ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Furious for Love...แค้นนี้ เพื่อรัก [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #29 : Chapter25 : ลาก่อนโจฮยอนจิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      1
      13 เม.ย. 54


    Chapter25   :  ลาก่อนโจฮยอนจิน

     

     

     

     

                ประตูของห้องพักฟื้นภายในโรงพยาบาลถูกแย้มเปิดเบาๆ ร่างเล็กของเด็กหนุ่มแทรกผ่านเข้ามาภายในห้องก่อนจะปิดประตูลงอีกครั้ง ภายในห้องตอนนี้นั้นมืดสนิท แต่ถึงอย่างนั้นแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ภายนอกก็ยังสามารถนำทางให้เดินไปมาได้อย่างสะดวก

    ผ้าม่านที่ถูกเปิดไว้รับลมเย็นในตอนกลางคืน ด้านนอกหน้าต่างนั้นเป็นวิวของเมืองหลวงในยามค่ำแบบนี้ ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยเข้าวันใหม่แล้วแต่ผู้คนไม่น้อยกลับยังเดินขวักไขว่อยู่บนถนนหนทาง เมืองแห่งนี้ไม่เคยหลับใหลจริงๆ

     

    คนตัวเล็กที่เพิ่งกลับจากการปฏิบัติภารกิจสำคัญหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมข้างเตียง หลังจากที่เรียวอุกขโมยเทปไปให้ฮันคยองที่สถานีตำรวจเขาก็ต้องกลับไปที่บ้านอีกครั้ง และหลังจากที่คนในครอบครัวลีออกปฏิบัติการเขาจึงแอบออกมาที่นี่โดยที่ฮโยริกับฮีชอลซึ่งรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านไม่ได้สนใจเขาเลยซักนิด

     

    ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะครับ เรื่องทุกอย่างจะได้จบเสียที บอกกับคนที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง รอยยิ้มผุดขึ้นมาเมื่อคิดว่าเรื่องราวบ้าๆนี้จะจบลงเสียที แต่มันก็ไม่พ้นที่จะต้องเกิดการสูญเสียขึ้นอยู่ดี

     

     

     

     

    คังอินที่วิ่งตามซองมินออกมาทันก่อนที่ตำรวจจะล้อมบ้านเอาไว้หมดรีบขึ้นรถของตัวเองซึ่งจอดอยู่ห่างจากบ้านตระกูลโจพอสมควรตามซองมินที่เพิ่งโบกรถแท็กซี่พาฮยอนจินหนีไป

     

    ด้านคยูฮยอนนั้นขับรถของตนเองที่จอดไว้หน้าบ้านตามไป ถึงแม้จะหนีออกมาทางหลังบ้านได้ แต่ในเมื่อรถจอดอยู่ด้านหน้าจึงทำให้พวกตำรวจสังเกตเห็น และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนที่รีบขึ้นรถขับตามมาเมื่อเห็นคนในบ้านตระกูลโจถูกขับออกไปนอกเสียจากฮันคยองกับชินดง โดยมีนายตำรวจอีกจำนวนหนึ่งขับตามมาด้วย

     

    ทงแฮที่พาคิบอมออกมาจากบ้านได้อย่างหวุดหวิดก็ขับรถมุ่งหน้าโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพราะอาการของคิบอมตอนนี้เริ่มดูแย่ลงเข้าไปทุกที ถึงแม้บาดแผลจะเป็นแค่จุดเล็กๆเท่านั้นแต่ก็เกิดการกระแทกอย่างแรงที่บาดแผลจนเลือดมันยังไหลไม่ยอมหลุด และคิบอมเองก็ดูเหมือนจะอ่อนเพลียลงมากแล้วด้วย

     

     

     

    ความเร็วของรถยังคงเคลื่อนตัวไปในระดับที่ไม่มากนัก เมื่อคังอินต้องแยกประสาทออกเป็นสองส่วน สายตาคอยจับจ้องไปยังรถแท็กซี่ที่อยู่ด้านหน้า ส่วนมือข้างหนึ่งนั้นกำลังต่อโทรศัพท์บลูธูทเพื่อรายงานสถานการณ์ให้ฮโยริและฮีชอลที่รอฟังอยู่ที่บ้านได้ทราบ และไหนจะต้องมากังวลกับคยูฮยอนที่ขับตามมาแถมพ่วงด้วยรถตำรวจที่ตามมาติดๆ

