คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
"เลิกดิ้นได้แล้วอันดา ฉันนอนไม่หลับ"
เสียงเข้มท้วงขึ้นในความมืด แขนแกร่งที่โอบกอดร่างเล็กเอาไว้ จากที่แน่นอยู่แล้ว ยิ่งกระชับให้แน่นขึ้น แน่นจนคนที่ดิ้นยุกยิกในคราแรกสงบลง
"อันดาหิว" เด็กน้อยตอบแผ่วเบา ลมหายใจร้อนพ่นแรง ๆ ปะทะสู่ผิวเนื้อคอของอคิน จนเดาได้ว่าเด็กดื้อของเขาถอนหายใจตั้งท่าเตรียมจะงอแง
"นอนซะ เดี๋ยวก็หายหิว" อคินบอกพลางรั้งต้นคออันดาลงมาซุกอก
"ไม่เอา"
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง"
"อันดาหิว"
"นอน"
"หิว"
"..." อคินถอนหายใจยาวเหยียด เขาผละออกจากอันดา ลุกขึ้นนั่งแล้วเอื้อมเปิดโคมไฟหัวเตียง
"อคิน.." เจ้าเด็กดื้อลากเสียงยาวหวังจะอ้อน รีบลุกพรวดขึ้นนั่งตาม ทำท่าจะโผเข้าหาคนตัวโตกว่า
"ในตู้เย็นเหลือไข่อยู่สองฟอง กินไข่เจียวไหม"
"ไม่เอา" เด็กดื้อส่ายหน้า ปากอิ่มเบะคว่ำ
"งั้นข้าวผัดก็แล้วกัน"
"ไม่เอา"
"งั้นจะกินอะไร ในตู้เย็นไม่เหลืออะไรแล้วอันดา"
อคินชักจะเอาใจไม่ถูก ใบหน้าน่ารักเอาแต่ยับยู่ใส่กันแล้วส่ายหัวไปมา
วันนี้คือวันสุดท้ายของเดือน ที่ว่าเหลือแค่ไข่ไก่สองฟองในตู้เย็น ไม่ใช่ว่าอคินละเลยปล่อยให้อันดาอดอยาก แต่เขาตั้งใจเอาไว้ว่าพรุ่งนี้ จะพาอันดาไปซื้อของเข้าบ้านด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้า
ความจริงเขาจะแวะซื้อของมาตุนเอาไว้ตั้งแต่หลังเลิกงานแบบที่ทำอยู่ประจำก็ได้ แต่ติดที่ว่าอคินจะพาอันดาไปซื้อรองเท้าใหม่ รองเท้าสำหรับนำมาใส่วิ่งออกกำลังกายโดยเฉพาะ
หลังจากวันนั้นที่พาลงไปวิ่งที่สวนสาธารณะใต้คอนโด เด็กดื้อของเขาก็อ้อนให้พาลงไปวิ่งแทบจะทุกวัน อคินเลยทำการตกลงกับอันดาให้รู้ความ ว่าเขาจะพาไปวิ่งได้แค่สัปดาห์ละสองครั้ง นั่นคือเย็นวันศุกร์และเย็นวันเสาร์
"อันดาไม่อยากกินไข่" เสียงหวานติดจะงอแงบอกออกมาแผ่วเบา
"งั้นนอนซะ เพราะถ้าไม่กินไข่ ก็ไม่มีอะไรให้นายกินแล้ว"
ว่าจบอคินเอื้อมไปปิดโคมไฟ โน้มตัวลงนอน ดึงผ้านวมหนานุ่มขึ้นมาคลุมจนถึงปลายคาง อันดาคนดื้อทอดมองอคินในความมืด
บอกออกไปเลยดีไหม ที่อ้อน ๆ ว่าหิวน่ะหมายถึงหิวอย่างอื่น ไม่ได้หิวข้าว
"นอนลง" อคินบอกเสียงเรียบ
"อันดาหิว"
"อันดา.."
