ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบ] My Anda #แมวท้องอ้วน (Mpreg)

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 64


    ตอนที่ 15

     

    คนตัวเล็กที่นั่งคัดเอถึงแซดวนไปวนมาอยู่สิบรอบได้แต่เขียนไปอ้าปากหาวไป อันดาสะบัดศีรษะไปมาราวกับไล่อาการง่วงซึมให้หลุดพ้นไปจากตนเอง มือเล็กยกน้ำผลไม้ขึ้นจิบเป็นระยะ เพื่อประคองตนเองให้มีสมาธิและจดจ่อกับบทเรียนตรงหน้า

    ครูพี่บิวเหลือบมองเด็กน้อยก็ได้แต่ส่ายหน้าเอ็นดู เธอเตรียมใบงานสำหรับเป็นการบ้านของวันนี้ไว้ให้อันดา พอเรียบร้อยดีมือเรียวก็รวบรวมเอกสารและสื่อการสอนต่าง ๆ ลงในกระเป๋า เธอแตะหลังมืออันดาเป็นเชิงเรียกให้หันมา คนที่ขะมักเขม้นอยู่เงยหน้าขึ้นสบตาคุณครูคนสวย

    "พักก่อนเถอะจ้ะ เขียนมาเป็นชั่วโมงแล้ว"

    "อีกนิดนึงนะครับ เขียนแค่แซดซีบร้าม้าลายก็เสร็จแล้ว" อันดายกยิ้ม ใช้ดินสอเปลี่ยนไส้ลายลูกหมีในมือจิ้มจึกไปบนหนังสือคัดตัวอักษร

    "โอเคจ้ะ งั้นครูเอาแก้วไปเก็บให้นะ"

    ตากลมมองตามหลังคุณครูคนสวยไป บิวตี้นำแก้วน้ำผลไม้ของอันดาที่ถูกดื่มจนเกลี้ยงไปจัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย

    เธอทำหน้าที่สอนหนังสืออันดาได้ประมาณสามสัปดาห์แล้ว แม้เธอจะตกใจมากที่สอนครั้งแรกแล้วเพิ่งรู้ว่าอันดาไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่ดูว่าอายุอานามก็อยู่ในช่วงวัยรุ่น

    เธอครุ่นคิดอยู่ทั้งคืนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กนักเรียนของเธอ คราแรกที่กฤตินแฟนหนุ่มของเธอบอกว่ามีคนจ้างให้ไปสอนพิเศษเธอก็คิดว่าเป็นเด็กเล็กแบบที่เธอเคยสอนอยู่ประจำ

    แต่พอกฤตินบอกว่าอายุราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปดปีเธอก็ขมวดคิ้ว

    เธอไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอถามอะไรให้มากความ กฤตินเสริมขึ้นแค่ว่าให้ไปเรียนรู้นักเรียนคนใหม่เอาเองแล้วเธอจะรู้ว่าเพราะอะไร

    แต่ถึงอย่างไรเธอก็ประทับใจที่อันดาเป็นเด็กใฝ่รู้ หัวเร็ว ฉลาด ช่างสังเกต และค่อนข้างจะใสซื่อตรงไปตรงมา อันดาไม่เคยแสดงท่าทีว่าเกียจคร้านหรือไม่อยากเรียน

    นักเรียนของเธอตื่นตัวและพร้อมรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ แต่สองสามวันมานี้อันดูอ่อนเพลีย ตาปรือ เหมือนจะเผลอหลับคาโต๊ะเรียนเสียอย่างนั้น

    เธอไม่รู้ว่าอันดาอาจจะเบื่อหรือว่าไม่สบาย แต่เธอก็พยายามหาวิธีและเกมมาเล่นกับอันดาเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

    เธอมักจะคอยอยู่เป็นเพื่อนอันดา แม้หมดเวลาเรียนไปแล้ว แต่เธอก็ยืดเวลาออกไปอีกเล็กน้อย เพื่ออยู่เป็นเพื่อนนักเรียนของเธอ

    บิวตี้เป็นหญิงสาวเรียบร้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม เธอเรียนจบคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปี ห่างจากแฟนหนุ่มอย่างกฤตินถึงเจ็ดปีเลยทีเดียว

    เธอคบหากับกฤตินตั้งแต่ตัวเองเพิ่งจะขึ้นมัธยมต้นปีที่สอง แรก ๆ ก็คบกันแค่ในอินเทอร์เน็ต คบกันมาสองปีแต่ไม่เคยเห็นหน้า เพราะว่าเจอกันผ่านเกมออนไลน์

    จนวันหนึ่งนัดเจอกันจริง ๆ พอเห็นกันซึ่งหน้าเท่านั้นล่ะ สาวเจ้าก็ช็อคไปเลยที่แฟนของตัวเองอายุมากกว่าถึงเจ็ดปี แต่ฝ่ายชายน่ะยิ้มแป้น

    ภูมิใจเสียเหลือเกินว่ามีแฟนเด็ก ก็นะ..มีหรือผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบ มีแฟนเป็นเด็กมัธยมใส ๆ บอกใครต่อใครก็ต้องมีคนอิจฉา เพื่อนผู้ชายรุ่นเดียวกันกับกฤตินก็พากันแซวให้ครืน

