คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ศุกร์หรรษา..
หากพูดถึงศุกร์หรรษา ก็อาจจะหรรษาสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับเขา
อคิน พนักงานบริษัทเงินเดือนสามหมื่นปลาย ๆ วัยสามสิบสองปี กำลังหัวเสียให้กับการจราจรแสนยาวนานของกรุงเทพมหานคร
เขาติดแหงกอยู่บนท้องถนนร่วมสี่สิบห้านาที เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคือฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย บวกกับท้องไส้ที่เริ่มประท้วงร้องขออาหารให้ตกถึงท้อง
ดวงตาเรียวรีทอดมองออกไปตามสายฝน ทัศนียภาพเบื้องหน้าของเขาคือท้ายรถยนต์คันสีขาว คันที่ร่วมชะตากรรมไปด้วยกันมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว
"ติดอะไรนักหนาวะ" อคินพึมพำกับตนเอง แขนข้างหนึ่งพาดผ่านไปกับพวงมาลัยรถยนต์
นาทีที่เริ่มเบื่อหน่ายจนเต็มขั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกเข้ากรีดร้องดึงความสนใจของอคินออกไปได้ทั้งหมด มือหนาคว้าจับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมากดรับ แล้วจับมันแนบเข้ากับใบหูของตนเอง
"เมื่อวานวันเกิดมึง เงียบหายเลยนะไอ้สัตว์" ไม่ทันจะเอ่ยทักทายอะไรกัน เสียงปลายสายก็กรอกเปิดประเด็นขึ้นมาก่อนแล้ว
"ไม่ได้หาย กูทำงาน" อคินว่า พลางเหยียบคันเร่งไปด้วยเมื่อรถคันข้างหน้าเริ่มที่จะเคลื่อนตัว
"เออช่างเหอะ ว่าแต่ปีนี้ไม่เลี้ยงอะไรเหรอวะ เหล้าก็ไม่ออกมาแดกกับพวกกู"
"ติดไว้ก่อน ช่วงนี้งานกูยุ่ง ๆ ว่ะ" เขาตอบปลายสายน้ำเสียงสบาย ๆ พร้อมกับออกแรงหมุนพวงมาลัยไปตามทางเมื่อการจราจรเริ่มคลี่คลายขึ้น
"งานยุ่งขนาดนี้จะมีเวลาหาเมียกับเขาไหมวะ" ปลายสายแกล้งเย้า อคินยกยิ้มหัวเราะในลำคอ
"ฮ่า ๆ ๆ มึงพูดเหมือนมึงมีแล้ว เอ๊ะ..ก็น้องคนนั้น.."
"อะไร ๆ หุบปากไปเลยไอ้สัตว์ ถ้ามึงพูดถึงน้องเขาแม้แต่คำเดียวนะ กูยกพวกไอ้กรไปถล่มห้องมึงแน่"
ปลายสายขู่เสียงขุ่น อคินไม่ยี่หระ ฟังคำขู่ของเพื่อนให้เป็นเพียงคำบ่นที่พ่นผ่านหูไป
"น้องเขาทิ้งมึงไปแล้วล่ะสิ" เอ่ยถามทีเล่นทีจริง เย้าแหย่พอให้ไอ้เพื่อนตัวดีลมออกหู
"หุบปาก!" และได้ผล เพื่อนตัวดีของเขาแผดเสียงลั่น อคินหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วฟังปลายสายพูดต่อ "แล้วนี่..มึงอยู่ไหนเนี่ย วันนี้วันศุกร์ แดกเหล้าเหอะ"
"วันนี้เลยเหรอ.."
"เหอะน่า อย่าปฏิเสธกูเลย ขอร้องล่ะ"
"เออ ๆ แต่กูขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"
อคินตกปากรับคำ พร้อม ๆ กับที่เขาตบไฟเลี้ยวส่งสัญญาณขอทาง เพื่อที่จะเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยคอนโดที่เขาอาศัยอยู่ แต่จังหวะที่กำลังคุยกับปลายสายเพลิน ๆ วินาทีที่หักเลี้ยวเข้าคอนโดตามปกติเฉกเช่นทุกวัน เกิดเสียหลักทันทีเมื่อเขาเห็นอะไรแวบ ๆ ตัดหน้ารถยนต์
อคินตกใจรีบเหยียบเบรกกะทันหัน และ..
เอี๊ยดดด!
โครม!
