คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 04 - Lovefool
CHAPTER 04 - Lovefool
เวลาตกหลุมรัก คนเรามักจะโง่...
[หลังจากวันที่เขาจูบฉันเขาก็ทำตัวแปลกๆ...]
ประโยคบอกเล่าจากปลายสายตอบคำถามของซึงวานที่เพิ่งถามว่า’เป็นอะไร?’ออกไป คำตอบจากซึลกิไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจแต่กระนั้นเธอก็อดกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกระอักกระอ่วนไม่ได้ ซึงวานทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองก่อนจะเอ่ยตอบเพื่อนสนิทอย่างตะกุกตะกัก
“ท-ทำไมคิดงั้น?”
[แกคิดดูสิ นี่วันพุธแล้ว เขาไม่ส่งข้อความมาหาฉันตั้งแต่วันอาทิตย์แถมยังไม่ตอบที่ฉันส่งไปด้วย เวลาไปซ้อมวงด้วยกันตอนเย็นเขาก็ไม่ค่อยสนใจฉัน เหมือนพยายามหลบหน้าด้วยซ้ำ]
[ฉันทำอะไรผิดรึเปล่าวะ? จูบฉันมันแย่ขนาดนั้นเลย?]
ซึลกิคิดไปต่างๆนาๆ ถึงตอนนี้ซึงวานและซึลกิก็ยังแกล้งทำเป็นทะเลาะกันอยู่เลยทำให้ไม่ได้คุยกันเวลาอยู่ที่โรงเรียน จะได้อัพเดทชีวิตกันก็แค่ตอนเย็นที่คุยโทรศัพท์กันเท่านั้น ในจุดนี้ซึงวานเข้าใจว่าทำไมซึลกิถึงกังวล ก็เจ้าชายในฝันที่ดูเหมือนกำลังจะพาหล่อนเข้าปราสาทอยู่ๆเล่นกลายเป็นเจ้าชายเย็นชาที่เตรียมจะขี่ม้าหนีไป เป็นใครก็งงกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ซึงวานแน่...เธอรู้อยู่แก่ใจว่าที่แทยงหลบหน้าซึลกินั้นมาจากเหตุผลอะไร
“ฉันว่ามันไม่เกี่ยวหรอก แล้วก็ไม่คิดว่าจูบแกจะแย่ด้วย”
ซึลกิเงียบ และซึงวานเพิ่งจะรู้ตัวว่าพูดอะไรแปลกๆออกไป ไม่คิดว่าจูบของซึลกิจะแย่งั้นเหรอ? คิดอะไรอยู่ซน ซึงวาน?
[ฉันควรทำไงดีซนซึง?]
ขอบคุณพระเจ้าที่ซึลกิไม่ได้คิดมากกับคำพูดเมื่อครู่ของเธอ ซึงวานเงียบไปพักใหญ่ด้วยไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง เธออยากบอกให้ซึลกิตัดใจจากแทยงตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันไม่เก่งพอจะบอกแกว่าแกควรทำยังไง แต่ฉันอยู่ข้างแกได้ตลอดนะ”
[ซนซึงอา...]
“หืม?”
[ซึงวาน...]
“อะไร”
ซึลกิไม่ได้ตอบคำถามนั้นและซึงวานก็ไม่ได้คิดจะถามอีก ซึลกิไม่ค่อยพูดว่าขอบคุณหรือพูดชมเธอบ่อยนักหรอก แต่ซึงวานจำน้ำเสียงแบบนั้นได้ เวลาซึลกิอยากจะขอบคุณหล่อนมักจะเรียกชื่อเธอซ้ำๆและมองด้วยสายตาน่าขนลุก ปกติซึงวานจะแค่บอกให้หล่อนหยุดทำหน้าแบบนั้นและยิ้มแทนคำว่า’ไม่เป็นไร’ แต่ตอนนี้ที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน ซึงวานได้แต่ยิ้มกับตัวเองและปล่อยให้เกิดความเงียบระหว่างเธอทั้งสองคน
เนิ่นนานจนซึงวานคิดว่าปลายสายหลับไปแล้ว เธอจึงคิดจะวางสายจากซึลกิ แต่เหมือนทั้งคู่จะใจตรงกันเพราะเธอได้ยินเสียงเบาๆของซึลกิเล็ดลอดออกมาก่อน
[ซึงวานอา ขอบคุณนะ]
แล้วหล่อนก็เป็นฝ่ายตัดสายไป ซึลกิคงจะคิดว่าเธอหลับไปแล้วเหมือนกันเลยทำแบบนั้น ซึงวานมองจอโทรศัพท์ รับรู้ว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดเต็มที เธอยิ้มให้กับมันอีกครั้ง
ไม่เป็นไรเลยซึลกิ ฉันเต็มใจ ไม่เป็นไรเลย...
ซึลกิรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่...
