คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16
ตอนที่ 16
"อ้วนหลบดิ๊ จะเดิน"
คนที่ถูกเรียกว่าอ้วน ตวัดหางตาหันขวับไปยังต้นเสียง ละมือออกจากดินสอเปลี่ยนไส้ ที่กำลังจรดลงบนกระดาษสีขาวสะอาดตา เปลี่ยนทิศทางจากใบงานตรงหน้า ไปยังร่างสูง อันดามองคาดโทษคนที่เพิ่งยกขายาว ๆ ก้าวฉับผ่านทางด้านหลังไป
มือหนาวางจานองุ่นแดงไร้เมล็ดลงบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา อีกมือหนึ่งเอื้อมคว้ารีโมทคอนโทรลขึ้นมากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ
ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ทางก็มีให้เดินตั้งเยอะไม่เดิน ดันมาเดินตรงที่คนเขานั่งทำการบ้านเนี่ยนะ
"มองอะไร" อคินปรายตาไปยังคนตัวเล็ก ที่เอาแต่ทำหน้ามู่ทู่จ้องเขา
"ไม่ได้ขวางทางซะหน่อย ที่ก็ตั้งเยอะ" เสียงหวานบ่นอุบ
"เยอะอะไร ขาฉันผ่านได้ก็เก่งมากแล้ว เล่นนั่งตัวกลมตันทางขนาดนี้ ใครจะไปเดินได้"
"แต่ก็เดินได้นี่"
อันดากะพริบตาปริบ ๆ เถียงขึ้นเสียงใส พร้อมกับเอี้ยวตัวหยิบพวงองุ่นที่มีผลกลมสวยเรียงรายอยู่หกเจ็ดลูกขึ้นมาครอบครอง
อคินยักไหล่ เขาทำหน้าทะเล้นใส่ทันทีที่กวนประสาทเด็กดื้อได้ คนถูกกวนเลิกให้ความสนใจ หันกลับไปทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ต่อ
"แล้วนั่นทำอะไร" ไม่ถามเปล่า แต่เขากลับขยับกายจนติดพนักพิงโซฟาอีกด้านหนึ่ง ค้อมตัวลงต่ำ จนขายาวทั้งสองข้างซ้อนอยู่ด้านหลังร่างบางที่นั่งเขียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ที่พื้น บนโต๊ะเตี้ย ๆ นั่นมีใบงานกองเพนินเท่าภูเขา ก้มลงไปดูก็เห็นลายมือแบบเด็ก ๆ เขียนตัวเลขไว้จนทั่ว
"บวกเลขครับ เสร็จแล้วต้องอ่านหนังสือต่อ อคินฟังอันดาอ่านได้ไหม ครูพี่บิวให้อ่านตั้งสามสระแหนะ อันดากลัวอ่านผิด"
อคินไม่ได้ตอบ เขาทำเพียงยกมือขึ้นวางลงบนศีรษะทุย ออกแรงลูบไปมาแผ่วเบา กดจูบดอมดมกลิ่นยาสระผมอ่อน ๆ ให้ชื่นใจ อันดาเด็ดผลองุ่นลูกใหญ่ใส่เข้าปาก แก้มกลมเคี้ยวตุ้ยพูนออกให้เห็นเป็นลูกองุ่น
เด็กดื้อเหลียวหลังหันมาสบตา ร่างบางจมอยู่ในหว่างขาของอคิน มือหนาปาดก้านนิ้วมือบนมุมปากกระจับ ลอบเช็ดน้ำองุ่นที่ไหลซึมออกให้อย่างเบามือ
"รีบทำ เสร็จแล้วก็ขึ้นมานั่งด้วยกัน"
"ครับ"
ต่างคนต่างผละออกจากกัน คนตัวเล็กหันกลับไปทำใบงานวิชาคณิตศาสตร์เหมือนเดิม ส่วนอคินขยับกายออกมานั่งดี ๆ เขาเอนหลังจ้องมองโทรทัศน์ ไม่ได้จดจ่อกับหน้าจอขนาดใหญ่นั่นเสียเท่าไหร่ เพราะส่วนมากมักทิ้งสายตาไว้ที่อันดา
ตัวกลมนุ่มนิ่มน่ารัก มือหนึ่งยุกยิกตั้งอกตั้งใจเขียนหนังสือ อีกมือหนึ่งยกขึ้นมาไล่นับไปตามตัวเลขจำนวนผลบวก
อคินมองอยู่แบบนั้นเกือบสิบห้านาที พอเรียบร้อยดีเด็กน้อยก็วางใบงานแยกเอาไว้เป็นสัดส่วน หยิบใบงานแผ่นใหม่ขึ้นมา พร้อมกับขยับตัวลุกมาหาอคิน
เขาอ้าแขนรอรับร่างเล็ก อันดาทรุดตัวลงนั่งจนแผ่นหลังแนบซบไปกับอกกว้าง มือขาวกางใบงานที่มีคำศัพท์ภาษาไทยเรียงรายกันเต็มไปหมดออกมา อคินกวาดตาดูเห็นจะมีคำที่เป็นสระอะ สระอา และสระอิ
สามสระแบบที่อันดาว่า
"อ่านออกหรือยังเถอะ" เขาลองเย้า คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก
"อ่านออกซี่"
"โม้หรือเปล่า ไหนอ่านโชว์ซิ"
"กระทะ มะระ นะคะ.."
