คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Judge II : The emperor of St.prinion.
The Judge II : The emperor of St.prinion.
วันนี้วันบ้าอะไรเนี่ย...
วันนี้ทั้งวันฉันโดน‘มีมี่’ผู้ฉิงที่คุณลุงเรียกมาลากเข้าๆออกๆตามร้านขายเสื้อผ้าผู้ชาย จนมือฉันเต็มไปด้วยถุงช็อปปิ้งจากร้านสารพัดร้าน ดีนะที่คนออกเงินเป็นคุณลุงไม่ใช่ฉัน เฮ้อ...ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพปลงตกแล้วล่ะ Y-Y
“คุณน้องขา พี่ว่าเรายังขาดอะไรไปอย่างนะค่ะ”
มีมี่ว่าพลางมองขึ้นมองลงที่ตัวฉัน ก่อนจะหยุดลงตรงที่หน้าอก -///- ฉันเบนตัวหนี อย่าบอกนะว่าพี่เค้าจะให้ฉันไปผ่าตัดเอามันออกอ่ะ -O-
“มะ...มีอะไรยังไม่ได้ซื้ออีกหรอ -///-”
“พี่นึกออกแล้ว!!^^ เรายังไม่ได้ซื้อสเตย์รัดหน้าอกให้คุณน้องเลย ขืนคุณน้องเข้าไปที่ปราสาทนั่น โดยไม่ใส่ไว้ล่ะก็ เขาคงรู้กันหมดแน่^o^”
แง~ก็แม่ให้มานี่ค่ะ ไม่นึกว่ามันจะทำให้เดือดร้อน (ออกจะเรียบซะ...)
หลังจากที่ฉันโดนลากไปซื้อของที่เหลือแล้ว ร่างฉันก็โดนกระชากลากถูมาที่จุดหมายสุดท้ายที่เรียกว่า
ร้านตัดผม...
กรี๊ดดดด!!!ให้ตายก็ไม่เข้า ใครก็ได้ช่วยด้วย~~~
ฉันได้แต่กรี๊ดอยู่ในใจเมื่อมีมี่ลากฉันเข้าไปในร้านด้วยแรงอันช้างสารของหล่อน เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงส่งผู้ฉิงมาแทนTOT
ร่างอันบอบบางของฉันถูกกดลงบนเก้าอี้ตัดผม แล้วพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งก็ออกมายิ้มทักทายมีมี่ที่ยืนคุมฉันอยู่ แล้วมีมี่ก็หยิบนิตยสารที่ไหนมาก็ไม่รู้แล้วชี้ไปในนั่น พลางมองมาทางฉัน ตายแน่ ไพน์ตายแน่!! ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าเหรอหราเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเมื่อมีมี่พยายามอธิบายบางอย่างกับเธอ
“ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ งานนี้‘หล่อ’แน่”
เธอหยิบกรรไกรตัดผมขึ้นมาแล้วมองทรงผมตามนิตยสารที่วางอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันมองตาม นั่นมัน...ลีจุนกินี่น่า กรี๊ด!หล่อ แต่เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า ฉันต้องตัดทรงนี้อ่ะ ม่ายยยยยย!!!
ฉับ!!
เสียงกรรไกรตัดผ่านผมอันเงางามของฉันทำให้ฉันแทบร้องไห้เป็นสายเลือด แง~~~! แล้วฉันก็ไม่รับรู้อะไรอีก เมื่อเสียง‘ฉับ’นั่นดังก้องอยู่ในหัวของฉันจนแทบบ้าตาย...TOT
“หล่อจัง”
เสียงมีมี่เพ้อออกมาทำให้วิญญาณฉันเข้าร่างหลังจากหลุดลอยออกไปนานว่ายี่สิบนาที
อะไรหว่า ใครหล่อเนี่ย แล้วสายตาของฉันก็ไปสบกับนัยน์ตาสีอัลมอนด์ของหนุ่มน้อยน่ารักคนนึง สงสัยคนนี้แน่ๆเลย เอ๊ะ เขาทำหน้างงด้วยล่ะ ผมสีอัลมอนด์นั้นซอยสั้นเป็นทรงเหมือนนายแบบเกาหลี หน้าสวยหวานน่ารัก แต่ทำไมมันรู้สึกคุ้นๆอยู่นะ ฉันยกมือขึ้นเกาหัว แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นยกตาม เดี๋ยวนะ...สมองเริ่มเรียบเรียงได้ แล้วความทรงจำล่าสุดก็เข้ามา
ฉันถูกตัดผม!
