คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
"หมดแก้ววววววว.."
แกร๊ง!
แก้วน้ำเมาสีเข้มทั้งสามแก้ว ชนประสานกันจนเกิดเสียง พวกเขายกมันกระดกกรอกลงคอรวดเดียวจนหมดภายในห้าวินาที
อคินหนึ่งในผู้ถือแก้วรู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้นมาทันทีเมื่อแอลกอฮอล์ไหลเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายเขาห่างหายจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ไปนานร่วมหนึ่งเดือน
"เอาอีก ไอ้คิน ส่งแก้วมา" กฤติน หนึ่งในเพื่อนของอคินว่า เขากระดิกปลายนิ้วแล้วถือวิสาสะเอื้อมมาหยิบแก้วของอคินไป
เขาจัดการเติมน้ำแข็ง โซดา และ เหล้า ใส่เข้าไปจนล้นแก้ว ส่งมันคืนให้อคินแล้วร้องเชียร์ว่าหมดแก้ว ๆ ไม่ขาดปาก
"เพิ่งจะสี่ทุ่ม มึงชงให้มันเข้มจังวะ" วัศกรหัวเราะในลำคอ เขาตักกับแกล้มเข้าปาก มองดูอคินที่ดื่มเอา ๆ ราวกับคนอกหัก
"มา หมดแล้วก็ส่งแก้วมา" กฤตินกระดิกนิ้ว
"พอก่อนไอ้ติน เดี๋ยวมันเมา กูขี้เกียจแบกกลับนะเว้ย"
วัศกรร้องห้ามทันทีเมื่อกฤตินเตรียมจะเอาแก้วของอคินไปชงเพิ่ม อคินไม่ใช่คนคอแข็ง แต่เขาสามารถดื่มต่อได้เรื่อย ๆ แม้สภาพร่างกายของเขาจะไม่ไหวแล้วก็ตาม
ทุกครั้งที่เขาเมา หน้าที่หลักของวัศกรคือแบกเขาขึ้นไปส่งบนคอนโด ส่วนกฤตินถ้าไม่ชิ่งกลับก่อนก็หิ้วสาวกลับไปนอนด้วย
"เออมึง.." วัศกรเกริ่นนำ ทั้งอคินและกฤตินหันไปรอฟังคำเรียกสุดระทึก "วันก่อน..ลินินจิวเวลรี่..มาติดต่อบริษัทกูว่ะ"
"ลินินจิวเวลรี่เหรอ.." กฤตินนิ่งไปครู่หนึ่ง เหลือบมองอคินเพื่อรอดูท่าที
"แล้วมึงว่าไงบ้าง" นานนับนาทีกว่าอคินจะหลุดเสียงตัวเองออกมา
"แล้วมึงว่ายังไงล่ะ" วัศกรตอบกลับด้วยคำถาม
"ว่ายังไงคืออะไร เขามาดีลกับมึง บริษัทก็บริษัทมึง จะมาถามอะไรกู" อคินแหวใส่ จากที่คิดว่าจะไม่หัวเสียแต่ตอนนี้เริ่มอารมณ์ขุ่นขึ้นมาแล้ว
"มึงจะโอเคเหรอ ถ้ากูตอบตกลงทางนั้นไป มึงก็รู้..เจ้าของลินินจิวเวลรี่คือพ่อของรานีน"
"..."
"ปฏิเสธไปเลยไอ้กร" กฤตินสรุปให้
"มึงจะบ้าเหรอไอ้ติน!" อคินโวยวาย
เขาไม่ยอมแน่ถ้าต้องให้เพื่อนเสียลูกค้าเพราะเรื่องไร้สาระของเขา
รานีนคือแฟนเก่าคนสุดท้ายของอคินตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
อคินคบกับรานีนตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ เขารักเธอมาก มากพอที่จะยอมหลับหูหลับตา ยอมให้เธอคบกับผู้ชายคนอื่นไปด้วยทั้ง ๆ ยังคบกับเขา ทั้งคู่จบกันไม่ค่อยดี กว่าอคินจะผ่านช่วงเวลาที่ไม่มีเธอมาได้ก็เจ็บหนักไปเลยราว ๆ หนึ่งปี
"กูโอเค มึงตอบตกลงทางนั้นไปเถอะ"
"แต่มึง.."
