คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11 : ความหลัง(1)
สายลมเย็นๆ ค่อยๆ โชยพัดเอากลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดให้รู้สึกสบายใจ วันนี้ทุกคนตัดสินใจที่จะพักการฝึกซ้อมแล้วมาปิคนิคกันแทน สถานที่ที่พวกเขาเลิกก็คือริมแม่น้ำแถวๆ ชายแดนที่ต่อกับนครจันทรา หวังจากที่ต่างคนต่างฟาดมื้อเที่ยงกันเรียบร้อยแล้วก็เป็นเวลาของการพักผ่อนตามอัธยาศัย หากเฟริน (ในร่างหญิง -- โดนเอวิเดสยึดแหวน) ก็ยังคงหยิบเรื่องแผนการมาคุยกับขอทานแห่งทริสทอร์อยู่ดี โดยมีสองคู่ชู้ชื่นศรีพี่น้องฝาแฝดนั่งฟังอยู่ด้วย
"แกแน่ใจนะว่าจะผ่าน ก็ตอนนั้น..."
"อย่าลืมว่าตอนปีหนึ่งก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วนะ" คำค้านจากโรทำให้เธอต้องเงียบไป
"นี่ท่านน้าโร...เล่าให้เราสองคนฟังเรื่องสมัยท่านแม่ยังเรียนอยู่เอดินเบิร์กกับท่านพ่อให้ฟังหน่อยสิ" เนอินที่นั่งฟังเงียบๆ โพล่งขึ้นมาด้วยความอยากรู้ อีกไม่กี่ปีเขากับเนอาร์ก็ต้องไปเรียนที่นั่นเหมือนกัน ไอ้จะหาความรู้ไว้ซักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนี่
"ก็เคยเล่าให้ฟังแล้วนี่"
"โธ่... ท่านแม่เล่าทีไรก็เล่าแต่ไอ้ช่วงที่เจอหน้าท่านพ่อใหม่ๆ แล้วก็ช่วงที่อยู่ระหว่างสงครามนั่นเท่านั้น ที่ผมอยากรู้น่ะ คือท่านพ่อกับท่านแม่แต่งงานกันได้ไงต่างหาก เห็นทะเลาะกันวันละสิบๆ รอบ เขม่นกันไปเขม่นกันมา มองยังไงก็ไม่เห็นช่องที่ท่านพ่อจะมารักท่านแม่เลย" คนถูกกล่าวหาแยกเขี้ยวใส่ หน้าขาวๆ ซับสีขึ้นมาทัน ขณะที่โรนั้นหัวเราะเบาๆ ถูกใจ ส่วนเนอาร์น่ะหรอ...เงียบ แต่หูผึ่งฟังอย่างตั้งใจ
"จะรู้ไปทำไมเล่า ตอนนี้เป็นยังไงก็พอแล้วไม่ใช่หรอ ว่าแต่โร...ถ้าแผนมันไม่ได้ผลจะมีแผนสำรองมั้ย" เสปัดไปทางอื่นออกนอกเรื่องกันง่ายๆ
"ฉันเล่าให้แทนก็ได้นะ เพราะตอนนั้นฉันเองก็อยู่ในเหตุการณ์" ตาสีเขียวทอประกายด้วยความสนุกเมื่อเห็นอาการเขินของอีกฝ่าย เด็กน้อยทั้งสองเมื่อเห็นว่ากำลังจะมีนิทานเรื่องจริงมาเล่าก็รีบขยับเข้ามาใกล้
"ไม่ต้องเลย ฉันเล่าเองก็ได้ ให้แกเล่าเดี๋ยวแกจะปั้นเรื่องมาหลอกไอ้ลิงสองตัวนี้อีก" เฟรินมองหน้าอยากรู้อยากเห็นของลูกชายตัวเองแล้วถอนหายใจหนัก ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะพูดถึงมันอีกแท้ๆ
------------------------------------------
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่เฟรินยังอยู่ปี 7 อันเป็นปีสุดท้ายในเอดินเบิร์ก หากชีวิตประจำวันของเจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอสก็ยังคงเหมือนเดิม ด้วยการตื่นขึ้นจากเตียงโดยวิธีสุดพิเศษจากเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล ตามมาด้วยเสียงสบถลอยออกมาจากห้องน้ำ
