ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Penta Notes

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6: เริ่มต้นการเดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 50


    Chapter 6: เริ่มต้นการเดินทาง

    โอ๊ย - - รำคาญ - - จะไปไหนอะไรของนาย” ฉันระเบิดออกมาอย่างโมโห “อธิบายหน่อยซิ”

    “ไม่ใช่เรื่องของเธอ ฉันจะไปแล้ว” แมทตอบอย่างไม่ใส่ใจ

    “ทุเรศจัง หนังสือนั่นน่ะอาจจะเป็นของฉันก็ได้ เพราะมันอยู่ในบ้านฉัน” ฉันเถียงกลับอย่างดุเดือด “แต่ถ้านายบอกฉันว่านายกำลังจะไปไหน ฉันจะถือว่าเรื่องนี้เป็นโมฆะ”

    แมทเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับเขากำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ ก่อนจะตอบว่า

    “งั้นให้ฉันพาเธอไปดูละกัน” เขาตอบ พลางยิ้มน้อยๆ

    “ที่ไหนล่ะ”

    “น่า - - เดี๋ยวพาไปดูก็แล้วกัน”

    “เออนี่ หนังสือนั่นทำอะไรได้” ฉันถาม พร้อมกับชี้ไปที่หนังสือที่อยู่ในอ้อมแขนของแมท

    “เอ้อ - - ลองเปิดอ่านหน่อยท่าจะดี”

    ว่าแล้ว แมทก็กางหนังสือออกช้าๆ นิ้วเรียวยาวของเขาพลิกไปที่หน้าแรก เขาขมวดคิ้วน้อยๆ ฉันเอียงหัว พยายามอ่านตัวหนังสือ ตัวหนังสือพวกนั้นดูคุ้นตา แต่ไม่ใช่ภาษาถนัดของฉัน

    “ตัวยึกยือพวกนี้มันอะไรเนี่ย” แมทถาม

    “โง่จริง นี่เรียกว่าภาษาละติน เป็นภาษาที่ตายไปแล้ว ฉันเคยเรียนมาบ้าง” ฉันพูด เมื่อแมทยื่นหนังสือมาให้ฉัน “แต่นี่มันลายมือไก่เขี่ยชัดๆ”

    “ถ้าภาษามันตายแล้ว จะเรียนไปทำไม” แมทพึมพำ “แต่ช่างเหอะ ยังดีที่เธออ่านออก อย่างน้อยฉันก็เห็นประโยชน์ที่จะพกเธอไปด้วยแล้ว”

    “งั้นจะไปรึยังล่ะ” ฉันถามแมท พร้อมกับปิดหนังสือดังปัง

    ที่จริงฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ฉันคิดไว้แล้วว่า ไม่ว่าแมทจะห้ามปรามฉันยังไง ฉันก็จะดั้นด้นตามเขาไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องตื๊อเขามากเท่าไหร่ก็ตาม ที่จริงชีวิตที่อยู่เฉยๆแบบนี้ มันก็ไม่ค่อยอภิรมย์เท่าไรนัก จริงอยู่ที่เปิดเทอมใหม่นี้น่าสนใจใช่ย่อย แต่ฉันเพิ่งถูกหักอกมาสดๆร้อนๆอยากจะหาอะไรมาอุดรูดำมืดในใจ อยากจะพักผ่อนบ้าง แถมฉันยังโตเกินกว่าที่จะคิดถึงพ่อแม่ซะด้วย ฉันอยากออกไปผจญภัยในโลกกว้าง ไม่ต้องเหมือนในนิยายก็ได้ ขอให้มันสนุก เร้าใจก็พอ

    “อืม จะไปเดี๋ยวนี้แหละ เธอหาเป้ซักใบไปด้วยได้มั้ย ฉันขี้เกียจถือหนังสือ มันหนัก”

