ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยายรักอมตะ

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่อง บทเพลงแห่งคำสัญญา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 65
      0
      25 ก.ย. 47

    “บทเพลง..จะเก็บเอาดาวถึงดวง ที่เป็นถ้วงทำนองขับขานและเรียงร้อยคำจากหัวใจ...”



    บทเพลงนี้ เสมือนคำสัญญาของเรา2คน ที่ผมจะจำไปจนวันตาย



    เวลาที่ผมคิดถึงผมจะมาร้องเพลงนี้คนเดียวเงียบๆ ตรงที่เดิม ที่ตรงม้านั่งในสวนสาธารณะ



    ที่ที่เรา2คน เคยนั่งดูดาวตกและอษิฐานด้วยกันว่าจะรักกันตลอดไป



    แม้ว่าเธอตอนนี้...จะอยู่กับผมคนละภพกันก็ตาม....



    ทุกวันผมไปหน้าหลุมศพเธอ เอาดอกกุหลาบขาวและน้ำส้ม ที่เธอชอบทานไปวางไว้



    นับแต่เธอจากไปมันก็3ปี มาแล้ว



    ชีวิตผมหลังจากนั้น ว่างเปล่า



    เดิมที่มองทุกสิ่งเป็นสีชมพู..บัดนี้มันขาวโผลนไปหมดแล้ว



    จิตใจผมแตกสลาย ทุกสิ่งที่ทำมาพังหมด



    ทุกๆวันครบรอบของเธอ ผมจะมาหาเธอที่หลุมศพทุกวันและทุกๆวันพุธ ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอ



    ผมทำทุกครั้งมา 3 ปีแล้ว



    ผมพบเธอครั้งแรกก็ตอนปี1 เข้ามหาลัยใหม่



    หลังจากดูชื่อตัวเองในบอร์ดแล้วก็ดีใจที่ติด



    ผมอยู่คณะเดียวกับเธอ

    แรกๆผมไม่รู้จักเธอหรอก อยู่คนเดียวเหงาๆ

    แต่มาวันหนึ่ง ฟ้าก็ได้ลิขิตมา....



    ทางมหาลัยได้มีการจัดประกวดวงดนตรีขึ้นมา

    ผมเองก็ชอบดนตรีอยู่แล้ว จึงไปสมัครอย่างทันที

    ผมกับเพื่อน3คนตั้งวงขึ้นมาประกวด



    ในมหาลัยจะมีห้องซ้อมดนตรีอยู่หลายห้อง เขาให้อยู่2วงต่อ1ห้อง



    ตกเย็นวันหนึ่งผมลืมกีต้าไว้ในห้องซ้อม ก็เลยรีบไปเอามา



    ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งซ้อมกีต้าอยู่คนหนึ่ง



    ผมเห็นเธอเขาก็รู้สึกว่า เธอช่างงามจริงๆ



    เธอหันมายิ้มให้ผมและพูดว่า “สวัสดี ค่า มาหาอะไรหรือค่ะ”

    เสียงเธอช่างไพเราะเหมือนเสียงดนตรีจริงๆ

    ผมตอบเธอกลับไปด้วยความตี่นเต้นโดยไม่ทันคิดว่า..

    “เอออ...มาหาอ.เรณู ครับ....”

    เธอหัวเราะเบาๆพร้อมเอามือปิดปาก

    ผมรู้ทันทีว่าพูดอะไรผิด อ.ที่ไหนจะมาอยู่ในห้องซ้อมดนตรีกันได้ล่า

    แล้วเธอกันเห็นมาพูดกับผม “จ๊ะ เธอชื่ออะไรหรอ เราชื่อจิ๊บ นะ”

    “ครับผมชื่อ เอก ครับ”ผมพูดไปด้วยความหน้าแดงๆเล็กน้อย

    “ยังไม่กลับบ้านอีกหรอครับ นี่6โมงเย็นแล้วน่า ดึกๆมันอันตราย”

    “เอก ห่วงเราหรอ คิคิ” เธอพูดออกด้วยเสียงเขินๆ

    “อ๋อ ก็.......” ผมคิดอะไรไม่ออกเอาแต่ยืนเขินอยู่ตรงนั้น

    “จ๊ะๆ งั้นเอกกลับเป็นเพื่อนเราหน่อยได้มั๊ย  เรากลัวอ่า”

    “คร้าบๆ ได้คับๆคุณจิ๊บ”



    แล้วผมก็เอากีต้าที่ลืมมา สะพายบ่า แล้วนั่งดูเธอซ้อมดนตรีอีก30นาที



    เธอถามผมว่า “นี่ๆบ้านเธออยู่แถวๆไหนเหรอ”

    “อ๋ออยู่ บึงกุ่มครับ”

    “อยู่เขตด้วยกับจิ๊บเลย นี่ๆไปส่งจิ๊บหน้าปากซอยได้ไหมจ๊ะ”

    “ได้สิ ป่ะ..”



