดีก็ช่วยสั่งนายกับอีทึกเป็นแฟนกันแล้วกันนะ ชินดงเอ่ยขึ้นยิ้มๆ อันนี้เขารู้ดีว่าจริงๆแล้วคังอินคิดยังไงกับอีทึก เรื่องที่คังอินบอกออกมาคงเป็นความจริง ไม่ใช่สิ่งที่อีทึกแก้ตัวออกมา

     

                    อีทึกยิ้มแห้งให้เพื่อนร่วมคณะก่อนจะปล่อยมืออกจากปากคังอิน สายตาคังอินที่จ้องมองอยู่ทำให้อีทึกต้องหลบตาทันที ถึงจะรู้ว่าคังอินรู้สึกยังไงตั้งแต่ต้น แต่อยู่ๆเล่นมาสารภาพกันตรงๆแบบนี้เขาก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน ประมาณว่ารู้ความจริงจากปากแล้วมันทำตัวไม่ถูก

     

                    ว่าแต่เกมของนายสองคนน่ะ เล่นกันได้แปลกประหลาดจริงๆ แล้วชินดงก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ซองมินกับคยูฮยอนแทน เกมที่เล่นแล้วควรจะดูน่ารัก แต่พอสองคนนี้เล่นแล้วมันกลับดูฮาไปซะอย่างนั้น มีอย่างที่ไหนภรรยาเอาชุดเจ้าบ่าวมาใส่

     

                    ก็ฉันรีบนี่นา อยากได้คะแนนเข้าหอบ้าง ซองมินแก้ตัวเสียงอ่อน ยอมรับเลยว่าที่เกมมันออกมาแบบนั้นเป็นเพราะความผิดของตังเองซะส่วนใหญ่ หรือจะบอกว่าผิดเต็มๆเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเขาไม่ชูสองนิ้วหอสิบสามก็คงไม่แพ้ แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่าเขาห้ามโพสท่าไหน

     

                    ช่างมันเหอะ เลิกคุยเรื่องเกมกันได้แล้ว วันนี้เรามาเที่ยวกันไม่ใช่เหรอ คยูฮยอนพูดขึ้น ไม่อยากให้เพื่อนๆมานั่งโทษกันว่าคนนู้นคนนี้ผิดทำให้หอแพ้จนอดรางวัลที่อยากได้กัน     

     

                    ฉันว่าเราออกไปเต้นกันดีกว่ามั้ย เยซองเสนอ ที่ผ่านมาเจอเรื่องวุ่นวาย เครียดๆมาก็เยอะ ออกมาเที่ยวทั้งที่ก็ต้องปลดปลอยความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เต็มที่

     

                    และความคิดนี้ก็ดูท่าจะถูกใจเพื่อนเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพยักหน้ารับกันหงึกหงักก่อนจะพากันลุกไปกลางฟลอร์เพื่อวาดลวดลายและปลดปล่อยกัน จะเว้นก็แต่ซีวอนที่ยังคงนั่งทำหน้าตึงกระดกแก้วแล้วแก้วเล่าไม่ลุกไปไหน ฮีชอลที่เห็นซีวอนเป็นแบบนี้เลยหมดอารมณ์จะลุกออกไปเต้น ทั้งที่ลุกขึ้นยืนแต่กลับนั่งลงที่เดิมก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นมาจิบบ้าง สายตาก็จ้องมองไปยังเพื่อนที่กำลังดูสนุกสนานกัน ซีวอนที่เห็นฮีชอลไม่ออกไปเต้นกับเพื่อนๆจึงหันมามองแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร กลับไปดื่มของเหลวที่อยู่ในแก้วเหมือนเดิม

     

     

     

                    ด้านดงแฮที่เห็นคิบอมลุกออกไปเต้นกับเพื่อนเลยตามเข้าไปเต้นด้วยใกล้ๆ ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปคุยให้รู้เรื่องแต่อีกใจหนึ่งก็กลัว กลัวว่าคิบอมจะเดินหนีไปอีก คนนิ่งๆแบบนี้เขาเดาอารมณ์ไม่ถูกเลยจริงๆ แต่จะมัวมากลัวตอนนี้มันก็คงจะไม่ได้การ เขาคงต้องตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง

     

                    คิบอม รั้งข้อมือไว้พลางขยับตัวเข้าไปใกล้ เสียงที่นี่ดังมาก ไม่รู้ว่าคิบอมจะได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า

     

