คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 11 : พี่น้องทะเลาะกัน
"ฉันเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าชายอย่างนายไม่อยู่ในวัง" ซีเวียเปรยเบาๆ หลังจากที่ปล่อยให้ช่วงสนทนาเงียบหายไป มือเรียวเสยผมสีแดงยาวไปด้านหลัง ตาสีแดงทอสะท้อนแสงแดดเป็นประกายงดงาม "รวมไปถึงเหตุผลที่ค่าหัวพวกนายถึงได้สูงลิบลิ่วแบบนั้น" ตาสีน้ำตาลตวัดมองระแวงเรียกเสียงหัวเราะเบา บรรยากาศตึงเครียดตั้งแต่หลายวันก่อนดูจะจางหายไปบ้าง
"ทำไมไม่บอกความจริงหล่อนไป" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ความเคร่งเครียดค่อยๆ ม้วนตัวเข้ามาหาอีกครั้ง
"ความจริง?"
ซีเวียขยับยิ้มสวยอย่างหาดูได้ยาก ทรุดตัวลงนั่งพิงราวกั้นข้างร่างสูง
"เรื่องที่ว่าถ้านายไม่ใช้ตำแหน่งรับรอง ไมร่าก็ต้องโดนโทษประหาร" ตาสีแดงสบนัยน์ตาคมที่มองมาเธอ เนอาร์ถอนสายตาไปมองลูกเรือที่กำลังจัดการใบเรือผืนใหญ่
"ฉันไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น" คนฟังหัวเราะ "ฉันถามแม่ทัพไบอัสมาแล้วว่านายยอมใช้ตำแหน่งเจ้าชายค้ำประกันว่าไมร่าจะไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้น" คิ้วเข้มกระตุกเล็กน้อย นึกถึงใบหน้าซื่อของแม่ทัพใหญ่แห่งซูลูที่ฝีมือการรบทางเรือยอดเยี่ยมไม่แพ้แม่ทัพประเทศใด แต่ดันปากเปราะพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด คิดแล้วก็นึกถึงพี่ชายฝาแฝดที่มีดีกรีความปากเปราะขั้นบรมครู
ถ้าคราวหน้าถ้ามากับเนอินเห็นทีต้องใช้เข็มเย็บปากเนอินกันเอาไว้ก่อน ถ้าหลุดปากเรื่องสำคัญของคาโนวาลอะไรออกไปแล้วเกิดแม่ทัพไบอัสทำตัวเป็นโทรโข่ง ล่ะก็...
ความซวยจะมาเยือนคาโนวาลน่ะสิ
"ถึงกับยอมเอาตำแหน่งตัวเองค้ำประกันแบบนั้น แล้วทำไมถึงต้องไปพูดให้ไมร่าตามฆ่านายด้วย" เนอาร์มองขอบฟ้าที่บรรจบกับขอบทะเลเงียบๆ เสียงนกนางนวลยังคงดัง บางตัวโผลงมาเกาะตรงรั้วดาดฟ้า ตาสีดำมันวาวจับจ้องอยู่ที่มนุษย์สองคน เวลาผ่านไปจนคนรอคำตอบต้องถอนใจ
"กับคนบางคนที่ล้มลง วิธีช่วยที่ดีที่สุดนั้นไม่ใช่การฉุดดึง แต่เป็นการผลักแรงๆ" ซีเวียหันมามองคนพูด จะเพราะต้องพึ่งพากันร่วมอาทิตย์รึเปล่านะ ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตาสีน้ำตาลนั้นความจริงแล้วไม่ได้เย็นชาอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่แสดงออกมาน้อยเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นได้เท่านั้น