    พอรักกันมากพอเรื่องอายุก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ช่องว่างระหว่างวัยที่ค่อนข้างห่างกันมากย่อมทำให้มีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง เธอยอมรับว่าตนเองก็งี่เง่า ส่วนกฤตินก็ขี้หวง

    สมัยที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่งช่วงแรก ๆ กฤตินเทียวรับเทียวส่งจนคนเกือบทั้งคณะคิดว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง ทำแบบนั้นอยู่เป็นเทอม จนบิวตี้ขอว่าให้เพลาลงบ้าง อายคนอื่นเขา ทำเสียอย่างกับเธอเป็นลูกแหง่ ต้องมีรถมารับมาส่งหน้าคณะทุกวัน

    แต่กฤตินตีความไปแล้วว่าเธอมีคนอื่น ที่ไม่อยากให้ไปรับไปส่งเพราะว่าไม่อยากให้หนุ่ม ๆ ในสต็อกของเธอเห็นใช่ไหม ทีนี้ล่ะทะเลาะกันใหญ่โต โดนแฟนสาวบอกเลิกเสียตรงนั้น สุดท้ายก็ร้องไห้งอแงมาให้อคินกับวัศกรปลอบ

    ไม่นานก็ไปง้อกัน คืนดีกัน และวนลูปทะเลาะกัน เลิกกัน เป็นอย่างนั้นเดือนเว้นเดือน

    แต่พอบิวตี้เรียนจบเรื่องหึงหวงของกฤตินก็ลดน้อยลง เพราะเธอเลือกจะเป็นคุณครูสอนพิเศษแทนที่จะสอบบรรจุและเป็นข้าราชการครูที่โรงเรียนรัฐบาล พอเธอรับสอนพิเศษก็เลยไม่ต่างอะไรจากการทำฟรีแลนซ์

    เธอไม่ได้รับสอนทั้งวันและทุกวัน รับสอนแค่เด็กเล็ก ๆ ไม่กี่คน เพราะงานประจำของเธอก็มีอยู่แล้วคือรับหน้าที่ต่อจากครอบครัว

    เป็นธุรกิจร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ที่แม่ของเธอส่งต่อมาให้ ส่วนที่เลือกเรียนครูก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นครู เธอเพียงแค่ชอบ และเลือกเรียนในสิ่งที่เธอสนใจ

    และเพราะกิจการที่บ้านของเธอเปิดร้านเบเกอรี่นี่แหละ บิวตี้ก็เลยคิดไอเดียดี ๆ อะไรบางอย่างมาเสนอให้กับอันดา

    "น้องอันดา"

    "ครับ ครูพี่บิว" ใบหน้าน่ารักหันมองเธอ มุมปากสวยแต้มยิ้มหวาน

    "เรียนกันมาทั้งวัน ครูรู้นะว่าน้องอันดาคงเบื่อ วันนี้เราพอแค่นี้ดีไหมคะ"

    "แต่อันดายังต้องท่องคำศัพท์อีกไม่ใช่เหรอครับ"

    "ใช่จ้ะ แต่วันนี้ครูว่าเราพอแค่นี้ก่อนดีกว่า เรามาเรียนอะไรที่นอกเหนือจากในหนังสือเรียนกันดีไหม"

    "ยังไงเหรอครับ" เด็กน้อยเอียงคอถาม ไม่ค่อยเข้าใจที่ครูพี่บิวพูดมากนัก อะไรคือการเรียนนอกเหนือจากในหนังสือเรียน คำนี้อันดาไม่เคยได้ยิน

    "เรามาเปลี่ยนบรรยากาศเรียนรู้วิธีการทำอาหารหรือขนมดีไหมคะ เผื่อน้องอันดาอยากทำให้พี่คินกิน จะได้ทำได้ไงคะ ดีไหม"

    "ดีครับ!" คนถูกชักชวนตื่นเต้น ทำตาโตวาววับ สองมือรีบปิดหนังสือ และนำดินสอใส่ลงในกระเป๋าใบเล็กจนเรียบร้อย

    "เราทำเป็นขนมง่าย ๆ กันดีไหมคะ อย่างเช่นคุกกี้ ขนมปัง หรือไม่ก็เค้ก"

    "เค้ก! อันดาอยากทำเค้ก อันดาชอบ" เสียงหวานรีบตอบ นึกไปถึงเค้กแสนอร่อยที่ชอบกินรองลงมาจากไอศกรีม

    "แล้วน้องอันดาชอบเค้กอะไรคะ ช็อกโกแลตชอบไหม"

    "ชอบครับ อันดาชอบหมดทุกเค้กเลย แต่ว่าอคินไม่ชอบ อคินบอกว่ากินหวานมาก ๆ จะอ้วน"

    ใช่ แถมช่วงนี้อคินเรียกอันดาว่าเด็กอ้วนบ่อยมากด้วย

    "เอ..งั้นเราจะทำเค้กอะไรกันดีคะ เค้กเนยสด เค้กผลไม้ หรือว่าเค้กส้มดี"

    "เค้กผลไม้ อืม..ไม่เอาดีกว่า อันดาอยากให้อคินกินเค้กส้ม"

    "โอเคค่ะ งั้นเราทำเค้กส้มกันเนอะ"

     

     

     

