คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 12 : น้ำฝนหยดเล็ก
"เมื่อครู่ต้องขอโทษด้วยนะคะ" เด็กสาวร่างเล็กขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมา สรุปความเสียหายทั้งหมดคือคาโนวาลจำเป็นต้องเบิกเงินจากพระคลังส่วนหนึ่งมาสร้างโรงแรมให้กับชายผู้โชคร้ายที่ไม่เช็คดวงตัวเองก่อนรับแขกกิตติมศักดิ์สองคนนี้ ทั้งหมดจัดการย้ายที่อยู่มาพักอยู่ที่โรงแรมชั้นหนึ่งใจกลางเมืองที่แสนจะคึกคักเป็นปกติ
"ไม่หรอก ทางนี้เองก็คงต้องขอบคุณ" คำตอบเป็นของขอทานแห่งทริสทอร์ ตาสีน้ำตาลมองผู้เป็นน้านั่งจิบน้ำชาแล้วนึกสงสัยว่า ระหว่างที่เขาทะเลาะกับเนอิน อีกฝ่ายไปนั่งจิบชาอยู่มุมไหนของห้อง เพราะทันทีที่เรื่องสงบลงเขายังเห็นโรนั่งเล่นหมากรุกคนเดียวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ต้องขออภัยเจ้าชายเนอาร์ด้วยนะเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบว่าเจ้าชายก็เสด็จมาที่สกอร์ปิโอ" เนอาร์หันมาพยักหน้าเงียบๆ มองคนที่หันไปคุยกับเนอินที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างๆ นั่นยังนับว่าให้เกียรติอย่างที่สุดแล้ว เพราะถ้าเป็นเขา...คงลงเวทย์ปิดปากแล้วจับโยนออกนอกห้องตั้งแต่ได้ยินเสียงและเท้าสองข้างนั่นเหยียบเข้ามา
ท่านหญิงเพโนเลีย เฮนดริก เดอะเมจิเชี่ยน ออฟ บารามอส
บุตรีเพียงคนเดียวของแม่ทัพจาบาล เฮนดริก เดอะ วอร์ริเออร์ ออฟ บารามอส
ร่างเล็กในชุดฟู่ฟ่าสั่งตัดเย็บจากผ้าเนื้อดีโดยช่างหลวงฝีมือดีของบารามอสทำให้เธอกลายเป็นตุ๊กตาราคาแพง ผมสีทองหยักศกกับตาสีเขียวเป็นประกายนั่นรับกับผิวที่ออกจะคล้ำซักหน่อยสำหรับคนที่เป็นถึงท่านหญิง ถ้าให้เทียบกับท่านหญิงคนอื่นๆ ในราชวังบารามอสก็นับว่าเพโลเนียนั้นน่าคบหากว่ามาก เสียแต่ติดตรงที่...
"แต่ก็ดีแล้วนะเพคะที่โรงแรมแบบนั้นพังไปได้ ทีนี้ท่านเนอินก็ต้องมาพักกับหม่อมฉันที่นี่ แต่ถึงมันจะไม่พังหม่อมฉันก็มีวิธีทำให้เจ้าชายเสด็จมาอยู่ดี" พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ ตามธรรมเนียมท่านหญิงที่ดี สายตาก็เหลือบไปมองคนสองคนที่ยืนเงียบอยู่มุมห้อง แม้จะไม่พูดอะไรให้เคืองหู แต่ในใจก็เริ่มกรุ่นร้อนด้วยสายตาเหยียดหยามที่ส่งมา
วิธีการต่อสู้แบบท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ที่เธอไม่รู้จัก
เพราะเธอรู้จักแต่การต่อสู้ในแบบที่ต้องใช้ชีวิตเข้าแลก
แรงบีบแขนทำให้เวซิลต้องหันไปพยักหน้ายิ้มเพื่อให้เพื่อนรักตนสบายใจ
".........................."