สิ้นคำท้าทาย อันดาก็เริ่มขยับปากอ่านไปทีละคำ โดยเริ่มต้นด้วยสระอะก่อนเป็นอันดับแรก อคินมองตามเสียงหวานที่เปล่งเสียงอ่านไปเรื่อย ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ
พอคนอ่านเริ่มเผลอ เขาก็ตวัดมือขึ้นโอบเอวบางเอาไว้แน่น
แอบหาเศษหาเลยสอดมือเข้าไปใต้ชายเสื้อ ลูบเล่นเนื้อเนียนนุ่มอยู่บนสะโพกมน คนถูกก่อกวนพอเริ่มรู้สึกตัว ก็แอบหยิกมือซุกซนไปเสียหนึ่งที
"คนเจ้าเล่ห์" อันดาพึมพำ ส่วนอคินหัวเราะชอบใจ
"ตั้งแต่เรียนหนังสือเนี่ยรู้คำเยอะจังเลยนะ"
"แล้วเก่งไหม"
"เก่งสิ เก่งที่สุด"
เอ่ยปากชมไม่มีลังเล พร้อมโน้มลงไปหอมแก้มเนียนให้ชื่นใจ อันดาดีใจที่อคินชม เขาน่ะตั้งใจเรียนเพื่อไม่ให้อคินผิดหวัง พออคินออกปากชมเข้าหน่อย ก้อนเนื้อในอกมันก็สั่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
อคินนั่งฟังเสียงหวานเจื้อยแจ้วไปจนจบกับคำศัพท์สระอะ พอจะขึ้นบทของสระอาเขาก็ทำตัวอ่อนตัวพับไหลลงไปนอนบนตักนุ่ม อันดาขยับกายให้ถนัด ขาขาวถูกคนเจ้าเล่ห์หนุนนอนไปแล้วเรียบร้อย
มือเล็กข้างหนึ่งก็ถูกฉวยมาจับยึด อคินตะแคงตัวหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์ จับมือนุ่มมาหอมให้ชื่นใจ พลางกดซุกเอาไว้ที่ลำคอของตนเอง
วันหยุดสุดสัปดาห์ของเขาก็เพลินดีเหมือนกัน เป็นวันพักผ่อนสมองสบาย ๆ ไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรให้มากความ มีเพียงตักอุ่นให้หนุนนอน เกลือกกลิ้งดูโทรทัศน์ สลับหยิบกินผลไม้ วนไปวนมาแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
"เรียนมาตั้งนาน เขียนหนังสือได้บ้างหรือยัง"
"ได้แล้ว เขียนชื่ออคินได้ด้วย" เนี่ย ขออวดหน่อยเถอะ
"เหรอ เก่งนี่"
อันดายกยิ้ม ชอบใจที่สุดเวลาที่อคินชมแบบนี้ อันดารู้ว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ปกติ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่ประสา ทำอะไรเองไม่ค่อยเป็น ต้องเดือดร้อนอคินมาคอยบอกคอยสอน อันดาอยากเก่ง อยากทำอะไรเองได้ อยากให้อคินรู้ว่าอันดาทำได้ และก็อยากให้อคินภูมิใจ
"อคิน"
"หืม"
"ป้อนองุ่นหน่อย"
เสียงเล็กร้องขอ อ้อนกันแบบนี้ คนตัวโตก็รีบเอื้อมแขนแกร่งไปเด็ดผลองุ่นออกมาจากพวง ส่งยื่นให้กับคนที่อ้าปากตั้งท่ารองับไว้อยู่แล้ว
เจ้าเด็กเคี้ยวผลองุ่นไปด้วยยิ้มไปด้วย จนเนื้อแก้มยกขึ้นท่วมลูกตาน่าเอ็นดู ดวงตากลมโตโค้งมนเหลือเล็กนิดเดียวจนหยิบหยี
น่ารักที่สุดเลย
พอคล้อยบ่ายมาอันดาก็ออกปากว่าจะทำข้าวผัดไข่ง่าย ๆ ให้อคินทานเป็นมื้อกลางวัน เขาเรียนรู้วิชาทำอาหารทั้งคาวและหวานมาจากครูพี่บิว
หลายวันมานี้เธอสอนอันดาทำอาหารหลายอย่าง นอกจากตั้งใจเรียนหนังสือแล้ว เด็กน้อยคนนี้ก็ยังตั้งใจเรียนรู้การทำอาหารมากอีกด้วย
ส่วนมากบิวตี้จะสอนอันดาทำอาหารคาว ส่วนอาหารหวานก็จะเน้นไปทางขนมที่ทำง่าย หาวัตถุดิบง่าย เช่น วุ้นหลากสีจากน้ำหวานเฮลล์บลูบอย วุ้นนมสด พุดดิ้ง แพนเค้ก แล้วก็พวกน้ำผลไม้ปั่น
วันก่อนเธอเพิ่งสอนอันดาทำข้าวผัดไข่ คราแรกตั้งใจจะแบ่งไว้ให้อคินทานด้วย แต่พอทำเสร็จนั่งทานกันไปนั่งทานกันมา อันดาซัดเรียบซะเกลี้ยงโถ วันนี้พอสบโอกาสเลยอยากแสดงฝีมือให้อคินได้ลองชิม
ซึ่งคนแก่กว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธ จากที่จะโทรสั่งอาหารใต้คอนโดมาทาน ก็เป็นอันว่าหันมารอทานฝีมืออันดาเสียดีกว่า
เด็กน้อยกระตือรือร้น มุ่งหน้าเข้าไปในครัวเตรียมนั่นเตรียมนี่อยู่นาน อคินแอบตามเข้าไปดู เขายืนมองคนที่หยิบจับข้าวของในครัวอย่างคล่องแคล่ว เห็นอันดาเริ่มตั้งกระทะ ผัดข้าว ตอกไข่ และปรุงรสจนเรียบร้อย เขาก็ทำทีตีเนียนกลับมานั่งรอที่โซฟา
ไม่นานอันดาก็ถือจานข้าวผัดไข่ตามหลังมาติด ๆ กลิ่นหอมฉุยจนเจ้าอินดี้ลุกจากเบาะนอนมาเมียงมองดูว่าคนสองคนทำอะไร มันร้องเหมียวอ้อนอันดาจนน่าหมั่นไส้
พอเขาจับช้อนตักข้าวเข้าปาก เจ้าอินดี้แมวจอมยโสก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่อคิน มันร้องเรียกให้เขาสนใจ ชูคอขออาหารแต่อคินทำเฉย
ทีเขาอยากเล่นด้วยล่ะทำตัวหยิ่ง พอเขามีอาหารเข้าหน่อยทำคออ่อนคอพับมาอ้อนเชียวนะ
