ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisTao] Square One

    ลำดับตอนที่ #1 : 0 - Backward

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 58



    หมายเหตุ : เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ที่มีอยู่จริง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม    









     

    [0]

    Backward -
     

     







     

     

    กลิ่นลมทะเล

     

    สายลมยามสายหอบพัดกลิ่นลมทะเลข้ามผ่านห้องโถงกว้างสำหรับรับรองแขกพัดเข้าปะทะกับใบหน้าคมคาย

     

    ฮวางจื่อเทาปั้นหน้าเรียบนิ่งราวกับรูปสลัก กระทั่งแพขนตายังไม่สั่นไหว...ยามฟังเสียงพูดคุยของบิดากับแพทย์ที่ถูกเรียกให้มาดูอาการของตนจากบนเก้าอี้รถเข็นใหม่เอี่ยมหรูหรา

     

    อย่างที่ผมบอกไป...นายแพทย์วัยกลางคนเกริ่นเสียงแผ่วเบาระมัดระวัง

     

    “...พวกเราได้พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาไปแล้วว่าคำนั้นออกมาแล้วจึงเงียบลง ทว่าก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม... คนที่ฟังอยู่ทั้งสองล้วนเข้าใจ

     

    ผู้อ่อนวัยกว่ารู้สึกแน่นหน้าอก มือที่วางอยู่บนพนักแขนเลื่อนลงมาแตะสัมผัสบริเวณหัวเข่า ดวงตาเรียวคมงดงามปรากฏความเลื่อนลอยหนึ่งสาย ผู้เป็นบิดาเห็นท่าทีเช่นนั้นย่อมยิ่งกว่าเจ็บปวดใจ เขาสั่นศีรษะเป็นสัญญาณให้กับคนที่กำลังจะเอ่ยแจ้งรายละเอียดต่อไป ก่อนที่จะเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้กลับไปก่อนโดยไม่ต้องใช้คำพูด

     

    คุณจื่อเทายังโอกาสที่จะหายนะครับ...ยังมีโอกาสที่จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้...

     

    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ ก่อนที่จะแยกจากร่ำลา...

     

    ฮวางจื่อเทาได้ยิน ทว่านั่นไม่ได้ทำให้ความอึดอัดที่ในอกบรรเทาเบาบางลงไป

     

    คำว่าเหมือนคนปกติของนายแพทย์ผู้นั้น หรือเขาฟังไม่เข้าใจ... เพียงเท่านั้น แค่นั้น...สำหรับเขาในฐานะนักแสดงแล้ว เห็นที...คงจะไม่เพียงพอ

     

    เสี่ยวเทา...น้ำเสียงการุณณ์ของบิดาเอ่ยเรียก ชายหนุ่มหลุบสายตาลง ความอึดอัดในใจยังไม่จางหาย ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังคงไร้อารมณ์ใดพ่อคงต้องคุยกับเอเจนซี่...เรื่องงานของลูก

     

    น้ำคำซึมซาบลงในใจ ทำให้หัวใจที่สั่น ยิ่งไหวสะท้าน

     

    จื่อเทาอยากเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ทว่าบางอย่างก็รั้งเสียงของเขาไว้ ทำให้มันเวียนวนอยู่บนปลายลิ้น แต่ไม่อาจล่วงผ่านออกมา ที่เขาทำได้ มีแต่การพยักหน้าลง เบือนหนีสีหน้าสายตาห่วงใยของบุพการี บังคับรถเข็นของตัวให้เคลื่อนถอย... หมุนกลับ

     

    หัวหน้าครอบครัวตระกูลฮวางมองแผ่นหลังที่ลับหายเข้าไปในห้องพักผ่อนซึ่งจัดไว้ให้ของลูกชาย

     

    สีหน้าแววตาปรากฏความสงสารอาดูรอันยากบรรยายให้ครบถ้วนด้วยอักษรหรือถ้อยคำ

     

     

    กลิ่นลมทะเลโชยพัดเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดไว้

     