    ทุกๆวันถ้าผมเจอกับเธอก็จะกลับบ้านกับเธอทุกๆวัน

    แล้วผม..ก็ชอบจิ๊บตั้งแต่แรกเจอ

    เราทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนซ้อมดนตรีด้วยกันตลอด



    พอถึงวันเกิดเธอ ผมก็แต่งเพลงๆหนึ่งให้กับเธอ แล้วร้องให้เธอฟัง



    รู้สึกเหมือนเธอมีความสุขมาก เธอหน้าแดงเลย



    จากนั้นความสัมพันธ์ของผมกับจิ๊บ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ



    ผมชอบจิ๊บแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจิ๊บชอบผมไหม



    ทุกๆวันเสาร์หรืออาทิตย์ไปจะไปที่สวนสาธารณะ ข้างๆมหาลัยไปนั่งแต่งเพลงอยู่คนเดียว



    ที่ตรงนั้นมันเงียบมาก ไม่ค่อยมีคน เลยทำให้มีสมาธิ



    ขณะที่ผมนั่งแต่งเพลงอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังมา



    “เอกๆ มานั่งกับจิ๊บสิ”



    ผมหันไปก็ตกใจมาก ผมเห็นฟ้ามานั่งอยู่โต๊ะตัวข้างๆผม



    ผมก็ลุกไปนั่งกับเธอทันที เธอยิ้มตลอด



    “อ้าว จิ๊บเคยมาที่นี้ด้วยหรอ”

    “จิ๊บเคยมาแต่งเพลงที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วววจ๊ะ เอก”



    โอโห ผมดีใจจริงๆ ผมเจอจิ๊บตั้งนานแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้จักเธอ



    เรา2คนก็นั่งแต่งเพลงกัน ผมจะไปซื้อน้ำก็ถามเธอว่าจะเอาอะไรไหม



    “จิ๊บๆเอกจะไปซื้อน้ำ เอาน้ำอะไรดีครับ”

    “อ๋อ น้ำส้ม จ๊ะ”



    เฮ้ๆ เหมือนผมเลยผมก็ชอบดื่มน้ำส้ม ผมเลยเอาแฟนต้ามา2ขวด



    “นี่ครับ น้ำ”

    “ขอบใจมากจ๊า เอกน่ารักจริงๆเลย”



    แหมชมกันขนาดนี่ ผมอายตายเลย



    ผมเอาหลอดใส่ขวดแล้วยื่นให้เธอ แต่เธอกลับดึงหลอดออกแล้วพูดว่า



    “นี่ๆเอก เอาขวดเธอมาสิ”



    ผมก็งง แต่ก็ส่งขวดน้ำให้เธอไป



    แล้วเธอก็เอาหลอดของเธอใส่มาในขวดของผมแล้วพูดว่า



    “นี่ๆเอก มาดื่มขวดเดียวกันนะ”

    “หา......จริงเหรอ”

    “แล้วจิ๊บจะโกหกทำไมละจ๊ะ มาเถอะ”



    ผมกับจิ๊บก็ดื่มน้ำขวดเดียวกัน เวลาดื่มน้ำกันก็ต้องจ่องหน้าเธอ



    ผมเห็นดวงตาของเธออย่างใกล้ชิด มันสวยงามมาก ผมมีความสุขจริงๆเลย



    ตกเย็นเช่นเคย ผมก็กลับบ้านเป็นเพื่อนเธอเหมือนวันธรรมดาๆ



    แต่วันนี้ไม่ธรรมดา ผมดูข่าวแล้วว่าคืนนี้ตอน2ทุ่มกว่าๆจะมีดาวตก กรุงเทพมองได้ชัดเจน



    จิ๊บเองก็รู้ แล้วเธอก็บอกผมว่า



    “เอกๆคืนนี้มีดาวตก เอกไปดูเป็นเพื่อนจิ๊บหน่อยสิ นะนะนะน”

    เธออ้อนสะขนาดนี้ เห็นที่จะต้องไปแล้วละ



    แล้วผมก็พาเธอไปที่ม้านั่งคู่ในสวนสาธารณะ ริมแม่น้ำเพื่อรอดูดาวตก



    ตอนนี้เวลา1ทุ่ม45นาที อีก20นาทีก็จะมีดาวตก



    เธอก็บอกผมว่า “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่จิ๊บมาดูดาวตกกับผู้ชายอื่น”

