ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -Fanfic บารามอส- Distance : การเดินทางที่ยาวไกล

    ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 23 : ความเปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 49


                       "คทาพิพากษา!!"

                       เปรี้ยง!!!

                       มีดสั้นในมือนักฆ่ากระเด็นจากแรงเตะไปปักอยู่บนพื้นไกลออกไป คทาสีดำถูกแทนที่ด้วยดาบใหญ่ ร่างเล็กกระโดดฉากออกจากการเกาะกุมโดยไม่ลืมที่จะประเคนฝ่าเท้าเข้าสีข้างของอีกฝ่ายด้วย ตาสีน้ำตาลเป็นประกายระริกด้วยความขบขันก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น มาดน้ำแข็งจากผู้เป็นพ่อหลุดร่วงกราวลงกับพื้น

                       "นักฆ่าจากซาเรสมีฝีมือแค่นี้เองหรอเนี่ย อ่ะ...คงต้องยกท่านอาคิลไว้คนนึง" เสียงหัวเราะขบขันที่ดังเป็นระยะส่งผลให้คนฟังถึงกับหน้าตึง ตาสีม่วงจับจ้องอยู่กับร่างเล็กที่แบกดาบใหญ่ไว้บนไหล่กับท่าทีที่เปลี่ยนไป

                       "แค่เปลี่ยนจากคทาเป็นดาบอย่าคิดว่าจะสู้ได้นะเจ้าหนู" เนอาร์ชะงักเงียบลง แต่ประกายตานั้นยังคงเต็มไปด้วยแววขบขัน เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำสบประมาทนั้น ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้กับคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า มือที่ว่างอยู่ล้วงเอามีดพกที่ซ่อนเอาไว้ซัดใส่ร่างเล็กที่เริ่มขำไม่ลืมหูลืมตาอีกรอบ

                       ฉึก!!

                       เนอาร์กระโดดหลบสบายๆ พร้อมกับฉีกยิ้มกวนๆ ให้อีกรอบ พลางส่ายหน้าไปมาส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆ เป็นของแถม

                       "ฝีมือแค่นี้เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นนักฆ่านะน้า"

                       ฉัวะ!!

                       แขนซ้ายปรากฏแผลโดนฟันโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว นักฆ่าที่เริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปหันหลังขวับเมื่อหูสะดับเสียงหัวเราะแทนที่จะอยู่ด้านหน้านั้น

                       "น้านี่ช้านะ มัวมองอะไรอยู่ ผมยืนอยู่นี่ตั้งนานแล้ว"

                       "ไอ้เด็กเวร!" คำสบถกราดเกรี้ยว มือใหญ่ล้วงเอาถุงผ้าขนาดเล็กออกมาแล้วเขวี้ยงใส่เด็กน้อยทันที เนอาร์เองก็เร็วยกดาบขึ้นฟันถุงนั้นขาดสะบั้น ผงบางอย่างฟุ้งขึ้นในอากาศพร้อมๆ กับที่คนฟันกระโดดหลบให้พ้นจากรัศมีนั่น แต่ดูเหมือนจะช้าไป เมื่อสติที่สมบูรณ์เมื่อครู่เริ่มเกิดความผิดปกติ ความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อเริ่มขึ้นช้าๆ สมองเริ่มวิงเวียนไม่สั่งการเท่าไหร่

                       "โดนเข้าไปนิดเดียวเองสินะ แต่นั่นก็พอแล้ว" มีดสั้นสำรองอีกเล่มถูกชักเข้ามาไว้ในมือ หากเนอาร์ยังคงฉีกยิ้มทำเหมือนไม่ได้โดนพิษที่ว่า

