ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    E - Villain คนประลัยสายพันธุ์อี

    ลำดับตอนที่ #13 : #13 บุคคลปริศนาก่อเหตุ ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 63


                    "คุณสุวรรณา !" พนาร้องเสียงหลง บอกให้ลูกค้าตัวเองอย่าทำอะไรไม่เข้าท่า แต่สุดท้ายสุวรรณาก็ลุกขึ้นหวังจะเข้าไปในรถให้ได้


                    "ช่วยด้วย ฉันยังไม่อยากตาย" สุวรรณาหมายจะเปิดประตูรถฝั่งที่อยู่ใกล้กับตัวเอง แต่ไม่ทันจะเปิดสำเร็จ ต้นขาอวบ ๆ ก็ถูกเจาะด้วยลูกเหล็กจนล้มลงไป ทำเอาเธอกรีดร้องหนักยิ่งกว่าเดิม เหยื่อสาวในรถอีก 2 คนก็พลอยส่งเสียงร้องไปด้วย ส่วนน้ำที่หันมาดูก็เห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญเข้าไปเต็มๆ แต่แววตานั้นกลับไม่มีความสงสารอยู่เลยแม้แต่น้อย


                    คราวนี้ชายหนุ่มมองดูสุวรรณาด้วยความสมน้ำหน้าบ้าง เพราะเตือนไปแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมฟังสักที เห็นเธอแหกปากพลางกุมแผลด้วยความเจ็บปวด "หึ ถามจริง ไปด่าเด็กปั๊มป์ที่ไหนมา"


                    เขายังคงพูดแบบไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิด ก่อนจะหันไปยังมือสังหารที่เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พยายามเพ่งมองใบหน้าภายใต้หน้ากากอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ดูไม่ออกอยู่ดีว่าเขาเป็นใคร


                    "นี่ผมพยายามไม่เข้าไปยุ่งด้วยแล้วนะเนี่ย" จู่ ๆ พนาก็พูดขึ้นมา ทำเอาชายชุดหนังต้องหยุดฟังทันที มองปืนตัวเองเพียงแวบเดียวก่อนจะเก็บปืนเข้าซองเพราะไม่อยากถูกมองว่าเอาเปรียบอีกฝ่าย


                    ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ อย่างน้อย ๆ ก็คุยกันรู้เรื่อง ซ้ำยังทำให้ตัวเองปลอดภัยขึ้นมากกว่าเดิมอีก "เอาล่ะ ใครจ้างคุณมา ?"


                    "ฉันไม่ได้มีธุระกับนาย"


                    ชายหนุ่มหันไปทางสุวรรณาเพียงแวบเดียว "เขามีธุระกับคุณน่ะ"


                    "เออ รู้แล้ว" เธอตะคอก "ทำอะไรสักทีได้ไหม"


                    "แล้วไง ? ต้องผมด้วยไหม ?"


                    "นายไม่เกี่ยว แต่สมควรโดน"


                    "หึ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ" พลางยกมือทั้งสองขึ้นหักข้อนิ้ว คิดว่างานนี้คงต้องทุ่มสุดตัวอย่างเดียวแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคงได้กลายเป็นศพไม่ต่างจากคนอื่นเป็นแน่


                    แต่เพียงไม่นานที่หักข้อนิ้วเสร็จ การต่อสู้ของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น พนาเริ่มปล่อยหมัดหนักหน่วงออกไปก่อน แต่พออีกฝ่ายป้องกันไว้ได้ก็รีบปล่อยหมัดต่อไปทันที ทั้งรัวทั้งเร็วเข้าใส่ศัตรู เปลี่ยนเป็นเตะบ้างเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับทางได้ ยิ่งอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งไม่มีอะไรต้องกลัว


                    "เออ เอาเลย เอามันให้ตายไปเลย" สุวรรณาตะโกนเชียร์ เธอรู้สึกสะใจเป็นอย่างมากที่เห็นคนที่ยิงเธอโดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บตอนนี้กลับหายไปแล้ว


                    พนายังคงรุกอีกฝ่ายอย่างได้เปรียบ เขาอาศัยจังหวะที่ชายชุดหนังเตะไม่โดนและตัวเองหลบได้พุ่งเข้าสับศอกที่หัวของเขา ตามด้วยกระโดดถีบอย่างแรงโดยไม่ให้เขาตั้งตัว ทำเอาอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาพร้อมกับกลิ้งขลุกไปบนพื้นที่ไม่ได้นุ่มนิ่มเลยสักนิด เมื่อบวกกับความเจ็บปวดที่ได้รับมาตอนที่ถูกรุมยิงก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บหนักเข้าไปอีก