อคินตักข้าวผัดไข่ใส่ฝามือให้เป็นคำเล็ก ๆ เขาแบ่งให้เจ้าอินดี้ลองชิมไปคำนึง พอเจ้าตัวดีพอใจ ก็สะบัดหางหนีกลับไปนอนที่เดิม อคินส่ายหน้า กลับมาสนใจร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน
"อร่อยไหม" ตากลมลอบมองอย่างมีความหวัง อคินพยักหน้าส่งยิ้มให้
"อร่อยดี แต่เค็มไปนิดนึง"
"งั้นทำยังไงดี เดี๋ยวอันดาไปทำให้ใหม่นะ"
"ไม่ ไม่ต้อง ฉันกินได้"
เขารั้งข้อมือเล็กเอาไว้ ใบหน้าพริ้มเพราขมวดมุ่นตึงเครียด คนโตกว่าลูบกลุ่มผมดำขลับเพื่อให้กำลังใจ แค่ว่าเค็มไปนิดนึงแต่ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่ากินไม่ได้
สำหรับอคินแล้วอันดาทำอะไรมาเขาก็กินได้หมดทั้งนั้น ขนาดครั้งแรกที่อันดาทำเค้กส้ม เขาไม่ชอบกินพวกของหวานอย่างกับอะไรดี ก็ยังฟาดเรียบไปสองชิ้นถ้วน เด็กดื้อเห็นเขาบอกว่าอร่อยก็ยิ้มแป้นหน้าบาน วันต่อ ๆ มาก็มีนั่นมีนี่มาให้เขากินอยู่เรื่อย ไม่ว่าจะสปาเก็ตตี้ ข้าวต้ม เกี๊ยวทอด ไข่เจียว คัพเค้ก และอีกสารพัดเมนูที่อคินก็จำชื่อไม่ค่อยได้
มันก็ไม่ได้อร่อยที่สุดหรอกนะ แต่เขาไม่ใช่คนกินยาก แค่รสชาติไม่แปลกไปกว่าอาหารที่เคยกินมา เขาก็กินได้หมดทุกอย่างแล้ว
หลายวันมานี้อคินสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างผิดปกติ คนตัวขาวนั่งแช่อยู่หน้าจอโทรทัศน์นานกว่าปกติทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรดีพอจะให้เปลืองค่าไฟมานั่งดู
สองคืนมาแล้วที่เขาคอยอุ้มอันดาเข้ามานอนในห้อง เจ้าเด็กดื้อยืนกรานเสียงหนักแน่นว่าจะดูโทรทัศน์ แต่พอเขาถามว่าจะดูอะไร ก็ทำเฉไฉไปเรื่อยแล้วบอกว่าเดี๋ยวอคินก็รู้
แต่กว่าเขาจะได้รู้ก็คงจะอีกนาน ปากบอกจะนั่งอยู่ตรงนี้แท้ ๆ แต่อีกไม่กี่นาทีต่อมาก็ผล็อยหลับหน้าตาเฉย
แต่ถ้าจะให้เขาเดา อคินคิดว่าอันดาน่าจะรอดูโฆษณาอะไรบางอย่าง แล้วมารบเร้าให้เขาพาไปกินแน่ ๆ
คนอย่างอันดาจอมดื้อ มีหรือจะพ้นของกิน
"อคินนนนนนน.." โน่นแหนะ เสียงหวานร้องเรียกกันมาแต่ไกล
เสียงอันดาดังแปดหลอดทะลุลั่นบานประตูห้องนอน ร่างสูงที่อาบน้ำเพิ่งเสร็จต้องละสายตาจากเสื้อยืดที่กำลังจะสวม แล้วมองไปยังร่างบางที่พรวดพราดเปิดประตูเข้ามา
"มีอะไร วิ่งทำไม เดี๋ยวก็เตะนั่นเตะนี่เจ็บตัวกันพอดี" อคินบ่นกระปอดกระแปดแต่ไม่ได้จริงจังมากนัก
"อันดารู้แล้ว! อันดารออ่านมาตั้งสามวัน ในนั้นเขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ว่าพิซซ่า"
"อือ..แล้วยังไง" อคินทำทีไม่สนใจ หันไปใส่เสื้อที่ตัวเองถือค้างเอาไว้ แล้วเดินนิ่ง ๆ มาส่องกระจก
คนตัวเล็กเห็นอย่างนั้นก็ตรงปรี่เข้าไปหา วาดแขนโอบรัดเอวสอบจากทางด้านหลัง กดดวงหน้าพริ้มเพราซุกอยู่บนแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอดจนอคินอดที่จะลอบอมยิ้มไม่ได้
"พิซซ่า..ถ้าอันดาอยากกิน..ได้ไหม"
เขาส่ายหน้าเอ็นดู หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับร่างเล็กที่เงยหน้าทำตาปริบ ๆ ใส่กัน
"พิซซ่าเหรอ เป็นยังไงไม่เห็นรู้จัก" เขาแสร้งทำหน้าฉงน อันดายู่ปากแล้วออกแรงกอดเขาเอาไว้แน่
"เป็นกลม ๆ น่ากิน ๆ แล้วก็มีกุ้งด้วย" อันดารีบอธิบาย ยกนิ้วทำเป็นวงกลมจำลองภาพให้อคิน
"เหรอ กลม ๆ เหมือนหน้านายหรือเปล่า" คนตัวโตหยอกเย้า ก้มลงพรมจูบบนแก้มนวลกลมกิ๊ก
"ฮื่อ..นะ..ได้ไหม ให้อันดาชิมคำเดียวก็ได้"
เด็กดื้อออกแรงอ้อน ย่นจมูกใส่เขา ทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ยอมต่อรองว่าขอแค่คำเดียวก็พอใจ อคินจูบลงบนผมนุ่มดำขลับ ยกมือปัดปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้าหวานออกให้แผ่วเบา
"แค่คำเดียวพอนะ"
"อื้อ คำเดียวพอ"
"งั้นโอเค"
เขาตอบตกลง อันดาร้องเย้แล้วหอมแก้มสากให้ชื่นใจ ไม่เสียแรงเลยที่อ้อน อคินน่ะใจดีที่สุดในโลก แล้วถ้าอันดาลองอ้อนอีกสักเรื่องหนึ่งล่ะ อคินจะยอมไหม
ไม่รู้แหละ คงต้องลองดู
"อคิน"
"หืม"
เขาเลิกคิ้ว ก้มมองแก้มกลมที่ยกขึ้นตามมุมปาก อันดายิ้มเผล่ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพูดเสียงอู้อี้
"พรุ่งนี้อันดาจะทำลาซานญ่า" อะไรหญ้า ๆ นะ เขาฟังไม่ถนัด
"..."