"กร..มึงฟังนะ กูกับนีนจบกันไปนานแล้ว กูไม่ใช่คินคนเดิม กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับนีนอีกแล้ว อย่าทำให้เรื่องไร้สาระของกูเป็นปัญหากับงานของมึงดิวะ แล้วอีกอย่าง..กูคงไม่บังเอิญเจอนีนหรอก มึงสบายใจได้ กูโอเค"
อคินตบบ่าวัศกร เขายืนยันทั้งแววตาและรอยยิ้มให้เพื่อนสบายใจ วัศกรนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ
วัศกรกับกฤตินหันมองหน้ากัน อคินที่บอกว่าโอเคเมื่อไม่ถึงหนึ่งนาทีที่แล้ว ยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก พอหมดก็จัดการเติมเองแล้วก็กระดกมันลงคออีกครั้ง
เขาทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ จนกฤตินต้องดึงแก้วออกจากมือ อคินเริ่มขาดสติ อาการพูดไม่รู้เรื่องเริ่มรุกรานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาเรียวรีปรือปรอยด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
เมื่อเวลาล่วงเข้าสู่เที่ยงคืน วัศกรที่ก่อนหน้านั้นเกลี้ยกล่อมอคินให้กลับบ้านดี ๆ ก็เริ่มใช้กำลัง เขาพยายามกระชากอคินให้ลุกขึ้น กฤตินเข้ามาช่วยพยุง พอได้จังหวะวัศกรก็รวบขาอคินแล้วหามกันออกไปยัดไว้ในรถยนต์
ไม่รอให้คนเมาโวยวายไปมากกว่านี้ วัศกรรีบขับรถพาอคินไปส่งที่คอนโดทันที ส่วนกฤตินขับรถของอคินไปจอดไว้ให้ใต้คอนโด
พามาถึงวัศกรก็หิ้วปีกอคินถูลู่ถูกังกันเข้าไปในลิฟต์ เขากดเลขชั้นที่เก้า ชั้นที่เป็นห้องของอคิน
พอถึงหน้าห้องที่เป็นจุดหมายปลายทางก็กดรหัสที่เขารู้ดีลงไปให้ประตูเปิดออก เปิดเข้าไปภายในห้องสว่างจ้า มีเจ้าแมวหน้าใหม่ที่เขาเคยเห็นผ่านตาในเฟซบุ๊คราวสัปดาห์ก่อนของอคินวิ่งออกมารับหน้า
วัศกรจัดการลากเพื่อนตัวดีเข้าไปโยนไว้บนเตียง เจ้าอันดาที่กำลังงวยงงวิ่งตามเข้าไปเกาะติดสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง
"ดูแลกันเองนะ พ่อแกเมา" วัศกรทิ้งท้ายไว้กับบรรดาแมว ๆ ของอคิน เขาก้มลงลูบหัวเจ้าอันดา และหันไปลูบหัวเจ้าอินดี้ที่นอนอ้วนอยู่บนโซฟาปลายเตียง
หลังจากนั้นเขาก็มองไปรอบห้องของอคิน เข้าใจว่าเพื่อนรักแมวมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะรักมากถึงขนาดเปิดไฟสว่างจ้าพร้อมเปิดแอร์เย็นฉ่ำทิ้งไว้ให้ขนาดนี้
วัศกรใจดีเดินกลับเข้าไปเปิดแอร์ในห้องนอนอคิน ไล่ปิดแอร์ที่ห้องนั่งเล่นและปิดไฟทุกดวงให้ก่อนที่จะกลับออกไป
ดวงตากลม ๆ กำลังจ้องมองร่างสูงที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนเตียง กลิ่นอะไรบางอย่างที่เจ้าอันดารู้สึกว่าเหม็นมากสำหรับมันกำลังโชยออกมาจากเสื้อผ้าของอคิน
ผู้ชายแปลกหน้าเมื่อครู่หามอคินเข้ามาไว้ในห้อง บอกแค่ว่าให้ดูแลอคินเพราะว่าอคินเมา แต่ไม่ยอมบอกว่าเมาคืออะไร แล้วแบบนี้เจ้าอันดาควรจะดูแลอคินอย่างไรดี
พอนึกขึ้นได้ว่าถ้าต้องดูแลอคินในร่างแมวคงจะลำบาก เจ้าอันดาแมวน้อยก็กลายร่างเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวร่างกายเปลือยเปล่าในทันที
อันดาคลานเข่าขึ้นไปหาอคินบนเตียง ใช้ปลายนิ้วแตะที่หลังมือของอคินให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วจริง ๆ
เขาทำจมูกฟุดฟิดเมื่อเข้าไปใกล้ร่างสูง กลิ่นแปลก ๆ แบบที่ไม่คุ้นชินกำลังทำให้อันดาหงุดหงิด
เหม็นชะมัด ทำไมพ่อไม่ไปอาบน้ำก่อนมานอนนะ
อันดานึกสงสัยอยู่ในใจ พอคิดได้ว่าอคินเคยใช้ผ้าชื้น ๆ มาถูที่ตัวให้ เลยย่องไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่อคินใช้ประจำแล้วนำไปจุ่มน้ำ มือน้อย ๆ ยกผ้าทั้งผืนที่อุ้มน้ำเอาไว้ด้วยความยากลำบาก
วินาทีที่ยกผ้าขึ้นมาเหนือผิวน้ำ อันดาเซถลาหน้าเกือบทิ่ม ผ้าบ้าอะไรหนักชะมัด พอเดาว่าตัวเองแบกผ้าเปียก ๆ นี่ออกไปเช็ดตัวอคินไม่ไหวแน่ ๆ เลยคิดหาวิธีขึ้นมาใหม่
อันดาเดินออกจากห้องนอนอคินแล้วหายแวบเข้าไปในครัว เดินวนหาผ้าที่ตัวเองพอจะถือไหวอยู่นานสองนาน จนไปเจอผ้าผืนหนึ่งที่ถูกยัดเอาไว้ในซอกตู้ เขายกยิ้มด้วยความดีใจ จากนั้นก็นำผ้าผืนเล็กไปจุ่มน้ำ บีบ ๆ พอให้น้ำไม่หยดแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องนอน
