ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    E - Villain คนประลัยสายพันธุ์อี

    ลำดับตอนที่ #15 : #15 แปรเปลี่ยนความรู้สึก

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 63


                    “นี่ห้องออกกำลังกายค่ะ” น้ำบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป รอให้ณัฐฐาเดินตามเข้ามาทีหลัง “ใช้มันเก็บของบางอย่างด้วย ก็จะดูรกหน่อย ๆ นะคะ”

                    หยิงสาวกวาดตามองเพียงแวบเดียว แม้จะเห็นข้าวของเครื่องใช้จำนวนไม่น้อยแต่มันก็ค่อนข้างที่จะเป็นระเบียบและไม่เกะกะอยู่พอสมควร “อ๋อ ไม่รกหรอก ปกตินั่นแหละ”

                    “จริงเหรอคะ”

                    “อื้อ แล้วเราจะมาฝึกกันที่นี่ใช่ไหม”

                    “ค่ะ เตะต่อยธรรมดาก็พอได้อยู่ใช่ไหมคะ”

                    ณัฐฐาหันขวับไปยังคนที่คุยด้วย “อื้อ”

                    “งั้นเริ่มเลยไหมคะ”

                    “หึ้ย เริ่มเลยหรือ จะให้ทำอะไรก็ยังไม่รู้เลย”

                    “ก็ยืดเส้นยืดสายสักหน่อยนี่ล่ะค่ะ แล้วค่อยสอนพวกวิธีที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวเองทีหลัง ง่าย ๆ นิดเดียวเองค่ะ”

                    “หรือ”

                    “ดูนั่นสิคะ” พลางชี้ไปด้านหลังของณัฐฐา

                    หญิงสาวหันไปตามที่อีกฝ่ายบอก แต่ยังไม่ทันจะเห็นจะมีอะไรเธอก็ถูกน้ำพุ่งเข้ากอดพร้อมเอาหน้าซุกอกเอาเสียอย่างนั้น “โอ้ย ทำอะไรของเธอกันนี่”

                    “นุ่มจังเลย คัพดี คัพดี” น้ำเอาหน้าซุกอกณัฐฐาไปมาอย่างอารมณ์ดี แม้จะถูกอีกฝ่ายพยายามขัดขืนแต่เธอก็ยังกอดรัดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยไปไหน

                    “มาคัพดง คัพดีอะไรกันเล่า นี่ พอแล้ว มันจั๊กจี้นะ”

                    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไป “หน้าอกใหญ่นะคะนี่”

                    “อะไรของเธอล่ะนี่ ถอยออกไปเลย”

                    แม่สาวคัพบียิ้มให้กับอีกฝ่าย ก่อนถอยออกไปตามที่เธอบอก

                    “เมื่อครู่แค่ยกตัวอย่างน่ะค่ะ เคยเจออะไรประมาณนี้มาแล้วใช่ไหมคะ”

                    “อะ อื้อ”

                    “มันก็มีอีกหลายแบบอยู่นะคะ เดี๋ยวไล่ทำไปทีละอย่างแล้วกัน” ก่อนหันหน้าไปทางประตู “อ้ะ อาจารย์”

                    ณัฐฐาหันขวับไปทางประตูบ้าง แต่แล้วก็ถูกเด็กสาวพุ่งเข้ามากอดอีกครั้งจนต้องหันกลับไปยังอีกฝ่ายทันที “โอ้ย อะไรของเธออีกล่ะนี่”

                    “น่าอิจฉาจังเลย เมื่อไรจะมีแบบนี้สักทีบ้างนะ” เธอว่าขณะยังซุกหน้าอยู่

                    “นี่”

                    หญิงสาวขัดขืนเบา ๆ แต่พอเห็นอีกฝ่ายชอบทำแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วเธอก็ชักจะใจอ่อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงได้แต่ถอนหายใจแล้วมองอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูแทน “เธอนี่นะ”