"ถึงขนาดที่ต้องล้มหมอนนอนเสื่อไปวันนึงเต็มๆ จากการดันทุรังแสดงโชว์ป่าหี่ให้ไมร่ามีกำลังใจที่จะฆ่านายเลยงั้นสิ" เนอาร์ไม่ตอบแต่นึกสงสัยว่าเจ้าหล่อนไปรู้อะไรมามากแค่ไหนกันบ้าง
"ถึงตอนนั้นคาโนวาลจะทำยังไง"
"ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพราะหล่อนไม่ได้สร้างปัญหาให้ซูลู" คำตอบนั้นสร้างความประหลาดให้กับคนฟังมากกว่าสงสัย อะไรที่ทำให้เจ้าชายน้ำแข็งแสนเย็นชายอมลงให้กับเด็กสาวชาวบ้านแบบนั้น
ไม่ต้องคิดนานก็พอจะรู้
ซีเวียส่ายหน้ายิ้มๆ ไอ้เรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใครซะด้วย
"จะบอกว่าเป็นการชดใช้ให้ไมร่าอย่างนั้นเหรอไง" เนอาร์นิ่งเงียบไป เขารู้ดีว่าตนกำลังแบกอะไร และต้องทิ้งอะไรไป นอกเหนือไปจากหน้าที่เจ้าชายก็มีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำในฐานะคนทั่วไป การที่เขายื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องภายในของซูลูถ้าประเทศใดรู้เข้าย่อมส่งผลเสียต่อคาโนวาล แต่จะให้ยืนเฉยๆ บนแท่นประหารโดยไม่ทำอะไรก็ดี หรือแหกคุกหนีกลับคาโนวาลก็ดี...เขาทำไม่ได้ แต่เนอาร์ก็รู้ดีว่านอกเหนือไปจากความผิดต่อคาโนวาลแล้ว ความผิดต่อตัวเองก็หนักอึ้งจนไหล่ที่เคยแบกแต่เกียรติและศักดิ์ศรียังต้องปวดร้าว ตาสีน้ำตาลหลุบต่ำลงเมื่อนึกยามที่ตัวเองขาดสติ
...ควบคุมอารมณ์ไม่ได้...
...บ้าคลั่ง...
...ไร้ความปราณี...
ไม่มีใครห้ามได้...จนเกือบจะต้องฆ่าคนบริสุทธิ์
สุดท้ายแล้ว...เขานั่นล่ะที่เป็นคนที่ทำให้ไมร่าต้องหันคมดาบใส่ตัวเขาเอง
ถ้าเช่นนั้นการจุดไฟให้ไมร่าก็คงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ ซีเวียมองใบหน้าคมที่จมอยู่ในความคิดตนจนไม่สนใจรอบข้างอย่างเห็นใจ แล้วถอนหายใจแผ่วเบาเปลี่ยนเรื่อง
"พอถึงสกอร์ปิโอนายจะทำอะไรต่อ" คนถูกเรียกสติเงยหน้าขึ้นมาตอบเรียบๆ
"หาเนอิน" ซีเวียพยักหน้าหงึกหงักดีดตัวเองขึ้นมายืนกระฉับกระเฉง หมุนตัวหันหน้าออกทะเลแล้วสูดหายใจเข้าลึก นานครั้งที่เธอจะมีโอกาสพักผ่อนและใกล้ทะเลแบบนี้ "นั่นสินะ" เสียงหวานเปรยแผ่วเบาให้เนอาร์ต้องเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าเปื้อนยิ้มบางของสาวน้อยตรงหน้า
"แล้วนายจะกลับคาโนวาลเลยเหรอ" ซีเวียหมุนตัวกลับมาถามทำเอาคนที่เผลอเสียมารยาทรีบหลบสายตา นั่นสินะ...ตอนนั้นนึกแค่ว่าจะหนีไปสกอร์ปิโอทางเรือแค่นั้นเอง แต่ตอนนี้ต้องมานั่งคิดแล้วว่าจะไปไหนต่อ
ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาวิ่งหนีเรื่องแบบนี้
ถ้าต้องหนีตายหรือร่อนเร่เพราะโดนกบฏไล่ล่ายังพอจะทำใจได้ แต่นี่ต้องมาวิ่งหนีหญิง วิ่งหนีแม่ตัวเอง...