                       "ใครว่าล่ะ แค่ผลจากการเดินทางข้ามวันข้ามคืน แถมไม่ได้กินข้าวอีก" นักฆ่านั้นไม่ปล่อยให้เขาได้พล่ามไปมากกว่านี้ ร่างสูงพุ่งเข้าใส่ร่างที่ยังโงนเงนไปมาด้วยความรวดเร็ว มีดสั้นปาดเอาแขนเสื้ออีกฝ่ายขาดเฉียดเนื้อไปนิดเดียว หากไม่เพราะเนอาร์หลบฉากไปได้อย่างหวุดหวิด และไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวอีกฝ่ายก็พุ่งเข้าหาอีกครั้ง เป้าหมายคือคอน้อยๆ นั่น เนอาร์ก้มลงฟาดขาสะกัดการเคลื่อนไหวส่งให้นักฆ่านั้นกลิ้งไปกับพื้น ผ่าปฐพีถูกเงื้อขึ้นหมายจะฟันให้อีกฝ่ายขาดสองท่อน แต่ศัตรูก็ไวพอกัน กลิ้งตัวหลบได้ทัน แต่เนอาร์ไม่ยอมง่ายๆ กระโดดเข้าไปขวางทางพร้อมกับเตะดินเข้าตาอีกฝ่ายที่พยายามจะลุกให้เร็วที่สุด

                       "จบแค่นี้ล่ะ!"

                       เคร๊ง!!

                       มีดสั้นถูกยกขึ้นต่างโล่แต่แน่นอนว่ารับแรงดาบใหญ่ไม่ไหวจึงหักสะบั้นลงพร้อมกับที่เจ้าของมีดนั้นกลิ้งหลบฉากไป เนอาร์ส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ หากแววตาสนุกสนานกับการต่อสู้ตรงหน้ายังไม่ลบเลือนไปง่ายๆ บ่นพึมพำกับตัวเอง ในหัวมีแต่วิธีที่จะจัดการคนตรงหน้า จนลืมว่าไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดได้สบายๆ ร่างสูงที่สบจังหวะจึงพุ่งเข้าใส่ เกล็ดหิมะที่ตกไม่สนฤดูสาดซัดสะกัดให้เขาต้องชะงัก พร้อมกับที่เนอาร์ได้สติเงยหน้าขึ้นมาพบกับหิมะฤดูร้อน แล้วต้องบ่นออกมาอีกครั้งก่อนจะตะโกนลั่น

                       "ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะแก" ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่กลับกระตุกยิ้มอย่างยินดี มือกระชับดาบใหญ่ไว้มั่นก่อนจะพุ่งเข้าหานักฆ่าที่ยังคงยืนตะลึงกับอาณาเขตที่วางปกคลุมอยู่ หากขายาวที่ถึงตัวอีกฝ่ายก่อนยันหน้าอกให้ร่างสูงเสียหลักล้มลง เด็กน้อยจึงถือโอกาสเหยียบอกนักฆ่าผู้ไม่เจียมคิดลอบสังหารราชวงศ์คาโนวาล ผ่าปฐพีถูกยกจ่อคอหอยสร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ล่าที่ตอนนี้แปลสภาพเป็นเหยื่อแทน

                       "จบแล้วสินะ บอกลาโลกนี้ได้เลย"

                       กร๊อบ!!

                       หอกดินด้านหลังถูกทำลายด้วยน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เกาะรวมตัวแล้วบีบแน่นจนหัก นักเวทย์เถื่อนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะหอกดินที่เขาสร้างในครั้งนี้นั้นแข็งแกร่งกว่าเหล็กถึงสามเท่าแต่กลับถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย สายตาจับจ้องอยู่ที่เด็กน้อยที่เกือบจะเสียเปรียบเขาอยู่เมื่อครู่ ตาสีฟ้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกตกใจใดๆ ทายาทของกษัตริย์น้ำแข็งกับธิดาแห่งความมืดที่ถูกแบ่งเป็นสอง และตอนนี้กำลังจะตื่นเต็มตัวแล้วสิ นักเวทย์กระตุกยิ้มราวกับต้องการปลอบตัวเอง แม้ว่าจะรับรู้ถึงไอสังหารตรงหน้านั้นได้เป็นอย่างดี

                       ...ไอที่แม้แต่นักฆ่าบางคนยังไม่มี...