"ขอกินไอศกรีมได้ไหม"
"ไม่ได้!" กะไว้แล้วเชียว อคินนึกในใจว่าทำไมซื้อหวยไม่เคยถูก ลูกเล่นแพรวพราวนักเด็กคนนี้
เมื่อเย็นอ้อนเขาไปทีแล้วว่าอยากกินไอศกรีม แต่โควต้าในรอบวันอันดาใช้ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้า หลังมื้อเย็นก็มาเรียบ ๆ เคียง ๆ กับเขาว่าขอกินไอศกรีม แต่อคินไม่ยอม
"ดึกขนาดนี้ใครเขากินไอศกรีม อ้วนพอดี"
"อ้วนก็ไปวิ่งไง กินแล้วอคินก็พาอันดาไปวิ่งนะ" ร่างเล็กขยับเข้าใกล้ ใช้สองมือทาบลงบนอกกว้างของอคินที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มนวม
"เรื่องอะไรฉันต้องเป็นคนพานายไปวิ่ง กินเอง อ้วนเอง ก็ไปวิ่งเอง"
อคินตัดบท ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปรงทันที เขาจะไม่มีวันตามใจอันดาเด็ดขาด แค่ให้กินทุกวัน วันละหนึ่งแท่งก็มากพอแล้ว
ยิ่งอันดาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา อคินยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เขามีแค่ความรู้ในการเลี้ยงแมวทั่วไป แต่เขาไม่ได้มีความรู้ในการเลี้ยงแมวที่กลายเป็นคนได้ เพราะฉะนั้นอะไรที่ระวังได้ก็ต้องระวัง
มาอ้อนให้ตายยังไงอคินก็ไม่ยอมใจอ่อนหรอก!
กึก ๆ! กึก ๆ!
เสียงที่แว่วมาให้ได้ยินทำเอาอคินสะดุ้งตื่น แขนแกร่งควานหาคนตัวเล็กหมายจะดึงเข้ามากอด แต่คว้าได้เพียงก้อนผ้าห่มนิ่มมือซึ่งไร้ร่างเล็กที่ควรจะนอนอยู่ข้างกันตรงนี้
อคินปรือตาขึ้นมาอัตโนมัติ กดหน้าจอมือถือจนสว่างวาบ ตัวเลขบนหน้าจอใหญ่เฉลยเวลาในยามนี้คือตีหนึ่งตรง
เอาล่ะ เด็กดื้อของเขาหายไปไหนนะ
อคินขยี้ตาเล็กน้อยพอให้หายงัวเงีย ลองแวะเข้าไปดูในห้องน้ำก่อน เมื่อไม่พบอันดา เป้าหมายต่อไปคือด้านนอก ซึ่งอคินจะตรงเข้าไปในห้องครัวเป็นอันดับแรก
เสียงกรอบแกรบดังแว่วมาเป็นระยะ อคินย่องเบาแอบไปตามทาง เพื่อจะดูให้แน่ชัดว่าเสียงที่ว่ามาจากอะไร
เขาชะเง้อมองเข้าไปพอให้เห็นด้านใน เบี่ยงตัวหลบหลังกำแพงที่เป็นบริเวณมุมห้อง โผล่ออกไปแค่เพียงเสี้ยวหน้า แสงไฟสีส้มจากตู้เย็นสว่างจ้าจนเห็นชัดเจนว่าเสียงนั้นเกิดจากสิ่งใด
"ทำอะไรน่ะ!"
อคินตะโกนถาม คนที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ในตู้เย็นสะดุ้งโหยง มือเล็กรีบปิดประตูตู้เย็น ยืนส่ายหน้าในความมืดด้วยหัวใจที่สั่นระรัว
พรึ่บ!
อคินกดเปิดสวิตช์ไฟจนห้องครัวสว่างโล่ง ภาพตรงหน้าคือเจ้าอันดาคนดื้อยืนตากลมคาบแท่งไอศกรีมอยู่เต็มปาก อีกมือหนึ่งกำไม้ไอศกรีมที่หมดแล้วเอาไว้แน่น
"อันดา! มานี่เลย!"
