คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [OS] Don't Give Up! [Sehun x Luhan]
Title : Don't Give Up!
Author : KsNight
Pairing : Sehun x Luhan
Rating : PG-15
Author note :
ลู่หาน รักและเอ็นดูเซฮุนในฐานะน้องชายอย่างบริสุทธิ์ใจ...
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รังเกียจเมื่อถูกอีกฝ่ายตามติดอยู่ข้างๆตลอดเวลาที่ได้เจอหน้ากัน หรือตอนที่ถูกออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชัง
“ฮยองฮะ”ดวงตาเรียวยาวสุกใสส่งสายตาอ้อนวอนร้องขอมาให้ คนอายุมากกว่าจึงได้คลี่ยิ้มถามไถ่
“ว่ายังไงหืม?”เซฮุนเม้มปากน้อยๆพลางหลุบสายตาลงต่ำ ใบหน้าคมคายชวนมองขึ้นสีระเรื่อ เด็กหนุ่มใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะรวบรวมความกล้าพูดต่อได้
“ไป...ไปซื้อชาไข่มุกด้วยกันได้รึเปล่า?”ลู่หานใช้ดวงตาเรียวสวยของตนจับจ้องใบหน้าแดงก่ำของคนอายุน้อยกว่าแล้วแตะยิ้มขึ้นที่มุมปาก ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับคำ เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์
เซฮุนรีบเอื้อมมือมาคว้ามือบางไปกุมไว้หลวมๆ เป็นการกระทำที่ชวนให้คนอายุมากกว่าไพล่คิดไปว่ามันช่างเหมือนกับท่าทางของเด็กเล็กๆเวลาอยากจะอ้อนผู้ปกครอง
ระหว่างที่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงไปยังที่ตั้งของร้านชานมไข่มุกเจ้าประจำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะจับจ้องใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่าย พิศมองใบหน้าคมคายที่เหมือนถูกบรรจงปั้นแต่งขึ้นนั้นด้วยสายตาอิจฉานิดๆ
“ฮยอง?”เหมือนว่าจะรู้สึกตัวเรื่องที่ถูกจ้อง เซฮุนจึงได้เหลียวหน้ามาสบตากับพี่ชายหน้าหวาน
เด็กหนุ่มเลิกเรียวคิ้วเข้มของตนขึ้นสูงแทนการเอ่ยปากถาม แต่ลู่หานไม่ได้ตอบ เขาทำเพียงยกมือข้างที่ว่างอยู่ขึ้นลูบเรือนผมสีอ่อนของอีกฝ่ายเล่น ทำเอาใบหน้าคมคายขึ้นสีแดงจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ลู่หานหลุดหัวเราะ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคมของคนถูกแกล้งมุ่ยลง เด็กหนุ่มทำปากยื่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างเอื้อมไปหาหมายจะหยิกแก้มขาวของคนอายุมากกว่าที่ยังหัวเราะไม่หยุด
ร่างโปร่งขยับยิ้มซุกซนเอียงตัวหนีมือเรียว และไม่ลืมที่จะยื่นมือไปหยิกแก้มของอีกฝ่ายเสียเอง
ลู่หาน รักและเอ็นดูเซฮุนในฐานะน้องชายอย่างบริสุทธิ์ใจ...
วินาทีที่มือนุ่มสัมผัสลงบนแก้ม และหยิกเบาๆอย่าหยอกล้อ เซฮุนพบว่าหัวใจมันเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา...
แต่ว่าเซฮุนไม่ใช่...
เด็กหนุ่มหลุบสายตาลงต่ำ ภาวนาให้อีกคนไม่ทันสังเกตถึงเสียงหัวใจที่เต้นตึกตักของตน...
...เขาไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าอยากจะเป็นเพียงแค่น้องชาย...
...ซักนิดก็ไม่เคย...
“...เซฮุนอา”เสียงเรียกที่แว่วดังขึ้น พร้อมกันกับเบาะข้างตัวที่ยวบลงตามน้ำหนักคนที่นั่งลงข้างๆ กระชากเอาสติของคนที่กำลังเหม่อให้หลุดจากภวังค์ เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อกระพริบตาปรับโฟกัสและเมื่อเห็นชัดว่าคนเรียกเป็นใคร เขาก็ขยับยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ
“มีอะไรเหรอฮะ?”