"เมื่อไหร่แกจะเลิกปลุกฉันด้วยวิธีบ้าๆ นั่นซะทีคาโล!" ใบหน้าหวานงองุ้มหลังจากจัดการวิ่งลอดห่วงน้ำออกมาเดินบ่นระหว่างทางเดินไปยังห้องเรียน แต่จำเลยก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆ ยิ่งเรียกความหงุดหงิดให้มากขึ้น ตั้งแต่กลับมาเมื่อสองปีก่อนเขาก็ต้องอยู่ในร่างผู้หญิงบ้าๆ นี่เพราะไอ้คาโลมันยึดแหวนไปด้วยเหตุผลที่ว่า
'นายควรจะเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตแบบผู้หญิงเฟริน'
ยังดีที่ไปอ้อนวอนขอเลโมธีไม่ให้ย้ายห้องไว้ได้ ถ้าต้องไปอยู่กับสามสาวชาลีเดวิลนั่นแล้ว บรื๋อ~...คิดแล้วสยอง
"เอาน่าเฟริน อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว ถึงตอนนั้นแกจะหลับซัก 3 วัน 4 คืนก็ไม่มีใครว่า" คิลตอบขำๆ กับบทสนทนาเดิมๆ ที่ยังไม่พัฒนานี่ เฟรินนิ่งไป... นั่นสินะ พวกเขากำลังจะจบจากโรงเรียนแล้วนี่นา คิดแล้วก็อดวูบขึ้นมาไม่ได้ ทั้งสามพากันมานั่งประจำที่เตรียมตัวสำหรับการเรียนวันนี้ (ยกเว้นสองคนที่เริ่มหาทำเลหลับ)
"วันนี้อาจารย์ชามัลไม่สอน เพราะติดธุระที่บารามอส แต่อาจารย์สั่งให้เขียนรายงานไว้ 50 หน้าว่าด้วยเรื่องผลกระทบจากสงครามเมื่อ 4 ปีก่อนต่อเอเดน มาส่งที่ฉันส่งภายในอาทิตย์นี้" ขาดคำทั้งหมดก็ลุกฮือ (ใช้คำน่ากลัวไปป่าวเนี่ย) ออกจากห้องไป เป้าหมายของพวกป้อมอัศวินอันไร้ที่อยู่คือ....ห้องนั่งเล่น
"ปกติอาจารย์ชามัลไม่หยุดง่ายๆ สงสัยจะธุระใหญ่จริงๆ" ครี๊ดเปรยขึ้นเบาๆ ในวงสนทนาที่เริ่มจับกลุ่มอันเป็นกิจวัตรยามว่าง ใครว่าผู้ชายจะโม้ไม่ได้ ท่านสามารถหาดูได้ที่ปี 7 ป้อมอัศวินแห่งนี้ หนุ่มน้อยแสนสุภาพพยักหน้า
"ก็เล่นควบตำแหน่งคิงเข้าไปด้วยนี่ครับ ความจริงแล้วอาจารย์ไม่ต้องมาสอนอีกก็ได้ แต่ดูเหมือนแกจะไม่ยอมทิ้งหน้าที่ง่ายๆ" ห่างออกมาเล็กน้อยขอทานผู้รอบรู้บวกตำแหน่งสี่ผู้คุมกฏกำลังนั่งจิบชาประจำที่โดยที่ยังได้ยินสิ่งที่เพื่อนๆ กำลังคุยอยู่ทั้งหมด ข้างๆ คือยายตัวแสบประจำป้อมที่นั่งหัวเราะคิกคักกับคิลในหัวข้อ 'ธุระของอาจารย์ชามัล ฉบับ เฟริน เดอเบอร์โรว์' ก่อนจะหันมาถาม
"แกรู้ป่าวโร ว่าอาจารย์ชามัลติดธุระอะไร" คนถูกถามพยักหน้าตอบฉีกยิ้ม
"รู้สิ เป็นเรื่องใกล้ตัวนายมากๆ เลยเฟริน" ถึงไอ้รูปร่างตรงหน้าจะบอกได้ว่าเป็นผู้หญิง แต่ไอ้คำพูดจา กิริยาท่าทางไม่ชวนให้คิดตาม ง่ายๆ ว่า... ทั้งป้อมอัศวินปี 7 ไม่มีใครเห็นมันเป็นผู้หญิง เฟรินเบิกตากว้างตกใจ ชี้มาที่ตัวเองพลางเลิกคิ้วสูง เรื่องใกล้ตัว?? โรพยักหน้าเนิบๆ ซ้ำอีกครั้ง
