ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผู้หญิงนัยตาแดง เพน
                    เช้าวันใหม่ที่บ้านของนักศึกษาชายอายุ20ปี ตรงหน้าบ้านนั้นมีเพื่อนสนิทของเขายืนกดกริ๊งเรียกชายหนุ่มอยู่
กิงกองๆ (เสียงออดประตูหน้าบ้านเธอหรอเสียงอย่างนี้-แน๊ต)
“ไอ้แน๊ต ไอ้แน๊ตโว๊ย” เมื่อกดกริ๊งแล้วไม่มีใครออกมา สันจึงตัดสินใจตะโกนเรียกเพื่อนสะดังลั่น
“ตะโกนหา***มึงหรอ” สาววัยกลางข้างๆบ้านแน๊ตตะโกนด่ากลับมาเล่นเอาสันถึงกับต้องยิ้มแห้งให้เธอแล้วก้มหัวให้น้อยๆเป็นการขอโทษ
“ไอ้บ้านั้นมันทำอะไรอยู่วะ” สันกลับมาบ่นกับตัวเองพลางเกาหัวแหงๆแล้วพยายามกดออดต่อไป
กิงกองๆๆๆๆๆ
                    ภายในบ้าน หญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาเริ่มขยับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยลืมตาขึ้น นัยตาสีแดงกร่ำมองไปรอบๆพยายามนึกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนระหว่างที่หูเธอก็ได้ยินเสียงกริ๊งดังอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกไปเพื่อที่จะเดินไปที่ต้นเสียงที่กำลังรบกวนการพักผ่อนของเธออยู่ แต่เธอก็ต้องหยุดการกระทำนั้นไปเมื่อเห็นว่ามีคนกำลังนอนอยู่ตรงพื้นที่เธอกำลังจะเดินเหยียบไป
“จริงสิ....หมอนี้เจอเรานี้หน่า” หญิงสาวพูดกับตัวเองเหมือนนึกขึ้นได้ เธอย่อตัวลงนั่งที่พื้นก่อนจะเอามือแตะเข้าที่หน้าผากของชายหนุ่มที่ตอนนี้นอนตัวสั่นหน้าแดงแป๋จนเห็นได้ชัด
“เสียสละผ้าห่มให้ฉันแล้วมานอนจับไข้เอาสะเอง....แปลกคน” หญิงสาวหันไปดึงผ้าห่มจากโซฟามาแล้วห่มให้ชายหนุ่มตรงพื้นที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างที่ยังคงเป็นแผลอยู่นั้นทำให้เธอขยับไปไหนมาไหนยากกว่าปรกติ เธอขมวดคิ้วกับตัวเองเหมือนรำคาญก่อนที่จะเดินกระเพกๆไปที่หน้าบ้าน
พอเธอเปิดประตูหน้าบ้านขึ้นเท่านั้นแหละเสียงออดที่ดังอย่างต่อเนื่องตอนแรกก็เงียบไปทันที สันที่อยู่หน้ารั่วบ้านถึงกับตาข้างเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาแทนที่จะเป็นเพื่อนของเขา
“อะ...เออ....” สันถึงกับค้างพูดไม่ออก นี้อย่าบอกนะว่าที่กดออดบ้านคนอื่นเขาอยู่ตั้งนานเนี้ยมันบ้านผิด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้นี้หน่า เขามาบ้านเพื่อนเขาประจำ มันจะผิดได้ยังไงละ
“นายเป็นใคร” หญิงสาวถามเรียบๆ ดวงตาสีแดงนั้นจ้องมองที่ชายหนุ่มนิ่งเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึก สันถึงกับกลืนน้ำลายแทบไม่ลง ท่าทางนิ่งครึมกับผู้หญิงหน้าตาที่เรียกได้ว่านางฟ้าในฝันเขายังต้องชิดซ้าย เล่นเอาชายหนุ่มพูดแทบไม่ออกเลยจริงๆ
“...ผมมาหาเพื่อน...เออ แน๊ตนะครับ เรามีเรียนแต่เช้า ผมก็เลยกะจะเดินกับมันนะครับ”