                    ขณะเดียวกันเกียรติก็เข้ามาในห้องออกกำลังกายบ้าง ก่อนเห็นว่าน้ำกำลังทำอะไรกับแขกของตัวเองด้วยความสนุกสนาน

                    ไม่นานณัฐฐาก็รู้สึกตัวว่ากำลังมีใครยืนอยู่ข้างหลัง จึงหันไปมองก่อนจะพบว่าคนที่ลักพาตัวเธอมากำลังยืนอยู่ที่ข้างหลังของตนจริง ๆ “อ้ะ นาย”

                    “หือ” น้ำชะโงกหน้าออกไปดูบ้าง ก่อนพบว่าอาจารย์ของตัวเองกำลังมองมาทางนี้อยู่ “อ้ะ อาจารย์”

                    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำเอาณัฐฐาแทบจะไม่กล้าสบตากับเกียรติตรง ๆ เธอรู้สึกเขินเป็นอย่างมากที่ถูกเห็นในสภาพที่น่าอายแบบนี้ ขณะเดียวกันน้ำก็วิ่งเข้าไปซุกอกของเกียรติบ้างเหมือนกับที่เธอเพิ่งจะโดนไป

                    ไม่นานน้ำก็หยุดซุกอกของเกียรติแล้วตีเข้าไปเบา ๆ “แข็งอะ” ก่อนวิ่งกลับไปหาณัฐฐาอีกครั้งด้วยความดีใจ

                    “ครูคะ”

                    หญิงสาวใช้มือผลักที่ศีรษะของน้ำทันทีก่อนที่เธอจะมาถึงตัว “พอเลยเธอน่ะ”

                    เมื่อเห็นอย่างนั้นน้ำจึงได้แต่หัวเราะแหะ ๆ แล้ววิ่งกลับไปหาเกียรติอีกครั้ง “น้ำอยากไปเกาหลี”

                    เกียรติรีบลงมะแหงกที่กลางกบาลของเด็กสาวทันที ก่อนมองดูเธอใช้มือตัวเองกุมหัวเอาไว้

                    “โอ้ย มันเจ็บนะอาจารย์”

                    “ทำอะไรกันอยู่” เกียรติถามออกไป

                    “กำลังสอนวิธีป้องกันตัวให้กับครูอยู่น่ะค่ะ เผื่อมีพวกโรคจิตลอบเข้าด้านหลังเงียบ ๆ แบบเมื่อครู่นี้อีก” พร้อมกับชู 2 นิ้วไว้ข้างหลังของตนเพื่อให้ณัฐฐาเห็นเพียงคนเดียว

                    “ฮ่า ๆ ๆ” จู่ ๆ ณัฐฐาก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทำเอาความเขินเมื่อครู่พลันหายไปหมด

                    “อาจารย์มีอะไรหรือเปล่าคะ”

                    “ได้ยินเสียงร้อง ก็เลยมาดูว่ามีอะไร” ก่อนหันไปมองที่ณัฐฐาอีกที

                    “เธอไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม”

                    “ก็มีแต่นายนั่นล่ะ” หญิงสาวว่า พลางนึกถึงตอนที่เขาทำกับเธอตอนถูกพาตัวมา

                    จากนั้นน้ำก็วิ่งกลับมากอดณัฐฐาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนหันหน้ากลับไปยังอาจารย์ของตน “ห้ามทำอะไรครูเด็ดขาดเข้าใจไหม”

                    เกียรติไม่ได้ตอบโต้ทั้ง 2 คนเลยแม้แต่น้อย เขาเลือกหยิบดัมบ์เบลล์แล้วเดินไปนั่งที่ตรงมุมห้องอย่างเพียงลำพัง ปล่อยให้ณัฐฐามองตามอย่างไม่พอใจแล้วขว้างนวมที่อยู่บนโต๊ะใส่ไปทั้งอย่างนั้น

                    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองแต่อย่างใดณัฐฐาจึงหันไปกระซิบกับเด็กสาวทันที “นี่ เธออยู่กับเขาแบบสองต่อสองมาตลอดเลยหรือ”