"เอ่อ...ความจริงที่โรงแรมพังก็เป็นเพราะพวกผมนะท่านหญิง" เนอินเปรยแผ่วพยายามแกะมือที่กำลังเกาะแขนชนิดติดหนึบไม่ปล่อย ตาสีฟ้าเลิกลั่กไปมาผิดกับปกติ แม้ว่าเนอินจะขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ เที่ยวจีบผู้หญิงไปทั่ว แต่ก็ไม่เคยก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่ก้าวเดียว ตรงกันข้าม...เขามักจะเว้นระยะห่างระหว่างหญิงสาวไว้หนึ่งก้าวเสมอ
"หม่อม..หม่อมฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะเพคะ" เพโลเนียหน้าเจื่อนลงจนคนนั่งข้างกลายเป็นฝ่ายรู้สึกผิดแทน
"สักกระดานไหมเนอาร์" โรขยับชวนคนที่นั่งมองภาพตรงหน้า การได้เห็นพี่ชายตกอยู่ในสภาพแบบนั้นถือว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง เนอาร์พยักหน้าตกลงเพราะตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ
"อยู่ที่ซูลูคงมีแต่เรื่องสนุกสินะ" โรชวนคุยพลางขยับหมากเริ่มเกม เนอาร์ใช้ความเงียบเป็นคำตอบ เสียงเจ๊าะแจ๊ะยังคงดังคับห้อง แต่สำหรับบรรยากาศรอบโต๊ะหมากรุกเสียงเหล่านั้นดูเหมือนจะเดินทางมาไม่ถึง
"หรือมีแต่เรื่องหนักใจ" ตาสีน้ำตาลเย็นมองคนพูดนิ่ง
ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้
"ถ้ารู้แล้วจะถามผมทำไม" โรหัวเราะเบาๆ "รู้ที่นายพูดนี่รู้เรื่องอะไรเหรอ"
เนอาร์ถอนหายใจเฮือก คว้าเบี้ยสีดำของอีกฝ่ายออกไปวางนอกกระดาน ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูด คนตรงหน้าก็มีวิธีล้วงความจริงจากเขาไปอยู่ดี
นี่คือความน่ากลัวของอดีตห้องสมุดเคลื่อนที่แห่งเอดินเบิร์กที่ท่านแม่เคยเล่าให้ฟังสินะ
"ทำไมท่านหญิงเพโลเนียถึงมาอยู่ที่นี่ได้" บทสนทนาถูกเปลี่ยน ขณะที่นัยน์ตาคมเหลือบไปมองเด็กสาวที่ตอนนี้เริ่มฉุดกระชากลากถูเนอินไปดูเครื่องประดับที่เพิ่งซื้อมา โรหัวเราะเมื่อนึกถึงคำตอบ
"ต้องถามว่า มาด้วยกันได้ยังไงมากกว่านะ" คิ้วเข้มเลิกสูง พอจะนึกออกว่าคนอย่างเพโลเนียคงไม่นั่งแกร่วรอให้ฝ่ายชายมาหาเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะข้ามน้ำข้ามทะลไปถึงพริสก์โบโรว์
"แล้วแม่นั่น..ผมหมายถึงเพื่อนของซีเวีย" ตาสีเขียวที่เงยขึ้นมาสบทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีพูด แต่จะให้เรียกชื่อเขาก็จำไม่ได้เสียด้วย โรฉีกยิ้มขยับให้รอยประสบการณ์เห็นชัด ทำให้ใบหน้านั้นดูคมคายขึ้นมากกว่าเพิ่มอายุ เนอาร์เริ่มระวังตัวมากขึ้น
"น่าดีใจแทนคิงคาโลที่นายเริ่มจำชื่อผู้หญิงได้มากเกินกว่าสามชื่อ" ไม่ว่าคนพูดจะแปลความหมายในทางตรงหรือทางอ้อม แต่...
เขาพลาดซะแล้ว!!