“ชื่อแน๊ตงั้นหรอ?.....” หญิงสาวพูดเสียงเบากับตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองสันอีกครั้ง
“แน๊ตไม่สบาย...นายบอกที่มหาลัยให้เขาหน่อยก็แล้วกัน” เธอพูดแค่นั้นก็ทำท่าจะปิดประตูกลับเข้าไปในบ้าน
“อะ เดี๋ยวครับ” สันตะโกนเรียกทำให้เธอหยุดมือก่อนจะหันมาหาเขาอีกครั้ง
“คือ...ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครหรอครับ...เออ ขอโทษที่ถามนะครับ แต่ผมจำได้ว่าแน๊ตมันอยู่ตัวคนเดียว ส่วนครอบครัวเขาก็อาศัยอยู่กันที่อื่นหมด ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณเป็นใครนะครับ” สันถามไปทำให้หญิงสาวคนนั้นนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“ฉันเป็นนักฆ่า....มืออาชีพสะด้วยสิ...หึ"
                    อืมมมม ทำไมผมรู้สึกมึดหัวอย่างนี้นะ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่น เอ๋ ทำไมผมมานอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นละ แล้วนี้มันกี่โมงแล้วเนี้ย ผมยกมือซ้ายขึ้นมาแล้วมองไปที่หน้าปัดนาฬิกา 12โมง......เที่ยง
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...สายแล้ววววววววววววววววววววว” ผมกระโดดออกจากโซฟาลุกขึ้นยืน แต่....เอ๋...ทำไม....ทำไมผมเซไปเซมาอย่างนี้ละ รู้สึกเหมือนไม่มีแรงเดินเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดผมก็ล้มลงไปนั่งที่พื้นสะอย่างนั้น
“ท่าทางนายจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแล้วสิ ตื่นมาก็ร้องอย่างกับควายถูกเชือด” ผมกระพริบตาปริบๆก่อนจะหันไปมองคนที่เพิ่งจะพูดกับผมเมื่อกี้ ผู้หญิง....ผู้หญิง....................................................
“เฮ้ย....คุณเป็นใครนะ”
“-*-...นายเก็บฉันมาเองยังจำไม่ได้อีกหรอ” เอ๋ ผมเก็บเธอมา.....อะ....จำได้แล้ว นางฟ้าจมกองเลือด ผมเงยหน้ามองเธออีกครั้งแล้วยิ้มตาหยี่ให้เธอ เออ จริงด้วยนัยตาเธอสีอะไรผมยังไม่รู้เลย ผมหยุดยิ้มก่อนจะมองไปที่ตาเธอ....แดง....สีแดง....
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ตาเธอแดง ไปทำอะไรมา ระ....หรือว่าเป็นแผลด้วย....งั้น....งั้นต้องทำยังไงละ ตาเธอเลือดออก”
ปึก
“-*-ตาฉันมันเป็นสีนี้ตั้งแต่เกิดแล้ว” เธอทุบหัวผมพลางทำหน้าตาไม่พอใจใส่ผมก่อนจะถอนหายใจแล้วล้มตัวลงมานั่งข้างผม
“นายชื่อแน๊ตใช่ไหม”
“รู้ได้ไงอะ” ผมพยักหน้าพลางถามกลับไปด้วย
“เพื่อนนายมาเมื่อเช้า มาถามหานายนะ ฉันบอกว่านายไม่สบายให้บอกมหาลัยด้วย”
“เอ๋...เราไม่สบายหรอ” ผมชี้มาที่ตัวเองแล้วเอียงคอเล็กน้อยเหมือนถามเธอ
“ก็แน่ละ นอนตรงพื้นกระเบื้องแล้วไม่ห่มผ้าแบบนั้นมันก็น่าอยู่หรอก” เธอว่าผมก่อนจะยกมือซ้ายขึ้นมาดีดหน้าผากผมดังป้อก ผมนิ้วหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือจับที่หน้าผาก