     

    (ว่าไงคังอิน) เสียงปลายสายถามอย่างตื่นเต้นและร้อนรน เพราะเพียงแค่รู้ว่าใครโทรมาฮีชอลก็แทบจะกระโจนใส่โทรศัพท์ทันที

     

    พวกตำรวจมันโผล่มาที่บ้านซะก่อนแผนเลยไม่สำเร็จ ตอนนี้ซองมินกำลังพาฮยอนจินหนีไป ส่วนฉันกำลังขับตามไปอยู่ แถมยังมีคยูฮยอนกับพวกตำรวจตามมาด้วยอีกคังอินรายการเหตุการณ์เสียงเครียด สายตาก็คอยสอดส่องมองซ้ายขวาว่ารถแท็กซี่ที่ซองมินพาฮยอนจินหนีไปยังคงอยู่ในระยะการมองเห็น และคยูฮยอนกับพวกตำรวจไม่ตามมาใกล้จนเกินไป

     

    (ซองมินจะพาฮยอนจินหนีไปไหน)

     

    เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ ถ้าคืบหน้ายังไงแล้วจะโทรบอกอีกที

     

    (พวกฉันจะตามไปนะคังอิน) พูดจบฮีชอลก็ตัดสายทิ้งไป และรีบออกมาจากบ้านทันที

     

    จะตามมาทำไมเนี่ย ไม่ทันที่คังอินจะได้ออกปากห้ามปลายสายก็ตัดไปเสียก่อนเลยได้แต่บ่นอยู่กับตัวเองเท่านั้น คนแค่นี้ก็ยุ่งกันมากพอแล้ว ถ้าฮโยริกับฮีชอลมาด้วยเขายังนึกไม่ออกเลยว่าจะมาช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง

     

    แต่สุดท้ายแล้วคังอินก็ต้องกลายเป็นคนบอกทางให้ฮโยริกับฮีชอลไปโดยปริยายเมื่อทั้งคู่ยืนยันหนักแน่นว่าจะตามไปด้วย จนกระทั่งรถแท็กซี่ที่ซองมินขึ้นขับมาถึงที่หมาย

     

    รถแท็กซี่ที่ซองมินพาฮยอนจินหนีมาจอดที่หน้าซอยเล็กๆซอยหนึ่ง ก่อนที่ซองมินจะลากฮยอนจินเข้าไปในซอยนั้นซึ่งคังอินจำได้ว่ามันเป็นซอยโกดังล้างที่ไม่ค่อยมีรถหรือผู้คนเฉียดผ่านเข้าไปนัก

     

    คังอินหักรถเลี้ยวตามเข้าไป พอดีกับที่ซองมินกำลังพาฮยอนจินเข้าไปภายในโกดังคังอินจึงรีบวิ่งตามไป ส่วนคยูฮยอนก็ขับตามมาติดๆ ก่อนจะตามเข้าไปด้านในเช่นกัน

     

    ด้านของตำรวจที่เพิ่งตามมาถึง ชินดงตามเข้าไปเป็นคนแรก ส่วนฮันคยองนั้นจะขังอึนฮยอกไว้ในรถเหมือนเดิม แต่มือปืนแห่งโจกรุ๊ปกลับไม่ยอมง่ายๆ ออกแรงผลักฮันคยองจนเซออกไปและใช้จังหวะนี้วิ่งตามเข้าไปในโกดัง จะรั้งไว้ก็ไม่ทันเสียแล้วฮันคยองเลยต้องรีบตามเข้าไปแทน โดยที่รอบนอกของโกดังนั้นมีตำรวจคอยล้อมไว้อยู่ และไม่นานนักฮโยริกับฮีชอลก็เพิ่งตามถึงแต่กลับโดนตำรวจที่ล้อมด้านนอกคุมตัวเอาไว้จึงไม่สามารถตามเข้าไปด้านในได้

     

    ภายในโกดังตอนนี้ออกจะดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก เมื่อซองมินล็อกตัวฮยอนจินเอาไว้ ในมือถือปืนจ่อเข้าที่ข้างขมับ คังอินนั้นยืนอยู่ข้างซองมินในมือถือปืนเล็งไปที่ชินดงกับคยูฮยอน โดยนายตำรวจหนุ่มกับลูกชายคนรองของโจกรุ๊ปเองก็ถือปืนไว้ในมือเช่นกัน ฮันคยองจึงดึงอึนฮยอกให้มายืนหลบอยู่ด้านหลังตนเองเพราะเป็นคนเดียวที่ไม่มีอาวุธใดๆติดตัวอยู่เลย