คิดแล้วอยากผูกคอตาย
เนอาร์ถอนหายใจเฮือกปลงตกกับชะตาชีวิตยุ่งเหยิงของตน
เอาไว้เจอเนอินแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
------------------------------------------
"ไอ้บ้า!!!" นั่นคือคำแรกจากปากพี่ชายฝาแฝดที่ไม่ได้เจอกันนาน แถมพ่วงด้วยหมัดลุ่นๆ กระแทกเข้าเต็มแก้มซ้าย และด้วยประสาทการตอบโต้ที่ดีเยี่ยม ทำให้มือขวากระตุกปล่อยหมัดเสยคางอีกฝ่ายเต็มแรงด้วยเช่นกัน
สรุปคือ...ลงไปนับดาวเหมือนกันทั้งสองคน
"แกต่อยฉันทำไมเนี่ย!" เนอินสะบัดหัวไล่ความมึนโวยวายเสียงดัง ส่วนเนอาร์ก็กุมแก้มที่เริ่มแดงระเรื่อก่อนตอบ "ก็แค่ป้องกันตัวเอง"
"นี่ทำคนอื่นเขาเป็นห่วงแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ" ตาสีฟ้าวาววับอยากอัดน้องชายร่วมสายเลือดขึ้นมา ไม่เจอกันหลายอาทิตย์ ดูเหมือนภูมิคุ้มกันความเย็นชา ขี้เก๊กจะลดฮวบเก๊กนั่นลงไปเยอะ ถึงได้ดูว่ามันน่าหมั่นไส้เหลือเกิน คนฟังเลิกคิ้วสูงแปลกใจ ไม่คิดหรอกนะว่ามันจะเป็นห่วงตามที่ปากว่าน่ะ ฝ่ายเนอินที่เริ่มเห็นสายตาน้องชายก็รีบโบกมือปัด ตาเหล่ไปมองเด็กสาวผมแดงอีกคนที่ยืนเงียบมาตั้งแต่เจอหน้า
"ช่างเถอะ พูดกันตรงนี้คงไม่สะดวก ไปที่โรงแรมที่พวกฉันพักอยู่ก่อนก็แล้วกัน"
"พวกฉัน?" เนอาร์ทวนคำไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่ เนอินยิ้มแหยไหวไหล่ เดินนำทางไปยังโรงแรมที่เขาพักอยู่ เปรยแผ่วเบาให้คนฟังยิ่งงง
"เรื่องมันยาวน่ะ..."
------------------------------------------
นั่นสินะ เรื่องมันยาว...
เนอาร์คิ้วกระตุกเมื่อเห็นอีกสองคนที่นั่งรอพวกเขาอยู่ภายในห้องพัก ตาสีน้ำตาลตวัดไปมองผู้เป็นพี่เป็นคำถาม ก่อนหันกลับไปมองรอยยิ้มน้อยๆ ของขอทานแห่งทริสทอร์ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่กลางห้อง ส่วนสาวหัวแดงอีกคนน่ะหรอ...โน่น คุยกรี๊ดกร๊าดกันอยู่อีกมุม
"ไม่คิดว่าจะได้เจอท่านน้าที่นี่" เนอาร์เปรยเริ่มบทสนทนา โรพยักหน้ายอมรับ "พอดีว่าหมดธุระที่พริสก์โบโรว์พอดี ก็เลยขอติดเรือกลับมาฝั่งนี้"
"พริสก์โบโรว์?" ดูเหมือนช่วงนี้เขาจะได้ยินอะไรที่ไม่เข้าใจเยอะแยะมากมายจนต้องทวนคำหลายๆ ครั้ง เนอินขยับตัวเล็กน้อยเมื่อสบสายตาน้องชาย ก่อนแสร้งหัวเราะดังๆ กลบเกลื่อน
