ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Penta Notes

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3: นี่แหละฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 50


    Chapter 3: นี่แหละฉัน

    เมื่อคืนนี้แม่ว่าแม่ได้ยินเสียงโหวกเหวกอยู่นะ”

    “แม่- -หนูบอกแม่แล้วไง ว่าหนูเปิดทีวีเสียงดังไปหน่อย”

    ฉันตอบแม่ ขณะที่รับประทานอาหารเช้า ฉันไม่บอกแม่เรื่องเด็กผู้ชายคนนั้นหรอก เดี๋ยวแม่ก็แย่งเขาไป

    “ลูกรีบๆละกัน เดี๋ยวจะไปโรงเรียนไม่ทัน อ้อ คืนนี้พ่อกับแม่จะไปต่างจังหวัดนะ เครื่องออก 2 ทุ่ม คืนนี้ลูกนอนคนเดียวละกัน หรือถ้ากลัวก็โทรหาลาน่าก็ได้นะลูก”

    “ค่ะ”

    พอรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉันก็ลุกจากโต๊ะอาหารและออกไปรอรถเมล์ข้างนอก เมื่อไปถึงโรงเรียน ฉันก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงเด็กหนุ่มที่เจอเมื่อคืน คิดไปคิดมา หน้าตาเขาก็พอรับได้ ฉันลืมชื่อที่ประกาศในทีวีไปแล้ว นัยน์ตาสีน้ำเงิน ผมสีเข้มปรกหน้าที่ดูอ่อนล้า แต่มุ่งมั่น มีเพียงใบหน้าของเขาที่ฉันจำได้

    โรงเรียนเลิกแล้ว ฉันมารอที่ป้ายรถเมล์กับเร็น วันนี้หิมะไม่ตก ดีจัง ตะวันยังแผดจ้าอยู่ หยาดน้ำบนใบหญ้าของสนามฟุตบอลโรงเรียนส่องประกาย ขณะที่นั่งรถกลับบ้าน ฉันหวังว่าจะได้เจอเขาอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันตกหลุมรักเขานะ ฉันว่าฉันเพิ่งได้รับบทเรียนเรื่องรักมาสดๆร้อนๆ และฉันก็ไม่อยากจะรักใครอีก หลังจากที่มีเซ็กซ์กับเจ้างั่งเฟร็ดแล้ว ฉันล้อเล่นน่ะ ฉันยังบริสุทธิ์ดี อย่างมากก็แค่จูบเขา ในขณะที่เพื่อนของฉันค่อนห้อง นอนกับแฟนตัวเองตั้งแต่เกรด 8 (ม.2) ฉันเคยรักเฟร็ดมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้เขาก็เป็นแค่ไอ้ทุเรศธรรมดาๆ ฉันคบเขามาได้ประมาณ 2 – 3 เดือนแล้วล่ะ เท่าที่จำได้น่ะนะ

    ฉันว่าฉันไม่สวยเท่าไหร่หรอก สิวฉันขึ้นเต็มหน้า ถึงแม้เมื่อคืนฉันจะนอนดึก เพราะมัวแต่บีบสิวและร้องไห้ แต่ฉันก็พอจะดึงดูดคนส่วนน้อยได้บ้าง วิลจีบฉันตอนเกรด 8 จอร์จตามตื๊อฉันตอนเกรด 9 และเจ้าเบี๊อก

    เฟร็ดนี่ก็ตอนเกรด 10 (ม.4)

    ฉันไม่สูงเท่าไหร่ แค่ 163 ซม. เอง แต่มันก็เป็นมาตรฐานสำหรับผู้หญิงธรรมดา ฉันหนัก 53 กก. เอ้อ - -

    อ้วนไปหน่อย ลีของฉันเริ่มคับแล้ว ผมสีดำเป็นเงาของฉันปล่อยสยายยาว บางครั้งก็อยากโกนมันให้หมดหัวในหน้าร้อน นัยน์ตาของฉันเป็นสีเขียว หลายคนชอบตาของฉัน พวกเขาบอกว่ามันสวยดี และมีความสุขที่ได้มองมัน

    อ้อ ฉันยังไม่ได้บอกเลย ฉันชื่อเพนนี แมดเดอไลน์ นามสกุลลิเกไปหน่อย ตอนนี้ฉันอยู่กับพ่อแล้วก็แม่ พี่ชายอีกคนที่ชื่อ บาธ ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนต่อมหาวิทยาลัยสปาร์กเกิ้ล มหาวิทยาลัยชั้นนำของที่นี่เลย เมืองที่ฉันอยู่เป็นเมืองหลวงนะ ชื่อ สปาร์กซิตี้ ส่วนประเทศที่ฉันอยู่ก็คือ แคมสเบิร์ก

