ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -Fanfic บารามอส- Believed

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 : โจรสาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      1
      21 ม.ค. 49

                       "แล้วคราวนี้จะทำยังไงดี เหมือนท่านตาจะโมโหน่าดูเลย" คนพูดพูดแล้วก็หัวเราะไม่จริงจังเหมือนอย่างที่หลุดปากออกมาขณะที่ควบม้าไปข้างหน้าโดยมีน้องชายหน้าบูดควบตามอยู่ข้างๆ

                       ทำให้เสียหน้าต่อหน้าธารกำนัล

                       เถียงคำไม่ตกฟากทั้งๆ ที่ตัวเองอายุน้อยกว่าเขาเกือบสี่รอบ

                       ทำอวดเก่งด้วยการอาละวาดในงานเลี้ยง

                       หลบหนีออกมาโดยมีความผิดหลายกระทงเป็นชนักติดหลัง

                       หนำซ้ำ...ยังขโมยม้าหลวงมาใช้ส่วนตัวอีก

                       แค่เขาไม่ประกาศจับตายทั่วประเทศก็บุญเท่าไหร่แล้ว

                       เนอาร์ถอนหายใจเฮือก นับแต่มาอยู่เอดินเบิร์กที่ไกลหูไกลตาท่านพ่อแล้ว ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของพี่ชายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบที่ไม่เต็มใจ(?)หรือสมยอม(??)ก็ตามทุกครั้งไป

                       "เห็นทีคืนนี้ต้องหยุดพักที่นั่นแล้วล่ะ" เนอินเปรยขึ้นให้คนที่จมอยู่ในความคิดเงยหน้าขึ้นมามองบ้านร้างเบื้องหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แม้ว่ายังไม่เย็นมากนัก แต่ด้วยสภาพป่าทึบสองข้างทางทำให้แสงไม่สามารถสาดส่องผ่านกิ่งไม้หนาด้านบนนั้นลงมาได้มากนัก ทำให้บริเวณโดยรอบกลายเป็นเวลาพลบค่ำอย่างรวดเร็ว

                       ทั้งสองคนจัดการผูกม้าไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ บ้านร้างนั้น สิ่งที่พอจะยืนยันความคิดของเขาทั้งสองคือสภาพบ้านที่ทรุดโทรมจนเกือบพังก็ว่าได้ เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังก้องทุกครั้งที่ก้าวเท้าลงบนแผ่นพื้นไม้ฟังชวนปวดหูและรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครกำลังเดินตาม เนอินก้มลงมองเตาผิงเก่าๆ ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยแล้วลุกไปคลำฝาผนังไม้ข้างห้องครู่หนึ่ง

                       กึง!!!

                       กร๊อบ!!!

                       แผ่นไม้ขนาดใหญ่หลุดหักติดมืออีกฝ่ายตามมาด้วยสายตาตื่นตกใจของผู้เป็นน้องที่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพังบ้านคนอื่น

                       "นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ยเนอิน!!!" เนอินเดาะแผ่นไม้อดีตฝาผนังในมือเล่นแล้วโยนเข้าไปในเตาผิงฉีกยิ้มกว้าง

                       "หาฟืนไง คิดว่าฉันกำลังเต้นรำอยู่บนฟลอร์หรอไง" และไม่ใช่แค่แผ่นเดียว เมื่อเจ้าตัวแสบจากเอดินเบิร์กอันเป็นฉายาที่สืบทอดจากผู้เป็นแม่เริ่มลงมือจัดการ "หาฟืน" ต่อโดยไม่สนคำทัดทาน ไม่นานนัก...อดีตฝาผนังที่กั้นระหว่างทางเดินกับห้องนั่งเล่นก็ได้อันตรธานหายไปกองอยู่ในเตาผิงแทน

                       "แล้วจะเอายังไงต่อดี" เนอินถามขึ้นทำลายความเงียบหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างจัดการมื้อเย็นกันเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงฉุกละหุกก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังสามารถหาเสบียงและเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างพอเพียงในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถึงจะไม่มีเวลาพวกเขาก็ไม่อดตายอยู่ดี สองข้างทางที่ผ่านมาเต็มไปด้วยไม้ผลที่สุกพร้อมให้เด็ดลงมาทุกเมื่อ เนอาร์ค้นกุกกักในกระเป๋าตน หยิบเอากระดาษและปากกาออกมายื่นให้คนถาม