"เฮ้ย!..แค่นี้ก่อนนะมึง กูขับรถชนอะไรไม่รู้ว่ะ"
เขาโยนมือถือไว้บนคอนโซลหน้ารถยนต์ รีบปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกุลีกุจอลงไปดูทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจะมัวมาตกใจกับอะไรมากไม่ได้ เพราะภาพตรงหน้ามันบังคับให้เขารีบวิ่งเข้าไปช้อนตัวสิ่งมีชีวิต ที่เขามั่นใจว่าเป็นฝีมือของเขาเมื่อกี้แน่ ๆ ที่ทำให้มันกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ขณะนี้
ลูกแมวตัวเล็กนอนหายใจรวยรินอยู่ใต้ล้อรถยนต์ของอคิน เลือดของมันซึมออกมาเต็มพื้นถนนผสมกับหยาดน้ำฝน และกระเซ็นติดตามยางรถยนต์ของเขาจนมันคาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ
อคินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไม่รอช้า เขารีบกลับเข้าไปเอาผ้าผืนเล็กที่ใช้สำหรับเช็ดรถออกมาห่อหุ้มตัวเจ้าลูกแมวเอาไว้
จากที่จะเลี้ยวเข้าคอนโด อคินรีบเปลี่ยนทิศทางไปยังคลินิกรักษาสัตว์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดเขาทันที
เขาเหลือบมองลูกแมวที่ถูกวางไว้บนเบาะข้างคนขับ สลับกับท้องถนนเบื้องหน้า สายฝนที่โปรยปรายพราวเกาะทั่วกระจกรถยนต์ เขาภาวนาขอให้เจ้าเหมียวปลอดภัย เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้มันตกอยู่ในสภาพแบบนี้
อคินละล่ำละลักขอโทษตลอดทาง พอรถยนต์มาหยุดอยู่ตรงหน้าคลินิก เขารีบอุ้มเจ้าแมวชุ่มเลือดวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคุณหมอทันที
ทั้งคุณหมอและทีมผู้ช่วยสามสี่คนในนั้นต่างพากันตกใจ อคินส่งต่อมันให้กับคุณหมอเพื่อทำการรักษา เขาแยกตัวออกมานั่งรอในอาการที่ยังใจสั่น ในใจรู้ดีว่าสภาพแบบนั้นอาจจะไม่รอด แต่เขาก็ยังภาวนาขอให้มันรอด
"คุณคะ..คุณคะ.."
"ค..ครับ" อคินได้สติ เขาหันไปตามเสียงหวานที่เอ่ยเรียกอยู่หน้าเคาน์เตอร์
"ขอทราบประวัติน้องแมวเมื่อครู่นี้หน่อยค่ะ"
"ประวัติเหรอครับ คือผม..ไม่ใช่เจ้าของ"
"อ่า..งั้น พอทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น น้องถึงต้องมาที่นี่"
"ผมขับรถชนมันครับ" อคินยอมรับไม่มีลังเล แม้จะตอบเสียงแผ่วแต่ก็ไม่หนีความจริง
ผู้ช่วยประจำคลินิกพยักหน้ารับคำสารภาพของเขา เขียนบันทึกสั้น ๆ ลงไปพร้อมกับถามชื่ออคินแทนชื่อน้องเหมียว
ไม่นานนักคุณหมอก็ออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจ ได้ความว่าน้องแมวเสียเลือดมาก หากไม่ได้รับเลือดภายในคืนนี้น้องอาจจะไม่รอด แต่ยังโชคดีอยู่ที่คลินิกใหญ่ในเครือนี้มีเลือดน้องแมวสำรองอยู่
ทุกขั้นตอนถูกดำเนินการโดยคุณหมอและทีมผู้ช่วย ร่วมสี่ชั่วโมงกว่าจะแล้วเสร็จ อคินใจจดใจจ่อนั่งรออยู่ในคลินิก ทุกวินาทีเฝ้ารอให้คุณหมอเดินออกมาบอกข่าวดี และวินาทีนั้นที่อคินรอคอยก็มาถึง
