ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KHR Fiction Yaoi : จับ Reborn มาแต่ง >>[Yaoi]<<

    ลำดับตอนที่ #15 : 15th ,!!=Song Fic=!! นาทีเดียวในตอนสุดท้าย (27R)/END

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 52


     
     



    ...เหมือนกับเราต่างคนยังเดินหลงทาง
     
                “เจ้าห่วยสึนะ!”เสียงเรียกอย่างล้อๆดังขึ้น หากทว่าเจ้าของดวงตาคู่กลมใสสีอ่อนไม่หันไปมองตามเสียง วันนี้แปลกมาก...รู้สึก...เหมือนใครกำลังเรียกหา ดวงตาคู่สวยทอดมองไปไกล

    ...เหมือนกับหนังที่ยังขาดตอนที่สำคัญ
     
                “...”ราวกับสายลมถ่ายทอดเสียงมาจากที่ไกลแสนไกล...ใคร? ใครพูดอะไรน่ะ? เหมือนจะได้ยิน แต่กลับไม่ได้ยิน เขาพูดอะไรกัน? ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นนี่...

    ฉันกับเธอจึงยังไม่ได้พบกัน...
     
                ร่างโปร่งบางเดินอย่างเหม่อลอยกลับมาที่บ้าน
                “กลับมาแล้วครับ”น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายของเด็กหนุ่มดังขึ้นกล่าวกับความว่างเปล่า ใบหน้าใสชะโงกเข้าไปในครัว แม่ยังไม่กลับเหรอ?

    แล้วเธอ เธออยู่ไหน เธอคือใคร ใครคือเธอ
     
              “โอ้...ว่ายังไงรีบอร์น? ภารกิจคราวนี้ที่ไหนล่ะ?”
              “เจปอนเน่!”

    ฉันมองเห็นเธอในความเหงา
     
                ร่างบางนั่งนิ่งมองหนังสือในมือ แต่ใจกลับไม่ได้จดจ่ออยู่กับมัน หลังจากหลับไปงีบหนึ่งเหมือนจะเห็นเงาร่างของใครบางคน แต่ไม่ชัดเจนนัก

    ทุกลมหนาวยังเฝ้ามองหา
     
                สึนะกอดตัวเองแน่นพยายามอย่างหนักในการเค้นสมอง ค้นหาเงาร่างนั้นในความทรงจำอันเรือนลางเต็มทน

    ฉันก็ยังเก็บคำว่ารักให้เธอ
     
    ในใจรู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก ลางสังหรณ์ที่มีไม่บ่อยนักสะกิดเตือน...แต่...เตือนอะไรล่ะ? เขาไม่เข้าใจความหมายของมัน เรื่องดี? หรือว่าเรื่องร้าย?

    ต่อให้ฉันต้องรอเธออีกนานกี่ลมหายใจ
     
                เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย...ลางสังหรณ์ไร้ประโยชน์ ต่อให้มันแม่นยำแต่เมื่อตีความไม่ได้...มันก็ช่าง...ไร้ความหมายเสียเหลือเกิน ...ทำได้แค่รอดูเท่านั้น
     
    แต่ว่าฉันก็รู้สึกที่ไหนสักที่หนึ่ง เราต้องได้เจอกัน
     
                เวลาผ่านไปอีกหลายวัน ต้นกำเนิดของลางสังหรณ์นั้นก็ยังไม่ปรากฏตัวเสียที...จนเขา แทบจะลืมมันไปแล้ว ได้แต่หวังว่าความรู้สึกนี่มันจะสิ้นสุดลงเสียที การรอคอย...มันช่าง...ทรมาน
     
    ต่อให้เป็นนาทีเดียวในตอนสุดท้ายก็ตาม
     
                ร่างบางเหม่อมองไปยังข้างหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย
                นานชะมัดเลย...ความคิดหนึ่งแทรกขึ้นมา หือ? อะไรนาน? เขาคิดอะไรอยู่น่ะ? เหมือนกำลังรอ??? ถ้างั้น...รอใครล่ะ?

    ที่ได้มาเจอคนที่รัก ก็คุ้มที่จะรอ
     
                “เรียนพิเศษเหรอฮะ?”เหมือนความเปลี่ยนแปลงนี้จะให้เขาลืมความรู้สึกของการรอคอยไปอีกครั้ง...จนมัน...หายไปอย่างถาวร หรือบางที...ที่มันหายไป เพราะการรอของเขามันสิ้นสุดลงแล้ว...

