คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13
ตอนที่ 13
อคินนอนคิดไม่ตกอยู่หลายคืน เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องของอันดาอย่างไรให้วัศกรฟัง
จนตอนนี้วัศกรนั่งอยู่ตรงหน้า อคินก็ได้แต่นั่งจ้องตาอีกฝ่ายไม่ยอมพูดไม่ยอมจาจนวัศกรเริ่มรำคาญ
"ถ้ากูเป็นปลากัดกูท้องไปแล้วนะ มีอะไรมึงก็พูด จ้องอยู่ได้ กูจะทำงาน" วัศกรแหวใส่ อคินถอนหายใจแล้วแสร้งหันไปมองทางอื่น
"มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ ๆ นึกจะพูดก็พูด มึงให้เวลากูเรียบเรียงหน่อยดิวะ"
"งั้นมึงกลับไปเรียบเรียงที่บ้าน" เขาว่า ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานของตนเองต่อ
อคินใช้จังหวะช่วงพักกลางวันของตนเองแล้วบึ่งรถมาหาวัศกรถึงที่บริษัท เขายอมละเลยอาหารกลางวัน ใช้เวลาในส่วนนี้เพื่อมาปรึกษาเรื่องของอันดากับวัศกร
แต่มาแล้วกลับอึก ๆ อัก ๆ ซ้อมมาทั้งคืนว่าจะพูดอย่างไร แต่ทุกอย่างมันพังทลายลงไปเพียงเพราะเห็นหน้ายุ่งเหยิงของเพื่อนตัวเอง
"คือ..เรื่องอันดา.." เขาเกริ่นก่อนจะเงียบลง
คนรอฟังมุ่นคิ้ว อะไรของมันวะ จะพูดก็ไม่พูด
"กูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี"
"โอเค งั้นเดี๋ยวกูถามเอง" วัศกรหมดความอดทน เขาปิดแฟ้มเอกสารแล้วเหวี่ยงมันแน่นิ่งไว้บนโต๊ะทำงาน
อคินที่นั่งอยู่บนโซฟาสีเทาได้แต่ขยับตัวนั่งหลังตรง ทำทียกมือขึ้นจัดเสื้อแสงของตนเองให้เข้าที่ด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ
"มึงคบกับอันดาใช่ไหม"
"ไม่ ก็บอกแล้วไงว่าน้อง"
อคินขมวดคิ้ว เขาว่าวันที่ไปกินหมูกระทะเขาตอบชัดแล้วนะว่าไม่ได้คบ
"เอางี้ กูถามใหม่" วัศกรถอนหายใจ ลองเปลี่ยนคำถามให้ตอบง่ายมากกว่านี้
"..."
"มึงกับน้องเขาถึงขั้นไหนกันแล้ว"
"ก็.."
"จับมือ"
"อืม"
"หอมแก้ม"
"ก็มี"
"จูบล่ะ"
"บ่อยอยู่"
"มีอะไรกัน"
"..." อคินเงียบ และวัศกรถามซ้ำในคำถามเดิม
"มีอะไรกัน"
"ก็.." เขาอึกอัก ควรตอบความจริงดีไหม อันดาจะเสียหายหรือเปล่านะ
"ไอ้คิน กูถามว่ามึงมีอะไรกันหรือยัง"
"อะ..เออ ก็มีบ้าง"
พอโดนน้ำเสียงเข้มขรึมของเพื่อนคาดคั้น เขาก็อ้อมแอ้มตอบออกมา วัศกรถอนหายใจ ก็ไม่ได้ผิดคาดเท่าไหร่หรอกนะกับคำตอบของอคิน
"ได้กันแต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน มึงเป็นเหี้ยอะไร" แหนะ วัศกรด่าเข้าให้
เพื่อนเขามันคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกนิยายหรือไง ถึงได้มีเด็กหน้าตาน่ารัก ๆ มาไว้กกกอด ผูกมัดอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยร่างกาย ส่วนสถานะซึ่งกันและกันจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
แบบนี้เหรอวะ
"กูถามจริง ๆ นะ อันดาอายุเท่าไหร่ มึงจะโดนข้อหาพากษ์ผู้เยาว์ไหมไอ้คิน"
"ไม่รู้ว่ะ ดูแล้วคงไม่เกินยี่สิบ แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าสิบห้า"
อคินเดา เหมือนที่เขาเดาส่ง ๆ ตอบกลับรานีนไปว่าอันดาอายุสิบเจ็ดปี เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวอันดา แม้แต่ชื่อเขายังเป็นคนตั้งให้ แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องอายุ