    หลังจากที่ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย บิวตี้พาอันดาลงมาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใต้คอนโด เธอถือวิสาสะสำรวจดู ว่าอุปกรณ์ภายในครัวของอคินมีอะไรบ้าง ยังดีที่มีกระชอนตาถี่ไว้พอให้ร่อนแป้ง และมีตะกร้อมือเล็ก ๆ ใช้แก้ขัดในการตะล่อมเนื้อแป้งได้

    เธอนำอันดาเดินเลือกซื้อวัตถุดิบราวยี่สิบนาที หยิบนั่นหยิบนี่พร้อมอธิบายไปด้วยว่าอะไรเป็นอะไร นักเรียนของเธอตั้งอกตั้งใจฟังอย่างดี พยักหน้ารับทุกคำที่เธอพูดและเดินเข็นรถเข็นตามอยู่ต้อย ๆ

    หลังจากได้วัตถุดิบครบเรียบร้อย สองร่างเล็กก็พากันกลับขึ้นมาและเริ่มลงมือทำขนม

    เค้กที่บิวตี้จะสอนอันดาทำเป็นสูตรสำหรับนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้เตาอบให้ยุ่งยาก เธอจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ครบครัน ใส่แป้งเค้กกับผงฟูลงในกระชอนตาถี่ ออกแรงร่อนแป้งเบา ๆ ให้อันดาดูเป็นตัวอย่าง

    เด็กน้อยยกยิ้มชอบใจที่ได้หยิบจับนั่นนี่ อันดาลองร่อนแป้งดูบ้าง และรับหน้าที่ผสมส่วนผสมให้เข้ากัน

    บิวตี้คั้นน้ำส้มจากผลส้มสดที่ซื้อติดมาด้วยลงไปเล็กน้อยพอให้มีกลิ่น เธอใส่ทุกสิ่งทุกอย่างตามสูตรของเธอ และบอกให้อันดาเริ่มผสมมันเข้าด้วยกันอย่างเบามือ

    จากนั้นบิวตี้เนรมิตรหม้อต้มขนาดกลางให้กลายเป็นหม้อนึ่งแป้งเค้ก เธอเทแป้งที่ผสมเข้ากันดีใส่ลงในถ้วยใบเล็กที่จำลองว่าเป็นแม่พิมพ์ เทไปเทมาได้ทั้งหมดหกถ้วย เธอนำใส่หม้อนึ่งและปิดฝา รอให้มันสุกได้ที่ประมาณยี่สิบนาที

    เสร็จแล้วเธอสอนอันดาทำตัวหน้าเค้ก เป็นเค้กส้มแบบหน้านิ่ม คราวนี้เธอเพียงแค่พูดบอกขั้นตอน และให้อันดาเป็นคนหยิบจับเองทั้งหมด

    แม้จะเงอะ ๆ งะ ๆ ไปบ้าง แต่อันดาก็ทำทุกอย่างออกมาได้ดี มือเล็กกวนหน้าเค้กไปมาจนมันหอมฉุย เด็กน้อยหันมองคุณครูคนสวยเป็นระยะ เหมือนถามกันอยู่ตลอดว่าที่ทำอยู่น่ะถูกไหม บิวตี้พลายยิ้มให้กำลังใจ เธอยกนิ้วแสดงสัญลักษณ์ให้อันดารู้ว่ายอดเยี่ยม

    คนทำดีใจยิ้มจนดวงตากลมโตหยิบหยี พอเค้กในหม้อนึ่งสุกเรียบร้อย บิวตี้ก็จัดการยกออกมา เธอพักไว้ให้เย็น และนำเค้กออกมาจากพิมพ์ เธอราดแยมส้มสีสวยลงไปเป็นตัวอย่างให้อันดาดู จากนั้นก็ส่งต่อให้เด็กน้อยทำเองทั้งหมดจดเสร็จเรียบร้อย

    บิวตี้นำเค้กจัดใส่จานมานั่งกินกับอันดาที่โซฟาคนละชิ้น และนำที่เหลือใส่ไว้ในตู้เย็น อันดาก้มหน้าก้มตากินเค้กไม่พูดไม่จา แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองโทรทัศน์เสียหน่อยก็ไม่มี เห็นอันดากินดีอยู่ดีบิวตี้ก็ชอบใจ

    กว่าจะลิ้มรสความอร่อยจนหมดชิ้นก็ละเลียดละไลกันจนนาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น บิวตี้ขอตัวกลับ เนื่องจากกฤตินโทรตามอยู่หลายครั้ง

    "เดี๋ยวครูต้องกลับแล้วนะจ๊ะ ไว้วันจันทร์เรามาทำอะไรกินกันอีกดีกว่าเนอะ" เธอเปรยขึ้น หันไปหยิบกระเป๋าที่มีสื่อการสอนสำหรับอันดาขึ้นมาสะพายไว้

    "ครั้งหน้าทำอันที่มันเป็นเส้น ๆ ได้ไหมครับ"

    "อะไรเหรอคะ สปาเก็ตตี้เหรอ"

    "ใช่ครับ สปาเก็ตตี้" ใบหน้าน่ารักพยักขึ้นลงหงึกหงัก

    "โอเคจ้ะ ไว้เจอกันนะ"

    "ครูพี่บิวรอก่อนครับ อันดาอยากให้พี่ตินกินเค้กด้วย"