                       "เขียนไปดีๆ จะได้หมดเรื่องไป" ถูกดักคอตัดหน้าทำเอาคนฟังยิ้มแห้งๆ เพราะรู้ดีว่ายังไงซะต่อให้ใช้เวทย์ปิดบัง ไอ้น้องชายตัวดีคนนี้ก็รู้อยู่ดี เพราะงั้นจึงทำได้แค่เพียงนั่งเขียนจดหมายไปเงียบๆ ขณะที่เนอาร์ออกไปดูม้าที่ผูกไว้ด้านนอกอีกครั้ง เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่าพี่ชายของตนกำลังจัดการปิดผนึกจดหมาย

                       "อ๊ะ! จริงสิ" เนอินตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เหมือนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญบางอย่างออก ตาสีฟ้าทอความลำบากใจออกมาอย่างไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนัก เนอาร์มองหน้าอีกฝ่ายนิ่งเป็นคำถาม

                       "แล้วจะส่งยังไงล่ะ ฉันไม่คิดว่าจะมีคนส่งจดหมายวิ่งมา..."

                       โป๊ก!!

                       เสียงคทาสีดำบรรจงทิ้งน้ำหนักของมันบวกกับแรงกดของผู้เป็นเจ้าของทำให้บุคคลที่ได้รับแรงกดนั้นถึงกับนั่งกุมหัว

                       "อะไรวะ! ล้อเล่นแค่นี้เอง" เด็กหนุ่มผมสีเงินไม่ได้รู้สึกขำไปกับมุขฝืดๆ ของผู้เป็นพี่ เขาเดินเข้าไปหยิบจดหมายเดินออกไปนอกบ้าน ปล่อยให้เนอินเริ่มจัดที่จัดทางเตรียมพักผ่อนสำหรับวันนี้ ตาสีฟ้าคมมองเปลวไฟที่ลามเลียไปทั่วเตาผิงที่อยู่ไม่ห่างไปนัก สมองเริ่มจมดิ่งสู่ห้วงความคิดช้าๆ

                       แม้จะรู้ดีว่าทำไมคิงชามัลถึงตั้งใจบังคับให้พวกเขาแต่งงาน อายุย่างยี่สิบกับตำแหน่งรัชทายาทอันดับหนึ่งและรัชทายาทอันดับสองเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องแบกรับ

                       ไม่ช้าไม่เร็ว เรื่องแบบนี้ก็ต้องมาเกิดขึ้น

                       ใช่...เขารู้ดี และเนอาร์เองก็รู้ดีด้วยเช่นกัน

                       แต่เขาเองก็มั่นใจมากเช่นกัน ว่าบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น เขาจะสามารถค้นพบได้ด้วยตัวเอง ด้วยความรักที่แท้จริง ไม่ใช่สร้างขึ้นโดยหน้าที่

                       เนอินถอนหายใจช้าและหนักเพื่อระบายความอึดอัดที่ต้องขัดใจคนที่เป็นถึงไฮคิง ยิ่งนึกถึงผู้มีศักดิ์เป็นทวดแล้วยิ่งหงุดหงิด เขาว่ากันว่าคนแก่มักเอาแต่ใจเห็นจะไม่ผิด แม้จะชราภาพลงไปเยอะแค่ไหนแต่ก็ยังไม่ยอมสละตำแหน่งคิงแห่งบารามอสให้แก่ใคร แม้แต่เจ้าชายรัชทายาทชารัล ฟาโรเวลที่เจริญพระชันษายังทำหน้าที่แค่ที่ปรึกษาพิเศษและแม่ทัพหลวงของบารามอสเท่านั้น

                       เขายังจำได้ดีในครั้งที่ได้พบกับเจ้าชายชารัลครั้งแรกที่วังคาโนวาลในงานวันเกิดของนาตาชาเพียงครั้งเดียว โครงร่างสูงเช่นเดียวกับผู้เป็นบิดา สายตาคมที่ราวกับอ่านทะลุใจใครต่อใครให้นึกผวาหากเพราะรอยยิ้มสรวลที่มักจะมีอยู่เสมอๆ ทำให้ความคมนั้นลดทอนลงไปโข ใบหน้าเข้มกับการวางตัวที่เป็นเลิศ ไม่มีความเย่อหยิ่งหรือถือยศศักดิ์ทำเอานางกำนัลในวังคาโนวาลแทบเป็นลมคาโต๊ะคาถาดน้ำชาที่ถืออยู่ซะง่ายๆ และเสี่ยงเป็นโรคหัวใจล้มเหลวตลอดสัปดาห์ที่เจ้าชายองค์นี้พำนักอยู่ในวัง