"อะไรของมึงวะ นี่มึงไม่รู้อายุอันดาเหรอ" วัศกรงง คิ้วเข้มของเขามันขมวดผูกกันเป็นโบว์โดยอัตโนมัติ เพิ่งเคยพบเคยเจอ จนได้กันแล้วแต่ไม่รู้อายุกันเนี่ยนะ
ตลก
"ก็เพราะแบบนี้ไงกูถึงต้องมาปรึกษามึง"
"ทำไม หรืออันดาความจำเสื่อม มึงก็เลยจะให้กูช่วยตามหาครอบครัวเขาให้ใช่ไหม"
นู่น เดาไปเรื่อย วัศกรนึกถึงฉากในละครไทยสักเรื่องที่เขาผ่านตามาบ้างตอนเด็ก ๆ สิ่งที่เขาคะเนมันอาจจะจริงก็ได้นี่ ใครจะไปรู้ล่ะ
"คือ..มันไม่ใช่แบบนั้น คือ..กูจะบอกยังไงดี เอาเป็นว่าอันดาไม่เหมือนเรา"
"ทำไมวะ น้องเขามีปัญหาทางจิตเหรอ เป็นโรคซึมเศร้าอะไรงี้หรือเปล่า"
นั่นแหละ เดาอีกแล้ว วัศกรทำหน้าเครียด ถ้าเป็นแบบนั้นจริงอันดาก็น่าเห็นใจ นอกจากจะป่วยแล้วยังต้องตกมาเป็นของเพื่อนเขาอีก
ซวยชะมัดเลย
"เฮ้อ" อคินถอนหายใจ "มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น สุขภาพจิตอันดาน่ะปกติ แต่ที่หมายถึงว่าเขาไม่เหมือนเรากูหมายถึงทางด้านร่างกาย"
"อันดาเป็นโรคร้ายเหรอ"
"ไม่ ไม่ใช่ มึงเลิกมั่วสักที" อคินผ่อนลมหายใจ เขาปรามเพื่อนให้เลิกเดานั่นเดานี่มั่วซั่ว วัศกรยักไหล่ ก็เขาไม่รู้นี่หว่า แถมไอ้คินเพื่อนเลิฟก็ลีลาท่ามาก
"มึงก็รีบเฉลยมาสักทีดิวะ นี่กูรอฟังมึงพูดจนขี้เกียจจะรอแล้วนะไอ้คิน"
"เอาเป็นว่ามึงรับรู้ไว้แค่อันดาไม่ใช่คนทั่วไปอย่างเราก็พอ"
อะไรวะ วัศกรงง หรืออันดาเป็นลูกเทพเจ้าหรือกษัตริย์จากเมืองลึกลับอะไรเทือกนั้นเหรอ เขากลอกตาพลางคิดในใจ ไม่กล้าเดาสุ่มอะไรอีกแล้ว
"อันดาทำอะไรเองไม่ค่อยเป็น" อคินเปิดประเด็น
แน่ล่ะ ดูจากวันที่ไปกินหมูกระทะ ก็รู้แล้วว่าอคินเพื่อนรักประคบประหงมเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนั้นมากขนาดไหน ทั้งเทคทั้งแคร์ ย่างทั้งหมู แกะทั้งกุ้ง ของคาวของหวานประเคนให้กันเสียจนน่าหมั่นไส้
น่าจะเหลือแต่เคี้ยวแล้วกลืนแทนอันดานั่นแหละมั้ง ที่เพื่อนเขายังไม่ได้ทำ
"แล้วยังไงต่อ" วัศกรเลิกคิ้วถาม
"กูอยากให้อันดาช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างน้อยลงไปซื้อของที่ซูเปอร์คนเดียวได้ก็ยังดี"
ไม่เข้าใจ วัศกรไม่เข้าใจ ยิ่งฟังอคินพูดเขาก็ยิ่งงง จากที่เขาเห็นอันดาก็ปกตินะ แค่ลงไปซูเปอร์มาเก็ตคนเดียวก็ยังทำไม่ได้เหรอ
หรือเพื่อนเขาเอาใจมากเกินไปนะ
"อย่างที่กูบอก ว่าอันดาไม่เหมือนพวกเรา แม้แต่อ่านหนังสืออันดายังอ่านไม่ออกเลย"
"ฮะ! อะไรนะ" บ้าไปแล้ว
วัศกรเผลออุทาน เขาเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงโดยอัตโนมัติ ดวงตาจากที่โตอยู่แล้วยิ่งเบิกกว้าง อายุไม่ใช่จะน้อยแล้วนะ ทำไมยังอ่านหนังสือไม่ออก นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ววะ วัศกรงง
งงเป็นไก่ตาแตก
"เดี๋ยวนะ อ่านหนังสือไม่ออกเนี่ยนะ"
"อืม นั่นแหละ กูเลยอยากให้มึงช่วย กูไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะส่งอันดาเข้าเรียนอนุบาลก็คงเป็นไปไม่ได้ กูอยากให้อันดาอ่านออก เขียนได้ และเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป"
"..."
