ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] 's Short Fiction

    ลำดับตอนที่ #2 : [OS] Don't Give Up! [Sehun x Luhan]

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    Title : Don't Give Up!
    Author : KsNight
    Pairing : Sehun x Luhan
    Rating : PG-15
    Author note :



     

     

     

     

     

    ลู่หาน รักและเอ็นดูเซฮุนในฐานะน้องชายอย่างบริสุทธิ์ใจ...

     

    ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รังเกียจเมื่อถูกอีกฝ่ายตามติดอยู่ข้างๆตลอดเวลาที่ได้เจอหน้ากัน  หรือตอนที่ถูกออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชัง

                “ฮยองฮะ”ดวงตาเรียวยาวสุกใสส่งสายตาอ้อนวอนร้องขอมาให้   คนอายุมากกว่าจึงได้คลี่ยิ้มถามไถ่

                “ว่ายังไงหืม?”เซฮุนเม้มปากน้อยๆพลางหลุบสายตาลงต่ำ ใบหน้าคมคายชวนมองขึ้นสีระเรื่อ เด็กหนุ่มใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะรวบรวมความกล้าพูดต่อได้

                “ไป...ไปซื้อชาไข่มุกด้วยกันได้รึเปล่า?”ลู่หานใช้ดวงตาเรียวสวยของตนจับจ้องใบหน้าแดงก่ำของคนอายุน้อยกว่าแล้วแตะยิ้มขึ้นที่มุมปาก ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับคำ เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์

                เซฮุนรีบเอื้อมมือมาคว้ามือบางไปกุมไว้หลวมๆ เป็นการกระทำที่ชวนให้คนอายุมากกว่าไพล่คิดไปว่ามันช่างเหมือนกับท่าทางของเด็กเล็กๆเวลาอยากจะอ้อนผู้ปกครอง

               

    ระหว่างที่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงไปยังที่ตั้งของร้านชานมไข่มุกเจ้าประจำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะจับจ้องใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่าย พิศมองใบหน้าคมคายที่เหมือนถูกบรรจงปั้นแต่งขึ้นนั้นด้วยสายตาอิจฉานิดๆ

                “ฮยอง?”เหมือนว่าจะรู้สึกตัวเรื่องที่ถูกจ้อง เซฮุนจึงได้เหลียวหน้ามาสบตากับพี่ชายหน้าหวาน

    เด็กหนุ่มเลิกเรียวคิ้วเข้มของตนขึ้นสูงแทนการเอ่ยปากถาม แต่ลู่หานไม่ได้ตอบ เขาทำเพียงยกมือข้างที่ว่างอยู่ขึ้นลูบเรือนผมสีอ่อนของอีกฝ่ายเล่น ทำเอาใบหน้าคมคายขึ้นสีแดงจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

    ลู่หานหลุดหัวเราะ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคมของคนถูกแกล้งมุ่ยลง เด็กหนุ่มทำปากยื่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างเอื้อมไปหาหมายจะหยิกแก้มขาวของคนอายุมากกว่าที่ยังหัวเราะไม่หยุด

                ร่างโปร่งขยับยิ้มซุกซนเอียงตัวหนีมือเรียว และไม่ลืมที่จะยื่นมือไปหยิกแก้มของอีกฝ่ายเสียเอง

     

    ลู่หาน รักและเอ็นดูเซฮุนในฐานะน้องชายอย่างบริสุทธิ์ใจ...

     

    วินาทีที่มือนุ่มสัมผัสลงบนแก้ม และหยิกเบาๆอย่าหยอกล้อ เซฮุนพบว่าหัวใจมันเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา...

     

    แต่ว่าเซฮุนไม่ใช่...

     

    เด็กหนุ่มหลุบสายตาลงต่ำ ภาวนาให้อีกคนไม่ทันสังเกตถึงเสียงหัวใจที่เต้นตึกตักของตน...

     

    ...เขาไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าอยากจะเป็นเพียงแค่น้องชาย...

    ...ซักนิดก็ไม่เคย...

     

     

    “...เซฮุนอา”เสียงเรียกที่แว่วดังขึ้น พร้อมกันกับเบาะข้างตัวที่ยวบลงตามน้ำหนักคนที่นั่งลงข้างๆ กระชากเอาสติของคนที่กำลังเหม่อให้หลุดจากภวังค์ เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อกระพริบตาปรับโฟกัสและเมื่อเห็นชัดว่าคนเรียกเป็นใคร เขาก็ขยับยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ

                “มีอะไรเหรอฮะ?”