สมองสั่งให้ฉันชี้หน้านายคนนั้นทันที ปรากฏว่าเขาชี้กลับมาด้วยหน้าตาแบบอึ้งสุดๆ
“นั่นมันฉันนี่!!!OoO;;”
“ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วค่ะคุณน้อง เราต้องรีบกลับโรงเรียนนะคะ”
ฉันที่ยังช็อกไม่หายถูกลากตัวไปที่ห้องน้ำของร้าน หนึ่งในชุดที่เพิ่งซื้อมาถูกยัดใส่มือ แล้วหล่อนก็ผลักฉันเข้าไปในห้องน้ำ
“รีบเปลี่ยนเร็วๆหน่อยนะคะ”
ฉันต้องจำใจเปลี่ยน ให้ตายสิ รู้สึกไม่ชินยังไงก็ไม่รู้ ฉันเดินออกมาในชุดเสื้อไหมพรมสีขาวแขนยาว(ร้อนเว่อร์ YoY)กับกางเกงสแลคสีดำ มี่มี่บอกว่าเพื่อความเท่และดูเหมือนกลับมาจากเมืองนอกจริง แต่ฉันอยากจะบอกว่ามันโคตรร้อนเลยอ่ะToT
“นี่คุณน้องไพน์ขา พี่ว่าคุณน้องต้องรับศึกหนักหน่อยนะค่ะ”
มีมี่พูดขึ้นเมื่อเรานั่งอยู่บนรถที่คุณลุงสั่งให้ใช้รับส่งฉัน
“ทำไมหรอค่ะ”
“อย่าพูดค่ะขาสิ ต้องพูดครับ เอาให้ดูแมนๆด้วยนะ”
“เอ่อ ทำไมหรอ..คะ..ครับ!”
อ๊าย!พูดไปแล้ว ให้ตายสิกระดากปากชะมัด แต่เอาเถอะ ฉันควรจะทำตัวให้ชินเอาไว้
อัลไพน์สู้ๆ!
“ให้ได้อย่างนี้สิค่ะ ที่หมายบอกว่าศึกหนักก็เพราะหนุ่มๆกลุ่มจักรพรรดิน่ะ หล่อ เท่บาดใจนะสิค่ะ ว๊ายๆพี่พูดแล้วเขิร์ลลล*//o//*”
พี่เขินได้น่ากลัวมากเลยรู้ตัวป่ะ?
“แต่พี่เตือนคุณน้องไว้ก่อนนะคะ ว่าอย่าไปยุ่งกับเซเฟอร์นะ รายนั้นน่ากลัวมาก ถึงจะหล่อก็เถอะค่ะ อ้อ แล้วยังมีฟอร์เรส รายนี้ระวังไว้ด้วยค่ะ เค้าชอบขโมยหัวใจสาวๆทั้งสาวแท้และสาวเทียม โดยเฉพาะสาวสุดเซ็กซี่อย่างพี่ ^o^โฮะๆ”
โอเค งั้นฉันคงต้องระวังสองคนนี้ไว้เป็นพิเศษ โชคดีที่อีกสองคนคงไม่อันตรายมากนัก =.=
“อืม แต่พี่ว่าพรีสกับฮาเซลก็ควรระวังไว้ด้วยนะค่ะ พรีสนะเขาชอบเล่นอะไรแผลงๆ แถมฮาเซลก็ชอบมีเรื่องบ่อยๆ สองรายนี้พี่ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าอย่าไปมีเรื่องด้วยเด็ดขาด >o<!!”
เอ่อ...อย่างนี้มันก็อันตรายหมดทั้งกลุ่มเลยอ่ะดิ >[]<!!