"ทั่วไปแบบที่มนุษย์เขาทำกัน"
"กูขอถามนิดนึง มึงเจอกับอันดาได้ยังไง"
"กูขับรถชนเขา"
อคินนึกย้อนไปวันนั้น วันที่ฝนตกหนักแล้วเขาขับรถชนลูกแมวตัวน้อย วัศกรเม้มปาก คิดนำไปก่อนแล้วว่าอันดาคงจะได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ
"แล้วที่มึงมาวันนี้ มึงอยากให้กูช่วยอะไร"
"ไม่รู้ว่ะ"
"อ้าว" วัศกรแทบจะลุกขึ้นเดินไปตบกบาลเพื่อนตัวเอง ถ่อมาถึงบริษัทเขาแล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าไม่รู้ว่ะ
หน็อย!
"เอาจริง ๆ กูแค่อยากมาระบาย เพราะยังไงวันนึงเรื่องของกูกับอันดามันก็ไม่ใช่ความลับอยู่แล้ว กูมีแค่มึงกับไอ้ตินเป็นเพื่อน มึงก็รู้ว่ากูไม่มีญาติที่ไหน พอกูมีอันดาเข้ามากูบอกตรง ๆ ว่ากูไม่อยากเสียเขาไป แต่..แต่อย่างที่บอกว่าอันดาไม่เหมือนเรา กูเลยไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันจะเป็นไปได้อีกนานแค่ไหน กู..กูไม่รู้ว่ะ"
อคินส่ายหน้า เขาเริ่มคิดมาตลอดว่าอันดาจะเป็นอย่างไรนับจากนี้ นอกจากเรื่องการใช้ชีวิต อายุขัยก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้อคินคิดหนัก
เขารู้ดีว่าสัตว์เลี้ยงอายุขัยของพวกมันไม่ได้ยืนยาวมากนัก เผลอ ๆ อาจจะเป็นอคินเองเสียด้วยซ้ำที่จะหมดอายุขัยก่อน เขาอยากเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตราบเรียบและมีความสุขไปพร้อมกับอันดา
เขาอยากให้แมวน้อยของเขารู้จักโลกกว้างแห่งความเป็นมนุษย์เพื่อเอาตัวรอด
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อันดาไม่มีวันใช้ชีวิตอยู่แต่ในคอนโดของเขาไปได้ตลอดชีวิตหรอก อย่างไรเด็กน้อยของเขาก็ต้องออกมาเผชิญโลกภายนอก ออกมาทำความรู้จัก และอยู่ในโลกกว้างใบนี้
"กูว่า..มึงต้องส่งอันดาไปเรียนหนังสือ" หลังจากที่เงียบไปนานวัศกรจึงเสนอ
"กูก็คิดไว้แบบนั้น แต่ถ้าให้ส่งไปโรงเรียนกูว่าไม่น่าจะรอด"
"มึงก็หาคนมาสอนอันดาที่คอนโดดิ เดี๋ยวนี้เขามีการเรียนแบบโฮมสคูลแล้วนะ กูว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี"
"มันก็ดี แต่ประเด็นคือใครจะไว้ใจได้ขนาดที่กูให้เข้ามาสอนอันดาถึงในคอนโด"
"อืม.." วัศกรครุ่นคิด เขาเม้มริมฝีปากพลางยกปลายนิ้วเคาะลงบนปลายคางตนเอง
จะว่าอคินห่วงอันดามากเกินไปก็ได้ เขายอมรับ แต่จะให้ทำยังไง ก็ในเมื่อแมวน้อยของเขาทั้งใสและซื่อมากขนาดนี้ หากไปเจอคนไม่ดี ไม่เท่ากับว่าเขาพาใครมาทำร้ายอันดาหรอกเหรอ
"ไอ้ติน!" วัศกรโพล่งชื่อเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ร่วมวงสนทนา "แฟนไอ้เชี่ยตินเลยมึง กูเคยได้ยินมันพูดว่าแฟนมันรับจ้างสอนพิเศษ"