“เหม่ออะไรอยู่? ผมเปียกก็ไม่รู้จักเช็ด เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”อีกฝ่ายว่าพลางใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนุ่มคลุมลงบนเรือนผมที่ยังคงเปียกชื้นของคนอายุน้อยกว่า และเริ่มต้นเช็ดให้อย่างอ่อนโยน
“...อื้ม...”เด็กหนุ่มเอนตัวลงต่ำจนแทบจะลงไปนอนหนุนตักของคนอายุมากกว่า ก่อนจะส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจด้วยท่าทางเหมือนแมวขี้เกียจตัวใหญ่ จนเมื่อถูกมือเรียวตีลงที่ต้นแขนเขาจึงผละตัวจากตักนุ่มอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ลุกขึ้นมานั่งดีๆเพื่อให้พี่ชายเช็ดผมให้ได้สะดวก
“สบายไปรึเปล่าหือ”ลู่หานแกล้งขยี้หนักมือเพียงนิดเดียว เซฮุนก็ส่งเสียงร้องโอดโอยเกินจริง จนคนอายุมากกว่าต้องอมยิ้มน้อยๆมองน้องชายช่างอ้อนด้วยสายตาเอ็นดูรักใคร่
...เซฮุนรู้สึกพึงพอใจกับสายตาแบบนั้น...แต่ก็เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน
...อันที่จริงเขารู้...รู้ดีว่าอีกฝ่ายมองเขาเป็นน้องชาย รักเขาอย่างที่พี่ชายคนหนึ่งจะรักน้องได้ แต่เขาไม่เหมือนกัน...คำว่ารักของเซฮุนไม่ใช่ความรักอย่างที่น้องจะมอบให้พี่
...แต่เป็นความรักอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงจะมอบต่อหญิงสาว รักที่ปรารถนาจะสัมผัส...ครอบครอง...โอบกอด...
...ประทับจุมพิต...
เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำ พลางขบฟันลงกับริมฝีปากอย่างอดกลั้น จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้น...แม้แต่คำว่าน้องชาย เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับ
...อดทนไว้โอเซฮุน...
เตือนตัวเองในใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจนับได้ ขณะที่สายตาไม่รักดียังคงเหม่อมองริมฝีปากได้รูปซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนั้น
ตรงหน้าเขานี่เอง...พี่ลู่หานยังคงตั้งอกตั้งใจเช็ดผมให้อย่างขะมักเขม้น ไร้ซึ่งความระวังระไวป้องกันตัวแม้สักนิด...
ทั้งที่พยายามหักห้ามใจเอาไว้แล้ว แต่ร่างกายก็ยังขยับเข้าไปใกล้ตามสัญชาตญาณ พี่ลู่หานอยู่ใกล้เพียงแค่นี้...เพียงแค่เขายื่นหน้าเข้าไปหา ก็จะสามารถกดริมฝีปากลงกับเรียวปากนุ่มนิ่มนั่น ลิ้มชิมรสชาติที่เฝ้าฝันถึงอยู่ทุกวัน...
ตึก...ตัก...
“ลู่หาน! ออกไปหามื้อดึกกินกันเถอะ!”เสียงเจื้อยแจ้วร่าเริงดังขัดขึ้นอย่างกะทันหันทำเอาเซฮุนแทบหน้าทิ่ม และเรียกให้เจ้าของชื่อหันไปมอง ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ เจ้าของเสียงใสนั้นกำลังยืนทำหน้ากลมอยู่ที่ปากประตู
เป็นมินซอกนั่นเอง
เจ้าของสองแก้มที่เหมือนกับซาลาเปาขาวๆยืนโบกมือเรียกหา ทำให้ชายหนุ่มร่างผอมหยุดมือที่กำลังเช็ดผมให้น้องชาย แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปคุยกับพี่ใหญ่หน้าละอ่อนแห่งเอกโซ โดยไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของคนอายุน้อยกว่า
เกือบไปแล้ว...
ร่างสูงล้มตัวลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วฟุบหน้าลงเบาะนุ่มเพื่อซ่อนรอยแต้มสีชาดที่เด่นชัดขึ้นบนใบหน้า มือเรียวยกขึ้นกดลงกับอกข้างซ้าย หัวใจเต้นโครมครามจนเกือบจะเรียกได้ว่าเจ็บ
อีกแค่นิดเดียวเอง...