"เป็นเรื่องใกล้ตัวฉัน แต่ฉันไม่รู้ แล้วแกกลับรู้เนี่ยนะโร" คิลหัวเราะเบาๆ ก็ถ้ามันไม่รู้จะเรียกมันว่าห้องสมุดเคลื่อนที่ได้มั้ยล่ะ
"แล้วตกลงมันเรื่องอะไรหรอครับ" โรหันไปมองกลุ่มเพื่อนที่ตอนนี้เบนสายตาทั้งหมดมาหาเขาอย่างอยากรู้คำตอบ ก่อนจะมองเลยไปยังเจ้าชายตัวดีเจ้าของตำแหน่งหัวหน้าป้อมที่อ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลนัก
"เรื่องพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายคาโล วาเนบลีแห่งคาโนวาลกับเจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวลแห่งเดมอสและบารามอส ทันทีที่เจ้าชายคาโลขึ้นครองราชย์" สิ้นคำตอบ เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น คิลอึ้งไปเล็กน้อยแล้วขำก๊ากออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนรักสองคนที่ต่างฝ่ายต่างแข่งกันหน้าแดงบวกอึ้งๆ
"โห...งั้นก็ต้องแสดงความยินดีล่วงหน้าสิเนี่ย ฮ่าๆๆๆ" ครี๊ดหัวเราะลั่น ตบป้าบๆ เข้าที่ไหล่คาโลอย่างชอบใจ บ๊ะ!..ไอ้เพื่อนตัวแสบ จบปุ๊บได้เมียปั๊บอย่างนี้น่าอิจฉาโว้ยยย แน่นอนว่ามันเป็นเพียงความคิดในใจเพราะอาการร่อนหิมะได้เริ่มขึ้นลางๆ
"อย่างนี้อย่าลืมส่งการ์ดมาล่ะ ฉันจะจัดการเธอให้กลายเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดให้ดู" แองเจลีน่ายิ้มกว้างเช่นเดียวกับมาทิลด้าและเรนอนที่พยักหน้าเห็นด้วย
"แกรู้ได้ไง! อย่ามาโกหกดีกว่าโร ไอ้เรื่องบ้าๆ แบบคลุมถุงชนแบบนี้ ฉันไม่ยอมรับโว้ยยย!!" เฟรินตะโกนเสียงดังลั่น หน้าแดงเถือกๆ ส่งผลให้เสียงทุกเสียงเงียบกริบ อุณภูมิห้องเมื่อครู่เริ่มลดลงมาจนติดลบอย่างน่ากลัว ไอเย็นแบบนี้...บรรยากาศแบบนี้ เจ้าตัวต้นเรื่องที่ตะโกนแหกปากหันขวับไปมอง
"นายไม่อยากแต่งงานกับฉันขนาดนั้นเลยหรอเฟริน" เสียงดุเครียดๆ เอ่ยผ่านริมฝีปากของเจ้าชายแห่งคาโนวาลอันเป็นอีกผู้หนึ่งที่พูดพาดพิง สีหน้าที่ปกติจะเรียบเหมือนโดนรีดอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งเย็นชาจนใจหาย แต่อาการน็อตหลุดทำให้วิชาปากเบาออกฤทธิ์ไวกว่าปกติ
"หรือแกจะยอมโดนคลุมถุงชนวะ เรื่องแต่งงานมันเรื่องใหญ่ ไม่ใช่จะให้แต่งกับใครก็ได้แบบนี้" อาการเงียบอึ้งยิ่งหนักกว่าเก่า กัสที่นั่งฟังปัดเศษหิมะที่ไม่รู้มาจากไหนออกเบาๆ ขณะที่เดทต้องลุกไปหยิบผ้ามาห่มเพราะอากาศหนาวจัด ส่วนคิลนั้นตอนนี้กำลังกระเทาะน้ำแข็งที่เกาะขาตัวเองอยู่ ดันอยู่ใกล้มันที่สุดเลยซวย!
