ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Red Velvet] : Fake/Fool/Fall [WenGi]

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 04 - Lovefool

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 58


    O W E N TM.


    CHAPTER 04 - Lovefool

     

     

     

     

     

    เวลาตกหลุมรัก คนเรามักจะโง่...

     

     

    [หลังจากวันที่เขาจูบฉันเขาก็ทำตัวแปลกๆ...]

    ประโยคบอกเล่าจากปลายสายตอบคำถามของซึงวานที่เพิ่งถามว่าเป็นอะไร?ออกไป คำตอบจากซึลกิไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจแต่กระนั้นเธอก็อดกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกระอักกระอ่วนไม่ได้ ซึงวานทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองก่อนจะเอ่ยตอบเพื่อนสนิทอย่างตะกุกตะกัก

    “ท-ทำไมคิดงั้น?”

    [แกคิดดูสิ นี่วันพุธแล้ว เขาไม่ส่งข้อความมาหาฉันตั้งแต่วันอาทิตย์แถมยังไม่ตอบที่ฉันส่งไปด้วย เวลาไปซ้อมวงด้วยกันตอนเย็นเขาก็ไม่ค่อยสนใจฉัน เหมือนพยายามหลบหน้าด้วยซ้ำ]

     

    [ฉันทำอะไรผิดรึเปล่าวะ? จูบฉันมันแย่ขนาดนั้นเลย?]

    ซึลกิคิดไปต่างๆนาๆ ถึงตอนนี้ซึงวานและซึลกิก็ยังแกล้งทำเป็นทะเลาะกันอยู่เลยทำให้ไม่ได้คุยกันเวลาอยู่ที่โรงเรียน จะได้อัพเดทชีวิตกันก็แค่ตอนเย็นที่คุยโทรศัพท์กันเท่านั้น ในจุดนี้ซึงวานเข้าใจว่าทำไมซึลกิถึงกังวล ก็เจ้าชายในฝันที่ดูเหมือนกำลังจะพาหล่อนเข้าปราสาทอยู่ๆเล่นกลายเป็นเจ้าชายเย็นชาที่เตรียมจะขี่ม้าหนีไป เป็นใครก็งงกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ซึงวานแน่...เธอรู้อยู่แก่ใจว่าที่แทยงหลบหน้าซึลกินั้นมาจากเหตุผลอะไร

     “ฉันว่ามันไม่เกี่ยวหรอก แล้วก็ไม่คิดว่าจูบแกจะแย่ด้วย”

    ซึลกิเงียบ และซึงวานเพิ่งจะรู้ตัวว่าพูดอะไรแปลกๆออกไป ไม่คิดว่าจูบของซึลกิจะแย่งั้นเหรอ? คิดอะไรอยู่ซน ซึงวาน?

    [ฉันควรทำไงดีซนซึง?]

    ขอบคุณพระเจ้าที่ซึลกิไม่ได้คิดมากกับคำพูดเมื่อครู่ของเธอ ซึงวานเงียบไปพักใหญ่ด้วยไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง เธออยากบอกให้ซึลกิตัดใจจากแทยงตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

    “ฉันไม่เก่งพอจะบอกแกว่าแกควรทำยังไง แต่ฉันอยู่ข้างแกได้ตลอดนะ”

    [ซนซึงอา...]

    “หืม?”

    [ซึงวาน...]

    “อะไร”

    ซึลกิไม่ได้ตอบคำถามนั้นและซึงวานก็ไม่ได้คิดจะถามอีก ซึลกิไม่ค่อยพูดว่าขอบคุณหรือพูดชมเธอบ่อยนักหรอก แต่ซึงวานจำน้ำเสียงแบบนั้นได้ เวลาซึลกิอยากจะขอบคุณหล่อนมักจะเรียกชื่อเธอซ้ำๆและมองด้วยสายตาน่าขนลุก ปกติซึงวานจะแค่บอกให้หล่อนหยุดทำหน้าแบบนั้นและยิ้มแทนคำว่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน ซึงวานได้แต่ยิ้มกับตัวเองและปล่อยให้เกิดความเงียบระหว่างเธอทั้งสองคน

    เนิ่นนานจนซึงวานคิดว่าปลายสายหลับไปแล้ว เธอจึงคิดจะวางสายจากซึลกิ แต่เหมือนทั้งคู่จะใจตรงกันเพราะเธอได้ยินเสียงเบาๆของซึลกิเล็ดลอดออกมาก่อน

    [ซึงวานอา ขอบคุณนะ]

    แล้วหล่อนก็เป็นฝ่ายตัดสายไป ซึลกิคงจะคิดว่าเธอหลับไปแล้วเหมือนกันเลยทำแบบนั้น ซึงวานมองจอโทรศัพท์ รับรู้ว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดเต็มที เธอยิ้มให้กับมันอีกครั้ง

    ไม่เป็นไรเลยซึลกิ ฉันเต็มใจ ไม่เป็นไรเลย...