อคินย่างสามขุมเข้าไปหา เขาคว้าข้อมือเด็กดื้อไปตรงอ่างล้างจาน ดึงไอศกรีมที่คาปากอันดาออกมารูดกินต่อจนหมด คนตัวเล็กรีบกลืนส่วนที่ค้างในปากตนเองจนไม่เหลือซาก ก่อนจะถูกอคินจับให้หันเข้ากับอ่างล้างจาน และเปิดน้ำล้างปากล้างหน้าให้อันดาจนหายเหนียวเหนอะหนะ
สองมือเล็กถูกดึงไปล้าง ๆ ถู ๆ ไม้ไอศกรีมที่เคยกำแน่นอยู่ในมือ ถูกอคินเขวี้ยงทิ้งลงถังขยะไปแล้ว
"ทำไมทำแบบนี้ แอบออกมากินไอศกรีมแบบนี้ได้ยังไง..อันดา"
แมวน้อยจอมดื้อก้มหน้าสำนึกผิดอยู่บนโซฟา หลังจากที่อคินจับล้างปากล้างมือเรียบร้อย ก็โดนจูงมือมานั่งแหมะอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ คนตัวสูงบ่นไปก็ดึงกระดาษทิชชูขึ้นซับปากให้ด้วย
"ก็อันดาหิวนี่" เสียงหวานพึมพำตอบ ไม่กล้าสบตา กลัวอคินดุ
"หิวปลอมล่ะสิไม่ว่า ฉันจะทำข้าวให้กินก็ไม่เอา"
"อันดาไม่อยากกินไข่เจียว"
"ข้าวผัดไง ฉันก็บอกอยู่จะทำข้าวผัดให้"
"ไม่เอา" อันดาส่ายหน้า แอบเหลือบตาขึ้นมองอคินแวบเดียวแล้วหลุบตามองพื้น
"งั้นจะกินอะไร"
"ไม่รู้ครับ" และอันดาก็ส่ายหน้า
อคินถอนหายใจ เขาล่ะเหนื่อยจริง ๆ เลย
อันดาเอาแต่ก้มหน้า รู้หรอกนะว่ากำลังรู้สึกผิด บอกตรง ๆ เขาก็แอบสงสาร ไม่อยากจะดุให้ใจเสีย แต่เด็กดื้อก็ควรได้เรียนรู้บ้างว่าสิ่งที่ตนเองทำถูกต้องหรือไม่
"รู้ใช่ไหมว่าที่นายทำมันไม่น่ารัก"
"รู้ครับ"
"คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ"
"ค..ครับ.." อันดาพยักหน้า เตรียมใจไว้แล้วว่าความผิดครั้งนี้ จะก้มหน้ายอมรับแบบไม่มีข้อกังขา
ต่อให้อคินไล่ให้ไปจากที่นี่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ อันดาก็พร้อมที่จะไป ถ้าบทลงโทษที่อคินมอบให้มันทำให้อคินหายโกรธ อันดายอมทุกอย่าง
"แบมือมา" เสียงเข้มออกคำสั่ง คนตัวเล็กยื่นมือออกไปช้า ๆ ไม่คิดแม้แต่จะสบตากับอคิน
แปะ แปะ
เสียงตีเปอะแปะกระทบลงบนฝ่ามือเบา ๆ แค่สองครั้ง หลังจากนั้นร่างเล็กก็ถูกดึงให้ลุกขึ้นจนเต็มความสูง อคินใช้มืออีกข้างช้อนปลายคางอันดาให้เงยขึ้นสบตา
ดวงตากลมโตคลอรื้นไปด้วยน้ำใส ใบหน้าน่ารักสลดลงจนไม่เหลือเค้าเดิมของเด็กดื้อก่อนหน้านี้
"ถ้าทำแบบนี้อีกฉันจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู ไป..ไปหยิบกระเป๋าสตางค์ฉันมาให้หน่อย"
พูดจบอันดาก็ทำตาปริบ ๆ ตอบรับ พอประมวลสิ่งที่อคินพูดจนจบ ก็รีบวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องนอน แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์มาให้ตามที่อคินบอก
ออกมาก็เจออคินสวมรองเท้าแตะยืนรออยู่แล้ว งงได้ไม่นานอันดาก็ถูกอคินจูงมือมาใส่รองเท้าอยู่ข้างกัน
"อยากกินอะไรก็ไปเลือก แต่ว่าไม่ให้ซื้อขนมนะ"