อันดาเริ่มเช็ดที่ใบหน้าของอคินเป็นอันดับแรก มือบางไล่ดึงกระดุมเสื้อของอคินจนมันขาดออกครบทุกเม็ด เลื่อนต่ำลงไปจะถอดกางเกงให้ แต่ติดที่ว่ากระดุมกางเกงยีนส์ของอคินดึงยาก อันดาพยายามออกแรงจะดึงให้มันขาดแต่กลับไม่ขาดสักที
ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มมุ่ยขึ้นเมื่อเหนื่อยกับการวุ่นวายอยู่ที่กางเกงของอคิน เขาถอดใจแล้วเปลี่ยนเป้าหมายกลับไปเช็ดตัวให้อคินต่อ น้ำจากผ้าหยดติ๋ง ๆ ทำเอาที่นอนเปียกไปด้วย
ความที่เป็นแมวไม่ค่อยรู้ประสา ก็ทำ ๆ ไปตามมีตามเกิด พอเช็ดจนรู้สึกว่าน่าจะสะอาดมากพอแล้ว อันดาก็ค้อมตัวลงไปดมให้แน่ใจอีกครั้งว่ากลิ่นแปลก ๆ พวกนั้นหายไปไหม
เขาคลี่ยิ้มออกมาทันทีเมื่อรู้สึกว่าได้ดูแลอคิน จ้องมองหน้าอีกฝ่ายอยู่นานสองนาน อยู่ ๆ ก็นึกเขิน อันดาใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาไม่มีเหตุผล เขาก้มลงจุ๊บปลายคางอคินแบบที่ชอบทำ แล้วเตรียมตัวจะเข้านอน
แต่ทันทีที่ผละออก กำลังจะก้าวขาลงจากเตียง ก็รู้สึกได้ว่าอคินกำลังเคลื่อนตัว ร่างบางหยุดชะงัก แล้วหันกลับไปมอง อคินปรือตาแล้วตะแคงตัวหันมาหาเขา
ทั้งสองสบตากัน
นานนับนาทีแล้วต่างฝ่ายต่างก็..
"อ๊ากกกกกกก.."
"กรี๊ดดดดดดด.."
เสียงเอะอะโวยวายดังประสาน อคินเบิกตาโพลง พร้อมกับแหกปากดังลั่นห้อง
อันดากรีดร้องสุดเสียง ก่อนจะกระโจนใส่อคิน แล้วเอาผ้าชุบน้ำที่เตรียมจะไปตากอุดปากอคินไว้
ร่างเล็ก ๆ โดดขึ้นคร่อมตัวอคิน คนที่กำลังเมาได้ที่ สติเริ่มกลับมาเมื่อพบเจอคนแปลกหน้า อันดาไม่รอให้อคินเห็นเขาไปได้นานกว่านี้ เด็กหนุ่มตัวน้อยคว้าผ้าห่มมาคลุมหน้าอคิน แล้วกระโดดลงจากเตียง
เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นยัยเหมียวของคุณพ่อ อคินรีบดึงผ้าห่มที่คลุมศีรษะตนเองออก แล้วโยนมันลงพื้น เขาหอบหายใจจนอกกระเพื่อม เขวี้ยงผ้าเปียก ๆ ที่อุดปากเขาอยู่อัดใส่กำแพงห้องเต็มแรง
"ใครวะไอ้สัตว์!" อคินตะโกนถาม เขาลุกขึ้นยืนตั้งท่าจะต่อสู้
"แน่จริงก็ออกมาดิวะ! มาสู้กับกูซึ่ง ๆ หน้า!" เขากำหมัดแน่น ความโกรธปะทุขึ้นจนห้องทั้งห้องแทบจะลุกเป็นไฟ
เหงื่อกาฬผุดออกตามขมับ เขาเดินหาเด็กหนุ่มปริศนาจนทั่วทั้งบ้านแต่กลับไม่พบ ไม่ว่าจะเป็นผีหรือเป็นคน อคินก็อยากให้อีกฝ่ายออกมาปรากฏตัวต่อหน้าเขา
ครานี้เขามั่นใจมากว่าเขาไม่ได้ฝัน เขาสบตากับเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้ม แม้สติจะไม่ครบร้อย แต่ใบหน้าหวาน ๆ นั้นยังติดตาตรึงใจ แถมผิวขาว ๆ นั่นก็ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
พอคิดมาถึงตรงนี้อคินก็ตกใจ เขาเบิกตาขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไล่สำรวจร่างกายของตนเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
สิ่งที่แปลกไปคือเสื้อของเขาถูกกระชากกระดุมจนขาดออกทุกเม็ด อคินกัดกรามกรอด เขาถอดเสื้อตนเองออกแล้วโยนมันลงถังขยะ
พอจับตัวเด็กนั่นไม่ได้ก็เดินปึงปังกลับเข้ามาในห้องนอน เขาเหลือบมองเจ้าอินดี้ที่นอนหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาวบนโซฟาปลายเตียง ถอนหายใจออกมาแล้วปรายตาไปหาเจ้าอันดา ยัยลูกสาวของเขาสะดุ้ง สบตาอคินเพียงแวบเดียวก็หลบตาไปแล้วแสร้งว่าจะนอน
ยัยเหมียวน้อยมุดตัวเข้ากับหมอนของอคิน หลับตาพริ้มทำเป็นไม่สนใจอะไรอคินอีกแล้ว
อคินถอนหายใจยาวพรืด เขาตั้งสติแล้วพยายามกำจัดความรุนแรงภายในจิตใจออกไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่พอเข้ามาได้ภาพที่เห็นก็ทำเอาเขาอยากจะบ้า ผ้าเช็ดตัวทั้งผืนของเขามันนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ
อคินหยิบมันขึ้นมาอย่างหัวเสีย เขาบิดเอาน้ำที่ค้างอยู่ในผ้าออกจนมันหมาด เอาพาดไว้บนราวตากหน้าห้องน้ำ กลับเข้าไปทำธุระของตนเองเพื่อดับความร้อนระอุภายในใจออกไป
"โถ่โว้ยยย! ไอ้เด็กบ้า!"