หลังจากเดทไอศกรีมของซึลกิและแทยงเกิดขึ้น ซึลกิไม่ได้เล่ามันให้ใครฟังนอกจากซึงวาน เธอคิดว่าเรื่องของเธอและแทยงกำลังคืบหน้า
ซึลกิไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เท่าไหร่นัก ทั้งแทยงที่ก่อนหน้านี้ทำท่าเหมือนจะจีบเธอแต่ตอนนี้กลับไม่สนใจเธอเสียอย่างนั้น ทั้งเพื่อนสนิทอย่างซึงวานที่ไม่ได้พูดอะไรแต่ก็เหมือนมีอะไรที่อยากจะพูด ซึลกิเริ่มกลัวว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซึงวานจะไม่เหมือนเดิมเพราะเกมบ้าๆนี่ เกมที่เธอเป็นคนเริ่มขึ้นมาเอง
อีกสองวันข้างหน้าจะมีงานคืนสู่เหย้าที่โรงเรียนจัดขึ้นและซึลกิก็ต้องไปเป็นนักร้องนำให้กับวงของแทยง บรรยากาศการซ้อมวงตอนเย็นหลังเลิกเรียนวันนี้ดูเครียดกว่าที่ผ่านมาด้วยเหตุผลที่ว่างานกำลังใกล้เข้ามา และอีกเหตุผลสำคัญที่ว่านักร้องนำจำเป็นทนต่ออาการเฉยเมยจากเพื่อนร่วมวงผู้มีหน้าที่เล่นกีต้าร์ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ตั้งแต่เจอกันกับแทยง ซึลกิพยายามจะทักทายและชวนคุยแต่เขาก็ถามคำตอบคำและมีท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ซึลกิเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางที่เปลี่ยนไปเหล่านั้น ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนที่จะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้งานส่วนรวมเสีย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึลกิฝืนร้องเพลงไปได้ไม่ถึงครึ่งเพลง เธอหันไปสบตากับแทยงแต่เขาก็หลบตาทั้งที่แต่ก่อนเขาจะยิ้มให้เธอเสมอ สุดท้ายซึลกิเลยปล่อยให้เสียงร้องของเธอเงียบไป เมื่อทุกคนในวงรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นพวกเขาก็หยุดเล่น ซึลกิมองที่แทยงอีกครั้ง เขาไม่พูดอะไร เธอจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องซ้อมโดยไม่บอกเหตุผลกับใครทั้งสิ้น
เธอหงุดหงิดเกินไป. ...ต้องการคำอธิบาย
เรื่องน่าตกใจที่เกิดตามมาก็คือแทยงเป็นคนแรกที่ตามซึลกิออกมาจากห้องซ้อมนั่น ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายหายไปก่อน ทั้งที่ทำเหมือนไม่แคร์เธอแล้ว
“ซึลกิ เป็นอะไร?”
แทยงคว้าข้อมือของซึลกิให้หันหน้ามาคุยกัน เธอหยุดเดินและดึงมือออกจากฝ่ามือของแทยง
“เธอนั่นแหละเป็นอะไร?” คำตอบของคำถามนั้นมีแต่ความเงียบ แทยงทำท่าอึดอัดอีกครั้งและซึลกิก็ยิ่งหงุดหงิด
“ทำไม่ต้องหลบหน้า ไหนบอกว่าชอบเราไง เราทำอะไรผิดวะ?”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิด”
แทยงตอบแค่นั้น ซึ่งมันไม่ได้ช่วยสร้างความรู้ให้ซึลกิขึ้นมาเลยสักนิด เธอต้องการอะไรที่มากกว่านี้ หรือว่าเธอเผลอไปทำอะไรไม่ดีไว้ หรือว่าเขาแค่ไม่ได้ชอบเธอขึ้นมาเอง แค่ในเวลาไม่กี่วัน
“กลับไปซ้อมกันเถอะนะ” แต่เขากลับพูดแค่นั้น พอเถอะ พอเสียที...
“ไม่คิดจะอธิบายอะไรเลยใช่มั้ย?”
“ถ้าเธอรู้เหตุผลตอนนี้เธอคงจะเกลียดเราไปเลย แค่...ขอให้เราเล่นคอนเสิร์ตด้วยกันให้เต็มที่ก่อนได้มั้ย ถึงตอนนั้นเราจะอธิบายทุกอย่าง ตอนนี้แค่ลืมมันไปก่อนได้มั้ย”
แทยงกลัวว่าซึลกิจะไม่เต็มที่เพราะเขาบอกเหตุผลที่หลบหน้าเธออย่างนั้นหรือ?
ไม่ว่าเธอจะรู้ตอนนี้หรือรู้หลังจากนี้มันก็คงไม่ทำให้ซึลกิอารมณ์ดีได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว เธอยอมจะรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร(หรือเขาทำผิดอะไร)แล้วช่วยกันแก้ไขมากกว่าจะแกล้งทำเป็นลืมมันไปอย่างที่แทยงบอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก...
