ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 "Goodbye English !!"
ตอนที่ 6 "Goodbye English !!"
"อะไรนะ ชองฮุนน่ะเหรอ.. ชอบฉัน !?!"
ฉันรู้สึกได้ถึงอาการหน้าร้อนผ่าวที่เกิดขึ้น ขอเดาว่าเลือดคงสูบฉีดขึ้นสู่ใบหน้าเนียนใสไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตายสิ!! นี่ฉันกำลังอายอยู่ใช่มั๊ยคะเนี่ย อายที่ชองฮุนรูปหล่อมาชอบฉันอยู่สินะ อ๊ายยยยย.. ยัยพอตตี้กำลังทำให้ฉันคิดมิดีมิร้ายน้องชายโอมสเตย์อยู่นะเนี่ย >_<
ว่าแต่ชองฮุนเป็นน้องฉันนะ เขาเป็นน้องชายที่แสนดีของฉัน ไม่มีทางที่จะคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นแน่ (แต่ฉันน่ะคิดไปแล้ว - -*)
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องทำเป็นหน้าแดงหรอกย่ะ จะมีผู้ชายหน้าตาดีๆ คุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่างที่ไหน มาชอบแกกันเล่า อย่างฉันก็ว่าไปอย่าง โฮะๆๆ"
=_=^ ฉันรู้สึกอยากเป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนขึ้นมาทันที ขอเดาว่า สีหน้าฉันคงดูเก็บกดได้ที่ ยัยพอตตี้จึงพูดติดตลกแทรกขึ้นทำลายบรรยากาศคุกรุ่นนี้
"แกหน้างอแล้วเหมือนเจเน็ตเขียวจริงๆเล้ย ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เอาน่า.. ไหนๆก็ไม่ได้พบอาจารย์แล้ว ไปชอปปิ้งกันดีกว่า"
ดูมันชมดิฉันสิคะ "หน้างอแล้วเหมือนเจเน็ตเขียว" พนันได้ว่า ความอดทนของฉันคงจะหมดลงในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี่แหละ
ยัยพอตตี้ว่าพลางลุกเดินไปทางเคาเตอร์เพื่อจ่ายค่าเครื่องดื่มตามที่สัญญาไว้ ฉันจึงออกมายืนรอเจ้าหล่อนที่หน้าร้าน บรรยากาศในเมืองคังนัมยามเย็นนี่ช่างคึกคักดีจริงๆ โอ้ว.. หนุ่มหล่อหายากของเกาหลีรวมตัวกันอยู่ที่นี่เอง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเรารู้สึกว่า เมืองคังนัมแห่งนี้ดูคุกคักน่ามาเยือนเป็นพิเศษ ฮิฮิ
หลังจากยัยพอตตี้เดินออกมา พวกเราก็พร้อมใจกันมุ่งหน้าสู่แหล่งชอปปิ้งของเมืองใหญ่แห่งนี้ ตลอดทางเดินไปนั้น ฉันต้องทนฟังเจ้าหล่อนบ่นกระปอดกระแปดเรื่องค่าเครื่องดื่มที่ขึ้นราคา รวมทั้งเรื่องค่าครองชีพที่แพงกว่าเมืองไทยถึงสองเท่า ฉันล่ะอยากจะตอกหน้ามันกลับไปจริงๆว่า แกมาทุนตัวเองรึไง บ่นอยู่ได้ แถมอยู่มาเป็นเดือนๆแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ
สามสี่ชั่วโมงผ่านไปไวเมื่อนอนหลับ.. หลังจากที่พวกเราเตร็ดเตร่ ชมนั่น ชอป(ปิ้ง)นี่ จนสาแก่ใจแล้ว ก็ได้ฤกษ์แยกย้ายกันกลับบ้านในสภาพที่หอบหิ้วเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมทั้งเครื่องประทินโฉมทั้งหลายพะรุงพะรัง (ไหนบอกว่าค่าครองชีพแพงกันไง - -*)
************************************************
สามวันต่อมา...