     

    นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนที่เกิดความสงสัยที่สุดในที่นี่คงหนีไม่พ้นฮันคยองกับชินดงที่ไม่ได้รับรู้ถึงความแค้นที่สองครอบครัวนี้มีต่อกัน เลยได้แต่ตั้งคำถามขึ้นกับตัวเองว่าทำไมซองมินกับคังอินถึงมาอยู่ที่นี่ได้ และทำไมต้องจับตัวฮยอนจินไว้แบบนั้น ทั้งที่สองครอบครัวนี้เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน

     

    ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกคุณตำรวจ ที่จริงตำรวจอย่างพวกคุณไม่น่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ซองมินเปลี่ยนจากการล็อกแขนกับตัวมาเป็นล็อกคอฮยอนจินแทน ปืนที่ถืออยู่ก็กดลงที่ขมับรุนแรงกว่าเดิม จนคยูฮยอนเริ่มจะอยู่ไม่สุข

     

    หยุดเถอะครับพี่ ปล่อยพ่อผมออกมาเถอะ เพราะไม่กล้าที่จะทำอะไรรุนแรงตอนนี้คยูฮยอนเลยเลือกใช้วิธีการขอร้องแทน ถึงรู้ว่ามันจะไม่ได้ผมก็ตาม

     

    มาถึงขั้นนี้แล้วนายจะกล้าพูดแบบนี้ออกมาอีกเหรอคยูฮยอน เพราะพ่อของนายทำให้ครอบครัวฉันต้องขาดหัวหน้าครอบครัวไป ขาดเสาหลักของครอบครัว พวกเราลำบากมากขนาดไหนมีใครเคยมาเหลียวแลบ้างมั้ย!! ครอบครัวนายเคยหันมาสนใจบ้างมั้ย!! ไม่เลย! ไม่เคยมีเลย! คำพูดทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอารมณ์ความรู้สึกทั้งสิ้น ซองมินกระชากเสียงจนเส้นเลือดที่คอปูดนูนขึ้นมา ความแค้นที่ฝังอยู่ในใจมันปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อโดนกระตุ้นเข้าอย่างจัง

     

    หึ! ลีซองมิน คงมีอีกเรื่องหนึ่งสินะที่นายไม่รู้ว่าคนที่ฆ่าพ่อนายไม่ใช่ฉัน ฮยอนจินหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดออกมา แต่กลับโดนซองมินล็อกคอแน่นกว่าเดิมเพราะคำพูดที่ไม่เข้าหูนี่

     

    ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าแกไม่ได้ฆ่าพ่อฉัน แต่ถ้าไม่ใช่เพราะแกพ่อฉันก็คงไม่ตาย เพราะพ่อคบเพื่อนที่เห็นแก่ตัวแบบแกไง! โจฮยอนจิน!” เพราะความโมโหทำให้ซองมินไม่ได้สนใจแล้วว่าฮยอนจินจะเป็นใคร จะอาวุโสกว่าตนขนาดไหน ณ ตอนนี้เวลานี้ไม่มีการให้ความเคารพอีกต่อไปแล้ว

     

    ไกปืนถูกเหนี่ยวรั้งไว้พร้อมที่จะปล่อยกระสุนแห่งความตายออกมาได้ทุกเมื่อ หากมีคำพูดที่ไม่เข้าหูหลุดออกมาอีก ซองมินเลื่อนกระบอกปืนลงมาที่ต้นแขนของฮยอนจิน ถ้าทำให้ตายเลยมันคงจะดูใจดีเกินไป อย่างน้อยเขาก็อยากให้ฮยอนจินพบกับความทรมานก่อนตาย

     

    แต่ลูกชายของคนที่ฆ่าพ่อนายมันยืนอยู่ตรงนี้แล้วไง ฮันคยองลูกชายของฮันชาง ตำรวจที่มันยิงพ่อนาย

     

    ปัง!