โรต้องกลั้นหัวเราะไว้เต็มที่ เมื่อดวงหน้าสลักที่มักจะตีหน้าขรึมตลอดเวลาตอนนี้มีสีเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เนอาร์ลูบหน้าตัวเองแรงๆ หลายครั้งเพื่อห้ามสีหน้าของตน แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ก็ตาม
"ก็คงจะเหตุผลเดียวกับซีเวียล่ะมั้ง" ขอทานคนฉลาดตอบยิ้มๆ
"ทำงาน?" เนอาร์ถามย้อนหลังจากที่เริ่มควบคุมอารมณ์ได้บ้างแล้ว "คงจะงั้นล่ะมั้ง นี่ก็กลับมาสกอร์ปิโอแล้ว พรุ่งนี้สองคนนั่นคงแยกไปอีกทาง"
ไม่มีปฏิกิริยาจากคนฟัง โรนึกเสียดายนิดๆ ด้วยคิดว่าจะได้เห็น 'อะไรดีๆ' ที่ไม่เคยเห็นมากขึ้น
------------------------------------------
"เอ่อ...นี่ก็เริ่มดึกแล้ว ผมว่าผมขอตัวก่อนดีกว่า ท่านหญิงจะได้พักผ่อนด้วย" เนอินยังคงแกะสองมือที่พันแขนเขาไว้ชนิดแน่นหนา เหงื่อไหลพราก ทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจ ไม่คิดว่าชีวิตนี้คนอย่างเขาต้องมาหนีผู้หญิง
"จริงด้วยสิเพคะ แหม...คุยกับเจ้าชายเพลินจนลืมเวลา ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันเดินไปส่งที่ห้องนะเพคะ" เพโลเนียหันไปมองท้องฟ้าสีดำนอกหน้าต่างอย่างเสียดาย
"ไม่เป็นไรๆ ผมรบกวนท่านหญิงแค่นี้ดีกว่า ยังไงซะห้องพักของผมเองก็อยู่ไม่ไกล คงไม่หลงหรอก" เนอินรีบปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมกับยิ้มที่พยายามทำให้มันเป็นธรรมชาติมากที่สุด แม้ตนจะรู้ดีว่ามันเป็นการฉีกยิ้มเสียมากกว่า
"ก็ได้เพคะ วันนี้เจ้าชายคงเหนื่อยมากแล้ว หม่อมฉันไม่กวนก็ได้เพคะ ถ้าเช่นนั้นก็...ราตรีสวัสดิ์เพคะ" เด็กสาวถอนสายบัวสวยงามตามที่ได้รับการสั่งสอนมา
"ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับท่านหญิง" ชายหนุ่มโค้งตัวแล้วรีบจ้ำออกจากห้องไปทันที เพโลเนียถอนหายใจแผ่วเบา หันกลับมามองโต๊ะหมากรุกที่เหลือผู้เล่นเพียงคนเดียว "อ้าว...เจ้าชายเนอาร์ล่ะคะ"
เปรยถามกับขอทานกิตติมศักดิ์ที่กำลังนั่งเงียบกับหมากกระดานสุดท้าย โรเยิ้มก่อนจะตอบ
"เขาขอตัวไปสักพักแล้วล่ะท่านหญิง" เพโลเนียพยักหน้ารับรู้ นั่งลงที่โซฟาตัวยาวพร้อมรินน้ำชาสำหรับตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับแววตาประหลาดใจ เธอมองแก้วในมือแล้วขยับยิ้ม
"กับแค่รินชา คงไม่ต้องถึงกับเรียกทหารนอกโรงแรมมารินให้หรอกค่ะ" โรหัวเราะน้อยๆ เพราะอีกฝ่ายเดาความคิดเขาออก
"ถ้าไม่ถือสา ดิฉันจะขอทราบสาเหตุที่คุณโรไปอยู่ที่สกอร์ปิโอจะได้ไหมคะ" เปรยถามพลางยกน้ำชาขึ้นจิบ
"ขอทานจะร่อนเร่ไปบ้างก็คงไม่แปลก" เสียงหัวเราะคิกคักไม่ทำให้คนพูดรู้สึกเสียหน้า เพราะไม่ใช่การเสแสร้ง "ค่ะ ไม่แปลก ดูท่าทางที่สกอร์ปิโอคงมีเศรษฐีใจบุญไปพักผ่อนกันมาก ขอทานถึงต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงที่นั่น"
ชายหนุ่มยิ้มบาง นึกชอบใจคำพูดคำจาของเด็กสาวคนนี้
"ถ้าไปแล้วไม่อดตายก็ถือว่าน่าเสี่ยง"
"นั่นสินะคะ ยิ่งถ้าเป็นเศรษฐีจากคาโนวาลก็น่าจะคุ้มค่าเสี่ยงยิ่งขึ้น" ตาสีเขียวสองคู่สบกันเป็นประกาย ต่างฝ่ายต่างสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกันโดยไม่สนถึงวัยวุฒิที่ห่างกันราวพ่อลูก เพโลเนียรู้ดีว่าคนที่เธอกำลังคุยด้วยเป็นถึงพระสหายสนิทของคิงและควีนแห่งคาโนวาล เช่นเดียวกับหัวหน้าตระกูลฟิลมัสคนปัจจุบัน ในครั้งแรกที่มีโอกาสได้เจอกันในงานเลี้ยงเล็กๆ ในราชวังคาโนวาล แค่เพียงพูดคุยกันไม่กี่ประโยคก็พอจะทำให้เธอนึกเคารพคนๆ นี้ และชื่นชมผู้นำของคาโนวาลที่รู้จักเลือกให้ความสนิทกับขอทานไร้ตำแหน่งคนนี้
...ไร้ตำแหน่ง หากแต่เต็มไปด้วยปัญญา...