"ก็พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย เลยไปติดอยู่ที่นั่นน่ะ" ตาสีเขียวเป็นประกายเล็กน้อยเมื่อนึกถึง 'อุบัติเหตุ' ที่อีกฝ่ายพูดถึง "ว่าแต่ว่านายเถอะ ไปทำอะไรมาถึงได้เพิ่งมาถึงที่นี่วันนี้น่ะ นี่ถ้าฉันไม่วิ่..เอ้อ ไม่ออกไปเดินเล่นนี่จะหากันเจอไหม" รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะอีกฝ่ายจะสวมบทนักซักฟอก ตาสีน้ำตาลคมนิ่งไปเล็กน้อย ทั้งห้องถูกความเงียบปกคลุม เสียงพูดคุยคิกคักของสองสาวตอนนี้เงียบไปแล้ว
"มันหนักหนามากเสียจนต้องเรียกคทาพิพากษา แถมคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอเนอาร์" นานครั้งที่พี่ชายจะเรียกชื่อเขาแบบนี้ ไม่แปลกที่เนอินจะรู้เรื่องที่เขาเสียการควบคุมตัวเอง คงเป็นเพราะสายเลือดและการเป็นฝาแฝดของพวกเขา หากใครคนหนึ่งเป็นอะไรขึ้นมาก็จะรู้สึกได้ จะเรียกว่าเป็นความสามารถที่ดีก็ได้ แต่จะให้นับเป็นความสามารถที่ทำให้เขาหัวปั่นได้เช่นกัน เพราะวันดีคืนดีเจ้าพี่ชายตัวแสบเกิดเบื่อขึ้นมาก็อาจจะเอามีดปาดคอตัวเองเล่น
เนอาร์ถอนใจเฮือก ไม่พูดตอนนี้ ต่อไปก็ต้องพูดอยู่ดี
"ขึ้นเรือผิดไปซูลูน่ะ ก็เลยต้องเสียเวลาหาเรือกลับ" ตาสีฟ้าเบิกกว้าง ตบหน้าผากตัวเองดังเผียะ เมื่อได้ยินชื่อประเทศที่ติดอันดับหนึ่งในห้ารายการท่องเที่ยวยามปิดเทอมของเขา
"หา!! โอ้ยยยย ทำไมฉันไม่หลงไปเกาะนั่นบ้างนะ" ร่องรอยความเครียดที่เพิ่งจะก่อตัวพังทลายลงภายในพริบตา ตาคมของน้องชายมองเป็นเชิงติเตียนให้พี่ชายไหวไหล่รับ "ก็ปกติประเทศนั้นไม่ต้อนรับคนนอกซักเท่าไหร่นี่ ฉันเองก็แค่อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง"
"แล้วไปทำยังไงถึงได้หิ้วนักฆ่าติดตัวมาด้วย" ซีเวียที่นั่งเงียบอยู่อีกมุมหันขวับไปมองคนพูดตาเขียวปั๊ด
"นึกว่าฉันอยากอยู่กับน้องชายนายนักเหรอไง" เนอินพยักหน้าตีหน้าขรึมจริงจัง "แน่นอน อะไรจะดีไปกว่าการตกถังข้าวสารได้แต่งงานกับเจ้าชายรัชทายาทแห่งคาโนวาล" ตาสีแดงวาววับราวกับมีเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายใน
"ฉันไม่สนพวกสองบุคลิก ป่าเถื่อนแบบพวกคาโนวาล!!" ว่าแล้วก็สะบัดหน้าพรืด คนที่นั่งมองเผลออมยิ้มให้กับท่าทีนั้นโดยไม่รู้ตัว
"ว่าแต่นายเถอะ ทำไมอยู่กับยัยนั่น" สรรพนามเรียกต่างกันราวฟ้ากับเหวทำให้พี่ชายต้องจุ๊ปากสอนมารยาทน้อง "นายนี่น้า ไม่เคยให้เกียรติสุภาพสตรีเลย รู้ไหมว่าการเรียกสุภาพสตรีว่ายัยนั่นน่ะมันหยาบคาย" เนอาร์ถอนหายใจเฮือกกับนิสัยที่(อาจจะ)นับเป็นข้อดี(เพียงข้อเดียว)ของเนอิน
"ถ้าอีกฝ่ายไม่ถือมีดจะจิ้มท้องฉันก่อน ฉันก็คงจะให้เกียรติ" คำตอบเย็นชาตามนิสัยเจ้าชายน้ำแข็ง ตาสีน้ำตาลตวัดมองพี่ชายอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ แต่คนที่ถูกพูดถึงกลับเป็นฝ่ายชิงตอบแทน