     

    ทิศทางของกระสุนเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อจบคำพูดของฮยอนจิน ควันสีขาวลอยเป็นไอออกมาจากปากกระบอกปืนที่เล็งยิงไปยังฮันคยอง เพราะคำพูดของฮยอนจินทำให้ซองมินเกิดความสับสนจนหันกระบอกปืนไปหาฮันคยองแทนโดยที่ไม่ทันได้คิด

     

    อึนฮยอก!” สามเสียงตะโกนออกมาพร้อมกันทั้งฮยอนจิน คยูฮยอนและฮันคยอง เมื่อบุคคลที่ควรจะโดนกระสุนกลับไม่ใช่ฮันคยอง เพราะอึนฮยอกใช้ตัวเองเป็นโล่รับกระสุนนั้นแทน

     

    ร่างของอึนฮยอกล้มลงโดยมีฮันคยองคอยรับไว้ กระสุนนั้นฝังเข้าที่แผลเดิม แผลที่เกิดเป็นรอยแผลเป็นถึงสองครั้งสองครา และมันก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นเป็นทวีคูณ

     

    เสียงกระสุนนัดที่สองและสามดังขึ้นเมื่อฮันคยองยิงสวนกลับไป นัดแรกเข้าที่แขนของซองมินทำให้ฮยอนจินถูกปล่อยตัวออกมา เมื่อซองมินปล่อยมือที่ล็อกคอฮยอนจินไว้มากุมแขนที่ถูกยิง และนัดที่สองกระสุนฝังเข้าที่ท้องจนร่างทั้งร่างนั้นทรุดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

     

    พี่ซองมิน คยูฮยอนวิ่งเข้าไปดูซองมินที่ล้มลงไป กลิ่นคราวเลือดคละคลุ้งไปทั่วเมื่อมีคนเจ็บเพิ่มขึ้นมาอีกคน ของเหลวใสสีแดงไหลนองออกมาอย่างช้าๆ คยูฮยอนจึงเลื่อนมือไปกุมแผลที่ท้องของซองมินเอาไว้ แต่กลับโดนปัดทิ้ง

     

    ปัง! ปัง!

     

    เสียงกระสุนสองนัดดังขึ้นไล่เลี่ยกัน เมื่อฮันคยองยิงไปที่มือของคังอินซึ่งกำลังจะยิงมาที่พวกเขาจนปืนกระเด็นหลุดออกจากมือไป และชินดงที่เล็งยิงไปที่ซองมินอีกนัดเพื่อป้องกันการโดนยิงสวนกลับมา เนื่องจากซองมินเองก็กำลังจะเล็งยิงมาที่พวกเขาเช่นกัน

     

     พ่อ!” แต่กระสุนนั้นกลับพุงเข้าที่เป้าหมายอีกคน เมื่อฮยอนจินเอาตัวเข้ามาบังคยูฮยอนที่กำลังช่วยพยุงซองมินเอาไว้ เพราะกลัวว่ากระสุนที่ชินดงยิงนั้นมันจะพลาดโดนลูกชายของตนเข้า กระสุนเพียงนัดเดียวนั้นพุ่งตรงเข้าที่กลางหัวใจ ร่างของฮยอนจินล้มลงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ไร้การตอบสนองใดๆ แม้แต่เสียงร้องของความเจ็บปวดก็ไม่มีให้ได้ยิน

     

    พ่อ! ตื่นสิ!” หัวใจของคนเป็นลูกแทบจะแตกสลายอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นพ่อตัวเองถูกยิงต่อหน้าต่อตา คยูฮยอนเข้าไปเขย่าตัวฮยอนจินเบาๆ รอยของกระสุนที่ฝังเข้าไปในร่างกายเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา แต่เรียกไปเท่าไหร่กลับไม่มีการตอบรับกลับมาเลยแม้แต่น้อย

     

    นายตำรวจหนุ่มชินดงที่เป็นคนยิงยังคงอึ้งกับภาพที่เห็นเมื่อเป้าหมายที่เขาต้องการจะยิงนั้นผิดพลาด เลือดที่ไหลจากหัวใจของฮยอนจินเริ่มนองออกมาเต็มพื้น ฮันคยองหันไปสนใจอึนฮยอกที่ใกล้จะหมดสติเต็มทีเพราะเสียเลือดไปมากเช่นกัน มือปืนเลือดเย็นแห่งโจกรุ๊ปถูกประคองเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดก่อนฮันคยองจะหันไปมองคยูฮยอนที่กำลังร้องไห้โศกเศร้าเสียใจอยู่กับศพของพ่อตนเอง

     