    “ทุเรศจริง” ฉันบ่นอุบอิบ แต่ก็ไปหากระเป๋าโดยดี

    ฉันเอาของกินไปเพียบเลย ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าเดินทางไปที่นั่นใช้เวลานานรึเปล่า เตรียมเสบียงไปด้วยท่าจะดี กองทัพต้องเดินด้วยท้องไม่ใช่เหรอ ฉันเอามือถือกับที่ชาร์ตไปด้วย หวังว่าที่นั่นคงมีไฟใช้ มันคงไม่ใช่โลกอดีตหรืออนาคตอะไรพรรค์นั้นหรอกมั้ง ฉันเอากระเป๋าเงิน กระเป๋าเครื่องสำอางค์ หนังสือการ์ตูนอ่านเล่น มีดพก เสื้อผ้า หมวก แว่นดำ สมุดการบ้าน แล้วก็ของจำเป็น ลงท้ายด้วยกระเป๋าใบโตสองใบที่ฉันต้องทั้งแบกและถือ

    “อะไรเนี่ย เธอจะย้ายบ้านรึไง” แมทประชด “หนักตายเลย”

    “ถ้าเห็นใจกัน ก็ช่วยถือหน่อยได้มั้ย ในนี้มีแต่ของจำเป็นทั้งนั้นแหละ”

    “เอาล่ะ ของครบแล้วนะ ไปกันเถอะ”

    น่าเกลียดจริง ทำเป็นเมินเค้าเน้อ

    ก่อนจะออกจากห้องฉัน ฉันเขียนโน้ตแผ่นเล็กๆให้แม่ เผื่อกลับมาไม่ทันไง แม่คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง แค่พูดโกหกว่าไปเข้าค่ายต้านภัยยาเสพย์ติด

    เมื่อฉันจะก้าวออกจากห้อง แมทก็ร้องขึ้น

    “เราไปทางนี้ก็ได้”

    ฉันหันกลับไป ทำหน้างงๆ

    “หา?”

    “ที่นั่นน่ะ ไปได้หลายทางนะ”

    ฉันงงสุดขีด เมื่อเขาจับข้อมือฉัน แล้วฉุดกระชากลากถูฉันมาที่หน้าต่างห้องนอน ฉันมองหน้าเขา เขาก็ยิ้มกลับอย่างเจ้าเล่ห์

    “ก่อนอื่นต้องมองซ้ายขวาก่อน อย่าให้มีคนเห็นเรานะ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่”

    ฉันมองซ้ายมองขวา และก็ไม่เห็นใครเลย เพราะหน้าต่างห้องนอนฉันบานนี้ไม้ได้อยู่ในทิศที่เป็นบ้านคน เพราะงั้นเลยไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาให้เห็น

    “เมื่อไม่มีคนแล้ว ก็ทำใจให้ว่าง แล้วกระโดดลงไปเลย” แมทพูดอย่างรู้สึกสนุก เฮอะๆ สนุกที่ได้แกล้งฉันมั้ง ฉันมองลงไปเห็นสวนหลังบ้าน มีแปลงดอกไม้ของแม่ บ่อปลาทอง สเกตบอร์ดของบาธ จักรยาน และเจ้าดอลล่าร์ที่กำลังหลับอย่างสงบสุข ฉันกลืนน้ำลายดังเอื๊อก มองหน้าเขาอีกครั้ง แล้วกระพริบตาปริบๆ

    “ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เธออึ้งหยั่งงี้ “ แมทพูดยิ้มๆ เขาดึงข้อมือฉันแรงขึ้น จนนาฬิกาบาดข้อมือจนฉันเจ็บ แต่ฉันก็ยังขืนตัวไว้

    “นายแน่ใจเหรอ”

    “แน่ใจสิ ถึงฉันจะโดดจากที่นี่เป็นครั้งแรก - - ปกติฉันจะกระโดดจากต้นไม้น่ะนะ - - แต่ฉันแน่ใจว่าที่นี่จะพาไปโลกของฉันได้แน่นอน”

    “กระโดดจากที่ไหนก็ได้เหรอ”

    “ก็กระโดดจากที่สูงพอที่จะทำให้คนตายได้”

    พิลึก ฉันคิดอย่างตื่นตระหนก ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร แมทก็กระชากฉันแรงมากจนฉันรู้สึกเหมือนถูกดึงแขนหลุด