                    "หึ มึงยิงรถกูเหรอห๊ะ" ชายหนุ่มตะคอกสุดเสียง มองดูชายชุดหนังที่นอนเกลือกกลิ้งด้วยเจ็บปวด รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่เขาดันไปยิงรถสุดที่รักของตัวเองเสียได้ ก่อนจะวิ่งเข้าไปจัดการกับอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอด


                    แต่ท่าไม่ค่อยจะดี ชายชุดหนังที่ยอมต่อสู้มือเปล่ากลับเปลี่ยนใจขึ้นมาเพราะถูกเล่นงานเสียเอง เขาพยายามครองสติแล้วยกปืนขึ้นยิงจนหมดแม็กทันที ทำเอาพนาที่วิ่งเข้าใส่ต้องล้มลงไปอยู่ใกล้กับเขา สถานการณ์พลิกกลับอย่างไม่น่าเชื่อ สุวรรณาที่เห็นแบบนั้นถึงกับหุบยิ้มจนเกือบไม่ทัน


                    "อะแค่ก อะแค่ก" ชายชุดหนังกระไอกระแอมออกมาไม่หยุด คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะโดนเล่นงานหนักขนาดนี้ ค่อย ๆ ใช้มือกุมหัวบรรเทาความเจ็บ ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ยังไม่สิ้นสติ


                    "รู้งี้ไม่รับคำท้าซะก็ดี" เขาว่า พลางมองตากับพนาที่จ้องกลับมาที่เขาอย่างโกรธแค้น


                    ไม่นาน ชายชุดหนังก็คลำหาแม็กกาซีนสำรองจนเจอ เขาทำการสับเปลี่ยนจนปืนของตัวเองกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง "เออ กูนี่แหละที่ยิงรถมึง" แล้วยิงอีกฝ่ายให้ตายจริง ๆ อย่างไม่ทรมาน


                    "กรี๊ดดดด !"


                    ชายชุดหนังรีบมองไปทางต้นเสียงทันที เห็นเป้าหมายตัวเองกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว พยายามลุกยืนโดยไม่เกรงใจขาตัวเอง เมื่อเห็นอย่างนั้น เขาจึงนอนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป พยายามลุกขึ้นให้ได้ไม่ต่างจากเธอ สูดลมเข้าปอดแล้วปล่อยออกมาเพื่อคลายความเจ็บ ก่อนจะเดินไปหาสุวรรณาด้วยความทุลักทุเล


                    "อย่าเข้ามานะ ปล่อยฉันไปเถอะ อยากได้อะไรฉันจะหามาให้ อย่าทำอะไรฉันเลย" เธอว่ารัวเร็ว มองชายชุดหนังสลับกับทางออกของโรงเก็บของอย่างกลัวตาย ลากขาโชกเลือดผ่านตัวของน้ำไป


                    สุวรรณายังคงเห็นความตายเข้ามาใกล้ตัวเองทีละเล็กทีละน้อย จะแหกปากร้องให้ใครมาช่วยแถวนี้ก็ไม่มีใครอยู่ ได้แต่ฝืนวิ่งให้เร็วกว่าเดิมแม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม พยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจนทิ้งห่างชายชุดหนังไปได้ไกล แต่พอคิดว่าตัวเองใกล้รอดตายแล้ว กลับถูกชายคนนั้นวิ่งมาเตะขาอย่างไร้ความปรานี


                    "โอ๊ยยยย !!!" สุวรรณากรีดร้องด้วยความเจ็บที่เกินจะรับไหว ต้นขาข้างขวาที่ถูกเตะไปนั้นคือจุดเดียวกันกับที่ถูกยิง ร่างทั้งร่างลอยลิ่วจนตกกระแทกพื้น ใบหน้ายับยู่ยี่ด้วยความเจ็บปวดจนถึงขีดสุด "อ๊าาาา อ๊าาาา"


                    สิ่งที่เกิดขึ้นดูโหดร้ายเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับได้ แต่น้ำที่เฝ้าดูหญิงวัยกลางคนอยู่ตลอดกลับแทบไม่รู้สึกอะไร ซ้ำยังคิดว่ามันสาสมแล้วกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับตัวเอง พลางมองดูชายปริศนาว่าต่อจากนี้เขาจะทำอะไรกับเธอ


                    ชายชุดหนังเดินมาถึงและหยุดอยู่ต่อหน้าสุวรรณา เขาเอาแต่มองใบหน้าทรมานนั้นโดยไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง


                    "อ๊าาาา เวรเอ๊ย" เธอยังร้องโอดโอยเหมือนเดิมด้วยความเจ็บที่ยังไม่ทุเลา พลางมองไปยังชายปริศนาด้วยความเคียดแค้น "แกต้องการอะไรจากฉันกันแน่วะไอ้สารเลว ?"


