คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 0 - Backward
หมายเหตุ : เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ที่มีอยู่จริง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
[0]
กลิ่นลมทะเล
สายลมยามสายหอบพัดกลิ่นลมทะเลข้ามผ่านห้องโถงกว้างสำหรับรับรองแขกพัดเข้าปะทะกับใบหน้าคมคาย
ฮวางจื่อเทาปั้นหน้าเรียบนิ่งราวกับรูปสลัก กระทั่งแพขนตายังไม่สั่นไหว...ยามฟังเสียงพูดคุยของบิดากับแพทย์ที่ถูกเรียกให้มาดูอาการของตนจากบนเก้าอี้รถเข็นใหม่เอี่ยมหรูหรา
“อย่างที่ผมบอกไป...” นายแพทย์วัยกลางคนเกริ่นเสียงแผ่วเบาระมัดระวัง
“...พวกเราได้พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาไปแล้ว” ว่าคำนั้นออกมาแล้วจึงเงียบลง ทว่าก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม... คนที่ฟังอยู่ทั้งสองล้วนเข้าใจ
ผู้อ่อนวัยกว่ารู้สึกแน่นหน้าอก มือที่วางอยู่บนพนักแขนเลื่อนลงมาแตะสัมผัสบริเวณหัวเข่า ดวงตาเรียวคมงดงามปรากฏความเลื่อนลอยหนึ่งสาย ผู้เป็นบิดาเห็นท่าทีเช่นนั้นย่อมยิ่งกว่าเจ็บปวดใจ เขาสั่นศีรษะเป็นสัญญาณให้กับคนที่กำลังจะเอ่ยแจ้งรายละเอียดต่อไป ก่อนที่จะเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้กลับไปก่อนโดยไม่ต้องใช้คำพูด
“คุณจื่อเทายังโอกาสที่จะหายนะครับ...ยังมีโอกาสที่จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้...”
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ ก่อนที่จะแยกจากร่ำลา...
ฮวางจื่อเทาได้ยิน ทว่านั่นไม่ได้ทำให้ความอึดอัดที่ในอกบรรเทาเบาบางลงไป
คำว่าเหมือนคนปกติของนายแพทย์ผู้นั้น หรือเขาฟังไม่เข้าใจ... เพียงเท่านั้น แค่นั้น...สำหรับเขาในฐานะนักแสดงแล้ว เห็นที...คงจะไม่เพียงพอ
“เสี่ยวเทา...” น้ำเสียงการุณณ์ของบิดาเอ่ยเรียก ชายหนุ่มหลุบสายตาลง ความอึดอัดในใจยังไม่จางหาย ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังคงไร้อารมณ์ใด “พ่อคงต้องคุยกับเอเจนซี่...เรื่องงานของลูก”
น้ำคำซึมซาบลงในใจ ทำให้หัวใจที่สั่น ยิ่งไหวสะท้าน
จื่อเทาอยากเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ทว่าบางอย่างก็รั้งเสียงของเขาไว้ ทำให้มันเวียนวนอยู่บนปลายลิ้น แต่ไม่อาจล่วงผ่านออกมา ที่เขาทำได้ มีแต่การพยักหน้าลง เบือนหนีสีหน้าสายตาห่วงใยของบุพการี บังคับรถเข็นของตัวให้เคลื่อนถอย... หมุนกลับ
หัวหน้าครอบครัวตระกูลฮวางมองแผ่นหลังที่ลับหายเข้าไปในห้องพักผ่อนซึ่งจัดไว้ให้ของลูกชาย
สีหน้าแววตาปรากฏความสงสารอาดูรอันยากบรรยายให้ครบถ้วนด้วยอักษรหรือถ้อยคำ
กลิ่นลมทะเลโชยพัดเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดไว้
กลิ่นของบ้านเกิดที่เคยทำให้เขารู้สึกว่าปลอดภัยหายเหนื่อยล้า ...วันนี้ มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความแพ้พ่าย
ฮวางจื่อเทารู้สึกว่าตัวเองกำลังแพ้พ่าย
เขาเพิ่งอายุยี่สิบสอง อยู่ในวัยแห่งความทะเยอทะยานและความฝัน...แต่มัน...กำลังจะจบลง
เขายังจำได้ดี...พาดหัวข่าวขนาดใหญ่ข่าวนั้นในปลายเดือนเมษา
ประกาศถึงอาการบาดเจ็บของนักแสดงหนุ่มอนาคตไกล เอดิสัน ฮวาง ที่เกิดขึ้นระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ในเนื้อหาที่ขนาดตัวหนังสือลดหลั่นลงมา เป็นข้อความที่เขียนบ่งบอกถึงรายละเอียดของอาการ
ข้อเท้าและเอวของเอดิสันได้รับบาดเจ็บ เอ็นข้อเท้าที่ฉีกขาดถูกละเลยต่อการรักษาอย่างจริงจังมาเป็นเวลานาน รวมถึงบาดแผลน้อยใหญ่อื่นๆ บริเวณสะโพกและต้นขา การฝืนทนตลอดช่วงเวลาที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นในที่สุดก็ส่งผลเสียที่ร้ายแรงที่สุดแก่เขา...
ชายหนุ่มกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกขึ้นมาในลำคอ เรียวนิ้วทั้งห้าในมือขวากำรวบเข้าหากันเป็นหมัดก่อนจะทุบลงบนต้นขาของตัวเอง
เดินไม่ได้อีกแล้ว!