"ฉันก็แค่จะไปทำงานที่พริสก์โบโรว์ ไม่นึกว่าหมอนี่ก็อยู่ในเรือด้วยน่ะสิ แล้วก็โดนบังคับให้ทำหน้าที่ผู้ติดตามบ้าบอจนงานไม่เสร็จ สุดท้ายก็ลากมาถึงนี่ไง" เวซิลร่ายยาว ใบหน้าขาวงอง้ำขัดใจเมื่อยิ่งคิดถึงสาเหตุที่ทำให้ตนต้องมาติดแหง็กกับไอ้คนโรคจิตไร้ต่อมเครียดคนนี้ หากเนอินกับยิ้มกวนอารมณ์ดี
"เอ้า ถือว่าคลายเครียดไง คนเราอยู่กับงานตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ" พูดพลางขยิบตาให้อีกฝ่ายแยกเขี้ยวใส่เป็นการตอบแทน
"ช่างเถอะ ไหนๆ ก็มาเจอซีเวียแล้ว งั้นฉันขอตัว" เวซิลตัดบทแล้วดึงแขนให้ซีเวียลุกขึ้นออกจากห้อง พลันเชือกเส้นใหญ่โรยตัวจากอากาศตรงเข้ามัดเด็กสาวทั้งสองอย่างรวดเร็ว ตาสวยสองคู่สบกันก่อนจะมองไปยังเจ้าตัวที่เสกเชือกมามัดพวกเธอไว้ ตาสีฟ้าพราวระยับขณะที่ควงคทาอันเล็กในมือเล่น
"นายมีสิทธิ์อะไรมามัดฉัน!!" เวซิลตะโกนใส่อย่างเหลืออด "มันจะมากไปแล้วนะ!! แค่ต้องทนอยู่กับนายมาร่วมอาทิตย์ฉันก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องปวดหัวที่หามาให้ได้แก้ไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะเรื่องแม่นั่นอีก" เสียงโวยวายหยุดลงพร้อมเสียงหายใจหอบ คิ้วบางของเพื่อนสนิทเลิกสูงขึ้นแปลกใจ นานๆ ครั้งจะเห็นเวซิลสติแตกแบบนี้ เนอาร์เปรยถามขึ้นอีกครั้งไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น
"แล้วนายไปทำอะไรที่พริสก์โบโรว์"
"........................."
"........................."
"........................."
"หึ สุดท้ายตัวเองก็โง่ขึ้นเรือผิดเหมือนกัน" ไม่พูดเปล่า สีหน้ายิ้มเยาะหายากจากใบหน้าสลักที่ไม่เคยได้เห็นดูจะสมจริงเป็นพิเศษ
ปึด!
"นั่นคือคำพูดของคนที่พูดกับพี่ชายตัวเองเหรอไง" เนอาร์ปรายตามองคนพูดแล้วกระตุกยิ้มยั่วให้อีกฝ่ายกระชับคทาในมือมากขึ้นก่อนเอ่ย "นายแค่ออกมาก่อนฉันสองนาที"
"นั่นก็ทำให้ฉันเป็นพี่แกแล้ว"
"ประเด็นอยู่ที่นายเคยทำอะไรที่ทำให้ฉันคิดได้ว่านายเป็นพี่ นอกเหนือไปจากไอ้เวลาสองนาทีนั่น" ลมเย็นๆ ในห้องโชยพัดให้ขนลุก ทั้งๆ ที่ต้นไม้ด้านนอกไม่มีวี่แววจะขยับด้วยแรงลมเลย แต่เสียงนกร้องเมื่อครู่เงียบกริบไปสักพักแล้ว
"อย่างน้อยแกก็ไม่เคยชนะฉันในการประลอง เนอาร์"
"นายเองก็ไม่เคยชนะฉันเหมือนกัน เนอิน" ตาสีฟ้าสบตาสีน้ำตาลส่งประกายเปรี๊ยะๆ จนน่ากลัวว่าอาจจะเกิดฟ้าผ่าตอนกลางวันภายในโรงแรงเล็กๆ แห่งนี้(??)
