ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic One piece]การเป็นพ่อเด็กเนี่ยไม่ง่ายจริงๆ

    ลำดับตอนที่ #7 : ความสัมพันธ์ของลูฟี่และการเจอกลุ่มโจรสลัดผมแดง

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 66


    หลายวันที่ผ่านมานี้เขาต้องใช้ชีวิตกลับไปกลับมาระหว่างหมู่บ้านชิโมซึกับหมู่บ้านฟูชาเพื่อมาสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเอสกับซาโบ้บอกเลยว่าสองคนนั้นสนิทกับเขาเร็วมากไม่รู้ทำไมเหมือนกัน บ้างที่สองคนนั้นอยากให้เขาสอนเรื่องการต่อสู้กับศัตรูบ้าง การล่าสัตว์บ้างเป็นครั้งคราว เขาก็ให้คำปรึกษากับอีกฝ่ายและสอนภาพปฏิบัติให้พวกเขาทั้งสองได้ดู ทั้งสองก็ปฏิบัติตามที่เขาได้สอนแล้วลองเอาไปใช้กับศัตรูมันก็ได้ผลแต่ก็มีบาดแผลกลับมาบ้างก็เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่พึ่งได้รับคำแนะนำแล้วได้ลองเอามาปรับใช้จริง

    เวลาที่เขามาหาเอสกับซาโบ้ เขาก็จะทำกับข้าวใส่กล่องมาให้ทั้งสองกินกันบอกเลยว่าทั้งสองชอบอาหารฝีมือของเขามาก ส่วนโซโรลูกของเขาก็มีร่างแยกของเขาค่อยช่วยดูแลโซโรเวลาที่เขาไม่ได้อยู่หมู่บ้านชิโมซึ ทำให้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงเรื่องของโซโรอีก 

    แหละวันนี้ก็เช่นกันวันที่เขาวาร์ปมาที่หมู่บ้านฟูชาอีกครั้งแต่วันนี้เขาไม่ได้มาหาเอสกับซาโบ้นะแต่เขามาหาลูฟี่ต่างหากหลานชายของกราป์กองทัพเรือและเป็นลูกชายของดราก้อนคณะปฏิวัติ 

    เขาเดินตามทางของหมู่บ้านไปจนถึงร้านของมากิโนะ ที่ตอนนี้ดูเหมือนยังไม่มีใครเข้ามาในร้านเลย เขาเดินเข้าไปในร้านสำรวจรอบๆของร้านไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆก็มีคนเรียกเขาขึ้น

    “สวัสดีคะคุณลูกค้าพอดีว่าร้านของเรายังไม่เปิดเลยนะคะ ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะให้คุณลูกค้าเชิญนั่งอยู่ตรงที่หน้าเคาน์เตอร์หน่อยได้ไหมคะ”มากิโนะ

    “อ๋อ~ได้สิครับ”คาคาชิ

    “ยังไงก้อต้องขอโทษด้วยนะคะที่ร้านของเราเปิดไม่ทันลูกค้านะคะ”มากิโนะ

    “เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับพอดีผมแค่มาแวะที่ร้านของคุณเฉยๆแค่อยากมาสำรวจร้านของคุณนะครับ”คาคาชิ

    “อย่างงั้นหรอคะ”มากิโนะ

    “ใช่ครับ ผมชื่อฮาตาเกะ คาคาชิ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”คาคาชิ

    “ฉันชื่อ มากิโนะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ”มากิโนะ

    “คุณคาคาชิคะ คุณอยากดื่มน้ำอะไรก่อนไหมคะ”มากิโนะ

    “งั้นผมขอเป็นไวน์หนึ่งแก้วได้ไหมครับ”คาคาชิ

    “ได้เลยคะ”มากิโนะ

    หลังจากนั้นมากิโนะก็เสิร์ฟไวน์ให้เขาหนึ่งแก้วแล้วก็ขอตัวไปจัดร้านของตัวเองต่อ เขาก็ไม่เห็นได้ว่าอะไร หลังจากที่มากิโนะไปจัดร้านของตัวเองแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงเอะอะวุ่นวาย