"แต่ตอนไปซื้อของต้องใช้เงินครูพี่บิวซื้อเยอะมากเลย อันดาเลยคิดว่าถ้าอันดาขอเงินอคินไปซื้อ ได้ไหม น้า.." เนี่ย ทำเสียงอ้อน
"..."
"นะครับ" นี่ไง อ้อนอีกแล้ว
ไม่พูดเปล่า แถมยังช้อนตาขึ้นมองจนอคินแทบระทวย ชื่อเมนูหญ้า ๆ อะไรนั่นน่ะช่างเถอะ เรียกยากชะมัด
บิวตี้สอนอันดาทำอาหารมาหลายครั้งแล้วทั้ง ๆ ที่เธอไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาสอนให้มากความเลยสักนิด
เขาเองก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท คิดแต่ว่าซื้อของสดมาติดตู้เย็นไว้พอทำกิน แล้วให้อันดาอุ่นเอา ก็เลยไม่เคยทิ้งเงินไว้ให้ติดตัวเลยสักบาทเดียว ถ้าอย่างนี้ทุกครั้งที่พากันไปซื้อของมาทำ ก็คงไม่พ้นเงินของบิวตี้ทั้งหมด
พอคิดได้อย่างนั้นอคินก็พยักหน้าหงึก ตอบตกลงไปทันที
"ได้"
"เย้! รักอคินที่สุด"
"หึ ทำเป็นพูดดี ไปเตรียมตัวสิเดี๋ยวพาไปกินพิซซ่า"
เขาเชยคางมนขึ้นมาให้สบตา พรมจูบลงไปทุกตำแหน่งของใบหน้าพริ้มเพรา เริ่มตั้งแต่หน้าผากมน ดวงตากลม สองแก้มขาว แล้วมาจบที่ริมฝีปากอิ่มอยู่เนิ่นนาน
เขากวาดต้อนลิ้มรสลิ้นสากแฉะชื้น สลับดูดดุนและขบเม้มจนริมฝีปากอิ่มเอิบบวมเจ่อ เจ้าของร่างเล็กเงยหน้ารับจูบหลับตาพริ้ม ใช้ปลายลิ้นน้อย ๆ ยื่นแหย่หยอกล้อกับคนตัวสูงจนเกิดเสียงน่าอาย
อคินขบเม้มริมฝีปากบนของอันดา สลับลงมาเม้มเบา ๆ ที่ริมฝีปากล่าง เจ้าเด็กดื้อเอียงคอหาองศา ยกสองมือขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วยื่นแหย่ปลายลิ้นสากโต้ตอบกัน
ไม่ทันได้ผละออกอันดาก็ดันอกเขาให้ห่างกาย คิ้วเรียวสวยขยับขมวดมุ่น พร้อม ๆ กับเสียงกริ่งในห้องเขาร้องเตือนหนึ่งครั้งว่ามีแขกมาเยือน
"คุณรานีน"
อันดาพึมพำชื่อคนรักเก่าของอคิน เขาได้กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ นั่นจากร่างสะโอดสะองที่ยืนรอให้อคินไปเปิดประตูต้อนรับคละคลุ้งอยู่หน้าห้อง
อันดามั่นใจแน่ว่าเป็นเธอ และอีกอย่างพักนี้ เธอมาแวะเวียนบ่อยเสียจนอันดาหงุดหงิด
อคินบอกว่าวันก่อนรถที่ส่งซ่อมไปก็ไปรับคืนมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย เรื่องค่าเสียหายคุณรานีนก็จ่ายให้ทั้งหมด อคินบอกเองว่าเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ทำไมพักนี้เธอยังมาวนเวียนไม่เลิก
เธอชอบแวะเวียนแสร้งว่าบังเอิญผ่านตรงนั้นผ่านตรงนี้ เห็นร้านนั้นร้านนี้ขายของน่าทาน บ้างก็บอกว่าจำได้ว่าอคินชอบ พอผ่านมาเธอเลยซื้อติดมือมาฝากอคิน
ซึ่งอคินก็ไม่ได้อยากข้องแวะอะไรกับเธอ ทุกครั้งที่เธอมาหาเขาไม่เคยชวนให้เธอเข้ามาในห้อง เพียงรับของแล้วกล่าวขอบคุณ ถึงจะดูเสียมารยาทไปเสียหน่อย แต่บอกตรง ๆ ว่าเขาก็ไม่ได้ขอให้เธอซื้อมาให้
เขาไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาเว้าวอนตัดพ้อของเธอ คนที่เขาแคร์มากที่สุดน่ะคือเด็กดื้อที่อยู่ในห้องเขานั่นต่างหาก
แต่ครั้งนี้ดูท่าว่ารานีนจะไม่ยอมกลับไปโดยง่าย พออคินเปิดประตู เธอก็ทำหน้าเครียดส่งสายตาปริบ ๆ อ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรแต่ไม่ยอมพูด
"มีอะไรหรือเปล่า" อคินอดไม่ได้ที่จะถาม เขาไม่ได้เป็นห่วง แต่ท่าทีของเธอมันขัดตาเสียจนเขาอดที่จะออกปากถามไม่ได้
"คือ..ขอนีนเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ พอดี..ปวดมากไม่ไหวแล้วค่ะ"