เจ้าอันดาสะดุ้ง เสียงอคินดังออกมาจากในห้องน้ำ รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจตนเองอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนสำนึกผิดอยู่บนเตียง
อันดาไม่ได้ตั้งใจทำให้อคินโกรธ ต่อไปนี้จะระวังตัวให้มากกว่านี้ อคินไม่ชอบหรอกถ้าวันนึงอันดากลายเป็นคน อคินตะโกนบอกอันดาเป็นไอ้เด็กบ้า อันดาจะไม่เปลี่ยนร่างไปมาตามใจตัวเองแบบนี้อีกแล้ว จะไม่เป็นคนตอนอคินอยู่
ไม่เอาแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
ไม่อยากให้อคินจับได้ อันดาจะพยายามอยู่ในร่างแมวแล้วอ้อนอคินแบบที่อคินชอบ
หลังจากวันนั้นยัยเหมียวน้อยก็ขี้อ้อนมากขึ้นเป็นพิเศษ เจ้าอันดาอยู่ห่างจากอคินไม่ได้เลย อคินขยับตัวไปไหนมันก็ขยับตาม เขานั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา ยัยลูกสาวก็มานอนบนตักเขา น่ารักน่าเอ็นดู อคินแพ้เจ้าตัวเล็กนี่หัวปักหัวปำ
ส่วนเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นอคินยังติดค้างภายในใจ แม้หาข้อสรุปไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เข้ามาในห้องเขาได้อย่างไร แต่อคินก็ยังอยากเจอเด็กคนนั้นอีกครั้ง อยากถามให้รู้ความไปเลยว่าเป็นผีหรือเป็นคน
พอนึกถึงใบหน้าน่ารักของเด็กนั่นแล้วอคินเผลอขมวดคิ้ว ตั้งแต่วันนั้นเด็กนั่นไม่เคยปรากฏตัว แต่อคินรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังวนเวียนอยู่ในห้องของตนเอง
เพราะหลายครั้งที่แก้วกาแฟของอคินถูกล้างแล้วคว่ำเก็บ อาหารแมวลดลงมากกว่าปกติเหมือนมันถูกเทใส่ในชามของบรรดาลูก ๆ เขาไม่ขาดสาย ไหนจะน้ำสำหรับแมวที่ถูกเติมใส่ชามอยู่เรื่อย ๆ ทรายแมวที่ควรจะมีอึลูก ๆ ของเขาทั้งสองตัวให้ได้เก็บ แต่กลับไม่มีให้เขาเก็บอีกต่อไป
มันน่าสงสัย ทั้ง ๆ ที่เจ้าสองตัวก็กินอาหารไม่ขาดปาก เป็นไปได้หรือที่จะไม่ขับถ่ายเลย
แล้วไหนไส้กรอกในตู้เย็นที่เขาซื้อมาไว้จะหายไปอีก น่าสงสัย ถ้าเด็กนั่นไม่ใช่ผีแล้วเข้ามาในห้องเขาได้อย่างไร แล้วไปแอบอยู่ส่วนไหนของห้อง แต่ถ้าเป็นผี เขาจะเชิญหมอผีฝีมือดีมาไล่ออกไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
แม้อคินไม่ใช่คนเชื่อเรื่องผี แต่เขาจะไม่ยอมใจดีอยู่ร่วมกับผีเด็กตลอดไปแน่
"ไปนอนกันเถอะเด็ก ๆ"
อคินเชิญชวนลูก ๆ ทั้งสองตัว เขากดปิดโทรทัศน์ ปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วอุ้มเจ้าอันดาที่นอนอยู่บนตักเดินเข้าไปในห้องนอน เจ้าอินดี้เดินตามเข้ามาติด ๆ มันกระโดดขึ้นไปนอนบนโซฟาปลายเตียงที่ประจำ ส่วนเจ้าอันดาถูกคุณพ่อวางลงไว้ข้างหมอนตามเดิม
"เมี้ยววววววว.." เจ้าอันดาร้องอ้อน
อคินจัดการปิดไฟและห่มผ้าเรียบร้อย พอยัยลูกสาวร้องเรียกเขาเลยหันไปฟัดเสียทีหนึ่ง เขาขย้ำตัวเจ้าอันดาเบา ๆ พร้อมกับฝังจมูกลงบนหัวมันไปสองสามที
เจ้าอันดาอารมณ์ดี รู้สึกพอใจเลยขยับตัวเข้าไปซุกอยู่ตรงแขนอคิน
"อินดี้ อันดา ฝันดีนะเด็ก ๆ"
"พี่คินคะ พรุ่งนี้ท่านประธานจะเข้าไปตรวจงานที่ฝ่ายผลิต คุณเดือนกับพี่มินตราก็ต้องตามท่านประธานไปด้วย ยังไงพรุ่งนี้พี่คินเข้าประชุมแทนหน่อยได้ไหมคะ พี่ส้มก็ลาป่วย แผนกเราไม่เหลือใครแล้วค่ะพี่คิน"
"คุณน้ำทิพย์ล่ะ"
"ลาพักร้อนพาลูกสาวไปเที่ยวทะเลค่ะ"
"งั้นคุณทรงพล.."