     

     

     
     

     

     

     

     

    ซึลกิรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่...

     

    หลังจากเดทไอศกรีมของซึลกิและแทยงเกิดขึ้น ซึลกิไม่ได้เล่ามันให้ใครฟังนอกจากซึงวาน เธอคิดว่าเรื่องของเธอและแทยงกำลังคืบหน้า

     ซึลกิไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เท่าไหร่นัก ทั้งแทยงที่ก่อนหน้านี้ทำท่าเหมือนจะจีบเธอแต่ตอนนี้กลับไม่สนใจเธอเสียอย่างนั้น ทั้งเพื่อนสนิทอย่างซึงวานที่ไม่ได้พูดอะไรแต่ก็เหมือนมีอะไรที่อยากจะพูด ซึลกิเริ่มกลัวว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซึงวานจะไม่เหมือนเดิมเพราะเกมบ้าๆนี่ เกมที่เธอเป็นคนเริ่มขึ้นมาเอง

    อีกสองวันข้างหน้าจะมีงานคืนสู่เหย้าที่โรงเรียนจัดขึ้นและซึลกิก็ต้องไปเป็นนักร้องนำให้กับวงของแทยง บรรยากาศการซ้อมวงตอนเย็นหลังเลิกเรียนวันนี้ดูเครียดกว่าที่ผ่านมาด้วยเหตุผลที่ว่างานกำลังใกล้เข้ามา และอีกเหตุผลสำคัญที่ว่านักร้องนำจำเป็นทนต่ออาการเฉยเมยจากเพื่อนร่วมวงผู้มีหน้าที่เล่นกีต้าร์ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

    ตั้งแต่เจอกันกับแทยง ซึลกิพยายามจะทักทายและชวนคุยแต่เขาก็ถามคำตอบคำและมีท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ซึลกิเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางที่เปลี่ยนไปเหล่านั้น ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนที่จะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้งานส่วนรวมเสีย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึลกิฝืนร้องเพลงไปได้ไม่ถึงครึ่งเพลง เธอหันไปสบตากับแทยงแต่เขาก็หลบตาทั้งที่แต่ก่อนเขาจะยิ้มให้เธอเสมอ สุดท้ายซึลกิเลยปล่อยให้เสียงร้องของเธอเงียบไป เมื่อทุกคนในวงรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นพวกเขาก็หยุดเล่น ซึลกิมองที่แทยงอีกครั้ง เขาไม่พูดอะไร เธอจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องซ้อมโดยไม่บอกเหตุผลกับใครทั้งสิ้น

    เธอหงุดหงิดเกินไป. ...ต้องการคำอธิบาย

     เรื่องน่าตกใจที่เกิดตามมาก็คือแทยงเป็นคนแรกที่ตามซึลกิออกมาจากห้องซ้อมนั่น ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายหายไปก่อน ทั้งที่ทำเหมือนไม่แคร์เธอแล้ว

    “ซึลกิ เป็นอะไร?”

    แทยงคว้าข้อมือของซึลกิให้หันหน้ามาคุยกัน เธอหยุดเดินและดึงมือออกจากฝ่ามือของแทยง

    “เธอนั่นแหละเป็นอะไร?” คำตอบของคำถามนั้นมีแต่ความเงียบ แทยงทำท่าอึดอัดอีกครั้งและซึลกิก็ยิ่งหงุดหงิด

     

    “ทำไม่ต้องหลบหน้า ไหนบอกว่าชอบเราไง เราทำอะไรผิดวะ?”

     

    “เธอไม่ได้ทำอะไรผิด”

    แทยงตอบแค่นั้น ซึ่งมันไม่ได้ช่วยสร้างความรู้ให้ซึลกิขึ้นมาเลยสักนิด เธอต้องการอะไรที่มากกว่านี้ หรือว่าเธอเผลอไปทำอะไรไม่ดีไว้ หรือว่าเขาแค่ไม่ได้ชอบเธอขึ้นมาเอง แค่ในเวลาไม่กี่วัน

    “กลับไปซ้อมกันเถอะนะ” แต่เขากลับพูดแค่นั้น พอเถอะ พอเสียที...

    “ไม่คิดจะอธิบายอะไรเลยใช่มั้ย?”

    “ถ้าเธอรู้เหตุผลตอนนี้เธอคงจะเกลียดเราไปเลย แค่...ขอให้เราเล่นคอนเสิร์ตด้วยกันให้เต็มที่ก่อนได้มั้ย ถึงตอนนั้นเราจะอธิบายทุกอย่าง ตอนนี้แค่ลืมมันไปก่อนได้มั้ย”

     

    แทยงกลัวว่าซึลกิจะไม่เต็มที่เพราะเขาบอกเหตุผลที่หลบหน้าเธออย่างนั้นหรือ?

     

    ไม่ว่าเธอจะรู้ตอนนี้หรือรู้หลังจากนี้มันก็คงไม่ทำให้ซึลกิอารมณ์ดีได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว เธอยอมจะรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร(หรือเขาทำผิดอะไร)แล้วช่วยกันแก้ไขมากกว่าจะแกล้งทำเป็นลืมมันไปอย่างที่แทยงบอก มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก...