เซฮุนพรูลมหายใจยาว ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งเหมือนเดิมด้วยท่าทางเหมือนคนปลงต่อโลก
...ไม่รู้ว่าเขาควรจะขอบคุณหรือควรจะสาปแช่งพี่มินซอกที่คราวนี้ช่างโผล่มาได้จังหวะเหลือเกินดี...โธ่เว้ย!
เด็กหนุ่มยกสองมือขึ้นขยี้ผ้าขนหนูผืนนุ่มบนเรือนผมแรงๆเป็นการระบายความหงุดหงิดหาที่ลงไม่ได้ของตัวเอง
“อย่าทำอย่างนั้นสิ”เสียงนุ่มของคนที่เพิ่งปลีกตัวจากบทสนทนามาได้ดุเบาๆ แล้วลู่หานก็แย่งเอาผ้าขนหนูไปจากมือของน้องชายได้สำเร็จ
“ไม่ไปกินมื้อดึกกับมินซอกฮยองเหรอฮะ”คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่เอาล่ะ พี่ไม่หิว”ชายหนุ่มทรุดนั่งลงบนโซฟาใหม่อีกครั้ง
“หรือว่าเซฮุนอยากไป?”เด็กหนุ่มส่ายก็หน้าเช่นกัน
...ผมก็ต้องอยากอยู่กับฮยองมากกว่าอยู่แล้วสิ ////....
“งั้นมานั่งตรงนี้มา พี่จะเช็ดผมต่อให้”ลู่หานชี้นิ้วลงกับพื้นที่อยู่เบื้องหน้า เซฮุนเองก็ขยับตัวไปนั่งตรงนั้นอย่างว่าง่าย
เด็กหนุ่มหลับตาพริ้ม เพลินเพลินไปกับสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนจากมือนุ่ม ไม่นานนักเรือนผมสีอ่อนก็เกือบจะแห้งสนิท
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว”ลู่หานพูดพลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยเรือนผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเหมือนลูกแมวขนยุ่งอย่างเอ็นดู ทว่าเซฮุนดูเหมือนจะยังติดใจกับสัมผัสนั้น เด็กหนุ่มไถศีรษะกับมือเรียวอย่างออดอ้อนออเซาะ ส่งให้คนอายุมากกว่าคลี่ยิ้มสวยขึ้นที่มุมปาก
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มเลื่อนลงตามรูปหน้าของอีกฝ่าย ลากลงต่ำจนถึงปลายคางเรียว ก่อนที่เขาจะเขี่ยเบาๆเหมือนกำลังหยอกล้อเอาใจกับสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง ทำเอาเด็กหนุ่มหน้าร้อนฉ่า
“งื้อ...”เซฮุนส่งเสียงร้องเหมือนแมวครวญ ขยับถอยออกห่างทันที ทว่าคนอายุมากกว่ากลับไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ร่างโปร่งติดจะผอมบางโน้มตัวตาม เอื้อมมือสุดแขนหมายจะแกล้งให้น้องเล็กได้อายหนัก
ว่าไปเซฮุนเองก็แปลก...ปกติแล้วจะเข้ามาออดอ้อนนัวเนียกับเขาเองแท้ๆ แต่พอเขาทำกลับบ้างเจ้าตัวกลับหน้าแดงก่ำลนลานหนีเสียอย่างนั้น...แต่ก็ช่างเถอะ ปฏิกิริยาแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน
ลู่หานหัวเราะเบาๆขณะแตะปลายนิ้วลงกับผิวแก้มเรียบลื่น ลูบไล้แผ่วเบาก่อนจะหยิกแก้มนุ่มๆอย่างมันเขี้ยว อันที่จริงอยากจะหยิกอีกสักหลายที แต่เพราะท่านั่งหมิ่นเหม่ทำให้การทรงตัวทำได้ค่อนข้างลำบาก ก่อนที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจ ร่างผอมก็ซวนเซแล้วล้มลงทับร่างโปร่งบางของคนอายุน้อยกว่าเข้าเต็มรัก
“โอ๊ะ...!”เซฮุนยกสองแขนขึ้นกอดประคองร่างผอมของพี่ชายล้มลงใส่โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างอุ่นจัดของคนในอ้อมแขนอยู่ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าครั้งไหน...ใกล้...จนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แผ่ออกมาจากผิวกาย...