                       "อ้อ...นี่คือตัวตนที่แท้จริงสินะ" คทาสีน้ำตาลถูกเรียกขึ้นมาในมือ ก่อนจะถูกปักลงกับพื้น เสียงบริกรรมเวทย์ดังขึ้นพึมพำไม่ได้ศัพท์ เนอินเองก็เหมือนจะรู้ทันจึงปักคทาพิพากษาลงกับพื้นและร่ายเวทย์ทันที พายุหิมะในฤดูร้อนได้เริ่มต้นและกระพือโหมหนักขึ้นเป็นลำดับ พื้นดินที่ถูกควบคุมจากเวทย์ของอีกคนเริ่มสั่นสะเทือนตามคำสั่งก่อนจะปริแยกเป็นบริเวณกว้างและลามไปยังที่ที่เนอินยืนอยู่

                       เปรี๊ยะ!!

                       น้ำแข็งขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นแทนที่พื้นดินที่แยกออก ก่อนจะลามแผ่เป็นวงกว้างปกคลุมพื้นที่รอบๆ ให้กลายเป็นพื้นน้ำแข็งและหยุดลงเบื้องหน้าราวๆ 5 เมตรของศัตรูผู้ใช้เวทย์ดิน อาณาเขตขนาดใหญ่ที่เริ่มต่อสู้กันเองส่งผลให้ต้นไม้รอบๆ เกิดการฉีกขาดจากบรรยากาศที่บิดเบี้ยว รวมไปถึงรอยบาดบนใบหน้าเรียบเฉยของเนอินด้วยเช่นกัน

                       "ฝีมือดีอย่างนี้ทำไมถึงไม่ใช้ตั้งแต่แรก" เอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย ตาสีฟ้ามองสบครู่หนึ่ง

                       "ไม่มีความจำเป็น" คำพูดสั้นๆ แต่ตีความหมายได้ว่า อีกฝ่ายไม่มีค่าพอที่จะอธิบายให้ฟัง เรียกโทสะให้พุ่งสูงขึ้นทันที

                       "แล้วจะได้รู้กัน" ขาดคำก็เร่งเวทย์ให้ขยายมากขึ้น น้ำแข็งที่ดันกันอยู่ตรงกลางเริ่มถอยร่นกลับเข้าหาผู้ร่ายเรื่อยๆ รอยยิ้มแห่งชัยชนะกระตุกขึ้นที่มุมปากแต่แล้วต้องหุบฉับลงแทบจะทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มเลือดเย็นของเด็กน้อยตรงหน้า

                       "คนที่กระหายแต่ชัยชนะโดยไม่ดูสถานการณ์ แม้ว่าชัยชนะนั้นจะอยู่ตรงหน้า แต่ก็คว้าไว้ไม่ได้อยู่ดี"

                       ฉัวะ!!!

                       ดาบน้ำแข็งฟันเข้ากลางลำตัวของนักเวทย์เถื่อนพร้อมกับที่อาณาเขตแห่งดินถูกทำลายลงพร้อมกับผู้ใช้เวทย์ เนอินก้มมองซากศพของศัตรูที่ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนจมกองเลือดด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะเบนขึ้นมามองอีกคู่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก แล้วคิ้วก็ต้องขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าศัตรูอีกคนยังไม่ถูกสังหาร

                       "ทำไมต้องห้ามไม่ให้ผมฆ่าไอ้นี่ด้วย ทีไอ้เนอินยังฆ่าได้เลย" เนอาร์สบถพรืดอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆ โรก็ชักดาบเข้ามาขวางเอาไว้ นัยน์ตาสีเขียวยิ้มเล็กน้อย