    คังอินใช้ช่วงจังหวะนี้ที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจอยู่ที่การตายของฮยอนจินเข้าไปพยุงซองมินออกมาและพาหนีออกไป

     

    ความวุ่นวายภายนอกโกดังเกิดขึ้นทันทีเมื่อทุกคนรู้ว่าฮยอนจินตายแล้ว นายตำรวจหลายคนเข้าไปเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุด้านใน รถโรงพยาบาลถูกเรียกมาในเวลาต่อมาเสียงไซเรนดังระงมแข่งกับกับไซเรนของรถตำรวจ

     

    ฮโยริกับฮีชอลถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อสถานการณ์ด้านในกลับคืนสู่ความสงบ ก่อนที่ทั้งสองคนจะถูกคังอินโทรเรียกให้ไปช่วยพาซองมินไปส่งโรงพยาบาลและพาหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

     

    ร่างไร้ลมหายใจของโจฮยอนจินถุกเข็นเข้าไปภายในรถพยาบาลโดยมีคยูฮยอนนั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลา มือทั้งสองข้างกุมมืออันเย็นเฉียบของพ่อตนเองไว้ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลนองออกมาโดยไม่มีคำว่าอาย

     

    พ่อครับ คำเดียวที่คยูฮยอนพร่ำเพ้อออกมาในเวลานี้ พ่อของเขากำลังจะจากไปแล้ว จะไม่มีพ่อเขาบนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

     

     

     

     

    ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้วไฟหน้าฉุกเฉินก็ยังไม่ดับลงเสียที ทงแฮนั่งก้มหน้านิ่งอยู่ที่เดิมไปขยับเขยื้อนไปไหนตั้งแต่ที่พาคิบอมมาส่งถึงโรงพยาบาล บาดแผลของคิบอมไม่ใหญ่มากก็จริงแต่เสียเลือดไปมาก การรักษามันคงไม่ง่ายเท่าไหร่ และต้องใช้เวลาพอสมควร

     

                ใบหน้าหวานของมือปืนแห่งโจกรุ๊ปเงยขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่สวยนั้นดูเหม่อลอยไร้จุดหมาย อยากให้ตอนนี้สมองมีแต่ความว่างเปล่าแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เรื่องราวในต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมันผุดขึ้นมาให้นึกถึงทั้งที่ไม่อยากจะนึกถึงมันเลยซักนิด

     

                คุณครับ เสียงของแพทย์ที่รักษาคิบอมร้องทักจึงทำให้ทงแฮหลุดจากภวังค์

     

                ครับ

     

                ตอนนี้คุณคิบอมอาการปลอดภัยดีแล้วนะครับ อีกซักพักคงจะออกมา นายแพทย์รายงานอาการตามที่รักษาก่อนะยิ้มให้ทงแฮบางๆ

     

                ขอบคุณมากครับ

     

                ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ

     

                ครับ พยักหน้าให้ก่อนคุณหมอจะเดินจากไป ทงแฮลุกขึ้นจากเก้าอี้มองไฟที่หน้าห้องฉุกเฉินซึ่งบัดนี้ดับลงเรียบร้อยแล้ว สมองสั่งการให้สองขาก้าวเดินออกไปจากบริเวณนี้อย่างช้าๆก่อนที่ใครบางคนจะออกมาจากห้องนั้นเสียก่อน

     

                เพราะไม่อยากอยู่เผชิญหน้าด้วย ไม่อยากต้องพบเจอกับความเสียใจ ไม่อยากให้ตัวเองต้องเกิดความเคียดแค้นกับคนๆนี้ ทงแฮเลยเลือกที่จะเดินจากไปซะ

     

     

     

                คลาดกันเพียงไม่กี่นาทีที่ทงแฮเดินจากไปคิบอมก็ถูกนางพยาบาลเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน สายตาของคิบอมนั้นกวาดมองไปทั่วบริเวณเมื่อไม่เห็นคนที่พาเขามาส่งที่นี่ บางทีทงแฮอาจจะกลับไปตั้งแต่ที่ส่งเขาเข้าห้องฉุกเฉินเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

     

                บาดแผลที่เท้าของคิบอมนั้นไม่ได้รุนแรงอะไรมากแต่เขากลับต้องเสียนิ้วไปหนึ่งนิ้ว รถเข็นของคิบอมถูกเข็นไปรอทำเรื่องเกี่ยวกับการรักษาและค่าใช้จ่าย เพราะตัวเองไม่อยากจะนอนโรงพยาบาลและบาดแผลแค่นี้มันก็ไม่ได้สาหัสอะไรมากจนเขาเดินไม่ได้