“บอกมาเถอะ ถ้าเราไม่ได้รู้ตอนนี้เราก็คงทนเล่นคอนเสิร์ตกับเธอไม่ไหวเหมือนเมื่อกี๊อยู่ดี เราแค่อยากรู้ว่าเราทำอะไรผิดแล้วเราจะทำให้มันดีขึ้นได้มั้ย เราไม่อยากโง่แล้ว”
“บอกเถอะ เราจะไม่เอาเรื่องนี้มาทำให้คอนเสิร์ตพัง...จริงๆนะ”
แทยงถอนหายใจ ในตอนนั้นสมาชิกคนอื่นในวงเริ่มตามแทยงออกมาเมื่อรู้สึกว่าเขาและซึลกิชักจะออกไปนานพอสมควรแล้ว เมื่อเห็นว่าซึลกิและแทยงยังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลก็เว้นระยะห่างเอาไว้ โดยองผู้มีหน้าที่เป็นมือกลองมีสีหน้างงงวยเล็กน้อย ต่างกับแจฮยอนที่มองเธอและแทยงนิ่ง ดูกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้า
ไม่นานซึลกิก็ได้รู้ว่าทำไมแจฮยอนมีท่าทางแบบนั้น แทยงบอกความจริงทั้งหมดกับซึลกิด้วยเห็นว่าถ้ายิ่งปิดมันต่อไปซึลกิก็ยิ่งไม่สบายใจอยู่ดี เขามีความจริงเพียงแค่อย่างเดียวที่เคยบอกซึลกิคือเขาอยากให้เธอมาร้องเพลงให้กับวงของเขา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นซึลกิไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะโกหกเธอทั้งหมด เธอเงียบไปพักใหญ่ด้วยความสับสนและเสียความรู้สึก เธอถามว่าทำไมเขาถึงคิดจะมาบอกความจริงเอาตอนนี้ ทั้งที่โกหกมาจนเกือบจะสำเร็จแล้ว ซึลกิเกือบจะชอบเขาเข้าเต็มหัวใจไปแล้ว
“ซึงวาน...บังเอิญรู้เรื่องเรากับแจฮยอนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาโกรธมากแล้วก็บอกให้เราบอกความจริงกับเธอให้เร็วที่สุด”
“เราเข้าใจนะถ้าต่อไปเธอจะเกลียดเรา นี่มัน...ไม่น่าให้อภัยเลย”
ใช่...มันไม่น่าให้อภัยเลย
แต่ซึลกิไม่สามารถบอกว่าตัวเองเกลียดแทยงได้เต็มปาก นั่นเธอเริ่มจะเกลียดตัวเอง เธอเกลียดที่ยังทำใจให้เกลียดเขาไม่ได้ และซึงวาน...ซึลกิเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ซึงวานดูเหมือนอยากจะพูดก่อนหน้านี้คืออะไร ที่หล่อนบอกว่าหล่อนจะอยู่ข้างซึลกิได้ตลอด ซึลกิโง่เหลือเกินที่ไม่เคยรู้ว่าซึงวานทำเพื่อเธอมามากขนาดไหนและเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน
มันมากเสียจนคำว่าขอบคุณที่เธอให้ไปยังไม่สามารถทดแทนได้หมด
ค่ำนั้นซึลกิสับสนเกินกว่าจะทำอะไรอย่างที่คนทั่วไปมักจะทำกันในคืนวันศุกร์ เธอจำได้ว่าพยายามจะเดินกลับบ้านของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับมาจบด้วยการที่เธอยืนอยู่หน้าบ้านซึงวานที่ห่างออกไปไม่มาก ซึลกิแค่คิดถึงซึงวานมากกว่าที่เคย
เป็นแม่ของซึงวานที่มาเปิดประตูให้ และเมื่อหล่อนเห็นหน้าที่คุ้นเคยของซึลกิก็บอกให้เธอเข้าไปในบ้านและจะไปบอกลูกสาวให้ว่าเธอมาหา แต่ซึลกิยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหนจนซึงวานเดินออกมาหาถึงประตูบ้าน แล้วซึลกิก็คิดถึงซึงวานมากกว่าเดิม...
หมับ!
ซึลกิโผเข้ากอดเพื่อนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อและเอ่ยปากถามว่าเธอเป็นอะไรซ้ำๆ เพิ่งรู้สึกตัวเดี๋ยวนั้นเองว่าน้ำตากำลังไหล ทั้งที่ไม่อยากจะร้องไห้ให้ซึงวานเป็นห่วงแท้ๆ
“ขอโทษ...” ซึลกิพูดเสียงอู้อี้กับไหล่เล็กของซึงวาน
“เป็นอะไร ขอโทษทำไม”
“ขอโทษนะซึงวาน”
“เฮ่ย เป็นอะไร ไอ้หมี...ร้องไห้เหรอ?”