"น้องปลอดภัยแล้วนะคะ" คุณหมอส่งยิ้ม อคินใจชื้นพยักหน้ารับแล้วยืนฟังคุณหมอพูดต่อ "แต่ยังไงให้น้องอยู่ดูอาการอีกสักระยะนะคะถึงจะกลับบ้านได้ ระหว่างนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ ทางคลินิกจะดูแลน้องอย่างดี ตลอดเวลาที่น้องอยู่ที่นี่สามารถแวะมาเยี่ยมน้องได้นะคะ"
"ครับ ขอบคุณมากนะครับ"
ห้าทุ่มตรงพอดีไม่ขาดไม่เกิน คือเวลาที่อคินปรากฏตัวกลับเข้ามาในห้องชุดคอนโดหรูของตนเอง
ทันทีที่ผลักประตูเข้ามา เจ้าแมวตัวอ้วนแสนรักของเขาก็เดินนวยนาดเข้ามาชะเง้อดูแล้วเดินกลับไปนอนในที่ของมันตามเดิม
อคินแวะทักทายเจ้าเหมียวของเขา ลูบหัวมันทั้ง ๆ ที่มันเชิดหน้าทำท่าหยิ่งยโสใส่เขา แน่นอนว่าเจ้าอินดี้แมวอ้วนวางมาดกับเขามาตั้งแต่ตัวมันเท่ากำปั้น จนตอนนี้ตัวเท่าโอ่งก็ยังไม่วายวางมาดใส่กันให้หมั่นไส้ อคินชินเสียแล้ว หน้ามุ่ย ๆ ของเจ้าอินดี้นี่แหละที่ทำให้เขาหลงรักมันมาจนถึงทุกวันนี้
อคินเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกภายนอกดูเนี้ยบ สะอาด เงียบขรึมและดุดัน เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ถูกขนานนามได้ว่าเป็น 'ทาสแมว' แม้ภายนอกจะดูไม่ใช่คนอ่อนโยน แต่ความจริงแล้วเขาอ่อนไหวให้กับเจ้าแมวสี่ขาทุกตัวบนโลกมากเป็นพิเศษ
ตั้งแต่จำความได้เขาก็ใฝ่ฝันอยากจะเลี้ยงแมวมาโดยตลอด แต่ติดที่ว่าสมัยก่อนเขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเล็ก ๆ กับแม่ และเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
จนกระทั่งแปดปีที่แล้วที่แม่ของอคินเสีย เขาหางานทำและประคับประคองชีวิตตนเองมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตั้งตัวได้ เลยตัดสินใจซื้อคอนโดแห่งนี้ และรับเจ้าอินดี้เจ้าแมวสายพันธ์อเมริกันช็อตแฮร์มาเลี้ยง
"อินดี้ มากินข้าวเร็ว" อคินร้องเรียก พร้อมกับบีบถุงอาหารเม็ดให้ดังกรอบแกรบเรียกเจ้าอินดี้ไปด้วย
"อินดี้ เมี้ยว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อินดี้ลูก" หยิ่งจริง ๆ เจ้านี่ หรือว่าจะงอนเขากันนะที่กลับบ้านผิดเวลา
"อินดี้ครับ มาหาพ่อเร็วลูก เมี้ยว ๆ ๆ อินดี้ เมี้ยว ๆ ๆ ๆ ๆ" และสุดท้ายก็เป็นอคินเองที่ยอมแพ้แล้วเดินแบกอาหารเข้าไปให้เจ้าอินดี้ถึงที่
เขานั่งลงที่พื้น จับเจ้าอินดี้ขึ้นมานอนบนตักแล้วเทอาหารเม็ดลงบนมือตนเอง กระชับกอดตัวเจ้าอินดี้เอาไว้ และค่อย ๆ ประเคนอาหารให้จนถึงปาก เจ้าอินดี้เงยหน้ามองอคิน หยิ่งยโสได้ไม่นานก็ค่อย ๆ ก้มลงกินอาหารทีละเม็ด