                       จะว่าไป...ครั้งนี้เขาก็ยังไม่เจอหน้าเจ้าชายชารัลเลยนี่นะ

                       คิ้วเข้มขมวดกันมุ่นอีกครั้ง ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะดังเรียกสติให้กลับมาพร้อมกับที่ร่างของเนอาร์ได้ก้าวเข้ามาในห้องเงียบๆ มีเสียงปะทุของกองไฟดังเป็นระยะๆ

                       "ให้มีลส่งให้หรอ"

                       "แล้วจะให้ฉันส่งยังไง พับเป็นจรวดแล้วร่อนมันไปคาโนวาลหรอ" เนอาร์ตอบเรียบๆ เดินไปเอนตัวลงนั่งพิงผนังอีกด้านหนึ่งตรงข้ามกับพี่ชายตัวเอง แม้จะเหนื่อยเพราะต้องขี่ม้ามาสองวันติดต่อกัน แต่ก็ไม่มีวี่แววของความง่วงมาให้ได้รู้สึก หรือเป็นเพราะความคิดที่วิ่งวนเวียนอยู่ในหัวนี่กันแน่

                       "ตั้งแต่เริ่มงาน นายเห็นเจ้าชายชารัลบ้างรึปล่าว" เนอินเริ่มบทสนทนา ตาสีน้ำตาลสงบสบตาคนถามแล้วส่ายหน้าช้า

                       "ปกติแล้วถ้ามีงานแบบนี้เจ้าชายต้องมาร่วมงาน เว้นเสียแต่ตัวเจ้าชายนั้นไม่ได้อยู่ในบารามอส" เนอาร์ตอบเสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

                       "งั้นก็หมายความว่าเจ้าชายถูกใช้งานบางอย่าง..."

                       "จะเป็นงานอะไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรานี่เนอิน นายวิตกมากเกินไปรึปล่าว" คำขัดของน้องชายไม่ได้ทำให้การคาดคะเนถึงธุระของเจ้าชายรัชทายาทแห่งบารามอสหยุดชะงักลงแต่อย่างใด เนอาร์หยิบคทาขึ้นมาขัดเบาๆ เพื่อใช้สมาธิคิดว่าพรุ่งนี้จะทำยังไงต่อไป

                       ความเงียบโรยตัวลงเป็นเวลานานท่ามกลางเสียงไฟประทุจากฟืนที่เหลือน้อยเต็มทีส่องให้เห็นโครงหน้าของเจ้าชายหนุ่มทั้งสองคนที่กำลังเข้าสู่นิทราลึก เสียงแมลงที่ดังอยู่ด้านนอกเงียบไปนานมากแล้วจึงเหลือเพียงเสียงกิ่งไม้ไหวพาเอาใบไม้กระทบกันดังซ่าๆ ราวกับบทเพลงขับกล่อม

                       "หลับสนิทเลยดูสิ" เสียงกระซิบกระซาบดังแหวกความเงียบให้จางหายไปพร้อมกับร่างสองร่างในชุดดำรัดกุมที่ก้าวเข้ามาในห้องร่างอีกร่างหนึ่งไม่ได้สนใจฟังซักเท่าไหร่นัก นัยน์ตาที่ถูกความมืดบดบังไว้จ้องมองไปยังฝาผนังที่โล่งว่างด้วยฝีมือของคนที่นอนอยู่    

                       "ดูท่าทางข่าวจะไม่ผิด สองเจ้าชายแห่งคาโนวาล" ร่างที่ก้าวเข้ามาก่อนใช้เท้าเขี่ยรัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งคาโนวาลอย่างไม่กลัวเกรงว่าหัวจะหลุดจากบ่า

                       แน่นอน..เพราะที่นี่ไม่ใช่คาโนวาล

                       "คิดว่าจะเก่งซักแค่ไหน แค่ยาสลบนิดหน่อยก็สลบเหมือด" ร่างนั้นก้มลงมองใบหน้าคมยามหลับของเหยื่อของพวกตน

                       "น่ารังเกียจ" คำเปรยคำแรกของผู้ร่วมงานเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ให้กับคนฟัง ผู้บุกรุกลุกขึ้นยืนตัวตรง

                       "เอาเถอะน่า จัดการให้จบๆ ไป จะได้ไปรายงานซักที" ใบมีดคมกริบถูกชักออกมาล้อแสงไฟอันน้อยนิดนั้นแล้วเงื้อขึ้นหมายจะจ้วงลงยังตำแหน่งเป้าหมาย ขณะที่อีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกับคนที่นอนอยู่ตรงข้าม

                       หมับ!!