    เออ สาธยายมากไปหน่อย เกือบเลยป้าย ถึงบ้านฉันแล้ว ฉันมองไปรอบๆ เผื่อว่าเด็กผู้ชายคนนั้นอาจจะอยู่แถวๆนี้ แต่ฉันโมโหที่เขาทำกับฉันเมื่อคืนนี้มากเลยนะ ฉันอุตส่าห์มีน้ำใจให้ห่อบิสกิตเขา แถมห่อบิสกิตนั่นก็เป็นห่อสุดท้ายที่ฉันกะจะเอาไปเลี้ยงแฮมสเตอร์ 2 ตัว ชื่อ ฮาล์ฟกับควาเตอร์ ฉันรอเวลาที่พวกมันจะมีเซ็กซ์ด้วยกัน แล้วก็มีลูกหนูออกมาไม่ไหวแล้ว ฉันจะได้เอาลูกหนูไปขาย แล้วกอบโกยรายได้เข้ากำมือฉันเอง

    ตอนเดินเข้ามาในบ้าน ท้องฉันร้องครืดๆด้วยความหิว และก็ยิ่งหิวขึ้นไปอีก เมื่อได้กลิ่นสตูว์เนื้อที่แม่ทำเป็นอาหารเย็นวันนี้ พ่อกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะในครัว พลางขยับแว่นและทำหน้าเคร่งขรึม เฮอะๆ เท่ตายล่ะ พ่อจะเป็นฝ่ายควบคุมเรื่องการเรียนของฉันและพี่ แต่ตอนนี้พี่ไม่อยู่ พ่อก็ลงที่ฉันคนเดียว ส่วนแม่ก็ช่วยพ่อบ่นเรื่องการเรียนและงานบ้าน จริงๆแล้ว เรามีแม่บ้านชื่อลาน่า ที่จะทำงานทุกอย่างให้เรา ภายในเวลาครึ่งวัน และฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องมาทำความสะอาดห้องฉัน แถมยังกำชับให้ฉันคอยซักกางเกงในของตัวเองทุกอาทิตย์ ทั้งๆที่เรามีแม่บ้านจัดการเรื่องนี้แล้ว ฉันขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากชุดเครื่องแบบนักเรียนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ ห้องของฉันไม่ใหญ่มากนัก ฉันแปะโปสเตอร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไว้เต็มเลย ฉันบ้าคลั่งมาก ฉันมีหนังสือชุดนี้ครบทุกเล่มเลย มันถูกเปิดอ่านจนเยินหมดแล้ว ปกติฉันนอนกับพี่ ฉันนอนคนเดียวไม่ได้ เลยต้องเอาเจ้าดอลล่าร์ สุนัขพันธุ์บลูเทอเรีย เข้าไปนอนด้วย เมื่อคืนฉันรู้สึกว่าอะไรไต่หู พอหยิบออกมา ก็เป็นเห็บมะละกอตัวเป้ง

    สตูว์เนื้อวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เมื่อฉันเดินลงบันไดมาที่ครัว ฉันกินสองชาม แล้วปลีกตัวออกมาทำการบ้าน เร็น เพื่อนสนิท (ผู้หญิงนะ) คนหนึ่งโทรมาถามเรื่องการบ้าน มือถือฉันเน่ามาก เพราะฉันทำอันก่อนหาย เลยต้องใช้มือถืออันเก่าของบาธ มันไม่มีบลูทูธ ไม่มีอินฟราเรด ไม่มีกล้องหลายล้านพิกเซล ไม่มีเครื่องบันทึกเสียง มีเพียงฟังก์ชั่นรับและโทรออก น่าโมโหชะมัด ในเมื่อของเร็นมีครบหมดเลย ตอนนี้ฉันกำลังเก็บเงินซื้อ PDA มันก็เหมือนคอมย่อส่วนที่มีฟังก์ชั่นไม่ครบ แถมเป็นมือถือได้ด้วย ถ้าซื้อได้เมื่อไหร่จะเอาไปปาหัวเร็นซะหน่อย ฉันกับเร็นไม่ได้คุยเรื่องการบ้านเลย แต่นินทาชาวบ้านเค้า ฉันคุยนานจนพ่อว่า เพราะไม่ได้ทำการบ้าน

    ดึกแล้วที่ฉันเพิ่งทำการบ้านเสร็จ ฉันหาวรอบนึง คืนนี้หิมะไม่ตก ค่อยยังชั่ว จะได้ไม่ต้องจุดเตาผิง

    คืนนี้ไม่อาบน้ำดีกว่า หนาวน่ะ ฉันเอาอาหารเม็ดสำหรับสุนัขให้หนูกิน หนูนี่กินทุกอย่างที่ขวางหน้าเลย มีครั้งหนึ่งฉันเคยแคะขี้มูกให้มันกินด้วย ไม่อยากจะเชื่อ มันกินเกลี้ยงเลย เลียนิ้วฉันด้วย แหวะ พ่อกับแม่ฉันไปแล้ว ฉันเปิดไฟกับทีวีทิ้งไว้ เพราะกลัวผี เพิ่งดูจูออนภาคฝรั่งมาหยกๆด้วย มีตอนนึง - - ของภาคไหนไม่รู้ - - ที่จูออนโผล่มาตรงหน้าต่างน่ะ