“ช่วยไม่ได้นิ เรามีผ้าห่มแค่ผื้นเดียว แล้วเราก็ไม่อยากให้เธอนอนอยู่ข้างล่างคนเดียวนี้หน่า เธอกำลังเจ็บอยู่ด้วย” เธอจ้องหน้าผมนิ่งทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรอ” เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันหน้าหนีไป แปลกคน เธอเป็นอะไรของเธอนะ เออ จริงสิ เธอเจ็บอยู่นี้หน่า ทำไมถึงได้ลุกมาเดินแบบนี้ละ
“นี้ เธอเจ็บอยู่ นอนพักเถอะ” เธอส่ายหน้าต่อไปก่อนจะยกมือมาดีดหน้าผากผมอีกครั้ง อุ๊ยยยยย เจ็บเหมือนกันนะเนี้ย
“จะบ้ารึไง นายไม่สบายนายก็นอนไปสิ ส่วนแผลฉันอีกอาทิตย์สองอาทิตย์ก็หาย” ผมเอียงคอจ้องหน้าเธอก่อนจะยิ้มหวานให้ เหมือนที่ผมทำกับไอ้สันประจำ
“เธอน่ารักดีนะ” เธอยังคงจ้องหน้าผมนิ่ง ไม่มีประติกิริยาตอบโต้แต่อย่างใด เอ๋ ผมพูดอะไรผิดรึเปล่า? เออ...จริงสิ...
“นี้...เธอชื่ออะไรหรอ?”
“เพน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราชื่อแน๊ต” เพนมองลงมาที่มือผมก่อนจะมองหน้าผมอีกครั้ง
“ประสาทรึเปล่า เป็นคนไทยแท้ยังจะมาจับมือแบบนี้เป็นการแนะนำตัว” =_=เย็นชาจัง แต่ก็น่ารักดีแหะ ผมชักมือกลับมาแล้วยิ้มหวานให้เธอต่อไป
“ยิ้มอะไรหนักหนา...” เธอบ่นเล็กน้อยก่อนจะเดินไปในครัวสะอย่างนั้น
                    พอเวลาบ่ายสองผมก็ลุกขึ้นจากโซฟาเพราะความเบื่อ แล้วอาการมึดหัวและไม่มีแรงของผมก็หายไปหลังจากที่ได้กินอาหารกลางวันลงท้อง ถึงแม้มันจะเป็นแค่ม่ามาแต่มันก็ยังดีแหละนะ(=_=) ว่าแต่ เพนเขาหายไปอยู่ที่ไหนนะตั้งแต่ที่เธอเดินหนีออกไปผมก็ไม่ได้เห็นเธออีกเลย ผมเกาหัวตัวเองแกรกๆก่อนจะเดินไปที่ชั้นบนเพื่อที่จะอาบน้ำ พอผมเดินไปถึงชั้นบนผมก็เห็นเพนท์เธอมองรอบๆอยู่ทำให้ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เข้าไปดูในห้องก็ได้นะ เราไม่ว่าหรอก” เพนหันหน้ามามองผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ เธอเอามือแตะหน้าผากผม
“ดูเหมือนไข้นายจะหายไปแล้วนะ แต่ยังไงนายก็ยังอาบน้ำไม่ได้ เดี๋ยวไข้ขึ้นอีก” ผมเลิกคิ้วก่อนจะจ้องหน้าขาวเนียนนั้นอีกครั้ง หว่าาาา น่ารักจังเลย แค่คิดผมก็เริ่มหน้าร้อนขึ้นมา หน้าแดงแหงๆเลย
“ถ้าเหนียวตัวละก็ เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้ ไปนอนรอไป”
“เพน....ใจดีจัง” ผมยิ้มให้เธอ ทำให้เธอชะงักกึกเมื่อผมพูดจบก่อนที่จะก้มหน้ามองไปที่พื้น
“นายไว้ใจคนง่ายเกินไปรู้ตัวรึเปล่า”
“หืม...หมายความว่าไงหรอ”
“ช่างเถอะ ไปนอนรอฉันที่ห้องนอนไป” เธอพูดปัดๆก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง ผมยักไหล่ให้ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของผมตามที่เพนท์บอก