"จะดุไหมวะ" อคินไม่วายอดห่วงอันดา กลัวเด็กดื้อจะไปซนอะไรเข้าจนถูกดุ
"เหอะน่า กูว่าอย่างน้อยก็ไว้ใจได้ที่สุดละ"
วันนี้อคินกลับบ้านเร็วกว่าปกติเกือบสองชั่วโมง หลังจากจบธุระกับวัศกรเขาก็ไม่มีสมาธิทำงานอีกแล้ว และแน่นอนว่าเขาตัดสินใจกลับคอนโดในทันที
เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าบ้านเงียบสนิท เด็กตัวเล็กที่ปกติจะวิ่งแจ้นมารับหน้าแต่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน หายไปทั้งคนทั้งแมว
เขาขมวดคิ้ว กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น เดินเลยเข้าไปในครัวเผื่อว่าอันดาอาจจะกำลังหาอะไรกิน แต่ปรากฏว่าทุกพื้นที่กลับว่างเปล่า
อคินตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน พลันสายตาเขาสะดุดเข้ากับร่างขาวที่นอนหงายอยู่บนเตียง สองขาเรียวพาดห้อยลงมาถึงพื้น บนหน้าอกที่กระเพื่อมไหวช้า ๆ มีเจ้าอินดี้ลูกชายแสนเย่อหยิ่งของอคินนอนทับอยู่
เขายิ้ม ส่ายหน้าให้กับภาพตรงหน้า
ที่แท้ก็หนีเข้ามาหลับอยู่ในนี้ เขาก็นึกว่าอันดาใจกล้าถึงขั้นพาเจ้าอินดี้ออกไปวิ่งซนที่ไหน
เขาปลดนาฬิกาข้อมือและกระชากเนกไทออก ร่างสูงหันซ้ายหันขวาจัดการกับตนเองก่อนที่จะหันกลับไปสนใจคนที่หลับสนิทอีกครั้ง
อคินค่อย ๆ ค้อมตัวลงไปหาร่างบาง มือหนาทั้งสองข้างเท้าเอาไว้บนผืนเตียง แขนแกร่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักตัวเขาเอาไว้ทั้งหมด ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะโน้มลงหาคนตัวเล็กเชื่องช้า
ตำแหน่งใบหน้าของเขาพอดีกับหน้าท้องของอันดา คนแก่กว่าจรดปลายจมูกลงบนหน้าท้องแบนราบผ่านเสื้อยืดสีฟ้าคราม
คนถูกกระทำปรือตา เห็นแค่เจ้าอินดี้อยู่รำไรก็นึกว่าเจ้าอินดี้กำลังก่อกวน อันดาลูบขนปุกปุยหวังให้เจ้าอินดี้สงบ อคินยกยิ้ม ส่ายหน้าระอาคนขี้เซา
มือหนาเริ่มซุกซน เขาดึงชายเสื้ออันดาขึ้นไปจนเผยให้เห็นหน้าท้องขาว คนถูกรุกรานร้องท้วง พยายามป่ายปัดสิ่งที่รบกวนการนอนออกแต่ไม่เป็นผล
อคินจรดปลายจมูกโด่งคมดอมดมผิวเนื้อเนียน พุงน้อย ๆ เพื่อมไหวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ อคินกดริมฝีปากลงไปอีกครั้งบนหน้าท้องนุ่ม เขาพรมจูบเสียจนเสียงดังจุ๊บแต่อันดาไม่ยอมตื่น
"ขี้เซาจริง ๆ" อคินว่า พร้อมกับขบเม้มพุงน้อยเพื่อหยอกเย้า
"อื้อ..อคิน" คนตัวเล็กเรียกชื่อกันเสียงพร่า อันดายันข้อศอกขึ้นมาดูว่าอะไรนักหนาที่มันกวนใจเขา
พอเห็นว่าเป็นอคินก็เผยยิ้มน่ารัก ดวงตากลมโตหยิบหยี ต่อสู้กับความง่วงซึมของตนเอง
"อันดา"
"อ..อือ..อคินทำอะไร"