                “เหม่ออะไรอยู่? ผมเปียกก็ไม่รู้จักเช็ด เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”อีกฝ่ายว่าพลางใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนุ่มคลุมลงบนเรือนผมที่ยังคงเปียกชื้นของคนอายุน้อยกว่า และเริ่มต้นเช็ดให้อย่างอ่อนโยน

                “...อื้ม...”เด็กหนุ่มเอนตัวลงต่ำจนแทบจะลงไปนอนหนุนตักของคนอายุมากกว่า ก่อนจะส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจด้วยท่าทางเหมือนแมวขี้เกียจตัวใหญ่ จนเมื่อถูกมือเรียวตีลงที่ต้นแขนเขาจึงผละตัวจากตักนุ่มอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ลุกขึ้นมานั่งดีๆเพื่อให้พี่ชายเช็ดผมให้ได้สะดวก

                “สบายไปรึเปล่าหือ”ลู่หานแกล้งขยี้หนักมือเพียงนิดเดียว เซฮุนก็ส่งเสียงร้องโอดโอยเกินจริง จนคนอายุมากกว่าต้องอมยิ้มน้อยๆมองน้องชายช่างอ้อนด้วยสายตาเอ็นดูรักใคร่

    ...เซฮุนรู้สึกพึงพอใจกับสายตาแบบนั้น...แต่ก็เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน

    ...อันที่จริงเขารู้...รู้ดีว่าอีกฝ่ายมองเขาเป็นน้องชาย รักเขาอย่างที่พี่ชายคนหนึ่งจะรักน้องได้ แต่เขาไม่เหมือนกัน...คำว่ารักของเซฮุนไม่ใช่ความรักอย่างที่น้องจะมอบให้พี่

    ...แต่เป็นความรักอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงจะมอบต่อหญิงสาว รักที่ปรารถนาจะสัมผัส...ครอบครอง...โอบกอด...

     

    ...ประทับจุมพิต...

     

                เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำ พลางขบฟันลงกับริมฝีปากอย่างอดกลั้น  จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้น...แม้แต่คำว่าน้องชาย เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับ

     

              ...อดทนไว้โอเซฮุน...

     

                เตือนตัวเองในใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจนับได้ ขณะที่สายตาไม่รักดียังคงเหม่อมองริมฝีปากได้รูปซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนั้น

    ตรงหน้าเขานี่เอง...พี่ลู่หานยังคงตั้งอกตั้งใจเช็ดผมให้อย่างขะมักเขม้น ไร้ซึ่งความระวังระไวป้องกันตัวแม้สักนิด...

                ทั้งที่พยายามหักห้ามใจเอาไว้แล้ว แต่ร่างกายก็ยังขยับเข้าไปใกล้ตามสัญชาตญาณ พี่ลู่หานอยู่ใกล้เพียงแค่นี้...เพียงแค่เขายื่นหน้าเข้าไปหา ก็จะสามารถกดริมฝีปากลงกับเรียวปากนุ่มนิ่มนั่น ลิ้มชิมรสชาติที่เฝ้าฝันถึงอยู่ทุกวัน...

     

                ตึก...ตัก...

     

                “ลู่หาน! ออกไปหามื้อดึกกินกันเถอะ!เสียงเจื้อยแจ้วร่าเริงดังขัดขึ้นอย่างกะทันหันทำเอาเซฮุนแทบหน้าทิ่ม และเรียกให้เจ้าของชื่อหันไปมอง ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ เจ้าของเสียงใสนั้นกำลังยืนทำหน้ากลมอยู่ที่ปากประตู

                เป็นมินซอกนั่นเอง

                เจ้าของสองแก้มที่เหมือนกับซาลาเปาขาวๆยืนโบกมือเรียกหา ทำให้ชายหนุ่มร่างผอมหยุดมือที่กำลังเช็ดผมให้น้องชาย แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปคุยกับพี่ใหญ่หน้าละอ่อนแห่งเอกโซ โดยไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของคนอายุน้อยกว่า

               

                เกือบไปแล้ว...

                ร่างสูงล้มตัวลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วฟุบหน้าลงเบาะนุ่มเพื่อซ่อนรอยแต้มสีชาดที่เด่นชัดขึ้นบนใบหน้า มือเรียวยกขึ้นกดลงกับอกข้างซ้าย หัวใจเต้นโครมครามจนเกือบจะเรียกได้ว่าเจ็บ

     

                อีกแค่นิดเดียวเอง...