เคี้ยวตุ้ย ๆ น่าเอ็นดู อคินส่ายหัวให้กับท่าทางหิวโหยแต่ทำเป็นวางมาดของเจ้าอินดี้ เขารอจนมันกินอิ่มแล้วผละออกไปอาบน้ำ เจ้าอินดี้รู้งาน เดินต้วมเตี้ยมเข้าไปรออคินในห้องนอน กระโดดขึ้นไปนอนบนโซฟานุ่มที่อยู่ปลายเตียง มือของมันข้างหนึ่งพาดไว้บนเตียงนอนของอคิน
พออคินอาบน้ำออกมาเห็นแมวอ้วนอยู่ประจำที่ก็เดินไปลูบหัวมันเสียทีหนึ่ง เขาจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วกระโดดขึ้นเตียง คว้าเอาตัวเจ้าอินดี้มากอดไว้ ลูบหัวมันไปด้วย และไถมือถือเช็คข่าวสารไปพลาง ๆ
"อินดี้ วันนี้พ่อมีเรื่องน่ากลัวมาเล่าให้ฟัง อยากฟังไหม" ถามไปอย่างนั้น ไม่ได้หวังให้เจ้าอินดี้ตอบอะไร มันทำเพียงเงยหน้ามองอคิน ไม่นานก็สะบัดหน้าหนีซุกเข้ากับผ้าห่มของเขาไปแล้ว
"เมื่อเย็นพ่อขับรถชนลูกแมว แต่พ่อไม่ได้ตั้งใจนะ แล้วพ่อก็พาน้องไปหาคุณหมอแล้วด้วย น้องใกล้จะหายแล้วล่ะ" อคินค่อย ๆ เล่าทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเจ้าอินดี้ไม่ฟังเขา
พอนึกถึงลูกแมวตัวนั้นก็อดใจหายไม่ได้ บอกตรง ๆ เขาไม่คิดว่ามันจะรอด เลือดชุ่มจนไม่เห็นสีขนที่แท้จริง ลมหายใจรวยรินแผ่วเบาจนไม่เห็นร่างกายกระเพื่อมไหว อคินถอนหายใจออกมายาวเหยียด เอื้อมมือปิดโคมไฟบนหัวเตียงแล้วลูบหัวเจ้าอินดี้
ไว้ช่วงบ่ายพรุ่งนี้เขาจะไปเยี่ยมเจ้าเหมียวตัวนั้น แม้ไม่ใช่แมวของเขาแต่เขาก็จะไม่ปล่อยปละละเลยให้มันเดียวดาย
"เฝ้าบ้านด้วยนะอินดี้ ไว้พ่อจะซื้อขนมมาฝาก"
เขาทิ้งท้ายประโยคไว้เพียงเท่านั้น ก็คว้ากุญแจรถยนต์มุ่งหน้าไปยังคลินิกที่อยู่ถัดไปจากซอยคอนโดเขาทันที
เมื่อเข้ามาถึงก็ได้รับการต้อนรับจากคนในคลินิกเป็นอย่างดี อคินเดินตามหลังผู้ช่วยคนหนึ่งมายังชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ที่มีสัตว์เลี้ยงหลายชนิดที่กำลังพักฟื้นจากอาการป่วย
หนึ่งในนั้นมีเจ้าเหมียวรอดตายนอนอยู่ในกรงบริเวณมุมห้อง มันไม่ได้หลับ แต่ก็ไม่ได้ขยับตัว มีเพียงการใช้สายตามองมายังอคิน
"หวัดดี" อคินทักทายเจ้าเหมียว บนตัวของมันถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผล มีสายระโยงระยางที่ถูกดึงออกโดยผู้ช่วยประจำคลินิกสด ๆ ร้อน ๆ
อคินค้อมตัวมองมันแล้วใช้ปลายนิ้วแหย่เข้าไปทักทายตามช่องว่างระหว่างกรง เจ้าเหมียวเริ่มขยับตัว ส่งเสียงร้องหง่าวทักทายอคินกลับ
"น้องอาการดีขึ้นมากเลยค่ะ ดีขึ้นมาก ๆ จนน่าตกใจ" ผู้ช่วยประจำคลินิกกล่าว พร้อมกับเปิดกรงแล้วอุ้มเจ้าเหมียวออกมาส่งให้อคิน
"ความจริงวันนี้พาน้องกลับบ้านได้เลยนะคะ น้องไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากขาหลังทางด้านขวาของน้องร้าว"
"ครับ..ต้องรับยาอะไรเพิ่มเติมไหมครับ" อคินเก้ ๆ กัง ๆ ถามผู้ช่วยสลับกับมองเจ้าเหมียวในมือไปด้ว