    “บอกมาเถอะ ถ้าเราไม่ได้รู้ตอนนี้เราก็คงทนเล่นคอนเสิร์ตกับเธอไม่ไหวเหมือนเมื่อกี๊อยู่ดี เราแค่อยากรู้ว่าเราทำอะไรผิดแล้วเราจะทำให้มันดีขึ้นได้มั้ย เราไม่อยากโง่แล้ว”

     

    “บอกเถอะ เราจะไม่เอาเรื่องนี้มาทำให้คอนเสิร์ตพัง...จริงๆนะ”

     

    แทยงถอนหายใจ ในตอนนั้นสมาชิกคนอื่นในวงเริ่มตามแทยงออกมาเมื่อรู้สึกว่าเขาและซึลกิชักจะออกไปนานพอสมควรแล้ว เมื่อเห็นว่าซึลกิและแทยงยังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลก็เว้นระยะห่างเอาไว้ โดยองผู้มีหน้าที่เป็นมือกลองมีสีหน้างงงวยเล็กน้อย ต่างกับแจฮยอนที่มองเธอและแทยงนิ่ง ดูกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้า

    ไม่นานซึลกิก็ได้รู้ว่าทำไมแจฮยอนมีท่าทางแบบนั้น แทยงบอกความจริงทั้งหมดกับซึลกิด้วยเห็นว่าถ้ายิ่งปิดมันต่อไปซึลกิก็ยิ่งไม่สบายใจอยู่ดี เขามีความจริงเพียงแค่อย่างเดียวที่เคยบอกซึลกิคือเขาอยากให้เธอมาร้องเพลงให้กับวงของเขา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นซึลกิไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะโกหกเธอทั้งหมด เธอเงียบไปพักใหญ่ด้วยความสับสนและเสียความรู้สึก เธอถามว่าทำไมเขาถึงคิดจะมาบอกความจริงเอาตอนนี้ ทั้งที่โกหกมาจนเกือบจะสำเร็จแล้ว ซึลกิเกือบจะชอบเขาเข้าเต็มหัวใจไปแล้ว

    “ซึงวาน...บังเอิญรู้เรื่องเรากับแจฮยอนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาโกรธมากแล้วก็บอกให้เราบอกความจริงกับเธอให้เร็วที่สุด”

     

    “เราเข้าใจนะถ้าต่อไปเธอจะเกลียดเรา นี่มัน...ไม่น่าให้อภัยเลย”

     

    ใช่...มันไม่น่าให้อภัยเลย

     

    แต่ซึลกิไม่สามารถบอกว่าตัวเองเกลียดแทยงได้เต็มปาก นั่นเธอเริ่มจะเกลียดตัวเอง เธอเกลียดที่ยังทำใจให้เกลียดเขาไม่ได้ และซึงวาน...ซึลกิเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ซึงวานดูเหมือนอยากจะพูดก่อนหน้านี้คืออะไร ที่หล่อนบอกว่าหล่อนจะอยู่ข้างซึลกิได้ตลอด ซึลกิโง่เหลือเกินที่ไม่เคยรู้ว่าซึงวานทำเพื่อเธอมามากขนาดไหนและเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน

    มันมากเสียจนคำว่าขอบคุณที่เธอให้ไปยังไม่สามารถทดแทนได้หมด

     

     

     
     

     

    ค่ำนั้นซึลกิสับสนเกินกว่าจะทำอะไรอย่างที่คนทั่วไปมักจะทำกันในคืนวันศุกร์ เธอจำได้ว่าพยายามจะเดินกลับบ้านของตัวเอง แต่สุดท้ายกลับมาจบด้วยการที่เธอยืนอยู่หน้าบ้านซึงวานที่ห่างออกไปไม่มาก ซึลกิแค่คิดถึงซึงวานมากกว่าที่เคย

    เป็นแม่ของซึงวานที่มาเปิดประตูให้ และเมื่อหล่อนเห็นหน้าที่คุ้นเคยของซึลกิก็บอกให้เธอเข้าไปในบ้านและจะไปบอกลูกสาวให้ว่าเธอมาหา แต่ซึลกิยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหนจนซึงวานเดินออกมาหาถึงประตูบ้าน แล้วซึลกิก็คิดถึงซึงวานมากกว่าเดิม...

    หมับ!  

    ซึลกิโผเข้ากอดเพื่อนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อและเอ่ยปากถามว่าเธอเป็นอะไรซ้ำๆ เพิ่งรู้สึกตัวเดี๋ยวนั้นเองว่าน้ำตากำลังไหล ทั้งที่ไม่อยากจะร้องไห้ให้ซึงวานเป็นห่วงแท้ๆ

    “ขอโทษ...” ซึลกิพูดเสียงอู้อี้กับไหล่เล็กของซึงวาน

    “เป็นอะไร ขอโทษทำไม”

    “ขอโทษนะซึงวาน”

    “เฮ่ย เป็นอะไร ไอ้หมี...ร้องไห้เหรอ?”