    หรือว่าเราแค่เดินเฉียดกันทุกวัน
     
                “ไม่เอ๊า~!!!”เสียงหวีดร้องอย่างตกใจนั้นไม่ได้ทำให้การสาดกระสุนของรีบอร์นหยุดลง

    เธอกับฉันอาจนั่งห่างกันแค่นิดเดียว
     
    “กล้ามากที่ทำข้อนี้ผิด ฉันจะขุดเอาสมองแกขึ้นมาปั้นใหม่ เตรียมตัวกลายเป็นรุ่นที่สิบของวองโกเล่แฟมิลี่ให้ดีเสียเถอะ!!!”
     
    เหมือนไม่มีอะไรให้เราข้องเกี่ยว
     
                “นี่ถามจริงเหอะ นายไม่เห็นจะสอนอะไรฉันเลยนะ! มีแต่ให้ทำๆๆๆๆ พอทำผิดท่านก็สาดกระสุนแบบเนี้ย!”

    หวังเพียงเสี้ยวนาที ที่บังเอิญได้สบตา
     
                รีบอร์นชะงักไปชั่วครู่...เป็นการชะงักที่ให้สึนะรู้สึกรักการสาดกระสุนขึ้นมาทันที...
                “อยากให้สอนเหรอ? อ๋อ.......ได้สิ!”สังหรณ์ณ์ร้ายสุดๆดูท่าจะแม่นก็ตรงนี้แหละ

    ฉันมองเห็นเธอในความเหงา
     
    พลันในความรู้สึกหวาดกลัวมันกลับก้ำกึ่งกับความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก...
    “นะ...นี่...เมื่อก่อน? เราเคยเจอกันรึเปล่า?”สึนะรวบความกล้ากลั้นใจถาม
    “แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ไม่มีประโยชน์หรอก ครูสอนพิเศษชั้นอ๋องอย่างฉันไม่มีทางถูกเบี่ยงความสนใจด้วยเรื่องแค่นี้หรอกน่า!”

    ทุกลมหนาวยังเฝ้ามองหา
     
    “จริงเหรอ? ไม่เคยเจอกันจริงๆเหรอ?”สึนะทวนถามอย่างไม่แน่ใจ จ้องลึกลงไปในดวงตาลมโตบ้องแบ๊วนั่นเหมือนจะหาคำตอบ...

    ฉันก็ยังเก็บคำว่ารักให้เธอ
     
    นับจากนั้นอีกหลายปี...
    “รีบอร์น...ตื่นได้แล้วนะคนดี...”น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยเรียก ทำให้เปลือกตาบางเผยอออก อัญมณีสีนิลลึกล้ำเจนโลกดูงัวเงียกว่าปกติ
    “ยังง่วงอยู่เหรอ?”มืออุ่นลูบเส้นไหมสีดำสนิทอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล
    “เพราะใครล่ะเจ้าบ้า!”ใบหน้าหวานนั้นแดงระเรื่ออย่างน่ารักยามเอ่ยคำ

    ต่อให้ฉันต้องรอเธออีกนานกี่ลมหายใจ
     
    คนถูกว่าขยับยิ้มละไมดวงตาสีสวยเป็นประกายระยับ ก่อนจะได้ต่อว่าอีกซักระลอก เรียมปากนุ่มก็ถูกปิดแนบแน่น
     
    แต่ว่าฉันก็รู้สึกที่ไหนสักที่หนึ่ง เราต้องได้เจอกัน
     
    “ดีจังที่ได้พบนาย...”เขาเอ่ยเมื่อย้อนมองถึงวันเก่าๆ โอบกอดร่างบอบบางไม่สมความสามารถในอ้อมแขนอย่างรักใคร่

    ต่อให้เป็นนาทีเดียวในตอนสุดท้ายก็ตาม
     
    “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ารอนายมานาน...นานมากๆกว่าเราจะได้พบกัน”อ้อมกอดอุ่นนั้นทำให้ร่างบางหลับตาลง มือเรียวยกขึ้นกอดตอบบ้างแล้วกระซิบ
     
