ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เทคนิคการเลือกลูกกอล์ฟ
ท่านนักกอล์ฟคะ ท่านเคยลอง สังเกตดู หรือไม่ว่า พฤติกรรม ของเจ้า ลูกกอล์ฟ กลม ๆ ที่ท่าน ทำการสวิงไม้ ไปกระแทกมัน ให้ลอยละลิ่ว ไปในทิศทาง ที่ต้องการนั้น ซึ่งท่าน ที่เห็นนั้น มันเป็นเพียง เปลือกนอก ของมัน ในที่นี้ เราลองมา มองให้ลึก ถึงกึ๋น ทั้งข้อดี และข้อเสีย ของเจ้า ลูกกอล์ฟนี้ กันดีกว่า ว่าคุณสมบัติ ของลูกกอล์ฟ แบบใด จะให้คุณ ประโยชน์สูงสุด เพื่อ ให้คุ้มค่า ต่ออัดทุกบาท ทุกสตางค์ ของท่านนักกอล์ฟ ที่จะต้อง เสียไป ในการซื้อมา จับจ่าย มาใช้กัน และน่าที่จะ เป็นคุณประโยชน์ มิใช่น้อย สำหรับท่าน นักกอล์ฟมือใหม่ ทั้งหลาย
ผิวที่ห่อหุ้ม ลูกกอล์ฟ จะเป็นตัว กำหนดแรง หมุนสปิน เช่น ถ้าผิวนุ่ม ก็จะหมุนสปิน ได้มาก เพราะ พอหน้าไม้กอล์ฟ เหวี่ยงมาปะทะ ผิวนุ่ม ของลูกกอล์ฟ นานกว่า ลูกกอล์ฟ ที่มีผิวแข็ง ซึ่งมัก จะลื่นไถล ไปบน หน้าไม้กอล์ฟ ถ้าหน้าไม้กอล์ฟ กระทบลูก ได้เป็น เวลานาน แรงกระทบ ก็จะแปรเปลี่ยน เป็นแรงเหวี่ยง ให้ลูกกอล์ฟ หมุนได้มากขึ้น ตามลำดับ ลูกกอล์ฟ ชนิดนี้ จึงเหมาะสำหรับ นักกอล์ฟ ระดับโปร ที่มีความ ต้องการตีลูก ได้อย่างจับวาง แต่ถ้า มิใช่มือโปร แล้ว โอกาสพลาด ในกาตีลูก ก็จะมีสูง นั่นคือ อาจจะ บังคับทิศทาง การหล่น ของลูกได้ยาก
เจ้าความนุ่ม ความแข็ง ของผิวลูกกอล์ฟ ขึ้นอยู่กับ สารเคมี ที่ใช้ ในการทำ ลูกกอล์ฟ รวมทั้ง การที่จะ ตีลูก ให้ได้ดั่งใจนั้น ยังมี องค์ประกอบ มากมาย หลายประการ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ชนิด ของหน้าไม้ ที่ตี ซึ่งมี วิธีการตี ที่แตกต่าง กันออกไป
หัวเหล็ก หรือหัวไม้ ส่วนใหญ่ ท่านนักกอล์ฟ มักจะ ตีด้วยแรงเหวี่ยง ที่เต็มกำลัง ซึ่งจะ แตกต่างจาก เวดจ์ ที่ไม่ต้อง ออกแรง มากมายนัก แกนใน ของลูกกอล์ฟ ก็มี ผลต่อ การหมุน ของลูกกอล์ฟด้วย ลูกกอล์ฟ ที่มีผิวนุ่ม จะดูดซับ แรงกระทบ ได้ดีกว่า ลูกกอล์ฟ เนื้อแข็ง แต่ถ้าเรา ตีลูกกอล์ฟ เนื้อแข็ง ด้วยไม้ยาว แรงหมุนสปิน ของลูกกอล์ฟ ก็จะมากขึ้น ซึ่ง โดยสรุปแล้ว ลูกกอล์ฟ ที่มีแกนใน แข็งและ ผิวนุ่ม จะหมุนสปิน ได้มากที่สุด ส่วนชนิด ที่มีแกนในนุ่ม แต่มี ผิวหุ้มแข็ง จะสปิน ได้น้อยลง