    “โอ๊ย!!! เบาๆหน่อย แขนคนนะโว้ย”

    ฉันมองลงไปข้างล่างขณะที่กำลังตกลงไป ฉันรู้สึกเสียววืดตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนตอนที่เฟร็ดมอบจูบแรกให้ฉัน ฉันรู้สึกคลื่นไส้ เมื่อมองดอกฟอร์เก็ตมีน็อตในแปลงดอกไม้ของแม่ เมื่อตกลงไปได้ประมาณ 2-3 วินาที ฉันก็รู้สึกว่าฉันควรจะกระแทกกับแปลงดอกไม้ของแม่แล้ว ฉันหันไปมองแมทที่อยู่ข้างๆฉัน เขามีสีหน้าสนุกสุดขีด เขายังไม่ยอมปล่อยมือจากฉัน ฉันกรีดร้องสุดฤทธิ์ ก่อนที่จะรู้สึกเหมือนร่างกายอยู่ในยานอวกาศที่หมุนติ้วก่อนจะชนพื้นโลก

    และแล้วขาของฉันก็กระทบกับพื้นเรียบที่มั่นคง เข่าของฉันสั่นพั่บๆ ฉันไม่สามารถทรงตัวได้ จึงค่อยๆเซ ก่อนจะล้มตัวเป็นวงสวยงาม ตัวของฉันกระทบกับพื้นหิน ฉันยกมือขึ้นลูบคลำหัวเบาๆ แล้วยันตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับมองไปรอบๆ

    ฉันกำลังยืนอยู่บนพื้นหินสีขาวที่มีลวดลายสลักไว้อย่างวิจิตรงดงาม พอเงยหน้าขึ้น ฉันก็พบว่าฉันกำลังยืนอยู่ในสถานที่ที่เหมือนห้องโถงขนาดยักษ์ที่มีเพดานสูงลิบ ที่นี่มีปากทางเข้ามืดดำหลายทาง แต่ละทางมีคบเพลิงปักไว้ข้างหน้า ถึงจะมีเพียงคบเพลิงเท่านั้นที่ให้แสงสลัวๆ แต่ที่นี่กลับสว่างอย่างน่าประหลาด ฉันลองนับปากทางเข้าถ้ำได้ประมาณหกปากทาง แต่ละทางเป็นทางเข้ามืด จนฉันไม่อยากกรายเข้าไปใกล้ ที่นี่เงียบจนฉันรู้สึกไม่ดี แมทปล่อยมือจากฉันตั้งนานแล้ว พอมาถึงที่นี่ ฉันโหยหาอยากจะจับมือเขาบ้าง

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ ฉันมาที่นี่ครั้งแรกๆก็รู้สึกเหมือนเธอ เธอเห็นปากทางที่เราเพิ่งออกมามั้ย ลองดูใต้คบเพลิงสิ นั่นแหละ เป็นสัญลักษณ์ที่เราจะรู้ว่าเราควรไปที่ไหน”

    ฉันเพ่งตาดู และฉันก็เห็นมัน - - มันเป็นรูปโลก (โลกกลมๆที่เราอาศัยอยู่) สลักอยู่บนกำแพงหิน

    “และทางที่เราจะไปก็คือ - - ” แมทผายมือไปยังทางๆหนึ่ง ฉันเดินไปดูรูปที่สลักอยู่บนกำแพงหิน เป็นรูปมังกรคาบแอบเปิ้ล

    “สัญลักษณ์นั้นเป็นสัญลักษณ์เก่าแก่ของโลกฉัน เราไม่ค่อยได้เห็นมันแล้ว แต่มันเป็นสัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังอำนาจด้วย ผู้ที่จะทำสัญลักษณ์นี่ตามที่ต่างๆต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจสูง เช่นผู้ปกครองแผ่นดินหรืออะไรพรรค์นั้นแหละ”

    ฉันพยักหน้ารับรู้ ในใจเต้นระส่ำไม่เป็นท่า แมทกำรอบข้อมือฉันอีกครั้ง

    “เราเข้าไปกันเถอะ”

    *********************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×