                       "โอ๊ยย!!"

                       "เล่นของมีคมแบบนี้มันอันตรายนะ" มือของคนที่หลับสนิทกระตุกคว้าหมับเข้าที่ข้อมือพร้อมกับบิดให้มีดหล่นปักลงกับพื้นพร้อมกับลุกพรวดบิดแขนผู้บุกรุกไพล่หลัง ฝั่งเนอาร์ที่ใช้วิธีเอาคทาในมือรับมีดที่จ้วงลงมาโดยไม่สน(ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยสน)ว่ามันคือสมบัติของเดมอสและอาวุธของคนเป็นพ่อ จากนั้นใช้สันมือฟาดเข้าที่ข้อมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็วจนมีดหลุดออกจากมือ คู่กรณีกระโดดถอยไปตั้งหลักอย่างระแวงและหนักใจ ในเมื่อเพื่อนของตนโดนจับเอาไว้

                       "เฮ้อ...จะนอนให้สบายทั้งทียังมีคนมารบกวน" เนอินเปรยพลางขยับคอไปมาไล่ความเมื่อยขบ

                       "แก!!" ร่างที่ถูกรวบแขนอยู่พยายามจะดิ้น หากเมื่อเด็กหนุ่มจัดการขยับข้อมือนิดเดียวความเจ็บปวดก็แล่นปลาบขึ้นมาทันที

                       "จะทำการใหญ่ สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือหัดปกปิดจิตสังหารตัวเองซะบ้าง เล่นลอยฟุ้งมาแต่ไกลแบบนี้ต่อให้เป็นไส้เดือนยังหนีทันเลย" คำดูถูกเรียกอารมณ์ให้พุ่งสูงปรี๊ดอย่างห้ามไม่อยู่

                       "เวซิล!!" เสียงเข้มของอีกฝ่ายเรียกสติให้กลับมา ขณะคนที่เป็นต่อกลับรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

                       "ผู้หญิงงั้นหรอเนี่ย" เนอินยื่นหน้าเข้าไปมองช้าๆ ก่อนจะก้มลงหยิบฝาบ้านที่เหลือเข้าไปในเตาผิงเพื่อเร่งไฟ

                       "เดี๋ยวนี้ผู้หญิงบารามอสหันมาทำมาหากินแบบนี้แล้วหรอ ความรู้ใหม่นะเนี่ย" อีกฝ่ายที่ยืนรอเชิงตัดสินใจพุ่งเข้าหาเนอาร์ที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าสงบ มีดเล่มเล็กอีกสองเล่มถูกชักออกมาจากเอวเข้ามากระชับในมือ ความเร็วของร่างนั้นทำให้เนอาร์ชะงักไปเป็นจังหวะเดียวกับที่คมมีดตวัดโดนลำคอหากเขาก็เร็วพอกันจึงโยกหลบได้ทันไม่งั้นคงได้ไปทัวร์นรกเล่นแล้ว

                       "เฮ้ๆ ถ้าแกเป็นอะไรไปแล้วฉันจะทำยังไง บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่คิดจะเป็นคิงของคาโนวาลคนต่อไปหรอกนะ" เนอินพูดให้คนฟังรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นวิธีการพูดเป็นห่วงในแบบของคนๆ นี้ก็เถอะ แต่ไอ้สีหน้ากับน้ำเสียงนี่...ฟังแล้วอยากเอาผ่าปฐพียัดปากให้รู้แล้วรู้รอดไป เนอาร์จัดการร่ายเวทย์ไอซ์วอลสะกัดคมมีดที่พุ่งเข้ามาหมายจะซ้ำก่อนจะร่ายเวทย์สร้างกรงน้ำแข็งขึ้นมาขังอีกฝ่ายไว้ด้านใน ขอบของคุกน้ำแข็งเกี่ยวเอาผ้าปิดหน้าอีกฝ่ายเผยให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีผิวคล้ำเล็กน้อย ตาสีแดงเช่นเดียวกับสีผมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เนอินผิวปากเปี้ยว

                       "ไอ้นี่ครูพักลักจำนี่หว่า แค้นฝังลึกที่เมื่อก่อนเคยโดนกับตัวเองหรอไง" ว่าแล้วก็หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของน้องชายตัวเอง