ไม่นานเธอก็เดินเข้ามาในห้องผมพร้อมกะระมังใบเล็กที่มีน้ำอุ่นอยู่ข้างในและผ้าสีขาวผื้นเล็กอยู่ด้วย
“นอนมองอยู่ได้ ถอดเสื้อสิ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อผมออก ในขณะเดียวกันเพนท์ก็นั่งลงที่ข้างเตียงแล้วบิดผ้าเปียกในมือ เธอหันหน้ามาหาผมก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้ผมไปเรื่อยๆ
ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่พอผู้หญิงคนนี้บอกให้ผมทำอะไร ผมก็ทำตามโดยที่ไม่มีข้อแม้อะไรเลย แปลกแหะ แล้วอีกอย่าง ผมควรจะเป็นคนดูแลเธอด้วยซ้ำ แผลตามตัวเธอถ้าเทียบกับไข้หวัดเล็กของผมแล้วมันต่างกันลิบลับ มองยังมันก็เหมือนว่าผมเอาเปรียบเธอยังไงก็ไม่รู้
“เออ...จริงสิ เพน...บ้านเธออยู่ที่ไหนหรอ” มือบางชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเช็ดตัวผมให้เหมือนเดิมหลังจากตั้งสติได้
“ฉันไม่มีบ้านหรอก”
“อ้าว...แล้วก่อนหน้านี้เธออยู่ที่ไหนหรอ”
“คอนโด...”
“อยู่คนเดียวหรอ?”
“อืม...”
“พ่อแม่เธอละ”
“ตายแล้ว”
“อะ...ขอโทษ” ผมเงียบไปเล็กน้อยพลางจ้องหน้าเธอที่ยังคงดูไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
“เธออายุเท่าไหร่แล้วหรอ”
“18”
“แล้วเรียนอยู่ที่ไหนละ”
“ฉันมีงานทำแล้ว เลยไม่ได้เรียน”
“เอ๋...จริงหรอ”
“อืม”
“ทำไมละ”
“เพราะฉันต้องการเงินมาจ่ายค่าที่พัก อาหารและน้ำไงเล่า ถามแปลกๆ”
“แล้วญาติพี่น้องเธอละ”
“ไม่มี” ผมหลุบตาลงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆถอนหายใจออกมา เธออยู่ตัวคนเดียวงั้นหรอ แต่ดูท่าทางเธอเข้มแข็งจัง ดวงหน้าเนียนที่เรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไร ดวงตาสีแดงที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นยังคงจ้องนิ่งไปที่ผ้าสีขาวที่เคลื่อนไหวไปตามเนื้อตัวผม
“งั้นเธอก็อยู่ที่นี้นานเท่าที่เธอต้องการนะ ฉันไม่ว่าหรอก”
“อืม...ขอบใจ”
“ว่าแต่ เธอไปได้แผลพวกนี้มาจากไหนหรอ” เพนท์เอาผ้าจุ่มน้ำแล้วบิดมันอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ามองผม
“คนป่วยพูดมากนี้น่ารำคาญจริงๆแหะ”
“ฉันโดนตามไล่ฆ่าอยู่” เธอเงยหน้ามามองผมและกระตุกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมกระพริบตาพริบๆแล้วเอื้อมมือไปจับแก้มเธอ
“เธอยิ้มแล้ว” ผมยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี เพนที่ได้ยินผมถึงกับชะงักตกใจไป เธอขมวดคิ้วแล้วมองหน้าผม
“ถามจริงเถอะ ตอนที่นายเป็นเด็กๆแม่นายทำนายตกพื้นหัวกระแทกพื้นไปกี่รอบ”
“สามรอบ” คราวนี้เธอทำตาโตมองผมเหมือยเห็นผียังไงยังงั้น
“แล้วนายยังมีชีวิตอยู่ได้....เหลือเชื่อ”
“ฮ่ะฮ่าๆๆๆๆ...เธอตลกดีนะ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่น.......................”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“=_=”