เธอทำท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยืนกระมิดกระเมี้ยนน้ำตาคลอหูแดงแก้มแดง สายตาร้องขอ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดไล่ให้เธอลงไปใช้บริการห้องน้ำส่วนกลางข้างล่างคอนโด
อคินตัดสินใจเปิดประตูออกกว้าง พยักหน้าต้อนรับเธออยู่กลาย ๆ ว่าอนุญาตให้เข้ามาได้ ร่างสูงเดินนำไปยังห้องน้ำที่ไม่ค่อยได้ใช้ อยู่ข้างกันกับห้องครัว
พอเธอหายเข้าไป อคินก็นำของฝากของเธอไปวางไว้ตรงเคาน์เตอร์บาร์ แอบแวะไปดูอันดาซึ่งอยู่ในห้องนอน และไม่ได้ผิดคาดนัก ที่เปิดประตูเข้าไปแล้วภาพตรงหน้าคือเจ้าอันดา ยัยลูกสาวของเขานั่งแหมะคอยทักทายกัน
ทุกครั้งที่รานีนมาหา อันดาจะคืนร่างกลับไปเป็นเจ้าอันดา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่า เพราะคิดว่าอันดาคงอยากหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าและพูดคุยกับเธอ
เจ้าอันดากระโดดพรวดลงมาจากเตียงนอน ข้างกันนั้นมีเสื้อผ้าของอันดาที่ใส่ก่อนหน้ากระจัดกระจายกองอยู่ด้วย
เขาสังเกตเด็กดื้อในร่างแมว ตัวโตขึ้นมากและอ้วนกลมจนน่าขย้ำ ขนสวยฟูฟ่องดูแล้วนุ่มมือ แขนแกร่งคว้าตัวยัยเหมียวขึ้นมาอุ้มแล้วกดจูบลงไปแผ่วเบา
ทันทีที่รวบตัวเจ้าอันดาขึ้นมาเขาต้องชะงัก คราแรกคิดว่าตัวโตขึ้นเพราะขนฟู ๆ นั่นหลอกตา แต่พอสัมผัสเข้าจริงกลับไม่ใช่ หน้าท้องป่องเป็นก้อน พอลูบดูอคินสัมผัสได้กับเต้านมใต้ท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นมา สีจุกนมน้อย ๆ นั่นก็เข้มขึ้นจนเขาแปลกใจ
แต่ไม่ทันได้สำรวจอะไรมาก แขกผู้มาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย ก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอทำหน้าโล่งใจเหมือนได้ปลดทุกข์ ยิ้มแย้มส่งให้อคินพร้อมถือวิสาสะมาหย่อนก้นลงกับโซฟา พอเห็นอย่างนั้นเจ้าบ้านก็จนใจ จะโผงผางออกปากไล่เธอกลับไปทันทีก็ดูจะใจดำเกินไปเสียหน่อย
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วอะเนอะ
"งั้นเดี๋ยวผมหยิบน้ำให้" อคินวางเจ้าอันดาลงบนโซฟา เขาผละเข้าไปในครัว รินน้ำเปล่าและจัดขนมปังกระเทียมที่เธอซื้อมาฝากใส่จานมาต้อนรับ
เจ้าอันดาลอบมองรานีนตาไม่กะพริบ ตรงพื้นห้องด้านล่างมีเจ้าอินดี้แมวจอมโอหังมาเมียงมองอยู่ด้วย
อคินเดินกลับมาและวางทุกอย่างไว้ให้เธอ ร่างสูงไม่ได้นั่ง เขาทำเพียงถอยหลังไปยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์
หญิงสาวตรงหน้ากวาดสายตาสำรวจคอนโดอคินอย่างแนบเนียน เธอสะดุดตากับโต๊ะตัวเล็กที่มีใบงานพร้อมปากกาดินสอน่ารักมาตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว
เธอปักใจแน่ว่านั่นคงเป็นของไอ้เด็กอันดาหน้าชะแล่ม แต่มาทีไรไม่เคยเห็นโผล่หน้าซื่อ ๆ ออกมาเจอกันเลยสักที
"อ้อ..คินคะ" เธอทำตัวสบาย ๆ ร้องเรียกเจ้าของห้อง และค้อมตัวลงอุ้มเจ้าอินดี้แมวอ้วนขึ้นมานอนบนตักอย่างรักใคร่ "ไหน ๆ นีนก็มานั่งอยู่กับอินทีเรียร์ฝีมือดี งั้นนีนขอปรึกษาหน่อยสิ พอดีนีนทำแบรนด์เครื่องสำอางกับเพื่อน เลยว่าจะมีหน้าร้านด้วย คินช่วยออกแบบให้นีนหน่อยได้ไหม"
"พื้นที่ประมาณไหนครับ พอจะมีรูปไหมเผื่อผมมีแบบที่เหมาะกับพื้นที่ให้คุณเลือก"
พอเป็นเรื่องงานเขาก็ตอบเธอฉะฉาน สาวเจ้ากระหยิ่มยิ้มย่อง นึกในใจว่ามาถูกทางแล้ว
"พื้นที่งั้นเหรอ..นีนก็ไม่ค่อยแน่ใจ เอาเป็นว่านีนขอดูแบบก่อนได้ไหม เผื่อส่งให้เพื่อนนีนดูด้วย"
"คุณอยากได้สไตล์ไหน"
"ไม่รู้สิคะ คินว่าแบบไหนดีล่ะ"
"..."