"ดูเหมือนแกจะลืมบทเรียนที่ฉันเคยสอนไปแล้วสินะ" กลุ่มหิมะหมุนวนอยู่เบื้องหลังเนอินก่อนจะค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นแท่งน้ำแข็ง
"ฉันไม่เคยเรียนรู้อะไรจากนาย นอกจากวิธีหาเรื่องใส่ตัว" เนอาร์ตอบพลางเรียกคทาของตนมาไว้ในมือบ้าง โล่น้ำแข็งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับแท่งน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามา ไม่ต้องรอกรรมการให้เสียเวลา การสาดน้ำ(แข็ง)ก็เริ่มต้นขึ้น
เนอินกระโดดหลบเถาวัลย์ที่ม้วนตัวเข้ามาหมายจะตรึงเขาไว้กับที่ก่อนจะสวนด้วยเกล็ดน้ำแข็งแหลมคมจำนวนมาก เนอาร์ดึงโต๊ะขึ้นมาเป็นที่กำบัง ร่างสูงนั่งพิงหลังโต๊ะไปพลางหาวิธีเอาคืน หากเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับแท่งน้ำแข็งที่ชุดหนึ่ง เขากระโดดหลบไปด้านข้างพร้อมๆ กับที่น้ำแข็งเหล่านั้นปักลงยังพื้นที่เขาเคยนั่งอยู่ หัวไหล่ปรากฏเลือดไหลซึม ตาสีน้ำตาลวูบไหวเล็กน้อย เนอินที่เห็นว่าอีกฝ่ายพลาดท่าก็เริ่มกระหยิ่มใจ ใบหน้าขาวระบายรอยยิ้มกว้าง หากมือขวาที่ถือคทาก็ถูกเถาวัลย์ที่งอกจากผนังเข้ามารัดเอาไว้ เหนือขึ้นไปคือดอกไม้ดอกใหญ่ที่ตูมเต็มที่ เนอินรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น มือซ้ายตวัดเอามีดเล่มเล็กที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นมาตัดพันธนาการก่อนพุ่งตัวหลบฝนเมล็ดไปอีกทาง แรงพุ่งของมันมากพอที่จะทำให้พื้นทะลุเป็นรู เสียงโวยวายจากด้านล่างดังขึ้น แต่คนที่เลือดขึ้นหน้าตอนนี้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนแล้ว กลุ่มหิมะขนาดใหญ่พัดฮืออยู่ภายในห้อง ผ้าม่านจับตัวเป็นน้ำแข็ง
"นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!!" เสียงก่นด่าของเจ้าของโรงแรมดังขึ้นพร้อมประตูที่เปิดผางออกด้วยโทสะที่โรงแรมของเขากำลังจะพังด้วยการทะเลาะกันของสองพี่น้องแห่งคาโนวาล แต่เมื่อเห็นสภาพห้องและสิ่งที่อยู่ในห้องก็ต้องรีบปิดประตูแล้วหันไปอพยพคนออกจากโรงแรมอย่างเร่งด่วนแทน
แกว๊กก
เหยี่ยวน้ำแข็งร้องเสียงสูง ตาสีฟ้าใสของมันจ้องมองกวางหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังเคาะกีบเท้าหน้าลงกับพื้น กิ่งเขาของมันแผ่กว้างสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน เด็กสาวสองคนที่ยังคงถูกมัดด้วยเชือกเวทย์ต่างมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตระหนก เมื่อครู่ก็เกือบจะโดนลูกหลง ดีที่ไหวตัวทัน หัวสองหัวเริ่มคิดหาทางหนีไปจากที่นี่ เพราะหากอยู่ต่อไปไม่เกินสิบนาทีคาดว่าพวกเธอคงกลายเป็นศพแทนที่จะเป็นไอ้สองพี่น้องบ้าพลังนี่
"เห็นกี่ทีก็ไม่ถูกชะตาจริงๆ เลย ไอ้นกบ้านั่น" เนอินเปรยเมื่อนึกถึงสมัยก่อนที่เขายังไม่สามารถเรียกสัตว์หิมะจากสโนว์แลนด์มาต่อสู้ได้
"งั้นก็อยู่เฉยๆ แล้วฉันจะระลึกความหลังให้นายเอง" เนอาร์ตอบพร้อมกับสั่งให้เหยี่ยวน้ำแข็งพุ่งเข้าโจมตีใส่พี่ชายฝาแฝด กวางหนุ่มก้าวเข้ามาขวางพร้อมกับใช้เขารับการโจมตีแล้วสะบัดให้อีกฝ่ายกระเด็นไปอีกทาง เหยี่ยวน้ำแข็งหมุนตัวกลับมากระพือปีกทรงตัว สองมนุษย์สองสัตว์หิมะต่างจ้องระวังการโจมตีของอีกฝ่าย แล้วเหยี่ยวน้ำแข็งก็ร้องขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพุ่งใส่กวางหิมะที่ยืนตั้งท่าอยู่แล้ว กวางหนุ่มใช้เขารับการโจมตีเหมือนเคย หากอีกฝ่ายกลับชะงักทำให้จังหวะเสียไป เหยี่ยวน้ำแข็งเปลี่ยนทิศการโจมตีไปทางซ้าย พื้นห้องทะลุเป็นรูกว้างเมื่อกวางขาวกระโดดหลบไปข้างๆ โดยไม่รอให้ตั้งตัวมันกระโจนเข้าไปหมายจะกระทืบอีกฝ่าย เหยี่ยวน้ำแข็งกระชากตัวด้วยแรงกระพือปีกขึ้นไปบินอยู่เหนือคู่ต่อสู้ แต่ไม่ทันที่จะได้ตั้งหลักให้ดี กวางหนุ่มก็กระโจนขึ้นใช้เขาช้อนร่างเล็กของมันแล้วปักกระแทกลงกับพื้น เนอาร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลถึงกับทรุดกับแรงอัดช่วงท้องที่ส่งทอดมาให้เขา
"เสร็จล่ะ!" เนอินร้องลั่นอย่างยินดี แท่งน้ำแข็งนับสิบปรากฏขึ้นเหนือร่างเหยี่ยวน้ำแข็งพร้อมที่จะปักลงไปได้ทุกเมื่อ
ปัง!!