                เซฮุนพรูลมหายใจยาว ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งเหมือนเดิมด้วยท่าทางเหมือนคนปลงต่อโลก

     

                ...ไม่รู้ว่าเขาควรจะขอบคุณหรือควรจะสาปแช่งพี่มินซอกที่คราวนี้ช่างโผล่มาได้จังหวะเหลือเกินดี...โธ่เว้ย!

     

    เด็กหนุ่มยกสองมือขึ้นขยี้ผ้าขนหนูผืนนุ่มบนเรือนผมแรงๆเป็นการระบายความหงุดหงิดหาที่ลงไม่ได้ของตัวเอง

                “อย่าทำอย่างนั้นสิ”เสียงนุ่มของคนที่เพิ่งปลีกตัวจากบทสนทนามาได้ดุเบาๆ แล้วลู่หานก็แย่งเอาผ้าขนหนูไปจากมือของน้องชายได้สำเร็จ

                “ไม่ไปกินมื้อดึกกับมินซอกฮยองเหรอฮะ”คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธ

                “ไม่เอาล่ะ พี่ไม่หิว”ชายหนุ่มทรุดนั่งลงบนโซฟาใหม่อีกครั้ง

    “หรือว่าเซฮุนอยากไป?”เด็กหนุ่มส่ายก็หน้าเช่นกัน

     

                ...ผมก็ต้องอยากอยู่กับฮยองมากกว่าอยู่แล้วสิ ////....

     

                “งั้นมานั่งตรงนี้มา พี่จะเช็ดผมต่อให้”ลู่หานชี้นิ้วลงกับพื้นที่อยู่เบื้องหน้า เซฮุนเองก็ขยับตัวไปนั่งตรงนั้นอย่างว่าง่าย

                เด็กหนุ่มหลับตาพริ้ม เพลินเพลินไปกับสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนจากมือนุ่ม ไม่นานนักเรือนผมสีอ่อนก็เกือบจะแห้งสนิท

                “เอาล่ะ เสร็จแล้ว”ลู่หานพูดพลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยเรือนผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเหมือนลูกแมวขนยุ่งอย่างเอ็นดู ทว่าเซฮุนดูเหมือนจะยังติดใจกับสัมผัสนั้น เด็กหนุ่มไถศีรษะกับมือเรียวอย่างออดอ้อนออเซาะ ส่งให้คนอายุมากกว่าคลี่ยิ้มสวยขึ้นที่มุมปาก

                นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มเลื่อนลงตามรูปหน้าของอีกฝ่าย  ลากลงต่ำจนถึงปลายคางเรียว ก่อนที่เขาจะเขี่ยเบาๆเหมือนกำลังหยอกล้อเอาใจกับสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง ทำเอาเด็กหนุ่มหน้าร้อนฉ่า

                “งื้อ...”เซฮุนส่งเสียงร้องเหมือนแมวครวญ ขยับถอยออกห่างทันที ทว่าคนอายุมากกว่ากลับไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ร่างโปร่งติดจะผอมบางโน้มตัวตาม เอื้อมมือสุดแขนหมายจะแกล้งให้น้องเล็กได้อายหนัก

     

                ว่าไปเซฮุนเองก็แปลก...ปกติแล้วจะเข้ามาออดอ้อนนัวเนียกับเขาเองแท้ๆ แต่พอเขาทำกลับบ้างเจ้าตัวกลับหน้าแดงก่ำลนลานหนีเสียอย่างนั้น...แต่ก็ช่างเถอะ ปฏิกิริยาแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

                ลู่หานหัวเราะเบาๆขณะแตะปลายนิ้วลงกับผิวแก้มเรียบลื่น ลูบไล้แผ่วเบาก่อนจะหยิกแก้มนุ่มๆอย่างมันเขี้ยว อันที่จริงอยากจะหยิกอีกสักหลายที แต่เพราะท่านั่งหมิ่นเหม่ทำให้การทรงตัวทำได้ค่อนข้างลำบาก ก่อนที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจ ร่างผอมก็ซวนเซแล้วล้มลงทับร่างโปร่งบางของคนอายุน้อยกว่าเข้าเต็มรัก

                “โอ๊ะ...!”เซฮุนยกสองแขนขึ้นกอดประคองร่างผอมของพี่ชายล้มลงใส่โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างอุ่นจัดของคนในอ้อมแขนอยู่ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าครั้งไหน...ใกล้...จนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แผ่ออกมาจากผิวกาย...