คนที่กำลังจะดีใจหน้าเจื่อนลง ปากงุ้ย ๆ เชิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ายอมจำนน แล้วเดินตรงเข้าไปที่ตู้แช่อาหารแช่แข็ง
ดวงตากลมวาวกวาดมองช้า ๆ ไปทีละอย่าง อาหารในกล่องละลานตามีภาพแปะเอาไว้ช่างดูน่ากิน
"อันดาอยากกินอันนั้น" ปลายนิ้วเรียวชี้ไปที่กล่องสี่เหลี่ยมพอดีมือ บนหน้ากล่องติดรูปภาพอาหารสีสดเอาไว้อย่างสวยงาม
"สปาเก็ตตี้ขี้เมา นายกินไม่ได้หรอก มันเผ็ด"
"แต่อันดาอยากกินนี่ ไหนอคินบอกว่าอยากกินอะไรก็ให้เลือกไง"
"งั้นตามใจ ฉันถือว่าฉันเตือนแล้วนะ"
"อื้อ" อันดาพยักหน้ารับคำไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะหยิบสปาเก็ตตี้ขี้เมาขึ้นมาหนึ่งกล่อง
"เอาอย่างเดียวใช่ไหม รีบเอาไปให้พนักงานอุ่นให้เร็ว ๆ ฉันง่วง" อคินเร่ง ทำทีว่าเบื่อหน่ายเต็มทนพร้อมปิดปากหาวหวอด
เด็กน้อยตัวเล็กกวาดสายตาไปมาอีกสักพัก ก่อนจะคว้าเอาเกี๊ยวกุ้งมาด้วยหนึ่งกล่อง เลือกไปเลือกมาได้ซาลาเปาลาวาเพิ่มมาหนึ่งลูก ไส้กรอกชีสหนึ่งแท่ง และนมรสช็อกโกแลตอีกหนึ่งกล่อง
สรุปมื้อนี้อคินเสียไปโดยใช่เหตุราวร้อยกว่าบาท พอออกมาจากร้านสะดวกซื้อได้อันดาก็รีบมุดเข้าไปดูในถุงหิ้ว แล้วหยิบไส้กรอกชีสขึ้นมาเป็นอันดับแรก
ริมฝีปากกัดเนื้อไส้กรอกน่าเอ็นดู แก้มขาวพองขึ้นเล็กน้อยตามจังหวะการเคี้ยว อคินมองดูแล้วส่ายหน้า เขาถอนหายใจแล้วล้วงมือเข้าไปหยิบกล่องนมขึ้นมาเจาะหลอดดูดส่งให้อันดา
"อคินกินไหม อร่อยมากเลย" เด็กน้อยตาเป็นประกาย ยื่นไส้กรอกชีสที่เหลืออยู่ครึ่งแท่งแบ่งให้อคินกินด้วย
"ไม่ล่ะ นายกินเถอะ"
ได้ยินแบบนั้นแล้วอันดาก็กัดไส้กรอกหายเข้าปากไปอีกคำโต
ระหว่างทางเดินกลับคอนโดแม้จะไม่ไกลมากนัก แต่ในเวลาเกือบตีสองแบบนี้อุณหภูมิก็ต่ำลงจนสัมผัสได้ว่าอากาศเริ่มหนาวเย็น เด็กน้อยที่เอาแต่สนใจการกินไม่ทันได้รู้ตัว ถูกแขนแกร่งรวบเข้ามาโอบเอาไว้จนร่างของคนทั้งสองแทบจะหลอมละลายเข้าด้วยกัน
กลิ่นไส้กรอกชีสหอมกรุ่นยังไม่หอมเท่ากลิ่นอ่อน ๆ จากร่างกายของอันดา มันปนเปทั้งกลิ่นแป้ง กลิ่นสบู่ ยิ่งก้มลงไปใกล้ยิ่งสัมผัสได้ถึงความหอมชวนให้ดอมดม
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว
ถ้าถึงห้องแล้วขอฟัดสักทีสองทีเป็นค่าอาหารมื้อนี้ก็แล้วกันนะ
ปึ้ก!
"อ๊ะ!"
ร่างเล็กถูกผลักให้ล้มลงบนโซฟาทันทีเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้อง อคินโยนถุงอาหารทั้งหมดไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา กระโดดขึ้นคร่อมเด็กดื้อเอาไว้ แล้วตรึงแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ
"ทับอันดาทำไม..อันดาจะกินเส้น ๆ"
"..."