ผิวที่ห่อหุ้ม ลูกกอล์ฟ ก็จะเป็นตัว บ่งบอกถึง ความแข็งแรง ทนทาน ของลูกด้วย แน่นอนครับ เจ้าลูกกอล์ฟ ผิวนุ่ม จะเกิด การแตกร้าว ได้รวดเร็วกว่า แต่เท่าที่ สังเกตุดู แล้ว บรรดานักกอล์ฟ มือใหม่ ส่วนใหญ่ มักชอบใช้ ลูกกอล์ฟ ผิวแข็ง เสียมากกว่า เพราะมี การสปินน้อย ควบคุมทิศทาง ได้ง่าย แต่จริง ๆ แล้วปัญหา เรื่องความคงทน ของลูกกอล์ฟนั้น พอเอา เข้าจริง ก็มิได้ เป็นประเด็นหลัก อะไรมากมาย
แกนใน ของลูกกอล์ฟ ก็มีผล ต่อการตีไกล นั่นอีกล่ะครับ ก็ยังต้อง ขึ้นอยู่กับว่า ท่านมีพื้นฐาน การเล่นกอล์ฟ ที่ถูกต้อง หรือไม่ ทั้งวงสวิง การบิดเอว เพื่อช่วย เป็นการเพิ่ม แรงส่งลูก ยิ่งถ้า แกนในแข็งแล้ว การซึมซับแรง กระทบ ก็จะยิ่งน้อย จึงส่งผล ให้ลูกพุ่ง ไปได้ไกล มากขึ้น และความแข็งแน่น ของแกนใน ยังขึ้น อยู่กับ ชนิดของ วัตถุเคมี ที่ใช้ทำ รวมทั้ง กรรมวิธี ในการพันแกนใน อีกด้วย
ในปัจจุบัน บริษัทผลิต ลูกกอล์ฟ มีเทคโนโลยี ที่สามารถ สร้างสรรค์ ลูกกอล์ฟ ที่ตีได้ ไกลกว่า 300 หลา ถ้าตี ได้อย่าง พอเหมาะ พอดี แต่มี ข้อจำกัด โดยทาง สมาคมกอล์ฟ ของสหรัฐฯ USGA ได้ออก กฎข้อบังคับ ให้ทาง บริษัทผู้ผลิต ผลิตลูกกอล์ฟ ที่ตีได้ ไกลไม่เกิน 280 หลา ซึ่งเขา ทำการ วัดกันด้วย เครื่องตีลูก ที่มีความเร็ว 160 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้ บริษัทผู้ผลิต ต่างสร้าง จุดเด่น ข้ออื่น ให้กับลูกกอล์ฟ ของตัว เพื่อสร้าง แรงจูงใจ ในการซื้อ เช่น ผลิตลูกกอล์ฟ ชนิดแกนในนุ่ม และผิวหุ้มนุ่ม ส่งผล ให้มีการ สปินที่สูงขึ้น ....
เจ้ารอยบุ๋ม จากผิวลูกกอล์ฟ มีอิทธิพล ต่อการ ตีไกลมาก เพราะ ขณะที่ลูกกอล์ฟ กำลังหมุน อยู่นั้น รอยบุ๋ม จะอาศัย อากาศรอบ ๆ ตัวมัน เป็นแรงถีบ ให้พุ่ง ไปได้ไกล ฉะนั้น ลูกกอล์ฟ ที่มีรอยบุ๋มใหญ่ และตื้น จะมีวิถี ที่ไปได้ไกล และไม่โด่งมาก ลูกกอล์ฟ ผิวเรียบ จะตีได้ ไกลประมาณ 150 หลา รวมทั้ง ยังมีข้อเสีย อีก นั่นคือ การไร้แรงพุ่ง ของลูก
นักฟิสิกส์ ใช้เวลาวิเคราะห์ อยู่นานนม เพื่อที่จะ ค้นหา รูปลักษณ์ ของรอยบุ๋ม ชนิดใด ที่สามารถ ทำให้ลูก ไปไกล แต่โด่งน้อย ซึ่งไม่นานนัก พวกเขา ก็ได้ข้อสรุปว่า ควรที่จะ มีรอยบุ๋มน้อย และมี แกนในแข็ง นิดหน่อย แต่ก็มี ข้อจำกัดว่า เจ้ารอยบุ๋มนั้น จะตั้งอยู่ บริเวณเส้นผ่า ศูนย์กลาง ของลูกมิได้ เนื่องจาก ยังมิมี เครื่องหล่อ ชนิดใด ๆ ที่สามารถ เชื่อมลูกกอล์ฟ ให้มีความกลม รวมทั้ง การเล็ม เศษวัสดุ ที่เหลือออก ได้หมด จากรอยบุ๋ม ตรงกลาง จนถึง ปัจจุบันบริษัท ผลิตลูกกอล์ฟ ก็ยังเพียรพยายาม คิดแบบลาย ของรอยบุ๋มที่ดี ที่สุดออกมา เรื่อย ๆ