                    “ครูหมายถึงเรื่องอย่างว่าหรือคะ”

                    “ก็เธอสวยกว่าฉันเป็นไหน ๆ อายุก็ยังน้อยอีก จะไม่ให้ฉันคิดแบบนั้นได้อย่างไร”

                    “จริงหรือคะ รู้สึกเขินอย่างไรไม่รู้”

                    “ไม่ได้ชมสักหน่อย”

                    “อะ หรือคะ” เด็กสาวดึงสติกลับมา “อาจารย์คงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกมัง อายุของน้ำก็รุ่นราวคราวลูกเชียวนะ”

                    “อะ อย่างนั้นหรือ”

                    “แต่จะว่าไป” จู่ ๆ เด็กสาวก็เปลี่ยนน้ำเสียง เดินรอบตัวอีกฝ่ายพร้อมกับมองเรือนร่างด้วยความสนใจ “สวย ๆ อย่างครูนี่ หุ่นก็ดี หน้าอกก็โต มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ใหญ่อีก ไม่แน่ว่าบางทีอาจารย์ในตอนนี้อาจจะไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่น้ำรู้จักก็เป็นได้มังคะ”

                    “นี่ พูดอะไรน่ะ ฉันยิ่งกลัว ๆ เขาอยู่ด้วย”

                    “ฮ่า ๆ ๆ เอาล่ะค่ะ กลับมาฝึกกันต่อดีกว่า เรายังไม่ทันได้เริ่มอะไรเลย”

                    “อื้อ”

                    “งั้นเริ่มจากซ้อมกระสอบทรายเพื่ออุ่นเครื่องก่อนนะคะ” พร้อมกับชี้ไปยังกระสอบทรายที่ห้อยอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง “ตรงนั้นเลยค่ะ”

                    ณัฐฐามองไปยังกระสอบทรายแล้วมองกลับมาที่นวมซึ่งอยู่บนโต๊ะอีกที น้ำที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบเข้าไปยึดนวมคู่หนึ่งที่ของตัวเองแล้วเหลือไว้ให้แค่นวมข้างเดียวซึ่งเป็นของเกียรติ

                    “อันนี้ไม่ได้ค่ะ คู่นี้ของน้ำ” พร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างมีเลศนัย

                    หญิงสาวถึงกับพูดอะไรไม่ออกหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายทำกับตัวเองแบบนั้น พอมองไปที่นวมอีกข้างซึ่งอยู่ใกล้กับเกียรติเธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อย ๆ เพราะเกรงว่าเขาจะโกรธขึ้นมาทีหลังเอาได้ สุดท้ายก็ต้องมองกลับไปยังเด็กสาวแสนอันตรายแล้วยอมแพ้ไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

                    ณัฐฐาพยายามทำใจไม่ให้กลัวแล้วเดินเข้าไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้แต่เดินช้า ๆ พร้อมกับหันไปมองที่น้ำเป็นครั้งคราวเพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย แอบคิดในใจว่าถ้ามีโอกาสจะเอาคืนเธอให้ดู

                    เมื่อเข้าไปใกล้จนเกือบจะถึงจู่ ๆ เรื่องที่ไม่คาดฝันก็พลันเกิดขึ้นมา ชายวัยกลางคนวางดัมบ์เบลล์เอาไว้แล้วเก็บนวมที่ตกอยู่ใกล้ ๆ นั้นขึ้นมาแทน ถึงกับทำให้ณัฐฐาไม่กล้าเดินต่อและน้ำหุบยิ้มไปพร้อม ๆ กัน

                    เกียรติถือนวมที่ว่าเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยไม่ได้ว่าอะไร ณัฐฐาที่เห็นอย่างนั้นก็กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่บ้างว่าจะถอยไปตั้งหลักก่อนดีไหม แต่พอเห็นอีกฝ่ายยื่นนวมมาให้เธอก็เริ่มจะหายกลัวลงไปบ้างแล้ว