แล้วฉันจะทำไงดีเนี่ย ให้ตายเถอะ ขืนความลับแตกขึ้นมาฉันไม่โดนนายฮาเซลกับพรีสอะไรนั่นฆ่าหมกป่าเอาเลยรึไง TOT โอ้ไม่นะ ใครก็ได้พาฉันกลับลอนดอนที~~
“เอ่อ แล้วเรากำลังจะไปไหนหรอ..ครับ”
ฉันถามเสียงเบา เพราะว่าเราออกมาจากห้างได้สักพักแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยิน รถคันนี้ไม่รู้ว่ากำลังจะพาฉันไปส่งที่ไหน เมื่อกี้รถเพิ่งผ่านเข้ามาในโรงเรียน ทำให้ฉันรู้ว่าที่นี่กว้างแบบสุดๆ แต่เอ๊ะ นั่นมันตึกอะไรนะ ทำไมไฟยังเปิดสว่างอยู่เลย แถมยังหันหน้าเข้าหากันทั้งสองตึกด้วย
“นั่นตึกอะไรหรอครับ ทำไมไฟยังเปิดอยู่เลย”ฉันถามเสียงดังขึ้น
“นั่นมันหอพักนักเรียนนะ สีฟ้านะหอหญิง ส่วนสีครีมที่อยู่ตรงข้ามเป็นหอชายจ๊ะ”
มีมี่ตอบแล้วกลับไปมองทางอีกครั้ง ตอนนี้ก็หกโมงเย็นแล้วด้วย ลองสังหรณ์กำลังบอกฉันว่ามันต้องมีเรื่องซวยๆเกิดขึ้นอีกชัวร์! แต่เอาเถอะ วันนี้ฉันโดนอะไรมาเยอะแล้ว ทั้งถูกหาว่าเป็นผู้ฉิง (คิดไปได้) โดนตัดผม มันจะมีเรื่องอะไรก็ปล่อยมันเถอะ อาเมน U_U (เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วเหลือเชื่อ -_-^^)
“แล้วเรากำลังจะไปที่ไหนหรอครับ”ฉันถาม แล้วครั้งนี้ก็ได้คำตอบ
“ไปที่ The snow castle กันไง ที่ที่คุณน้องจะต้องไปพักตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ว่าไงนะ!! จะไม่ให้เตรียมตัวเตรียมใจกันก่อนเลยรึไง
“นั่นไงถึงแล้ว^o^”
ฉันที่ได้ยืนเสียงมีมี่พูดรีบเงยหน้าขึ้นทันที OoO! พระเจ้า นั่นมันหอพักแน่หรอเนี่ย อะไรจะอลังการงานสร้างซะขนาดนั้น !
คฤหาสน์สีขาวล้วนตั้งตระง่านอยู่หลังรั้วสูง สร้างความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในปราสาทราชวังแถบยุโรปเมื่อร้อยปีก่อนเลย ด้านหน้าเป็นสนามหญ้าสีเขียวสดที่ปลูกดอกกุหลาบสีแดงตัดกับสีขาวของปราสาทได้ดีแบบสุดๆ ให้ตายเถอะ ที่นี่เหรอที่ฉันปองมาสู่~(นั่นมันบทของพจมาน-บ้านทรายทองแล้ว!!) เอาเข้าไปเจอของสวยๆงามๆหน่อย ฉันก็เกิดอาการวิญญาณออกจากร่างอีกแล้ว -_-;;
“ลงได้แล้วค่ะ อ้อ อเนก นายไปเอากระเป๋าลงให้คุณชายด้วย”
“ครับ”แล้วลุงคนขับรถก็เดินลงไป
“ขอให้คุณน้องโชคดีนะคะ พี่จะไม่ลงไปด้วย พอดีมีคนหล่อๆกำลังรออยู่^^”
“ขอบคุณค่ะ ToT”
ฉันกำลังจะก้าวลงจากรถ มือใหญ่ของมีมี่ก็คว้าที่ต้นแขนฉัน ทำให้ฉันหันไปมอง มีไรอีกป่ะเนี่ย? แล้วหล่อนก็หยิบอะไรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“นี่เป็นมือถือพร้อมซิมที่เอาไว้ใช้ตอนอยู่ที่นี่นะ ท่านบอกให้พี่เติมเงินให้คุณน้องไปแล้วห้าร้อย แล้วก็พี่เมมเบอร์ของพี่กับท่าน รวมทั้งเบอร์ที่เคยอยู่ในมือถือคุณน้องให้เรียบร้อยแล้วนะค่ะ”แล้วหล่อนก็วางมือถือใส่มือของฉัน แล้วบีบมันเบาๆ
“คุณน้องต้องระวังตัวให้มากนะคะ เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มที่เรียกได้ว่าอันตรายที่สุดของโรงเรียนแล้ว”
ฉันควรจะซึ้งหรือวิ่งหนีกลับบ้านดีเนี่ย YoY
“ไพน์จะดูแลตัวเองค่ะ”
ฟิ้ว~~
เสียงลมพัดผ่านตัวฉันไปเป็นรอบที่สามหลังจากที่รถคันนั้นจากไปประมาณเกือบสิบนาที ก็ฉันไม่กล้าเข้าไปนี่น่า เอาไงดี ขืนยืนอยู่อย่างนี้ พรุ่งนี้ฉันก็ไม่ต้องไปไหนพอดีนะสิ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ให้มันรู้ไปเลยว่า อัลไพน์คนนี้จะทำไม่ได้ ฉันอุตส่าห์ได้รางวัลชนะเลิศจากชมรมการแสดงติดต่อกันสามปีรวดมาแล้วนะ สู้ ^O^V
ฉันเดินเข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู แต่เมื่อฉันกำลังจะเคาะมัน ประตูใหญ่สีขาวก็เปิดออกจากข้างในด้วยฝีมือใครบางคน
“ฉันนึกว่านายจะไม่ยอมเข้ามาแล้วซะอีก -_-”
คนที่เปิดประตูให้ฉันเป็นคนพูด เขาเป็นผู้ชายที่สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบห้ามั้ง? ผิวขาว ผมสีน้ำตาลทองคล้ายไฮเฟน นัยน์ตาสีฟ้าที่มองฉันด้วยอารมณ์แบบเซ็งๆ ดูหน้าแล้วฉันสามารถบอกได้เลยว่า หมอนี่คงเป็นคนแรกที่ฉันสามารถเตะเขาๆได้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก -_-^^
“ขอบคุณ แต่ฉันก็เข้ามาแล้ว นายช่วยหลบด้วย หนัก!”