"อคินปล่อย อันดาหนัก"
เด็กน้อยไม่รู้ความเริ่มทำหน้ามุ่ย อยู่ ๆ ก็โดนอคินรวบมือแล้วกระโดดขึ้นทับ อคินตัวใหญ่กว่าอันดาตั้งเยอะ หนักจะตาย ทำไมต้องมาทับอันดาด้วย อันดาอึดอัด
"อยู่นิ่ง ๆ ฉันกำลังจะเก็บค่าอาหารจากนาย"
พอได้ยินว่าอคินจะเก็บค่าอาหาร เจ้าตัวรีบเบิกตาโพลง จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้อคิน อันดาเกิดมาไม่เคยมีเงินเป็นของตัวเองเลยสักบาทเดียว
"ท..เท่าไหร่ อันดา..อันดาไม่มีเงินนะ"
"ร้อยยี่สิบบาท" อคินเอียงคอบอก เขายักคิ้วยียวนรอคำตอบจากอันดา
คนตัวเล็กหน้าถอดสี กัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่น
"มันเยอะไหม อันดาไม่มีเงินสักนิดเดียวเลยนะอคิน"
"ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะให้นายจ่ายเป็นเงิน"
"แล้ว..อื้อ!"
ไม่ต้องรอให้อันดาเอื้อนเอ่ยอคินก็ก้มลงจุ๊บปากอันดาไปหนึ่งที ดวงตากลมกะพริบถี่ด้วยความตกใจ ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากตนเองด้วยความขวยเขิน
"อคินจุ๊บอันดาทำไม" ถามอย่างพาซื่อ เขินจนต้องเบนสายตาหลบหนี
"ก็บอกแล้วไงว่าจะเก็บค่าอาหาร"
"แต่.."
"อยู่เฉย ๆ"
สิ้นสุดคำสั่ง อันดาเด็กดื้อสุดแสนจะว่าง่าย เด็กน้อยนอนนิ่งแล้วรอรับจูบจากริมฝีปากหยัก
อคินไล่จูบตั้งแต่ริมฝีปากอวบอิ่มของอันดาโดยไม่ได้รุกล้ำ ไล่พรมจูบช้า ๆ บนพวงแก้มขาวซ้ายทีขวาจนกว่าจะพอใจ
ขยับตัวขึ้นจูบหน้าผากมน สลับลงมากดจูบที่ปลายคางเรียว และวนกลับไปจูบซ้ำ ๆ ที่แก้มนุ่มที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
สองแขนที่ถูกตรึงไว้ยามนี้เป็นอิสระ อันดายกแขนขึ้นคล้องคออคินเอาไว้ตามสัญชาติญาณ เงยหน้ารับจูบแสนหวานจากอคินที่กดย้ำลงมาที่ริมฝีปากตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปลายจมูกโด่งคมไล่ต้อนความหอมหวานจนมาถึงลำคอขาว สูดกลิ่นอ่อน ๆ ที่ลอยวน ชวนให้เขาสัมผัสอันดาไปมากกว่านี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น
ก่อนอะไรจะบานปลายไปมากกว่านี้ อคินฉกชิมริมฝีปากอันดาอีกครั้งแล้วผละออกมาสบตากัน
"นายจ่ายค่าอาหารให้ฉันครบแล้ว ไปกินได้"
พออคินลุกขึ้น อันดารีบคว้าถุงอาหารแล้วลุกขึ้นวิ่งไปนั่งบนโต๊ะกินข้าว พวงแก้มแดงปลั่งยิ่งกว่าลูกตำลึง ใบหน้าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเตาอบขนมปัง
การเรียกเก็บค่าอาหารของอคินเกือบทำให้อันดาแทบหมดลมหายใจ ทุกสัมผัสจากอคินมันนุ่มนวลชวนให้อันดาใจสั่น
เด็กน้อยเผลอไผลไปกับทุกสัมผัสที่ได้รับจากอคิน
ไม่ทันได้ตั้งตัวว่าจะโดนพรมจูบไปทั้งใบหน้า
อคินบ้า!
ทำอะไรก็ไม่รู้
"อคิน! อคิน! ช่วยอันดาด้วย!"