                    หญิงสาวมองนวมกับคนที่ลักพาตัวเธอมาสลับกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยื่นมือไปรับเอาไว้ด้วยความเขินอาย “ขะ ขอบคุณค่ะ”

                    “เอ่อ” หญิงสาวอ้ำอึ้ง ค่อย ๆ เผยใบหน้าที่รู้สึกผิดออกมา “ฉันขอโทษที่ขว้างนวมใส่คุณด้วยนะ”

                    “ผมไม่โกรธคุณหรอก” เขาว่า ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงขึ้นมา เริ่มจะทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์แบบนี้บ้างแล้ว

                    “เอ่อ ถ้าอย่างนั้นฉันไปแล้วนะ” พูดจบเธอก็เดินกลับไปหาน้ำทันที ก่อนหันกลับไปมองเขาเล็กน้อยแล้วเดินต่ออีกครั้งหนึ่ง

                    “หน้าแดงแล้ว หน้าแดงแล้ว” น้ำว่าเสียงเบาด้วยความชอบใจขณะที่อีกฝ่ายเดินมาหยิบเอานวมอีกข้าง

                    ณัฐฐามองค้อนไปยังเด็กสาวผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “จำไว้เลยนะเธอน่ะ” แล้วเดินต่อไปยังกระสอบทรายอีกที

                    ชายวัยกลางคนเดินไปหาน้ำบ้าง ก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าจะโดนอะไรแล้วยกนวมขึ้นไปบังศีรษะทันที “อย่าไปแกล้งคนอื่นแบบนั้นสิ” แล้วเปลี่ยนเป็นเดินออกนอกห้องไป

                    เด็กสาวตามเอานวมไปฟาดหลังเกียรติเบา ๆ “จะไปไหนก็ไปเลย”

                    หลังจากที่เกียรติไม่อยู่แล้วทั้งสองจึงกลับมาให้ความสนใจกับการฝึกซ้อมกันอีกครั้งหนึ่ง น้ำค่อย ๆ ให้แขกของตัวเองฝึกกับกระสอบทรายอยู่คนเดียวไปก่อน ส่วนตัวเองก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปพลาง กินขนมไปพลาง เมื่อถึงเวลาก็สอนให้รู้จักเทคนิคต่าง ๆ ที่จะเอาไว้ใช้ป้องกันตัวเองแล้วอยู่ด้วยกันแบบนั้นจนณัฐฐาเริ่มจะจับทางได้แล้ว

     

                    ผ่านไปหลายชั่วโมงทั้งสองก็รู้สึกว่าเหนื่อยจนแทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว น้ำที่เห็นอย่างนั้นจึงมองไปยังณัฐฐาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วหัวเราะออกมา

                    ณัฐฐาหันไปยังเด็กสาว ขณะเดียวกันตัวเองก็ยังหอบอยู่ “อะไร”

                    “เป็นอย่างไรบ้างคะ”

                    “ก็พอได้อยู่นะ เหนื่อยดีออก”

                    “ฮ่า ๆ ๆ ก็นั่นล่ะค่ะ ที่พาครูมาที่นี่ก็เพราะว่าอยากให้หายกังวลนี่แหละ”

                    “ห้ะ จริงเหรอ”

                    “ออกกำลังกายมันช่วยได้นะคะ หุ่นเป๊ะด้วยค่ะ”

                    “ฮ่า ๆ ๆ มันก็จริงนั่นล่ะ”

                    “ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก็พอแล้วมังคะ น้ำจะพาครูไปส่งที่บ้านแล้ว”

                    “ห้ะ จริงหรือ”

                    “ค่ะ ก็เราปล่อยตัวแล้วนี่คะ ชดใช้ไปบางส่วนแล้วด้วย”

                    “อ๋อ จ้ะ” หญิงสาวตอบอย่างโล่งอก “ทีนี้ก็ได้กลับบ้านสักที”