"แบบที่คินคิดว่านีนน่าจะชอบ" เธอส่งสายตาเย้ายวน ยกปลายนิ้วเรียวสวยขึ้นกรีดเส้นผมขึ้นมาทัดหู
ร่างสูงชะงักกึก ดวงตาเรียวคมทอแสงล้อกับหลอดไฟนีออนกะพริบปริบ เขาผละกายเดินหายเข้าไปในห้องนอน เปิดโน้ตบุ๊คและแฟ้มงานเพื่อหาแบบแปลนที่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะชอบไหมออกไปให้สาวเจ้าดู
ระหว่างที่รอเจ้าของห้องออกมาพูดคุยกับเธอ มือเรียวลูบหัวเจ้าอินดี้แมวอ้วนแล้วขยับออกไปลูบหัวเจ้าอันดา
เธอยิ้มเหยียดบนริมฝีปาก จินตนาการในใจว่าหากวันหนึ่งอคินกลับมาคบกับเธอ เจ้าแมวโง่สองตัวนี่จะไม่มีน้ำหน้าได้มาอยู่ในห้องนี้อีกต่อไป
เธอเกลียดสัตว์ เกลียดแสนเกลียดอย่างกับอะไรดี ไม่ว่าจะหมาหรือแมว เธอก็ไม่เคยพิสวาสอยากจะเลี้ยงมัน
ครั้งที่เธอยังคบกับอคินตอนสมัยเรียน รายนั้นอยากไปคาเฟ่แมวใจจะขาด แต่เธอไม่ยอมไปกับเขา อคินเคยชวนเธอไปออกค่ายอาสา เกี่ยวกับช่วยเหลือน้องแมวอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเธอก็ปฏิเสธทันควันว่าเธอไม่ไป
ผู้ชายอย่างอคินน่ะดีหมดทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่เธอรำคาญคือความรักสัตว์ของอคินนี่แหละ
พอนึกถึงวันที่จะได้กลับมารักกับอคินแล้วอดเหยียดยิ้มไม่ได้ ไอ้แมวอ้วนนี่สงสัยนึกว่าเธอใจดี ก็เลยยอมขึ้นมานอนบนตักเธอหน้าตาเฉย
มือที่แตะสัมผัสขนนุ่มเงาวับเคลื่อนที่ไปมาเชื่องช้า สายตาคมปราบเหม่อมองสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่บนตักตนเอง รานีนออกแรงลูบขนเจ้าอินดี้จนมันเหลียวหน้าขึ้นมามอง
เจ้าอันดาที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ก่อนแล้วเห็นท่าว่าไม่ดีก็ร้องเหมียวส่งเสียงเรียกอคิน แต่ไม่ทันจะทำอะไรไปได้มากกว่านั้น เสียงของเจ้าอินดี้ก็หง่าวดังกังวาลลั่นห้อง
เล็บสวย ๆ ของเธอที่ผ่านการทำสีมาอย่างดี จิกลงอย่างแรงบนเนื้อนุ่มของเจ้าอินดี้ แต่ไม่ทันที่เจ้าอินดี้จะได้ร้องมากไปกว่านั้น เจ้าอันดากางกงเล็บตะปบลงที่แขนเนียนของเธอเต็มแรง
พรึบ!
"โอ๊ย!"
เธอดีดตัวลุกขึ้น โยนเจ้าอินดี้ลงจากตักแล้วกระโดนหลบเจ้าอันดา
แขนขาวนวลผ่องเลือดไหลอาบเป็นทางยาวตามแนวข่วนของกงเล็บแหลมคม แผลฉกรรจ์กรีดลึกแสบร้อนจนเธอน้ำตาคลอ
เจ้าของคอนโดที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากห้องนั่งเล่นก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมา อคินเบิกตาตกใจ เขาคว้าแขนรานีนมาดูก็แทบจะล้มทั้งยืน
"ฮึก..แมวคิน แมวคินกัดนีน" เธอว่าอย่างนั้นแล้วชี้ไปที่เจ้าอันดา ดวงตาคมสวยปล่อยน้ำตาร้องไห้โฮ เธอถือวิสาสะรวบเอวสอบมากอดเพื่อเรียกขวัญ
อคินกัดฟันกรอด จ้องเจ้าอันดาที่ยังแยกเขี้ยวขู่ฟ่อด้วยสายตาลึกคม เขาผละกายออกจากอ้อมแขนเล็กด้วยความสุภาพ มองใบหน้าสวยหวานที่เอาแต่สะอื้นไห้แล้วพูดเสียงเรียบ
"คุณลงไปรอผมที่ล็อบบี้ เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ"
รานีนปาดน้ำตาแล้วพยักหน้ารับ เธอคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมราคาเหยียบแสนขึ้นมาแล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกไป
พอแน่ใจดีแล้วว่าเธอไปไกลมากพอ เจ้าอันดาก็คืนร่างกลับมาเป็นอันดาเด็กดื้อที่นั่งคร่อมอยู่บนโซฟา
ดวงตากลมโตมองสบกับดวงตาเรียวรีที่จ้องลึกดุดัน น่ากลัวจนเด็กน้อยต้องหลบสายตา เขาย่างสามขุมเข้าไปคว้าแขนเนียน ดึงตัวร่างบางที่ร่างกายเปลือยเปล่าขึ้นมายืนสบตากัน
"นายทำบ้าอะไรของนาย!"