    ดูเหมือนเธอดีใจมาก ผมเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ

    ผมก็ยิ้มเล็กๆแล้วตอบเธอไปว่า “ผมก็เหมือนกัน”



    อีก5นาทีก็จะมีดาวตกแล้ว



    “นี่ๆ เอกเรามาอษิฐานกันนะ”

    “ครับจิ๊บ”



    ดาวตกมาแล้ว เป็นสีฟ้าอ่อนๆ ผมดูมันแล้วพร้อมกับอษิฐานในใจ



    “ขอให้จิ๊บชอบเราเถิด สาธุ”



    หลังจากดาวตกผ่านพ้นไป เธอหันมาถามผมว่า



    “นี่ๆเอก อษิฐานว่ายังไงหรือ จิ๊บขอว่าให้เอกอยู่กับจิ๊บตลอดไปเลย น่า”



    ผมก็หน้าแดงละสิ ผมก็ไม่ตอบ จิ๊บก็เริ่มงอนแล้ว



    “นี่ถ้าเอกไม่บอกจิ๊บนะ คืนนี้จิ๊บจะนอนที่นี่เลย คอยดู”

    อ้าวเวรกรรม ผมจึงต้องจำใจพูดตามความจริง



    “ก็ขอเหมือนจิ๊บละครับ” ตอนนี้นผมเขิลแบบสุดๆ



    เมื่อจิ๊บได้ยิน จิ๊บก็เข้ามากอดผมทันที ผมทำอะไรไม่ถูกเลย เธอจึงบอกกับผมทั่งน้ำตาว่า



    “เราชอบเอกนะ เอกชอบเรามั๊ย”

    คำๆนี้ผมจะจำ ไปตลอดกาล

    แล้วผมก็ตอบไปว่า



    “ผมก็ชอบจิ๊บ ครับ ตั้งแต่แรกเจอเลย”



    ผมกับเธอกอดกัน แล้วนั่งคุยด้วยกันจับมือกันจนถึง4ทุ่ม



    ผมก็บอกกับเธอว่า



    “นี่จิ๊บ ดึกแล้วน่า กลับบ้านเถอะเดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง มามะเดี๋ยวผมไปส่ง นะคนดี”



    เธอยังไม่ตอบ ผมจะไปดูเธอ



    “อ้าวหลับสะแล้วหรอนี่...”

    ตอนเธอหลับ เหมือนเด็กๆหลับเลย ยังน่ารักตลอด ใบหน้าสวยๆของเธอยังงามไม่เปลี่ยน



    ผมจึงต้องแบกเธอขึ้นหลังแล้วพาเธอเดินกลับบ้าน เพราะดึกแล้วไม่มีรถ



    ผมก็ไม่พยายามเดินให้เร็วที่สุด เพราะถ้าใครมาเห็นเข้าต้องคิดว่า

    “ไอนี่ มันคิดจะมอมผู้หญิง หรอ”

    แบบนั้นผมซวยตายเลย



    เมื่อถึงหน้าหมู่บ้านของเธอ เธอก็ยังหลับ ผมจึงปลุกเธอตื่น



    “นี่ๆ ตื่นน่าถึงบ้านแล้ว”

    “อ่านี่ ถึงบ้านแล้วหรอ ขอบใจจ๊ะ”

    “ความจริง จิ๊บไม่ได้หลับจริงหรอกนะจ๊ะ แค่แกล้งเพื่อลองใจเอกดู แล้วจิ๊บก็รู้แล้วว่าเอกไม่ใช่คนแบบนั้น  เอกน่ารักที่สูดดดเลย”



    คราวนี้ผมก็งอนบ้างละ แล้วเธอก็เข้ามาปลอบผม



    “โอ๋ เด็กดีๆ อย่างอนนะจ๊ะ ไม่น่ารักเลย คิคิ” เธอพูดปนหัวเราะเบาๆออกมา

    “เอาละๆครับ ถึงบ้านแล้ว ผมไปก่อนนะครับ บาย”

    “ฝันดีจ๊าเอก”