                    “ถ้าอย่างนั้นครูช่วยเอานวมไปเก็บไว้ในกล่องตรงนั้นให้หน่อยได้ไหมคะ” พลางชี้ไปยังกล่องใส่ของขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงมุมห้อง “วางไว้ที่โต๊ะเดี๋ยวจะไม่เป็นระเบียบเอา พอดีน้ำยังไม่หายเหนื่อยเลย”

                    หญิงสาวมองตาม หยิบเอานวมแล้วก้าวเดินไป “กล่องนั้นหรือ”

                    “ค่ะ กล่องนั้นนั่นล่ะ”

                    ทันทีที่เดินไปถึงณัฐฐาก็ถึงกับมองตาค้างไปยังของในกล่องที่กองรวมกันอยู่ตั้งมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าจำนวนของสิ่งที่อยู่ข้างใน หากแต่มันเป็นนวมชกมวยอีกตั้งหลายคู่ที่ยังใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาต่างหากเล่า

                    “ฮ่า ๆ ๆ” เด็กสาวถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ใช้มือกุมท้องโดยไม่เกรงใจเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอายสักแค่ไหนกัน

                    “หน็อยแน่ มาแกล้งกันได้”

     

                    แปรเปลี่ยนความรู้สึก

                E – Villain: Lady Killer เลดี้ คิลเลอร์

     

    ................................................................................................................................................................................

     

                    ช่วงนี้มีสาระ (มั้ง)

     

                    อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงไม่มีใครเดาไม่ออกหรอกนะว่าความสัมพันธ์ของณัฐฐากับเกียรติจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะรูปแบบของความรักในโลกใบนี้เราก็เห็นกันมาแทบจะทั้งหมดอยู่แล้ว ฉะนั้น

                    สตอกโฮล์ม ซินโดรม (Stockholm Syndrome) คืออาการของคนที่ตกเป็นเชลยหรือตัวประกันแล้วเกิดอาการเห็นอกเห็นใจคนที่เป็นคนร้ายหลังจากต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกันระยะหนึ่ง และอาจลงเอยด้วยการแสดงอาการปกป้องคนร้ายหรือยอมเป็นพวกเดียวกันด้วยซ้ำ

                    สาเหตุของการเกิดอาการแบบนี้เกิดจากความใจอ่อน สงสารสัตว์โลกผู้ชะตาตกต่ำ ประกอบกับได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับผู้ก่อการร้ายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง กินข้าวหม้อเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน ไม่ได้ถูกข่มขู่ ไม่ได้ถูกทำร้าย หรือไม่ได้ถูกพูดจาประชด ถากถางเลยแม้แต่น้อย จึงเกิดเป็นความสงสารและเห็นใจขึ้นมา

                    และนี่คือจำเลยรักเวอร์ชันบู๊ระห่ำ ...เอาจริงดิ ...ไม่หรอก ก็ว่าไปงั้นแหละ

                    หาข้อมูลเพิ่มเติมเองเน่อ

     

                    *** สวัสดีทุกคน ผมกลับมาเขียนนิยายต่อแล้วนะ ว่างแล้ว ๆ ช่วงที่ผ่านมางานข้าวและงานอ้อยยุ่งจัด ติดสร้างและย้ายบ้านใหม่ ติดงานบวชตัวเอง ติดงานศพตา แล้วกลับมาติดงานอ้อยงานข้าวอีกครั้งหนึ่ง แต่ช่วงนี้ว่างแล้ว เคลียร์ได้หมดแล้ว รอฤดูเก็บเกี่ยวทีเดียวยาว ๆ ไปเลย

                    หากชอบผลงานก็อย่าลืมคอมเมนต์ กดไลก์ กดแชร์ กดสับสไครบ์ กดกระดิ่งแจ้งเตือนเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่พลาดชมคลิปใหม่ ๆ กันด้วยนะครับ ...ไม่รู้ทำไม แต่เห็นเขาพูดแบบนี้กันแทบทุกคลิป เฮ้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×