กิงกองๆ (เสียงออดประตูหน้าบ้านเธอหรอเสียงอย่างนี้-แน๊ต)
“ไอ้แน๊ต ไอ้แน๊ตโว๊ย” เมื่อกดกริ๊งแล้วไม่มีใครออกมา สันจึงตัดสินใจตะโกนเรียกเพื่อนสะดังลั่น
“ตะโกนหา***มึงหรอ” สาววัยกลางข้างๆบ้านแน๊ตตะโกนด่ากลับมาเล่นเอาสันถึงกับต้องยิ้มแห้งให้เธอแล้วก้มหัวให้น้อยๆเป็นการขอโทษ
“ไอ้บ้านั้นมันทำอะไรอยู่วะ” สันกลับมาบ่นกับตัวเองพลางเกาหัวแหงๆแล้วพยายามกดออดต่อไป
กิงกองๆๆๆๆๆ
                    ภายในบ้าน หญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาเริ่มขยับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยลืมตาขึ้น นัยตาสีแดงกร่ำมองไปรอบๆพยายามนึกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนระหว่างที่หูเธอก็ได้ยินเสียงกริ๊งดังอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกไปเพื่อที่จะเดินไปที่ต้นเสียงที่กำลังรบกวนการพักผ่อนของเธออยู่ แต่เธอก็ต้องหยุดการกระทำนั้นไปเมื่อเห็นว่ามีคนกำลังนอนอยู่ตรงพื้นที่เธอกำลังจะเดินเหยียบไป
“จริงสิ....หมอนี้เจอเรานี้หน่า” หญิงสาวพูดกับตัวเองเหมือนนึกขึ้นได้ เธอย่อตัวลงนั่งที่พื้นก่อนจะเอามือแตะเข้าที่หน้าผากของชายหนุ่มที่ตอนนี้นอนตัวสั่นหน้าแดงแป๋จนเห็นได้ชัด
“เสียสละผ้าห่มให้ฉันแล้วมานอนจับไข้เอาสะเอง....แปลกคน” หญิงสาวหันไปดึงผ้าห่มจากโซฟามาแล้วห่มให้ชายหนุ่มตรงพื้นที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างที่ยังคงเป็นแผลอยู่นั้นทำให้เธอขยับไปไหนมาไหนยากกว่าปรกติ เธอขมวดคิ้วกับตัวเองเหมือนรำคาญก่อนที่จะเดินกระเพกๆไปที่หน้าบ้าน
พอเธอเปิดประตูหน้าบ้านขึ้นเท่านั้นแหละเสียงออดที่ดังอย่างต่อเนื่องตอนแรกก็เงียบไปทันที สันที่อยู่หน้ารั่วบ้านถึงกับตาข้างเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาแทนที่จะเป็นเพื่อนของเขา
“อะ...เออ....” สันถึงกับค้างพูดไม่ออก นี้อย่าบอกนะว่าที่กดออดบ้านคนอื่นเขาอยู่ตั้งนานเนี้ยมันบ้านผิด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้นี้หน่า เขามาบ้านเพื่อนเขาประจำ มันจะผิดได้ยังไงละ
“นายเป็นใคร” หญิงสาวถามเรียบๆ ดวงตาสีแดงนั้นจ้องมองที่ชายหนุ่มนิ่งเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึก สันถึงกับกลืนน้ำลายแทบไม่ลง ท่าทางนิ่งครึมกับผู้หญิงหน้าตาที่เรียกได้ว่านางฟ้าในฝันเขายังต้องชิดซ้าย เล่นเอาชายหนุ่มพูดแทบไม่ออกเลยจริงๆ
“...ผมมาหาเพื่อน...เออ แน๊ตนะครับ เรามีเรียนแต่เช้า ผมก็เลยกะจะเดินกับมันนะครับ”
“ชื่อแน๊ตงั้นหรอ?.....” หญิงสาวพูดเสียงเบากับตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองสันอีกครั้ง