    คืนนั้นผมมีความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย

    เดินยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า



    ถึงบ้านผมแล้ว ก่อนนอนก็ยังคิดถึงเธอ ผมเปิดหน้าต่างดูท้องฟ้า

    ผมเห็นดาวก็คิดว่าเป็นหน้าเธอเต็มไปหมด แล้วผมก็หลับไปด้วยความเหนื่อย



    วันรุ่งขึ้น วันนี้เป็นวันวาเลนไทพอดี



    ผมไปซื้อดอกกุหลาบขาวมาหน้ามหาลัย เตรียมไปมอบให้เธอ



    พอผมเห็นเธอ เธอได้กุหลาบแดงตั้งหลายดอก แล้วเธอก็วิ่งมาหาผม



    ผมจะเอาดอกกุหลาบขาวมาให้เธอ เธอยิ้มแล้วพูดว่า



    “ขอบคุณจ๊ะเอก  เอ๋..รู้ได้ไงน่าว่าจิ๊บดอกกุหลาบขาวมากที่สุดเลย”



    เธอเก็บกอดกุหลาบขาวที่ผมให้ เธอกอดมันตลอด ผมก็ดีใจที่เป็นเช่นนั้น



    ความจริงผมมีสร้อยคอ อีกอันหนึ่งให้เธอ ถึงแม้มันจะสวยงามนัก แต่มันก็มีคุณค่ามาก



    ผมกะจะให้เธอตอนเย็นๆ



    แล้วพอตกเย็นผมกับจิ๊บ ก็กลับบ้านด้วยกัน แล้วพอก็ให้สร้อยกับเธอ



    “นี่ครับ เราให้จิ๊บนะ” แล้วผมก็สวมให้เธอ



    เธอดีใจจนร้องไห้แล้วมากอดผม และเธอก็บอกกับผมว่า



    “เอก สัญญานะ ว่าจะรักจิ๊บตลอดไป สัญาญานะเอก”

    ผมตื่นตันมาก จะตอบเธอกลับไปด้วยความรัก



    “ครับ เอกสัญญาว่าจะรักจิ๊บตลอดไป และจะไม่ทำให้จิ๊บสียใจ”



    ผมกับเธอกอดกันด้วยน้ำตาที่สวนสาธารณะที่เดิม ที่เราเคยนั่งด้วยกัน



    และผมกับเธอก็แต่งเพลงด้วยกัน ชื่อเพลงว่า “คำสัญญา”



    เรา2คนเขียนขึ้นมา2ชุด ต่างคนต่างเก็บ



    เพลงเพลงนี้เปรียบเสมือน คำสัญญาของผมกับเธอ ที่จะรักกันตลอดไป



    เนื้อเพลงนั้น  บรรยายความรู้สึกที่ผมมีแต่จิ๊บ และจิ๊บที่มีต่อผม

    ผมร้องเพลงนี้ทีไรก็อดคิดถึงเธอไม่ได้



    เธอร้องเพลงนี้ทีไรก็ต้องร้องไห้ทุกที



    ชีวิตผมมีความสุขมากที่ได้เจอกับเธอตั้งแต่วันแรก



    ผมคบกับเธอมา5ปีแล้ว เราเป็นแฟนกัน



    แต่แล้ว.............



    วันหนึ่ง ก่อนหน้าวันเกิดครบรอบ24ปีของเธอ 2อาทิตย์



    เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่คาดคิด



    มันมาทำลายชีวิตของผม



    ทำลายความรักของผม



    ทำลายคนที่ผมรัก



    หลังจากตกเย็น ซ้อมดนตรีเสร็จผมก็กลับบ้านกับเธอตามปกติ



    ผมขึ้นรถเมล์สายหนึ่ง ทุกๆอย่างก็เหมือนปกติ



    อีก2ป้ายก็จะลงแล้ว ทันใดนั้นก็เสียงดังขึ้นมา..ปัง!!!



    มีคนข้างล่างยิงปืนมาบนรถ แต่พลาดไปโดนจิ๊บ



    ผมตกใจมาก ทุกคนบนรถวิ่งลงมาหมด ผมหัยไปดูจิ๊บก็ตกใจมาก...