"ท่านเนอิน!!" เสียงแหลมสูงดังกระแทกหูเจ้าของชื่อ ร่างเล็กบอบบางกระโดดเข้าชาร์ตเนอินที่ยืนมึนกับเสียงสั่นประสาทระดับเซลล์ เมื่อไม่สามารถควบคุมสมาธิได้ กวางหิมะก็ค่อยๆ กลายเป็นควันแล้วจางหายไป เนอาร์แอบถอนหายใจโล่งอกเก็บมีดขนาดเล็กที่เมื่อครู่เกือบจะได้ซัดไปยังคนที่กำลังเผลอตัวกับชัยชนะ เสียงกรี๊ดกร๊าดโวยวายทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้ม ยิ่งเห็นว่าพี่ชายของตนต้องลงไปกองกับพื้นได้อย่างไรก็ยิ่งปวดหัวตุบขึ้นมา
เป็นสัญญาณว่าเรื่องยุ่งๆ จะยังตามมาอีกมากมาย
*********************************TBC.....
Talk > 555555555+ อยากจะบอกว่าตอนนี้เป็นตอนที่แต่งแล้วรู้สึกสนุกมากๆๆ ใจจริงอยากแต่งให้สองคนนี่ทะเลาะกันนานแล้ว(ความซาดิสต์ส่วนตัวค่ะ หึๆๆ) ในที่สุดได้จังหวะซะที
ที่ชอบที่สุดคือตอนที่สาดน้ำแข็งใส่กัน เป็นอะไรที่หัวแล่นมากๆๆ ปกตินั่งแต่งบทบู๊นี่ใส่กันเป็นชั่วโมง แก้แล้วแก้อีก = =" แต่นี่แค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว >///<
อ่านตอนนี้แล้วอยากให้รู้สึกรักสองแฝดกันมากๆ ยิ่งขึ้นค่ะ (รักหลานค่ะ กร๊ากกก) เรื่องวุ่นมันยังอีกเยอะ โครงการแกล้งแฝดยังมีอยู่เพียบ ก็เลยอยากให้ตามอ่านจนจบด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ มันเป็นกำลังใจหลักในการแต่งเลยล่ะค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ m(_ _)m
*********************************TBC.....
Talk > 555555555+ อยากจะบอกว่าตอนนี้เป็นตอนที่แต่งแล้วรู้สึกสนุกมากๆๆ ใจจริงอยากแต่งให้สองคนนี่ทะเลาะกันนานแล้ว(ความซาดิสต์ส่วนตัวค่ะ หึๆๆ) ในที่สุดได้จังหวะซะที
ที่ชอบที่สุดคือตอนที่สาดน้ำแข็งใส่กัน เป็นอะไรที่หัวแล่นมากๆๆ ปกตินั่งแต่งบทบู๊นี่ใส่กันเป็นชั่วโมง แก้แล้วแก้อีก = =" แต่นี่แค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว >///<
อ่านตอนนี้แล้วอยากให้รู้สึกรักสองแฝดกันมากๆ ยิ่งขึ้นค่ะ (รักหลานค่ะ กร๊ากกก) เรื่องวุ่นมันยังอีกเยอะ โครงการแกล้งแฝดยังมีอยู่เพียบ ก็เลยอยากให้ตามอ่านจนจบด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ มันเป็นกำลังใจหลักในการแต่งเลยล่ะค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ m(_ _)m
ความคิดเห็น