“แน๊ตไม่สบาย...นายบอกที่มหาลัยให้เขาหน่อยก็แล้วกัน” เธอพูดแค่นั้นก็ทำท่าจะปิดประตูกลับเข้าไปในบ้าน
“อะ เดี๋ยวครับ” สันตะโกนเรียกทำให้เธอหยุดมือก่อนจะหันมาหาเขาอีกครั้ง
“คือ...ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครหรอครับ...เออ ขอโทษที่ถามนะครับ แต่ผมจำได้ว่าแน๊ตมันอยู่ตัวคนเดียว ส่วนครอบครัวเขาก็อาศัยอยู่กันที่อื่นหมด ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณเป็นใครนะครับ” สันถามไปทำให้หญิงสาวคนนั้นนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“ฉันเป็นนักฆ่า....มืออาชีพสะด้วยสิ...หึ"
                    อืมมมม ทำไมผมรู้สึกมึดหัวอย่างนี้นะ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่น เอ๋ ทำไมผมมานอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นละ แล้วนี้มันกี่โมงแล้วเนี้ย ผมยกมือซ้ายขึ้นมาแล้วมองไปที่หน้าปัดนาฬิกา 12โมง......เที่ยง
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...สายแล้ววววววววววววววววววววว” ผมกระโดดออกจากโซฟาลุกขึ้นยืน แต่....เอ๋...ทำไม....ทำไมผมเซไปเซมาอย่างนี้ละ รู้สึกเหมือนไม่มีแรงเดินเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดผมก็ล้มลงไปนั่งที่พื้นสะอย่างนั้น
“ท่าทางนายจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแล้วสิ ตื่นมาก็ร้องอย่างกับควายถูกเชือด” ผมกระพริบตาปริบๆก่อนจะหันไปมองคนที่เพิ่งจะพูดกับผมเมื่อกี้ ผู้หญิง....ผู้หญิง....................................................
“เฮ้ย....คุณเป็นใครนะ”
“-*-...นายเก็บฉันมาเองยังจำไม่ได้อีกหรอ” เอ๋ ผมเก็บเธอมา.....อะ....จำได้แล้ว นางฟ้าจมกองเลือด ผมเงยหน้ามองเธออีกครั้งแล้วยิ้มตาหยี่ให้เธอ เออ จริงด้วยนัยตาเธอสีอะไรผมยังไม่รู้เลย ผมหยุดยิ้มก่อนจะมองไปที่ตาเธอ....แดง....สีแดง....
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ตาเธอแดง ไปทำอะไรมา ระ....หรือว่าเป็นแผลด้วย....งั้น....งั้นต้องทำยังไงละ ตาเธอเลือดออก”
ปึก
“-*-ตาฉันมันเป็นสีนี้ตั้งแต่เกิดแล้ว” เธอทุบหัวผมพลางทำหน้าตาไม่พอใจใส่ผมก่อนจะถอนหายใจแล้วล้มตัวลงมานั่งข้างผม
“นายชื่อแน๊ตใช่ไหม”
“รู้ได้ไงอะ” ผมพยักหน้าพลางถามกลับไปด้วย
“เพื่อนนายมาเมื่อเช้า มาถามหานายนะ ฉันบอกว่านายไม่สบายให้บอกมหาลัยด้วย”
“เอ๋...เราไม่สบายหรอ” ผมชี้มาที่ตัวเองแล้วเอียงคอเล็กน้อยเหมือนถามเธอ
“ก็แน่ละ นอนตรงพื้นกระเบื้องแล้วไม่ห่มผ้าแบบนั้นมันก็น่าอยู่หรอก” เธอว่าผมก่อนจะยกมือซ้ายขึ้นมาดีดหน้าผากผมดังป้อก ผมนิ้วหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือจับที่หน้าผาก