                       "เพราะเรามีเรื่องต้องถามมันน่ะสิ ที่เนอินฆ่านักเวทย์นั่นได้เพราะมันไม่จำเป็นที่จะต้องจับเป็น ฉันรู้ว่านายอยากฆ่าแต่ต้องใจเย็นๆ หน่อย อย่าลืมว่านี่เป็นคำสั่งนะเนอาร์" ประโยคสุดท้ายทำให้เนอาร์ชะงักกึก ก่อนจะขยี้เรือนผมสีเงินของตัวเองแรงๆ อย่างขัดใจ พยักหน้าหงึกหงักรับทราบ

                       "งี่เง่าถึงขนาดลืมคำสั่ง" คำประชดเรียกให้ตาสีน้ำตาลเป็นประกายวิบวับ กระชับผ่าปฐพีเตรียมฟาดฟันไอ้คนปากหมาอีกรอบ

                       "ถ้าอยากตีกันขนาดนั้นก็ได้เนอิน ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว" เนอินเหลือบมองเล็กน้อยแล้วเดินเลยไปหานักฆ่าที่ตอนนี้กลับมาเป็นนักโทษอีกรอบ เรียกเสียงโวยวายจากคนที่ท้าสู้ให้ปวดหู ขณะที่คิลนั้นหลังจากที่จัดการมัดคนตรงหน้าไว้อย่างแน่นหนาก็ต้องปวดหัวกับภาพตรงหน้า

                       นี่หรอ...เนอาร์ที่เรียบร้อย สงบ เย็นชาเหมือนไอ้คาโล

                       นี่หรอ...เนอินที่ทะโมน เลือดร้อน งี่เง่าเหมือนไอ้เฟริน

                       และเหมือนโรจะอ่านสายตางงงวยนั้นออกจึงหัวเราะแล้วตบบ่าเบาๆ

                       "เดี๋ยวค่อยอธิบายดีกว่า จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน" ว่าแล้วก็หันไปหาเนอาร์ที่เริ่มสอบปากคำอย่างสงบ ซึ่งไม่ว่าจะถามอะไรออกไปก็มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นสบตาสีเขียวเงียบๆ โรพยักหน้าช้าๆ แล้วเนอินก็ถอยฉากออกมา

                       "คนที่จ้างแกมาเนี่ย เป็นคนของคาโนวาลสินะ" คำเปรยเบาๆ ที่เหมือนไม่ใช่คำถามทำให้ตาสีม่วงฉายแววตื่นก่อนจะถูกซ่อนเข้าไปข้างในทันที ขอทานแห่งทริสทอร์ยิ้มบางๆ แล้วลุกขึ้นยืนหันไปพูดกับคิล

                       "พาไอ้หมอนี่ไปที่ขังไว้ที่คุกของคาโนวาลก่อนก็แล้วกัน พวกนายสองคนคงหิวแล้วสิ ไปหาอะไรกินในตลาดก่อนก็แล้วกัน" เนอาร์ร้องเฮลั่นขณะที่เนอินนั้นพยักหน้ารับรู้

                       "เฮ้ย! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ฉันงงไปหมดแล้วนะโว้ย!!" ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด ไหนว่าไอ้ลิงสองตัวนี่มันตายแล้วไง แถมมีศพให้เห็นอีก โรขยับยิ้มมาดมากอย่างที่ชอบทำ

                       "เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังระหว่างที่กินข้าวก็แล้วกัน" คิลที่ไม่รู้จะทำยังไงกับไอ้คนรู้มากแต่ไม่ยอมบอกดีจึงได้แต่เกาหัวเดินลากนักโทษไปเงียบๆ

    ----------------------------------------------------

                       ตัดมาที่ห้องบรรทมของกษัตริย์แห่งคาโนวาลกันต่อ หลังจากที่คิลพุ่งตัวออกไปจากห้อง ทุกสิ่งรอบตัวก็เงียบสงัด ความมืดค่อยๆ โรยตัวลงช้าๆ นาเดียที่ตอนนี้เขยิบเข้าไปใกล้คาโลนั้นกวาดสายตาไปอย่างระแวดระวังเต็มที่ แล้วต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงประตูเปิดดังขึ้น หล่อนหันไปตามเสียงแล้วต้องถอนหายใจออกมา