                    เขายังไม่ตอบอะไรกลับไปทันที เอาแต่มองดูผู้ที่ด่าว่าเขาอย่างคับแค้นใจ "สิ่งที่คุณต้องการเป็นเพียงแค่ความสุขในแบบที่คุณถวิลหา เอาเข้าจริงก็ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของใครเลยสักครั้ง"


                    "พูดบ้าอะไรของแกวะ ฉันฟังไม่รู้เรื่อง" เธอตะคอกกลับไป มือทั้งสองกุมแผลฟกช้ำที่เต็มไปด้วยเลือดสีดำคลั่ก


                    "คุณทำร้ายจิตใจของชายคนหนึ่ง" เขาว่า พลางล้วงเข้าไปใต้กระเป๋ากางเกง โยนต่างหูคู่หนึ่งลงไปบนพื้นให้เธอได้เห็น "ต่างหูที่เขาซื้อให้ คุณกลับโยนมันทิ้งอย่างไม่ไยดี"


                    สุวรรณามองไปยังต่างหูบนพื้นทั้งสอง แต่เพียงไม่นานก็ทำให้อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไป รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่ามันเคยเป็นของตัวเองมาก่อน ทำให้เธอรีบมองไปที่เขาอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ คิดว่าชายคนนี้อาจเป็นคนที่เธอเคยรู้จักเมื่อหลายสิบปีมาแล้วก็เป็นได้


                    "ห๊ะ ก เกียรติ นั่นคุณเหรอ ?" เธออ้ำ ๆ อึ้ง ๆ จ้องมองที่เขาไม่ยอมละสายสายตา แน่ใจว่านั่นคือคนที่เธอเคยรู้จักจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องการคำตอบยืนยันอยู่ดี "นั่นคุณใช่ไหม ?"


                    ผู้เป็นเจ้าของชื่อไม่ยอมตอบกลับอะไร แววตาไม่อาจให้อภัยในความผิดของเธอได้ ค่อย ๆ ยกปืนขึ้นเล็งที่หน้าผากของเธอ ทำเอาอีกฝ่ายตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ


                    "ห๊ะ ! ไม่นะเกียรติ อย่าทำอะไรฉันเลย" สุวรรณาพยายามขอร้องให้เขาไม่ทำอะไรตัวเอง ยกมือขึ้นห้ามด้วยความกลัวตาย "ฉัน..." แต่ไม่ทันที่จะพูดอะไรจบ ก็ทำให้ความโศกเศร้าและความเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาในแววตาของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ตัวเองจะถูกกระสุนเจาะเข้ากบาลอย่างยั้งไม่ได้


                    ฝีปากหลอกลวงถูกหยุดลงไปในที่สุด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางถูกอาบด้วยเลือดแดงฉานดูไม่ได้ มือที่ยกขึ้นห้ามตกลงบนพื้นไร้การเคลื่อนไหว ในที่สุดก็จัดการกับคนที่เคยทำร้ายหัวใจเขาได้สักที


                    "ผมไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากคุณ"


                    ในที่สุด ภารกิจของนักฆ่าเลือดเย็นก็จบลงไป เขาเลือกที่จะไม่อาลัยอาวรณ์และทิ้งการ์ดที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเองไว้บนร่างของศพ พอนึกขึ้นได้ว่ายังมีอะไรให้ทำอยู่อีก ก็เดินไปหาหญิงสาวที่ถูกมัดมือจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้


                    ถึงแม้ว่าน้ำจะเห็นการกระทำอันโหดร้ายของเขามาทั้งหมด แต่กลับไม่รู้สึกหวาดกลัวชายชุดหนังที่กำลังเดินมาหาเธอเลยแม้แต่น้อย กลับกัน ยังคงคาดหวังด้วยซ้ำว่าเขาจะใจดีจนเข้ามาช่วยเธอให้พ้นไปจากนรกบ้า ๆ แห่งนี้


                    แต่เพียงไม่นาน สิ่งที่น้ำคาดหวังก็กลายเป็นจริงขึ้นมาจนได้ ชายคนนั้นพยุงร่างที่นอนบนพื้นให้ลุกขึ้นนั่ง ใช้มีดที่พกมาด้วยตัดเชือกที่มัดมือเธอ แม้ว่าน้ำจะพยายามมองใบหน้าของเขาอยู่นาน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมสบตากับเธอเลยสักนิดเดียว


                    "หนีไปซะ" เขาว่าหลังจากที่ตัดเชือกเสร็จ ก่อนจะเดินไปยังรถของพนาที่อยู่ไม่ไกล ปล่อยให้หญิงสาวจัดการกับผ้าปิดตาและเทปปิดปากเอาเอง