ฉันแกล้งกระแทกกระเป๋าเดินทางใกล้ๆเท้าของเขา จนเขาสะดุ้ง ก่อนจะลากกระเป๋าเดินเข้าไปข้างในซึ่งเป็นห้องรับแขก หึ คิดว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว
แล้วฉันก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อ...
ตัวอันตรายอีกสามคนที่เหลือกำลังอยู่ตรงหน้าฉัน!!
คนแรกกำลังนั่งพันผ้าพันแผลที่ข้อมือซ้ายอยู่ เขามีผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันช้าๆด้วยนัยน์ตาสีฮาเซล หวาน่ากลัวอ่ะ หมอนี้ต้องชื่อฮาเซลชัวร์ >o<! คนที่สองกำลังยืนพิงแขนเก้าอี้โซฟาแล้วเดินเข้ามาใกล้ฉัน มือเรียวนั่นคว้าไหล่ฉันไปโอบ
“โธ่ พรีส นายต้อนรับปรินซ์เซสคนใหม่ของเราด้วยวิธีไม่น่ารักเลยนะ ดูสิ เขาตกใจหมดเลย^^”
ฉันสะบัดตัวออกมา เขายิ้มน้อยๆ ผมสีเงินที่รวบไว้ด้านหลังของเขาทำให้ฉันต้องรี่ตาลง นัยน์ตาสีน้ำเงินคู่สวยมองฉันอย่างเป็นมิตร ให้ตายเถอะ!เขาเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาเหมือนฉันหรือเปล่าเนี่ย หมอนี่หน้าสวยกว่าผู้หญิงบางคนอีก (ยกเว้นฉัน ^O^) แล้วยังผมสีเงินแปลกๆนั่นอีก
“ฉันไม่ได้ตกใจ-_-”
“งั้นต้องขอโทษด้วย ฉันชื่อฟอร์เรส เป็นควีนคนปัจจุบันของที่นี่ ไอ้ปากหมาที่เพิ่งทักทายนายไปก็ พรีส เขาเป็นเจ้าชายของเรา ส่วนนั่นก็ฮาเซล ไนท์ที่เก่งที่สุดของกลุ่มจักรพรรดิ สุดท้ายก็...”
เขาลากเสียงแล้วหันไปมองคนที่ฉันรู้สึกไม่อยากยุ่งด้วยมากที่สุด
“เซเฟอร์ คิง ผู้รั้งตำแหน่งผู้พิพากษาที่เด็ดขาดที่สุดแห่งเซนต์พรีนีออน”
ฟอร์เรสเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับเขาที่กำลังยืนอยู่ตรงบันไดขนาดใหญ่ที่อยู่หลังโซฟายาวสำหรับขึ้นไปชั้นสอง เขามีผมสีดำสนิทกับนัยน์ตาสีเทาที่ดูยังไงหมอนี่ก็น่ากลัว
เหมือนที่มีมี่พูดจริงๆ...
“อย่าพูดมากน่า ฟอร์เรส”พรีสท้วง
“^----^”
“นายชื่ออะไร^^”
ฮาเซลที่ทำแผลเสร็จก็เดินเข้ามาร่วมวง เขายิ้มนิดด้วยล่ะ พระเจ้า! ผีดิบยิ้มได้!!