                    คิบอมหันมามองด้วยใบหน้านิ่งๆ เหมือนอยากจะถามว่าเรียกทำไม ดงแฮเม้มริมฝีปากแน่นรวบรวมกำลังใจก่อนจะเอ่ยถามออกไป

     

                    คิบอมเป็นอะไร ทำไมต้องหลบหน้าฉันด้วยล่ะ ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นก่อนจะเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดเล็กน้อย หวังว่าคิบอมจะตอบคำถามของเขานะ

     

                    ตอบคำถามด้วยการส่ายหน้าไปมา ไม่ใช่ว่าคิบอมไม่ได้ยินคำถามของดงแฮ แต่เขากำลังบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร

     

                    ดงแฮขมวดคิ้วมุ่นกับการส่ายหน้าของคิบอม เขาไม่เข้าใจว่าคิบอมต้องการจะบอกว่าอะไร และดูเหมือนว่าคุยกันในนี้คงจะไม่รู้เรื่องแน่ๆ ดงแฮเลยออกแรงดึงมือที่จับข้อมือของคิบอมอยู่ให้เดินออกไปคุยข้างนอกด้วยกัน

     

                    ข้อมือของคิบอมโดนปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อดงแฮพาออกมาด้านนอกเรียบร้อยแล้ว คนขี้อ้อนยืนท้าวเอวเหมือนอยากจะเอาเรื่อง

     

                    เป็นอะไรทำไมต้องหลบหน้ากันด้วยล่ะ ถามคำถามเดิมออกมาสีหน้าจริงจัง

     

                    คิบอมเงียบไม่ตอบอะไรกลับมาทำเอาดงแฮเริ่มใจไม่ดี รู้สึกว่าตัวเองกับคิบอมจะโกรธกันนานเกินไปแล้ว แถมสาเหตุมันกลับไม่แน่ชัดด้วยว่าเป็นเพราะอะไร เขายังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าคิบอมโกรธเรื่องอะไร

     

                    คิบอมโกรธเรื่องที่ฉันกลัวเพื่อนๆล้อเรื่องที่เราทำตัวสนิทกัน ที่ฉันอ้อนนายเหมือนเป็นแฟนกันใช่มั้ย เงียบไปซักพักดงแฮก็ถามออกมา และคิดว่าเหตุผลนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คิบอมมีท่าทีที่เปลี่ยนไป

     

                    ใช่มั้ย เห็นคิบอมยังเงียบดงแฮเลยถามย้ำออกไปอีกครั้ง และมันก็ทำให้เขาเริ่มมั่นใจว่าคงเป็นเพราะเหตุนี้แน่นอน

     

                    ก็รู้หนิ เพราะนายไม่อยากโดนเพื่อนล้อไม่ใช่เหรอ ไม่อยากให้เพื่อนเข้าใจผิดว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าเพื่อนกัน ตอนนี้ฉันก็กำลังทำให้นายสบายใจไง ไม่วุ่นวายด้วย ไม่ตามใจ เพื่อนๆจะได้เลิกเข้าใจผิด นายจะได้ไม่ต้องกังวล แล้วตอนนี้จะตามมาง้อมาสนใจทำไม คิบอมร่ายออกมายาวยืดด้วยความรู้สึกที่มีทั้งหมดล้วนๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเขาจะอยากทำแบบนี้ แต่มันก็ช่วยไม่ให้เพื่อนๆล้อได้ไม่ใช่เหรอ

     

                    คิบอม ครางชื่ออีกคนออกมาเสียงอ่อยเมื่อได้รับรู้ความรู้สึกที่ตนเองไม่เคยนึกถึงมาก่อน อยู่ๆน้ำตามันก็เลยเอ่อขึ้นมา

     

                    ขอบตาแดงๆที่มีน้ำตาคลออยู่นั่นทำให้คิบอมเบือนหน้าหนีก่อนจะหันหลังให้เตรียมเดินกลับเข้าไปด้านในเมื่อไม่เห็นว่าดงแฮจะพูดอะไรออกมาอีก

     

                    คิบอมฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่านายจะรู้สึกแบบนี้ ตอนนี้ฉันไม่สนแล้วว่าเพื่อนๆจะมองจะคิดยังไง อยากได้คิบอมคนเดิมกลับมา ไม่เอาแล้วคนเย็นชาแบบนี้ เมื่อเห็นว่าคิบอมจะก้าวเดินออกไปดงแฮก็ถลาเข้าไปจับเสื้อด้านหลังของคิบอมเอาไว้ ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานได้พูดออกมาจนหมดสิ้น คิบอมเป็นรูมเมทของเขา เราสนิทกันที่สุดและอยู่ด้วยกันมากที่สุด คนที่เขาจะต้องแคร์ที่สุดก็คือคิบอม