"พี่คินคะ ถือว่ามีนาขอร้อง..พี่คินเป็นตัวแทนแผนกเข้าประชุมเถอะนะคะ"
มีนาพนักงานสาวรุ่นน้องเว้าวอน สายตาของเธอขอร้องเขาอยู่ในที อคินลอบถอนหายใจ ที่ไม่อยากเข้าประชุมไม่ใช่ว่าเขาขี้เกียจ แต่เพราะเขาเบื่อกับการประชุมแสนยืดยาว ที่มักจะกินเวลาไปกว่าครึ่งวัน
งานเขาก็ล้นมือ ไม่มีใครอยากหาเรื่องใส่ตัวถ้าไม่จำเป็น แต่สุดท้ายก็ต้องยอม มีนาใบหน้าเริ่มมีความหวัง อคินกลอกตาด้วยความหน่ายใจ ก่อนจะตอบตกลง
"ส่งรายละเอียดมาในเมลพี่ก็แล้วกัน"
"ค่ะ มีนาจะส่งให้เดี๋ยวนี้เลย" เธอพยักหน้ารับด้วยความกระตือรือร้น พลายยิ้มหวานจนเห็นเครื่องมือจัดฟันสีชมพูน่ารักสดใส
เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปประจำที่โต๊ะทำงาน ไม่ถึงสิบนาทีอคินก็ได้รับแจ้งเตือนอีเมลในกล่องจดหมายขาเข้า เขาเปิดมันแล้วกวาดตามองแค่แวบเดียว มันเป็นรายละเอียดการประชุมที่เขาต้องเข้าร่วมในวันพรุ่งนี้
"เอาไรไหม เดี๋ยวกูจะลงไปซื้อกาแฟ" ธนกิจบิดขี้เกียจแล้วลุกมาหาอคินที่โต๊ะ
"อืม..ชาเขียวปั่นแก้วนึงแล้วกัน ขอบใจมาก"
พูดจบธนกิจก็เดินออกไป อคินเลิกสนใจสิ่งรอบข้างแล้วหันมาทำงานตนเองต่อ
เขากำลังหาข้อมูลเตรียมจะออกแบบสินค้าชิ้นใหม่ที่คาดว่าน่าจะมีประโยชน์ ทำผังสรุปเล็ก ๆ ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร แล้วค่อย ๆ นำมาพัฒนากับผลงานของตนเอง
สายงานของอคินหลายคนอาจจะมองว่าเป็นงานสบาย แค่นั่ง ๆ เขียน ๆ วาด ๆ ก็ได้เงินแล้ว แต่ในทางกลับกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะออกแบบอะไรสักอย่างมาแล้วตอบโจทย์กับทุกคนและทุกวัย
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอคินก็คือการใช้ความคิด ต้องสร้างสรรค์ผลงานอย่างชาญฉลาด ต้องคิดแล้วคิดอีก คิดให้รอบคอบทั้งข้อดีและข้อเสีย
วันนี้อคินกลับบ้านเร็วกว่าปกติเกือบหนึ่งชั่วโมง เปิดประตูเข้าไปกลิ่นหอมของน้ำยาถูพื้นลอยเตะจมูกจนเขารู้สึกประหลาดใจ
อคินทำทีเป็นใจเย็น เดินเข้าไปอุ้มเจ้าอินดี้ไม่ให้มีพิรุธ เขากวาดตามองหาเจ้าอันดา พอไม่เห็นยัยลูกสาวก็คิดไปเองว่าต้องอยู่กับเด็กผู้ชายปริศนาคนนั้นแน่
เอาล่ะ อคินจะแอบย่องไปดูก็แล้วกัน เผื่อจะเจออะไรดี ๆ
เขาวางเจ้าอินดี้ลงบนโซฟา ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปากทันทีเมื่อคิดไปไกลว่ายังไงวันนี้ต้องจับเด็กคนนั้นให้ได้
สองขาแกร่งค่อย ๆ เดินช้า ๆ ลงน้ำหนักที่พื้นเบาจนเหมือนกับเดินอยู่กลางอากาศ
ห้องครัวเป็นสถานที่แรกที่ตกเป็นที่ต้องสงสัย ถ้าเขาฟังไม่ผิดตอนนี้เขาได้ยินเสียงน้ำ เขามั่นใจว่าเมื่อเช้าก่อนออกไปทำงานเขาไม่ได้เปิดน้ำทิ้งไว้
อคินใจสั่นเมื่อเตรียมใจแล้วว่าโผล่หน้าเข้าไปยังไงต้องจับเด็กปริศนาได้แน่ ๆ เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมสมาธิแล้วในที่สุดก็พุ่งตัวเข้าไปในครัวทันที
"บอกมานะว่านายเป็นใคร!"