ท่ามกลางความคิดที่เตลิดไปไกลของน้องเล็ก ตัวต้นเหตุอย่างลู่หานกลับไม่รู้สึกตัวถึงเรื่องนี้เลยสักนิด
“โทษทีนะ เซฮุนอา เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”ชายหนุ่มถามไถ่ถึงสภาพร่างกายของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่เหมือนเซฮุนจะไม่ได้ยิน เด็กหนุ่มยังคงกอดร่างผอมบางเอาไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเรียวสวยจับจ้องใบหน้าอ่อนกว่าวัยของอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย
“เซฮุนอา?”สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากได้รูป...เป็นอีกครั้งที่เขาเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้...ใกล้จนลมหายใจปัดเป่าประสานกัน...
เคร้ง!!
“....”ตอนนี้เซฮุนเริ่มแน่ใจ...
ชาติที่แล้วเขาแม่งต้องเคยไปขัดขวางคู่รักที่ไหนเอาไว้อย่างแน่นอน!
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่มก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความเย็นชากับหงุดหงิดอย่างแรงขณะที่ค่อยๆคลายอ้อมแขนออกช้าๆ
“ฮยองไม่เป็นไรใช่มั๊ยฮะ?”
คำถามนั้นทำให้ลู่หานกระพริบตาปริบๆให้อย่างน่ารัก ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนและฉีกยิ้มตอบเสียงใส “อื้ม!” ยังไม่ทันจะคุยได้กันได้มากกว่านั้นเสียงทุ้มที่เจือความงัวเงียเอาไว้ก็ดังลอยมา
“โทษที...เสียงดังไปหน่อย พวกนายโอเคไหม?”จงอินชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยใบหน้าที่ติดจะง่วงงุนเป็นปกติ เซฮุนขยับยิ้มฝืดเฝื่อนก่อนจะกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติ
“โอเค ดี...ดีมาก...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น? ดึกป่านแล้วนี้นายทำอะไร?”
“อ้อ จุมมยอนฮยองทำกระทะตกน่ะ”เด็กหนุ่มผิวเข้มตอบ เซฮุนคิ้วกระตุกเล็กน้อย พลางเริ่มต้นคาดโทษพี่ชายตัวเล็กไว้ในใจ แต่ในวินาทีต่อมาเสียงทุ้มของคนถูกพาดพิงแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“จงอิน! อย่ามาใส่ร้ายฉัน คนที่ทำตกมันนายต่างหาก!”
คำพูดนั้นทำให้คิมจงอินสะดุ้งเบาๆ เขาพึมพำว่าความแตกแล้ว ก่อนจะขยับยิ้มแห้งแล้งส่งให้เพื่อนสนิท แล้วร่างสูงสันทัดก็ขยับถอยหลบฉากไปจากปากประตูอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เด็กหนุ่มตัวสูงได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ ลู่หานเห็นแบบนั้นกลับนึกว่าเซฮุนโมโหเรื่องเสียงดังหนวกหู
“ไม่เอาน่าเซฮุนอา อย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิ แค่เสียงดังนิดหน่อยเอง”มือนุ่มลูบเบาที่เรือนผมสีอ่อนก่อนจะปลอบใจไปคนละเรื่อง เด็กหนุ่มเบ้ปากน้อยๆแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
ทั้งคู่นั่งลงข้างกันอีกครั้งบนโซฟาตัวเดิม แล้วลู่หานก็คว้ารีโมทขึ้นมาเปิดทีวี เวลาผ่านไปไม่นานนัก เซฮุนก็รู้สึกว่า...เขากำลังถูกพระผู้เป็นเจ้าทดสอบอีกครั้ง...
พี่ชายหน้าหวานเอนตัวลงซบกับบ่าลาด ดวงตาเรียวสวยคู่นั้นหลับพริ้ม จังหวะการหายใจของคนอายุมากกว่าลึกและยาวนานบ่งบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวหลับปุ๋ยไปแล้ว
“...///”
...ไม่มีโชคดีร่วงหล่นลงมาจากฟ้า...
เด็กหนุ่มหลับตาแน่นท่องทวนประโยคนี้ซ้ำๆ
ไม่มี...ไม่มี...มันไม่มีโชคดีแบบนั้นหรอกน่า! ...ประสบการณ์วืดสองครั้งติดต่อกันยังคงฝังใจ แล้วเขาจะกล้าทำอะไรได้ล่ะ!