“ขอโทษจริงๆนะ ฉันทำให้แกลำบากตลอดเลย”
“ทั้งที่ไม่มีใครดีกับฉันเท่าแก”
จบประโยคนั้นซึลกิก็สะอื้นหนักจนพูดต่อไม่ได้ ซึงวานได้แต่ยกมือขึ้นมาลูบหลังเพื่อนเพื่อปลอบและเริ่มเข้าใจว่าทำไมซึลกิถึงเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นซึงวานก็บอกให้ซึลกิโทรบอกที่บ้านว่าคืนนี้จะค้างที่บ้านของเธอเพราะดูท่าแล้วคงจะปล่อยให้หล่อนกลับไปนอนร้องไห้คนเดียวไม่ได้
ซึงวานรู้ว่าซึลกิรู้เรื่องแทยงก่อนที่เจ้าตัวจะพูดออกมาเสียอีก หล่อนเอาแต่ขอโทษที่ทำให้เธอลำบากและต้องมาเล่นละครงี่เง่านี่ด้วยกันตั้งแต่ร้องไห้เสร็จจนตอนนี้ที่เธอทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ซึงวานทำรามยอนให้ซึลกิเป็นมื้อเย็น บอกให้อาบน้ำและให้ยืมชุดนอนตัวโคร่งของเธอ และตอนนี้เธอก็พยายามจะบอกให้ซึลกิพักผ่อนเพราะหล่อนเจออะไรมามากแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังได้ยินเสียงที่เล็ดลอดออกมาในความมืดอยู่ดี
“ขอโทษนะที่มารบกวน”
ซึลกิคิดมากจนฟุ้งซ่านไปแล้ว ถึงแม้เธอสองคนจะนอนหันหลังให้กันแต่ซึงวานก็รู้ว่าสีหน้าของเพื่อนคงแย่มากตอนที่พูดประโยคนั้นออกมา
“รบกวนอะไรกัน ฉันดีใจนะที่แกมาหา”
“แกจำไม่ได้เหรอที่ตอนประถมแกชอบกันพวกที่แกล้งฉันออกไปแล้วก็บอกว่าถ้าโดนแกล้งอีกเมื่อไหร่ให้ไปบอกแก แกจะจัดการพวกมันให้”
“ฉันก็แค่ทำอย่างที่แกเคยทำ...จัดการทุกอย่างที่ทำให้แกเศร้า”
ซึงวานยังจำภาพขอเด็กตาตี่ตัวผอมคนหนึ่งที่ห้าวยิ่งกว่าเด็กผู้ชาย ยอมมีเรื่องกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ในห้องเพื่อปกป้องเพื่อนตัวอวบคนเดียวของเธอด้วยเหตุผลว่าเธอชอบเล่นกับซึงวานที่สุด
“ขอบคุณนะซึงวานอา”
ซึลกิเอ่ยคำที่ไม่ค่อยได้บอกกับซึงวานออกมาอีกครั้ง ซึงวานพึมพำเบาๆว่า’ไม่เป็นไร’ก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบไป ซึงวานรอจนได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของซึลกิก็วางใจว่าหล่อนหลับสนิทไปแล้ว
ในตอนนี้เพื่อนตัวอวบคนนั้นอยากจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเด็กตาตี่จากทุกคนที่ไม่ดีกับเธอ เพราะต่อให้ใครจะนิสัยดีกว่ายังไงซึลกิก็เป็นเพื่อนที่ซึงวานชอบเล่นด้วยมากที่สุดเช่นกัน
เมื่อถึงวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ซึลกิต้องไปเล่นคอนเสิร์ตในงานคืนสู่เหย้า ซึงวานยอมแต่งสวยเพื่อไปเป็นคู่เดทของซึลกิทั้งที่ความจริงแล้วเธอเกลียดงานแบบนี้ยิ่งกว่าอะไร แต่ที่ยอมไปก็เพราะเธอไม่อยากให้ซึลกิไปเจอกับเพื่อนร่วมวงแล้วอึดอัดอยู่คนเดียว เธอจำเป็นต้องอยู่ตรงนั้น
ขณะที่ซึงวานและซึลกิไปถึงสถานที่จัดงานนั้นยังไม่ถึงเวลาที่วงของแทยงต้องขึ้นไปเล่น เมื่อเขาเห็นซึลกิก็รีบเดินเข้ามานัดเวลารวมตัวที่หลังเวทีก่อนจะรีบหายไปจากตรงนั้นด้วยไม่อยากให้เกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างเขากับซึลกิอีก แต่เพราะงานนี้ไม่ใช่งานใหญ่อะไร ต่อให้แทยงเดินไปไกลถึงอีกฟากของโถงที่ใช้จัดงานซึลกิและซึงวานก็เห็นเขากับแจฮยอนที่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างชัดเจน
คนอื่นคงคิดว่าแทยงกับแจฮยอนก็แค่สนิทกันเลยอยู่ด้วยกันตลอด และก็คงคิดว่าซึลกิกับซึงวานคืนดีกันแล้วจึงมางานพรอมด้วยกัน แต่ความจริงทั้งหมดก็มีเพียงแค่ตัวของพวกเธอและพวกเขาเองเท่านั้นที่รู้ ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ซึลกิรู้สึกก็มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้...