"เมี้ยววววววว.." เจ้าอันดานั่งอยู่บนซิงค์ล้างจานแล้วหันมาส่งเสียงร้องให้อคิน
อคินหน้าเหวอ มองเจ้าอันดาสลับกับก๊อกน้ำที่ไหลช้า ๆ ลงในซิงค์ เจ้าอันดากระโดดลงมาแล้ววิ่งมาพันแข้งพันขา
ยัยลูกสาวขี้อ้อนร้องขอให้เขาอุ้ม อคินขมวดคิ้วด้วยความมึนงง ก่อนจะอุ้มเจ้าอันดาขึ้นมาแนบอก เขาเดินไปปิดก๊อกน้ำ สำรวจดูรอบ ๆ ก็ไม่พบความผิดปกติใด นอกจากหลักฐานที่อยู่บนชั้นวางถ้วยชาม
จานใบเล็กที่เขาใช้ใส่ไส้กรอกเมื่อเช้ายังเปียกไปด้วยน้ำ เหมือนเพิ่งผ่านการล้างทำความสะอาดมาสด ๆ ร้อน ๆ
เขาเริ่มไม่สู้ดีกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น แม้ไม่อยากปักใจเชื่อว่าเป็นผีสาง แต่เจอแบบนี้ก็อดคิดไม่ได้แล้วว่าห้องที่ตนเองอยู่อาจจะมีผี
อคินไม่รอช้า รีบเสิร์ชอินเทอร์เน็ตอ่านประวัติคร่าว ๆ ของคอนโดตนเองและบริเวณใกล้เคียง พอไม่พบสิ่งลี้ลับอะไรเขาก็ต่อสายไปยังนิติบุคคล เพื่อสอบถามว่าห้องที่เขาอยู่ ก่อนหน้านี้เคยมีใครอยู่หรือไม่ อย่างไร
พอสอบถามจนพอใจก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าของเดิมมีอะไรผิดปกติ ไม่มีเรื่องฆาตกรรมหรือการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นที่นี่ อคินเริ่มใจไม่ดี นี่มันไม่ใช่แล้ว เขากำลังตกอยู่ในอันตรายแน่ ๆ
ยิ่งคิดมากก็ยิ่งฟุ้งซ่าน เย็นนี้เขากินอะไรไม่ลง เลยหยิบนมจืดมาเจาะหลอดแล้วดูดมันรวดเดียวจนหมดกล่อง อคินโยนกล่องนมเปล่าลงถังขยะด้วยความหงุดหงิด เดินปึงปังกลับเข้าห้องนอนแล้วอาบน้ำชำระร่างกาย
พอออกมาจากห้องน้ำ ก็นึกขึ้นได้ว่าจะมาอ่านรายละเอียดของการประชุมในวันพรุ่งนี้ อคินเปิดอีเมลขึ้นมาแล้วไล่อ่านตั้งแต่อักษรพยัญชนะแรกยันตัวสุดท้าย เขาพรินต์ข้อมูลบางส่วนออกมาแล้วจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเอกสาร
ในเมื่อไม่มีอะไรทำ และเขาก็ไม่อยากคิดอะไรให้ฟุ้งซ่าน เลยปิดโน้ตบุ๊คเตรียมตัวจะเข้านอน
เจ้าอันดาเห็นอคินเริ่มขยับตัวก็เริ่มขยับตาม ยัยลูกสาวของเขาย่องขึ้นมานอนข้างหมอน มันกดซุกใบหน้าไปกับความอบอุ่นของผ้าห่มนวม อคินเดินเข้าไปจูบที่หัวเจ้าอินดี้ ปิดไฟ กระโดดขึ้นเตียง แล้วจูบหัวเจ้าอันดาตบท้าย
"พรุ่งนี้พ่อมีประชุมแต่เช้า ฝันดีนะเด็ก ๆ"
"เมี้ยววววววว"
เจ้าอันดาขานรับ มันไม่เข้าใจหรอกว่าประชุมแต่เช้าที่พ่อว่าคืออะไร แต่ในเมื่อพ่อบอกฝันดี นั่นหมายถึงประโยคสุดท้ายของทุกค่ำคืน แล้วหลังจากนั้นพ่อจะหลับตาลง แล้วสุดท้ายก็หลับไป
"เฝ้าบ้านดี ๆ นะเด็ก ๆ ตอนเย็นพ่อจะซื้อขนมมาฝาก"
หลังกลืนขนมปังคำสุดท้ายลงคอ อคินหันไปคว้าเสื้อสูทมาพาดบนแขน เขากวาดสายตาสำรวจดูความเรียบร้อยภายในบ้าน เมื่อไม่มีสิ่งผิดปกติใด เลยเดินตามเจ้าอันดาที่รู้ดีวิ่งนำเขาไปยังหน้าประตู
ทุกเช้ายัยลูกสาวจะเดินมาส่งเขาไปทำงานถึงหน้าประตู มันจะเงยหน้าร้องเมี้ยว ๆ ใส่เขา จนกว่าอคินจะค้อมตัวลงมาลูบหัวนั่นแหละเจ้าอันดาถึงจะหยุดร้อง
พออคินปิดประตูลง สิ่งที่เจ้าอันดาทำอยู่ทุกวันก็เริ่มขึ้น เจ้าอันดาขนนุ่มเริ่มเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้เป็นหนุ่มน้อย
