ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hello English!! *สะกิดรักคนไกล หัวใจอินเตอร์*

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 "เคยนั่งมั๊ย รถไฟบุเรงนอง!!"

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 49


    ตอนที่ 2  "เคยนั่งมั๊ย รถไฟบุเรงนอง !!"



                    

            "รถไฟ vs ความรัก vs เซ็กซ์"

    ความรักก็เหมือนกับรถไฟ.. บางครั้ง คนที่ขึ้นมาก็ไม่รู้จะลงสถานีไหน.. บางคน จะลงไปก็ไม่บอกกล่าว บางคราว อยากไปให้สุดสายแต่ก็ไปไม่ถึง บางครา ต้องเป็นเปลี่ยนเส้นทางเมื่อรู้ว่ามาผิด ความรักก็เหมือนรถไฟ บางขบวน... สถานีสุดท้ายอาจไม่มี คนเราก็เช่นเดียวกัน..

    แล้วรถไฟกับเซ็กซ์ล่ะ เปรียบเทียบกันได้ไหม ว่างมากเลยคิดไร้สาระขึ้นมาเล่นๆ เอาแบบขำๆแล้วกัน

    รถไฟชินคังเซ็น – เซ็กซ์แบบเด็กยุคใหม่ มีเซ็กซ์ที ด่วนจนจำแทบไม่ได้ เริ่มเร็ว จบเร็ว เสร็จแล้วก็ไปขึ้น(หัว)จรวดขบวนต่อไป
    รถไฟใต้ดิน – ชื่อก็บอกแล้วว่าอยู่ใต้ดิน มีเซ็กซ์ที ก็หลบๆซ่อนๆ สมัยนี้เรียก "กิ๊กสถานหนัก" ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "สวมเขา"
    รถไฟฟ้า – BTS สลับไปมาอยู่แค่สองสาย แค่ขึ้นมาก็รู้แล้วว่าจะลงที่ไหน.. แค่เริ่มต้นก็รู้ว่าจะจบลงที่ไหน.. ท่าใด
    รถไฟสวนสนุก – ขึ้นครั้งแรกวิวก็สวยดี ขึ้นบ่อยๆหมดสนุก หมดความเร้าใจ เปรียบได้ดั่งเซ็กซ์ของชายวัย 30 ปลาย...
    รถไฟเหาะ – เซ็กซ์ตอนเมา หลับตาแป๊บเดียวก็เสียวได้.. ลืมตามาก็ลืม
    รถไฟชั้นสาม – เซ็กซ์คืนแรกของหนุ่มพรหมจรรย์ ไม่เข้าใจเรอะ.. เหอๆ ขึ้นครั้งเดียวแล้วเข็ดไปอีกนาน
    รถไฟหาดใหญ่ – เมียมาเจอ ขึ้นไม่ทันไร... ระเบิดลง
    รถไฟไทย – ชายไทยนิรนาม.. ใครเคยขึ้นรถไฟ รฟท.บ้าง.. เก่า ผุ พัง ขาดทุน
    รถไฟหวานเย็น – ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง


    ....!?!....


    "แหม.. กิ๊ฟฟี่ ทำไปด้ายยยยย"

              ฉันสบถเพื่อนสาวในใจพลางระเบิดหัวเราะในความคิดพิเรนของเจ้าหล่อนจนรู้สึกคล้ายกรามจะค้าง แต่ในที่สุด ฉันก็ต้องกรามค้างอ้าปากหวอเมื่อสายตาปะทะเข้ากับข้อความทิ้งท้ายสุดแสบของยัยเพื่อนตัวดี

    "ปล. ใครอ่านแล้วไม่เม้นต์ ขอให้ขึ้นรถไฟหวานเย็นทั้งชาติ เหอๆ"

               ตายๆๆ สาวโสดสนิมขึ้นมาตลอด 19 ปีอย่างฉัน จะไม่ยอมพบรักแรกเป็นผู้ชายแบบรถไฟหวานเย็นหรอกนะยะ

               คนอย่างฉันที่ขี้เกียจพิมพ์ดีดเป็นชีวิตจิตใจ รีบกุลีกุจอวางนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ ทันใดนั้นพลันมีเสียงของยัยกิ๊ฟฟี่ดังลอดเข้ามาในสมองซีกซ้ายที่กำลังทำงานอย่างหนักหน่วง...

    "อย่างเธอ.. ยัยฟิน ฉันแช่งแรงขึ้นเป็น 2 เท่า เจอรถไฟบุเรงนองไปเลยเป็นไง เคยนั่งมั๊ย รถไฟบุเรงนองน่ะ เหอๆ"

             ตายๆ ตายกันไปข้างหนึ่ง รถไฟบุเรงนองเรอะ ทั้งเก่า แก่ ผุ พัง ขี้เหร่ และยังถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างอีก โอ้ว.. ม่ายยยยยยยยยยยย!! ฉันกู่ก้องร้องโอดครวญในใจพลางสะบัดปลายนิ้วตั้งใจจะพิมพ์ต่อว่าต่อขานยัยกิ๊ฟฟี่ เพื่อนตัวดีซะให้ชุดใหญ่เชียว

    "วันนี้ ไม่ชงไม่ชมมันแล้ว บังอาจแช่งฉันแรงเป็น 2 เท่าเรอะ แล้วจะว่าอะไรมันดีล่ะ ถึงจะสาสมกับแรงแค้นพยาบาทที่เรามี "

              นี่ฉันชักจะโหดเกินไปรึปล่าวคะเนี่ย ไม่ได้.. ไม่ได้ นี่มันนิยายรักแสนหวานแหววสุดโรแม้นซ์นี่นา(จริงเร้อ - -*) ต้องอ่อนโยน.. ต้องผ่อนคลาย...