     

                ระหว่างที่รอทำเรื่องคิบอมกลับนึกถึงแต่ใบหน้าของคนที่ตนเองหลอกใช้มาโดยตลอดเลย ใบหน้าที่มีแต่ความผิดหวังเมื่อรู้ความจริง แต่ทงแฮก็ยังอุตส่าห์มาเขามาส่งที่โรงพยาบาลแบบนี้

     

                โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงถูกล้วงออกมาอย่างยากลำบาก คิบอมกดโทรออกเบอร์ที่เขาคุ้นเคยดี แต่รอจนสายตัดไปปลายสายก็ไม่ยอมรับเสียที เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งจนคิบอมเริ่มถอดใจ ทั้งที่เขาจะโทรไปถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน อยากจะรู้ว่ายังปลอดภัยดีก็เท่านั้น

     

                ในเมื่อไม่รับโทรศัพท์คิบอมเลยเลือกใช้วิธีการส่งข้อความแทน เมื่อส่งไปแล้วก็รอเพียงแค่เวลาเท่านั้นว่าอีกฝ่ายจะตอบเขากลับหรือไม่

     

                ขอบคุณสำหรับความสุขที่มอบให้

     

     

     

               

                เบอร์ที่หมั่นโทรมากว่าสิบสายตอนนี้เงียบไปแล้ว ทงแฮไม่ได้สนใจเจ้าโทรศัพท์ที่สั่นแล้วสั่นเล่าในกระเป๋านั่นเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ต้องดูเขาก็รู้ว่าใครที่โทรมา แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงเรียกเข้าเพลงโปรดที่เขาตั้งเอาไว้ แต่มันกลับเป็นเสียงข้อความ ทงแฮจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านในทันที

     

                โทรศัพท์มือถือเครื่องสวยถูกพับเก็บใส่กระเป๋าทันทีเมื่ออ่านข้อความจบ เท้าที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าหันหลังกลับ จุดหมายใหม่คือที่ที่เขาเพิ่งจะเดินจากมันมา

     

                 ทงแฮเดินกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง บรรยากาศตอนนี้เงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงนางพยาบาลกับเจ้าหน้าที่อยู่ประปรายเท่านั้น

     

                เดินเข้ามาได้มาเท่าไหร่ก็พบกับบุคคลที่ต้องการ ทงแฮเดินตรงเข้าไปหาคิบอมที่นั่งอยู่บนรถเข็นก่อนจะหยิบปืนออกมาจ่อยิงที่กลางหน้าผาก คิบอมตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา มีเพียงสายตาเรียบๆที่จ้องมองกลับไปเท่านั้น

     

                มือที่ถือปืนอยู่นั้นสั่นระริก สุดท้ายแล้วทงแฮก็ทำมันไม่ลง เขายิงคิบอมไม่ลง เขาทำร้ายคนที่รักไม่ลงจริงๆ แม้คนๆนี้จะหลอกเขาก็ตาม

     

                ทั่วทั้งบริเวณตกอยู่ในความเงียบ ทงแฮเบียนหน้าหนีออกไปทางอื่น คำถามมากมายผุดขึ้นมาจนเขาไม่รู้ว่าควรจะถามคำถามไหนก่อนดี แต่ถึงถามไปคนอย่างคิบอมก็คงตอบมันไม่ได้ หรือถึงแม้ตอบได้ก็คงไม่ตอบมัน

     

                มายุ่งกับผมทำไม ถามออกมาเสียงเบาหวิว คำถามที่เหมือนตอกย้ำตัวเองให้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องหลอกลวงที่คิบอมสร้างขึ้นมาเท่านั้น

     

                ไร้คำตอบใดๆจากคิบอมอย่างที่ทงแฮคิดไว้ แต่มันก็เป็นเหมือนการปลุกอารมณ์ของทงแฮให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าหวานหันกลับมาสบดวงตาที่แสนเย็นชานั่นแล้วความรู้สึกทุกอย่างก็ถูกระบายออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร

     

                คุณมายุ่งกับผมทำไม คุณ...มาทำให้ผมรักทำไม!! คุณไม่เคยรักผมเลยใช่มั้ย!!” ทงแฮปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สนใจใคร ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นคำถามทั้งหมดที่ถามออกไปเขาก็สามารถตอบมันได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่คำเดียวเท่านั้น....หลอกใช้