    อันดารั้งเธอไว้ แล้วรีบลุกไปหยิบเค้กส้มในตู้เย็นมาใส่กล่องเล็ก ๆ แล้วบอกครูพี่บิวให้นำไปฝากกฤติน เด็กน้อยร่ำลาคุณครูคนสวยเสร็จ ก็เริ่มหันมาทำความสะอาดอุปกรณ์ทำขนมเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

    ตอนที่อันดากินเค้กส้มอยู่เขารู้สึกดีมาก ๆ เลย อาการง่วงซึมที่ทำเขาเกือบผล็อยหลับในช่วงเช้าหายเป็นปลิดทิ้ง

    พอไม่มีอะไรทำแล้วเลยให้ความสนใจไปกับเจ้าอินดี้ อันดาร้องเรียกเจ้าอินดี้ให้กระโดดมาบนโซฟา แมวอ้วนรู้ภาษาเดินเยื้องย่างแล้วปีนมานอนบนตักอุ่น มือนุ่มลูบหัวเจ้าอินดี้แผ่วเบา มันร้องเมี้ยวพร้อมยื่นขาหน้าออกมาแตะหน้าท้องของอันดา

    เด็กน้อยก้มลงจุ๊บแผ่วเบาที่พุงพลุ้ยของเจ้าอินดี้ นั่งเล่นนอนเล่นกันอยู่นานสองนาน อันดานึกอยากเอนหลัง กะเวลาจากสัญชาติญาณดูท่าแล้วอีกไม่นานอคินคงมา

    อันดาเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง เปิดตู้เย็นจัดเค้กส้มสุดแสนจะภูมิใจใส่ลงในจานจนสวยงาม ชงชามะนาวสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตู้เก็บพวกอาหารแห้งใส่แก้วเก็บความเย็นเตรียมไว้ให้อคิน

    สองมือเล็กประคองฝีมือตนเองมาวางลงบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา จากนั้นก้มลงโอบอุ้มเจ้าอินดี้ แล้วพากันเข้าไปนอนตากแอร์สบายใจเฉิบในห้องนอน เจ้าอินดี้นอนลงครอบครองตุ๊กตาลูกพีชของอันดาไม่ห่างกาย

    พอกำลังจะเคลิ้มหลับกลับสัมผัสได้ว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ไม่ต้องเดาก็รับรู้ได้ว่าคงจะเป็นอคินที่เลิกงานกลับมาแล้ว

    ไม่ทันที่อันดาจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปต้อนรับ จมูกรั้นกลับได้กลิ่นแปลก ๆ ตีรวนขึ้นมาจนคุ้นชิน

    อันดาย่นจมูก อยู่ ๆ กลิ่นนี้ก็ทำอันดาหงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    เหม็น อันดาไม่ชอบกลิ่นนี้

     

     

     



     

    "เดี๋ยวคุณนั่งรออยู่นี่ก่อนแล้วกัน ผมขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน" เสียงเข้มบอกเรียบ

    อคินผละจากแขกผู้ที่ไม่ได้อยากจะรับเชิญแล้วผลักประตูเข้าไปในห้องนอน

    ทันทีที่บานประตูเปิดกว้าง ร่างเล็กที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ใบหน้าขมวดมุ่นจ้องมองมาทางเขา อคินเลิกคิ้วขึ้นสูง เชิงถามว่าเหตุใดอันดาจึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น

    "เป็นอะไร" อคินเอ่ยถามทันทีเมื่อปิดประตูและลงกลอนจนเรียบร้อย มือหนาเดินไปถอดนาฬิกาข้อมือ แล้วหันมาสนใจเด็กดื้อของเขาที่เอาแต่ทำหน้าตาแปลก ๆ

    "คุณรานีนมาทำไม"

    เสียงหวานติดจะไม่พอใจเสียหน่อยเอ่ยถามราบเรียบ อคินถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งลงข้างอันดา

    "เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ เธอเลยมาส่งฉัน"

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เกือบหนึ่งชั่วโมง อคินที่เคลียร์งานเสร็จก่อนเวลาเลยว่าจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติเพื่อกลับมาพักผ่อน

    แต่ระหว่างที่เขาขับรถออกมาจากลานจอดรถของบริษัท กำลังเลี้ยวออกมายังไม่ทันจะพ้นป้อมยามดี ก็โดนรถยนต์ที่สวนเข้ามาด้วยความเร็วสูงเสยเอากระจกทางฝั่งข้างคนขับหลุดออกไป

    ด้านหน้ารถเขายับเยินจนหัวเสีย พอลงไปดูถึงรู้ว่าคู่กรณีคือรานีนอดีตคนรักเก่าของตนเอง

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายิ่งคู่กรณีเป็นเธออคินยิ่งหัวเสีย ถึงแม้เธอจะเอ่ยปากรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่อคินไม่ได้ดีใจเลยสักนิด

    หลังจากเรียกประกันและให้ช่างมาลากรถเขาไป สาวเจ้าก็ตัดพ้อสำนึกผิด และออกปากว่าขอรับผิดชอบโดยการไปส่งอคินที่คอนโด