ร่างบางเปลือยเปล่าพุ่งตรงไปยังแก้วกาแฟกับจานขนมปังของอคิน มือเล็กหยิบจับขึ้นมาล้างด้วยความคล่องแคล่ว เสร็จแล้วคว่ำมันลงตามเดิมในที่ที่มันเคยอยู่
ดวงตากลมมองสำรวจไปยังชามใส่น้ำของเจ้าอินดี้ พอเห็นว่ามันลดลงไปกว่าครึ่งอันดาเลยจัดการเติมให้เกือบเต็ม เจ้าอินดี้วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาใช้ลิ้นแตะบนผิวน้ำ มันพันแข้งพันขาอันดาได้ไม่นานก็ขึ้นไปนอนอ้วนอยู่บนเบาะนอน
อันดามองอาหารเม็ดของตัวเองที่กินอยู่ทุกวันแล้วบุ้ยปาก บางทีก็เบื่อเหมือนกันที่พ่อให้กินอะไรซ้ำ ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนยี่ห้อ
อันดาเหลือบตาคิดนิดนึง ก่อนจะปิ๊งไอเดียแล้วเดินไปยังตู้เย็น มือนุ่มเปิดประตูตู้เย็นออก แล้วมุดเข้าไปหาอะไรบางอย่างที่เคยแอบเอาของพ่อออกมากิน
มันเป็นแท่งยาว ๆ สีออกน้ำตาลอ่อน ๆ ส้ม ๆ พอสายตาไปสะดุดกับเป้าหมายอันดาก็เบิกตาโพลงด้วยความดีใจ
"อยู่นี่เอง" ริมฝีปากบางยกยิ้มแล้วหยิบไส้กรอกออกมาสี่ห้าแท่ง
ไม่รอช้าอันดาก็กัดจนมันหายเข้าปากไปเลยครึ่งแท่ง ฟันคมขบเคี้ยวไส้กรอกจนละเอียด
แม้รสชาติจะแปลกไปจากที่พ่อเคยเอาให้ชิมคราวนั้น แต่ถือว่ายังคงความอร่อยเอาไว้ได้ดี มันเย็น ๆ สดชื่นดี สดชื่นเหมือนตอนที่อันดาแอบกินน้ำในตู้เย็น
คนตัวเล็กยืนกินไส้กรอกจนหมด จากนั้นย้ายตัวเองมานั่งเล่นอยู่บนโซฟา กะว่าจะนอนสักตื่น แต่สายตาดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้โทรทัศน์
มันเป็นชั้นหนังสือเตี้ย ๆ ที่รวมอยู่กับชั้นวางโทรทัศน์ มีหนังสือยัดอยู่ในนั้นประมาณสามเล่ม อันดาเลือกดึงเล่มที่ดึงออกมาง่ายที่สุดหนึ่งเล่ม
ใบหน้าน่ารักชะงัก คิ้วเรียวขมวดขึ้นด้วยความฉงน
ผู้หญิงหน้าตาไม่คุ้นเคยกำลังยืนส่งยิ้มอยู่บนหน้าปกหนังสือ อันดามองตนเองที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า สลับกับผู้หญิงบนหน้าปกไปมาที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเช่นกัน
"ไม่มีเสื้อผ้าเหมือนอันดาเลย เป็นแมวเหมือนกันเหรอ" อันดาออกปากถามอย่างพาซื่อ
ร่างเล็กถือหนังสือเล่มนั้นมาแล้วทรุดตัวนั่งบนโซฟา ค่อย ๆ ไล่เปิดหนังสือไปทีละหน้า ผู้หญิงคนเดียวกันกับบนปกหนังสือ ยังคงส่งยิ้มไม่จางไปจากริมฝีปาก บางภาพเธอนั่งอ้าขา บ้างก็แอ่นตัวจนเห็นหน้าอกของเธอที่ดูอย่างไรก็แตกต่างจากหน้าอกของอันดา
อันดาก้มมองหน้าอกตนเอง เขาจับ ๆ คลำ ๆ แล้วรู้สึกประหลาดใจ ไหนจะตรงหว่างขาของผู้หญิงคนนี้ ไม่เห็นมีแบบอันดาเลย
พอเปิดดูไปได้กว่าครึ่งเล่มอันดาก็เปลี่ยนอริยาบถเป็นนอนลงบนโซฟา แขนเรียวยกหนังสือขึ้นเปิดดูไปช้า ๆ ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงในภาพใช้ปลายนิ้วใส่เข้าไปในหว่างขาของตัวเองทำไม
แต่สุดท้ายความสงสัยนั้นต้องยุติลง สองมือที่จับหนังสือเอาไว้แน่นเริ่มผ่อนแรง หนังสือคว่ำอยู่บนหน้าอกตนเอง เปลือกตาสีอ่อนปรือปรอย และหลังจากนั้นมันก็ปิดสนิทลงไปช้า ๆ