    กลิ่นของบ้านเกิดที่เคยทำให้เขารู้สึกว่าปลอดภัยหายเหนื่อยล้า ...วันนี้ มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความแพ้พ่าย

     

    ฮวางจื่อเทารู้สึกว่าตัวเองกำลังแพ้พ่าย

     

    เขาเพิ่งอายุยี่สิบสอง อยู่ในวัยแห่งความทะเยอทะยานและความฝัน...แต่มัน...กำลังจะจบลง

     

    เขายังจำได้ดี...พาดหัวข่าวขนาดใหญ่ข่าวนั้นในปลายเดือนเมษา

     

    ประกาศถึงอาการบาดเจ็บของนักแสดงหนุ่มอนาคตไกล เอดิสัน ฮวาง ที่เกิดขึ้นระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ในเนื้อหาที่ขนาดตัวหนังสือลดหลั่นลงมา เป็นข้อความที่เขียนบ่งบอกถึงรายละเอียดของอาการ

     

    ข้อเท้าและเอวของเอดิสันได้รับบาดเจ็บ เอ็นข้อเท้าที่ฉีกขาดถูกละเลยต่อการรักษาอย่างจริงจังมาเป็นเวลานาน รวมถึงบาดแผลน้อยใหญ่อื่นๆ บริเวณสะโพกและต้นขา การฝืนทนตลอดช่วงเวลาที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นในที่สุดก็ส่งผลเสียที่ร้ายแรงที่สุดแก่เขา...

     

    ชายหนุ่มกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกขึ้นมาในลำคอ เรียวนิ้วทั้งห้าในมือขวากำรวบเข้าหากันเป็นหมัดก่อนจะทุบลงบนต้นขาของตัวเอง

     

     

    เดินไม่ได้อีกแล้ว!

     

     

    ความเจ็บร้าวเล่นปราดจากจุดที่ได้รับแรงกระแทกไปทั่วทั้งเรียวขา กระนั้นยังไม่สามารถสะกดข่มลบเลือนความรู้สึกเหมือนถูกควักหัวใจออกไปที่แผ่ขยายลุกลามอยู่กลางอก

     

    ชายหนุ่มอ้าปาก ไม่มีกระทั่งเสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมา ทว่ามีน้ำตา...กำลังหลั่งริน

     

    ฮวางจื่อเทาเพิ่งจะอายุยี่สิบสอง... ยังมีความทะเยอทะยานและความปรารถนาที่จะกระทำตามสิ่งที่ใฝ่ฝัน แต่ว่าตอนนี้ เวลานี้... ทุกสิ่งทุกอย่าง มันได้จบลงพังทลาย

     

    คนพิการเดินไม่ได้ จะสามารถเป็นนักแสดงได้อย่างไร

     

    หรือต่อให้เขารักษาจนหาย... ซึ่งไม่รู้จะต้องใช้เวลานานยาวนานเท่าไหร่ หนึ่งปี ห้าปี หรือสิบปี ...ต่อให้เขาหาย มันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป ...ไม่มี

     

    “...อึก” ร่างสูงขยับโอนเอน ยืดตัวขึ้นเท้าแขนลงกับโต๊ะไม้ใกล้ๆ พยายามฝืนหยัดกายให้ยืนขึ้นจากรถเข็น

     

    ยามแรกเหมือนทุกสิ่งจะเป็นไปได้ด้วยดี ทว่าเพียงเขาทิ้งน้ำหนักลง ความเจ็บปวดราวกับไขกระดูกถูกเข็มนับร้อยพันเล่มทิ่มแทงอยู่ก็จะตรงเข้ามาเล่นงาน การยืนอยู่นิ่งๆ ยังแทบเป็นไปไม่ได้ อย่าได้พูดถึงเรื่องการเดิน

     

    ทันทีที่ฮวางจื่อเทากัดฟันปล่อยมือจากโต๊ะที่ตนใช้คำยัน น้ำหนักที่ไร้การผ่อนปรนทั้งสิ้นก็ส่งผลร้าย

     