อะไรกัน..เมื่อวานเลือดท่วมขนาดนั้น แต่วันนี้กลับบ้านได้แล้วเหรอ
แล้วเอากลับวันนี้เลยเนี่ยนะ นี่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของมันสักหน่อย ลองบ่ายเบี่ยงว่าจะมารับวันอื่นแล้วแกล้งลืมเอาไว้ที่นี่เลยดีไหม
แต่ถึงจะไม่ได้เตรียมใจมาหิ้วมันกลับบ้าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอคินแวะซื้อกรงกับอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับแมวมาครบหมดแล้ว
เอาล่ะนะ ก็แค่ให้อาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ ระหว่างนี้เขาจะลองประกาศหาบ้านให้มันก็แล้วกัน มันก็น่ารักอยู่ คงมีคนใจดีติดต่อขอไปเลี้ยง
"อยู่ตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน" อคินวางกรงสีชมพูลงบนโซฟา
เจ้าอินดี้ที่เห็นเจ้าเหมียวก็รีบวิ่งเข้ามาเมียง ๆ มอง ๆ อยู่รอบกรง แมวน้อยมีอาการตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้าอินดี้ ขนาดตัวของพวกมันต่างกันอยู่ประมาณสองไซซ์ อคินยืนมองท่าทีของเจ้าอินดี้ ก่อนจะผละออกไปเทนมใส่ชามอาหารแล้วนำมาให้เจ้าเหมียว
เจ้าเหมียวในกรงเป็นแมวเพศเมียสายพันธุ์ สก็อตติช โฟลด์ หูตั้ง สีของมันออกขาวออกเทาสลับกันจาง ๆ เนื่องจากยังเด็กอยู่มากสีจึงยังไม่ค่อยชัดเจน
ทันทีที่อคินเปิดกรงออก เจ้าอินดี้แมวเจ้าถิ่นก็ยื่นหน้าเข้าใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เจ้าอินดี้ดูอยากผูกมิตรกับเจ้าเหมียวเหลือเกิน แต่เจ้าเหมียวกลับถอยกรูออกไปจนชิดกรงอีกฝั่ง
"อินดี้อย่ากวนน้องนะ น้องป่วยอยู่" เขาตบปุ ๆ ลงบนหัวเจ้าอินดี้เบา ๆ ปิดกรงให้เรียบร้อยแล้วช้อนตัวเจ้าอินดี้ขึ้นมาอุ้ม
"สัญญากันก่อนว่าจะไม่แกล้งน้อง" อคินจับหน้าเจ้าอินดี้ให้หันมาสบตา
"ระหว่างที่พ่อหาบ้านใหม่ให้น้อง อินดี้ต้องช่วยพ่อดูแลน้องนะ โอเคไหม"
อคินทำการตกลงกับเจ้าอินดี้เป็นที่เรียบร้อย แต่อีกฝั่งหนึ่งเจ้าเหมียวกลับชะงัก มันเงยหน้ามองอคินแวบหนึ่ง ก่อนจะผละออกจากชามนมแล้วนอนลงทบทวนสิ่งที่อคินพูด
บ้านใหม่อย่างนั้นหรือ บ้านใหม่ที่ว่าคือที่ไหน จะมีผู้ชายคนนี้ด้วยหรือเปล่านะ
เจ้าเหมียวครุ่นคิดอยู่ในใจ พอสงสัยมาก ๆ ก็หลุดร้องเมี้ยวออกมาเรียกร้องความสนใจจากอคิน
"ไม่กินล่ะ กินอีกเร็วเจ้าตัวเล็ก" อคินคะยั้นคะยอ วางเจ้าอินดี้ลงแล้วหันไปสนใจเจ้าเหมียวในกรง
"ถ้าไม่หายจะไม่มีใครรับแกไปเลี้ยงนะ"
พอได้ยินอย่างนั้นเจ้าเหมียวก็ประท้วงร้องดังหง่าว ๆ ขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาลูบหัวมันแล้วค่อย ๆ หลอกล่อให้มันกินนมไปด้วย
ลิ้นเล็ก ๆ สีชมพูแตะเข้าที่น้ำนมสีขาว พออคินเอ่ยชมว่าเก่งมาก เจ้าเหมียวก็เริ่มเลียกินน้ำนมมากขึ้นตามคำชมไปด้วย