    เธอขับรถมุ่งหน้าไปยังคอนโดของอคินด้วยความชำนาญราวกับรู้ทาง ตลอดระยะเวลาที่โดยสารกันมาต่างคนต่างเงียบ อคินผินหน้ามองไปยังข้างทาง ส่วนรานีนเห็นอคินอารมณ์ไม่ค่อยดี เธอเลยสงบปากสงบคำ

    แต่พอมาถึงหน้าคอนโดของอคิน แทนที่เธอจะจอดและแยกกันเสียตรงนั้น กลับกลายเป็นว่าเธอขอขึ้นมาเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่าย

    อคินตัดรำคาญ และคำนวนดูว่าคงใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงเธอก็คงกลับ ก็เลยยอมให้เธอขึ้นมา

    แต่ใครจะคิดว่าไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร เปิดประตูมาเห็นหน้าเด็กดื้อกะว่าให้ชื่นใจเสียหน่อย กลับมาโดนหน้าหวานง้ำงอใส่กัน

    อันดาจ้องเขาตาเขม็ง ทำจมูกฟุดฟิดดูท่าทางหงุดหงิดเสียเต็มประดา พอเขาจะแตะก็ถดตัวหนี ยกมือขึ้นปิดจมูกและเอ่ยบอกกันเสียงห้วน

    "เหม็น"

    "..." อคินเม้มปาก ลองก้มดมเสื้อตนเองดู เผื่อว่ากลิ่นเหงื่ออาจจะแรงจนเกินไป เขาจะได้ยอมจำนนและผละออกไปอาบน้ำ

    แต่พอดมแล้วก็ว่าปกติดี อีกอย่างเขาทำงานอยู่ห้องแอร์ทั้งวัน จะมีก็ตอนลงมาทานข้าวที่แคนทีนเท่านั้น ที่เดินฝ่าแดดจนเหงื่อไหล มันก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง จะเอาอะไรมาเหม็นเล่า

    "เหม็นกลิ่นคุณรานีน"

    ไม่รอให้ร่างสูงงวยงงไปมากกว่านี้ อันดาเอ่ยเฉลยให้ อคินร้องอ้อในใจ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าโยนใส่ตะกร้า แล้วหยิบเสื้อตัวใหม่มาใส่แทน

    อันดาไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของคุณรานีน มันแสบจมูกจนทำให้อันดาเวียนหัว ทุกครั้งที่เจอกันก็ว่าแปลก ๆ กับกลิ่นอยู่แล้วนะ แต่ทำไมวันนี้กลิ่นมันตีขึ้นมาเสียอันดาตาลาย

    "เธอขับรถชนฉันที่หน้าบริษัท เธออาสามาส่ง แล้วก็มาคุยเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย"

    อคินอธิบาย คนที่ได้ยินว่าอคินถูกรถชนเบิกตาโพลง หุนหันขึ้นมาดูอาการแทบจะทันที

    "โดนชนตรงไหน ไหนแผล อคินเลือดออกไหม อันดาดูหน่อยแผลอยู่ตรงไหน เลือดออกตรงไหน อคิน..ไปหาหมอ"

    "ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย คนที่เป็นหนักน่ะรถฉันนู่น กระจกมองข้างหลุด ด้านหน้าข้างคนขับบุบไปหมดเลย"

    อคินลูบหัวทุยให้อันดาคลายกังวล เขาแต้มยิ้มบนมุมปาก ราวกับจะยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร เด็กดื้อตรงหน้าพยักหน้าเข้าใจ แล้ววาดแขนกอดเอวสอบอย่างออดอ้อน

    "อคินรีบออกไปคุยกับคุณรานีนสิ เธอจะได้รีบกลับ"

    "แล้วนายล่ะจะออกไปกับฉันไหม"

    "ไปสิ อันดาออกไปแน่นอน"

    และที่ว่าจะออกไปแน่นอนอันดาก็ออกไปด้วยจริง ๆ ทันทีที่เปิดประตู ร่างสูงก็เดินนำพ้นออกมา จะหันไปปิดประตูหวังให้คนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังออกมาก่อนก็ต้องชะงัก

    เจ้าอันดาแมวน้อยที่เขาไม่เคยเห็นมานานวิ่งดุ๊กดิ๊กแทรกช่องประตูออกมา ขนยาวสลวยตัวอ้วนกลมจนน่ากอด อคินกะพริบตาปริบ ๆ มองเจ้าอันดาวิ่งนำเขาออกไปยังโซฟาที่รานีนนั่งรออยู่

    ทันทีที่วิ่งไปถึง เจ้าอันดากระโดดหมับขึ้นบนโต๊ะเล็กบนโซฟา ส่งเสียงร้องท้วงไม่หยุดปากจนเจ้าอินดี้ที่นอนอยู่บนเตียงต้องพรวดพราดวิ่งตามออกมาด้วย

    อคินเดินมาดูยัยลูกสาวว่าร้องทำไมก็ได้แต่ทำหน้างง รานีนหันมองเจ้าอันดากับเจ้าอินดี้ และสลับมองไปมายังอคิน ในมือเธอถือช้อนที่เพิ่งตักเค้กส้มเข้าปากค้างเอาไว้ อีกมือหนึ่งยกแก้วชามะนาวขึ้นดื่ม และเพิ่งวางมันลงไปหมาด ๆ