     

                    นิ่งไปซักพักคิบอมก็หันหน้ากลับมาแต่ใบหน้านั้นกลับยังนิ่งเฉยเหมือนเดิม ทำให้ดงแฮเดาไม่ถูกเลยว่าคิบอมจะคิดยังไงกับคำที่เขาได้พูดออกไปเมื่อกี้นี้

     

                    ข้อมือเล็กที่จับเสื้อไว้คลายออกช้าๆ คิบอมเลื่อนมือลงไปกอบกุมมือเรียวเล็กนั่นไว้เบาๆก่อนจะออกแรงดึงเล็กน้อยให้ดงแฮเดินตามตนเองมา

     

                    คิบอมจะไปไหน ร้องถามสีหน้าตื่น แต่ก็ยอมเดินตามคิบอมไปแต่โดยดี นอกจากจะไม่พูดอะไรให้มันกระจ่างแล้ว พฤติกรรมแบบนิ่งๆทำให้เขาเดาใจคิบอมไม่ถูก

     

                    คิบอมไม่ตอบอะไรเพียงแค่หันมามองเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงขายาวเดินจ้ำเอาๆไม่ได้ดูคนที่ตัวเองพามาด้วยว่าจะเดินตามทันหรือไม่ เลยกลายเป็นดงแฮต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามคิบอมไป เพราะไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปอีก

     

                    “นี่มันร้านไอติมนี่นา พึมพำออกมาเบาๆเมื่อคิบอมพามาถึงที่หมาย ดงแฮเผยรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ

     

                    ทดแทนที่ฉันไม่ได้ดูแลนายตลอดเวลาที่ผ่านมาแล้วกันนะ หันมาบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนต่างกับคิบอมคนในผับเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง ทำเอาดงแฮแทบจะกระโดดด้วยความดีใจ

     

                    รักคิบอมที่สุดเลย ว่าแล้วก็ตรงเข้าไปกอดด้วยความลืมตัว คิบอมเลยได้แต่ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เพราะแบบนี้ไงล่ะเพื่อนๆถึงได้เข้าใจผิด และก็อาจจะรวมไปถึงหัวใจเขาด้วย

     

                   

     

     

     

                    ความรู้สึกสบายตัวจากความเย็นที่ส่งผ่านจากผ้าสู่ผิวขาวผ่องบริเวณใบหน้าและต้นคอทำให้ฮยอกแจลืมตาขึ้นมาเบาๆหลังจากหลับไปหลายชั่วโมง ภาพตรงหน้าที่เห็นตอนนี้คือใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของรูมเมทขี้บ่น รอยยิ้มบางเบาถูกส่งมาให้พร้อมกับคำพูดที่แสดงถึงความห่วงใย

     

                    ปวดหัวหรือเปล่า รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใช้ผ้าขนหนูซับใบหน้าขาวใสที่ขึ้นสีจางๆจากพิษไข้เบาๆ

     

                    ฮยอกแจจ้องฮันคยองด้วยดวงตาที่แดงก่ำก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆโดยมีฮันคยองช่วยพยุง และอยู่ๆน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้มันก็ไหลลงอาบแก้มใสโดยไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดง่ายๆ

     

                    ฮยอกแจเป็นอะไร!” ร้องถามออกมาอย่างตกใจ มือที่ถือผ้าขนหนูอยู่วางกลับลงไปในกะละมังอย่างรวดเร็ว แขนทั้งสองข้างทำหน้าที่โอบกอดร่างเล็กไว้ตามสัญชาตญาณความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขายังไม่เคยเห็นฮยอกแจร้องไห้หรือแสดงท่าทางอ่อนแอแบบนี้เลยซักครั้ง

     

                     นายมันบ้าที่สุด! ทำไมนายถึงโง่หากุญแจไม่เจอ จะปล่อยให้ฉันจมน้ำตายหรือไง ฉันกลัวมากเลยรู้มั้ย กลัวที่สุด พร่ำเพ้ออกมาทั้งน้ำตา สองมือที่อยู่ในอ้อมกอดกระหน่ำทุบตีที่อกแกร่งถึงแม้แรงมันจะไม่ได้มากมายก็ตาม ประโยคสุดท้ายพูดออกมาเบาๆก่อนที่มือทั้งสองข้างจะหยุดทุบตีเปลี่ยนเป็นกำที่เสื้อของฮันคยองแทน

     