...ไร้อำนาจ หากแต่พร้อมไปด้วยไหวพริบ...
"เพียงแต่ว่า...เรื่องราวมันถูกกำหนดขึ้นแล้วเท่านั้นเอง"
เพโลเนียเอ่ยและเป็นฝ่ายหลบตาลงเสียก่อน มือขาวเอื้อมไปหยิบถ้วยน้ำตาลมาตักเพิ่ม
"หินผาที่ว่าแกร่งก็ยังกร่อนได้ด้วยสายธาร" หล่อนหัวเราะกับความช่างเปรียบของอีกฝ่าย "เห็นจะเป็นเพียงน้ำฝนหยดเล็กๆ มากกว่านะคะ"
โรพยักหน้ารับคำไม่พูดอะไรต่อ แต่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มบาง
"ดูเหมือนคุณโรจะถูกใจเด็กสาวสองคนนั้นมากนะคะ"
"ใครจะถูกใจไม่สำคัญเท่าเจ้าตัวหรอก" มือที่กำลังจับหูแก้วชาราคาแพงนั้นชะงักไปเล็กน้อย หล่อนมองหน้าคนพูดหวังจะหาความผิดปกติจากนัยน์ตาฉลาดคู่นั้น หากก็ต้องล้มเลิกเพราะมันไม่มีอะไรนอกจากประกายตาปกติทั่วไป
"ท่านหญิงกับนักฆ่าย่อมต่างกัน" โรเบิกตากว้าง หลุดหัวเราะเสียงดังอย่างเสียมารยาท ก่อนจะรีบควบคุมตัวเองเมื่อเห็นแววตาตำหนิของเด็กสาวคราวลูก
"ดิฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอคะ" เขาโบกมือ เช็ดน้ำที่เล็ดปริ่มตรงหางตา
"ขออภัยๆ ท่านพูดถูกแล้วท่านหญิง เพียงแต่ผมเคยได้ยินประโยคคล้ายๆ แบบนี้ที่ไหนมาก่อนแค่นั้นเอง"
ป่านนี้สองคนที่ถูกพูดถึงคงจามกันลั่นวัง
แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าหล่อน แต่ก็ยอมลดตัวลงตามความห่างของตำแหน่ง ทั้งนี้เพื่อความสบายใจของเขาเองและของเด็กสาวที่มีตำแหน่งท่านหญิงแห่งบารามอสค้ำคออยู่ด้วย เพโลเนียไม่ว่าอะไร ยังคงรักษาภาพพจน์ของตัวเองไว้ แล้วพูดต่อ
"ท่านเนอินเองก็คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคาโนวาล เช่นเดียวกับคิงคาโล" ในตอนนี้โรแทบอยากจะวิ่งออกไปหัวเราะดังๆ นอกห้อง อะไรหนอที่มาดลใจให้สาวเจ้าคิดว่าคนอย่างเฟริน เดอโบโรว์คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคาโนวาลที่คิงคาโลเลือกให้
น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความยุ่งเหยิงมากที่สุดเสียมากกว่า
และตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโรก็คือการนั่งอมยิ้มกับตัวเองไปเงียบๆ กับคำพูดของท่านหญิงผู้ 'รู้'
------------------------------------------
เสียงย่ำเท้าสวบๆ ดังตัดกับความเงียบของป่าใหญ่ยามค่ำคืน ความหนาวเย็นภายนอกไม่ได้มีผลต่อความร้อนรุ่มภายในจิตใจของเวซิลแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม...เหมือนมันจะพัดกระพือให้ลุกโชนมากกว่าเดิม หล่อนชวนซีเวียออกจากห้องโถงสุดหรูนั่นออกมาหาอะไรกิน เพราะเธอไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เที่ยง ไอ้จะฟังคำประจบสอพลอปลิ้นปล้อนตอแหลเป็นมื้อเย็นก็เห็นทีจะไม่ไหว รังแต่จะคายของเก่าออกมามากกว่า พอกินเสร็จอีกฝ่ายก็ขอตัวไปพักผ่อน เหลือแต่เธอที่ยังคงเดินหงุดหงิดกับอะไรซักอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร
ทำไมเธอต้องมาทนอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย?