"..." ร่างเล็กสะดุ้ง เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น
"นายกัดเธอทำไม! ทำทำไม ฉันถามทำไมไม่ตอบ!"
"คุณรานีนทำร้ายอินดี้" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา ใบหน้าขาวนวลก้มงุดไม่ยอมสบตา
"แล้วยังไง! แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปทำร้ายเธอ!"
"ต..แต่คุณรานีนทำอินดี้ก่อน คุณรานีนใช้มือ.."
"เด็กนิสัยไม่ดี!" อคินกระแทกเสียงตวาดลั่น
"..."
"ฉันไม่เคยสอนให้นายดุร้าย ไม่เคยสอนให้นายทำร้ายใคร ในเมื่อทำตัวเกเรแบบนี้ก็ต้องยอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง"
"..."
"ทำตัวแบบนี้ก็ต้องถูกทำโทษ"
พูดจบร่างสูงก็เดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปในห้องนอน อคินกระชากเสื้อผ้าอันดาที่กองอยู่บนเตียงขึ้นมาถือไว้ เขาคว้าไม้แขวนเสื้อที่ใกล้มือที่สุดแล้วหยิบมันติดมือเดินออกไปหาอันดา
มือหนาโยนเสื้อผ้าของอันดากระแทกลงบนโซฟา แววตาคุกรุ่นปะทุขึ้นพร้อมกับแขนแกร่งดึงรั้งร่างเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้
"เลี้ยงไม่เชื่อง!"
เพียะ!
ไม่แขวนเสื้ออันหนาถูกง้างขึ้นสูง และกระชากกลับลงมาฟาดเข้าที่ขาขาวเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์บดบังจนสุดแรง
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกสุดตัว ความเจ็บแสบแล่นปราบขึ้นมาบนผิวกายจนนัยน์ตากลมสวยคลอหน่วยไปด้วยธารน้ำใส
"ฉันไม่น่าเอานายมาเลี้ยงให้เป็นภาระตั้งแต่แรก"
เพียะ! เพียะ!
"ฮึก..ก"
คนตัวเล็กตรงหน้าพยายามดีดดิ้น อันดายื้อแขนข้างหนึ่ง ที่ถูกอคินจับยึดเอาไว้จนปวดชาให้หลุดพ้นจากพันธนาการ
เขากำข้อมือเล็กจนขึ้นเป็นรอยแดง จับกระชากร่างบางให้หันเข้าหาตัวเพื่อลงแรงฟาดไม้แขวนเสื้อลงมาซ้ำ ๆ จนรอยฟกช้ำรื้นขึ้นเป็นปื้น
เพียะ!
"ต่อให้ฉันพยายามให้นายกลายเป็นคนยังไง แต่สัญชาติญาณดิบในกายมันก็คงไม่สลายหายไปด้วยสินะ จะเลี้ยงให้ตายยังไงก็คงจะเลี้ยงได้แค่ตัว ส่วนนิสัยใจคอมันคงจะแก้กันไม่ได้ เพราะนายมันสัตว์เดรัจฉาน"
"ฮึก..ก"
เพียะ!
"ฮึก อคินปล่อย อันดาเจ็บ"
เพียะ! เพียะ!
เขาออกแรงฟาดลงมาไม่ยั้ง พร้อม ๆ กับคนตัวเล็กที่ร้องไห้โอดครวญ
"ฮึก..อันดาเจ็บ อันดาไม่ทำอีกแล้ว ฮึก อันดาไม่ทำคุณรานีนอีกแล้ว อันดาขอโทษ ฮึก..อันดากลัว.."
คนตัวเล็กสะอื้นฮักจนตัวโยน ใบหน้าพริ้มเพราเลอะคราบน้ำตาอาบลงมาเต็มสองข้างแก้ม
แมวน้อยพูดพล่ามร้องขอต่อคนที่เขารัก อ้อนวอนทั้งน้ำตาว่าขอให้หยุด แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาใดจากผู้ชายตัวสูง
เขายังคงออกแรงลงโทษอันดาซ้ำ ๆ แววตาวาวโรจน์ไปด้วยทั้งความเดือดดาลและความผิดหวัง เขาลงแรงตีไปพร้อม ๆ กับร่างเล็กที่เบี่ยงตัวหลบด้วยความเจ็บปวด
การกระทำรุนแรงมันกระทบทั้งเนื้อขาวและสภาพจิตใจจนปวดปร่า ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บตัว แก้มก้นขาวเนียนถูกฟาดลงมาไม่ยั้งมือ พอ ๆ กับบริเวณต้นขาที่ขึ้นรอยแดงเป็นทางยาว
"อ..อันดากลัวแล้ว ฮึก อันดาไม่ทำอีกแล้ว อันดา..ฮึก..อันดาเจ็บ อคินอันดาเจ็บแล้ว อันดากลัวแล้ว อันดาไม่ทำอีกแล้ว ฮึก..อันดาขอโทษ อ..อคินปล่อย อันดาขอโทษ.."