อคินที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟารีบดีดตัวลุกขึ้นมาแล้ววิ่งไปหาอันดา
เด็กดื้อของเขาเอาแต่ร้องให้ช่วย ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อแดงกล่ำทั้งด้านบนและด้านล่าง น้ำตาเกราะพราวรอบดวงตา ไหลแหมะ ๆ เป็นสายจนอคินนึกขัน
"เกิดอะไรขึ้นอันดา" ก็พอจะเดาได้อยู่หรอก แต่ขอถามให้เป็นพิธีก็แล้วกัน
"อันดาเจ็บปาก อคินช่วยด้วย อันดากินเส้น ๆ แล้วปากก็ร้อนไปหมดเลย อคินช่วยอันดาด้วย" เด็กน้อยงอแง แต่ในมือยังกำส้อมสำหรับตักเส้นสปาเก็ตตี้ไม่ยอมปล่อย
"ฉันบอกแล้วว่ามันเผ็ด ไม่เชื่อเองนะ"
คนตัวสูงหัวเราะหึในลำคอ แต่ก็ยังใจดีพอที่จะเดินไปหยิบน้ำมาให้อันดาดื่มคลายความเผ็ด
"อันดาไม่ไหว อันดาเจ็บปาก"
"นี่แหละเขาเรียกว่าเผ็ด จำไว้"
บ่นไปด้วยก็ปาดน้ำตาให้อันดาไปด้วย นี่แหละเด็กดื้อ เตือนแล้วห้ามแล้วไม่ฟังก็ต้องให้สัมผัสเองกับตัว
"ไม่ต้องกินแล้ว ลุก"
อคินดึงส้อมออกจากมืออันดา ขยับกล่องสปาเก็ตตี้ขี้เมาออก แล้วฉุดแขนให้อันดาลุกขึ้นยืน
"ลุกเร็ว ๆ จะพาไปบ้วนปาก ดื่มน้ำแบบนี้ไม่หายง่าย ๆ หรอก เผลอ ๆ ดื่มน้ำเยอะเดี๋ยวก็ฉี่รดที่นอนอีก"
แม้ความเผ็ดสุดแสนจะทรมาน แต่ความอร่อยก็ยังทำให้อันดาลังเล นึกเสียดายอยู่เหมือนกัน เพิ่งจะกินไปได้แค่สองคำก็น้ำตาแตกปากเจ่อแล้ว
พอพามาถึงอ่างล้างจาน อคินก็จับอันดาบ้วนปาก บ้วนอยู่เป็นสิบรอบกว่าอันดาจะดีขึ้น ริมฝีปากที่บวมเจ่อในคราแรกเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ไม่รู้อคินควรจะสงสารหรือควรจะขำก่อนดี
เด็กน้อยหนอเด็กน้อย
"กินนี่ไป ส่วนเกี๊ยวกุ้งเอาไว้กินพรุ่งนี้เช้า" อคินยื่นซาลาเปาลาวาให้อันดา เก็บกล่องเกี๊ยวกุ้งกับกล่องสปาเก็ตตี้ขี้เมาไว้ในถุง เตรียมจะนำไปแช่ในตู้เย็น
"แล้วเส้น ๆ ล่ะ อคินเอาเส้น ๆ ไปไหน"
ถึงจะบอกกับตัวเองว่าไม่เอาอีกแล้ว ไม่กินอีกแล้ว แต่ขอห่วงหน่อยก็แล้วกัน อร่อยขนาดนั้น จะให้อันดาตัดเยื่อใยเลยก็ดูจะใจร้ายกับเจ้าเส้น ๆ มากเกินไปหน่อย
"เอาไปแช่ตู้เย็น พรุ่งนี้ฉันจะกินเอง"
"อ๋อ" หมดห่วงละ อย่างน้อยเจ้าเส้น ๆ ก็จะได้อยู่ในท้องของอคิน อันดานึกว่าจะได้ไปนอนในถังขยะแล้วซะอีก
"กินเสร็จแล้วไปดื่มน้ำ แปรงฟันให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะพาไปห้าง"
"ห้างเหรอ"
"อยากไปก็รีบเข้านอนซะ"
"ได้เลย! ได้เลย! อันดาจะไปนอนแล้วครับ"
คนตัวเล็กกระตือรือร้น พอรู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวก็ดีใจจนเนื้อเต้น รีบยัดซาลาเปาคำสุดท้ายเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ไม่ต้องรอให้กลืนจนหมดก็กระดกดื่มน้ำพรวด ๆ ตามลงไปด้วย
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง!