    “ขอโทษจริงๆนะ ฉันทำให้แกลำบากตลอดเลย”

     

    “ทั้งที่ไม่มีใครดีกับฉันเท่าแก”

     

    จบประโยคนั้นซึลกิก็สะอื้นหนักจนพูดต่อไม่ได้ ซึงวานได้แต่ยกมือขึ้นมาลูบหลังเพื่อนเพื่อปลอบและเริ่มเข้าใจว่าทำไมซึลกิถึงเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นซึงวานก็บอกให้ซึลกิโทรบอกที่บ้านว่าคืนนี้จะค้างที่บ้านของเธอเพราะดูท่าแล้วคงจะปล่อยให้หล่อนกลับไปนอนร้องไห้คนเดียวไม่ได้

                 ซึงวานรู้ว่าซึลกิรู้เรื่องแทยงก่อนที่เจ้าตัวจะพูดออกมาเสียอีก หล่อนเอาแต่ขอโทษที่ทำให้เธอลำบากและต้องมาเล่นละครงี่เง่านี่ด้วยกันตั้งแต่ร้องไห้เสร็จจนตอนนี้ที่เธอทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ซึงวานทำรามยอนให้ซึลกิเป็นมื้อเย็น บอกให้อาบน้ำและให้ยืมชุดนอนตัวโคร่งของเธอ และตอนนี้เธอก็พยายามจะบอกให้ซึลกิพักผ่อนเพราะหล่อนเจออะไรมามากแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังได้ยินเสียงที่เล็ดลอดออกมาในความมืดอยู่ดี


    “ขอโทษนะที่มารบกวน”

    ซึลกิคิดมากจนฟุ้งซ่านไปแล้ว ถึงแม้เธอสองคนจะนอนหันหลังให้กันแต่ซึงวานก็รู้ว่าสีหน้าของเพื่อนคงแย่มากตอนที่พูดประโยคนั้นออกมา

    “รบกวนอะไรกัน ฉันดีใจนะที่แกมาหา”

     

    “แกจำไม่ได้เหรอที่ตอนประถมแกชอบกันพวกที่แกล้งฉันออกไปแล้วก็บอกว่าถ้าโดนแกล้งอีกเมื่อไหร่ให้ไปบอกแก แกจะจัดการพวกมันให้”

     

    “ฉันก็แค่ทำอย่างที่แกเคยทำ...จัดการทุกอย่างที่ทำให้แกเศร้า”

     ซึงวานยังจำภาพขอเด็กตาตี่ตัวผอมคนหนึ่งที่ห้าวยิ่งกว่าเด็กผู้ชาย ยอมมีเรื่องกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ในห้องเพื่อปกป้องเพื่อนตัวอวบคนเดียวของเธอด้วยเหตุผลว่าเธอชอบเล่นกับซึงวานที่สุด

    “ขอบคุณนะซึงวานอา”

    ซึลกิเอ่ยคำที่ไม่ค่อยได้บอกกับซึงวานออกมาอีกครั้ง ซึงวานพึมพำเบาๆว่าไม่เป็นไรก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบไป ซึงวานรอจนได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของซึลกิก็วางใจว่าหล่อนหลับสนิทไปแล้ว

    ในตอนนี้เพื่อนตัวอวบคนนั้นอยากจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเด็กตาตี่จากทุกคนที่ไม่ดีกับเธอ เพราะต่อให้ใครจะนิสัยดีกว่ายังไงซึลกิก็เป็นเพื่อนที่ซึงวานชอบเล่นด้วยมากที่สุดเช่นกัน


     

     

     

     

    เมื่อถึงวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ซึลกิต้องไปเล่นคอนเสิร์ตในงานคืนสู่เหย้า ซึงวานยอมแต่งสวยเพื่อไปเป็นคู่เดทของซึลกิทั้งที่ความจริงแล้วเธอเกลียดงานแบบนี้ยิ่งกว่าอะไร แต่ที่ยอมไปก็เพราะเธอไม่อยากให้ซึลกิไปเจอกับเพื่อนร่วมวงแล้วอึดอัดอยู่คนเดียว เธอจำเป็นต้องอยู่ตรงนั้น
     

    ขณะที่ซึงวานและซึลกิไปถึงสถานที่จัดงานนั้นยังไม่ถึงเวลาที่วงของแทยงต้องขึ้นไปเล่น เมื่อเขาเห็นซึลกิก็รีบเดินเข้ามานัดเวลารวมตัวที่หลังเวทีก่อนจะรีบหายไปจากตรงนั้นด้วยไม่อยากให้เกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างเขากับซึลกิอีก แต่เพราะงานนี้ไม่ใช่งานใหญ่อะไร ต่อให้แทยงเดินไปไกลถึงอีกฟากของโถงที่ใช้จัดงานซึลกิและซึงวานก็เห็นเขากับแจฮยอนที่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างชัดเจน

    คนอื่นคงคิดว่าแทยงกับแจฮยอนก็แค่สนิทกันเลยอยู่ด้วยกันตลอด และก็คงคิดว่าซึลกิกับซึงวานคืนดีกันแล้วจึงมางานพรอมด้วยกัน แต่ความจริงทั้งหมดก็มีเพียงแค่ตัวของพวกเธอและพวกเขาเองเท่านั้นที่รู้ ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ซึลกิรู้สึกก็มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้...