“ซึลกิหายไปไหน อีกสิบห้านาทีเราต้องไปเตรียมตัวแล้วนะ”
เสียงของแทยงดึงความสนใจของซึงวานที่กำลังนั่งเหม่อมองคนในงานให้หันมาสนใจ เธอเลิกคิ้วและหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาซึลกิแต่ก็พบว่าหล่อนไม่ได้อยู่ในงานเสียแล้ว. ..เมื่อกี้ยังบอกว่าจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้อยู่เลย
“ลองโทรหารึยัง?” แทยงพยักหน้าก่อนจะบอกว่าหล่อนไม่รับสาย ซึงวานลองโทรบ้างแต่หล่อนก็ไม่รับเหมือนกัน เสนอตัวจะไปหาที่ห้องน้ำให้แต่แล้วก็ยังไม่เจอเหมือนเดิม
หายไปไหนนะ?
หลังจากนั้นซึงวานกับสมาชิกในวงก็วิ่งวุ่น ซึลกิไม่ได้อยู่ในงานแล้ว พวกเธอจำเป็นต้องออกจากห้องโถงไปหาที่อื่นในโรงเรียนแทนแต่ก็ยังไม่มีใครพบซึลกิ ซึงวานลองโทรไปถามที่บ้านของซึลกิว่าหล่อนกลับไปแล้วหรือเปล่าและคำตอบก็ยังเป็นคำว่าไม่ พยายามคิดถึงสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ว่าซึลกิจะอยากไปในตอนนี้ก็เหลืออยู่เพียงที่เดียว...
“แก...โอเคปะวะ?”
ซึงวานส่งเสียงถามคนที่ยืนหันหลังให้เธอและเท้าแขนกับรั้วของดาดฟ้าตึกดุริยางค์ ทั้งที่ด้านล่างของตึกเปิดไฟแค่ไม่กี่ดวงแต่ซึลกิก็ยังอุตส่าห์หนีขึ้นมาถึงที่นี่. ..ดูท่าจะไม่สบายใจมากจริงๆ
ภายใต้แสงจากสปอตไลท์บนยอดตึก ซึงวานมองเห็นใบหน้าที่หันมาหาเธอของซึลกิอาบไปด้วยน้ำตา ทั้งสองคนยืนนิ่งโดยเว้นระยะห่างไว้อย่างนั้นพักใหญ่ ก่อนที่ซึงวานจะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้เพื่อนสนิท
“แกต้องลงไปร้องเพลงแล้วนะ ถึงตอนนั้นมองแค่ฉันก็พอ”
พูดพลางเอื้อมมือทั้งสองไปประคองแก้มของซึลกิและใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาของหล่อนออก ซึลกิเป็นคนเข้มแข็งกว่าซึงวานมาตลอด ถึงตอนนี้ที่หล่อนอ่อนแอซึงวานก็จำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อหล่อน
“ฉันไม่อยากร้องไห้” ซึลกิหลุบตามองตามนิ้วของคนตรงหน้าที่ไล้แก้มของตัวเองเชื่องช้า
“ฉันรู้ แกไม่ร้องไห้หรอก แกมากับแฟนทั้งคนนะเว่ย” พูดจบคนขี้แยก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ซึลกิสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อขับไล่ความกังวลและมองหน้าของอีกคน การมีซึงวานอยู่ด้วยในสถานการณ์เลวร้ายมักจะทำให้ซึลกิสบายใจ และยิ่งตอนนี้ที่ซึงวานกำลังมอบความเข้มแข็งให้กับเธอ ซึลกิก็แทบลืมสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้ไปหมด แววตาของซึงวานสว่างไสวยิ่งกว่าแสงไฟจากสปอตไลท์ คำพูดของซึงวานจริงจังจนทำให้ซึลกิเชื่อ
“ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นที่ทำให้แกเศร้า ถึงตอนนั้น...ขอแค่แกมองมาที่ฉันคนเดียวก็พอ”
ซึลกิพยายามทำให้สีหน้าของตัวเองดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เธอคิดมาเสมอว่าแค่ได้ร้องเพลงเธอก็จะมีความสุขไม่ว่าสิ่งต่างๆในตอนนั้นจะแย่มากขนาดไหน แต่ครั้งนี้มันกลับยากกว่าที่เคย
และมันจะยากกว่านี้มากถ้าหากว่าไม่มีซึงวาน ซึลกิทำตามที่หล่อนบอก เธอมองไปที่ซึงวานและไม่คิดจะหันไปมองใครคนอื่น หล่อนยิ้มให้เธอราวกับไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มาก่อน ซึลกิรู้ว่าซึงวานต้องพยายามมากกว่าครั้งที่ต้องตามน้ำเมื่อเธอกุเรื่องเป็นแฟนปลอมนี่ขึ้นมา ต้องพยายามมากกว่าตอนที่หล่อนยืนกอดปลอบเธอจนหยุดร้องไห้ ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันยากสำหรับทุกคน ซึลกิรู้ดี เธอยังไม่สามารถทำใจเรื่องของแทยงได้มากนัก แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ภายในเวลาแค่สองวัน
แต่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกอ่อนแอ ซึลกิก็รู้แล้วว่าควรจะมองไปที่ใคร...