              ฉันละสายตาจากแป้นพิมพ์ขึ้นมองหน้าจอมอนิเตอร์เพื่ออ่านคอมเม้นต์ของคนอื่นๆ แต่แล้วสายตาฉันต้องหยุดกึ่กอยู่ที่คอมเม้นต์หนึ่งค่ะ

    "โฮะๆๆ อย่างชั้นน่ะเรอะจะขึ้นรถไฟหวานเย็น อย่างเดี๊ยนเนี่ย.. รถไฟบนดินอย่างเดียวค่ะ สมัยนี้ ผู้หญิงต้องขึ้นข้างบนแล้วค่า โฮะๆๆๆ"
    *16. by Potty <203.244.218.6> at 200*-04-04 16:26:27>

    =_=^
    "พระเจ้า... เพื่อนฉันแต่ละคน มีใครสมประกอบเหลือให้คบได้บ้างคะเนี่ย ?!"

               "พอตตี้" ฉายาที่เจ้าหล่อนตั้งเอง เรียกเอง บังคับเพื่อนเรียกอีกต่างหาก สาวน้อยที่อายุเพิ่งบรรลุนิติภาวะก็จริง แต่ใบหน้าแซงทางโค้งเข้าสู่วัยเบญจเพศล่วงไปก่อนแล้ว 

                 ยัยพอตตี้เป็นเพื่อนสนิทฉันมาตั้งแต่ม.ปลาย ได้โควต้ามาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแถมเอกเดียวกับฉันอีก ไม่ค่ะ.. มันมันยังไม่เลิกตามหลอกหลอนฉันแต่เพียงแค่นั้น เพราะเจ้าหล่อนก็ได้ทุนแลกเปลี่ยนมาเรียนที่นี่เป็นเวลา 1 ปี โดยเดินทางมาเรียนล่วงหน้าก่อนฉันสองอาทิตย์แล้วค่ะ (ฉันก็ได้แต่สวดภาวนาว่า มันคงจะไม่ตามหลอนไปจนถึงแต่งงานหรอกนะคะ) หน้าตาหล่อนจัดว่าสะสวยใช้ได้..

                ภาพยัยพอตตี้พลันลอยขึ้นมาในความคิด

    "หน้ารูปไข่นิดๆ ตาโตกำลังดี จมูกออกจะใหญ่เล็กน้อยอย่างที่เขาเรียกว่าจมูกชมพู่ซึ่งเจ้าตัวอยากจะหาเงินมาทำศัลยกรรมให้มันรู้แล้วรู้แรด เอ๊ย.. รู้รอดกันไปเลย… ริมฝีปากดีหน่อยที่ไม่ใหญ่นักออกจะดูน่ารักดี สีผิวออกคล้ำไม่ดำแต่ก็ไม่ขาวตามสไตล์สาวไทยเต็มร้อย"

              และมันก็มักพรีเซ็นต์ตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง จนเพื่อนจำได้ ท่องปาวๆ เหมือนกับท่องอาขยานบทใหม่อยู่เลยค่ะ

               ยัยพอตตี้เป็นอีกหนึ่งเพื่อนสาวจอมซ่าที่สนิทที่สุดของฉัน เจ้าหล่อนมักมี "first impression" ** ความประทับใจแรกพบ ชนิดที่ว่า พอเจอครั้งที่สองต้องนึกว่าคนละคนเลยทีเดียว ดูเอาเถอะค่ะ ถ้าฉันอาการครบ 32 ก็คงคบกับยัยพวกนี้ไม่ได้แน่ๆ

    (**คนเกาหลีถือ first impression เป็นสิ่งสำคัญมากเวลาพบกันครั้งแรก เพราะบางคนอาจตัดสินใครจากความประทับใจแรกพบเลยทีเดียว ฉะนั้น คนเกาหลีจึงมักแต่งตัวแต่งหน้าสวยเช้งออกจากบ้าน เพื่อให้คนเห็นแล้วรู้สึกประทับใจแรกพบนั่นเอง นี่ก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเกาหลีค่ะ)

             ฉันสะบัดศรีษะสองสามที เพื่อสลัดการนึกถึงใบหน้าสวยหล่อนผวาของเพื่อนสาวก่อนจรดนิ้วเคาะตัวอักษรตามความคิดแต่ยังไม่ทันจบประโยคดี อินเตอร์เนทพลันหลุดกระทันหัน..

    "บ้าจริง นี่ถ้าฉันต้องเจออีตาบุเรงนองละก็ แกต้องรับผิดชอบนะ เจ้าคอมต๊อง"

              ดูท่า ฉันคงจะหลอนจนบ้าไปแล้วจึงสบถใส่คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรแบบนี้
     
               ฉันทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตอีกครั้งขณะบูทเครื่องอยู่นั้น ไฟดันเกิดดับลงทั่วทั้งคอนโดที่ฉันอาศัยอยู่อีกค่ะ !!

    "โอ๊ย อะไรกันฟะเนี่ย... ชองฮุน!! เกิดอะไรขึ้นเหรอ"



    โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×