    ตรงท้องเธอมีเลือดเต็มไปหมด ผมรู้ทันทีว่าเธอโดนยิง



    ผมอุ้มเธอขึ้นมา แบบทีไว้บนหลัง ผมเห็นคนก่อการร้ายแล้ว



    ผมลงจากรถเมล์ วิ่งตรงไป กระโดถีบคนที่ยิงปืน ด้วยแรงที่มหาศาล



    ไม่น่าเชื่อว่าผมจะทำได้ ผมเองก็ไม่ได้แข็งแรงมากนัก และก็แบกจิ๊บไว้ด้วย



    คนร้ายนั้นโดนผมถีบเข้าที่หน้าเต็มๆ ฟันหักไป4ซี่ สลบไปเลย ก่อนตำรวจจะมา



    ผมเรียกแท็กซี่ แล้วรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล



    เธออยู่ในห้องฉุกเฉิน ผมอยู่ข้างนอก ภาวนาอย่าให้เธอเป็นอะไร



    มันไม่ได้ผล...เธอจากผมไปด้วยความสงบ กลางดึกคืนนั้น



    ผมรอฟังผลหน้าห้อง...เมื่อได้ยินแล้ว ผมถึงกับเข่าทรุด



    ผมตบหัวตัวเองหลายๆที แล้วตะโกนขึ้นมาว่า



    “ทำไม ทำไม เราช่วยจิ๊บไม่ได้ ทำไม ทำไม”



    จนหมอต้องมาห้ามผมไว้....



    ผมจะไม่ได้เห็นที่ประสบความสำเร็จในการเรียนเลย ผมหวังจะเห็นวันนั้นและร่วมยินดีกับเธอ



    ผมหยิบรูปเธอมาดู..แล้วพูดทั่งน้ำตาว่า “ผมขอโทษ จิ๊บ ผมขอโทษ” อยู่เป็นพันครั้ง ทั่งวัน



    ในเวลาเรียน ผมหันไปมองโต๊ะของจิ๊บ มันว่างเปล่า..



    ผมจะเอาดอกกุหลาบขาว ใส่แก้วน้ำนำไปวางไว้ที่โต๊ะของจิ๊บ...ทุกวัน



    ผมสังเกต เห็นแผ่นกระดาษอยู่ใต้โต๊ะของเธอ



    ผมหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นว่าแผ่นกระดาษนั้นปิดรูปภาพอะไรใต้โต๊ะเธออยู่



    เธอติดรูปภาพ แปะไว้ใต้โต๊ะ โดยไม่มีใครรู้มาก่อน



    มันเป็นรูปของเธอ กับ ผม อยู่ถ่ายคู่กันที่สวนสาธารณะ



    แล้วหลังรูปของเธอก็เขียนว่า “จิ๊บรักเอกนะ รักที่สุดเลย”



    ผมมองรูปใบนั้นอยู่นาน จนเลิกเรียนผมนั่งร้องไห้ หยิบรูปใบนั้นใส่กระเป๋าผมแล้วพูดว่า



    “จิ๊บ เอกสัญญา ว่าจะเก็บรูปใบนี้ ไม่ตราบนานเท่านาน”



    แล้วในแผ่นกระดาษที่ปิดรูปไว้นั้น ผมเปิดดูก็เป็นเพลงที่ผมกับจิ๊บ ได้แต่งด้วยกัน



    ความหมายของบทเพลงนั้น ยังไม่เคยเปลี่ยน



    ผมไปนั่งร้องเพลงนั้นที่สวนสาธารณะ อยู่คนเดียว ผมยังคิดถึงเธอเสมอ.....



    หลังงานศพของเธอ แม่ของได้เอาสร้อยคอที่ผมให้เธอ คืนให้กับผม



    หลังจากนั้นผมก็ไปหน้าหลุมศพของเธอ นำสร้อยคอนั้นและบท้พลงที่เธอเขียน ฝังลงไป



    พร้อมกับนำดอกกุหลาบขาว และ น้ำส้มที่เธอชอบไปวางไว้ พร้อมกับพูดกับเธอว่า



    “ต่อจากนี้ จิ๊บต้องอยู่คนเดียวแล้วนะ ไม่มีคนเคยกลับบ้านด้วย ไม่มีคนเคยซ้อมดนตรีด้วย ไม่มีคนดูดาวตกด้วยอีกแล้วนะ คนดี ดูแลตัวเองให้ดีละ ผมไปละ ฝันดีนะ”

    ผมพูดกับเธอทั้งน้ำตา.....



    ผ่านมา3ปีแล้ว



    ผมยังจำเธอไม่เคยลืม ไม่ลืมช่วงเวลาที่ดีๆที่เรามีต่อกัน ไม่ลืมคำสัญญาของเรา...



    ผมยังใช้ชีวิตตามเดิมทุกวัน และยังคิดถึงเธอทุกๆวัน



    “ความทรงจำที่ดีๆของเราทั้ง 2 คน จำไม่มีวันหายไปได้เลย”......ผมสัญญา ตราบนานเท่านาน..



                                                                                                          

                                                                                                          แด่ความรัก...แด่คำสัญญา



                                                                                                                     champvvv















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×