ทันทีที่เสียงกริ่งดังขึ้นทั้งอคินและอันดาหันมองหน้ากัน ใบหน้าหวานเอียงคอเป็นคำถาม ส่วนอคินกะพริบตาปริบ ๆ แล้วค่อยหันไปมองยังบานประตู
"สงสัยเพื่อนฉันมา นายเข้าไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอฉัน แล้วอย่าออกมาล่ะ"
"ครับ" อันดาพยักหน้าหงึกหงัก
"แปรงฟันด้วยนะอันดา"
"ครับ" รับปากด้วยความอิดออด ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าอคิน
"อะไร เข้าไปนอนสิ" อคินขมวดคิ้ว พยักเพยิดหน้าให้อันดาเดินเข้าห้องนอน
"อคินต้องฝันดีอันดาก่อน"
ก็เป็นซะแบบนี้ไงอันดา
เอาล่ะนะ ฝันดีก็ฝันดี
"อืม..นอนซะแมวดื้อ ฝันดี" และอคินก็กดจูบลงบนริมฝีปากของอันดาแผ่วเบา
แค่เพียงริมฝีปากแตะกันอันดาก็อุ่นวาบไปทั้งหัวใจ เด็กน้อยบอกฝันดีคนตัวสูงกลับ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน
หลังจากร่ำลากันเรียบร้อย อคินก็เดินไปยังหน้าประตู เขาส่องตาแมวดูก่อนว่าใครคือคนที่มาเยือนถึงที่ในเวลาดึกดื่นขนาดนี้
แกร๊ก!
"ไอ้คินนนนนนน ฮึกก..คิน..มึง..ฮืออ"
ทันทีที่ประตูเปิดออก กฤตินก็โถมตัวเข้ากอดคออคินเอาไว้แน่น เสียงร้องไห้ดังระงมจนอคินต้องรีบลากเพื่อนตัวดีเข้ามาในห้อง
เขาโยนกฤตินไว้บนโซฟา คนที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทั้งเรือนร่างดิ้นเร่า ๆ ไม่ต่างจากหมาโดนน้ำร้อนลวก
"อะไรของมึงวะไอ้ติน ไปกินเหล้ามาเหรอ"
"ทำไมมึงเปิดประตูช้าจังวะ กูยืนรอมึงมาสามชั่วโมงแล้วเพื่อนเวร"
"อย่าเวอร์" อคินรีบปราม สามชั่วโมงอะไรของมัน โผล่มากดกริ่งบ้านคนอื่นเวลานี้แล้วยังไม่สำนึก
"ฮึก..มึงซุกเด็กเหรอ เอากันอยู่อะดิเลยเปิดประตูช้า"
"ไร้สาระ" เอากันบ้านป้ามึงดิ แค่บอกฝันดีกันเฉย ๆ โว้ย
"มึงงงงง..ฮึก..ก กู ฮือออ..ไอ้คิน..คิน..อคินเพื่อนรัก..ฮึกกก"
"อะไรของมึงวะไอ้ติน กูฟังไม่รู้เรื่อง จะร้องไห้ไปพูดไปทำห่าอะไรของมึง"
"ฮึก..ฮึก..กู.. กู..ขอนอนด้วย"
"ไม่ได้!" อคินรีบปฏิเสธ
ขืนให้กฤตินนอนด้วยก็เห็นแมวน้อยของเขาน่ะสิ ไม่ได้หรอก
ไอ้เพื่อนปากสว่าง
ถ้ามันรู้เข้าก็ได้รู้กันทั้งโลกแน่นอน
"ฮือออออ..อคินเพื่อนรัก"
"มึงเล่ามาก่อนว่าเป็นอะไร"
"กู..กู..ฮึกกก..กู..ฮืออออ.."
"กูชักจะรำคาญละนะ"
"รำคาญ! ฮึก..กก แม้แต่มึงก็รำคาญกูเหรอ!" กฤตินโวยวาย น้ำตาไหลพรากแทบจะเป็นสายเลือด
"เฮ้อ..มึงนี่มันจริง ๆ เลยนะไอ้ติน กูจะไปนอนละ"
"เดี๋ยวก่อน! อคินเพื่อนรัก อยู่เป็นเพื่อนกูก่อน"
"กูง่วง มึงจะนอนก็นอนโซฟานะ ห้องนอนกูแค่ลูกกูนอนก็เต็มเตียงไปหมดแล้ว ไม่มีที่ว่างสำหรับมึงหรอก"
"ใจร้าย เห็นแมวสำคัญกว่าเพื่อน!"