“อัลไพน์”
“ชื่อน่ารักดีนี่”
แล้วหลังจากนั้น ฉันก็ถูกพวกเขาพาไปนั่งคุยที่โซฟาแทน เพราะพรีสบ่นว่าเมื่อย- - แล้วฉันก็ได้รู้ความจริงว่าฮาเซลนะที่จริงไม่น่ากลัวหรอก เพราะเขายิ้มบ่อยกว่าไอ้เจ้าชายที่นั่งข้างๆตั้งเยอะ ส่วนฟอร์เรสไม่ต้องพูดถึง หมอนี่ยิ้มเสียจนฉันอยากจะถามว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ยาสีฟันหรือไง ยิ้มกันจริง-*- เมื่อกี้ฟอร์เรสแอบบอกฉันว่าฮาเซลน่ะเป็นคนขี้เล่น แต่ต้องเก๊กขรึมเอาไว้เฉยๆ เล่นเอาฉันงงไปเลย *-*
พวกเขาถามฉันแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่ฉันมาจากไหน อายุเท่าไหร่ เป็นอะไรกับผู้อำนวยการของเขา (ก็คุณลุงนั่นแหละ) จนไปถึงว่า...
“ตกลงนายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?”
พรีสถามขึ้นมา ฉันแทบตกโซฟาเลย หรือว่าหมอนี่จะรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง >O< ไม่นะ ฉันก็จัดการทุกอย่างให้เหมือนผู้ชายแล้วนี่ ฉันเริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมาทันที
“ถามอะไรอย่างนั้นล่ะพรีส อัลไพน์เขาเป็นหลานชายของผอ.นะเว้ย ถึงจะ...หน้าหวานไปหน่อยก็เถอะ”
ฟอร์เรสพูดพลางชะงักที่ประโยคสุดท้ายของตัวเอง ไม่ได้การล่ะ ฉันตายแน่ ต้องรีบตอบ...
“ฉันเป็นผู้ชาย!!/พวกนายจะคุยกันอีกนานมั้ย!?”
กึก!
เสียงทุ้มทว่าทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกดอยู่ที่พนังพิงโซฟาตรงที่ฉันนั่งอยู่ ฉันหันกลับไปมอง ก่อนจะรู้ตัวว่ากำลังทำให้ตัวเองซวยสุดๆ เมื่อสบกับนัยน์ตาสีเทาคู่นั้น อ๊าก!!!น่ากลัวกว่าฮาเซลอีกอ่ะ
ฉันเด้งตัวออกโดยอัตโนมัติ แล้วเซเฟอร์ก็กระโดดข้ามโซฟา(และหัวของฟอร์เรส)มานั่งตรงที่ที่ฉันเคยนั่ง เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย...
“ขอบใจ-_-”
“o[]o”
เขา...โอ๊ย! ไอ้คิงบ้า คิดว่าตัวเองใหญ่นักหรือไงห่ะ ตอนนี้ฉันคิดว่าพรีสดูเป็นเด็กอมมือไปเลยเมื่อเจอกับเขา ถึงว่าพรีสเป็นแค่เจ้าชาย แต่เซเฟอร์เป็นคิง ดังนั้นมันต้องยกกำลังสอง!! (คิดไปได้...)
“ฉันไม่ได้ลุกให้นายนั่งนะ เซเฟอร์”
“แต่ฉันกำลังนั่งอยู่ อัลไพน์”เขาพูดหน้าตายสุดๆ
กรี๊ดดดด!!! เป็นผู้ชายที่หน้าด้านที่สุด ตอนนี้ฉันแทบอยากจะลากเซเฟอร์มาอัดให้น่วมเลยจริงๆ!!
“ใจเย็นๆน่าอัลไพน์ เซเฟอร์มันแค่ล้อเล่น ^^;”
“เงียบไปเลยนะฟอร์เรส-_-^”
“ง่ะ”
“ฉันมีอะไรจะถามนายหน่อย”เขาพูด
“เฮ้ย!!อย่าเพิ่งดิเซเฟอร์ ฉันยังไม่ได้...”
แล้วฮาเซลก็ต้องเงียบลงเมื่อเซเฟอร์หันไปมองด้วยสายตาเย็นเยียบ พรีสนั่งเงียบ ส่วนฟอร์เรสก็พยายามยิ้มแบบเป็นกำลังใจมาให้ฉัน
“นายมีอะไรก็ว่ามา”ฉันตอบรับ
เขาเงียบไปนิด ก่อนจะถามขึ้น
“นายชอบซ้ายหรือขวา?”