พอคนแก่กว่าเริ่มพรมจูบขึ้นมาเรื่อย ๆ ร่างบางก็ชะโงกหน้าขึ้นมอง เด็กน้อยจ้องมองคนที่เอาแต่ขบเม้มผิวกายตัวเองไปมา อคินช้อนตาขึ้นมองพลางถามกันเสียงนุ่ม
"ตื่นหรือยังหืม"
แต่ก่อนที่คนตัวเล็กจะได้ตอบอะไร ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ไล้จูบจนมาถึงซอกคอระหง อันดาหดคอหนี พยายามยันอกกว้างให้ห่างออกไป
"อคิน อันดาจั๊กจี้"
อคินหัวเราะ และเสียงหวานก็หัวเราะคิกคักคลอไปกับเขา อคินผละออกจากซอกคอหอมกรุ่น เขาละใบหน้าออกมาสบตากับดวงตาวาววับ
"อยากหลับดีนัก ก็ต้องโดนลักหลับแบบนี้แหละ"
คนเจ้าเล่ห์ยิ้มร้าย โน้มตัวฉวยลงไปฉกชิมกลีบปากสีอ่อน เขาช่วงชิงลมหายใจของอันดาเพียงเสี้ยววินาที ทำเพียงกดริมฝีปากแตะกันแล้วผละออก เจ้าอินดี้ที่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของอคิน ก็กระโดดดึ๋งลงจากเตียง อันดายู่ปาก พวงแก้มใสขึ้นสีเรื่อ
ดวงตาเรียวคมสบเข้ากับดวงตากลมโตนานนับนาที ร่างสูงปีนขึ้นมาคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้จนไม่เหลือพื้นที่ใดให้อากาศแทรกผ่าน เขาเริ่มออกสำรวจ ผิวกายเนียนนุ่มของอันดากำลังถูกอคินพรมจูบอีกครั้ง
เขาเริ่มสำรวจพวงแก้มใสเป็นอันดับแรก พอสูดดมจนหนำใจก็ไล่เรื่อยลงมาที่ซอกคอหอมละมุน เขากดย้ำแผ่วเบาพอให้อันดาร้องท้วง ก่อนจะค่อย ๆ ถดกายลงมาสำรวจพุงนุ่ม
อคินฟัดหน้าลงบนความเนียนและความนุ่มที่หน้าท้องของอันดา เจ้าของพุงน้อย ๆ ส่งเสียงหัวเราะร่า ร่างเล็กดีดดิ้นป่ายมือจะคว้าหวังให้อคินหยุด
"น่ารักเป็นบ้า" อคินพึมพำ เขาเงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้อันดา
เด็กดื้อของเขาหอบหายใจจากการบ้าจี้เมื่อสักครู่ ใบหน้าน่ารักนั่นแดงกล่ำ น้ำตาคลอรื้นเต็มหน่วยตา เจ้าของพุงนุ่มรีบยกมือขึ้นปิดมันเอาไว้
"จั๊กจี้"
อคินยักไหล่ เขาไม่สนแถมยังจูบลงบนหลังมือเล็กที่ยังคงปิดหน้าท้องของตนเองเอาไว้อยู่
"ไปว่ายน้ำกันไหม ไปลดพุงกัน"
เขาเอ่ยชวนแล้วยกยิ้ม อันดาพยักหน้าตอบรับทันที โดยไม่ต้องถามต่อว่าว่ายน้ำคืออะไร ทำอย่างไร และไปที่ไหน
ที่ว่าไปลดพุงจริง ๆ แล้วเขาก็ตั้งใจว่าแบบนั้น หมู่นี้ถ้าไม่นับเรื่องบนเตียงกับอันดา อคินรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย กางเกงที่สวมอยู่ทุกวันมันเริ่มแน่นขึ้นจนอึดอัด
ตั้งใจจะลดแค่พุงของตนเอง แต่พอมาฟัดพุงอันดา เขาดันรู้สึกว่าคนตัวเล็กของเขาก็แอบมีหน้าท้องขึ้นมาบ้างแล้ว เขาก็ชอบอยู่หรอกถ้าหากว่าอันดาจะอวบขึ้นมาสักนิดหนึ่ง