“คู่รักรีเทิร์นไม่ตัวติดกันแล้วเหรอ แปลกนะ”
เสียงที่ดังขึ้นข้างกายดึงความสนใจจากภาพของเพื่อนที่กำลังเล่นดอดจ์บอลกันในสนามของโรงยิมตรงหน้าซึงวาน เมื่อหันไปก็พบว่าผู้พูดคือเด็กหนุ่มต่างห้องที่ต้องเรียนพละรวมกับห้องของเธอในวันนี้ เด็กหนุ่มที่ทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ตามกรี๊ด...แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจผู้หญิงพวกนั้นก็ตาม
“เราไม่ควรคุยกันนะ” ซึงวานพูดกับแทยงก่อนจะขยับออกมาให้ห่างเขาอีกนิด ถ้าคนอื่นเห็นแทยงอยู่กับเธอคงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าซึลกิเห็นคงไม่ดีเท่าไหร่
ซึงวานรู้ว่าประโยคคำถามที่แทยงถามเมื่อกี้ไม่มีจุดประสงค์ในการหาคำตอบจากเธอ หลังจากงานคืนสู่เหย้าจบไปหล่อนก็กลับมาตัวติดกับเธอเหมือนเดิม ครั้งนี้ยิ่งตัวติดกันมากกว่าเดิมเพราะซึลกิกำลังเฮิร์ทหนักและซึงวานก็เป็นคนเดียวที่หล่อนอยากอยู่ด้วย(นั่นทำให้ปัญหาเรื่องพี่คยูฮยอนมางอแงกับซึลกิหายไปอีกครั้ง) ซึลกิบอกกับเธอว่าจะไม่สนเรื่องของแทยงอีกแล้ว แต่ซึงวานสัมผัสได้ว่าซึลกิยังชอบเขาอยู่...อาจจะชอบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“แค่อยากรู้ว่าซึลกิโอเคมั้ย” แทยงถามต่อ ยังอุตส่าห์เป็นห่วง...
“ไม่โอเค ซึลกิมันเป็นคนฝังใจ ชอบใครแล้วคิดนาน คิดมาก”
ซึงวานตอบไปตามตรง สายตาของเธอและแทยงจับจ้องไปที่สนามด้านหน้าคล้ายกับเหม่อลอย ซึงวานยังจำตอนที่ซึลกิอกหักจากแฟนคนแรกเมื่อสองปีที่แล้วได้ไม่ลืม ถึงมันจะเป็นแค่รักของเด็กมัธยมต้นที่ทั้งคู่รู้ว่าจะไม่ยืดยาว แต่พอมันจบลงซึลกิก็เสียใจไปอีกหลายเดือน ซึงวานที่อยู่ตรงนั้นรับรู้เรื่องราวตลอด คอยฟังและอยู่กับซึลกิตลอด เธอรู้ว่ามันแย่แค่ไหนที่เห็นหล่อนร้องไห้ เพราะอย่างนั้นตอนที่รู้ว่าแทยงไม่ได้มาจีบซึลกิเพราะเขาชอบหล่อนเธอเลยโกรธเสียมากมาย
“นายนี่เลวว่ะ” หลุดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปจนได้ แทยงเหลือบมามองซึงวานเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ
“ฉันรู้”
“...”
“ขอโทษ”
ซึงวานหงุดหงิดที่แทยงทำได้แค่นั้น แต่บางส่วนในใจของเธอกลับดีใจที่เรื่องทั้งหมดลงเอยแบบนี้...โดยไม่มีเหตุผล หรืออาจจะมีแต่เธอก็สับสนเกินไปที่หามัน
“ตอนนั้นฉันโคตรโง่ ทำอะไรไม่คิด ตอนนี้ทุกคนเลยแย่ไปหมด”
แทยงยังคงพล่ามต่อไป ซึงวานรู้ว่าเขารู้สึกผิดแต่ตอนนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายเลยได้แต่บอกให้แทยงเลิกยุ่งกับซึลกิอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ล่ะดีแล้ว อีกไม่นานซึลกิก็คงตัดใจได้เอง
“แล้วเธอล่ะ จะตัดใจมั้ย?”