ร่างบางเปลือยเปล่าแข้งขาอ่อนแรงทรุดตัวลงนั่งอยู่บนพื้น เสียงกรีดร้องสลับกับเสียงสั่นเครือที่ร้องขอว่าให้หยุด พร้อมกับสองมือขาวอันสั่นเทาพยายามประคองขึ้นมาพุ่มไหว้ด้วยความเว้าวอน
ดวงหน้าน่ารักที่อคินชอบมองตอนนี้ถูกเคลือบไปด้วยความเปียกชื้นจากคราบน้ำตา อันดาส่ายหน้าและป่ายปัดมือไปทั่ว หวังจะกันความเจ็บปวดออกไปให้พ้นทาง
"อ..อคิน ฮือ..ฮึก..ไม่เอาแล้วอันดาเจ็บ อ..อันดาไม่ทำอีกแล้ว อคิน..ฮึก ช..ช่วยด้วย! ครูพี่บิว! พี่ติน! ฮึก ช่วยอันดาด้วย!"
สิ้นเสียงสั่นเครือของอันดา อคินโยนอาวุธร้ายในมือทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี เขาหอบหายใจถี่ ความรู้สึกขมปร่าตีตื้นขึ้นมาจนดวงตาร้อนผ่าว
เขามองร่างเล็กที่นั่งสั่นร้องเรียกชื่อคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ อันดายังพูดพล่ามร้องขอประโยคเดิม ๆ และยกสองมือพนมค้างอยู่แบบนั้น
เขาเองก็เสียใจไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลยที่ทำแบบนี้ เขาอยู่กับอันดาและเห็นมาโดยตลอดว่าเด็กตัวเล็กของเขาอยู่ในโอวาทมากขนาดไหน เขาผิดหวังที่อันดาทำตัวเกเรไม่น่ารักและก้าวร้าว
อคินไม่เคยคิดจะเลี้ยงทั้งเจ้าอินดี้และเจ้าอันดาให้เติบโตมาเป็นสัตว์ดุร้าย เขาคาดหวัง หวังว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองจะน่ารัก เชื่อฟัง เป็นลูกแมวตัวน้อยของเขาตลอดไป
คาดหวังเสียจนลืมไปแล้วว่าอีกครึ่งหนึ่งของจิตใจเจ้าอันดาก็เป็นคน มีความคิด ความรู้สึก
และความรัก
รัก โดยที่ไม่รู้ว่าต้องโดนทำร้ายจากน้ำมือของคนที่ตัวเองรัก
รัก ในแบบที่คนอย่างอันดาจะรักได้ และรักมากที่สุดของหัวใจ
"สัตว์ ก็ยังคงเป็นสัตว์อยู่วันยังค่ำ"
"ฮึก.."
"แมวนิสัยเสียแบบนาย ฉันไม่เลี้ยงไว้ให้เปลืองข้าวสุกหรอกนะ เตรียมตัวไว้เลยอันดา กลับมาฉันจะพานายไปปล่อยวัด! ก้าวร้าวแบบนี้ฉันไม่เลี้ยง!"
"ฮึก..อ..อคิน.."
"ไม่ต้องตามมา! ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก!"
ประตูบานหนาถูกกระแทกปิดลงเสียงดังด้วยน้ำมือของเจ้าของห้อง
ร่างเล็กที่กำลังจะเอื้อมจับอีกฝ่ายเอาไว้กลับต้องทรุดตัวกลับลงมานั่งอย่างอ่อนแรง
ไปแล้ว..
อคินโกรธและเดินออกไปแล้ว
โลกทั้งใบของอันดาเหมือนแตกสลาย ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายราวกับหยุดเคลื่อนไหว ทุกวินาทีที่ผ่านไปหยุดเดินลงช้า ๆ หัวใจดวงน้อยที่สูบฉีดทุกครั้งที่อยู่กับอคินเหมือนถูกแช่แข็ง และมันแข็งมากพอจนโดนบีบแหลกละเอียดด้วยน้ำมือของผู้ชายคนนั้น
คนที่อันดารักสุดหัวใจ
คนที่อันดามีเขาเป็นที่พึ่งเดียวและที่พึ่งสุดท้าย
หยาดน้ำตาไหลรินอาบจนเปรอะเปื้อน ดวงตากลมโตบวมแดงเนื่องจากการร้องไห้ที่หนักหน่วง ใบหน้าน่ารักก้มลงสบกับพื้นห้อง สองมือเล็กเท้าไว้ที่พื้นเพื่อประคองร่างกายของตนเองที่สั่นเทิ้ม
เจ้าอินดี้แมวอ้วนขยับกายเดินมาหาอันดาช้า ๆ มันร้องเรียกราวกับจะปลอบขวัญ ยกขาหน้าขึ้นมาแตะลงที่ต้นขาของอันดา ที่แดงเถือกเป็นแนวเพราะแรงกระทำอันรุนแรงของอคิน
บทลงโทษแสนโหดร้าย จบลงไปพร้อมกับคนทำโทษที่พูดไว้แล้วว่าไม่อยากเห็นหน้าเขา อคินบอกเองเสียงดังฟังชัดว่าจะไม่เลี้ยงเขาแล้วอีกต่อไป
การมีอันดาอยู่ที่นี่สำหรับอคินมันคือภาระ ในเมื่อเป็นภาระอคินมาโดยตลอด อันดาก็จะไม่ร้องขอให้อคินเมตตาเพื่อทนเลี้ยงกันต่อไป
อันดาไม่ปกติ อันดารู้
และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากเก็บตัวประหลาดเอาไว้ในบ้านไปตลอดชีวิต สุดท้ายแล้วเขามันก็แค่แมวตัวหนึ่ง เป็นเพียงเด็กก้าวร้าว นิสัยไม่ดี
และเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานแบบที่อคินว่า
อคินคงเกลียด
เกลียดอันดาแล้ว
to be continued..
ความคิดเห็น