“ช่วยไม่ได้นิ เรามีผ้าห่มแค่ผื้นเดียว แล้วเราก็ไม่อยากให้เธอนอนอยู่ข้างล่างคนเดียวนี้หน่า เธอกำลังเจ็บอยู่ด้วย” เธอจ้องหน้าผมนิ่งทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรอ” เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันหน้าหนีไป แปลกคน เธอเป็นอะไรของเธอนะ เออ จริงสิ เธอเจ็บอยู่นี้หน่า ทำไมถึงได้ลุกมาเดินแบบนี้ละ
“นี้ เธอเจ็บอยู่ นอนพักเถอะ” เธอส่ายหน้าต่อไปก่อนจะยกมือมาดีดหน้าผากผมอีกครั้ง อุ๊ยยยยย เจ็บเหมือนกันนะเนี้ย
“จะบ้ารึไง นายไม่สบายนายก็นอนไปสิ ส่วนแผลฉันอีกอาทิตย์สองอาทิตย์ก็หาย” ผมเอียงคอจ้องหน้าเธอก่อนจะยิ้มหวานให้ เหมือนที่ผมทำกับไอ้สันประจำ
“เธอน่ารักดีนะ” เธอยังคงจ้องหน้าผมนิ่ง ไม่มีประติกิริยาตอบโต้แต่อย่างใด เอ๋ ผมพูดอะไรผิดรึเปล่า? เออ...จริงสิ...
“นี้...เธอชื่ออะไรหรอ?”
“เพน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราชื่อแน๊ต” เพนมองลงมาที่มือผมก่อนจะมองหน้าผมอีกครั้ง
“ประสาทรึเปล่า เป็นคนไทยแท้ยังจะมาจับมือแบบนี้เป็นการแนะนำตัว” =_=เย็นชาจัง แต่ก็น่ารักดีแหะ ผมชักมือกลับมาแล้วยิ้มหวานให้เธอต่อไป
“ยิ้มอะไรหนักหนา...” เธอบ่นเล็กน้อยก่อนจะเดินไปในครัวสะอย่างนั้น
                    พอเวลาบ่ายสองผมก็ลุกขึ้นจากโซฟาเพราะความเบื่อ แล้วอาการมึดหัวและไม่มีแรงของผมก็หายไปหลังจากที่ได้กินอาหารกลางวันลงท้อง ถึงแม้มันจะเป็นแค่ม่ามาแต่มันก็ยังดีแหละนะ(=_=) ว่าแต่ เพนเขาหายไปอยู่ที่ไหนนะตั้งแต่ที่เธอเดินหนีออกไปผมก็ไม่ได้เห็นเธออีกเลย ผมเกาหัวตัวเองแกรกๆก่อนจะเดินไปที่ชั้นบนเพื่อที่จะอาบน้ำ พอผมเดินไปถึงชั้นบนผมก็เห็นเพนท์เธอมองรอบๆอยู่ทำให้ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เข้าไปดูในห้องก็ได้นะ เราไม่ว่าหรอก” เพนหันหน้ามามองผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ เธอเอามือแตะหน้าผากผม
“ดูเหมือนไข้นายจะหายไปแล้วนะ แต่ยังไงนายก็ยังอาบน้ำไม่ได้ เดี๋ยวไข้ขึ้นอีก” ผมเลิกคิ้วก่อนจะจ้องหน้าขาวเนียนนั้นอีกครั้ง หว่าาาา น่ารักจังเลย แค่คิดผมก็เริ่มหน้าร้อนขึ้นมา หน้าแดงแหงๆเลย
“ถ้าเหนียวตัวละก็ เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้ ไปนอนรอไป”
“เพน....ใจดีจัง” ผมยิ้มให้เธอ ทำให้เธอชะงักกึกเมื่อผมพูดจบก่อนที่จะก้มหน้ามองไปที่พื้น
“นายไว้ใจคนง่ายเกินไปรู้ตัวรึเปล่า”
“หืม...หมายความว่าไงหรอ”
“ช่างเถอะ ไปนอนรอฉันที่ห้องนอนไป” เธอพูดปัดๆก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง ผมยักไหล่ให้ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของผมตามที่เพนท์บอก
ไม่นานเธอก็เดินเข้ามาในห้องผมพร้อมกะระมังใบเล็กที่มีน้ำอุ่นอยู่ข้างในและผ้าสีขาวผื้นเล็กอยู่ด้วย