“ตัดใจอะไร?”
“ก็เธอ...ชอบซึลกิไม่ใช่รึไง?”
คำถามนั้นทำให้ซึงวานหันไปสบตากับแทยงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มบทสนทนา เธอเลิกมองหาซึลกิและเลิกสนใจเสียงโหวกเหวกของเพื่อนในโรงยิมไปชั่วขณะ มีแต่คำถามที่ว่าทำไมแทยงถึงคิดแบบนั้น...
“ฉันยอมโกหกว่าเป็นแฟนกับซึลกิไม่ได้แปลว่าฉันชอบมันซะหน่อย” ตอบปัดและเบือนหน้าไปอีกครั้ง ตอนนี้ความคิดในหัวของซึงวานตีกันให้ยุ่ง เธอปฎิเสธแต่กลับมีความรู้สึกเหมือนโดนจับได้ว่าทำผิดมา และเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกอย่างนั้น
“ไม่รู้สิ ตอนที่เธอตบฉันเธอดูโกรธแทนซึลกิมากๆ ในงานพรอมตอนซึลกิหายไปเธอก็ดูกังวลกว่าใคร เวลาที่เธอพูดถึงซึลกิ วิธีที่เธอพูด มันมากกว่าที่ฉันคิดว่าฉันจะทำให้เพื่อนสนิทซักคน”
“นายคงมีเป็นร้อย แต่ซึลกิเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน”
ถึงจะบอกเองว่าเธอและแทยงไม่ควรพูดคุยกัน แต่ตอนนี้มันกลับยืดยาวเพราะประเด็นที่เขายกขึ้นมา ซึงวานชินเสียแล้วกับการโดนทักว่าเป็นแฟนกับซึลกิเวลาที่เธอสองคนอยู่ด้วยกัน แต่กับการถูกทักว่าเธอเป็นฝ่ายชอบซึลกิ...นี่เป็นครั้งแรก
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว มันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆ” แทยงพูดและมองมาที่เธอ
“ฝากดูแลซึลกิด้วยนะ เธอก็ดูแลตัวเองด้วย ขอโทษที่ทำให้พวกเธอวุ่นวาย”
แทยงทิ้งท้ายและเดินห่างออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานซึลกิก็โผล่มาเพื่อบอกซึงวานว่าหล่อนมีปัญหากับยางยืดของกางเกงวอร์มทำให้เปลี่ยนชุดนานไปหน่อย สีหน้าของหล่อนดูกังวลเล็กน้อย อาจจะเพราะรู้ว่าห้องที่เรียนรวมกันวันนี้เป็นห้องของแทยง แต่ซึงวานไม่ปล่อยให้เพื่อนทำหน้าเศร้าได้นานเธอก็ชวนซึลกิไปเล่นดอดจ์บอลกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อดึงความสนใจ ครู่เดียวซึลกิก็ยิ้มออกมา ซึงวานโล่งใจที่ได้เห็นภาพนั้น
ถึงแม้ในหัวจะยังคิดถึงเรื่องที่แทยงพูดไม่หยุดก็ตาม...
ซึงวานรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น...
เรื่องที่ซึงวานพูดถึงเกิดขึ้นหลังจากที่เธอโดนแทยงทักว่าเธอเป็นฝ่ายแอบชอบซึลกิและบอกว่า’มันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆ’ ได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ซึงวานเพิ่งจะมารู้สึกว่ามันขัดๆยังไงชอบกลเพราะแทยงก็ชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่เมื่อคิดต่อไปว่าแจฮยอนก็ชอบแทยงด้วยเหมือนกันก็ไม่คิดจะเอามาเปรียบเทียบกับเรื่องของตัวเอง
เรื่องของเธอมันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะซึลกิกับเธอไม่ได้แค่เมาแล้วจูบกัน แล้วก็รู้ตัวว่าชอบกัน หรือแค่ส่งข้อความหากัน ชวนกันไปเดทไอศกรีมแล้วก็ชอบกัน เรื่องของเธอคือซึลกิเพิ่งจะอกหักและเธอซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดต้องทนดูหล่อนเหม่อลอยเหมือนจิตหลุดตลอดช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะแกล้งทำเป็นร่าเริงแต่ซึงวานมองออกว่าซึลกิไม่ได้มีความสุขจริงๆ
เรื่องของเธอเกิดขึ้นเพราะวันหนึ่งดันมีคนในชมรมคุยกันเรื่องแทยงคนดังให้ซึลกิได้ยินเข้า ความจริงเด็กพวกนั้นก็แค่แฟนคลับที่พูดถึงรุ่นพี่ที่ชอบทั่วไปเท่านั้นแต่ซึลกิกับซึงวานที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังกว่านั้นไม่ได้อยากฟัง สุดท้ายซึงวานเลยลากซึลกิที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปสงบอารมณ์บนดาดฟ้าของตึกดุริยางค์ ที่เดิมๆที่เธอมั่นใจว่าจะไม่มีใครมารบกวน(ยกเว้นว่าลุงภารโรงจะเกิดสงสัยแล้วขึ้นมาไล่พวกเธอลงไป)
ซึลกิทิ้งตัวลงนั่งพิงผนังของรั้วดาดฟ้าตรงที่มีเงาของตึกที่สูงกว่าบังแดดไว้ ซึงวานนั่งลงข้างๆโดยไม่พูดอะไร
“ฉันเกลียดทุกอย่างที่เขาทำ แต่ฉันก็ไม่ได้เกลียดเขาเลย”
“...”