    ออกมาจากข้างนอกร้านว่่ามีเรือของโจรสลัดแล่นมาทางนี้

    “หึ เริ่มมาแล้วสินะกลุ่มโจรสลัดผมแดง แชงคูส”คาคาชิ พูดเบาเบา

    “คุณคาคาชิคะ เกิดอะไรขึ้นกับข้างนอกหรอคะพอดีว่าฉันได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกนะคะ”มากิโนะ

    “เหมือนมีคนเห็นเรือของโจรสลัดกำลังแล่นตรงมาทางนี้ เขาก็เลยตะโกนเรียกให้ทุกคนมามุงดูกันอยู่นะ คุณมากิโนะอยากจะไปดูด้วยกันไหมครับ”คาคาชิ

    “ฉันก็อยากไปดูอยู่หรอกคะแต่ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าพวกเขาเหล่านั้นจะโจมตีหมู่บ้านของเราไหม ฉันกังวลนะคะคุณคาคาชิ”มากิโนะ

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณมากิโนะผมมั่นใจว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่โจมตีหมู่บ้านของเราหรอกครับ”คาคาชิ

    “คุณเอาอะไรมามั่นใจได้อย่างไรคะคุณคาคาชิ ว่าพวกเขาจะไม่ทำร้ายหมู่บ้านของเรา”มากิโนะ

    “ผมมั่นใจเพราะสัญชาตญาณของผมมันบอกนะครับคุณมากิโนะ”คาคาชิ

    “ถ้าคุณคาคาชิว่าอย่างงั้นฉันก็มั่นใจขึ้นมานิดนึงงั้นเราก็ไปดูกันเถอะคะ”มากิโนะ

    หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดิน ไปดูข้างนอกที่คนในหมู่บ้านมุงดูกลุ่มของโจรสลัดที่แล่นเรือเข้ามาใกล้ถึงฝั่งของเกาะแล้ว

    กัปตันของกลุ่มโจรสลัดผมแดงอย่าง แชงคูส ก็ทำการเดินลงจากเรือเพื่อมาคุยกับผู้ใหญ่บ้านว่ากลุ่มของตนเองนั้นไม่ได้มาที่นี่ เพื่อมาทำร้ายหมู่บ้านแห่งนี้แต่แค่มาพักอาศัยอยู่ชั่วคราวมาซื้อเสบียงเก็บตุ๋นแล้วกลับเรือออกไปอย่างสวัสดิภาพโดยไม่มีการทำร้ายใดทั้งสิ้นให้ปากคำกับผู้ใหญ่บ้านอย่างจริงใจ

    ผู้ใหญ่บ้านคิดอยู่ซักพักว่าจะให้พวกเขาพักอาศัยอยู่ที่นี้ชั่วคราวดีไหม คิดไปคิดมาซักพักก็อนุญาตให้พวกเขาพักอาศัยอยู่ที่นี้ได้ แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากคนในหมู่บ้านว่าให้พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี้มันจะดีหรอ 

    แต่ก็โดนเสียงผู้ใหญ่บ้านสวดกลับไปอย่างจริงจังว่า คำพูดไหนที่ฉันพูดออกไปแล้วนั้นถือว่าฉันอนุญาตคนเหล่านี้พักอาศัยอยู่ได้และไม่มีการคัดค้านใดใดทั้งนั้นเข้าใจไหมทุกคน

    คนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครกล้าเสนอการคัดค้านต่อเพราะถือว่าคำพูดของผู้ใหญ่บ้านนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและพิจารณามาดีแล้วจึงไม่มีใครพูดออกมาอีก

    แชงคูสก็ขอบคุณผู้ใหญ่บ้านที่ให้พวกเขาพักอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวได้ ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็บอกผู้คนในหมู่บ้านว่าแยกย้ายกันกลับไปที่ของตนเองได้แล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยพากันกลับไปทำมาหากินกันต่อรวมถึงมากิโนะกับคาคาชิก็พากันกลับไปที่ร้านของมากิโนะแต่ดูเหมือนจะมีเด็กผู้ชายตัวเล็กมานั่งรอที่เคาน์เตอร์อยู่ในร้านแล้ว