     

                สีหน้าของคิบอมไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแม้แต่นิด มันยังคงเรียบเฉย ดูไม่แคร์และไม่สนใจ อย่างกับว่าทงแฮที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นไม่มีตัวตน ทั้งที่ตัวเขาเองที่เป็นคนเรียกทงแฮให้กลับมาแบบนี้

     

                คุณมันเลว!! มันชั่ว!! ทำไมถึงต้องเอาความรู้สึกของคนมาล้อเล่นแบบนี้ ผมมันคงโง่เองสินะที่หลงเชื่อคนอย่างคุณ!!” กระแทกกระทั้นใส่อารมณ์ในน้ำเสียงอย่างถึงที่สุด ก่อนที่ฝ่ามือหนักๆจะฟาดลงบนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั่นให้ได้มีความรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมา ไม่เมื่อเขาไม่กล้าพอที่จะยิงจะฆ่าให้ตาย ขอแค่ให้ได้เอาคืนบ้างก็ยังดี

     

                ทงแฮทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตรงหน้าคิบอม ไหล่บางสั่นเพราะแรงสะอื้นหนัก แต่คิบอมก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ต่อให้ทงแฮร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดก็คงไม่ได้ยินคำๆนั้นออกมาจากปากคนที่ชื่อคิมคิบอม เพียงแค่คำว่าขอโทษเท่านั้นที่เขาอยากจะได้ยิน

     

                นางพยาบาลที่ทำเรื่องการรักษาและค่าใช้จ่ายให้คิบอมเสร็จแล้วได้แต่ยืนมองดูอยู่ห่างๆเพราะไม่กล้าเข้ามา คนชั่วคนเลววในสายตาทงแฮก้มลงมองคนที่ตัวเองหลอกใช้มานานด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไรออกมาซักคำ

     

                คิบอมเดินกระเผกเพื่อไปหานางพยาบาลแต่คงไม่ต้องรอให้คนป่วยได้เดินไปถึงนางพยาบาลคนสวยก็รีบถลาเข้ามาประคองทันที ก่อนจะส่งเอกสารนู้นนี้ให้กับคิบอม

     

                ทงแฮมองตามคิบอมไปด้วยความผิดหวังอย่างถึงที่สุด นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะหลงรักคนๆนี้ได้ถึงเพียงนี้ ขนาดยอมมอบให้ทั้งตัวและหัวใจ ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งเจ็บ ทั้งที่ตัวเองเป็นมือปืนแต่ทำไมฆ่าคนๆนี้ไม่ได้ คนที่เป็นศัตรู คนที่เขาควรจะฆ่ามากที่สุด

     

                เมื่อได้เอกสารครบคิบอมก็เดินออกไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองข้างหลังเลยแม้แต่น้อย นางพยาบาลคนสวยมองสลับกันไปมาอย่างหนักใจระหว่างคิบอมกับทงแฮ แต่ก็เลือกที่จะช่วยประคองคิบอมออกไป ส่วนทงแฮนั้นมีนางพยาบาลอีกคนมาช่วยประคองให้ไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนนางพยาบาลคนนั้นจะรีบเดินหนีออกไปเมื่อเห็นว่าทงแฮมีปืนอยู่ในมือ

     

                น้ำตายังไหลออกมาไม่ขาดสาย ปล่อยให้มันชะล้างใจที่เจ็บช้ำ จากนี้ไปชีวิตลีทงแฮจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อคิมคิบอมอีกต่อไป

    --------------------------------------



    kr...Talk
    ในที่สุดพ่อคยู(ในเรื่องก็ตาย) แล้วคยูมินจะได้รักกันไหมเนี่ย
    ทงแฮของไรเตอร์น่ารักมาก แม้จะเป็นมือปืนแต่ก็เป็นคนที่อ่อนแอจริงๆ
    แล้วเมื่อโดนหลอกแบบนี้จะทำไงดี (บิ้วอารมณ์คนอ่านเต็มที่ 555)

    ตอนหน้าคงไม่นานเกินรอหรอกนะ อาจจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์
    รอลุ้นแล้วกันนะ เจอกันจ้าทุกคน
    ขอให้สนุกกับการอ่านฟิคเรื่องนี้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×