ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FanFic : All Fiction [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #12 : [FROZEN] >> Bro, I don’t tell you (Elzer x Anthon)

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 56



    Title        : Bro, I don’t tell you

    Pairing    : Elzer x Anthon [KingxPrince]

    Rating    : PG-13

    Warning : ก็คิงปรินซ์น่ะสิ

     

    ---------------------------------------

     
     

     

    เอลเซอร์

    พี่ชายคนดี พี่ที่งดงาม พี่ที่เป็นพี่ชาย พี่ที่เป็นกษัตริย์แสนดี พี่ที่เป็นที่รักใคร่...ที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นน่ะ

    ...ข้าจะไม่แพ้หรอกนะ

     

    - Bro, I don’t tell you. -

    พี่, ข้าจะไม่บอกพี่หรอกนะ

     

    ฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไป ฤดูร้อนเวียนเข้ามาและละจาก ยามเมื่อสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวมาเยือนเอเรนเดลอีกครา

    “อันธอน มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”

    เสียงทุ้มราบเรียบอันคุ้นหูทำให้เจ้าชายหนุ่มที่ประทับอยู่ริมหน้าต่างละสายพระเนตรออกจากทิวทัศน์ของเมืองที่ขาวโพลนด้วยเกล็ดน้ำแข็ง

    ...ทว่าแม้หันมาที่เบื้องหน้าในครรลองที่ทรงมองเห็น ก็ยังคงเป็นสีขาวอยู่ดี

     

    “เอลเซอร์...”

    สุรเสียงกังวานของเจ้าชายกระซิบนามของเชษฐา

    “...ปั้นตุ๊กตาหิมะกันไหม?”

    บุรุษสีขาวเลิกขนงขึ้นกับคำชักชวนนั่น รอยแย้มสรวลเบาบางพรายขึ้นบนวงพักตร์เคร่งขรึม ก่อนที่หัตถ์เรียวขาวที่กร้านทนจากการทรงอักษรมิว่างเว้นจะยื่นส่งออกไป

    “เอาสิ หิมะแรกทั้งที”

     

    “ไปปั้นตุ๊กตาหิมะกัน”

    เจ้าชายหนุ่มหลุบพระเนตรลงต่ำ คำขององค์เชษฐานั้นไม่ทราบว่าสดับแล้วรู้สึกอย่างไรกันแน่ หลายปีก่อนหน้านี้ไม่มีเลยสักครั้งที่ผู้เป็นพี่จะตอบรับคำชักชวน เอาแต่ขังตัวเองเอาไว้ในห้องบรรทม ปิดกั้นองค์เองไม่พบหน้าผู้ใด ...ตลอดเวลาเหล่านั้นทรงเชื่อว่าอีกฝ่ายมีเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความอ้างว้างกัดกร่อนทำลายหทัยจนเกิดเป็นโพรงลึกหล่มกว้าง

    แม้ยามเมื่อรับรู้เหตุผลนั้น...ต่อเนื่องมาจวบจนปัจจุบัน หลุมหล่มนั่นก็ยังไม่เคยถูกถมเต็มเลยสักครา

               

    ทว่าจะอย่างไร เจ้าชายก็ยังทรงยื่นพระหัตถ์ออกไป วางลงในอุ้งหัตถ์ที่จับต้องแล้วเย็นกาย หากอบอุ่นหัวใจ

    ...มือของพี่

     

    ทรงตระหนักรู้...

    ว่าที่แท้แล้วอีกฝ่ายเป็นพระเชษฐา หากไม่มีสักครั้งที่จะทรงสามารถหักห้ามหทัยที่เต้นระรัวยามได้มองลึกลงในดวงเนตรสีครามงดงามคู่นั้น

    ทรงรู้องค์เองอย่างยิ่ง ว่าความรู้สึกนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น จึงได้พยายามหนีให้พ้น พยายามไขว่คว้าหารักอย่างสามัญ ทั้งเจ้าหญิงองค์ที่สิบสามจากต่างแดนคนนั้น และหญิงอันเข้มแข็งที่บัดนี้นางดำรงตำแหน่งเจ้ากรมส่งน้ำแข็ง...และเป็นเพียงพระสหาย

    ไม่มีใครมาลบเลือนทดแทนภาพดวงตาสีน้ำแข็งที่อ่อนโยนคู่นั้นได้ ...ไม่มี

     

    แต่ว่า...

     

    “ข้าว่ามันยังดูเหมือนขาดอะไรไป หรือพี่ว่ายังไง?”

    คำตรัสถามจากอนุชาทำให้กษัตริย์หนุ่มขยับวรองค์ก้าวถอยออกห่างจากตุ๊กตาหิมะตัวใหญ่เพื่อพินิจมองให้เต็มตา วงพักตร์คมนั้นเคยเครียดครึมอย่างไรก็ยังคงเครียดเคร่งอย่างนั้น อารมณ์ที่แสดงไม่ได้ต่างอะไรจากตอนที่ทรงพระอักษรในห้องทรงงานกว้างใหญ่

    ท่าทางที่ทำให้คนมองอยู่อดไม่ได้ที่จะจุดรอยสรวลขึ้นที่มุมปาก

    “อืม...”