"ถ้า...นายคิดว่าฉันเป็น 'ใครก็ได้' ก็ดีเฟริน ฉันจะไปส่งจดหมายหาท่านพ่อให้ยกเลิกงานแต่งงานที่นายว่าเป็นการคลุมถุงชน" คาโลหมุนตัวเดินออกไปไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้น ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบพร้อมกับอุณหภูมิที่ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ สายตาทุกคู่มองรวมกันที่ร่างบางที่ยืนเป็นประติมากรรม 'อึ้งโว้ย!' อยู่กลางห้อง
"คุณเฟรินไม่น่าไปพูดอย่างนั้นกับคุณคาโลเลยนะครับ" นักบวชแห่งบารามอสทักขึ้นมาเป็นคนแรก ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
"ก็..ก็...."
"เล่นมาพูดว่าใครก็ได้แบบนี้ สงสารคาโลว่ะ" เดทเงยหน้าขึ้นมาเสริมเล็กน้อย ยิ่งทำให้จำเลยคดีนี้ลุกลนหนักกว่าเก่า
"ดีแค่ไหนที่มีคนมาให้ความสำคัญกับแก แต่ดันไม่รักษาเอาไว้" กัสเปรยขึ้นมาเบาๆ บ้าง แล้วการตั้งกระทงความผิดก็เริ่มขึ้น เฟรินได้แต่นั่งเจี๋ยมเจี้ยมทำตัวลีบเพราะเถียงไม่ทัน จนกระทั่งตัวเริ่มเรื่องโพล่งขึ้นมา
"งานนี้คาโลต้องหาราชินีใหม่ซะแล้วสิ" ตาสีน้ำตาลค้อนขวับเข้าให้ก่อนจะหัวเราะลั่น
"ใครจะมาหลงรักไอ้น้ำแข็งเดินได้นั่นก็แย่แล้ว เย็นจะตายชัก ขืนอยู่ด้วยมีหวังต้องอยู่กับเสื้อหนาวไปตลอดชีวิต" เรนอนส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะขัดขึ้น
"ผิดแล้วค่ะเฟริน คนอย่างคุณคาโลน่ะ ลองให้เอ่ยปากบอกท่านพ่อให้ประกาศหาคนมาดำรงตำแหน่งราชินีองค์ต่อไป เจ้าหญิงเมืองต่างๆ ลูกสาวขุนนางคนสำคัญ หรือแม้แต่หญิงชาวบ้านธรรมดาต่างก็พากันมาเสนอตัวให้เลือกกันไม่ไหวแล้วค่ะ" ดวงหน้าเนียนๆ เริ่มซีดลงเรื่อยๆ ยิ่งเจอคำรับประกันของอีกคนเข้า
"ถูกที่เรนอนพูดนั่นแหละ ที่สำคัญมันเป็นกฏที่กษัตริย์ของคาโนวาลจะต้องมีราชินี หรืออย่างน้อยชายาหนึ่งคนเมื่อขึ้นครองราชย์" หย่อนระเบิดให้อีกลูก ทันทีที่รับก็ระเบิด...บึ้ม!!!