                ท่ามกลางความคิดที่เตลิดไปไกลของน้องเล็ก ตัวต้นเหตุอย่างลู่หานกลับไม่รู้สึกตัวถึงเรื่องนี้เลยสักนิด

    “โทษทีนะ เซฮุนอา เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”ชายหนุ่มถามไถ่ถึงสภาพร่างกายของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่เหมือนเซฮุนจะไม่ได้ยิน เด็กหนุ่มยังคงกอดร่างผอมบางเอาไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเรียวสวยจับจ้องใบหน้าอ่อนกว่าวัยของอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย

    “เซฮุนอา?”สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากได้รูป...เป็นอีกครั้งที่เขาเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้...ใกล้จนลมหายใจปัดเป่าประสานกัน...

     

    เคร้ง!!

     

    “....”ตอนนี้เซฮุนเริ่มแน่ใจ...

    ชาติที่แล้วเขาแม่งต้องเคยไปขัดขวางคู่รักที่ไหนเอาไว้อย่างแน่นอน!

    ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่มก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความเย็นชากับหงุดหงิดอย่างแรงขณะที่ค่อยๆคลายอ้อมแขนออกช้าๆ

    “ฮยองไม่เป็นไรใช่มั๊ยฮะ?”

    คำถามนั้นทำให้ลู่หานกระพริบตาปริบๆให้อย่างน่ารัก ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนและฉีกยิ้มตอบเสียงใส “อื้ม!” ยังไม่ทันจะคุยได้กันได้มากกว่านั้นเสียงทุ้มที่เจือความงัวเงียเอาไว้ก็ดังลอยมา

    “โทษที...เสียงดังไปหน่อย พวกนายโอเคไหม?”จงอินชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยใบหน้าที่ติดจะง่วงงุนเป็นปกติ เซฮุนขยับยิ้มฝืดเฝื่อนก่อนจะกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติ

    “โอเค ดี...ดีมาก...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น? ดึกป่านแล้วนี้นายทำอะไร?”

    “อ้อ จุมมยอนฮยองทำกระทะตกน่ะ”เด็กหนุ่มผิวเข้มตอบ เซฮุนคิ้วกระตุกเล็กน้อย พลางเริ่มต้นคาดโทษพี่ชายตัวเล็กไว้ในใจ แต่ในวินาทีต่อมาเสียงทุ้มของคนถูกพาดพิงแทรกขึ้นมาเสียก่อน

    “จงอิน! อย่ามาใส่ร้ายฉัน คนที่ทำตกมันนายต่างหาก!

    คำพูดนั้นทำให้คิมจงอินสะดุ้งเบาๆ เขาพึมพำว่าความแตกแล้ว ก่อนจะขยับยิ้มแห้งแล้งส่งให้เพื่อนสนิท แล้วร่างสูงสันทัดก็ขยับถอยหลบฉากไปจากปากประตูอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เด็กหนุ่มตัวสูงได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ ลู่หานเห็นแบบนั้นกลับนึกว่าเซฮุนโมโหเรื่องเสียงดังหนวกหู

                “ไม่เอาน่าเซฮุนอา อย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิ แค่เสียงดังนิดหน่อยเอง”มือนุ่มลูบเบาที่เรือนผมสีอ่อนก่อนจะปลอบใจไปคนละเรื่อง เด็กหนุ่มเบ้ปากน้อยๆแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

                ทั้งคู่นั่งลงข้างกันอีกครั้งบนโซฟาตัวเดิม แล้วลู่หานก็คว้ารีโมทขึ้นมาเปิดทีวี เวลาผ่านไปไม่นานนัก เซฮุนก็รู้สึกว่า...เขากำลังถูกพระผู้เป็นเจ้าทดสอบอีกครั้ง...

                พี่ชายหน้าหวานเอนตัวลงซบกับบ่าลาด ดวงตาเรียวสวยคู่นั้นหลับพริ้ม จังหวะการหายใจของคนอายุมากกว่าลึกและยาวนานบ่งบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวหลับปุ๋ยไปแล้ว

    “...///”

     

    ...ไม่มีโชคดีร่วงหล่นลงมาจากฟ้า...

    เด็กหนุ่มหลับตาแน่นท่องทวนประโยคนี้ซ้ำๆ

    ไม่มี...ไม่มี...มันไม่มีโชคดีแบบนั้นหรอกน่า! ...ประสบการณ์วืดสองครั้งติดต่อกันยังคงฝังใจ แล้วเขาจะกล้าทำอะไรได้ล่ะ!

                ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังต่อสู้ระหว่างตัวเลือกสองตัว ความทรงจำอันแสนโหดร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆ กับสถานการณ์ที่เป็นใจซะยิ่งกว่าครั้งไหนอย่างยากลำบากอยู่นั้นเอง

                ลู่หานก็ช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น

    ร่างโปร่งขยับตัวยุกยิกหาท่านอนสบายๆ ไถแก้มนุ่มลงกับบ่าลาดแข็งแรง จนเมื่อได้ท่าที่เจ้าตัวพอใจ...ก็กลายเป็นว่าอยู่ในมุมที่ทำให้ลมหายใจหอมกรุ่นเป่ารดลงบนต้นคอเรียวของคนอายุน้อยกว่าอย่างพอดิบพอดี...

    “.....!!!!

                เด็กหนุ่มรู้สึกพูดไม่ออก ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใบหน้า มันทั้งร้อนฉ่าและขึ้นสีแดงจัดจนเหมือนจะติดไฟลุกไหม้

                “...................................................”

     

                ไม่มีโชคดีร่วงหล่นลงมาจากฟ้า...

                แต่ว่า...แต่ว่า...บางทีพระผู้เป็นเจ้าคงไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นมั้ง?

                 

    ถึงจะคิดแบบนั้นทว่าเซฮุนก็รู้จักเรียนรู้มากพอที่จะไม่ประทับจูบเสียตั้งแต่แรก เขาโน้มใบหน้าลง และใช้ปลายจมูกโด่งคมสัมผัสกับผิวแก้มเนียนของคนอายุมากกว่า ฉกฉวยเอาความหอมหวานจากพวงแก้มนุ่มนิ่มหนึ่งฟอดใหญ่เป็นการทดลองก่อน

                “...”ผละออกมาเล็กน้อยแล้วมองซ้ายมองขวา

                ไม่มีวี่แววของใครที่จะโผล่เข้ามาขัดขวาง และยิ่งไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆที่จะดังขึ้นขัดจังหวะ เซฮุน แอบร้องเยสสสสสสสสสส ยาวๆในใจไม่ให้ใครได้ยิน เขารู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาแทบไหลจริงๆนะ!

                หลังจากที่ทดสอบไปหนหนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีอุปสรรคใดๆมาขัดขวางแล้ว เซฮุนก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นช้อนประคองใบหน้าของคนที่นอนพิงไหล่ของตนอยู่ จับปลายคางเรียวได้รูปนั้นเชยขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะพิศมองริมฝีปากเรียวสวยน่าหลงใหลได้ถนัด

                เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจอย่างตื่นเต้นขณะที่กำลังจะสัมผัสกับเรียวปากฉ่ำชื้นยั่วใจคู่นั้น

                และตอนนั้นเอง...

     

                ...ที่กรรมเก่าแม่งก็ทำงานอีกครั้งได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง!

     

                “เซฮุน”

                แทบจะหลุดสบถออกมาสุดเสียง ดีที่เขามีสติพอที่จะฟังออกว่าเสียงนั้นเป็นของใคร จึงยั้งปากเอาไว้ทันไม่ได้หลุดตัวสี่ขาหน้าขนออกมาวิ่งเล่น

                คนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแบคฮยอนนั่นเอง

                “ดึกแล้วนะ ทำไมนายยังไม่นอนอีกล่ะ?”

    เซฮุนเงยหน้าขึ้นเหม่อมองพี่ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่ด้วยสายตาว่างเปล่า ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทว่าในคราวนี้มันต่างออกไป น้ำเสียงห่วงใยจากใจจริงของอีกฝ่ายทำเอาเขาโกรธไม่ลง

                “........เดี๋ยวก็นอนแล้วล่ะฮะ”เด็กหนุ่มฝืนตอบ คนฟังฟังแล้วพยักหน้ารับอย่างพอใจ “อ้า งั้นก็ดีแล้ว” ก่อนผละจากไปพี่ชายตัวเล็กก็ยังไม่ลืมบอกให้เซฮุนปลุกพี่ลู่หานไปนอนที่ห้องดีๆ แล้วร่างเพรียวก็เคลื่อนจากไปอย่างเงียบงันพอๆกับขามา ดวงตาสีอ่อนเรียวคมของเด็กนุ่มมองตามจนแผ่นหลังของอีกฝ่ายลับหายไปจากขอบประตู แล้วเซฮุนก็ยกสองมือขึ้นปิดหน้าด้วยอารมณ์ที่เรียกได้ว่าสิ้นหวัง

                เขาพรูลมหายใจยาว ล้มเลิกความตั้งใจที่จะจูบพี่ชายหน้าหวานที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวออกจากสมอง

               

                ...แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้แค่นี้หรอกนะเว้ย!