เขาใช้เวลาขลุกอยู่กับเจ้าเหมียวนี่ร่วมสองชั่วโมง พอนึกขึ้นได้ก็หยิบมือถือขึ้นมากดเข้าเฟซบุ๊คแล้วประกาศหาคนใจดีในเพจคนรักแมวมารับเลี้ยงเจ้าเหมียวไป
ผ่านไปยี่สิบนาทีมีคนกดถูกใจเพียงเจ็ดคน มีสองถึงสามคอมเมนต์ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าอยากเลี้ยง แต่ไม่สามารถเลี้ยงได้ เนื่องจากที่บ้านไม่อนุญาต
อคินลองประกาศไปเรื่อย ๆ ประกาศทุกช่องทางที่เข้ามีอย่างเต็มที่ แต่ทุกคนล้วนยังไม่มีใครออกมารับเลี้ยงมัน
อคินเลยเพิ่มความสนใจโดยการถ่ายรูปเจ้าเหมียวสองสามภาพ แล้วกดเพิ่มรูปเพื่อเพิ่มการตัดสินใจให้ผู้ที่สนใจ
แต่ก็เท่านั้น ไม่มีใครอยากรับเลี้ยงน้องแมวที่ไม่แข็งแรง หากถามว่าแล้วทำไมเขาถึงไม่เลี้ยงไว้เองก็คงบอกได้แค่ว่าเขาไม่อยากมีภาระเพิ่ม
แค่เจ้าอินดี้ที่เลี้ยงอยู่ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีเวลาให้อยู่แล้ว หากเลี้ยงเจ้าเหมียวนี่ด้วยก็คงจะไม่มีเวลามากเข้าไปอีก เจ้าเหมียวยังเล็ก ยังต้องการการดูแลเอาใจใส่ เขาไม่อยากเอามันมาแล้วทิ้งขว้าง แต่ดู ๆ ไปแล้วตอนนี้ยังไม่มีผู้ใจดีคนไหนที่จะรับเจ้าเหมียวไปเลี้ยงเสียที
"ถ้าไม่มีใครเลี้ยงแกงั้นฉันจะพาแกไปปล่อยวัดนะ"
"เมี้ยวววว!!" เจ้าเหมียวร้องท้วงเสียงดัง อาการของมันดูตื่นตระหนกทันทีที่อคินพูดจบ
เจ้าเหมียวรู้ดีว่าวัดที่อคินว่าเป็นอย่างไร ที่นั่นมีแต่คนใจร้าย ถ้าอคินพากลับไปที่วัดเจ้าเหมียวต้องโดนพวกหมาขี้เรื้อนไล่กัดอีกแน่
ไม่เอาหรอก น่ากลัวจะตาย ถ้าอคินพากลับไปจริง ๆ สู้กระโดดให้รถชนตายไปเลยยังดีกว่า
"เมี้ยว! เมี้ยว! เมี้ยววว!" เจ้าเหมียวเริ่มหนักข้อ ทั้งร้องท้วงและเริ่มตะกุยกรง มันร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ จนอคินตกใจ เจ้าอินดี้ที่นอนอ้วนอยู่บนพื้นก็ดีดตัวขึ้นมามอง
อคินรีบเปิดกรงแล้วดึงเจ้าเหมียวมาไว้บนตัก ทันทีที่อยู่บนตักของอคินเจ้าเหมียวก็ถูหน้าอย่างออดอ้อน มือน้อย ๆ กางกรงเล็บเกี่ยวเสื้ออคินไว้
มันไม่ยอมแน่ถ้าอคินจะพาไปทิ้งไว้ที่วัด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่มีวันกลับไปเหยียบที่นั่นอย่างแน่นอน
"เป็นอะไรน่ะ เมื่อกี้ร้องทำไม" อคินถาม ใช้มือลูบตั้งแต่หัวของมันมาจนถึงกลางหลัง
เจ้าเหมียวดิ้นขลุกอยู่บนตักเขา เกี่ยวจนเส้นใยเสื้อของเขาลุ่ยติดปลายเล็บมันออกมาด้วย อคินตีแปะลงที่มือเจ้าเหมียวเบา ๆ รวบแขนมันไว้ไม่ให้ทำร้ายเสื้อเขาไปมากกว่านี้
"อย่าทำลายข้าวของ ไม่งั้นจะพาไปปล่อยวัดจริง ๆ นะ" อคินไม่ได้ขู่ เขาพูดจริง หากมันยังข่วนเสื้อของเขาไม่เลิก เขาจะยัดมันใส่กรงแล้วเอาไปไว้ที่วัดเสียตั้งแต่ตอนนี้