     

     
     

     

    “ซึลกิหายไปไหน อีกสิบห้านาทีเราต้องไปเตรียมตัวแล้วนะ”

     

    เสียงของแทยงดึงความสนใจของซึงวานที่กำลังนั่งเหม่อมองคนในงานให้หันมาสนใจ เธอเลิกคิ้วและหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาซึลกิแต่ก็พบว่าหล่อนไม่ได้อยู่ในงานเสียแล้ว. ..เมื่อกี้ยังบอกว่าจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้อยู่เลย

    “ลองโทรหารึยัง?” แทยงพยักหน้าก่อนจะบอกว่าหล่อนไม่รับสาย ซึงวานลองโทรบ้างแต่หล่อนก็ไม่รับเหมือนกัน เสนอตัวจะไปหาที่ห้องน้ำให้แต่แล้วก็ยังไม่เจอเหมือนเดิม

    หายไปไหนนะ?

    หลังจากนั้นซึงวานกับสมาชิกในวงก็วิ่งวุ่น ซึลกิไม่ได้อยู่ในงานแล้ว พวกเธอจำเป็นต้องออกจากห้องโถงไปหาที่อื่นในโรงเรียนแทนแต่ก็ยังไม่มีใครพบซึลกิ ซึงวานลองโทรไปถามที่บ้านของซึลกิว่าหล่อนกลับไปแล้วหรือเปล่าและคำตอบก็ยังเป็นคำว่าไม่ พยายามคิดถึงสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ว่าซึลกิจะอยากไปในตอนนี้ก็เหลืออยู่เพียงที่เดียว...


     

     

    “แก...โอเคปะวะ?”

     

    ซึงวานส่งเสียงถามคนที่ยืนหันหลังให้เธอและเท้าแขนกับรั้วของดาดฟ้าตึกดุริยางค์ ทั้งที่ด้านล่างของตึกเปิดไฟแค่ไม่กี่ดวงแต่ซึลกิก็ยังอุตส่าห์หนีขึ้นมาถึงที่นี่. ..ดูท่าจะไม่สบายใจมากจริงๆ

    ภายใต้แสงจากสปอตไลท์บนยอดตึก ซึงวานมองเห็นใบหน้าที่หันมาหาเธอของซึลกิอาบไปด้วยน้ำตา ทั้งสองคนยืนนิ่งโดยเว้นระยะห่างไว้อย่างนั้นพักใหญ่ ก่อนที่ซึงวานจะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้เพื่อนสนิท

    “แกต้องลงไปร้องเพลงแล้วนะ ถึงตอนนั้นมองแค่ฉันก็พอ”

    พูดพลางเอื้อมมือทั้งสองไปประคองแก้มของซึลกิและใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาของหล่อนออก ซึลกิเป็นคนเข้มแข็งกว่าซึงวานมาตลอด ถึงตอนนี้ที่หล่อนอ่อนแอซึงวานก็จำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อหล่อน

    “ฉันไม่อยากร้องไห้” ซึลกิหลุบตามองตามนิ้วของคนตรงหน้าที่ไล้แก้มของตัวเองเชื่องช้า

    “ฉันรู้ แกไม่ร้องไห้หรอก แกมากับแฟนทั้งคนนะเว่ย” พูดจบคนขี้แยก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ซึลกิสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อขับไล่ความกังวลและมองหน้าของอีกคน การมีซึงวานอยู่ด้วยในสถานการณ์เลวร้ายมักจะทำให้ซึลกิสบายใจ และยิ่งตอนนี้ที่ซึงวานกำลังมอบความเข้มแข็งให้กับเธอ ซึลกิก็แทบลืมสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้ไปหมด แววตาของซึงวานสว่างไสวยิ่งกว่าแสงไฟจากสปอตไลท์ คำพูดของซึงวานจริงจังจนทำให้ซึลกิเชื่อ

     

    “ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นที่ทำให้แกเศร้า ถึงตอนนั้น...ขอแค่แกมองมาที่ฉันคนเดียวก็พอ”

     

     

     

     

     

    ซึลกิพยายามทำให้สีหน้าของตัวเองดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เธอคิดมาเสมอว่าแค่ได้ร้องเพลงเธอก็จะมีความสุขไม่ว่าสิ่งต่างๆในตอนนั้นจะแย่มากขนาดไหน แต่ครั้งนี้มันกลับยากกว่าที่เคย