“นอนมองอยู่ได้ ถอดเสื้อสิ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อผมออก ในขณะเดียวกันเพนท์ก็นั่งลงที่ข้างเตียงแล้วบิดผ้าเปียกในมือ เธอหันหน้ามาหาผมก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้ผมไปเรื่อยๆ
ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่พอผู้หญิงคนนี้บอกให้ผมทำอะไร ผมก็ทำตามโดยที่ไม่มีข้อแม้อะไรเลย แปลกแหะ แล้วอีกอย่าง ผมควรจะเป็นคนดูแลเธอด้วยซ้ำ แผลตามตัวเธอถ้าเทียบกับไข้หวัดเล็กของผมแล้วมันต่างกันลิบลับ มองยังมันก็เหมือนว่าผมเอาเปรียบเธอยังไงก็ไม่รู้
“เออ...จริงสิ เพน...บ้านเธออยู่ที่ไหนหรอ” มือบางชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเช็ดตัวผมให้เหมือนเดิมหลังจากตั้งสติได้
“ฉันไม่มีบ้านหรอก”
“อ้าว...แล้วก่อนหน้านี้เธออยู่ที่ไหนหรอ”
“คอนโด...”
“อยู่คนเดียวหรอ?”
“อืม...”
“พ่อแม่เธอละ”
“ตายแล้ว”
“อะ...ขอโทษ” ผมเงียบไปเล็กน้อยพลางจ้องหน้าเธอที่ยังคงดูไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
“เธออายุเท่าไหร่แล้วหรอ”
“18”
“แล้วเรียนอยู่ที่ไหนละ”
“ฉันมีงานทำแล้ว เลยไม่ได้เรียน”
“เอ๋...จริงหรอ”
“อืม”
“ทำไมละ”
“เพราะฉันต้องการเงินมาจ่ายค่าที่พัก อาหารและน้ำไงเล่า ถามแปลกๆ”
“แล้วญาติพี่น้องเธอละ”
“ไม่มี” ผมหลุบตาลงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆถอนหายใจออกมา เธออยู่ตัวคนเดียวงั้นหรอ แต่ดูท่าทางเธอเข้มแข็งจัง ดวงหน้าเนียนที่เรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไร ดวงตาสีแดงที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นยังคงจ้องนิ่งไปที่ผ้าสีขาวที่เคลื่อนไหวไปตามเนื้อตัวผม
“งั้นเธอก็อยู่ที่นี้นานเท่าที่เธอต้องการนะ ฉันไม่ว่าหรอก”
“อืม...ขอบใจ”
“ว่าแต่ เธอไปได้แผลพวกนี้มาจากไหนหรอ” เพนท์เอาผ้าจุ่มน้ำแล้วบิดมันอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ามองผม
“คนป่วยพูดมากนี้น่ารำคาญจริงๆแหะ”
“ฉันโดนตามไล่ฆ่าอยู่” เธอเงยหน้ามามองผมและกระตุกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมกระพริบตาพริบๆแล้วเอื้อมมือไปจับแก้มเธอ
“เธอยิ้มแล้ว” ผมยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี เพนที่ได้ยินผมถึงกับชะงักตกใจไป เธอขมวดคิ้วแล้วมองหน้าผม
“ถามจริงเถอะ ตอนที่นายเป็นเด็กๆแม่นายทำนายตกพื้นหัวกระแทกพื้นไปกี่รอบ”
“สามรอบ” คราวนี้เธอทำตาโตมองผมเหมือยเห็นผียังไงยังงั้น
“แล้วนายยังมีชีวิตอยู่ได้....เหลือเชื่อ”
“ฮ่ะฮ่าๆๆๆๆ...เธอตลกดีนะ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่น.......................”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“=_=”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น