    …!” ร่างสูงทรุดฮวบลงอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สองมือที่พยายามไขว่คว้าหาหลักยืดกลับคืนมาค้ำพยุงได้แต่ปัดเอาโต๊ะไม้งดงามตัวนั้นให้ล้มระเนลงมาด้วยกัน ข้าวของทั้งหมดบนโต๊ะเองก็ร่วงกราวเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย

     

    “เสี่ยวเทา!” แว่วเสียงตะโกนร้องจากข้างนอกของบิดา บางทีอาจจะเป็นเพราะเสียงล้มโครมครามที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อพริบตาที่ผ่านไป เสียงนั้นช่างเต็มไปด้วยความห่วงใยเข้มข้น เจือผสมความรักอาทรอันประมาณมิได้ ทว่านั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ

     

    ประตูห้องพักถูกเปิดออกอย่างร้อนรน ร่างสูงสมส่วนของบิดาถลาเข้ามาประคองบุตรชายที่ล้มนอนอยู่ท่ามกลางซากเศษข้าวของ

     

    จื่อเทาถูกอีกฝ่ายอุ้มประคองขึ้นมา และก็เป็นการกระทำเช่นนี้เองที่ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดไป ให้ที่สุดก็สามารถทุบทำลายหน้ากากกำแพงกำบัง เปิดเผยความอ่อนแอ ผิดหวัง ...ความไม่ยินยอมพร้อมใจ

     

    “พ่อ...”

     

    มือเรียวของชายหนุ่มกอบกุมชายเสื้อคนอายุมากกว่า ร้องเรียกเสียงเครือพร่าไหว

     

    “ผมขอโทษ...” ที่ทำให้เป็นห่วง ที่ทำให้ไม่สบายใจ...ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง...

     

    คุณฮวางลูบฝ่ามือลงกับแผ่นหลังสั่นระริกของบุตรชาย อีกมือข้างที่ว่างอยู่ปาดเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย กล่าวปลอบหลายต่อหลายคำว่ามันจะไม่เป็นไร...จะไม่เป็นไร...

     

    จื่อเทาแม้ได้ยินก็ยังคงส่ายหน้า

     

    เพราะความเย่อหยิ่งทะนงตัว ดื้อรั้นละเลยต่อสุขภาพร่างกาย ของขวัญแสนสมบูรณ์แบบที่บิดามารดามอบให้ในยามแรกลืมตา บัดนี้กลับถูกทุบทำลายเสียใช้การไม่ได้

     

    นักแสดงหนุ่มผู้ที่ครั้งหนึ่งถูกเรียกขานว่าเป็นมณีล้ำค่าในวงการมายาของแผ่นดินใหญ่... เวลานี้ได้แต่นอนเกลือกอยู่บนพื้น ทำได้เพียงคืบคลานไป...ราวกับหนอนแมลงไร้ค่าตัวหนึ่ง...

     

    ตัวเขาในเวลานี้ช่างน่าสมเพชนัก ไม่อาจนับเป็นความภาคภูมิใจ ...หรือจะพูดให้ตรงความหมาย บางทีอาจจะต้องกล่าวว่า...เป็นความผิดพลาด ความน่าอับอาย

     

     

     

    กลิ่นลมทะเลโชยมา

    ตอกย้ำผู้คนให้รู้สึกว่าแพ้พ่าย ให้ระลึกสำนึกในใจ

     

     

     

    ฮวางจื่อเทา... ลูกอกตัญญู




















    ---
    to be continue.
    ---



     

    #นับหนึ่งKT

     






    ตอนนี้อาจจะเศร้าไปบ้าง เพราะเล่าเรื่องผ่านในมุมของน้อง
    แต่ที่จริงฟิคนี้เป็นฟิคฉลองเนื่องในวาระอันดี
    ดังนั้นเคสสัญญาเลยว่า จะไม่ดราม่ามากเกินกว่าที่ควรนะครับ :)


    มาก้าวเดินไป เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ด้วยกันนะ 

    #BesideZitao #StillKT


     

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×