พอได้ยินน้ำเสียงเข้ม ๆ ของอคินเจ้าเหมียวก็สงบลง มันช้อนตาขึ้นมองอคินเป็นระยะแล้วซุกหน้าไว้บนหน้าท้องของอคิน ร้องเมี้ยว ๆ เถียงเขาแผ่วเบาไม่ขาดปาก อคินเคาะนิ้วบนหัวของมันแล้วส่ายหน้า
"รู้จักหรือไงวัดน่ะ" เขาถามมันเจือเสียงติดตลก หมาแมวนี่โดนขู่เอาไปปล่อยวัดทีไรอาการเป็นแบบนี้แทบจะทุกตัว
อคินนึกขัน เจ้าเหมียวนี่ก็น่ารักเหมือนกันล่ะนะ นึก ๆ ดูแล้วเขาก็อยากจะเลี้ยงมันขึ้นมาแล้วสิ แต่เจ้าอินดี้จะโอเคหรือเปล่า รายนั้นโตกว่าเจ้าเหมียวนี่ตั้งเยอะ แล้วแถมเจ้านี่เป็นแมวตัวเมีย เกิดเจ้าอินดี้มันป้าบ ๆ น้องขึ้นมาก็พากันออกลูกออกหลานไว้ให้เขาเลี้ยงจนวุ่นวาย
ทีนี้ล่ะ กลายเป็นคุณปู่เต็มตัวเลยนะ
"เฮ้อ.." พออคินถอนหายใจเจ้าเหมียวก็ช้อนตามองเขาทันที
เขาจับลูกแมวน้อยกลับเข้าไปในกรง มองมันสลับกับเจ้าอินดี้และก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด
"อยากเลี้ยงอยู่หรอกนะ" พอได้ยินแบบนั้นเจ้าเหมียวก็หูตั้งเงยหน้ามองอคินทันที
ได้ยินคำว่าเลี้ยงก็นึกดีใจว่าอีกฝ่ายจะเอ็นดู เจ้าเหมียวรู้ดีว่าอคินขับรถชนตัวเอง แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอคินเพราะรู้ดีว่าอคินไม่ได้ตั้งใจ
แถมอคินยังพาไปหาคุณหมอ ตอนเช้าก็ไปเยี่ยม ไม่พอยังซื้อกรงกับของเล่นให้อีกด้วย อคินใจดี อคินไม่ได้ตั้งใจทำให้บาดเจ็บสักหน่อย
ถ้าอคินให้อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งดี เจ้าเหมียวจะเป็นแมวน้อยที่น่ารัก จะช่วยอคินเลี้ยงเจ้าแมวอ้วนตัวนั้น และจะช่วยอคินทำงานบ้านด้วย
"คอยดูก่อนแล้วกัน ถ้าวันสองวันนี้ไม่มีใครมาขอแกฉันก็จะให้อยู่ด้วย"
จากหูที่เคยตั้งอยู่แล้วก็ตั้งมากขึ้นไปอีก ดวงตากลม ๆ ระริกระรี้มองหน้าอคินไม่วางตา เจ้าเหมียวเพียรขอต่อพระเจ้า ขอให้ไม่มีใครอยากเลี้ยงตนเพราะว่ามันอยากอยู่กับอคิน
และแล้วคำขอที่เพียรขอมาร่วมสามวันเต็ม ๆ ก็สัมฤทธิ์ผล
อคินลบประกาศตามหาบ้านให้เจ้าเหมียวออกจากทุกช่องทางที่เขาเคยโพสต์เอาไว้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว งั้นเขาจะเลี้ยงเจ้าตัวเล็กนี่ไว้เป็นลูกสาวอีกสักตัวก็แล้วกัน
หลังจากตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อย อคินก็ปลีกตัวไปอาบน้ำ ก่อนจะลุกไปก็ไม่ลืมที่จะเปิดประตูกรงเอาไว้ เผื่อว่ายัยลูกสาวป้ายแดงอยากจะออกมาเดินเล่น
แต่ไม่ทันที่สาวน้อยจะก้าวเท้าออกมา เจ้าอินดี้แมวอ้วนก็เสนอหน้าเข้าไปยุ่มย่ามก่อนแล้ว เจ้าอินดี้ใช้จมูกถูไถไปบนแก้มเจ้าเหมียว หนักเข้าพอทนรำคาญไม่ไหวสาวเจ้าก็สะบัดหน้าหนี แล้วใช้ขาหน้าดันกรงให้ปิดลง
เจ้าอินดี้งวยงง ก็แค่จะเข้ามาเล่นด้วย ยัยเด็กนี่ก็ไม่น่าตัดสัมพันธ์กับมันขนาดนี้
"เมี้ยววววว.."