                       "เอาล่ะ เรามาเจรจาดีกว่า" ไม่พูดเปล่ามือใหญ่ถือโอกาสดึงผ้าปิดหน้าอีกฝ่ายออกเผยให้เห็นถึงใบหน้าเนียนของเด็กสาวแรกรุ่น ตาสีเขียวอ่อนฉายโรจน์ด้วยโทสะ ผมสีทองมันเป็นหางม้าที่รวบเก็บไว้ทิ้งตัวลงมา เหงื่อกาฬจับใบหน้าหวานนั้นด้วยความเจ็บปวดที่เขายังไม่ผ่อนแรงที่เผลอบีบตั้งแต่เมื่อครู่ที่เนอาร์เกือบกลายเป็นผีหัวขาดแต่ด้วยความหยิ่งเกินกว่าที่จะร้องออกมาจึงทำได้แต่อดกลั้น หากเนอินก็รู้สึกตัวจึงผ่อนแรงลง

                       "ใครส่งเธอมา" เนอาร์เป็นฝ่ายเริ่มถามก่อน

                       ".........................." มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบจนเด็กหนุ่มทั้งสองคนมองหน้ากันเงียบๆ

                       "เอาล่ะ..มาลองดูดีกว่าว่าความอดทนของเธอจะดีเลิศแค่ไหน" เนอินเตะมีดที่ตกขึ้นมาถือจ่อเข้าที่ลำคอระหงส์และหันตัวอีกฝ่ายให้คนที่โดนขังอยู่ในคุกน้ำแข็งเห็นชัดๆ อย่างจงใจ คมมีดบางกดลึกผ่านผิวหนังให้เลือดสีแดงสดเอ่อปริ่มขึ้นมาก่อนจะไหลลงมาตามลำคออย่างช้าๆ

                       "ตอบมาว่าใครส่งเธอมา ไม่อย่างนั้นก็ตายอย่างทรมาน" ตาสีฟ้าคมปลาบจ้องตาสีเขียวอ่อนที่เริ่มสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ความโหดเหี้ยมภายในดวงตาคมคู่นั้นกำลังหลอกหลอนเธอ ใบมีดละออกจากลำคอก่อนจะตวัดเข้าที่แขนเสื้อยาวสีดำทั้งสองข้างให้ขาดออกพร้อมกับบาดแผลบางๆ

                       "หรือบางทีฉันควรจะหักแขนเธอก่อนดีกว่า" ขาดคำเนอินก็ดันแขนที่ถูกจับไพล่หลังขึ้นทันที

                       "โอ๊ยยยย!!!" เวซิลร้องเสียงหลงเหมือนแขนของตนกำลังจะหลุดออกมาพร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่นั่นยังไม่พอ เมื่อมีดในมือเนอินเริ่มตวัดไปมาสร้างบาดแผลให้กับผิวหนังของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนเสื้อสีดำเริ่มชุ่มโชกไปด้วยเลือดของผู้สวมใส่ เนอาร์มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นพี่ชายฝาแฝดของตนเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีคนร้ายบุกเข้าวังเข้ามาเพื่อลอบปลงพระชนม์กษัตริย์และราชินีแห่งคาโนวาล และแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นจะจบลงที่จับตัวคนร้ายได้ แต่นาตาชาที่เพิ่งจะเกิดได้ไม่นานได้รับบาดแผลจากคมมีดของคนร้ายที่จับเธอไว้เป็นตัวประกัน จนกระทั่งปัจจุบันยังเห็นเป็นแผลเป็นที่แขนขวาอยู่

                       รู้สึกว่าคนร้ายคนนั้นจะทุรนทุรายจากบาดแผลที่ถูกทารุณไปเป็นเดือนกว่าจะตาย

                       จะตายก็ตายไม่ได้เพราะเนอินไม่ให้ตาย จะรอดพ้นก็ไม่มีหวังเพราะต้องอยู่ที่คุกใต้ดินไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน

                       ...นรกบนดินของแท้...

                       "เอาล่ะ...ฉันว่าฉันหักแขนเธอดีกว่า อย่างน้อยก็ใช้มีดไม่ได้ แต่ถ้ายังไม่บอกฉันจะหักขาเธอเพื่อที่จะได้ไม่หนีไปไหน รอเวลาประหารที่คาโนวาล" เนอินจับแขนอีกฝ่ายขึ้นเตรียมทำอย่างที่ปากได้พูดไป

                       "พอที!!!" เด็กหนุ่มชะงักกึกยอมลดแขนลงแต่ยังไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ

                       "ฉันยอมพูดแล้ว"