    เจ้าอันดาทั้งร้องขู่และครางส่งด้วยความโมโห ร่างอ้วนกลมสั่นเทิ้มด้วยความโกรธที่เห็นเค้กส้มตรงหน้าถูกช่วงชิงไปแล้วกว่าครึ่งชิ้น

    อคินรีบมาอุ้มเจ้าอันดาไว้แนบอก จูบหัวเพื่อปลอบประโลมเสียหลายทีจนเจ้าอันดาสงบลง

    "ดูท่าแมวคินจะไม่ค่อยชอบนีนนะคะ" เธอยิ้มเจื่อน เอ่ยบอกเสียงแผ่ว

    "คงแปลกหน้าน่ะครับ เอาเป็นว่าคุณรีบคุยธุระดีกว่า ผมว่านี่มันก็เย็นแล้ว ถ้าขับรถกลับดึก ๆ คงจะอันตราย"

    "รีบไล่จังเลยนะคะ ขอนีนนั่งพักสักเดี๋ยวเดียวไม่ได้เหรอ" เธอส่งตาเล็กตาน้อย ตักเค้กส้มของอันดาเข้าปากหน้าระรื่น "เค้กนี่อร่อยจังเลยนะคะ คินซื้อมาจากร้านไหนเผื่อว่านีนจะไปซื้อบ้าง"

    "อ่า..ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ลืมน่ะ"

    อคินชะโงกไปมองเค้กปราดเดียวก็มั่นใจแล้วว่าไม่ใช่เขาแน่ที่เป็นคนซื้อมา แต่ตัดรำคาญเลยตอบส่ง ๆ ไปก่อน อาจจะเป็นบิวตี้หรือไอ้ตินซื้อมาก็ได้ เขาเองก็ไม่รู้ แค่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

    อยากให้เธอรีบ ๆ กลับ เจ้าอันดาที่อยู่บนตักเขาเริ่มสั่นขึ้นมาอีกแล้ว

    "คินเลี้ยงแมวสองตัวเลยเหรอคะ" เธอถามเสียงหวาน เอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าอินดี้

    "ครับ แต่เจ้าตัวนั้นขี้รำคาญนะ" อคินชี้ไปที่เจ้าอินดี้ ไม่ทันไรมันก็สะบัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปที่เบาะนอนทันที

    เธอยิ้มจางแล้วเบนความสนใจมาที่เจ้าอันดา กะว่าจะตีสนิทด้วย แต่ยัยลูกสาวเขากลับร้องหง่าวขึ้นมาเสียงดัง กระโดดดึ๋งหลบหนีไปเสียเฉย ๆ

    อคินส่ายหน้าและเปลี่ยนประเด็นให้เธอเข้าเรื่อง เธอฉอเลาะไปตามประสา หลัก ๆ ไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าเสียหายหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนมากเอาแต่ขุดคุ้ยถึงเรื่องราวในอดีต

    อดีตตั้งแต่สมัยที่เธอยังคบกับอคิน

    "คินจำร้านนั้นได้ไหมที่อยู่หลังมอ ที่คินพานีนไปตอนเราคบกันวันแรก"

    "..."

    "วันก่อนนีนขับรถผ่าน เขาขยายร้านใหญ่กว่าเดิมเลยล่ะ นี่ถ้าเรายังคบกันอยู่นีนคิดว่า.."

    "ผมว่าถ้าหมดธุระแล้วคุณรีบกลับเถอะครับ นี่มันเย็นมากแล้วนะ เดี๋ยวรถติด"

    "อ่า.."

    "งั้นผมขออนุญาตเสียมารยาทส่งคุณแค่หน้าประตูนะครับ พอดีผมแต่งตัวไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ ไม่อยากลงไปข้างล่างน่ะ"

    อคินพูดยาวเหยียดพร้อมกับเดินนำเธอไปยังหน้าประตู เขาไม่รอฟังอะไรจากเธออีกแล้ว อคินผายมือส่งเธอด้วยความสุภาพ  รานีนจำใจคว้ากระเป๋าถือแบรนด์ดังและเดินออกไป

    เธอเบะปาก ส่งสายตาตัดพ้อให้เขาอยู่กลาย ๆ ก่อนจะหันมาทำเสียงเศร้าและเดินจากไป

    "ตอนเป็นแฟนกันไม่เห็นคินใจร้ายกับนีนแบบนี้เลย แล้วทำไมตอนนี้ใจร้ายจังล่ะคะ"

    อคินถอนหายใจ จะไม่ให้เขาใจร้ายได้ยังไง ก็ในเมื่อคนที่เขารักอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เธออีกต่อไปแล้ว

    ไม่ใช่ว่าเพราะเขาเคยใจดีกับเธอหรอกหรือ ทุกวันนี้ชีวิตรักถึงต้องจบกันเพียงเพราะเขาหลับหูหลับตาเชื่อเธอมาตลอด

    มันจบแล้ว มันจบลงไปแล้วกับอคินคนนั้น คนที่เคยรักเธอสุดหัวใจ

    อคินไม่เก็บคำพูดอะไรของเธอมาใส่ใจ มือหนาปิดประตูลงเพื่อปิดรับความวุ่นวายของวันนี้