“หา...?”ถามอะไรของเขาน่ะ
“ฉันถามนายว่าชอบซ้ายหรือขวา?”
เขาย้ำอีกครั้งอย่างหนักแน่น+รำคาญ
ฉันเงียบไป เซเฟอร์ต้องการให้ฉันตอบเพื่ออะไร ท่าทางเขาจะไม่เต็มนะเนี่ย เอาไงดี ซ้ายหรือขวา ซ้ายหรือขวา ซ้ายหรือขวา สำนวนไทยเขาบอกว่าไงนะ ขวาร้ายซ้ายดีใช่ป่ะ งั้นเอาซ้ายดีกว่า >o<
อืม...แต่เซเฟอร์เป็นตัวร้ายนี่น่า งั้นก็...
“ขวา!”
ฉันตอบอย่างมั่นใจ แต่ว่าก็ต้องงเมื่อเห็นเพื่อนอีกสามคนพร้อมใจกันทำหน้าเหมือนกับว่านรกแตก โดยเฉพาะฟอร์เรสที่พยายามพูดเป็นภาษาใบ้ว่า ‘ซ้ายๆ’ ฉันมองไปที่เซเฟอร์ เขายิ้มมุมปากอีกแล้ว น่าเตะจริงๆ -_-^
“นายแน่ใจ?”
“Certainly!!(แน่นอน) ^O^”
“นายเปลี่ยนใจได้นะ อัลไพน์”พรีสรีบพูดออกมาอย่างขรึมๆ
“นายจะถามอะไรนักหนา ฉันบอกว่าขวาก็ขวาสิ อย่าถามมากได้ป่ะ!?”
ฉันโวยบ้าง ก็ฉันเริ่มรำคาญแล้วนี่น่า ฉันก็แค่ต้องแสดงให้เห็นว่า ‘ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น’ ตามที่มีมี่แอบกระซิบมา โฮะๆ ^o^
“งั้นก็ดี”
“แล้วตกลงนายถามฉันไปเพื่ออะไรเนี่ย?”ฉันถามเขา
“เลือกห้องนอน”
หืม? ห้องนอน ต้องเลือกด้วยหรอ?
“ที่นี่ห้องนอนจะอยู่ที่ชั้นสอง และอย่างที่นายเห็นมันแบ่งเป็นสองฝั่ง ซ้ายกับขวา ซึ่งฝั่งที่นายเลือกคือขวา ก็แค่นั้น”
เขาตอบด้วยใบหน้าที่คล้ายกับรองเท้าที่บ้านฉัน(น่าเอาไปเหยียบเล่น -_-^^)
โครม!
เสียงการกระแทกอะไรบางอย่างดังมาจากข้างนอกปราสาท ทุกคนหันไปมอง เซเฟอร์ขมวดคิ้ว แล้วจ้องหน้าฉัน ฉันรู้ว่าฉันสวย แต่ไม่ต้องมองมากก็ได้ เดี๋ยวสึกหมด (เกี่ยวกันมั้ย?)
พรวด!
แล้วจู่ๆเซเฟอร์ก็ลุกขึ้นมาตรงหน้าฉันพอดี ฉันก้าวถอยหลังอย่างลืมตัว แล้วเขาก็เดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันที่วางอยู่ข้างประตู แล้วลากมันมาใส่ไว้ที่มือฉัน ทุกคนทำหน้าเหวอ
“เดี๋ยว!”ฮาเซลร้องลั่น
หมับ!!
มือใหญ่ของคนที่ยืนอยู่ข้างๆยื่นมาคว้ามือฉันไป แล้วเซเฟอร์ก็ลากฉันเดินขึ้นไปข้างบนทันที
“เฮ้ย! นายจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!!”
“รีบ‘จัดการ’ทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วไปเข้านอนเลย พรุ่งนี้มีประชุมเช้ากับสภาเก้าโมง!”
เซเฟอร์ไม่สนใจฉัน เขาพูดขณะที่มือนั้นกุมข้อมือฉันที่พยายามสะบัดเอาไว้แน่น เขาเลี้ยวขวาจากบันได ตรงไป เลี้ยวซ้าย แล้วฉันก็ได้ยินเสียงพรีสตะโกนลั่นชั้นล่าง
“ฟอร์เรส นายเป็นควีนรีบตามไปสิ ข้างล่างฉันกับฮาเซลจัดการเอง!”
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ความคิดเห็น