    เพื่อได้มาเจอคนที่รัก ก็คุ้มที่จะรอ…ก็คุ้มที่จะรอ
     
    “ไม่ต้องห่วงนะ...นายไม่ต้อง...ไม่ต้องรออีกต่อไปแล้ว”เสียงหวานอ่อนลงเล็กน้อย
     
    ต่อให้ฉันต้องรอเธออีกนานกี่ลมหายใจ
     
    “ต่อให้ต้องรออีกฉันก็จะรอนาย...จะรอ...รอตลอดไปนะ”เขากดศีรษะลงกับไหล่บาง กรุ่นกลิ่นดินปืนคละปนไปกับกลิ่นกาแฟสดใหม่ มันทำให้รู้สึกดีทุกครั้ง
     
    แต่ว่าฉันก็รู้สึกที่ไหนสักที่หนึ่ง เราต้องได้เจอกัน
     
    “เพราะนั่นหมายความว่า...ยังไงเราก็จะได้เจอกัน...”คำหวานที่พร่ำบอกอยู่ทุกวันไม่ได้ทำให้ร่างบางชินเสียที ช่างสรรหาคำมาพูดจริงนะ! เจ้าโลลิค่อนเอ๊ย!
     
    ต่อให้เป็นนาทีเดียวในตอนสุดท้ายก็ตาม
     
    “เสี่ยว!”รีบอร์นว่าเสียงขุ่น ขืนตัวออกจากอ้อมแขนซึ่งร่างสูงก็ยินดีปล่อยโดยไม่พูดอะไรซักคำ
     
    เพื่อได้มาเจอคนที่รัก ก็คุ้มที่จะรอ
     
    “นี่รีบอร์น...ฉันมีเรื่องจะบอกนายอย่างนึงนะ”จู่ๆเสียงนุ่มนวลนั้นก็จริงจังขึ้นมา ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าเคร่งขรึมทำให้เขาพลอยเกร็งไปด้วย
     
    ต่อให้ฉันต้องรอเธออีกนานกี่ลมหายใจ
     
                “อะไร?”เสียงหวานถามอย่างเคร่งเครียด
     
    แต่ว่าฉันก็รู้สึกที่ไหนสักที่หนึ่ง เราต้องได้เจอกัน
     
    “คือ...ว่า...”ใบหน้าคมโน้มลงใกล้หู กระซิบเสียงแผ่วเบา
     
    ต่อให้เป็นนาทีเดียวในตอนสุดท้ายก็ตาม
     
    “นาย...กำลังใส่เสื้อของฉันอยู่แน่ะ”เสียงจริงจังเอาการเอางานเปลี่ยนเป็นเสียงกลั้วหัวเราะในฉับพลัน ร่างบางก้มลงมองตัวเองทันทีและก็พบว่าตนอยู่ในเสื้อเชิร์ตขาวที่ใหญ่เกินตัว
    เสื้อของคนตรงหน้าเขานี่เอง!
    ใบหน้าหวานแดงแปร๊ดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผลักอีกฝ่ายออกห่าง ยิ่งเห็นตัวเองสภาพนี้แล้วมัน...
     
    เพื่อได้มาเจอคนที่รัก ก็คุ้มที่จะรอ...
     
    “รักนายจัง...รีบอร์น‘ของฉัน’ น่ารักที่สุดเลย”เขาตบท้ายคำพูดชวนเลี่ยน(และน่าอาย)นั้นด้วยเสียงหัวเราะเบาๆได้ไม่ทันไร คนขี้อายก็ส่งหมัดเข้าตรงลิ้นปี่แก้เขินทำเอาจุกไม่น้อย ถึงกระนั้น...รอยยิ้มก็ยังไม่คนเลือนหายไปจากใบหน้าคม...
    “ฉันรักนาย...”ใบหน้านั้นเลื่อนเข้าใกล้
    “รัก...”ใกล้...
    “รัก...”ใกล้...
    “รัก...”ใกล้มาก...
    “และจะรักตลอดไป...”จนในที่สุด...ริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิดกัน...ไม่เหลือช่องว่างใดๆ
     
     
    ====================END====================
     
    Song fic ครั้งแรกในชีวิต = =:; เน่าจริงๆ ทั้งเนื้อหาทั้งความเสี่ยว มันเกี่ยวกับเพลงตรงไหน(วะ)เนี่ย! เอาเหอะ~ แต่ฟังเพลงนี้แล้วมันจิ้น~ >w< อะฮิ~ เพลงนี้ค่อนข้างเก่าแล้วแหละเนอะ แต่พี่ชายมันเปิดฟัง +=_,= ใครไม่ชอบตอนนี้ก็โทษมันแล้วกันฮ่ะ หมาไม่เกี๊ยววว!!(จริงๆน้า)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×