ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รามเกียรติ์

    ลำดับตอนที่ #28 : ศึกอัศกรรณ+ศึกบรรลัยกัลป์+พระรามคืนเมืองขึ้นครองราชย์ ปูนบำเหน็จ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.3K
      12
      30 ก.ค. 50

    ศึกอัศกรรณ

    ฝ่ายไวยกาสูรกับนิลกายสูร เสนายักษ์ของทศคิริวันกับทศคิริธรได้กลับไปทูลท้าวอัศกรรณ ที่กรุงจักรวาล ว่าบุตรบุญธรรมทั้งสองตายแล้ว ท้าวอัศกรรณเสียใจมากจึงยกทัพไปรบ พระรามยกทัพไปรบ แต่ไม่สามารถฆ่าอัศกรรณได้ เพราะเมื่อต้องศรพระรามขาดคราวใด ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า พิเภกทูลว่า อัศกรรณได้พรจากพระอิศวรว่าเมื่อใดอัศกรรณตาย ต้องนำซากไปทิ้งมหาสมุทร จึงจะไม่ฟื้นขึ้น พระรามจึงแผลงศรพรหมมาสตร์ ตัดอัศกรรณออกเป็นท่อนเล็กท่อนน้อย แล้วบันดาลเป็นลมกรดพาไปทิ้งมหาสมุทร

    เมื่อเสร็จศึกแล้ว พระมาตุลีก็ลากลับไป พระรามบอกพิเภกว่าจะกลับคืนยังกรุงศรีอยุธยา เพราะรับปากกับท้าวทศรถพระราชบิดาไว้ว่า ครบสิบสี่ปีเมื่อใดจะกลับไปครองเมืองและหากเกินเวลาพระพรตกับพระสัตรุต จะฆ่าตัวตายด้วยการลุยไฟ พิเภกขอตามไปด้วย พร้อมกับทูลว่า เมื่อพระรามข้ามฝั่งไปแล้ว ควรจะทำลายถนน เพื่อเหล่ายักษ์จะได้ใช้มหาสมุทรเพื่อสัญจรต่อไป เมื่อข้ามไปแล้ว พระรามจึงแผลงศรพลายวาต ทำลายถนนที่ข้ามไปลงกาเสีย แล้วเดินทางไปพักทัพที่ป่าบริเวณเขาเหมติรัน

     

     

    ศึกบรรลัยกัลป์

    ฝ่ายยักษ์ชื่อบรรลัยกัลป์ ลูกทศกรรฐ์และนางอัคคี ซึ่งพญานาคผู้เป็นตานำไปเลี้ยงไว้ เกิดลางร้ายคิดถึงทศกรรฐ์ผู้เป็นพ่อขึ้นมา ได้ขึ้นมาเยี่ยมรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากนางอัคคีผู้เป็นมารดาก็โกรธ รีบเหาะตามทัพพระรามไป เมื่อพระรามได้ยินเสียงกึกก้องก็ถามพิเภก รู้ว่าบรรลัยกัลป์ตามมาล้างแค้นแทนทศกรรฐ์ ก็ให้หนุมานไปฆ่าแล้วตัดหัวมาให้ หนุมานออกอุบายแปลงเป็นควายใหญ่ติดหล่มอยู่ บรรลัยกัลป์ผ่านมาพบ หลงกลหนุมานได้เข้าต่อสู้กันหนุมาน บรรลัยกัลป์ตัวลื่น จึงไปถามฤาษีพระทิศไพมุนี พระฤาษีบอกใบ้ให้เอาทรายซัดจึงจะจับได้ หนุมานจึงฆ่าบรรลัยกัลป์ตาย

    ต่อมาพระรามได้เดินทางไปพักที่เมืองขีดขิน ตามคำทูลเชิญของสุครีพและนิลพัท แล้วเดินทางต่อไปยังอาศรมของฤาษีวสิษฐ์และสวามิตร โดยมีสุครีพตามไปด้วย และพระรามได้พบกับนายพรานกุขันที่นี่ด้วย และได้รู้ว่าสามพระมารดากับสองพระอนุชาเศร้าโศกมาก จึงให้หนุมานกับนายพรานกุขัน ล่วงหน้าไปทูลเรื่องราวในเมืองก่อน

     

     

    พระรามคืนเมืองขึ้นครองราชย์ ปูนบำเหน็จ

    ฝ่ายพระพรตและพระสัตรุตเห็นว่าครบกำหนดสิบสี่ปีแล้ว    พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ยังไม่เสด็จกลับ ก็ไปทูลมารดาลาไปปลงพระชนม์ โดยการลุยไฟตามที่ได้ปฏิญาณไว้ หนุมานกับกุขันก็มาถึงก่อนได้เข้าไปห้ามไว้ หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็พาพระมารดาไปพบกับพระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ที่อาศรมฤาษี แล้วทูลเชิญเข้าไปครองเมือง

    ต่อมาได้จัดพิธีอภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ โดยมีพระอินทร์เหล่าเทวดาและบรรดาเหล่าฤาษีมาเป็นเกียรติ แล้วพระรามได้ออกขุนนางปูนบำเหน็จความดีความชอบของเหล่าทหาร พระลักษมณ์ให้ครองเมืองโรมคัล พระพรตและพระสัตรุต ให้เป็นอุปราชอยู่ในกรุงศรีอยุธยา

    หนุมานแบ่งกรุงศรีอยุธยาให้ครองกึ่งหนึ่ง แล้วตั้งชื่อให้ใหม่ว่าพระยาอนุชิต สุครีพนั้นให้มีชื่อว่า พระยาไวยวงศา ครองเมืองขีดขิน    พิเภกให้ชื่อว่า ท้าวทศคิริวงศ์ ไปครองเมืองลงกา องคตให้ชื่อว่า พระยาอินทรนุภาพศักดา เป็นฝ่ายหน้าเมืองขีดขิน ชมพูพานให้ไปครองเมืองปางตาล สุรเสนไปครองเมืองสัทธาสูร ชมพูวราช นิลราช นิลนนท์ เป็นอุปราชทั้งหมด โดยให้ชมพูวราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองปางตาล นิลราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองอัสดงค์ นิลนนท์เป็นอุปราชเมืองชมพู    ไชยามและโคมุท เป็นมหาเสนาซ้ายขวาที่เมืองขีดขิน สัตพลีให้เป็นอาลักษณ์ ส่วนพลลิงอื่น ๆ ก็ให้ยศฐาบรรดาศักดิ์ตามสมควร

    ฝ่ายหนุมานทูลคัดค้านว่า เมืองโรมคัลเป็นเมืองยักษ์ ไม่ควรให้พระลักษมณ์ไปครอง แต่ควรจะอยู่ใกล้ชิดพระรามจะดีกว่า    ส่วนพระพรตกับพระสัตรุต นั้นควรจะให้ไปอยู่ที่เมืองไกยเกษ พระรามเห็นด้วย ได้ให้สุรกานต์ไปครองเมืองโรมคัล แล้วให้ศรรามเป็นมหาอุปราช กุขันพรานป่าให้เป็นพระยากุขันธิบดินทร์ ครองบุรีรัม สำหรับพิเภกนั้นเป็นผู้ไม่มีความชำนาญการรบและไม่มีฤทธิ์ หากมีศัตรูมารุกราน ให้เขียนสาสน์แขวนศรมา เมื่อพระรามแผลงศรมาถามข่าว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×