    องค์เหนือหัวแห่งเอเรนเดลร้องแผ่ว

    “ข้าว่าข้ารู้นะว่ามันขาดอะไร” ทรงตรัสพร้อมกับปลดผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มขลิบขนสัตว์มีราคาลงจากพระอังสา คลี่คลุมลงบนตัวของตุ๊กตาหิมะที่ทรงช่วยกันปั้นขึ้น

    “อ้า ดูดีขึ้นเยอะทีเดียว ว่าไหมอันธอน”

    ขณะกำลังพึมพำพอพระทัย ความอบอุ่นสายหนุ่มก็คลุมทับบนวรกาย ที่แท้เป็นผ้าคลุมสีม่วงอ่อนของคนอายุน้อยกว่าที่คลุมลงมาบนอังสะ

    “อะไรกัน เจ้าก็รู้ว่าพี่ไม่หนาว”

    กษัตริย์หนุ่มตรัสกลั้วหัวเราะ

    “รู้... แต่แบบนี้ข้าสบายใจกว่า”

    ทว่าองค์ชายกลับยังคงดื้อดึง

    “เด็กโง่...แล้วเจ้าล่ะ หือ?”

    คนอายุมากกว่าโคลงเศียรระอา

    “เอาแบบนี้ดีกว่า” ทรงตรัสเสียงนุ่มนวล ก่อนจะฉุดรั้งเอาวรองค์ประเปรียวกำยำของพระอนุชาเข้ามาใกล้ สะบัดผ้าคลุมสีม่วงผืนใหญ่ สอดพาหาซ้อนจากทางด้านหลังรวบรั้งวรกายไว้เคียงกันใต้ผืนผ้าอบอุ่น...ในอ้อมพระกร

    “ที่จริงพี่ตัวเย็นนัก เจ้าควรห่มเอาไว้คนเดียว แต่ถึงพูดไป...ก็คงไม่ยอมใช่ไหม”

    เนตรคมขององค์ชายเบิกกว้างแล้วหลุบต่ำลงอย่างรวดเร็ว พักตร์คมคร้ามสีน้ำผึ้งคล้ายระเรื่อแดงขึ้นมา เพียงพริบตาก็ลบเลือนลับหาย

    ...เหมือนไม่เคยมี

    “...แบบก็นี้อุ่นดีอยู่แล้ว”

    พึมพำตอบแผ่วเบา และโดยไม่อาจห้ามองค์... ก็ทรงขยับกาย เบียดปฤษฏางค์ลงในอ้อมอุระอ่อนโยน อย่างที่เคยทำเมื่อครั้งยังเป็นเพียงเด็กชาย แม้บัดนี้จะเติบใหญ่ ...จนอ้อมกรกว้างขวางในความทรงจำคับแคบกว่าที่เคยแล้วก็ตาม

     

    “เด็กดี...”

    “เจ้านี่มันน่ารักจริงๆ น้า...รักเจ้าชะมัดเลยน้องข้า”

     

    องค์ชายฟังแล้วเพียงส่งเสียงหึอย่างเกียจคร้าน ไม่ได้ตอบอะไร เพียงทรงกระซิบอย่างเงียบงันในความสงัด ท่ามกลางหิมะแรกที่ยังปรกโปรยลงมา

     

    พี่ ข้ารักพี่นะ

    ไม่ใช่รักแบบพี่น้องหรอกนะ

    อา..แต่ว่าข้าน่ะ จะไม่เป็นของพี่หรอกนะ

     

    ก็ข้าเกลียดการพ่ายแพ้นี่นา...

     

    ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในทหัยนี้ จะไม่มีวันถูกขานบอกออกไป...

    ไม่มีวันหรอก

     

    พี่ชาย..พี่ชาย...

    พี่ได้ยินไหม...พี่ที่เอาชนะข้าได้ทุกอย่าง พี่ที่เป็นกษัตริย์ยิ่งใหญ่

    ที่เป็นที่รักของใครต่อใคร...รวมถึงข้าด้วย

    นั่นล่ะ

    พี่ที่เป็นแบบนั้นน่ะ

    จะไม่มีวันได้ยินคำว่ารักจากปากข้าหรอกนะ

     

    ข้าจะไม่พ่ายแพ้ถึงขั้นมอบหัวใจทั้งดวงให้หรอกนะ

    ...ข้าไม่อยากแพ้ ไม่อยากเสียใจ และไม่อยากเลิกเป็นน้องชายของพี่หรอก

    “หึ”

     




     

     

     

    the End or to be Continue?

    ...นั่นน่ะสิ

     








     

    #ด้วยรักความติ่งอันประเมินมิได้

    บ้าเอ๊ย ทำไมรู้สึกว่าจะต้องเขียนของฝั่งคิงเอลเซอร์ด้วยกัน ไม่นะไม่ ไม่นะ....

    /ยังไงก็ขอโทษที่ชิพคู่แรร์อีกแล้วครับ /ร้องไห้ได้ไหมครับ /ร้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×