ขณะนี้ ฉันออกจากบ้านมาถึงสถานีอันยางเพื่อเดินทางสู่จุดหมายปลายทางคือ "คังนัม" สถานที่นัดพบกับอาจารย์คิมยองแออีกครั้ง หลังจากที่เมื่อสามวันก่อน อาจารย์ขอเลื่อนนัดเพราะติดประชุมสำคัญ
และแน่นอนว่าฉันยังคงฝันเห็นตัวเองนั่งเผชิญหน้ากับงูพันธุ์ผสมอยู่บนรถไฟบุเรงนองคันเดิมตลอดสามคืนเต็มจนชักจะสนิมสนมกับงูตัวนั้นแล้ว ฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่นักว่า ทำไมถึงฝันแบบเดิมซ้ำๆซากๆทุกวัน ด้วยเพราะปักใจเชื่อไปเรียบร้อยแล้วว่า ต้องเป็นเพราะยัยกิ๊ฟฟี่มีองค์ ทั้งยังไม่ได้เข้าไปคอมเม้นต์บลอคเจ้าหล่อนเพื่อแก้คำสาปนั่น ก็ฉันต้องปั่นรายงานส่งทุกคืน ปั่นเสร็จก็สลบเหมือด และเป็นแบบนี้มาตลอดสามวันติดเลยล่ะค่ะ ทำไมชีวิตของผู้หญิงสวยเพอร์เฟกท์อย่างฉันมันถึงได้น่าหดหู่แบบนี้คะเนี่ย
ระหว่างที่จมอยู่กับความคิดไร้สาระนั่น รถไฟพลันเข้าเทียบสถานีพอดี ฉันกระชับกระเป๋าเป้พูม่าที่สะพายอยู่พลางเดินก้าวเข้ารถไฟพร้อมกับกวาดสายตามองหาที่นั่ง อ๊ะนั่น.. มีที่นั่งว่างพอดี ฉันจึงเดินไปนั่งตรงนั้น ขณะที่รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวน พลันรู้สึกคล้ายคนข้างๆมองมา ฉันจึงหันกลับไปมองตามความรู้สึกทันที และสายตาฉันก็ปะทะเข้ากับดวงตากลมโต ขนตางอนยาวของหญิงสาวหน้าตาสวยคมคล้ายชาวอินเดียผิวขาวคนหนึ่ง หล่อนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันจึงยิ้มตอบพลางคิดในใจว่า..
"ยิ้มอย่างเดียวนะคะ อย่าชวนฉันคุยเลย"
แต่หล่อนช่างเหมือนแมลงสาบเหลือเกินค่ะ ยิ่งเราเกลียด มันยิ่งวิ่งเข้าหา ยิ่งฉันไม่อยากคุยกับหล่อน แต่หล่อนก็ชวนฉันคุยจนได้ T^T
"Hello !!"
"He.. Hello!!" =_=^
"My name's %*/+-@"
อะไรสักอย่างซึ่งฉันฟังไม่ทันและก็จำไม่ได้ด้วยค่ะ.. พระเจ้า !!
"Nice to meet you"
หล่อนกล่าวพร้อมส่งยิ้มหวานให้ฉันอย่างจริงใจ รอยยิ้มนั้นยิ่งขับให้ใบหน้าของหล่อน ดูมีเสน่ห์เจิดจรัสยิ่งนัก
"My name's Finara. Nice to meet you,too"
ฉันดัดจริตสำเนียงสุดฤทธิ์สุดเดชตอบออกไปด้วยสีหน้าดูมีความรู้แต่ได้โปรดเถอะ.. ฉันรู้แค่นี้จริงๆ
"Wh%*/+<-@>*%-@#,^&!%*/+->*%-@#,^&.%*... What are you doing here?"
หล่อนพ่นอะไรอีกยืดยาวราวกับถูกชะตาฉันมากแต่ขอโทษนะ.. ฉันฟังไม่ออกหรอกค่ะ จับใจความได้แค่ว่า หล่อนถามถึงฉันว่ามาทำอะไรที่นี่
"I'm studying"
ฉันยังคงดัดจริตสำเนียงฝรั่งจ๋าตอบไป ผิดถูกไวยากรณ์ยังไง เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที
"And you?"
เหวอออ.. นี่ฉันจะสะเหร่อถามหล่อนกลับทำซากอะไรเนี่ย มันจะได้จบๆการสนทนากันไปซะที ฉันถามหล่อนต่อทำม้ายยยย.. พระเจ้า !!
"%*/+<-@>*%-@#,^&!.%*/+<-@>*%-@#,^&..."
หล่อนยังคงพูดยืดยาวสำเนียงดีเช่นเคย แต่ฉันจับใจความได้แค่ว่า หล่อนมาทำงาน รึมาเที่ยว รึอะไรสักอย่างนั่นแหละ (นี่แน่ใจนะว่าพอจับใจความได้บ้างน่ะ.. ฟินรา)
หล่อนยังไม่เลิกเล่าระบายอารมณ์ให้ฉันฟัง ทำเหมือนสนิทกับฉันมานมนานประมาณชาติที่แล้ว ฉันได้แต่ยิ้มและพูดแค่ "Oh! Yes! Really? " ทั้งที่จริงนั้น ฉันฟังไม่ออกเลยด้วยซ้ำ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ใครก็ได้ตอบฉันที...
"Where are you from?"
"I'm from Thailand and you? Do you know Thailand?"
อีกแล้ว.. เอาอีกแล้ว.. นี่ฉันจะถามหล่อนอีกทำม้ายยย... (ใครทราบคำตอบแล้ว ส่งSMS มาทายกันได้นะคะ - -*)
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
"อะไรนะ ชองฮุนน่ะเหรอ.. ชอบฉัน !?!"