อันดาเข้าสู่ห้วงนิทราโดยสมบูรณ์ ลมหายใจอุ่นร้อนพ่นออกมาเป็นจังหวะว่าเขากำลังหลับสนิทดี
อคินหันมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือของตนเอง เหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงที่เขาต้องเข้าประชุมในครึ่งเช้าของวันนี้
หลังจากจัดการเอกสารบางส่วนบนโต๊ะเรียบร้อย เขาก็เตรียมจะทำงานชิ้นสำคัญในลำดับถัดไป วันนี้เขาตั้งใจจะเก็บรายละเอียดของงานให้เรียบร้อย จะหาข้อดีและข้อด้อยของสินค้าที่เขากำลังเป็นคนออกแบบ
แต่พอจะหันไปหยิบเอกสารงานขึ้นมาก็ต้องจิ๊ปากอย่างขัดใจ กระเป๋าเอกสารของเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ อคินไม่รอช้า รีบไปหามันเพราะเขาคิดว่าคงลืมไว้ในรถ
แต่พอเปิดประตูรถได้เขากลับเห็นเพียงความว่างเปล่า อคินหยุดคิดครู่หนึ่งว่ากระเป๋าเอกสารของเขาหายไปไหน พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าเขาลืมหยิบมันออกมาจากชั้นเก็บของ ก็รีบส่งข้อความไปบอกมีนาทันทีว่าเขาจะกลับไปเอาเอกสารที่บ้าน
ในกระเป๋าเอกสารของอคินล้วนมีแต่สิ่งสำคัญ มีทั้งเอกสารการเข้าประชุม เอกสารงานต่าง ๆ ที่เขาต้องสะสางให้เสร็จภายในวันนี้
อคินไม่ยืนคิดมากอีกต่อไป เขารีบสตาร์ทรถยนต์แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่คอนโดทันที
โชคดีที่มรสุมรถติดไม่เกิดขึ้นในเวลาที่เขาเร่งรีบ อคินใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีรถยนต์ของเขาก็เลี้ยวเข้ามาจอดภายในคอนโด
เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในลิฟต์ พอถึงชั้นที่ตัวเองอยู่ก็สาวเท้าไปให้ถึงจุดหมายด้วยความเร่งรีบ ปลายนิ้วกดรหัสผ่านด้วยความรวดเร็ว เสียงสัญญาณปลดล็อกดังขึ้นอคินก็รีบผลักประตูเข้าไป
ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาเขาแทบจะหยุดหายใจ
สองขาแกร่งที่ก้าวเดินฉับ ๆ เมื่อครู่นี้กลับชะงัก
อคินเบิกตากว้าง เด็กผู้ชายคนนั้น..คนที่เขาเจอเมื่อหลายคืนก่อนกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาของเขา
และที่สำคัญ..เจ้าเด็กนั่นนอนแก้ผ้า!
แถมยังมีหนังสือโป๊ที่อคินจำได้ดี ว่ากฤตินเป็นคนเอามาทิ้งไว้เมื่อหลายเดือนก่อน วางอยู่บนอกเจ้าเด็กนั่น!!
"เด็กโรคจิต!" อคินตะโกนลั่นทันทีเมื่อเขาควานหาเสียงตนเองจนเจอ
"นายเป็นใคร! ตื่นเดี๋ยวนี้!" อคินเขย่าโซฟาจนมันแทบจะเคลื่อนออกจากที่
คนที่นอนหลับสบายพอรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนก็ค่อย ๆ ขยับตัวตื่นขึ้นมา ดวงตากลมปรือขึ้นช้า ๆ อันดาได้กลิ่นหอมที่เป็นกลิ่นประจำตัวของอคินก็ยกยิ้ม
นึกดีใจว่าอีกฝ่ายเลิกงานกลับมาแล้ว แต่พอสายตาปรับความคมชัดได้กลับเห็นเพียงสีหน้าตกตะลึงของอคิน
"ฉันถามว่านายเป็นใคร!" อคินถามย้ำน้ำเสียงหนักแน่น
"หนูเอง" ใบหน้าน่ารักระบายยิ้ม เสียงหวานเอื้อนเอ่ยบอกคนตรงหน้า
"..."
"อันดาของพ่อไงคะ"
to be continued..
อัปทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะคะ
ความคิดเห็น