    และมันจะยากกว่านี้มากถ้าหากว่าไม่มีซึงวาน ซึลกิทำตามที่หล่อนบอก เธอมองไปที่ซึงวานและไม่คิดจะหันไปมองใครคนอื่น หล่อนยิ้มให้เธอราวกับไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มาก่อน ซึลกิรู้ว่าซึงวานต้องพยายามมากกว่าครั้งที่ต้องตามน้ำเมื่อเธอกุเรื่องเป็นแฟนปลอมนี่ขึ้นมา ต้องพยายามมากกว่าตอนที่หล่อนยืนกอดปลอบเธอจนหยุดร้องไห้ ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันยากสำหรับทุกคน ซึลกิรู้ดี เธอยังไม่สามารถทำใจเรื่องของแทยงได้มากนัก แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ภายในเวลาแค่สองวัน

     

    แต่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกอ่อนแอ ซึลกิก็รู้แล้วว่าควรจะมองไปที่ใคร...

     

     

     

     
     

     

     

    “คู่รักรีเทิร์นไม่ตัวติดกันแล้วเหรอ แปลกนะ”

    เสียงที่ดังขึ้นข้างกายดึงความสนใจจากภาพของเพื่อนที่กำลังเล่นดอดจ์บอลกันในสนามของโรงยิมตรงหน้าซึงวาน เมื่อหันไปก็พบว่าผู้พูดคือเด็กหนุ่มต่างห้องที่ต้องเรียนพละรวมกับห้องของเธอในวันนี้ เด็กหนุ่มที่ทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ตามกรี๊ด...แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจผู้หญิงพวกนั้นก็ตาม

    “เราไม่ควรคุยกันนะ” ซึงวานพูดกับแทยงก่อนจะขยับออกมาให้ห่างเขาอีกนิด ถ้าคนอื่นเห็นแทยงอยู่กับเธอคงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าซึลกิเห็นคงไม่ดีเท่าไหร่

    ซึงวานรู้ว่าประโยคคำถามที่แทยงถามเมื่อกี้ไม่มีจุดประสงค์ในการหาคำตอบจากเธอ หลังจากงานคืนสู่เหย้าจบไปหล่อนก็กลับมาตัวติดกับเธอเหมือนเดิม ครั้งนี้ยิ่งตัวติดกันมากกว่าเดิมเพราะซึลกิกำลังเฮิร์ทหนักและซึงวานก็เป็นคนเดียวที่หล่อนอยากอยู่ด้วย(นั่นทำให้ปัญหาเรื่องพี่คยูฮยอนมางอแงกับซึลกิหายไปอีกครั้ง) ซึลกิบอกกับเธอว่าจะไม่สนเรื่องของแทยงอีกแล้ว แต่ซึงวานสัมผัสได้ว่าซึลกิยังชอบเขาอยู่...อาจจะชอบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

    “แค่อยากรู้ว่าซึลกิโอเคมั้ย” แทยงถามต่อ ยังอุตส่าห์เป็นห่วง...

    “ไม่โอเค ซึลกิมันเป็นคนฝังใจ ชอบใครแล้วคิดนาน คิดมาก”

    ซึงวานตอบไปตามตรง สายตาของเธอและแทยงจับจ้องไปที่สนามด้านหน้าคล้ายกับเหม่อลอย ซึงวานยังจำตอนที่ซึลกิอกหักจากแฟนคนแรกเมื่อสองปีที่แล้วได้ไม่ลืม ถึงมันจะเป็นแค่รักของเด็กมัธยมต้นที่ทั้งคู่รู้ว่าจะไม่ยืดยาว แต่พอมันจบลงซึลกิก็เสียใจไปอีกหลายเดือน ซึงวานที่อยู่ตรงนั้นรับรู้เรื่องราวตลอด คอยฟังและอยู่กับซึลกิตลอด เธอรู้ว่ามันแย่แค่ไหนที่เห็นหล่อนร้องไห้ เพราะอย่างนั้นตอนที่รู้ว่าแทยงไม่ได้มาจีบซึลกิเพราะเขาชอบหล่อนเธอเลยโกรธเสียมากมาย

    “นายนี่เลวว่ะ” หลุดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปจนได้ แทยงเหลือบมามองซึงวานเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ

    “ฉันรู้”

    “...”

    “ขอโทษ”

    ซึงวานหงุดหงิดที่แทยงทำได้แค่นั้น แต่บางส่วนในใจของเธอกลับดีใจที่เรื่องทั้งหมดลงเอยแบบนี้...โดยไม่มีเหตุผล หรืออาจจะมีแต่เธอก็สับสนเกินไปที่หามัน

    “ตอนนั้นฉันโคตรโง่ ทำอะไรไม่คิด ตอนนี้ทุกคนเลยแย่ไปหมด”

    แทยงยังคงพล่ามต่อไป ซึงวานรู้ว่าเขารู้สึกผิดแต่ตอนนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายเลยได้แต่บอกให้แทยงเลิกยุ่งกับซึลกิอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ล่ะดีแล้ว อีกไม่นานซึลกิก็คงตัดใจได้เอง

    “แล้วเธอล่ะ จะตัดใจมั้ย?”