              ...ยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ...ฮึก...ฮึก..............;     -     ;...

               

     

    +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

               

                จื่อเถาลากเท้าก้าวเข้าไปในห้องครัวที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นหมายจะไปหาน้ำเย็นๆดื่มมีอันต้องชะงัก เมื่อเห็นว่ามีคนเก้าคนที่นั่งประชุมกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลางห้องอย่างพร้อมหน้า

                “เล่นอะไรกันอยู่น่ะ?”เขาเอ่ยปากถาม ตอนแรกไม่มีใครตอบคำถามนั้นของเด็กหนุ่มร่างสูง แต่เมื่อผ่านไปได้สักพัก พี่อี้ชิงก็เลื่อนก็กระดาษที่วางอยู่กลางโต๊ะส่งให้เขาดูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่ารักอย่างทุกครั้ง

                เด็กหนุ่มผมดำเลื่อนสายตาลงมอง บนหน้ากระดาษที่เคยขาวสะอาดถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยเส้นคั่น ฝั่งซ้ายและขวาเขียนหัวไว้เป็นภาษาเกาหลีฟากละคำด้วยลายมือขยุกขยุยจนแทบอ่านไม่ออก แต่มันก็เป็นสองคำง่ายๆว่าสำเร็จกับไม่สำเร็จดังนั้นเด็กหนุ่มผู้ไม่สันทัดภาษาเกาหลีจึงไม่ได้ใช้เวลานานนักในการแปลความ

                ใต้ฝั่งคำว่าไม่สำเร็จปรากฏรายชื่อยาวเหยียดของสมาชิกวงหลายคน ตามด้วยตัวเลขสี่หลักกำกับไว้ ขณะที่ฝั่งคำว่าสำเร็จกลับมีเพียงชื่อของพี่คริสและคยองซู แต่ก็ยังพ่วงท้ายด้วยตัวเลขสี่หลักเหมือนเช่นเดิม

                จื่อเถาเอียงคอ รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับรูปแบบการจัดวางแบบนี้เป็นบ้า เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่พักเดียวก็นึกขึ้นได้ว่ามันหน้าตาเหมือน...

    โพยพนัน...

                บยอนแบคฮยอนยิ้มกว้างจนดวงตาคู่เรียวกลายเป็นเส้นตรงเฉียงๆ

    “พวกเราพนันกันว่าคืนนี้เซฮุนจะจูบพี่ลู่หานสำเร็จไหม”คำพูดของนั้นช่วยเสริมให้ทำให้จื่อเถารู้ว่าสมมติฐานของตนถูกต้อง แต่หัวข้อการพนันต่างหากที่ทำให้คนฟังประหลาดใจ

    “เซฮุนจะจูบพี่ลู่หาน?”เด็กหนุ่มผมดำทำหน้าแปลกๆตอนที่ทวนคำ

    “พวกเขาเป็นแฟนกันเหรอ? ทำไมผมไม่รู้เลยล่ะ?”สายตาเก้าคู่พร้อมใจกันมองมาที่เขาเหมือนเป็นตัวประหลาด

    “เอ๋~ ฉันนึกว่าจะมีแค่พี่ลู่หานแสนซื่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว กับเซฮุนที่ยังคงคิดว่าคนอื่นเขาดูไม่ออก ที่ไหนได้ ยังมีแพนด้าใสซื่ออยู่ตรงนี้อีกตัวเหรอเนี่ย!”เป็นชานยอลที่จุ๊ปากพูดแทนใจทุกคน

    “ทั้งๆที่มันออกจะชัดเจนขนาดนั้นเนี่ยนะ จื่อเถานี่นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าเซฮุนแอบ(?)ชอบลู่หานอยู่น่ะ?”เด็กหนุ่มผมดำส่ายหน้าวืด เรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูให้ดังขึ้นจากหลายๆคน

    “เอาเถอะๆ ไม่รู้ก็ได้รู้แล้วไง เถาจะเล่นด้วยไหมล่ะ?”จงแดถามยิ้มๆพลางหยิบปากกาขึ้นมาถือไว้ พร้อมที่จะจรดลงไปทุกเมื่อ

    “ว่าไง พนันข้างไหนดี?”