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังต่อสู้ระหว่างตัวเลือกสองตัว ความทรงจำอันแสนโหดร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆ กับสถานการณ์ที่เป็นใจซะยิ่งกว่าครั้งไหนอย่างยากลำบากอยู่นั้นเอง
ลู่หานก็ช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น
ร่างโปร่งขยับตัวยุกยิกหาท่านอนสบายๆ ไถแก้มนุ่มลงกับบ่าลาดแข็งแรง จนเมื่อได้ท่าที่เจ้าตัวพอใจ...ก็กลายเป็นว่าอยู่ในมุมที่ทำให้ลมหายใจหอมกรุ่นเป่ารดลงบนต้นคอเรียวของคนอายุน้อยกว่าอย่างพอดิบพอดี...
“.....!!!!”
เด็กหนุ่มรู้สึกพูดไม่ออก ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใบหน้า มันทั้งร้อนฉ่าและขึ้นสีแดงจัดจนเหมือนจะติดไฟลุกไหม้
“...................................................”
ไม่มีโชคดีร่วงหล่นลงมาจากฟ้า...
แต่ว่า...แต่ว่า...บางทีพระผู้เป็นเจ้าคงไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นมั้ง?
ถึงจะคิดแบบนั้นทว่าเซฮุนก็รู้จักเรียนรู้มากพอที่จะไม่ประทับจูบเสียตั้งแต่แรก เขาโน้มใบหน้าลง และใช้ปลายจมูกโด่งคมสัมผัสกับผิวแก้มเนียนของคนอายุมากกว่า ฉกฉวยเอาความหอมหวานจากพวงแก้มนุ่มนิ่มหนึ่งฟอดใหญ่เป็นการทดลองก่อน
“...”ผละออกมาเล็กน้อยแล้วมองซ้ายมองขวา
ไม่มีวี่แววของใครที่จะโผล่เข้ามาขัดขวาง และยิ่งไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆที่จะดังขึ้นขัดจังหวะ เซฮุน แอบร้อง ’เยสสสสสสสสสส’ ยาวๆในใจไม่ให้ใครได้ยิน เขารู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาแทบไหลจริงๆนะ!
หลังจากที่ทดสอบไปหนหนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีอุปสรรคใดๆมาขัดขวางแล้ว เซฮุนก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นช้อนประคองใบหน้าของคนที่นอนพิงไหล่ของตนอยู่ จับปลายคางเรียวได้รูปนั้นเชยขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะพิศมองริมฝีปากเรียวสวยน่าหลงใหลได้ถนัด
เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจอย่างตื่นเต้นขณะที่กำลังจะสัมผัสกับเรียวปากฉ่ำชื้นยั่วใจคู่นั้น
และตอนนั้นเอง...
...ที่กรรมเก่าแม่งก็ทำงานอีกครั้งได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง!
“เซฮุน”
แทบจะหลุดสบถออกมาสุดเสียง ดีที่เขามีสติพอที่จะฟังออกว่าเสียงนั้นเป็นของใคร จึงยั้งปากเอาไว้ทันไม่ได้หลุดตัวสี่ขาหน้าขนออกมาวิ่งเล่น
คนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแบคฮยอนนั่นเอง
“ดึกแล้วนะ ทำไมนายยังไม่นอนอีกล่ะ?”
เซฮุนเงยหน้าขึ้นเหม่อมองพี่ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่ด้วยสายตาว่างเปล่า ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทว่าในคราวนี้มันต่างออกไป น้ำเสียงห่วงใยจากใจจริงของอีกฝ่ายทำเอาเขาโกรธไม่ลง
“........เดี๋ยวก็นอนแล้วล่ะฮะ”เด็กหนุ่มฝืนตอบ คนฟังฟังแล้วพยักหน้ารับอย่างพอใจ “อ้า งั้นก็ดีแล้ว” ก่อนผละจากไปพี่ชายตัวเล็กก็ยังไม่ลืมบอกให้เซฮุนปลุกพี่ลู่หานไปนอนที่ห้องดีๆ แล้วร่างเพรียวก็เคลื่อนจากไปอย่างเงียบงันพอๆกับขามา ดวงตาสีอ่อนเรียวคมของเด็กนุ่มมองตามจนแผ่นหลังของอีกฝ่ายลับหายไปจากขอบประตู แล้วเซฮุนก็ยกสองมือขึ้นปิดหน้าด้วยอารมณ์ที่เรียกได้ว่าสิ้นหวัง
เขาพรูลมหายใจยาว ล้มเลิกความตั้งใจที่จะจูบพี่ชายหน้าหวานที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวออกจากสมอง
...แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้แค่นี้หรอกนะเว้ย!
...ยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ...ฮึก...ฮึก..............; - ;...
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
จื่อเถาลากเท้าก้าวเข้าไปในห้องครัวที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นหมายจะไปหาน้ำเย็นๆดื่มมีอันต้องชะงัก เมื่อเห็นว่ามีคนเก้าคนที่นั่งประชุมกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลางห้องอย่างพร้อมหน้า
“เล่นอะไรกันอยู่น่ะ?”เขาเอ่ยปากถาม ตอนแรกไม่มีใครตอบคำถามนั้นของเด็กหนุ่มร่างสูง แต่เมื่อผ่านไปได้สักพัก พี่อี้ชิงก็เลื่อนก็กระดาษที่วางอยู่กลางโต๊ะส่งให้เขาดูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่ารักอย่างทุกครั้ง
เด็กหนุ่มผมดำเลื่อนสายตาลงมอง บนหน้ากระดาษที่เคยขาวสะอาดถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยเส้นคั่น ฝั่งซ้ายและขวาเขียนหัวไว้เป็นภาษาเกาหลีฟากละคำด้วยลายมือขยุกขยุยจนแทบอ่านไม่ออก แต่มันก็เป็นสองคำง่ายๆว่าสำเร็จกับไม่สำเร็จดังนั้นเด็กหนุ่มผู้ไม่สันทัดภาษาเกาหลีจึงไม่ได้ใช้เวลานานนักในการแปลความ
ใต้ฝั่งคำว่าไม่สำเร็จปรากฏรายชื่อยาวเหยียดของสมาชิกวงหลายคน ตามด้วยตัวเลขสี่หลักกำกับไว้ ขณะที่ฝั่งคำว่าสำเร็จกลับมีเพียงชื่อของพี่คริสและคยองซู แต่ก็ยังพ่วงท้ายด้วยตัวเลขสี่หลักเหมือนเช่นเดิม
จื่อเถาเอียงคอ รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับรูปแบบการจัดวางแบบนี้เป็นบ้า เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่พักเดียวก็นึกขึ้นได้ว่ามันหน้าตาเหมือน...
โพยพนัน...
บยอนแบคฮยอนยิ้มกว้างจนดวงตาคู่เรียวกลายเป็นเส้นตรงเฉียงๆ
“พวกเราพนันกันว่าคืนนี้เซฮุนจะจูบพี่ลู่หานสำเร็จไหม”คำพูดของนั้นช่วยเสริมให้ทำให้จื่อเถารู้ว่าสมมติฐานของตนถูกต้อง แต่หัวข้อการพนันต่างหากที่ทำให้คนฟังประหลาดใจ
“เซฮุนจะจูบพี่ลู่หาน?”เด็กหนุ่มผมดำทำหน้าแปลกๆตอนที่ทวนคำ
“พวกเขาเป็นแฟนกันเหรอ? ทำไมผมไม่รู้เลยล่ะ?”สายตาเก้าคู่พร้อมใจกันมองมาที่เขาเหมือนเป็นตัวประหลาด
“เอ๋~ ฉันนึกว่าจะมีแค่พี่ลู่หานแสนซื่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว กับเซฮุนที่ยังคงคิดว่าคนอื่นเขาดูไม่ออก ที่ไหนได้ ยังมีแพนด้าใสซื่ออยู่ตรงนี้อีกตัวเหรอเนี่ย!”เป็นชานยอลที่จุ๊ปากพูดแทนใจทุกคน
“ทั้งๆที่มันออกจะชัดเจนขนาดนั้นเนี่ยนะ จื่อเถานี่นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าเซฮุนแอบ(?)ชอบลู่หานอยู่น่ะ?”เด็กหนุ่มผมดำส่ายหน้าวืด เรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูให้ดังขึ้นจากหลายๆคน
“เอาเถอะๆ ไม่รู้ก็ได้รู้แล้วไง เถาจะเล่นด้วยไหมล่ะ?”จงแดถามยิ้มๆพลางหยิบปากกาขึ้นมาถือไว้ พร้อมที่จะจรดลงไปทุกเมื่อ
“ว่าไง พนันข้างไหนดี?”