ความเจ็บร้าวเล่นปราดจากจุดที่ได้รับแรงกระแทกไปทั่วทั้งเรียวขา กระนั้นยังไม่สามารถสะกดข่มลบเลือนความรู้สึกเหมือนถูกควักหัวใจออกไปที่แผ่ขยายลุกลามอยู่กลางอก
ชายหนุ่มอ้าปาก ไม่มีกระทั่งเสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมา ทว่ามีน้ำตา...กำลังหลั่งริน
ฮวางจื่อเทาเพิ่งจะอายุยี่สิบสอง... ยังมีความทะเยอทะยานและความปรารถนาที่จะกระทำตามสิ่งที่ใฝ่ฝัน แต่ว่าตอนนี้ เวลานี้... ทุกสิ่งทุกอย่าง มันได้จบลงพังทลาย
คนพิการเดินไม่ได้ จะสามารถเป็นนักแสดงได้อย่างไร
หรือต่อให้เขารักษาจนหาย... ซึ่งไม่รู้จะต้องใช้เวลานานยาวนานเท่าไหร่ หนึ่งปี ห้าปี หรือสิบปี ...ต่อให้เขาหาย มันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป ...ไม่มี
“...อึก” ร่างสูงขยับโอนเอน ยืดตัวขึ้นเท้าแขนลงกับโต๊ะไม้ใกล้ๆ พยายามฝืนหยัดกายให้ยืนขึ้นจากรถเข็น
ยามแรกเหมือนทุกสิ่งจะเป็นไปได้ด้วยดี ทว่าเพียงเขาทิ้งน้ำหนักลง ความเจ็บปวดราวกับไขกระดูกถูกเข็มนับร้อยพันเล่มทิ่มแทงอยู่ก็จะตรงเข้ามาเล่นงาน การยืนอยู่นิ่งๆ ยังแทบเป็นไปไม่ได้ อย่าได้พูดถึงเรื่องการเดิน
ทันทีที่ฮวางจื่อเทากัดฟันปล่อยมือจากโต๊ะที่ตนใช้คำยัน น้ำหนักที่ไร้การผ่อนปรนทั้งสิ้นก็ส่งผลร้าย
“…!” ร่างสูงทรุดฮวบลงอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สองมือที่พยายามไขว่คว้าหาหลักยืดกลับคืนมาค้ำพยุงได้แต่ปัดเอาโต๊ะไม้งดงามตัวนั้นให้ล้มระเนลงมาด้วยกัน ข้าวของทั้งหมดบนโต๊ะเองก็ร่วงกราวเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย
“เสี่ยวเทา!” แว่วเสียงตะโกนร้องจากข้างนอกของบิดา บางทีอาจจะเป็นเพราะเสียงล้มโครมครามที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อพริบตาที่ผ่านไป เสียงนั้นช่างเต็มไปด้วยความห่วงใยเข้มข้น เจือผสมความรักอาทรอันประมาณมิได้ ทว่านั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ
ประตูห้องพักถูกเปิดออกอย่างร้อนรน ร่างสูงสมส่วนของบิดาถลาเข้ามาประคองบุตรชายที่ล้มนอนอยู่ท่ามกลางซากเศษข้าวของ
จื่อเทาถูกอีกฝ่ายอุ้มประคองขึ้นมา และก็เป็นการกระทำเช่นนี้เองที่ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดไป ให้ที่สุดก็สามารถทุบทำลายหน้ากากกำแพงกำบัง เปิดเผยความอ่อนแอ ผิดหวัง ...ความไม่ยินยอมพร้อมใจ
“พ่อ...”
มือเรียวของชายหนุ่มกอบกุมชายเสื้อคนอายุมากกว่า ร้องเรียกเสียงเครือพร่าไหว
“ผมขอโทษ...” ที่ทำให้เป็นห่วง ที่ทำให้ไม่สบายใจ...ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง...
คุณฮวางลูบฝ่ามือลงกับแผ่นหลังสั่นระริกของบุตรชาย อีกมือข้างที่ว่างอยู่ปาดเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย กล่าวปลอบหลายต่อหลายคำว่ามันจะไม่เป็นไร...จะไม่เป็นไร...
จื่อเทาแม้ได้ยินก็ยังคงส่ายหน้า
เพราะความเย่อหยิ่งทะนงตัว ดื้อรั้นละเลยต่อสุขภาพร่างกาย ของขวัญแสนสมบูรณ์แบบที่บิดามารดามอบให้ในยามแรกลืมตา บัดนี้กลับถูกทุบทำลายเสียใช้การไม่ได้
นักแสดงหนุ่มผู้ที่ครั้งหนึ่งถูกเรียกขานว่าเป็นมณีล้ำค่าในวงการมายาของแผ่นดินใหญ่... เวลานี้ได้แต่นอนเกลือกอยู่บนพื้น ทำได้เพียงคืบคลานไป...ราวกับหนอนแมลงไร้ค่าตัวหนึ่ง...
ตัวเขาในเวลานี้ช่างน่าสมเพชนัก ไม่อาจนับเป็นความภาคภูมิใจ ...หรือจะพูดให้ตรงความหมาย บางทีอาจจะต้องกล่าวว่า...เป็นความผิดพลาด ความน่าอับอาย
กลิ่นลมทะเลโชยมา
ตอกย้ำผู้คนให้รู้สึกว่าแพ้พ่าย ให้ระลึกสำนึกในใจ
ฮวางจื่อเทา... ลูกอกตัญญู
---
to be continue.
---
#นับหนึ่งKT
ตอนนี้อาจจะเศร้าไปบ้าง เพราะเล่าเรื่องผ่านในมุมของน้อง
แต่ที่จริงฟิคนี้เป็นฟิคฉลองเนื่องในวาระอันดี
ดังนั้นเคสสัญญาเลยว่า จะไม่ดราม่ามากเกินกว่าที่ควรนะครับ :)
มาก้าวเดินไป เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ด้วยกันนะ ♥
#BesideZitao #StillKT
ความคิดเห็น