สองขาหยุดกึก ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงอย่างเหนื่อยใจที่ต้นไม้ใกล้ๆ แถวนั้น ความคิดหลายอย่างกำลังวิ่งเล่นไปมาในหัวของเธอ แต่เพราะไม่มีสมาธิจะจับมาคิดเป็นเรื่องๆ ทำให้ตอนนี้รู้สึกว่ามันน่ารำคาญนัก หล่อนผ่อนลมหายใจช้าแล้วค่อยๆ หลับตาลงเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ่งซ่านมากไปกว่าเดิม ตาสีเขียวมองจันทร์ข้างแรมที่พยายามจะแข่งกันดาวนับล้าน
...จันทร์เสี้ยวกับดาว...
ถึงจะสว่างไม่มากเท่าจันทร์เต็มดวงแต่ก็มากพอที่จะกลบแสงดาวดวงใดที่อาจหาญเข้าไปเปล่งแสงสู้
เวซิลละสายตากลับลงมาพลางขยี้หัวตัวเองแรงๆ สุดท้ายก็ฟุ้งซ่านอีกแล้ว
มันจะมีทางไหนบ้างที่จะทำให้พวกเธอหลุดจากสภาพที่เป็นอยู่นี้ไปได้ ไอ้สถานการณ์ที่จุดยืนของตัวเองมีหนามแหลมคอยทิ่มตำ มือขาวเอื้อมมือไปกุมไหล่ทั้งสองข้างแล้วบีบแน่น ลมหนาวพัดมาให้ยิ่งรู้สึกแย่
บางทีเธอน่าจะกลับห้องไปนอนพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อ
ใช่...เธอควรจะทำอย่างนั้น แต่บรรยากาศเงียบสงัดกับผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวนับล้านนั่นกลับดึงดูดให้เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
"น่าแปลกใจที่พวกเจ้าชายก็นอนดึกกับเขาได้ด้วย" คนที่นั่งพิงต้นไม้เอ่ยทำลายความเงียบรอบตัวเมื่อเสียงฝีเท้านั้นดังเข้ามาใกล้ หากอีกฝ่ายก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรตอบเพียงแต่เดินเข้ามาใกล้พอที่จะพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องส่งเสียงดังมากนัก
"ออกมาแบบนี้ท่านหญิงเขาไม่ว่าอะไรเหรอไง"
"แค่ออกมาเดินเล่น ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปขออนุญาตใคร" เนอาร์ตอบเสียงเย็นตามแบบของเขา หากซีเวียกลับยิ้มบางจะด้วยอารมณ์ไหนนั้นเขาก็ดูไม่ออก
"นั่นสินะ ก็ในเมื่อคนที่มาไม่ใช่ท่านหญิงอาเวเรียของนายนี่นา" ชายหนุ่มเงียบไม่ตอบอะไร ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดสาเหตุที่ทำให้ตัวเขาและเนอินต้องหลบหนีออกจากบารามอสให้อีกฝ่ายฟัง แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เขากำลังคุยกันอยู่
"ฉันกับท่านหญิงอาเวเรียไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"
"ยังไงก็ว่าที่คู่หมั้นไม่ใช่เหรอ นายไม่มีทางหนีคิงกับควีนของคาโนวาลได้หรอก...ฉันรู้" ตาสีแดงหลบต่ำลงพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ "'คนของคาโนวาลไม่เคยหนี' โกหกได้ดีนะ"
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไมร่า?
