คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : #16 คำขอหญิงสาว
หลังจากทั้งสองเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวกันเป็นที่เรียบร้อยก็ถึงคราวที่น้ำจะต้องพาณัฐฐากลับไปส่งที่บ้านแล้วจริง
ๆ เธอขับรถของตัวเองออกมาจากบ้านโดยให้อีกฝ่ายติดรถมาด้วย ไม่ได้ทำการข่มขู่หรือว่าปิดบังตำแหน่งที่อยู่ของตนเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าทางตนไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด
สาวผมแกละหางต่ำหักพวงมาลัยเข้าไปยังทางเข้าของโลตัสในเมือง
ทำเอาณัฐฐาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องหันไปถามด้วยความสงสัย
“นี่
ไม่ได้จะพาฉันไปส่งที่บอขอสอหรอกหรือ”
“แวะกินข้าวและซื้อของให้ครูก่อนค่ะ
มีของจุกจิกติดไม้ติดมือกลับบ้านหน่อยก็ยังดี” เธอตอบ พร้อมกับมองหาที่จอดรถไปพลาง
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้”
“ครูไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะคะ
ไม่อย่างนั้นทางนี้ไม่สบายใจค่ะ”
“อะ
หรือ”
หญิงสาวได้แต่ยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่ายแล้วนั่งอยู่อย่างนั้นเงียบ
ๆ ครู่หนึ่ง เอาแต่คิดอะไรไปมาอยู่ในใจจนเด็กสาวเริ่มจับสังเกตได้
เมื่อเห็นอย่างนั้นน้ำจึงทนหาที่จอดอยู่อีกไม่นานแล้วถามออกไปหลังจากดับเครื่องลง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ห้ะ”
หญิงสาวได้สติ มองไปยังน้ำที่เป็นผู้ถาม “อ้อ เปล่า”
“มีอะไรไม่สบายใจก็บอกมาได้นะคะ
ทางเราพร้อมจะรับผิดชอบเต็มที่ค่ะ”
“อะ
ได้จริงอย่างนั้นหรือ”
“ค่ะ
บอกมาเลย”
“เอ่อ
ฉัน...ขออยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม”
“อะไรนะคะ”
เด็กสาวตาเบิกกว้าง ไม่นึกมาก่อนว่าเธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“มันมีเรื่องที่ยังคาใจอยู่น่ะ”
เธอตอบ พลางนึกถึงตอนที่เธอเห็นเกียรติหลบตาตัวเองแล้วมองดูผีเสื้อแทน
และตอนที่เขาเอาผ้าไปคลุมตู้เลี้ยงผีเสื้อเอาไว้
“ครูเอาจริงหรือคะ”
“อื้อ”
น้ำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เป็นอันตรายอะไรแต่เรื่องแบบนี้มันก็เป็นอะไรที่ดูแปลกจนทำให้ตัดสินใจได้ยากอยู่พอสมควร
“เอ่อ
ถ้าอย่างนั้นครูอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มเบา
ๆ “ขอบใจนะ”
“อะ
ค่ะ”
แต่เพียงไม่นานณัฐฐาก็นึกอะไรขึ้นได้ทีหลัง
“นี่ เธอไม่คิดถึงคนที่บ้านบ้างเลยหรือ”
“พ่อแม่หรือคะ
ก็คิดถึงนะคะ ช่วงแรก ๆ นี่ออกอาการอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
แต่ยังดีที่ได้ส่งจดหมายไปหาอยู่เป็นประจำ
แค่ไม่ได้เขียนที่อยู่ผู้ส่งเอาไว้เท่านั้นเอง”
“อย่างนั้นหรือ”
“พ่อแม่ของน้ำไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ
แต่เพื่อนของน้ำนี่สิพวกเธอจะต้องคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดแน่ ๆ
เรื่องที่น้ำจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรพวกเธอก็ยังไม่ทันได้รู้เลย”