    - - เฮ้ย - -

    อ๊ากกกกกกส์ -------- มีหน้าคน (ผี) ตรงหน้าต่างด้วย แวบๆน่ะ ฉันขยับตัวไม่ได้เลย ได้แต่ตัวแข็งทื่ออยู่ในโซฟา ทีวีกำลังออกรายการ มิติพิศวง ตอนหญิงสาวที่ถูกข่มขืนแล้วโดนรัดคอตาย เอาไปโจ้งทิ้งกลางป่า ใบหน้านั้นโผล่มาอีกครั้ง ดูคุ้นๆแฮะ อ่อฮ่อ ~ ไอ้เด็กฆาตกรหล่อๆน่ะเอง หิวล่ะสิท่า สุดท้ายต้องมาคุกเข่าให้ราชินีคนนี้ โฮะๆ เปิดหน้าต่างให้หน่อยละกัน อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้ว ถึงจะผิดคาดไปหน่อย แต่ก็ยังอุ่นใจขึ้น

    ฉันแง้มหน้าต่างช้าๆ แล้วเรียกเขาเบาๆ ฉันไม่รู้ชื่อเขาหรอก เรียกไปงั้นแหละ วันนี้เขาดูไม่หยิ่งหยั่งเคย เพราะเขารีบปีนเข้ามา ฉันช่วยดึงตัวเขา มือเขาเย็นเฉียบเลย น่าสงสารจัง เขาสะดุดกรงแฮมสเตอร์ของฉันที่วางอยู่บนพรมข้างเตาผิง น้ำกินในกรงหกราดควาเตอร์จนมันตื่น ฉันตบหัวเขาอย่างตำหนิ เขาดูไม่โมโหเลย ตรงกันข้าม เขากลับดูเหนื่อยอ่อน ฉันพยุงเขาให้นอนบนโซฟา ฉันพยายามทำดีๆกับเขา จริงๆแล้วกลัวนะเนี่ย เดี๋ยวเขาฆ่าฉัน เพราะฉันไปด่าเขาเมื่อคืน รำคาญนะเนี่ยที่ต้องใช้คำว่า เขา ฉันอยากรู้ชื่อเขาจะตายอยู่แล้ว ทันทีที่หัวเขาถึงหมอน เขาก็แน่นิ่งไปเลย ฉันค่อยๆถอดรองเท้าให้เขา อ๊ะแหะ เหม็นจัง อ๊ะ เสียงแก๊กๆๆของจักรวิ่งสำหรับหนูดังขึ้น เพราะฮาล์ฟไปวิ่งจักร เด็กนั่นเลยตื่นขึ้นมา หลังจากที่นอนไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้มั้ง

    นัยน์ตาสีน้ำเงินชวนหลงใหลของเขาเบิกกว้าง สีหน้าตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าหน้าของฉันห่างจากหน้าของเขาประมาณครึ่งนิ้วได้ เพราะฉันนั่งจ้องหน้าเขายามนิทรา เขาสะดุ้งแล้วกระโดดออกจากโซฟา และถอยกรูดไปชนผนัง หยั่งกะลิงเลยนิ อะไรยะ หน้าฉันทุเรศจนต้องกระโดดหนีเลยเรอะ -*-

    “นายไม่ต้องกลัวฉันหรอกน่า ฉันไม่แจ้งตำรวจหรอก หลับต่อเหอะ” ฉันพูดเกลี้ยกล่อม

    เด็กหนุ่มนั่นจ้องฉันไม่วางตา เหอ -- คนสวยก็เงี้ย

    “งั้นเดี๋ยวฉันไปอุ่นซุปให้นะ”

    ฉันรีบเข้าไปในครัว เพราะกลัวเขาจะปฏิเสธเหมือนตอนที่ฉันให้ขนมเขา ฉันเลยไปค้นกระป๋องซุปใน

    ตู้เย็น แล้วเทใส่หม้ออุ่นให้ จากนั้นก็เทใส่ถ้วย ยกมาวางให้ที่โต๊ะ จากนั้นฉันก็ไปอุ่นของตัวเองอีกถ้วย เพราะเพิ่งนึกได้ว่าน่าจะกินเป็นเพื่อนเขาแก้เขิน

    ขณะที่เรานั่งตักกินซุปด้วยกัน ทุกอย่างเงียบมาก ฉันนั่งกินแบบเกร็งๆ จากนั้นฉันก็เริ่มสังเกตว่าเขากินแบบพวกมีมารยาท ไม่ใช่พวกขอทานข้างถนน ฉันว่าเขาน่าจะเคยอยู่ในครอบครัวที่ดีมาก่อน ฉันเลยตัดสินใจถามเขาซะหน่อย

    “นายมาจากไหน ทำไมนายต้องฆ่าคนด้วยล่ะ” ฉันถามแบบเกร็งๆ พยายามทำตัวสบายๆ เหมือนถามคำถามว่า ทำไมนายชอบสีเขียว

    เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่ซักครู่ ก่อนจะตอบว่า

    ฉันกำลังตามของสิ่งอย่างหนึ่งอยู่น่ะ มันมีพลังมหาศาลกว่าที่ใครจะคาดคิด”

    ***********************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×