                    ฉันขอโทษที่ทำให้นายจมน้ำ ทำให้นายต้องกลัว แต่ตอนนี้นายไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วฮยอกแจ ฉันอยู่ข้างๆนายแล้วนี่ไง ฉันจะดูแล จะปกป้องนายเอง ฮันคยองกระชับกอดฮยอกแจให้แน่นยิ่งขึ้น กดศีรษะของฮยอกแจให้ซบลงกับไหล่ของตนเบาๆ

     

    ไหล่บางสั้นเล็กน้อยตามแรงสะอื้น ฮันคยองลูบหลังฮยอกแจไปมาเบาๆ จมูกฝังลงที่ขมับเบาๆเหมือนต้องการปลอบใจ ความอบอุ่นที่ไม่เคยมีอบอวนไปทั่วห้อง ความรู้สึกไว้วางใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง ไหล่บางที่เคยสั่นเริ่มนิ่งสนิท ถึงแม้ตอนนี้ฮยอกแจจะหยุดร้องไห้แล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะผละออกจากกัน

     

    ผ่านไปซักพักฮันคยองจึงเป็นฝ่ายคลายอ้อมกอดออกเปลี่ยนมาจับที่ไหล่บางแทน ฮยอกแจยังคงก้มหน้านิ่ง ความรู้สึกบางอย่างเริ่มแทรกซึมเข้ามาแต่ทั้งสองคนก็เลือกที่จะไม่คิดถึงมันซะ

     

    กินข้าวหน่อยนะ จะได้กินยาแล้วนอนพักต่อ ฮันคยองละมือจากไหล่บางหันไปหยิบถ้วยข้าวต้มที่เขาออกไปซื้อมาให้ฮยอกแจ

     

    ควันที่เคยลอยขึ้นมาจากถ้วยเพราะความร้อนบัดนี้ได้หายไปหมดแล้ว ฮันคยองยิ้มออกมาเล็กน้อย หยิบช้อนคนข้าวต้มในถ้วยเบาๆก่อนจะตักไปจ่อที่ริมฝีปากของฮยอกแจ

     

    ฉันกินเองได้ ปฏิเสธออกมาเบาๆ ยื่นมือไปเพื่อจะขอถ้วยข้าวต้มมาทานเอง แต่กลับโดนฮันคยองปฏิเสธกลับมาเช่นกัน

     

                    ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะดูแลนายเอง กินซะ อ้างสิทธิ์ที่เพิ่งสัญญาไปเมื่อกี้นี้ พร้อมกับจ่อช้อนไปที่ปากของฮยอกแจอีกครั้ง คนถูกป้อนเลยต้องยอมกินแต่โดยดี ใบหน้าซีดเซียวซับสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อย มองดูแล้วน่ารักไม่หยอก ไม่รู้เป็นเพราะพิษไข้ หรือเพราะเขินอายจากการกระทำของรูมเมทคนนี้กันแน่ คนไม่เคยทำอะไรที่มันอ่อนโยนต่อกันมาถึงตอนนี้แล้วก็คงรู้สึกแปลกเป็นธรรมดา

     

                    กินไปได้เพียงครึ่งเดียวฮยอกแจก็เบือนหน้าหนี ฮันคยองเลยให้ทานยาแล้วเข้านอน ส่วนตัวเองก็รอจนฮยอกแจหลับก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงของตัวเองโดยนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาฮยอกแจ

     

                    รีบหายนะ บอกกับคนที่หลับไม่รู้เรื่องออกมาเบาๆ ก่อนจะที่ตาของตัวเองจะปิดลง เนื่องจากวันนี้ร่างกายเสียพลังงานไปมาก ฮันคยองจึงหลับใหลเข้าสู่ท้วงนิทราในเวลาไม่นานนั 

    -----------------------------------------------




    kr...Talk 
    สวัสดีจ้าเพื่อนๆทุกครั้ง
    ขอโทษที่มาอัพช้านะ เนื่องจากไรเตอร์ติดสอบ
    ต้องอ่านหนังสืออย่างรุนแรง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยเลย ฮือๆ เศร้า
    แล้วติดเรื่องของปกที่ต้องปรึกษากัน เลยกะจะอัพวันปิดส่งเลย
    เดี๋ยวรอแแปปนะ ไรเตอร์จะอัพปกให้

    สำหรับตอนนี้เอาใจคนรักคิเฮ ฮันฮยอกแบบเต็มๆ
    น่ารักใช่ไหม แอบมีกุ๊กกิ๊ก ไรเตอร์ชอบ
    มาช่วยกันโหวตปกเยอะๆนะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×