กษัตริย์ไทยในความเชื่อ : พระโพธิสัตว์มากล้น บารมี - กษัตริย์ไทยในความเชื่อ : พระโพธิสัตว์มากล้น บารมี นิยาย กษัตริย์ไทยในความเชื่อ : พระโพธิสัตว์มากล้น บารมี : Dek-D.com - Writer

    กษัตริย์ไทยในความเชื่อ : พระโพธิสัตว์มากล้น บารมี

    พระโพธิสัตว์คือใครในสยาม

    ผู้เข้าชมรวม

    1,217

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.21K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.ค. 46 / 15:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      คติความเชื่อนี้ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนาอยู่นั่นเอง กล่าวคือ ในทางพระพุทธศาสนานั้นถือว่า บุคคลที่ปรารถนาพระโพธิญาณนั้นจะต้องเสวยพระชาติเพื่อสั่งสมบารมีเป็นเวลานาน อย่างน้อยที่สุดก็ ๔ อสงไขยกับแสนกัปป์ เมื่อไปเกิดในมนุสสภูมิไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็จะเป็นผู้ที่มีบุญญาภินิหารเหนือกว่าคนอื่นเสมอ และการมีบุญบารมีเหนือคนอื่นนี้เอง ก็มักกลายเป็นว่าพระโพธิสัตว์จะต้องเสวยพระชาติเป็นพระราชา (ส่วนจะมาจากการสืบสันตติวงศ์หรือการก่อกบฎนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

      หากเราศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ให้ละเอียดแล้ว เราจะพบว่าการทำบุญสร้างกุศลอุทิศไว้ในพระศาสนาของพระมหากษัตริย์ไทยนั้น เป็นการทำเพื่อ “พระโพธิญาณในเบื้องหน้า” แทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัด สร้างวิหาร การทรงศีล หรืออื่น ๆ ที่เรียกว่าเป็น “บุญกิริยาวัตถุ” ก็มักจะลงท้ายว่า “ให้ได้บรรลุพระโพธิญาณ” เสียส่วนใหญ่

      คตินี้ไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะในไทยเท่านั้น แม้แต่พม่าเองก็มีความเชื่อเรื่องนี้ด้วย เราจะเห็นได้จากสงครามระหว่างไทยและพม่าในบางครั้ง ก็เป็นการชิงไหวชิงพริบ (เกทับ บลัฟกันแหลก) จากคำว่า “พระโพธิสัตว์” นี้เอง เช่น สงครามครั้งพระเจ้าอลองพญายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์นั้น พระเจ้าอลองพญาเองก็ได้ยกเอาข้ออ้าง “การบำเพ็ญบารมีในการเสวยพระชาติเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล” มาอ้างเพื่อให้กรุงศรีอยุธยายอมอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของพระโพธิ สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระเจ้าอลองพญาเสียโดยดี แต่ไฉนเลยข้างอยุธยาจะยอมง่าย ๆ จึงได้ตอบกลับไปในทำนองว่า

      “พระโพธิสัตว์จะต้องทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุขจึงจะควร การยกทัพมาเบียดเบียฬบีฑาอย่างนี้ไม่น่าจะถูกต้อง และการที่อ้างว่าจะเป็นพระพุทธเจ้านั้นก็ยิ่งไม่ถูกเข้าไปใหญ่ เพราะพระศาสนาของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังประดิษฐานอยู่ ยังไม่ครบถ้วนห้าพันพระวัสสา ส่วนพระศรีอาริย์ก็ยังไม่ตรัส การจะอ้างว่าตัวเองเป็นพระโพธิสัตว์จวนเจียนจะเป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้วนั้น เห็นทีจะเป็นความคิดของเดียรถีย์เป็นแน่แท้”

      เท่านั้นเอง พระเจ้าอลองพญาก็ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าเพราะข้างสยามนั้นบังอาจนัก ไม่ยอมเชื่อว่าพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ผู้กำลังบำเพ็ญบารมี โดยการแผ่บุญญานุภาพเพื่อปกพระบารมีเหนือบรรดากรุงทั้งหลายในนานาประเทศ (เท่าที่พระองค์จะตีได้สำเร็จ) ทั้ง ๆ ที่ชาวพม่าทั้งหลายเชื่อกันนักกันหนาว่าพระองค์มีบุญมากมายมหาศาล (จากนายบ้านธรรมดา ๆ นำทัพตีหงสาวดีจนแตกได้) ที่มาโปรดสัตว์ในเมืองมนุษย์ … และแล้ว … ในที่สุดพระเจ้าอลองพญาก็สู้บุญญาธิการของปืนใหญ่ไม่ไหว เสด็จสวรรคตเสียก่อน และกรุงศรีอยุธยาก็แตกหลังจากนั้นไม่นาน

      หลังจากนั้น สยามประเทศก็ได้พระโพธิสัตว์มาช่วยปราบยุคเข็ญแก่ชาวสยามจนปัจจุบัน




      สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
      ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×