ฉันรู้สึกได้ถึงอาการหน้าร้อนผ่าวที่เกิดขึ้น ขอเดาว่าเลือดคงสูบฉีดขึ้นสู่ใบหน้าเนียนใสไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตายสิ!! นี่ฉันกำลังอายอยู่ใช่มั๊ยคะเนี่ย อายที่ชองฮุนรูปหล่อมาชอบฉันอยู่สินะ อ๊ายยยยย.. ยัยพอตตี้กำลังทำให้ฉันคิดมิดีมิร้ายน้องชายโอมสเตย์อยู่นะเนี่ย >_<
ว่าแต่ชองฮุนเป็นน้องฉันนะ เขาเป็นน้องชายที่แสนดีของฉัน ไม่มีทางที่จะคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นแน่ (แต่ฉันน่ะคิดไปแล้ว - -*)
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องทำเป็นหน้าแดงหรอกย่ะ จะมีผู้ชายหน้าตาดีๆ คุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่างที่ไหน มาชอบแกกันเล่า อย่างฉันก็ว่าไปอย่าง โฮะๆๆ"
=_=^ ฉันรู้สึกอยากเป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนขึ้นมาทันที ขอเดาว่า สีหน้าฉันคงดูเก็บกดได้ที่ ยัยพอตตี้จึงพูดติดตลกแทรกขึ้นทำลายบรรยากาศคุกรุ่นนี้
"แกหน้างอแล้วเหมือนเจเน็ตเขียวจริงๆเล้ย ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เอาน่า.. ไหนๆก็ไม่ได้พบอาจารย์แล้ว ไปชอปปิ้งกันดีกว่า"
ดูมันชมดิฉันสิคะ "หน้างอแล้วเหมือนเจเน็ตเขียว" พนันได้ว่า ความอดทนของฉันคงจะหมดลงในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี่แหละ
ยัยพอตตี้ว่าพลางลุกเดินไปทางเคาเตอร์เพื่อจ่ายค่าเครื่องดื่มตามที่สัญญาไว้ ฉันจึงออกมายืนรอเจ้าหล่อนที่หน้าร้าน บรรยากาศในเมืองคังนัมยามเย็นนี่ช่างคึกคักดีจริงๆ โอ้ว.. หนุ่มหล่อหายากของเกาหลีรวมตัวกันอยู่ที่นี่เอง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเรารู้สึกว่า เมืองคังนัมแห่งนี้ดูคุกคักน่ามาเยือนเป็นพิเศษ ฮิฮิ
หลังจากยัยพอตตี้เดินออกมา พวกเราก็พร้อมใจกันมุ่งหน้าสู่แหล่งชอปปิ้งของเมืองใหญ่แห่งนี้ ตลอดทางเดินไปนั้น ฉันต้องทนฟังเจ้าหล่อนบ่นกระปอดกระแปดเรื่องค่าเครื่องดื่มที่ขึ้นราคา รวมทั้งเรื่องค่าครองชีพที่แพงกว่าเมืองไทยถึงสองเท่า ฉันล่ะอยากจะตอกหน้ามันกลับไปจริงๆว่า แกมาทุนตัวเองรึไง บ่นอยู่ได้ แถมอยู่มาเป็นเดือนๆแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ
สามสี่ชั่วโมงผ่านไปไวเมื่อนอนหลับ.. หลังจากที่พวกเราเตร็ดเตร่ ชมนั่น ชอป(ปิ้ง)นี่ จนสาแก่ใจแล้ว ก็ได้ฤกษ์แยกย้ายกันกลับบ้านในสภาพที่หอบหิ้วเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมทั้งเครื่องประทินโฉมทั้งหลายพะรุงพะรัง (ไหนบอกว่าค่าครองชีพแพงกันไง - -*)
************************************************
สามวันต่อมา...