พอสัมผัสได้ว่าอคินเดินออกมา ยัยตัวเล็กก็ร้องเรียกเสียงหวาน ท่อนบนเขาเปลือยเปล่า แผ่นอกพราวระยับไปด้วยหยดน้ำ ท่อนล่างถูกพันไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวสีดำ เจ้าของห้องยกยิ้มเมื่อเห็นแมวน้อยตะกุยกรงอยากออกมาหาเขา
อคินเปิดกรงแล้วจับเจ้าเหมียวออกมานอนบนตักของตนเอง เจ้าแมวน้อยไม่ประสาก็ขยับตัวบนหน้าขาของเขา อะไรต่อมิอะไรที่อยู่ใต้ผ้าก็นุ่มนิ่มเต็มสองขาหน้ายัยเหมียวไปหมด
เจ้าแมวก็ไม่รู้ความ ขยับยุกยิกอยู่ตรงนั้นไม่หยุดนิ่ง ส่วนเจ้ามนุษย์ก็เพิกเฉย ปล่อยให้ยัยเหมียวยุ่มย่ามกับตรงนั้นของตนเอง แล้วหันไปคว้ารีโมทมาเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ
"เมี้ยว เมี้ยว" เจ้าเหมียวร้องเรียก อคินลูบหัวมันเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
"หิวเหรอตัวเล็ก"
"เมี้ยววววว.."
"เดี๋ยวขอไปแต่งตัวก่อนนะ แล้วจะพาไปกินนมนอน"
พูดจบก็ปิดโทรทัศน์ แล้ววางเจ้าเหมียวลงบนโซฟา พออคินลุกขึ้นเจ้าเหมียวก็กระโดดดึ๋งเดินตามเขาไปด้วย เขาเห็นยัยลูกสาวเดินตามมาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมร้องเรียกเจ้าลูกชายให้เข้าห้องมาด้วยกัน
หลังจากแต่งตัวเสร็จก็อุ้มเจ้าเหมียวมากินนม วางยัยตัวเล็กบนเคาน์เตอร์ครัว มองดูลิ้นสากสีชมพูเล็ก ๆ เลียนมอยู่สักพัก เจ้าเหมียวก็ร้องม้าวให้เขาอุ้ม
อคินพาเจ้าเหมียวกลับเข้ามาในห้องนอน เจ้าอินดี้นอนรออยู่ก่อนแล้วที่ปลายเตียง เขาวางยัยตัวเล็กลงข้างหมอน ตะแคงตัวลูบหัวมันเบา ๆ พอให้เคลิ้ม
"สรุปว่าจะเลี้ยงนะ" อคินการันตีข่าวดีให้เจ้าเหมียวใจชื้น มันร้องตอบรับเขาแล้วซุกหน้าลงบนแขนแกร่ง
"อันดับแรกก็ต้องตั้งชื่อ ชื่ออะไรดีละหืม" อคินถามความเห็น ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าเหมียวก็ทำเพียงแค่ร้องเมี้ยว ๆ ตอบกลับไป
"ฉันชื่ออคิน ส่วนเจ้าอ้วนนั่นชื่ออินดี้ ส่วนแก..อืม.."
"เมี้ยววววว.."
"อันดา ชื่ออันดาก็แล้วกัน"
"..."
"ไม่ชอบเหรอ" เขาถามทันทีที่เจ้าเหมียวดูนิ่งไป
"เมี้ยววววว.."
"ไม่ชอบเหรอ" เขาถามย้ำ
"เมี้ยว! เมี้ยววว! เมี้ยววววว!" เจ้าอันดาโวยวาย อคินหัวเราะในลำคอแล้วใช้นิ้วเคาะบนหัวเจ้าอันดาไปเสียทีหนึ่ง
"หึ ๆ ชอบไม่ชอบก็จะให้ชื่ออันดา ไม่ต้องบ่นมาก นอนซะ" พูดจบก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเจ้าอันดาเอาไว้ มันขยับซุกอคินเพื่อหาความอบอุ่น ขาหน้าของมันวางอยู่บนแขนอคิน เขาลูบหัวมันแล้วหันไปปิดโคมไฟ ก่อนค่ำคืนนี้จะเข้าสู่ห้วงนิทรา ก็กล่าวบอกเอาไว้ให้เจ้าอันดาเตรียมตัว
"ไว้วันเสาร์จะพาไปฉีดยา"
to be continued..
ความคิดเห็น