คุณสมบัติ ของลูกกอล์ฟ ก็ยังขึ้นอยู่ กับกรรมวิธี ในการผลิต ลูกกอล์ฟ เองด้วย ซึ่งขั้นตอน ในการผลิต ของหลายบริษัท ยังมีรูปแบบ การผลิต ที่แตกต่างกัน ออกไป โดยทั้งนี้ ทางด้าน วัตถุดิบ ในการผลิต ก็ยังมีปัจจัย ที่สำคัญ เช่นกัน
คุณภาพ ของลูกกอล์ฟ ที่มีอยู่ หลากหลายยี่ห้อ ตามท้องตลาด ในปัจจุบันนี้ ล้วนแต่ มีคุณสมบัติ ที่ดีเด่น แตกต่างกัน ออกไป ซึ่งน่าที่จะ ขึ้นอยู่กับว่า ท่านนักกอล์ฟ มีสไตล์ และความถนัด ในการเล่นอย่างไร เพราะในปัจจุบัน ลูกกอล์ฟ ทั้งจากค่ายเล็ก และค่ายใหญ่ ต่าง ๆ ล้วนมี การพัฒนา คุณภาพมาก ขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ที่การ พินิจพิเคราะห์ ของท่าน นักกอล์ฟ เสียมากกว่า ว่าจะ เลือกใช้ อย่างไร เช่น กรณีท่าน เป็นนักกอล์ฟ ที่มีแฮนดิแคปต่ำ ก็อาจจะ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีแกนในแข็ง ผิวหุ้มนุ่ม เพื่อใช้ ในเวลาควบคุม การตกหล่น ของลูก แต่ถ้า ท่านเป็น มือสมัครเล่น ก็อาจเลือก ลูกกอล์ฟ ที่มีแรง สปินน้อย แต่ตี ได้ไกล
สำหรับ นักกอล์ฟ มืออาชีพ ก็สามารถ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ หลากชนิด ซึ่งก็ขึ้น อยู่กับ สภาพดิน ฟ้า อากาศ สภาพของ สนาม เช่นถ้าลมแรง ควรเลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีความโด่งน้อย แต่กลับกลิ้ง ไปได้ไกล แต่ถ้า สนามนั้น ๆ มีแต่หลุมทราย รายรอบ รวมทั้ง ยังมีแฟร์เวย์ ที่แคบมาก ๆ ท่านอาจจะ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีแรง โด่งมาก เพื่อให้ ลูกตกหยุด
ท่านนักกอล์ฟ ทั้งหลายค่ะ การเลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่น่าจะ มีความสัมพันธ์ กับสไตล์ การเล่น รวมทั้ง มีฝีไม้ ลายมือ เป็นสำคัญ หากยัง ไม่มีความเก่ง และแกร่งพอ ไม่ว่าจะ เป็นลูกกอล์ฟ แบบไหน ก็คงเหมือน ๆ กันค่ะ..
หวังว่าจะถูกใจนะคะ
ผิวที่ห่อหุ้ม ลูกกอล์ฟ จะเป็นตัว กำหนดแรง หมุนสปิน เช่น ถ้าผิวนุ่ม ก็จะหมุนสปิน ได้มาก เพราะ พอหน้าไม้กอล์ฟ เหวี่ยงมาปะทะ ผิวนุ่ม ของลูกกอล์ฟ นานกว่า ลูกกอล์ฟ ที่มีผิวแข็ง ซึ่งมัก จะลื่นไถล ไปบน หน้าไม้กอล์ฟ ถ้าหน้าไม้กอล์ฟ กระทบลูก ได้เป็น เวลานาน แรงกระทบ ก็จะแปรเปลี่ยน เป็นแรงเหวี่ยง ให้ลูกกอล์ฟ หมุนได้มากขึ้น ตามลำดับ ลูกกอล์ฟ ชนิดนี้ จึงเหมาะสำหรับ นักกอล์ฟ ระดับโปร ที่มีความ ต้องการตีลูก ได้อย่างจับวาง แต่ถ้า มิใช่มือโปร แล้ว โอกาสพลาด ในกาตีลูก ก็จะมีสูง นั่นคือ อาจจะ บังคับทิศทาง การหล่น ของลูกได้ยาก