    “อ่าวลูฟี่มาถึงที่นี่นานรึยังจ๊ะ”มากิโนะ

    “พึ่งมาถึงเองพี่มากิโนะ!!”ลูฟี่

    “อย่างงั้นหรอจ๊ะ แล้วลูฟี่หิวอะไรไหมเดี๋ยวพี่จะทำอาหารให้กิน”มากิโนะ

    “อยากกินเนื้ออย่างนะพี่มากิโนะ”ลูฟี่

    “ได้เลยจ๊ะเดี๋ยวพี่ไปทำอาหารให้ก่อนนะรอแป๊บนึง”มากิโนะ

    “คร๊าบบ”ลูฟี่

    “แล้วคุณคาคาชิอยากทานอะไรไหมคะ”มากิโนะ

    “ผมไม่ทานอะไรหรอกครับคุณมากิโนะผมขอนั่งเฉยๆอยู่ตรงที่เคาน์เตอร์นี้แหละครับ”คาคาชิ

    “งั้นฉันขอตัวไปทำอาหารให้ลูฟี่กินก่อนนะคะ”มากิิโนะ

    หลังจากที่มากิโนะเดินเข้าไปในห้องครัวแล้ว เขาก็หันมามองลูฟี่ที่นั่งรออาหารของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ เขาก็เริ่มเปิดบทสนทนาขึ้นกับอีกฝ่าย

    “สวัสดีฉันชื่อฮาตาเกะ คาคาชิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”คาคาชิ

    “สวัสดีฉันชื่อ มังกี้ ดี ลูฟี่ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะ”ลูฟี่

    “เธอดูเป็นเด็กที่ร่าเริงดีนะ”คาคาชิ

    “ก็ฉันร่าเริงอยู่ทุกวันอยู่แล้วนิ”ลูฟี่

    “อย่างงั้นหรอ”คาคาชิ

    “แต่ขอถามหน่อยทำไมถึงต้องใส่ผ้าปิดปากด้วยละ”ลูฟี่

    “เพราะความชอบส่วนตัวละมั่ง”คาคาชิ

    “อย่างงั้นหรอ แต่ถ้าเป็นฉันคงไม่ใส่หรอกเกะกะจะได้ไป”ลูฟี่

    “นั่นสินะ ฮ่าฮ่า”คาคาชิ

    “อยากดื่มน้ำส้มหน่อยไหม”คาคาชิ ยืนขวดพลาสติกที่บรรจุน้ำส้มไว้ในขวดยืนไปให้ลูฟี่

    “ขอบคุณมากคร้าบบ อยากกินน้ำส้มอยู่พอดีเลย ฮี่ฮี่ๆ”ลูฟี่ ซีกยิ้มส่งไปให้คาคาชิ

    คาคาชิก็ส่งยิ้มภายใต้ผ้าปิดปากมองดูลูฟี่อย่างเอ็นดู แล้วมากิโนะก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานอาหารเนื้ออย่างส่งไปให้ลูฟี่ ลูฟี่รับจานอาหารด้วยตาที่เป็นประกายพร้อมทำการกินเนื้ออย่างเข้าไปด้วยความอร่อย ทำให้มากิโนะและคาคาชิถึงกับเอ็นดูลูฟี่มากขึ้นหลังจากที่ลูฟี่กินเนื้ออย่างจนหมดแล้วก็มีเศษอาหารติดที่มุมปากข้างๆลูฟี่คาคาชิก็ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่มุมปากของลูฟี่อย่างเบาเบา

    “ขอบคุณมากเลยน้าา คาชิ ที่เช็ดมุมปากให้ฉันนะ”ลูฟี่

    “เธอเรียกฉันว่าไรนะลูฟี่”คาคาชิ

    “ก็เรียกว่า คาชิไง เรียกง่ายดีออกไม่เห็นต้องเรียกชื่อเต็มเลยด้วย”ลูฟี่

    “เรียกแบบนั้นมันไม่ดีนะลูฟี่”มากิโนะ

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณมากิโนะผมไม่ถือสาเรื่องพวกนี้หรอกครับ จะให้เขาเรียกผมแบบนี้ก็ได้”คาคาชิ