    “ตัดใจอะไร?”

     

    “ก็เธอ...ชอบซึลกิไม่ใช่รึไง?”

     

    คำถามนั้นทำให้ซึงวานหันไปสบตากับแทยงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มบทสนทนา เธอเลิกมองหาซึลกิและเลิกสนใจเสียงโหวกเหวกของเพื่อนในโรงยิมไปชั่วขณะ มีแต่คำถามที่ว่าทำไมแทยงถึงคิดแบบนั้น...

    “ฉันยอมโกหกว่าเป็นแฟนกับซึลกิไม่ได้แปลว่าฉันชอบมันซะหน่อย” ตอบปัดและเบือนหน้าไปอีกครั้ง ตอนนี้ความคิดในหัวของซึงวานตีกันให้ยุ่ง เธอปฎิเสธแต่กลับมีความรู้สึกเหมือนโดนจับได้ว่าทำผิดมา และเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกอย่างนั้น

    “ไม่รู้สิ ตอนที่เธอตบฉันเธอดูโกรธแทนซึลกิมากๆ ในงานพรอมตอนซึลกิหายไปเธอก็ดูกังวลกว่าใคร เวลาที่เธอพูดถึงซึลกิ วิธีที่เธอพูด มันมากกว่าที่ฉันคิดว่าฉันจะทำให้เพื่อนสนิทซักคน”

    “นายคงมีเป็นร้อย แต่ซึลกิเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน”

    ถึงจะบอกเองว่าเธอและแทยงไม่ควรพูดคุยกัน แต่ตอนนี้มันกลับยืดยาวเพราะประเด็นที่เขายกขึ้นมา ซึงวานชินเสียแล้วกับการโดนทักว่าเป็นแฟนกับซึลกิเวลาที่เธอสองคนอยู่ด้วยกัน แต่กับการถูกทักว่าเธอเป็นฝ่ายชอบซึลกิ...นี่เป็นครั้งแรก

    “ถ้างั้นก็ดีแล้ว มันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆ” แทยงพูดและมองมาที่เธอ

     

    “ฝากดูแลซึลกิด้วยนะ เธอก็ดูแลตัวเองด้วย ขอโทษที่ทำให้พวกเธอวุ่นวาย”

     

    แทยงทิ้งท้ายและเดินห่างออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานซึลกิก็โผล่มาเพื่อบอกซึงวานว่าหล่อนมีปัญหากับยางยืดของกางเกงวอร์มทำให้เปลี่ยนชุดนานไปหน่อย สีหน้าของหล่อนดูกังวลเล็กน้อย อาจจะเพราะรู้ว่าห้องที่เรียนรวมกันวันนี้เป็นห้องของแทยง แต่ซึงวานไม่ปล่อยให้เพื่อนทำหน้าเศร้าได้นานเธอก็ชวนซึลกิไปเล่นดอดจ์บอลกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อดึงความสนใจ ครู่เดียวซึลกิก็ยิ้มออกมา ซึงวานโล่งใจที่ได้เห็นภาพนั้น

     

    ถึงแม้ในหัวจะยังคิดถึงเรื่องที่แทยงพูดไม่หยุดก็ตาม...

     

     

     

     

     

     

     

    ซึงวานรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น...

     

    เรื่องที่ซึงวานพูดถึงเกิดขึ้นหลังจากที่เธอโดนแทยงทักว่าเธอเป็นฝ่ายแอบชอบซึลกิและบอกว่ามันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ซึงวานเพิ่งจะมารู้สึกว่ามันขัดๆยังไงชอบกลเพราะแทยงก็ชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่เมื่อคิดต่อไปว่าแจฮยอนก็ชอบแทยงด้วยเหมือนกันก็ไม่คิดจะเอามาเปรียบเทียบกับเรื่องของตัวเอง

    เรื่องของเธอมันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะซึลกิกับเธอไม่ได้แค่เมาแล้วจูบกัน แล้วก็รู้ตัวว่าชอบกัน หรือแค่ส่งข้อความหากัน ชวนกันไปเดทไอศกรีมแล้วก็ชอบกัน เรื่องของเธอคือซึลกิเพิ่งจะอกหักและเธอซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดต้องทนดูหล่อนเหม่อลอยเหมือนจิตหลุดตลอดช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะแกล้งทำเป็นร่าเริงแต่ซึงวานมองออกว่าซึลกิไม่ได้มีความสุขจริงๆ