อย่างน้อยสิ่งที่กินไปมันควรเฉลี่ยไปที่แขน ขา และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เท่ากันหรือเปล่านะ ไม่ใช่มากองรวมกันอยู่ที่พุงน้อย ๆ แบบนี้
เด็กอะไรก็ไม่รู้ ตัวก็นิดนึง นอกจากแก้มแล้วก็พุงล่ะมั้งที่มันกลมเสียน่าฟัด
คนเราพอรักหรือหลงใหลอะไรมาก ๆ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก็โอนอ่อนยอมตามเสียง่ายดาย
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาว่ากันว่าชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
ไม่ต่างอะไรกับอันดาในตอนนี้ คนตัวเล็กที่ตอบตกลงทันทีที่อคินชวนมาว่ายน้ำราวสามสิบนาทีที่แล้ว กำลังยืนขาสั่นอยู่ข้างริมสระว่ายน้ำ
อันดาไม่รู้ว่าว่ายน้ำที่อคินว่ามันคือการเอาตัวเองทั้งตัวลงไปแช่อยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่
ร่างเล็กกัดริมฝีปากแน่น อันดาอยู่ในชุดว่ายน้ำกางเกงสีกรมท่า ท่อนบนเปลือยเปล่า และในมือกำแว่นตาสำหรับว่ายน้ำเอาไว้แน่น
สองเท้าจิกเกร็งอยู่ริมขอบสระ เขามองดูอคินที่อ้าแขนรอรับ เรียกกันให้ลงไปแล้วได้แต่ใจสั่น
อันดาไม่ชอบ แม้จะอยู่ในร่างคนแต่สัญชาติญาณของการเป็นแมวมันไม่ได้หายไปไหน ไม่ชอบเลย อันดาไม่ชอบน้ำ
"เร็วสิ ลงมาเลย ไม่ต้องกลัว" อคินเร่งเร้า ยกแขนจนสุดเพื่อเอื้อมจับมืออันดา
"ม..ไม่ ไม่เอา"
"เชื่อใจฉัน อันดา"
อคินพูดเสียงหนักแน่น เขาคว้ามือขาวเอาไว้แล้วค่อย ๆ ดึงอันดาให้ก้าวเข้ามาใกล้
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าโมงเย็น มีบ้างที่เพื่อนบ้านภายในคอนโดลงมาใช้บริการสระว่ายน้ำที่เป็นส่วนกลางของคอนโด อคินไม่ได้สนใจอะไรใครทั้งนั้น เขาพาอันดาลงมาข้างล่างและเข้าไปเช่ากางเกงว่ายน้ำ แว่นตากันน้ำ และแผ่นโฟมสำหรับว่ายน้ำ
อคินคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าอันดาจะต้องกลัว สระน้ำที่คอนโดเขามีการแบ่งระดับความตื้นลึกของสระไว้เป็นสัดส่วน และที่เขาเล่นกันอยู่ตรงนี้ ระดับน้ำสูงเพียงเอวของอคิน
"ใส่แว่นก่อนนะเด็กดี"
อคินบอกเสียงทุ้ม เขาดึงคนตัวเล็กนั่งลงที่ขอบสระ สองขาขาวหย่อนลงในผิวน้ำเย็นฉ่ำ เขาแทรกกายเข้าไปที่ช่วงขาเรียว ฉวยเอาแว่นตากันน้ำมาจากมืออันดา แล้วสวมลงศีรษะทุยเบามือ
"ทีนี้ก็ลงมาเลย ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะคอยจับนายไว้" อคินยิ้มส่งกำลังใจ เขาเลื่อนมือประคองเอวบางเอาไว้ แล้วอันดาก็ขยับหย่อนตัวเองลงมา
ทันทีที่ร่างกายสัมผัสน้ำเย็น ๆ อันดาผวาเข้ากอดเอวสอบเอาไว้แน่น อคินรวบร่างเล็กไว้แนบอก ก่อนจะเชยคางมนขึ้นมารับคำชม
"ดีมาก คนเก่ง"
อันดายิ้ม สองมือยังกอดเอวอคินไม่ยอมห่าง จากที่กลัวมากกลับกลายเป็นอยากสู้ขึ้นมาเพียงเพราะว่ามีอคินอยู่ด้วย