เจ้าความนุ่ม ความแข็ง ของผิวลูกกอล์ฟ ขึ้นอยู่กับ สารเคมี ที่ใช้ ในการทำ ลูกกอล์ฟ รวมทั้ง การที่จะ ตีลูก ให้ได้ดั่งใจนั้น ยังมี องค์ประกอบ มากมาย หลายประการ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ชนิด ของหน้าไม้ ที่ตี ซึ่งมี วิธีการตี ที่แตกต่าง กันออกไป
หัวเหล็ก หรือหัวไม้ ส่วนใหญ่ ท่านนักกอล์ฟ มักจะ ตีด้วยแรงเหวี่ยง ที่เต็มกำลัง ซึ่งจะ แตกต่างจาก เวดจ์ ที่ไม่ต้อง ออกแรง มากมายนัก แกนใน ของลูกกอล์ฟ ก็มี ผลต่อ การหมุน ของลูกกอล์ฟด้วย ลูกกอล์ฟ ที่มีผิวนุ่ม จะดูดซับ แรงกระทบ ได้ดีกว่า ลูกกอล์ฟ เนื้อแข็ง แต่ถ้าเรา ตีลูกกอล์ฟ เนื้อแข็ง ด้วยไม้ยาว แรงหมุนสปิน ของลูกกอล์ฟ ก็จะมากขึ้น ซึ่ง โดยสรุปแล้ว ลูกกอล์ฟ ที่มีแกนใน แข็งและ ผิวนุ่ม จะหมุนสปิน ได้มากที่สุด ส่วนชนิด ที่มีแกนในนุ่ม แต่มี ผิวหุ้มแข็ง จะสปิน ได้น้อยลง
ผิวที่ห่อหุ้ม ลูกกอล์ฟ ก็จะเป็นตัว บ่งบอกถึง ความแข็งแรง ทนทาน ของลูกด้วย แน่นอนครับ เจ้าลูกกอล์ฟ ผิวนุ่ม จะเกิด การแตกร้าว ได้รวดเร็วกว่า แต่เท่าที่ สังเกตุดู แล้ว บรรดานักกอล์ฟ มือใหม่ ส่วนใหญ่ มักชอบใช้ ลูกกอล์ฟ ผิวแข็ง เสียมากกว่า เพราะมี การสปินน้อย ควบคุมทิศทาง ได้ง่าย แต่จริง ๆ แล้วปัญหา เรื่องความคงทน ของลูกกอล์ฟนั้น พอเอา เข้าจริง ก็มิได้ เป็นประเด็นหลัก อะไรมากมาย
แกนใน ของลูกกอล์ฟ ก็มีผล ต่อการตีไกล นั่นอีกล่ะครับ ก็ยังต้อง ขึ้นอยู่กับว่า ท่านมีพื้นฐาน การเล่นกอล์ฟ ที่ถูกต้อง หรือไม่ ทั้งวงสวิง การบิดเอว เพื่อช่วย เป็นการเพิ่ม แรงส่งลูก ยิ่งถ้า แกนในแข็งแล้ว การซึมซับแรง กระทบ ก็จะยิ่งน้อย จึงส่งผล ให้ลูกพุ่ง ไปได้ไกล มากขึ้น และความแข็งแน่น ของแกนใน ยังขึ้น อยู่กับ ชนิดของ วัตถุเคมี ที่ใช้ทำ รวมทั้ง กรรมวิธี ในการพันแกนใน อีกด้วย
ในปัจจุบัน บริษัทผลิต ลูกกอล์ฟ มีเทคโนโลยี ที่สามารถ สร้างสรรค์ ลูกกอล์ฟ ที่ตีได้ ไกลกว่า 300 หลา ถ้าตี ได้อย่าง พอเหมาะ พอดี แต่มี ข้อจำกัด โดยทาง สมาคมกอล์ฟ ของสหรัฐฯ USGA ได้ออก กฎข้อบังคับ ให้ทาง บริษัทผู้ผลิต ผลิตลูกกอล์ฟ ที่ตีได้ ไกลไม่เกิน 280 หลา ซึ่งเขา ทำการ วัดกันด้วย เครื่องตีลูก ที่มีความเร็ว 160 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้ บริษัทผู้ผลิต ต่างสร้าง จุดเด่น ข้ออื่น ให้กับลูกกอล์ฟ ของตัว เพื่อสร้าง แรงจูงใจ ในการซื้อ เช่น ผลิตลูกกอล์ฟ ชนิดแกนในนุ่ม และผิวหุ้มนุ่ม ส่งผล ให้มีการ สปินที่สูงขึ้น ....