                       "โธ่ ตกอกตกใจหมดเลย" แขกผู้มาใหม่ขยับยิ้มแล้วเอ่ย

                       "เธอรีบไปหาที่ซ่อนซะ เดี๋ยวฉันจะเฝ้าฝ่าบาทเอง" นาเดียอึกอักอยู่ครู่ใหญ่จึงพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี เพราะตอนนี้เธออยู่ไปก็จะกลายเป็นตัวถ่วงของคนตรงหน้าหากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ

                       ปัง

                       เสียงประตูปิดดังแผ่วเบา เรียกรอยยิ้มบางอย่างให้ผุดขึ้นมา ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ร่างของกษัตริย์คาโลผู้ที่ยังไม่ได้สติ

                       "แค่ลูกตาย เมียตายก็กลายเป็นคนไร้ค่าไปซะแล้วนะฝ่าบาท" น้ำเสียงเหยียดหยามเอ่ยดังแผ่ว หากกลับฟังดูดังเหลือเกินในบรรยากาศเงียบกริบเช่นนี้ ตาสีดำขลับมองเลยขึ้นมายังร่างราชินีแห่งคาโนวาลที่ยังคงไม่เน่าเปื่อยจากโลงศพน้ำแข็ง ดูราวกับกำลังหลับและรอวันตื่นขึ้นมา

                       "ทั้งๆ ที่มีศักดิ์เป็นธิดาแห่งความมืดแต่กลับไร้ฝีมือ ไร้ซึ่งกิริยามารยาทที่สมควรจะมี ทำไมฝ่าบาทถึงยังรักและยกให้เป็นราชินีได้อีกนะ" ร่างนั้นยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ราวกับคนที่นั่งนิ่งนั้นกำลังฟังอยู่

                       "รู้มั้ยว่าการที่ฝ่าบาทขึ้นเป็นกษัตริย์ของคาโนวาลที่ควรจะเข้มแข็งและเด็ดขาดมันทำให้ประวัติศาสตร์ที่เลืองลือของราชวงศ์คาโนวาลด่างพร้อย อีกทั้งยังรับหญิงที่ไร้สมองเข้ามาเป็นราชินีซ้ำเข้าไปอีก... พวกอำมาตย์เองก็ควรจะเอือมระอาแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครเห็นด้วยกับการปลดท่านออกจากตำแหน่งกษัตริย์" ดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวถูกชักออกมาจ่อคอหอยคาโลไว้อย่างน่าหวาดเสียว หากคนที่กำลังจะถูกฆ่านั้นกลับยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจสิ่งใดๆ

                       "แต่ก็ช่างเถอะ วันนี้..ตอนนี้... กษัตริย์คาโล วาเนบลีจะถูกลอบปลงพระชนน์ด้วยฝีมือของนักฆ่าจากซาเรสที่กษัตริย์เนเฟลที่หกแห่งโคมิเน่เป็นผู้จ้างวาน และด้วยเพราะความเศร้าโศกจากการสูญเสียจึงทำให้กษัตริย์คาโลไม่สามารถปกป้องตัวเองได้..."

                       "มีเรื่องอย่างนั้นด้วยหรอเนี่ย" เสียงหวานใสดังขัดขึ้นมาให้ร่างสูงต้องชักดาบกลับหันกลับมาอย่างระแวง ตาสีดำกวาดไปทั่วห้องตามมุมมืดที่แสงส่องไปไม่ถึง

                       ใคร??

                       "เพิ่งรู้ว่าคนอย่างท่านนี่นอกจากจะวางแผนได้ดีเยี่ยมแล้ว ยังปั้นเรื่องเก่งอีกด้วย ไม่คิดจะไปแต่งนิยายขายบ้างหรอไง...เจ้าชายโรนัน"


    *******************************TBC...

    Talk > ตอนนี้มันต้องมีคนที่อ่านแล้วมึนหัวแน่ๆ เพราะไอ้คนแต่งก็มึนเหมือนกัน -*-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×