"เดี๋ยวฉันจะพานายว่ายไปทางนั้น เกาะโฟมนี่เอาไว้นะ"
อคินชี้มือไปอีกฝั่งหนึ่งของขอบสระ ก่อนจะคว้าเอาแผ่นโฟมสำหรับว่ายน้ำที่วางอยู่บนริมสระส่งให้อันดา
เขาจัดการรองแผ่นโฟมไว้ที่หลังตัวเอง คว้าเอาร่างบางขึ้นมาทาบทับอีกทีแล้วพาออกว่ายไปช้า ๆ
อันดากอดคออคินแน่น แผ่นอกบางแนบสนิทกับแผ่นโฟมแข็ง ๆ ไปตลอดทางที่อคินพาว่ายไปเรื่อย ๆ ใบหน้าหวานเคล้าคลออยู่ข้างแก้มสาก ไม่นานนักทั้งคู่ก็หยุดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของขอบสระว่ายน้ำ
คนแก่กว่าดันอันดาลงจนแผ่นหลังชิดริมสระน้ำ เขาหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับอันดา ไม่สนใจว่าแผ่นโฟมที่พามาด้วยมันลอยคว้างออกไปไหน
อคินจ้องมองใบหน้าขาว ปากอิ่มที่เคยขึ้นสีตอนนี้มันซีดเผือด เขายกมือเกลี่ยปรางแก้มยุ้ยนุ่มนิ่ม ยกร่างบางขึ้นไปนั่งบนขอบสระ อันดาตกใจรีบคว้าจับอคิน คนตัวโตยิ้มเผล่ก่อนจะแทรกกายเข้าไปในหว่างขาของเด็กน้อย
"เป็นไง น่ากลัวไหม" อคินถาม สองแขนก็โอบเอวบางเอาไว้ด้วย
อันดาส่ายหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบ แขนเรียวเกาะยึดคอแกร่งของอคินไว้
"อันดา"
"หือ" เจ้าของชื่อครางรับในลำคอ
"ฉันอยากถาม"
อคินเกริ่น เขานึกไปถึงเรื่องที่ปรึกษากับวัศกร ที่เพื่อนของเขาเสนอการเรียนแบบโฮมสคูลพร้อมคุณครูผู้สอนที่ไว้ใจได้ ถึงอย่างไรเขาก็ต้องกลับมาถามความเห็นจากอันดา
"นายอยากเรียนหนังสือไหม" อันดาเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจที่อคินถาม ร่างเล็กเอียงคอมองเขา รอฟังให้อคินพูดต่อ "ถ้าเรียนหนังสือนายก็จะอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้ พออ่านหนังสือออกเวลาไปไหนจะได้ไม่หลง เผื่อวันนึงฉันไม่อยู่ นายจะได้ดูแลตัวเองได้"
"อคินจะไปไหน" ที่อคินพูดมาทั้งหมดไม่มีอะไรเข้าหัวอันดาเลยนอกจากประโยคที่ว่า เผื่อวันนึงฉันไม่อยู่นายจะได้ดูแลตัวเองได้ คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่น ส่วนอคินยกยิ้ม
"ไม่ ฉันไม่ได้จะไปไหน ฉันแค่พูดเอาไว้เผื่อว่าฉันมีงานต้องไปต่างจังหวัด"
"นานไหม อคินจะไปนานเหรอ" เสียงหวานเร่งถาม ตกใจอยู่ในทีด้วยกลัวว่าอคินจะไปไหน
"ไม่ ไม่ได้ไป ไม่ได้จะไปตอนนี้ ฉันหมายถึงในอนาคต อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนนะอันดา ถ้านายยังต้องอยู่ในร่างนี้ นายก็ต้องเรียนรู้สิ่งที่มนุษย์เขาทำกัน เพราะฉะนั้นอันดับแรกฉันอยากให้นายเรียนหนังสือ ถ้าอ่านออกเขียนได้ เวลาไปไหนหรือซื้อของที่ห้างนายจะได้ทำเป็น"
"..."