"นั่นเป็นคำสัตย์" ซีเวียหัวเราะเบาๆ หันมาสบตาคนพูด
"นี่นายมาอยู่นี่ไม่ใช่เพราะหนีความจริงอยู่เหรอไง" ตาสีน้ำตาลวูบไหวเล็กน้อยแล้วกลับมาสงบเหมือนเดิม แต่มีเหรอที่จะพ้นสายตาของคนที่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันร่วมอาทิตย์อย่างเธอ
"เพราะอย่างนั้นถึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปถึงซูลู แต่ดันโชคร้ายเจอเรื่องยุ่งยากเลยต้องหนีกลับมาสกอร์ปิโอ"
"พูดไปก็คงไม่เข้าใจ" เนอาร์เอ่ยขัดให้รอยยิ้มที่ระบายอยู่หุบฉับลง บางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในใจ แน่นอนว่าเขารู้จักความรู้สึกนี้ดี
...ความรำคาญ...
คล้ายๆ กับตอนที่ไปเจอเรื่องปวดหัวของพี่ชายตัวแสบ หากแต่มันมีบางอย่างต่างออกไป
ซีเวียมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งไปอึดใจ ก่อนตวัดหน้าหันกลับไปทางเดิมพลางเสยผมที่ปรกมาปิดใบหน้าขึ้นลวกๆ
"นั่นสิ เอาไว้ไปอธิบายกับคู่หมั้นนายดีกว่า" อาการขุ่นมัวร่อนเพิ่มขึ้นมาทีละน้อย ถ้าเป็นเนอินเขาคงสาดเวทย์ใส่ซักชุดสองชุดเรียกสติให้กลับมาเพราะรู้ดีว่ามันแกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่เด็กสาวตรงหน้า...ไม่ใช่
เนอาร์ผ่อนลมหายใจหนัก เขาไม่เข้าใจว่าเด็กสาวโกรธอะไรเขา ถึงได้หยิบโน่นนี่มาใส่ยำเป็นเรื่องเดียวกันแบบนี้
"เรื่องนั้นเธอก็แค่เขียนจดหมายไปบอกก็ได้นี่" ตาสีแดงหันขวับกลับมาทันที นัยน์ตาเป็นประกายในหลายๆ ความหมาย ทั้งตกใจ ตระหนกและแปลกใจ
"หมายความว่าไง"
ตาสีน้ำตาลนิ่งสงบแต่หล่อนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบนั้น ความไม่พอใจกำลังก่อตัวอย่างช้าๆ
"ฉันอาจจะโง่กว่าเธอในเรื่องสมุนไพรหรือยา แต่ฉันไม่โง่ถึงขนาดที่จะไม่รู้เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง"
***********************TBC...
Talk > ไม่ได้ด๊องงงงงงง (มีใครจะเชื่อมั้ยเนี่ย = = ) ช่วงนี้กำลังปั่นฟิคหลายเรื่องควบคู่กันไป ถ้าใครสิงบอร์ด IE ก็จะรู้ว่าข้าเจ้ากำลังปั่นฟิคเครียดเรื่องใหม่อยู่ หึๆๆ นอกจากนั้นยังมีชนักฟิค d-grey วันเกิดลูกอีกเรื่อง = =" (ได้ข่าวว่างานที่มหาลัยใกล้จะกำหนดส่งมันก็ยังไม่ได้ทำ)
จริงๆ แอบน้อยใจไม่มีเมนท์ ^^"
กำลังคิดจะเปลี่ยนนามปากกาสำหรับฟิคออริจินัลเรื่องใหม่ของ ZLRs เอาไว้ตัดสินจะเอามาลงเมื่อไหร่รับรองเปลี่ยนแน่นอนเจ้าค่ะ ^^
edit ขอบคุณที่ทักค่ะ ไอ้เบนซ์เบลอ = ="
บอร์ด IE เป็นบอร์ด....บอร์ดฟิคค่ะ หลายๆ ท่านเช่นท่าน VANA, fox ก็สิงอยู่ที่บอร์ดนี้เหมือนกัน ^^
ฟิคอีกเรื่องใน IE คือ เวลากับสายลมค่ะ ส่วนที่ว่าเรื่องนี้จะเอาไปลง IE มั้ย...ลงค่ะ เมื่อไอ้เบนซ์ขยัน เหอะๆๆๆ (นั่นคือรอต่อไป = = )
ความคิดเห็น