    เรื่องของเธอเกิดขึ้นเพราะวันหนึ่งดันมีคนในชมรมคุยกันเรื่องแทยงคนดังให้ซึลกิได้ยินเข้า ความจริงเด็กพวกนั้นก็แค่แฟนคลับที่พูดถึงรุ่นพี่ที่ชอบทั่วไปเท่านั้นแต่ซึลกิกับซึงวานที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังกว่านั้นไม่ได้อยากฟัง สุดท้ายซึงวานเลยลากซึลกิที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปสงบอารมณ์บนดาดฟ้าของตึกดุริยางค์ ที่เดิมๆที่เธอมั่นใจว่าจะไม่มีใครมารบกวน(ยกเว้นว่าลุงภารโรงจะเกิดสงสัยแล้วขึ้นมาไล่พวกเธอลงไป)

    ซึลกิทิ้งตัวลงนั่งพิงผนังของรั้วดาดฟ้าตรงที่มีเงาของตึกที่สูงกว่าบังแดดไว้ ซึงวานนั่งลงข้างๆโดยไม่พูดอะไร

    “ฉันเกลียดทุกอย่างที่เขาทำ แต่ฉันก็ไม่ได้เกลียดเขาเลย”

    “...”

     “ที่มันแย่เพราะแม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังชอบเขาอยู่”

    เสียงของซึลกิเหมือนคนกำลังจะหมดแรง หลังจากงานคืนสู่เหย้าซึลกิก็ไม่ได้พูดถึงแทยงอีก(นอกจากพูดว่าหล่อนจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว) แต่ครั้งนี้ทำให้ซึงวานแน่ใจว่าซึลกิยังทำใจไม่ได้

    “โง่เนอะ โดนหลอกแล้วยังจะชอบเขาอยู่อีก”

     

    “คนเราเวลาชอบใครก็โง่เหมือนกันทั้งนั้นแหละ”

     

    ซึงวานไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น พูดเหมือนเธอเข้าใจว่าการชอบคนอื่นเป็นยังไง...

     

    ซึลกิยิ้มขื่นๆก่อนจะซบหัวลงบนไหล่เล็กอย่างต้องการที่พึ่งพิง ไม่รู้ว่าเพราะเมื่อวานซึลกิต้องทำรายงานจนดึกเลยทำให้ง่วงหรือเพราะอาการเหนื่อยใจจนเกินไปที่ทำให้หล่อนหลับตาพริ้มราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้นอนหลังจากไปวิ่งเล่นมาทั้งวัน

    “ขออยู่อย่างนี้...ซักพักนะ”

    ซึงวานขยับให้ซึลกิซบได้ถนัดกว่าเดิมและได้แต่ลอบมองใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่อย่างนั้น ซึลกิคงหลับไปแล้วในเวลาไม่นานเพราะหล่อนเป็นคนหลับง่ายเสียเหลือเกิน มีแต่ซึงวานที่หลับตามไม่ลงแถมยังรู้สึกราวกับมีผีเสื้อเป็นพันตัวบินอยู่ในช่องท้อง จากวินาทีเปลี่ยนเป็นนาที และคาดว่าคงกินเวลาไปหลายนาทีกว่าที่ซึงวานจะรู้ตัวว่าใบหน้าของตัวเองขยับเข้าใกล้ซึลกิมากขนาดไหน

    เธอถูกดึงดูดโดยริมฝีปากสวยของเพื่อนสนิท ริมฝีปากที่เคยถูกใครบางคนครอบครองไปแล้ว ในเสี้ยววินาทีหนึ่งซึงวานเกิดสงสัยขึ้นมาว่ามันจะเป็นยังไงถ้าหากได้สัมผัสริมฝีปากที่ยิ้มและเล่นมุกตลกกับเธอมาตลอดหลายปีนั้น ปลายจมูกรั้นที่ชอบย่นใส่ซึงวานเวลาต้องการจะล้อเลียนเคยดูน่าหมั่นไส้แต่เมื่อตอนนี้มันแตะกับปลายจมูกของเธอกลับทำให้สั่นไปทั้งใจ...

     

    “มันคงแย่ถ้าเธอชอบเพื่อนสนิทของตัวเองจริงๆ”

     

    เฮือก!

    รีบผละตัวออกจากระยะอันตรายเมื่อครู่ ซึงวานพ่นลมหายใจหนักอึ้งก่อนจะพิงหัวกับผนังเย็นๆอย่างหมดแรง เกือบจะทำอะไรที่ไม่สมควร...กับเพื่อนที่ไว้ใจเธอมากที่สุด ซึงวานรู้สึกโง่จริงๆที่ปล่อยให้ตัวเองทำอะไรตามใจ เธอมีหน้าที่เพียงแค่รักและปกป้องซึลกิในฐานะเพื่อนสนิทอย่างที่เป็นอยู่และเป็นมาโดยตลอด ไม่ใช่อะไรที่มากเกินไปแบบนี้

     

     

     

    และมันก็แย่จริงๆเมื่อซึงวานแอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง

     

     

     
     

     

    TBC.

    #ซึงวานคนโง่ เค้าเพิ่งรู้ตัวค่ะ คือคนอ่านรู้ตั้งแต่สองตอนแรกแล้ว ฮาาาา

    เจอกันตอนหน้าเคิ้บ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×