ขณะนี้ ฉันออกจากบ้านมาถึงสถานีอันยางเพื่อเดินทางสู่จุดหมายปลายทางคือ "คังนัม" สถานที่นัดพบกับอาจารย์คิมยองแออีกครั้ง หลังจากที่เมื่อสามวันก่อน อาจารย์ขอเลื่อนนัดเพราะติดประชุมสำคัญ
และแน่นอนว่าฉันยังคงฝันเห็นตัวเองนั่งเผชิญหน้ากับงูพันธุ์ผสมอยู่บนรถไฟบุเรงนองคันเดิมตลอดสามคืนเต็มจนชักจะสนิมสนมกับงูตัวนั้นแล้ว ฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่นักว่า ทำไมถึงฝันแบบเดิมซ้ำๆซากๆทุกวัน ด้วยเพราะปักใจเชื่อไปเรียบร้อยแล้วว่า ต้องเป็นเพราะยัยกิ๊ฟฟี่มีองค์ ทั้งยังไม่ได้เข้าไปคอมเม้นต์บลอคเจ้าหล่อนเพื่อแก้คำสาปนั่น ก็ฉันต้องปั่นรายงานส่งทุกคืน ปั่นเสร็จก็สลบเหมือด และเป็นแบบนี้มาตลอดสามวันติดเลยล่ะค่ะ ทำไมชีวิตของผู้หญิงสวยเพอร์เฟกท์อย่างฉันมันถึงได้น่าหดหู่แบบนี้คะเนี่ย
ระหว่างที่จมอยู่กับความคิดไร้สาระนั่น รถไฟพลันเข้าเทียบสถานีพอดี ฉันกระชับกระเป๋าเป้พูม่าที่สะพายอยู่พลางเดินก้าวเข้ารถไฟพร้อมกับกวาดสายตามองหาที่นั่ง อ๊ะนั่น.. มีที่นั่งว่างพอดี ฉันจึงเดินไปนั่งตรงนั้น ขณะที่รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวน พลันรู้สึกคล้ายคนข้างๆมองมา ฉันจึงหันกลับไปมองตามความรู้สึกทันที และสายตาฉันก็ปะทะเข้ากับดวงตากลมโต ขนตางอนยาวของหญิงสาวหน้าตาสวยคมคล้ายชาวอินเดียผิวขาวคนหนึ่ง หล่อนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันจึงยิ้มตอบพลางคิดในใจว่า..
"ยิ้มอย่างเดียวนะคะ อย่าชวนฉันคุยเลย"
แต่หล่อนช่างเหมือนแมลงสาบเหลือเกินค่ะ ยิ่งเราเกลียด มันยิ่งวิ่งเข้าหา ยิ่งฉันไม่อยากคุยกับหล่อน แต่หล่อนก็ชวนฉันคุยจนได้ T^T
"Hello !!"
"He.. Hello!!" =_=^
"My name's %*/+-@"
อะไรสักอย่างซึ่งฉันฟังไม่ทันและก็จำไม่ได้ด้วยค่ะ.. พระเจ้า !!
"Nice to meet you"
หล่อนกล่าวพร้อมส่งยิ้มหวานให้ฉันอย่างจริงใจ รอยยิ้มนั้นยิ่งขับให้ใบหน้าของหล่อน ดูมีเสน่ห์เจิดจรัสยิ่งนัก
"My name's Finara. Nice to meet you,too"
ฉันดัดจริตสำเนียงสุดฤทธิ์สุดเดชตอบออกไปด้วยสีหน้าดูมีความรู้แต่ได้โปรดเถอะ.. ฉันรู้แค่นี้จริงๆ
"Wh%*/+<-@>*%-@#,^&!%*/+->*%-@#,^&.%*... What are you doing here?"
หล่อนพ่นอะไรอีกยืดยาวราวกับถูกชะตาฉันมากแต่ขอโทษนะ.. ฉันฟังไม่ออกหรอกค่ะ จับใจความได้แค่ว่า หล่อนถามถึงฉันว่ามาทำอะไรที่นี่
"I'm studying"
ฉันยังคงดัดจริตสำเนียงฝรั่งจ๋าตอบไป ผิดถูกไวยากรณ์ยังไง เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที
"And you?"
เหวอออ.. นี่ฉันจะสะเหร่อถามหล่อนกลับทำซากอะไรเนี่ย มันจะได้จบๆการสนทนากันไปซะที ฉันถามหล่อนต่อทำม้ายยยย.. พระเจ้า !!
"%*/+<-@>*%-@#,^&!.%*/+<-@>*%-@#,^&..."
หล่อนยังคงพูดยืดยาวสำเนียงดีเช่นเคย แต่ฉันจับใจความได้แค่ว่า หล่อนมาทำงาน รึมาเที่ยว รึอะไรสักอย่างนั่นแหละ (นี่แน่ใจนะว่าพอจับใจความได้บ้างน่ะ.. ฟินรา)
หล่อนยังไม่เลิกเล่าระบายอารมณ์ให้ฉันฟัง ทำเหมือนสนิทกับฉันมานมนานประมาณชาติที่แล้ว ฉันได้แต่ยิ้มและพูดแค่ "Oh! Yes! Really? " ทั้งที่จริงนั้น ฉันฟังไม่ออกเลยด้วยซ้ำ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ใครก็ได้ตอบฉันที...
"Where are you from?"
"I'm from Thailand and you? Do you know Thailand?"
อีกแล้ว.. เอาอีกแล้ว.. นี่ฉันจะถามหล่อนอีกทำม้ายยย... (ใครทราบคำตอบแล้ว ส่งSMS มาทายกันได้นะคะ - -*)
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น