"แล้วจะให้ฉันทำไงเล่า" แค่นั้นแหละ ทั้งหมดก็ฉีกยิ้มกว้าง รวมถึงซีบิลน้อยที่สงบเสงี่ยมด้วย
"แกก็ต้องง้อมันน่ะสิ" ครี๊ดเริ่มคนแรก แต่ปัญหาต่อมาคือ...จะง้อยังไงล่ะ?? ไอ้คนที่เที่ยวชอบสอนนู่นสอนนี่เขาไปทั่วเริ่มหนักใจ ให้ไปง้อสาวน่ะไม่มีปัญหา แต่นี่ให้ไปง้อหนุ่ม!!!!
"งั้นลองเปลี่ยนอิมเมจกันหน่อย มานี่มาเฟริน" แล้วแองจี้ก็ลากยัยตัวแสบเข้าห้องไปพร้อมกับมาทิลด้าและเรนอน ตามมาด้วยเสียงร้องกรี๊ดกร๊าด ข้าวของแตก(?) ตูมตาม(??) จนในที่สุด ร่างบางๆ ก็เดินออกมาจากห้องด้วยแรงลากของคนเจ้ากี้เจ้าการให้คนที่รออยู่นอกห้องต้องตะลึง
ชุดวันพีซสีขาวปัก ลายดอกไม้เล็กๆ ตรงชายกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยดูเซ็กซี่ แขนกุดโชว์หัวไหล่เนียนๆ กับสร้อยไข่มุกแสงจันทร์อีกเส้นที่ได้มาใหม่เมื่อตอนปี 5 ที่กำลังอวดแสงนวลของมันแข่งกับลำคอระหงห์ ผมยาวระบ่าลงมาเล็กน้อยถูกสางใหม่ดูละเอียด ริมฝีปากบางที่เคยเรียบถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน แต่...
"ชุดบ้าอะไรเนี่ย!! ฉันไม่ใส่จะไปถอด!! แล้วพวกแกมองอะไร ไม่มีอารมณ์อยู่เป็นอาหารตาโว้ย!!!" ทุกคนยกมือกุมขมับ ยกเว้นแต่คิลที่หัวเราะก๊ากออกมา เพราะรู้นิสัยเพื่อนของตนดี กับโรที่หัวเราะหึๆ เพราะชิน
"ไม่ได้นะ นายต้องไปหาคาโลด้วยชุดนี้ อยากให้คาโลหาราชินีคนใหม่หรอไง" มาทิลด้าคว้าแขนเธอไว้ก่อน เหตุผลที่ทำให้เฟรินต้องนิ่งไป แล้วใครจะไปแต่งกับไอ้น้ำแข็งบ้านั่นกัน!!! แต่...เธอก็ไม่อยากให้มันไปหาราชินีคนใหม่เหมือนกัน
............................
"ก็ได้" รับเสียงอ่อยอย่างยอมแพ้ แล้วทั้งหมดก็ดันๆๆๆ หลังเธอออกนอกห้องนั่งเล่นปิดประตูใส่ไม่ใยดี จนเฟรินกัดฟันกรอด
ไอ้เพื่อนเฮงซวย!!!
คิดแล้วก็ยิ่งโมโห แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว... ไปง้อมันหน่อยก็ได้ สองขาย่ำต๊อกๆ ตามทางเดิน ท่ามกลางสายตาประชาชีที่หันมามองอย่างสนใจ
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร??
ส่วนเจ้าตัวนั้นไม่ได้สนใจอะไรนอกจากสอดส่ายตาหาร่างสูงๆ ผมเงินที่ทำให้หล่อนต้องระเห็จออกมาแบบนี้ เอ...มันบอกจะส่งจดหมาย........
------------------------------------------
ปึง!!
เสียงประตูถูกเปิดออกอย่างแรง แต่ไม่ทำให้ร่างที่นั่งขีดเขียนอยู่ที่โต๊ะหนังสือหันมาให้ความสนใจแม้แต่น้อย เฟรินก้าวฉับๆ ไปยืนอยู่ข้างหลัง ชะเง้อมองร่างจดหมายที่อีกฝ่ายกำลังเขียนแล้วคิ้วเผลอกระตุก
"คาโล..."