เอิ่ม...เด็กหนุ่มผมดำทำหน้าปั้นยาก เขาแค่ออกมาหาน้ำกินกลางดึกเองนะ แล้วทำไมจู่ๆถึงได้ถูกเจ้าผีพนันพวกนี้ชวนเล่นด้วยไปซะอย่างนั้น
แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้พูดปฏิเสธ คยองซูที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะก็อดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นมาดังๆ
“ยังเรียกว่าพนันได้อยู่เหรอ พวกนายเล่นเข้าไปขวางมันซะทุกครั้งแบบนั้นเซฮุนจะจูบลู่หานได้ยังไงฮึ!”ว่าพลางทำแก้มป่องอย่างไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์ที่เห็นอยู่รางๆ
ตรงข้ามกับคริสที่แม้จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่เขาก็ยังขยับยิ้มที่มุมปากอย่างลึกลับ
“เอ๋...ตอนเราเริ่มพนันกันก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าห้ามเข้าไปขวางนี่”แบคฮยอนขยับยิ้มซุกซนพลางเถียงกลับข้างๆคูๆ แต่นั่นก็ทำให้คยองซูบุ้ยปากอย่างขัดใจแต่ก็ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรดี
“...”พูดไม่ออก จื่อเถาที่ยืนฟังอยู่รู้สึกพูดไม่ออกอย่างแรง
เด็กหนุ่มตัวสูงมองทวนรายชื่อคนเจ็ดคนที่เรียงกันอยู่ใต้ฝั่งคำว่าไม่สำเร็จอีกครั้ง แล้วเขาก็พลันรู้สึกสงสารเซฮุนขึ้นมาจับใจ...
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
สุดท้ายแล้วจื่อเถาก็ไม่ได้เลือกข้างไหน...
แต่นั่นหมายความว่าเด็กหนุ่มจะไม่สนใจผลลัพธ์ของเห็นการณ์นี้เสียเมื่อไหร่ เขายังคงทรุดตัวนั่งลงบนเก้ากี้ที่ถูกเลื่อนออกให้ ทอดสายตาผ่านบานกระจกที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวเอาไว้
มันเป็นเพราะทางฝั่งห้องนั่งเล่นที่เซฮุนและพี่ลู่หานอยู่ค่อนข้างจะสว่าง ตรงกันข้ามกับในห้องครัวที่ไฟถูกดับลงอย่างจงใจ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองอยู่
และโดยที่ไม่รู้เลยว่าตนเองได้ตกเป็นเป้าหมายในการเล่นสนุกของพวกผีพนันที่กินอิ่มแล้วว่างงาน เซฮุนยังคงซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างสิ้นหวัง กระทั่งผ่านไปหลายนาที เด็กหนุ่มผู้ถูกความผิดหวังเคี่ยวกรำมาอย่างหนักจนชาชินก็เหมือนจะปลงตกแล้วในที่สุด
เขาเงยหน้าขึ้นทีละน้อยด้วยกริยาเซื่องซึมเหมือนหมาโดนยาเบื่อ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เอื้อมมือไปสะกิดพี่ชายหน้าหวานที่ยังคงหลับสนิทโดยยึดเอาบ่าเขาต่างหมอนและไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้น
“อื้อ...”คนถูกปลุกพึมพำอย่างขัดใจ ปัดมือของเด็กหนุ่มออกโดยไม่แม้แต่จะลืมตา เมื่อถูกสะกิดอีกครั้งร่างผอมบางก็ผละตัวออกห่างจากบ่าอุ่นๆอย่างแสนเสียดาย เปลี่ยนเป็นเอนตัวลงไปอีกทาง แต่สองตาก็ยังคงหลับพริ้มอย่างน่าเอ็นดู
เซฮุนค่อนข้างลำบากใจ อันที่จริงเห็นคนหลับสบายเขาก็ไม่ได้อยากจะกวนหรอกนะ แต่ขืนมานอนตรงที่แบบนี้ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาล่ะก็แย่แน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปหาพี่ชายอีกครั้ง เขย่าเบาๆเพื่อที่จะปลุกให้ตื่น
“ฮยอง...ฮยองฮะ กลับไปนอนที่ห้องเถอะนะ”
“งื้อ...”ลู่หานส่งเสียงโอดครวญในลำคอ พลางยกมือขึ้นปิดหูอย่างรำคาญใจ ชายหนุ่มมุ่ยหน้าทั้งที่สองตายังคงปิดสนิท ก่อนจะถดตัวหนีมือเรียวที่ออกแรงเขย่าตัวของตนอยู่
อย่างกับเด็กแน่ะ
เซฮุนส่ายหน้าอย่างระอาใจ ล้มเลิกความพยายามที่จะปลุกพี่ชายให้ตื่น เขาเกลี่ยปลายนิ้วลงบนผิวแก้มนุ่มที่เมื่อครู่ฝากจุมพิตแผ่วเบาเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนไปหาริมฝีปากได้รูป...
“...”ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
มันเหมือนกับมีขนมหวานเลิศรสวางไว้ตรงหน้า แต่เพียรพยายามแล้วหลายต่อหลายหนก็ไม่สามารถลิ้มชิมกลืนกินลงไป ความรู้สึกแบบนี้น่ะ...
ข่างทรมานเหลือเกิน
เด็กหนุ่มหลับตาลง แต่ไม่นานก็ขยับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะโน้มตัวสอดแขนผ่านใต้ร่างของคนที่กำลังหลับใหล ออกแรงยกร่างผอมบางของพี่ชายขึ้นแนบอก
หนักไม่ใช่เล่น...
แต่กระนั้นเขาก็ยังพยายามประคองร่างผอมในอ้อมแขนเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะไม่ได้รบกวนการนอนของอีกฝ่าย ทว่าก่อนที่ขายาวจะทันได้ก้าวพาคนในอ้อมแขนกลับไปนอนดีๆที่ห้อง เจ้าของใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่สมอายุก็ปรือตาขึ้นมาอย่างติดจะง่วงงุน
“อือ...”มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาที่พร่ามัวจนเมื่อเห็นได้ชัดเจนก็พบว่าใบหน้าของน้องชายสุดที่รักอยู่ห่างไปไม่ไกล
เรียวปากสวยบิดคลี่ออกเป็นรอยยิ้มหวาน
ลู่หานยกสองมือขึ้นโอบรอบลำคอเรียวของคนที่อุ้มตนอยู่ แล้วส่งเสียงทุ้มนุ่มติดจะงัวเงียขึ้นว่า
“กู๊ดไนท์คิส~”
ก่อนจะโน้มใบหน้าลงใกล้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้า แตะสัมผัสลงเพียงผะแผ่วบนเรียวปากบางสวยของน้องชาย ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเหมือนคนละเมอ แล้วซุกใบหน้าลงกับบ่าลาด พริ้มสองตาหลับใหลลงไปอีกครั้ง....
“.......................................”
เซฮุนชะงักค้าง
คนที่มองอยู่ต่างก็ชะงักค้าง
ใบหน้าคมคายของน้องเล็กแดงจัดขึ้นมา แล้วก็เหมือนกับว่าระบบการทำงานของสมองจะผิดเพี้ยนไปจนกู่ไม่กลับเพราะในอีกหลายนาทีต่อมาเด็กหนุ่มตัวสูงก็ยังคงยืนยิ่งอยู่เช่นนั้นไม่ขยับไปไหน
ในสถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงตุ้ยจางแห่งฝั่งเอ็มที่ขยับรอยยิ้ม ชายหนุ่มเคาะปลายนิ้วกร้านลงกับโต๊ะ ...เพียงแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่จะดึงทุกคนให้หลุดจากภวังค์
“38,000 วอน หารสองเป็นของฉันกับคยองซูคนละครึ่ง”คริสแย้มยิ้มร้ายกาจอย่างที่ชวนให้คนอยากสนับสนุนให้เขาลาออกจากวงการหันไปทำอาชีพเจ้าพ่อมาเฟียเสียแทน
แต่รอยยิ้มนั้นก็ยังไม่น่าน่ากลัวเท่ากับจำนวนเงินที่เอ่ยออกมา หลายคนเริ่มส่งเสียงโอดครวญโต้แย้ง ทว่าจากบทสนทนาและสถานการณ์...จื่อเถาคิดว่าเพื่อนร่วมวงทั้งเจ็ดคนจะต้องควักกระเป๋าออกมาเมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นเอง...
เด็กหนุ่มตัวสูงก้มหน้าลงจิบน้ำเย็นจัดจากแก้วในมือ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
...ดีนะที่เมื่อกี้นี้ไม่ได้พนันไปกับเขาด้วย...เกือบไปแล้ว... . . ) =3
.
.
.
.................เอ๊ะ.....?
-END-
ความคิดเห็น