"แน่นอนครับ บาย"
แหงล่ะ ก็แมวน้อยของเขาน่าสนใจขนาดนั้น นอนตัวกระจิ๊ดให้กอดทุกคืน ไม่สำคัญก็แย่แล้ว
อคินตัดบทแล้วรีบหนีเข้าห้องนอน ล็อกประตูเอาไว้อย่างแน่นหนา เกิดเพื่อนตัวดีนึกพิเรนทร์เปิดประตูพรวดเข้ามา รับลองได้เห็นเด็กดื้อของเขาแน่ ๆ
อคินไม่ได้ใส่ใจอะไรกฤตินมากนัก ที่ไม่ใส่ใจไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วง แต่เขาชินเสียมากกว่า กฤตินมักจะมีเรื่องให้น่าปวดหัวอยู่เสมอ
ซึ่งฟูมฟายมาขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องน้องคนนั้นที่รัก ๆ เลิก ๆ กันมายาวนานกว่าสี่ปี
สามวันดี สี่วันเลิกกัน
วันพรุ่งนี้เดี๋ยวมันก็หายกลับมาเป็นไอ้กฤตินคนเดิมตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้นอคินจะส่งข้อความไปบอกวัศกรเผื่อไว้ก็แล้วกัน
เผื่อมันนึกครึ้มหนีไปที่ไหนจะได้ตามตัวกันถูก
เขาล่ะปวดประสาท เด็กดื้อก็ป่วน เพื่อนก็ป่วน จนจะตีสามอยู่แล้วยังไม่ได้นอนสักที มีก็แต่เจ้าอินดี้นั่นแหละที่เอาแต่หลับอุตุสบายใจเฉิบ
ส่วนอันดาก็น่าจะหลับไปแล้ว เพราะเดินเข้ามาก็เห็นร่างเล็กซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม อคินไม่เสียเวลา เขารีบมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับอันดาทันที
"อ่าว ยังไม่หลับเหรอ" อคินร้องถาม อันดาขยับตัวหันมากอดแขนเขาเอาไว้แน่น
"ใครมาเหรออคิน เสียงดังมากเลย" อันดาถามเสียงแผ่ว ตาปรือเต็มที่แต่ก็ยังฝืนไว้
"เพื่อนฉันน่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
"น่ากลัวจัง"
"ไม่น่ากลัวหรอก ไม่มีอะไร นอนได้แล้วอันดา" อคินยกมือขึ้นลูบศีรษะอันดาช้า ๆ ปลอบประโลมแผ่วเบา
"เพื่อนอคินกลับไปแล้วใช่ไหม"
"ยัง มันนอนอยู่โซฟาข้างนอก"
"..."
"ไม่ต้องกลัว มันไม่เข้ามาในนี้หรอก" อคินกดจูบลงบนศีรษะทุย กอดเอวคอดเอาไว้แน่น
"แล้วเมื่อไหร่เพื่อนอคินจะกลับ อันดากลัวเพื่อนอคินเสียงดังอีก"
"ไม่รู้สิ..ถ้ากลัวพรุ่งนี้ตื่นแล้วนายก็อย่าเพิ่งออกไปแล้วกัน รอออกไปพร้อมฉัน เข้าใจไหม"
"เข้าใจครับ" อันดาพยักหน้ารับ ขยับตัวเอาแก้มเกยไว้บนแขนอคิน
"ถ้ากลัวมากก็กอดฉันไว้ แล้วหลับตาซะ"
อันดารีบตะแคงตัวให้ถนัด แล้ววาดแขนกอดคนตัวใหญ่กว่าเอาไว้ แก้มนุ่มที่วางเกยบนแขนแกร่งยู่ไปยู่มาจนเป็นก้อน
ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่ในอ้อมกอดของอคิน เขากอดตอบอันดาจนเต็มรัก เด็กดื้อของเขาบทจะว่าง่ายก็แสนง่ายดายเสียจนน่าเอ็นดู
"ดีมากแมวน้อย"
to be continued..
เลี้ยงกันไป น้วยกันไป
ความคิดเห็น