                       "...ซีเวีย..." เวซิลเอ่ยปรามแผ่วเบา แต่ไม่มีประโยชน์...เธอไม่มีทางที่จะเห็นเวซิลตายไปต่อหน้าต่อตาเด็ดขาด

                       "พวกฉันได้รับการว่าจ้างมาเมื่อวานนี้ ว่าจะมีรัชทายาทจากคาโนวาลทั้งสองคนมาให้จัดการซะ แค่นั้นเอง" ใช่...ข้อมูลอย่างอื่นไม่จำเป็นต่อนักฆ่า นอกจากข้อมูลของเหยื่อเท่านั้น

                       "แล้วผู้ว่าจ้าง?" เนอินถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้เก่าๆ ที่โชคดีไม่ถูกถอดไปทำเป็นฟืน ซีเวียส่ายหน้าไปมา

                       "ไม่รู้ พวกเราจะติดต่อกับผู้ว่าจ้างทุกรายผ่านทางจดหมายเสมอ เพื่อตัดปัญหาในการแก้แค้นหรือปิดปาก" เนอินมองหน้าคนพูดอย่างจับผิดแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากแววตาเรียบเฉยที่ปรากฏแววเกลียดชังทอออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

                       "พวกเธอทำงานกันแค่สองคน?"

                       "ใช่ คนยิ่งเยอะยิ่งเรื่องมาก"

                       "แล้วคิดยังไงถึงมาเป็นนักฆ่า ดูอายุแล้วไม่น่าจะเกินสิบห้า" เนอาร์เปรยพลางมองใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเด็กสาวที่นั่งหมดแรงอยู่ไม่ไกล

                       "พวกขุนนางเลว ราชวงศ์ถ่อยแบบพวกแกจะไปเข้าใจอะไร เกิดมาก็มีเงินทองให้ใช้ไม่ต้อง.."

                       "ซีเวีย!!" เวซิลปรามเสียงแข็งเมื่อพบว่าอีกฝ่ายพูดมากเกินไปแล้ว เนอินพยักหน้าหงึกหงักยิ้มกว้างปล่อยมือที่พันธนาการอีกฝ่ายออกเสียง่ายๆ ขณะที่เนอาร์ก็ถอนเวทย์คุกน้ำแข็งออก ซีเวียมองหน้าอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะพุ่งไปหาร่างที่ทรุดฮวบลงไปนอนกับพื้นจากพิษบาดแผล

                       "เออนี่...นอกจากพวกเธอแล้ว นายจ้างของพวกเธอยังไปจ้างพวกอื่นอีกรึปล่าว" เนอินถามโพล่งขึ้นมา มือเอื้อมไปหยิบผ่าปฐพีที่วางพิงกำแพงขึ้นมาเช็ด

                       "ไม่รู้ ฉันไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของผู้ว่าจ้าง" คนถูกย้อนพยักหน้ายอมรับ ลุกขึ้นเอาผ่าปฐพีพาดบ่า

                       "มันก็ถูก...แต่ควรจะรู้ไว้ซักหน่อย เผื่อว่า...ตัวเองจะกลายเป็นเหยื่อแทน" คิ้วบางเลิกสูงไม่เข้าใจสิ่งที่ได้ยิน

                       "เอ้า...ใครจะไป" เนอาร์นิ่งเฉยกับคำถามให้คนถามหงุดหงิดแทน

                       "ก็ได้ๆ ฉันไปเองก็ได้ เฝ้าให้ดีล่ะ ฉันมีเรื่องจะถามอีกเยอะแยะเลย"


    *********************************************TBC ก๊าบบบบ


    Talk > ทอล์กกันอย่างโสลเสลที่เวลาตี 4 เพิ่งปั่นเสร็จสดๆ เลยค่ะ = = เพราะงั้นถ้ามีคำผิดหรืออะไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ติมาเลยนะคะว่าผิดตรงไหนจะได้แก้ เหอๆๆ

    ว่ากันด้วยเรื่องพล็อตสำหรับเรื่องนี้ วางโครงเรื่องไว้ค่อนข้างยาว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะสู้ได้แค่ไหน = =" เรื่องส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดจะเป็นเรื่องของสองแสบนะคะ บอกกันอีกครั้งเผื่อมีใครถามหาพ่อกับแม่ ^^" อยู่สุขสบายดีที่คาโนวาลค่า เอิ้กๆๆๆ คิดว่าตอนหน้าจะแต่งให้ดีกว่านี้ เพราะงั้นถ้ามันห่วยก็ทนอ่านหน่อยนะคะ T^T เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^/
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×