    แต่ทันทีที่หันหลังกลับไป ร่างเล็กที่ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าเหมียวขนปุย กำลังเปลือยเปล่านั่งคร่อมอยู่บนโซฟาและจ้องเขาตาเขม็ง

    ดวงตากลมโตนั่นมองเขาอย่างคาดโทษ อคินรีบเดินเข้าไปหา หวังจะเอาใจแต่ถูกร่างบางกระโดดใส่จนเขาเซเสียหลักกระแทกลงบนโซฟา

    คนดื้อเชิดหน้าใส่เขา ร่างไร้อาภรณ์คร่อมตักกันไม่ยอมขยับไปไหน ริมฝีปากอิ่มตึงแอบเบะขึ้นน้อย ๆ ก่อนจะสะบัดเสียงใส่จนอคินรวบตัวมากอดไว้แทบไม่ทัน

    "อคินให้คุณรานีนกินเค้กส้มของอันดาทำไม"

    "ไม่ ฉันเปล่า"

    เขาส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้เค้กส้มที่รานีนทานเข้าไปน่ะเธอไปหยิบมาจากตรงไหน

    "วันนี้ครูพี่บิวสอนอันดาทำเค้ก อันดาตั้งใจทำให้อคินกินนะ แล้วทำไมอคินให้คุณรานีนมากินเค้กของอันดา"

    "ฉันไม่ได้ให้เธอกินนะ แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่านายทำเค้กไว้ให้ฉัน"

    "แน่สิ! จะรู้ได้ยังไง ก็อันดาตั้งใจจะสะไพ้อคินไง"

    "เซอร์ไพรส์"

    "อือ นั่นแหละ!"

    ใบหน้าหวานรั้นขึ้นแล้วรีบสะบัดหนี ทำทีไม่พอใจเหมือนไม่อยากสบตากับอคิน แต่ความจริงแล้วอายมากที่พูดผิด แต่ช่างเถอะคนกำลังโกรธ!

    "ถ้าอคินไม่กินอันดาจะกินเองให้หมดเลย"

    "ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะไม่กิน"

    "ถ้าจะกินแล้วทำไมต้องเอาไปให้คุณรานีนกินด้วย"

    "ก็บอกแล้วไงว่าฉันเปล่า"

    อันดาถอนหายใจดังเฮือก หันกลับมาค้อนใส่อคินเสียใหญ่โต อะไรต่อมิอะไรของอันดาก็เสียดไปเสียดมาอยู่ที่หน้าท้องเขา

    อคินยกมือโอบเอวคอดเอาไว้ ใช้จังหวะทีเผลอขโมยหอมแก้มเด็กขี้งอนแรง ๆ ไปหนึ่งที

    อันดาค้อนขวับ ใช้สองมือดันไหล่อคินให้ออกห่างจนแผ่นหลังแกร่งแนบชิดกับพนักพิงโซฟา

    "แอบกินไปกี่ชิ้นแล้วเนี่ย กลิ่นเค้กส้มหอมเต็มไปหมดเลย" เขาเย้าแล้วกดจูบไปตามซอกคอขาว

    อคินได้กลิ่นเค้กส้มหอมกรุ่น แต่อันดาได้กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของคุณรานีนฟุ้งเต็มไปหมด ยิ่งอยู่ใกล้อคินยิ่งหงุดหงิด แต่นอกเหนือจากความหงุดหงิดอันดากลับรู้สึกแปลกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    รู้สึกภายในกายมันร้อนรุ่ม กระสับกระส่ายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตากลมมองสบเข้าไปในดวงตาเรียวรี ก่อนที่ใบหน้าหวานจะโน้มลงไปและกดจูบลงบนริมฝีปากหยัก

    อันดาไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร จะว่าเขาฮีทก็ไม่ใช่ เพราะว่าอยู่ในร่างคนไม่น่าจะรู้สึกอะไรแบบนี้

    แต่ยิ่งจูบกับอคินอันดาก็ยิ่งอยากจูบเพิ่มซ้ำ ๆ จากที่ใช้ปากแตะย้ำ ๆ ลงไปหลายทีก็กลายเป็นว่ากดค้างเอาไว้แบบนั้นเนิ่นนาน นานขึ้นจนอคินถือวิสาสะสอดปลายลิ้นเข้ามาลิ้มรสหอมกรุ่นของเค้กส้มที่อบอวลอยู่จาง ๆ

    คนตัวเล็กแม้จะจูบตอบเขาไม่ทัน แต่ก็พยายามร่วมมือด้วยอย่างเต็มที่ สองมือน้อยป่ายปัดไปทั่วอกแกร่ง อันดาดึงเสื้ออคินจนกระดุมร่วงกราวกระจายเต็มพื้น

    เด็กดื้อเผลอบดสะโพกลงบนตักอคินไม่รู้ตัว ยกสองแขนรั้งจนไหล่กว้างถูกครอบครองเอาไว้อย่างเต็มรัก

    อันดาหอบหายใจถี่ เหมือนเขากำลังถูกกระตุ้นจากอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว อันดาเริ่มควบคุมตนเองไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็ผลักร่างสูงหงายลงไปจนแผ่นหลังแนบสนิทไปกับโซฟา

    ร่างบางปีนขึ้นมานั่งคร่อมกลางลำตัวของอคิน แววตาที่เคยใสซื่อกำลังวาววับเสียจนอคินตั้งตัวรับไม่ทัน

    อันดาเริ่มป้อนจูบหนักหน่วงให้กับอคิน กวาดต้อนลิ้นสากสะเปะสะปะพร้อมดูดริมฝีปากหยักเสียจนอคินแทบจะหายใจไม่ทัน

    "ด..เดี๋ยว..เป็นอะไร" อคินเสียงพร่าโพล่งถามทันทีเมื่อริมฝีปากได้รับอิสระ

    "..."