                    น้ำไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้ดี ได้แต่ดึงผ้าและเทปที่อยู่กับตัวออกไปก่อน จับคอเสื้อขึ้นมาเช็ดเลือดที่ปากเบา ๆ พลางมองดูชายคนนั้นช่วยผู้หญิงอีก 2 คนในรถออกมา เธอไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่ แต่มันก็ช่วยให้เธอไม่ต้องเผชิญกับนรกของจริงอย่างที่คนชั่วเหล่านั้นพูดถึง


                    แต่เพียงไม่นานที่คิดแบบนั้น จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เธอเอาแต่ครุ่นคิดว่าสิ่งสิ่งนั้นมันดีแล้วหรือยัง แล้วเธอจะทำมันได้หรือเปล่า แต่พอรู้สึกตัวอีกที เหยื่อสาวทั้ง 2 คนก็ถูกช่วยจนสำเร็จและเข้ามาถามไถ่อาการของเธอ


                    "อ๊ะ ฉันไม่เป็นไร" น้ำตอบกลับ มองดูหญิงที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยสักนิด


                    "แต่เธอเลือดออกนะ" หนึ่งในนั้นว่าต่อ


                    "ไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันทนได้"


                    "ถ้าอย่างนั้นก็หนีไปกับพวกเราเถอะ"


                    น้ำยังไม่ได้ตอบกลับอะไร ขณะเดียวกันก็เห็นว่าชายชุดหนังเดินผ่านพวกเธอไปแล้ว "พวกเธอไปด้วยกันสองคนเถอะ ฉันจะตามไปทีหลัง"


                    "แน่ใจนะ"


                    "อื้อ ฉันดูแลตัวเองได้"


                    "งั้นพวกเราไปกันเถอะ" หญิงสาวหันไปถามหญิงอีกคนที่มาด้วยกันบ้าง ก่อนจะตกลงวิ่งหนีไปด้วยกันเพียงแค่สองคน


                    เมื่อสองคนนั้นวิ่งออกไปแล้ว น้ำจึงลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ พยายามอดทนต่อเจ็บที่ได้รับมา ตาทั้งสองมองไปที่ชายคนนั้นที่เดินกะเผลกด้วยความมุ่งมั่น ก่อนจะวิ่งไปขวางทางไว้พร้อมทั้งกางแขน "เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป"


                    ชายชุดหนังหยุดเดินทันที มองไปยังหญิงสาวด้วยความสงสัย


                    "คุณคือคนที่ฉันเจอในผับใช่ไหม ?"


                    "ฉันไม่รู้เรื่อง" เขาตอบกลับอย่างไว ทำทีเป็นไม่สนแล้วเดินอ้อมเธอไป "เธอจำคนผิดแล้วล่ะ"


                    หญิงสาวหันตามเขาไป "ไม่ผิดหรอก ถึงจะเมินความหวังดี แต่ฉันก็ยังจำใบหน้าและน้ำเสียงของคุณได้ ตอนนี้คุณก็ยังช่วยฉันไว้อีก ฉันรู้สึกขอบคุณมากค่ะ"


                    น้ำบอกความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกไป แต่ชายคนนั้นกลับไม่หันมาฟังที่เธอพูดเลยสักนิด ยังคงเดินต่อโดยไม่สนใจเธอ น้ำที่เห็นแบบนั้นจึงรีบร้องบอกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างไม่ลังเล


                    "ฉันขอไปอยู่กับคุณด้วยจะได้ไหมคะ ?" หญิงสาวตะโกนเสียงดัง ทำเอาชายชุดหนังหันหน้ามาฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้


                    Lady Killer เพชฌฆาตเลดี้ คิลเลอร์

                    บุคคลปริศนาก่อเหตุ ตอนที่ 2


    ..........................................................................................................................................................................................................


                    ช่วงนี้มีสาระ (มั้ง)


                    การหักข้อนิ้ว ข้อมือ ต้นคอ หรือโน่น นี่ นั่นอาจจะช่วยให้เราสามารถขยับข้อได้ดีกว่าเดิม และทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายหรือกระปรี้กระเปร่าได้ดีก็จริง แต่ไม่แนะนำให้หักในลักษณะที่รุนแรงหรือหักบ่อย ๆ นะครับ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดการอักเสบกรือเกิดการโปนโตของกล้ามเนื้อได้ถึงแม้ว่ามันจะส่งผลแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก็เถอะ


                    แต่ถ้าหักแรง ๆ จนเกิดเป็นอะไรที่มันร้ายแรงกว่านั้นก็อันตรายไม่ใช่เล่นเลยนะครับ อยากจะบอกว่านิ้วโป้งมือข้างซ้ายของผมโดนแล้วนะ 2 ปีแล้วยังไม่หายเลย และชาตินี้มันจะหายให้ไหมล่ะเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ มันใช่เรื่องน่าหัวเราะรึ หาข้อมูลเพิ่มเติมเองเน่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×