"ดีไหม ไม่อยากอ่านหนังสือออกเหรอ"
"อยากครับ อันดาอยาก" แมวดื้อคลี่ยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงหงึกหงัก
อันดารู้ว่าการใช้ชีวิตแบบมนุษย์มันไม่ง่าย เขาเองก็ไม่อยากเป็นภาระของอคินไปตลอด อย่างน้อย ๆ ถ้าเก่งกว่านี้ แล้วทำอะไรได้มากกว่านี้ ก็คงจะแบ่งเบาภาระให้อคินลงไปได้เยอะเลย
อันดาอยากอยู่กับอคิน เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องปรับให้ตัวเองอยู่ได้เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป ถ้าอคินว่าการเรียนหนังสือคือด่านแรกที่ควรจะเผชิญ เพราะฉะนั้นอันดาหรือจะปฏิเสธ
"ถ้านายยืนยันว่าจะเรียน งั้นฉันจะติดต่อคุณครูมาสอนให้เรียบร้อย ดีไหม"
"ให้อคินสอนไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้คุณครูมาสอนด้วย" เด็กขี้สงสัยรีบถาม คุณครูเป็นใคร จะใจดีไหมก็ไม่รู้
"ฉันไม่มีเวลาสอนนายหรอกอันดา อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ครู สอนไปก็คงจะงู ๆ ปลา ๆ แล้วอีกอย่างครูที่ฉันจะให้มาสอนนายเขาใจดีนะ เป็นแฟนกับไอ้ติน"
"พี่ตินเหรอ"
"อื้ม ชื่อครูบิวตี้" อคินพูดไปพลางยกปลายนิ้วเกี่ยวเส้นผมดำขลับที่ยาวละใบหูออกให้อันดา
"แฟนเหรอ แฟนที่หมายถึงรักกันใช่ไหมอคิน"
"ใช่ สงสัยอะไรนัก" เขากระตุกยิ้ม เกลี่ยแก้มยุ้ยไปมาสนุกมือ
"ก็..พี่ตินมีแฟนแล้วเหรอ" ตากลมกะพริบปริบ
"ทำไม ถ้ามันมีแฟนแล้วนายจะทำไม"
เขาถามเสียงขุ่น อันดาทำหน้าเหมือนผิดหวังแล้วเอ่ยถามกันแบบนั้นมั
หมายความว่ายังไง เจอไอ้ตินครั้งเดียวไม่รู้ไปติดใจอะไรมันนักหนา จากที่อารมณ์ดี ๆ ตอนนี้อคินเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
"อคิน..อันดาแค่ถามเอง อันดาสงสัยเฉย ๆ นะ"
เสียงหวานรีบอ้อน ใบหน้าน่ารักยิ้มเผล่ เอื้อมกอดคออคินไว้ คนโดนอ้อนช้อนตามองอย่างคาดโทษ
มันน่าหงุดหงิดนัก
"สงสัยทำไม หรือว่านายชอบมัน"
"ชอบสิ.."
"ว่าไงนะ!" อคินโวยลั่น
"ก็พี่ตินใจดี แล้วก็ชอบพูดให้อันดาหัวเราะ ตลกจะตาย อันดาชอบ"
"นี่นายชอบมันจริง ๆ งั้นเหรออันดา!"
"อื้อ"
"อันดา!"
"อ๋าา อคินอย่าเสียงดังสิ"
คนตัวเล็กทำปากยื่น แสร้งยกมือขึ้นมาปิดหู อคินขบกรามจนดังกรอด มีหน้ามาพูดว่าชอบเพื่อนเขาทั้ง ๆ ที่กอดอยู่กับเขาเนี่ยนะอันดา
ใช้ได้ที่ไหน แล้วมายิ้มหวานใส่แบบนี้คิดว่าอคินจะอารมณ์ดีขึ้นมาได้เหรอ!
เด็กดื้อ! อยากลองดีนักใช่ไหม!
"อันดา นายมัน..นายมันเด็กแสบ นายต้องโดน นายโดนฉันแน่ ฉันจะฟัดนายจนกว่านายจะเลิกชอบไอ้ตินเลยคอยดู"
to be continued..
ฟัดให้หนำใจเลยนะคะพี่คิน แหมะะ
เรื่องนี้มีราว ๆ ยี่สิบกว่าตอนนะคะ ไม่เยอะมาก เนื้อหาเลยอาจจะดูรวบรัดไปนิดนึง แงงง
ความคิดเห็น