“ยังไม่ได้เป็นบุคคลหายสาบสูญใช่ไหม”
“ยังค่ะ
แต่ถ้าเรื่องที่เราทำอยู่จบลงน้ำเองก็ว่าจะกลับบ้านอยู่เหมือนกัน”
“หรือ”
น้ำขำออกมาเล็กน้อยก่อนพูดต่อ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเรารีบเข้าไปเที่ยวข้างในกันเถิดค่ะ อากาศในรถเริ่มร้อนแล้ว”
“อ๋อ
จ้ะ”
“รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ”
เด็กสาวบอกขณะพาณัฐฐาเดินมาถึงตรงหน้าประตูทางเข้า
“ทำไมหรือ”
เด็กสาวไม่ยอมตอบ
ได้แต่ฉีกยิ้มแล้วยืนตั้งท่าอยู่หน้าประตูทั้งอย่างนั้น
จนเมื่อคนในห้างเดินถือของออกมาพอดีน้ำจึงตะโกนพร้อมปล่อยคลื่นพลังที่มองไม่เห็นออกจากฝ่ามือจนประตูทั้งสองเลื่อนออกจากกัน
“โอ้
ตายแล้ว” หญิงสาวรีบเอามือกุมหน้าพลางหันไปทางอื่นด้วยความเขินอาย แม้แต่แม่ลูกคู่นั้นที่เพิ่งเดินออกมาก็ยังต้องหลีกทางออกไปให้เธอทั้งสองกันเลยทีเดียว
“เป็นอย่างไรบ้างคะ”
เด็กสาวหันไปถามด้วยความสนุก แต่แล้วกลับเห็นอีกฝ่ายโกยเข้าไปในห้างโดยที่ไม่คิดจะชวนเธอสักคำ
“ยังจะมาถามอีก”
“จะรีบไปไหนน่ะ
รอน้ำด้วยสิ” พร้อมกับวิ่งตามณัฐฐาไป
“จะอยู่ให้อายชาวบ้านเขาหรืออย่างไรเล่า”
“สนุกดีออก”
เด็กสาวหัวเราะชอบใจที่เห็นอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาแบบนั้น ขณะเดียวกันก็เข้าไปเกาะแขนของเธอแล้วซบหน้าลงพร้อมยิ้มแก้มปริ
จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่แอร์เย็นเฉียบสะท้านผิวหนัง ก่อนพากันแวะกินข้าว
เติมหน้า เล่นเครื่องเล่นและซื้อข้าวของกันในภายหลัง ช่วงระหว่างนั้นน้ำก็ชวนณัฐฐาเข้าไปถ่ายรูปตามมุมต่าง
ๆ จนได้รูปสวย ๆ ออกมาตั้งมากมาย ขณะเดียวกันทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นเพื่อนหรือว่าพี่น้องกันไปเสียแล้ว
หลังจากได้เสื้อผ้าตัวใหม่ไปใส่แทนของเดิมและของเล่นบางอย่างไปเล่นในยามว่างแล้วคราวนี้ณัฐฐาก็แวะซื้อของไปทำกับข้าวในเย็นนี้บ้าง
เธอเลือกดูกับน้ำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาสะดุดอยู่ที่โซนขายเนื้อที่มีเนื้อสดอยู่ตั้งมากมาย
ก่อนมองที่มันพลางคิดอะไรบางอย่างในใจ
“ ‘ผมมาชวนครูทานสเต็กด้วยกันครับ’ ” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นในความทรงจำ
“ครูคะ”
เด็กสาวส่งเสียงเรียก มองดูอีกฝ่ายที่เงียบไปนานเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่ตัวคนเดียว
“ครูคะ”
“ห้ะ
อะไรหรือ” หญิงสาวเริ่มได้สติ ก่อนหันขวับไปยังเด็กสาวที่อยู่ข้างกัน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ
ซื้อได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ อาเสี่ยกระเป๋าหนักอยู่แล้ว”
“อ๋อ
เปล่าจ้ะ แค่คิดว่าอยากจะลองทำสเต็กดูน่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะออกมาอร่อยหรือเปล่า”
“สเต็กหรือคะ”
ในห้องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเครื่องครัว
เครื่องปรุง และเครื่องเทศมากมายตามชั้นวางณัฐฐากำลังฝานเนื้อหมูเป็นแผ่น ๆ อยู่ในนั้น