    “แถมเรียกชื่อผมแบบนี้ก้อง่ายออกสำหรับเขาด้วย”คาคาชิ

    “ใช่มั้ยละ พี่มากิโนะ เรียกออกจะง่ายด้วยละ ฮี่ฮี่ๆ”ลูฟี่

    “แต่เธอก็ไม่ควรไปตั้งชื่อมั่วชั่วใครอีกนะเข้าใจมั้ยลูฟี่”คาคาชิ

    “เข้าใจแล้วคร๊าบบ ฮี่ฮี่ๆ”ลูฟี่

    “เฮ้อ~จริงจริงเลยน้าเด็กคนนี้ งั้นคุณมากิโนะอะนี้ผมจ่ายเงินให้สำหรับค่่าเก็บไวน์แล้วก็อาหารจานของลูฟี่ผมจ่ายให้แทนนะครับ”คาคาชิ

    “ไม่ต้องจ่ายให้ก็ได้นะคะคุณคาคาชิฉันไม่เก็บค่าเรียกหรอกคะ”มากิโนะ

    “ไม่ได้หรอกครับคุณมากิโนะ ผมถือว่าผมจ่ายให้แทนส่วนของลูฟี่ คุณมากิโนะช่วยรับความน้ำใจของผมด้วยนะครับ”คาคาชิ

    “ก็ได้คะฉันรับเอาไว้”มากิโนะ

    “ดีมากครับแล้วก็อะนี้ฉันให้เธอนะลูฟี่”คาคาชิ

    “มันคืออะไรหรอคาชิในถุงนี้นะ”ลูฟี่

    “มันมีของกินมากมายอยู่ในถุงนั้นเพื่อเธออาจจะชอบก็ได้ฉันยกให้เธอเลยนะลูฟี่”คาคาชิ

    “ขอบคุณมากเลยนะคาชิ ฉันจะกินมันให้หมดเลย”ลูฟี่

    “งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ แล้วเจอกันใหม่นะลูฟี่และก็คุณมากิโนะด้วยนะครับ”คาคาชิ

    “เจอกันใหม่น้าา คาชิ”ลูฟี่ โบกมือลาคาชิ

    “เจอกันใหม่เช่นกันนะคะคุณคาคาชิ”มากิโนะ ก็โบกมือลาให้คาคาชิ

    คาคาชิก็โบกมือลากลับไปให้ทั้งสองแล้วทำการเดินออกจากร้านของมากิโนะเดินไปตามทางของหมู่บ้าน แต่แล้วเขาก็ได้เดินสวนผ่านกับแชงคูส ทำให้ตาของเราสบตากันแป๊บนึงแต่เขาเดินออกจากตรงนี้ไปก่อนแล้วหายตัวไปพร้อมกับฝูงชนเป็นที่เรียบร้อย

    แชงคูสที่ได้สบตากับคนแปลกหน้าเมื่อสักครู่เมื่อกี้นั้นทำให้เขาตกอยู่ในความพะวังแต่แล้วเขาก็ตั้งสติได้เขาก็หันไปที่คนแปลกหน้าคนเมื่อกี้นั้นที่ได้เดินผ่านเขาไปแต่ก็ไม่พบเจอวี่แววคนแปลกหน้าคนเมื่อกี้นั้นแล้ว

    “สีตาของคนเมื่อกี้นั้น ตาของเขาสวยจัง ถ้าได้เจอกันอีกก็อยากทำความรู้จักจังเลย”แชงคูส


    ตั้ง6,732ตัวอักษร ไรท์ทำได้อย่างไงนี่มันคือ ประวัติศาสตร์ชัดๆ ส่วนมากไรท์แต่งถึง3,000ขึ้นไปเองเลยนะ หรือเป็นเพราะอารมณ์ของไรท์กันแน่ถึงแต่งได้เยอะขนาดนี้ คุณนักอ่านบ้างท่านเคยเป็นเหมือนไรท์บ้างไหม

    ช่วยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน่าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×