"....................." (แกร๊กๆๆ -- เสียงเขียนจดหมาย ...ตามที่ได้เรียนไปในส่วนของตอนต้นจดหมายฉบับนี้...)
"แกโกรธฉันหรอ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้น" (แกร๊กๆๆๆ --- ....จึงอยากขอให้ท่านกรุณายกเลิก....)
"ขอโทษจริงๆ นะคาโล แกจะให้ฉันง้อแกยังไงก็ได้แต่อย่าทำนิ่งแบบนี้จะได้มั้ย" (แกร๊กๆๆๆๆๆ --- .... ด้วยความเคารพอย่างสูง...) มือที่กำลังจรดปากกาเซ็นต์ชื่อถูกกระชากขวับ
"ไอ้คาโล!! คนเขาอุตส่าห์มาง้อแล้วอย่าเล่นตัวนักได้มั้ย!!!" ตาสีฟ้าเย็นหันกลับมามอง ก่อนจะปรายลงตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้ม...เหยียด
"ถ้าคิดว่าการง้อฉันมันลำบากมากนักก็ไม่ต้อง" คาโลกระตุกมือกลับแล้วเซ็นต์ลงไปยังท้ายจดหมายปิดผนึกเรียบร้อย แต่หัวขโมยย่อมเร็วกว่าฉวยเอาจดหมายนั่นมาฉีกทิ้งทันที ตาสีน้ำตาลจ้องหน้าขาวๆ นั่นอย่างเดือดดาล โกรธทั้งมันที่ทำเล่นตัว โกรธทั้งเธอที่ยังยืนบ้าง้อมันอยู่อย่างนี้
"เรา-ต้อง-เคลียร์-กัน" เน้นทีละประโยคช้าๆ ชัดๆ พยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
"เราไม่มีอะไรต้องเคลียร์เฟริน ที่นายพูดมาเมื่อครู่มันก็สื่อความหมายของมันได้ดีอยู่แล้ว ที่สำคัญคือ ท่านพ่อคงหาผู้หญิงที่เหมาะจะเป็นราชินีได้...ดีกว่าแก"
เปรี้ยง!!
หมัดสวยๆ สวนคำพูดอีกฝ่ายไปปะทะกับแก้มขาวๆ นั่นทันที มือที่กำแน่นสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ที่หนักกว่านั้นเห็นจะเป็นน้ำตา...ที่ไหลออกมาอย่างไม่อายใคร
ทำไม...
คาโลเอื้อมมือขึ้นมาแตะตรงรอยชกเมื่อครู่แล้วกระตุกยิ้มเย็นอีกครั้ง
ทำไมกัน....
ขายาวก้าวเข้าประชิดร่างที่สั่นเทิ้มช้าๆ โดยที่รอยยิ้มนั้นไม่ได้จางไปเลย
เพราะอะไร!!!
"ถือว่าล้างหนี้ที่ฉันไปคลุมถุงชนนายตอนอยู่ที่เมืองยักษ์" แล้วร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป เฟรินทรุดตัวลงนั่งปล่อยโฮออกมาทันที ลำคอระหงส์...ที่เคยมีสร้อยไข่มุกประดับอยู่ตลอดเวลา
บัดนี้...ว่างเปล่าเช่นใจเจ้าของมัน
*******************************TBC...
Talk > ลงรอบที่ 5.... สติแตกจนเลิกบ้าแล้วค่ะ = =" คุยกันเรื่องหนังสือ(รอบที่ 5 เช่นกัน) ตอนนี้ไอ้เบนซ์ตัดสินใจพิมพ์เพิ่มเพราะไม่อยากส่งเงินกลับ ไม่ใช่ว่างกนะคะ แต่คิดว่าถ้าส่งเงินกลับท่านที่ส่งเงินมาจะเสียความรู้สึกน่ะค่ะ ถ้าจัดการชุดนี้เสร็จแล้วเหลือยังไงจะแจ้งให้ทราบที่นี่อีกครั้งนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^
ความคิดเห็น