ก่อนนำมันใส่ในชามเพื่อทำการหมักกับเครื่องเทศภายหลัง แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรก็มีใครบางคนเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนเสียได้
“ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่อีก”
ใครคนนั้นถามขึ้นด้วยความสงสัย ทำเอาณัฐฐาต้องหันไปมองด้วยความไม่พอใจ
หญิงสาวรีบเดินไปล้างมือให้สะอาดภายในเวลาไม่กี่วินาที
ก่อนบึ่งไปหาอีกฝ่ายพร้อมทั้งเช็ดมือกับเสื้อตัวเองแล้วฟาดเต็มแรงที่แก้มของเขา
“โอ้ย”
หญิงสาวอุทานเสียงเบา ก่อนสะบัดมือด้วยความเจ็บอย่างลืมตัว
ทำเอาเกียรติที่ยืนอยู่ด้วยต้องรีบเข้าไปดูแทนที่จะสนใจใบหน้าของตัวเอง
ณัฐฐาที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบดึงมือตัวเองกลับมาพร้อมมองไปที่เขาด้วยความไม่พอใจ
“ผมแค่จะดูให้”
“ลักพาตัวฉันมา
ปัดความรับผิดชอบไปให้กับเธอ แล้วนี่ยังจะมาไล่ฉันอีกอย่างนั้นหรือ”
ชายวัยกลางคนเผยใบหน้ารู้สึกผิดออกมา
“ผมเปล่า”
หญิงสาวมองเขาทั้งอย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้ทำอะไรหรือเปล่า ไปรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนได้ไหม ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย”
“เปล่า
ผมไม่ได้ทำอะไร”
หญิงสาวไม่ได้ว่าอะไรต่อ
เธอเดินกลับไปที่อ่างล้างจานแล้วปล่อยให้เขายืนมองตัวเองอยู่ทั้งอย่างนั้นจนกว่าจะไป
หลังจากที่ตัวเองหมักเนื้อจนเสร็จณัฐฐาก็ล้างมือแล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นบ้าง
แต่แล้วกลับเห็นว่าคนที่เธอให้มารอกลับนอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟาในห้องเสียได้ เธอที่เห็นอย่างนั้นจึงนั่งลงข้าง
ๆ อย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนมองไปบนใบหน้าที่หลับใหลของเขาซึ่งมีรอยแดงก่ำจากฝ่ามือของเธออยู่ด้วย
ณัฐฐายื่นมือไปสัมผัสที่แก้มของอีกฝ่ายเบา
ๆ อยู่ครู่หนึ่ง จนสุดท้ายมันก็ทำให้เขารู้สึกตัวขึ้นมาแล้วจับมือของเธอเอาไว้โดยเร็ว
หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ร้องอะไรออกมาเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้แบบนี้เป็นแน่
“นี่คุณต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลาถึงขนาดไหนนี่”
ชายวัยกลางคนมองไปยังมือของอีกฝ่ายที่ตนจับไว้อยู่
ก่อนปล่อยกลับไปแล้วลุกขึ้นนั่งในท่าที่สบาย “ผมขอโทษ”
“ฉันผิดเองล่ะ
แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ตบหน้าคุณไปเมื่อตอนนั้นน่ะ ฉันแค่ไม่พอใจที่คุณพูดแบบนั้นกับฉันเท่านั้นเอง”
“ก็ผมปล่อยคุณไปแล้วนี่”
“อยากโดนตบอีกสักทีไหม”
“แต่คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไม่ใช่หรืออย่างไร”
“แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่อย่างนั้นหรือ”
หญิงสาวว่ากลับไปบ้าง ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
“ฉันเป็นเพียงแค่ครูธรรมดา