    เอิ่ม...เด็กหนุ่มผมดำทำหน้าปั้นยาก เขาแค่ออกมาหาน้ำกินกลางดึกเองนะ แล้วทำไมจู่ๆถึงได้ถูกเจ้าผีพนันพวกนี้ชวนเล่นด้วยไปซะอย่างนั้น

    แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้พูดปฏิเสธ คยองซูที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะก็อดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นมาดังๆ

    “ยังเรียกว่าพนันได้อยู่เหรอ พวกนายเล่นเข้าไปขวางมันซะทุกครั้งแบบนั้นเซฮุนจะจูบลู่หานได้ยังไงฮึ!”ว่าพลางทำแก้มป่องอย่างไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์ที่เห็นอยู่รางๆ

    ตรงข้ามกับคริสที่แม้จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่เขาก็ยังขยับยิ้มที่มุมปากอย่างลึกลับ

    “เอ๋...ตอนเราเริ่มพนันกันก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าห้ามเข้าไปขวางนี่”แบคฮยอนขยับยิ้มซุกซนพลางเถียงกลับข้างๆคูๆ แต่นั่นก็ทำให้คยองซูบุ้ยปากอย่างขัดใจแต่ก็ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรดี

     

    “...”พูดไม่ออก จื่อเถาที่ยืนฟังอยู่รู้สึกพูดไม่ออกอย่างแรง

    เด็กหนุ่มตัวสูงมองทวนรายชื่อคนเจ็ดคนที่เรียงกันอยู่ใต้ฝั่งคำว่าไม่สำเร็จอีกครั้ง แล้วเขาก็พลันรู้สึกสงสารเซฮุนขึ้นมาจับใจ...

               

     

    +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

     

    สุดท้ายแล้วจื่อเถาก็ไม่ได้เลือกข้างไหน...

    แต่นั่นหมายความว่าเด็กหนุ่มจะไม่สนใจผลลัพธ์ของเห็นการณ์นี้เสียเมื่อไหร่ เขายังคงทรุดตัวนั่งลงบนเก้ากี้ที่ถูกเลื่อนออกให้ ทอดสายตาผ่านบานกระจกที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวเอาไว้

    มันเป็นเพราะทางฝั่งห้องนั่งเล่นที่เซฮุนและพี่ลู่หานอยู่ค่อนข้างจะสว่าง ตรงกันข้ามกับในห้องครัวที่ไฟถูกดับลงอย่างจงใจ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองอยู่

               

    และโดยที่ไม่รู้เลยว่าตนเองได้ตกเป็นเป้าหมายในการเล่นสนุกของพวกผีพนันที่กินอิ่มแล้วว่างงาน เซฮุนยังคงซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างสิ้นหวัง กระทั่งผ่านไปหลายนาที เด็กหนุ่มผู้ถูกความผิดหวังเคี่ยวกรำมาอย่างหนักจนชาชินก็เหมือนจะปลงตกแล้วในที่สุด

    เขาเงยหน้าขึ้นทีละน้อยด้วยกริยาเซื่องซึมเหมือนหมาโดนยาเบื่อ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    เอื้อมมือไปสะกิดพี่ชายหน้าหวานที่ยังคงหลับสนิทโดยยึดเอาบ่าเขาต่างหมอนและไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้น

    “อื้อ...”คนถูกปลุกพึมพำอย่างขัดใจ ปัดมือของเด็กหนุ่มออกโดยไม่แม้แต่จะลืมตา เมื่อถูกสะกิดอีกครั้งร่างผอมบางก็ผละตัวออกห่างจากบ่าอุ่นๆอย่างแสนเสียดาย เปลี่ยนเป็นเอนตัวลงไปอีกทาง แต่สองตาก็ยังคงหลับพริ้มอย่างน่าเอ็นดู

    เซฮุนค่อนข้างลำบากใจ อันที่จริงเห็นคนหลับสบายเขาก็ไม่ได้อยากจะกวนหรอกนะ แต่ขืนมานอนตรงที่แบบนี้ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาล่ะก็แย่แน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปหาพี่ชายอีกครั้ง เขย่าเบาๆเพื่อที่จะปลุกให้ตื่น

    “ฮยอง...ฮยองฮะ กลับไปนอนที่ห้องเถอะนะ”

    “งื้อ...”ลู่หานส่งเสียงโอดครวญในลำคอ พลางยกมือขึ้นปิดหูอย่างรำคาญใจ ชายหนุ่มมุ่ยหน้าทั้งที่สองตายังคงปิดสนิท ก่อนจะถดตัวหนีมือเรียวที่ออกแรงเขย่าตัวของตนอยู่

     

    อย่างกับเด็กแน่ะ

     

    เซฮุนส่ายหน้าอย่างระอาใจ ล้มเลิกความพยายามที่จะปลุกพี่ชายให้ตื่น เขาเกลี่ยปลายนิ้วลงบนผิวแก้มนุ่มที่เมื่อครู่ฝากจุมพิตแผ่วเบาเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนไปหาริมฝีปากได้รูป...

    “...”ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

    มันเหมือนกับมีขนมหวานเลิศรสวางไว้ตรงหน้า แต่เพียรพยายามแล้วหลายต่อหลายหนก็ไม่สามารถลิ้มชิมกลืนกินลงไป ความรู้สึกแบบนี้น่ะ...

     

    ข่างทรมานเหลือเกิน

     

    เด็กหนุ่มหลับตาลง แต่ไม่นานก็ขยับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะโน้มตัวสอดแขนผ่านใต้ร่างของคนที่กำลังหลับใหล ออกแรงยกร่างผอมบางของพี่ชายขึ้นแนบอก

     

    หนักไม่ใช่เล่น...

    แต่กระนั้นเขาก็ยังพยายามประคองร่างผอมในอ้อมแขนเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะไม่ได้รบกวนการนอนของอีกฝ่าย ทว่าก่อนที่ขายาวจะทันได้ก้าวพาคนในอ้อมแขนกลับไปนอนดีๆที่ห้อง เจ้าของใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่สมอายุก็ปรือตาขึ้นมาอย่างติดจะง่วงงุน

    “อือ...”มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาที่พร่ามัวจนเมื่อเห็นได้ชัดเจนก็พบว่าใบหน้าของน้องชายสุดที่รักอยู่ห่างไปไม่ไกล

    เรียวปากสวยบิดคลี่ออกเป็นรอยยิ้มหวาน

    ลู่หานยกสองมือขึ้นโอบรอบลำคอเรียวของคนที่อุ้มตนอยู่ แล้วส่งเสียงทุ้มนุ่มติดจะงัวเงียขึ้นว่า

    “กู๊ดไนท์คิส~

    ก่อนจะโน้มใบหน้าลงใกล้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้า แตะสัมผัสลงเพียงผะแผ่วบนเรียวปากบางสวยของน้องชาย ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเหมือนคนละเมอ แล้วซุกใบหน้าลงกับบ่าลาด พริ้มสองตาหลับใหลลงไปอีกครั้ง....

     

    “.......................................”

     

    เซฮุนชะงักค้าง

    คนที่มองอยู่ต่างก็ชะงักค้าง

     

    ใบหน้าคมคายของน้องเล็กแดงจัดขึ้นมา แล้วก็เหมือนกับว่าระบบการทำงานของสมองจะผิดเพี้ยนไปจนกู่ไม่กลับเพราะในอีกหลายนาทีต่อมาเด็กหนุ่มตัวสูงก็ยังคงยืนยิ่งอยู่เช่นนั้นไม่ขยับไปไหน

    ในสถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงตุ้ยจางแห่งฝั่งเอ็มที่ขยับรอยยิ้ม ชายหนุ่มเคาะปลายนิ้วกร้านลงกับโต๊ะ ...เพียงแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่จะดึงทุกคนให้หลุดจากภวังค์

    38,000 วอน หารสองเป็นของฉันกับคยองซูคนละครึ่ง”คริสแย้มยิ้มร้ายกาจอย่างที่ชวนให้คนอยากสนับสนุนให้เขาลาออกจากวงการหันไปทำอาชีพเจ้าพ่อมาเฟียเสียแทน

    แต่รอยยิ้มนั้นก็ยังไม่น่าน่ากลัวเท่ากับจำนวนเงินที่เอ่ยออกมา หลายคนเริ่มส่งเสียงโอดครวญโต้แย้ง ทว่าจากบทสนทนาและสถานการณ์...จื่อเถาคิดว่าเพื่อนร่วมวงทั้งเจ็ดคนจะต้องควักกระเป๋าออกมาเมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นเอง...

    เด็กหนุ่มตัวสูงก้มหน้าลงจิบน้ำเย็นจัดจากแก้วในมือ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

    ...ดีนะที่เมื่อกี้นี้ไม่ได้พนันไปกับเขาด้วย...เกือบไปแล้ว...  .    . ) =3

     

     

    .

    .

    .

     

                .................เอ๊ะ.....?

     

     

     

     

     

    -END-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×