เจ้ารอยบุ๋ม จากผิวลูกกอล์ฟ มีอิทธิพล ต่อการ ตีไกลมาก เพราะ ขณะที่ลูกกอล์ฟ กำลังหมุน อยู่นั้น รอยบุ๋ม จะอาศัย อากาศรอบ ๆ ตัวมัน เป็นแรงถีบ ให้พุ่ง ไปได้ไกล ฉะนั้น ลูกกอล์ฟ ที่มีรอยบุ๋มใหญ่ และตื้น จะมีวิถี ที่ไปได้ไกล และไม่โด่งมาก ลูกกอล์ฟ ผิวเรียบ จะตีได้ ไกลประมาณ 150 หลา รวมทั้ง ยังมีข้อเสีย อีก นั่นคือ การไร้แรงพุ่ง ของลูก
นักฟิสิกส์ ใช้เวลาวิเคราะห์ อยู่นานนม เพื่อที่จะ ค้นหา รูปลักษณ์ ของรอยบุ๋ม ชนิดใด ที่สามารถ ทำให้ลูก ไปไกล แต่โด่งน้อย ซึ่งไม่นานนัก พวกเขา ก็ได้ข้อสรุปว่า ควรที่จะ มีรอยบุ๋มน้อย และมี แกนในแข็ง นิดหน่อย แต่ก็มี ข้อจำกัดว่า เจ้ารอยบุ๋มนั้น จะตั้งอยู่ บริเวณเส้นผ่า ศูนย์กลาง ของลูกมิได้ เนื่องจาก ยังมิมี เครื่องหล่อ ชนิดใด ๆ ที่สามารถ เชื่อมลูกกอล์ฟ ให้มีความกลม รวมทั้ง การเล็ม เศษวัสดุ ที่เหลือออก ได้หมด จากรอยบุ๋ม ตรงกลาง จนถึง ปัจจุบันบริษัท ผลิตลูกกอล์ฟ ก็ยังเพียรพยายาม คิดแบบลาย ของรอยบุ๋มที่ดี ที่สุดออกมา เรื่อย ๆ
คุณสมบัติ ของลูกกอล์ฟ ก็ยังขึ้นอยู่ กับกรรมวิธี ในการผลิต ลูกกอล์ฟ เองด้วย ซึ่งขั้นตอน ในการผลิต ของหลายบริษัท ยังมีรูปแบบ การผลิต ที่แตกต่างกัน ออกไป โดยทั้งนี้ ทางด้าน วัตถุดิบ ในการผลิต ก็ยังมีปัจจัย ที่สำคัญ เช่นกัน
คุณภาพ ของลูกกอล์ฟ ที่มีอยู่ หลากหลายยี่ห้อ ตามท้องตลาด ในปัจจุบันนี้ ล้วนแต่ มีคุณสมบัติ ที่ดีเด่น แตกต่างกัน ออกไป ซึ่งน่าที่จะ ขึ้นอยู่กับว่า ท่านนักกอล์ฟ มีสไตล์ และความถนัด ในการเล่นอย่างไร เพราะในปัจจุบัน ลูกกอล์ฟ ทั้งจากค่ายเล็ก และค่ายใหญ่ ต่าง ๆ ล้วนมี การพัฒนา คุณภาพมาก ขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ที่การ พินิจพิเคราะห์ ของท่าน นักกอล์ฟ เสียมากกว่า ว่าจะ เลือกใช้ อย่างไร เช่น กรณีท่าน เป็นนักกอล์ฟ ที่มีแฮนดิแคปต่ำ ก็อาจจะ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีแกนในแข็ง ผิวหุ้มนุ่ม เพื่อใช้ ในเวลาควบคุม การตกหล่น ของลูก แต่ถ้า ท่านเป็น มือสมัครเล่น ก็อาจเลือก ลูกกอล์ฟ ที่มีแรง สปินน้อย แต่ตี ได้ไกล
สำหรับ นักกอล์ฟ มืออาชีพ ก็สามารถ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ หลากชนิด ซึ่งก็ขึ้น อยู่กับ สภาพดิน ฟ้า อากาศ สภาพของ สนาม เช่นถ้าลมแรง ควรเลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีความโด่งน้อย แต่กลับกลิ้ง ไปได้ไกล แต่ถ้า สนามนั้น ๆ มีแต่หลุมทราย รายรอบ รวมทั้ง ยังมีแฟร์เวย์ ที่แคบมาก ๆ ท่านอาจจะ เลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่มีแรง โด่งมาก เพื่อให้ ลูกตกหยุด
ท่านนักกอล์ฟ ทั้งหลายค่ะ การเลือกใช้ ลูกกอล์ฟ ที่น่าจะ มีความสัมพันธ์ กับสไตล์ การเล่น รวมทั้ง มีฝีไม้ ลายมือ เป็นสำคัญ หากยัง ไม่มีความเก่ง และแกร่งพอ ไม่ว่าจะ เป็นลูกกอล์ฟ แบบไหน ก็คงเหมือน ๆ กันค่ะ..
หวังว่าจะถูกใจนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น