ถ้าคุณไม่รู้จักฉันแล้วทำไมจะต้องทำอะไรถึงขนาดนั้นด้วยล่ะ” หญิงสาวถามต่อ ทำเอาเกียรติถึงกับพูดไม่ออกหนักยิ่งกว่าเดิม
“คุณไม่รู้อะไรจริง ๆ เลยหรือ”
ชายวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนหลบสายตาอีกฝ่ายไปทั้งอย่างนั้น “ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้น
ไหน ๆ ก็มาถึงขึ้นนี้แล้วให้ถือว่านี่เป็นการเที่ยวพักผ่อนอีกแบบหนึ่งของฉันจะได้ไหม”
ชายวัยกลางคนรีบหันหน้าไป
“อาจมีใครกำลังเป็นห่วงคุณอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าพาตัวฉันมาตั้งแต่แรกสิ”
ชายวัยกลางคนสบตากับอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“คุณรู้ใช่ไหมว่าอะไรจะตามมา”
“รู้”
เมื่อเห็นอย่างนั้นเกียรติจึงไม่ได้พูดอะไรกลับไป
แต่ทั้งสองก็เข้าใจดีและพร้อมจะยอมรับในสิ่งที่จะตามมาในภายหลัง
จู่
ๆ ณัฐฐาก็ลุกขึ้นยืน “รออยู่นี่ก่อนนะ กวาดพื้นตรงนี้ให้หน่อยก็ดี เดี๋ยวฉันกลับมา”
แล้วเดินจากเขาไปทั้งอย่างนั้น
“นอนตอนเย็นไม่ดีหรอกนะ
ไปล้างหน้าก่อนเลย ไป” เธอว่า พลางกลับมามองที่เขาด้วยความเป็นห่วง
คำขอหญิงสาว
E – Villain: Lady Killer เลดี้ คิลเลอร์
................................................................................................................................................................................
ช่วงนี้มีสาระ
(มั้ง)
มีหลายคนเคยนอนช่วงตอนเย็นหรือราว
ๆ สี่โมงขึ้นไป แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีแม่งก็ดันปวดหัวกันซะอย่างนั้น ผมเองก็เคยเป็น
ช่วงสิ้นเดือนที่แล้วนี่เอง
เมื่อเรานอนหลับหรือทำการหลับตาในช่วงระยะเวลาหนึ่งการไหลเวียนของเลือดและอุณหภูมิในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิและแสงภายนอก
และเมื่อเราลืมตาตื่นขึ้นมาในอุณหภูมิหรือแสงที่อ่อนลงกว่าจากตอนที่เริ่มนอนจะทำให้หลอดเลือดหดหรือขยายตัวอย่างทันทีทันใด
ซึ่งนั่นเองก็ทำให้สมองต้องทำงานหนักขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็วจึงเกิดอาการปวดหัวหรือเป็นไข้ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
คือตอนบ่าย
ๆ มันก็พอได้อยู่อะนะ แต่ตอนเย็นนี่ไม่ควรเลยจริง ๆ และนี่คือที่มาของคำว่า “ห้ามนอนทับตะวัน
ไม่อย่างนั้นผีจะมาเอาวิญญาณ”
หาข้อมูลเพิ่มเติมเองเน่อ
***
อู้ว ลื่น ๆ ๆ ช่วงนี้ลื่นมาก แต่จะลื่นไปได้สักกี่ตอนนี่ไม่รู้นะ จะถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของเรื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่า ๆ ๆ
ส่วนข้อมูลในเรื่องจะผิดหรือถูกตรงไหนก็แย้งได้นะ แต่จะแก้ให้ได้หรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้
เพราะถ้าความเป็นจริงมันทำให้เรื่องไปต่อไม่ได้ล่ะก็ผมขอเลือกมองข้ามปัญหาเหล่านั้น
แล้วมุ่งให้ความสำคัญไปที่ความสนุกสนานยังจะดีซะกว่า
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามมาจนถึงตอนนี้ด้วยนะครับ
ขอให้สนุก
ความคิดเห็น