    "ฮีทหรือไง หรือแค่จะยั่วฉัน"

    "..." อันดาไม่ตอบ

    ทำเพียงกดจูบลงไปซ้ำ ๆ เพื่อให้อคินหยุดพูด คนที่ถูกกระทำแม้จะงงงวยกับพฤติกรรมประหลาดของอันดา แต่ก็พยายามไม่ขัดอะไรมากนัก

    อคินทำเพียงนอนนิ่ง และยอมจำนนให้อันดาพรมจูบเขาตั้งแต่แก้มสากไล่ลงไปจนถึงหน้าท้อง

    พักนี้เขารู้สึกว่าอันดาอารมณ์แปรปรวนมากจนผิดปกติ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บ้างก็หวงตัวไม่ให้แตะ บ้างก็มากอดมาอ้อน แล้ววันนี้ยังมาหงุดหงิดใส่แล้วจู่โจมกันเสียอย่างนั้น

    แต่อคินจะไม่มานอนคิดหาเหตุผลอะไรตอนนี้ให้เสียเวลา ลิ้นเล็กกำลังละเลียดบนผิวกายของเขาจนขนลุกชันแบบนี้ เขาควรจะให้ความสนใจกับร่างบางที่เล่นสนุกอยู่บนตัวเขา

     

     

    [CUT อ่านได้ที่ ReadAWrite]

     


     

    ทั้งอคินและอันดาหอบหายใจถี่ พอสงครามสงบอคินก็ดันตัวอันดาออกและถอนแก่นกายช้า ๆ น้ำรักของเขาไหลอาบเต็มสองขาขาว

    หลังจากนั้นเขาก็ช้อนตัวอันดาและพาเด็กดื้อเข้าไปในห้องนอน อันดาปรือตามองเขาพลางหลบตาหนี พวงแก้มนิ่มเด้งนั่นขึ้นสีแดงเรื่อเชิญชวนให้อคินดอมดม

    ไม่นานนักคนที่ใช้แรงมามากก็ผล็อยหลับหนีกันไปก่อน อคินกอดรั้งคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง มือใหญ่เอื้อมจับมือเล็กแผ่วเบาแล้วพาดแขนกอดอยู่บนพุงน้อย ๆ

    เขาซุกหน้าลงบนลำคอขาวชื้นเหงื่อ กะว่าจะให้อันดาพักผ่อนสักชั่วโมงแล้วเขาจะปลุกขึ้นมาทานข้าว แต่กลายเป็นว่าเขาดันเผลอหลับตามอันดาไปด้วย

    อคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่เขารู้สึกเหมือนมีอะไรมากระทบที่แขน จะว่าอันดาสะกิดก็ไม่ใช่ มันตุ้บ ๆ เหมือนฝันว่ามีอะไรมาถีบแล้วก็สะดุ้งตื่น

    เขาเหลือบมองนาฬิกาดิจิทัลบอกเวลาว่าเที่ยงคืนพอดี เขากำลังจะขยับลุกไปเข้าห้องน้ำแต่กลับรู้สึกตุ้บ ๆ ที่แขนขึ้นมาอีกแล้ว

    อคินขมวดคิ้ว แรงที่กระทบกับใต้ท้องแขนเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม แล้วแรงสัมผัสนั่นมาจากไหน เขากอดพาดไปถึงหน้าท้องของอันดา ถ้าไม่ใช่มาจากหน้าท้องของอันดา แล้วมันจะมาจากอะไร

    อคินชั่งใจอยู่สักพักก็ทาบฝ่ามือลงไปพิสูจน์บนหน้าท้องของอันดาอีกครั้ง เขาแตะค้างไว้แบบนั้นอยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    เขาส่ายหน้าราวกับปัดความสงสัยออกไปจากสมอง พอถอดใจกำลังจะผละมือออกกลับรู้สึกถึงแรงกระแทกจากหน้าท้องอันดาขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    เหมือนมีอะไรถีบตุ้บแล้วก็วาบหายไป เหมือนในท้องอันดามีเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ามากระทบฝั่งโครมเดียวแล้วก็สงบลง

    อคินไม่รู้ว่าอันดาเป็นอะไร แต่เขาขอเดาว่าเด็กอ้วนของเขาคงจะหิวจนท้องไส้ด้านในมันดิ้นประท้วงนั่นแหละมั้ง

     

     

     

    to be continued.. 

    น้องอันดาก็แอบแซ่บได้อยู่นาจาาา แมวปกติถ้าท้องแล้วจะไม่ฮีท แต่น้องอันดาไม่ใช่แมวปกติ อิอิ

    ว่าที่คุณพ่อได้โปรดรับรู้ มีแมวจิ๋วมาเกิดแล้วค่ะ คุณแม่ไม่ได้อ้วนนนนนนน

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×