“ที่มันแย่เพราะแม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังชอบเขาอยู่”
เสียงของซึลกิเหมือนคนกำลังจะหมดแรง หลังจากงานคืนสู่เหย้าซึลกิก็ไม่ได้พูดถึงแทยงอีก(นอกจากพูดว่าหล่อนจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว) แต่ครั้งนี้ทำให้ซึงวานแน่ใจว่าซึลกิยังทำใจไม่ได้
“โง่เนอะ โดนหลอกแล้วยังจะชอบเขาอยู่อีก”
“คนเราเวลาชอบใครก็โง่เหมือนกันทั้งนั้นแหละ”
ซึงวานไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น พูดเหมือนเธอเข้าใจว่าการชอบคนอื่นเป็นยังไง...
ซึลกิยิ้มขื่นๆก่อนจะซบหัวลงบนไหล่เล็กอย่างต้องการที่พึ่งพิง ไม่รู้ว่าเพราะเมื่อวานซึลกิต้องทำรายงานจนดึกเลยทำให้ง่วงหรือเพราะอาการเหนื่อยใจจนเกินไปที่ทำให้หล่อนหลับตาพริ้มราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้นอนหลังจากไปวิ่งเล่นมาทั้งวัน
“ขออยู่อย่างนี้...ซักพักนะ”
ซึงวานขยับให้ซึลกิซบได้ถนัดกว่าเดิมและได้แต่ลอบมองใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่อย่างนั้น ซึลกิคงหลับไปแล้วในเวลาไม่นานเพราะหล่อนเป็นคนหลับง่ายเสียเหลือเกิน มีแต่ซึงวานที่หลับตามไม่ลงแถมยังรู้สึกราวกับมีผีเสื้อเป็นพันตัวบินอยู่ในช่องท้อง จากวินาทีเปลี่ยนเป็นนาที และคาดว่าคงกินเวลาไปหลายนาทีกว่าที่ซึงวานจะรู้ตัวว่าใบหน้าของตัวเองขยับเข้าใกล้ซึลกิมากขนาดไหน
เธอถูกดึงดูดโดยริมฝีปากสวยของเพื่อนสนิท ริมฝีปากที่เคยถูกใครบางคนครอบครองไปแล้ว ในเสี้ยววินาทีหนึ่งซึงวานเกิดสงสัยขึ้นมาว่ามันจะเป็นยังไงถ้าหากได้สัมผัสริมฝีปากที่ยิ้มและเล่นมุกตลกกับเธอมาตลอดหลายปีนั้น ปลายจมูกรั้นที่ชอบย่นใส่ซึงวานเวลาต้องการจะล้อเลียนเคยดูน่าหมั่นไส้แต่เมื่อตอนนี้มันแตะกับปลายจมูกของเธอกลับทำให้สั่นไปทั้งใจ...
“มันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆ”
เฮือก!
รีบผละตัวออกจากระยะอันตรายเมื่อครู่ ซึงวานพ่นลมหายใจหนักอึ้งก่อนจะพิงหัวกับผนังเย็นๆอย่างหมดแรง เกือบจะทำอะไรที่ไม่สมควร...กับเพื่อนที่ไว้ใจเธอมากที่สุด ซึงวานรู้สึกโง่จริงๆที่ปล่อยให้ตัวเองทำอะไรตามใจ เธอมีหน้าที่เพียงแค่รักและปกป้องซึลกิในฐานะเพื่อนสนิทอย่างที่เป็นอยู่และเป็นมาโดยตลอด ไม่ใช่อะไรที่มากเกินไปแบบนี้
และมันก็แย่จริงๆเมื่อซึงวานแอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง
TBC.
#ซึงวานคนโง่ เค้าเพิ่งรู้ตัวค่ะ คือคนอ่านรู้ตั้งแต่สองตอนแรกแล้ว ฮาาาา
เจอกันตอนหน้าเคิ้บ ^^
ความคิดเห็น