คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 02 - Girlfriend Duties
CHAPTER 02 – Girlfriend Duties
ข่าวลือเป็นสิ่งที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าเชื้อวัวบ้า...
อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่ซึลกิคิดล่ะนะ ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวาน พอแยกทางกลับบ้านกับซึงวานนางก็ใช้เวลาย่อยความสตั๊น อยู่พักใหญ่ก่อนจะโทรมากรีดร้องขอคำอธิบายต่อการกระทำอันฉุกละหุกของเธอและตั้งคำถามเต็มไปหมด เช่นว่าต่อจากนี้ไปจะทำยังไง? คิดว่าคยูฮยอนจะเลิกจีบไหม? แล้วถ้าเรื่องที่ว่าเธอสองคนเป็นเบี้ยนกันกระจายไปทั่วโรงเรียนจะส่งผลกระทบต่อฐานแฟนคลับของซึลกิหรือเปล่า? แล้วเราจะเลิกกันเมื่อไหร่?
เพิ่งคบก็คิดจะเลิกเลย ประเสริฐแท้ซน ซึงวาน!
ซึลกิไม่ได้ตอบคำถามพวกนั้นแต่แค่บอกปัดไปว่าไว้ค่อยคุยกันทีหลัง สารภาพเลยว่าตอนที่กุเรื่องออกไปนั้นไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น แค่รำคาญเต็มทนแล้วที่ต้องโดนตื๊อ แถมตอนนั้นซึงวานยังอยู่ใกล้ใช้สอยสะดวกทุกอย่างเลยบู้ม! กลายเป็นทุ่งลิลลี่บานพลิ้วปลิวไสวจนถึงตอนนี้
วันนี้เป็นวันต้อนรับนักเรียนใหม่ ซึลกิมาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติเพราะต้องมาทวนกำหนดการการแสดงกับทีมแสดงอื่นๆ พอประชุมเสร็จก็ว่าจะไปหาที่สิงในห้องชมรมขับร้องรอเวลาขึ้นแสดง แต่ก้าวเข้าไปได้ไม่นานก็จับได้ถึงรังสีความอยากรู้อยากเห็นที่แผ่ออกมาจากทั้งรุ่นน้องรุ่นเพื่อน ซึ่งแหล่งข่าวคงไม่พ้นจะมาจากรุ่นพี่(ที่มีแต่เพื่อนสนิทของคยูฮยอนทั้งนั้น) และครูคิมที่ปรึกษาชมรมที่ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ คงมาทิ้งระเบิดไว้ซักพักแล้วสินะ...
“ได้ข่าวว่าเมื่อวานมีคนอกหัก”
เสียงแรกเป็นของคุณน้องคิม เยริม เด็กแสบผู้มีตำแหน่งอัพเดทข่าวของมัธยมปลายปีหนึ่งและเป็นรุ่นน้องที่ซึลกิสนิทจนสามารถตบหัวกันได้โดยไม่ถือโทษโกรธเคือง แต่ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วล่ะว่าชักจะปล่อยให้มันลามปามมากเกินไปหรือเปล่า
“น้องซึลกิไม่ได้หักอกแค่ไอ้คยูคนเดียวนะ ตอนนี้พวกเพื่อนผู้ชายของพี่ที่ปลื้มน้องกับซึงวานมันนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่ากันหมดแล้ว พี่ล่ะกลัวมันแห้วหญิงแล้วหันไปกินกันเอง” พี่ฮยอกแจ เพื่อนเกือบสนิทของคยูฮยอนพูดกลั้วหัวเราะกับมุกตลกร้ายของตัวเอง อีกหนึ่งความยุ่งยากที่จะตามมาจากแผนแกล้งเป็นเบี้ยนคือความป๊อบของซึลกิและซึงวานเองนั่นล่ะ(ไม่ได้ตั้งใจจะอวยตัวเอง แต่ก็นะ...เด็กกิจกรรมสวยๆสองคนอยู่ด้วยกันมันก็ต้องน่าสนใจเป็นธรรมดา)
“กว่าจะเปิดตัวนะแก ปล่อยให้พวกฉันจิ้นกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว” เด็กในชมรมอีกคนสมทบขึ้นมา ซึลกินึกสงสัยว่านางจิ้นกันลงได้ยังไง เธอกับซึงวานเนี่ยนะ
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
“เห็นมั้ย พี่จูฮยอนก็เคยบอกแล้วว่าสองคนนี้เหมือนแฟนกัน ไม่พลาดจริงๆท่านประธานเรา” แว่วมาอีกเสียงจากเพื่อนรุ่นเดียวกันที่พยักพเยิดพี่เบ จูฮยอน ประธานชมรมคนปัจจุบันให้เจ้าตัวได้แต่อมยิ้มและปรามไม่ให้สมาชิกคนอื่นล้อต่อเพราะไม่อยากให้ซึลกิเขิน. ..ซึ่ง ณ จุดนี้ซึลกิไม่ได้เขิน ซึลกิกำลังคิดหนักกับอนาคตของตัวเองและซึงวานที่ตกกระไดพลอยโจนมาด้วยแบบไม่ตั้งใจ(และไม่เต็มใจเท่าไหร่) ชักจะไปกันใหญ่แล้ว
นี่ยังไม่อยากนึกถึงตอนที่ต้องเจอคยูฮยอนนะว่าเขาจะมีอาการอาฟเตอร์ช็อคยังไ...
“น้องซึลกิครับ”
นึกถึงผี ผีก็มา...
เสียงเรียกชื่อซึลกิจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ดึงความสนใจของสมาชิกทั้งหมดให้หันไปมองเป็นตาเดียว โจ คยูฮยอนมาพร้อมกับกระเป๋ากีต้าร์คู่ใจบนบ่าของเขา ชายผู้ไม่ไปประชุมกำหนดการขึ้นแสดงพร้อมกับซึลกิแต่ดันมาโรงเรียนสายโด่งแล้วตรงมาเรียกชื่อเธอแบบนั้น...
คยูฮยอนไม่พูดพร่ำทำเพลง แค่เดินมาหยุดตรงหน้าซึลกิที่มีเพื่อนร่วมชมรมล้อมอยู่และมองด้วยสายตาแน่วแน่
“พี่รู้ว่าเรื่องเมื่อวานทำให้พวกเราอึดอัดใจกัน แต่ตอนนี้พี่โอเคแล้วครับ พี่รู้ว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ แต่แค่อยากให้รู้ไว้...”
“วันไหนที่ซึงวานทำให้ซึลกิเจ็บ พี่ยังอยู่ตรงนี้นะครับ”
ประโยคนั้นทำเอามนุษย์ที่ยืนอยู่ในรัศมี 3 เมตรแทบจะขย้อนมื้อเช้าออกมากันถ้วนหน้า ซึลกิอยากจะยกมือขึ้นถามเดี๋ยวนั้นเลยว่าตอนเด็กๆรุ่นพี่คยูฮยอนดูละครมากเกินไปหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่ทำคงดีกว่า
“พี่รู้ว่าพูดแบบนี้มันดูไม่ดี แต่พี่ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหวจริงๆ” คยูฮยอนพูดก่อนจะเอื้อมไปหยิบดอกกุหลาบสีแดงที่เหน็บไว้กับเข็มขัดและยื่นให้ซึลกิ
อีกแล้ว...นี่ทางบ้านของพี่ท่านทำกิจการปลูกดอกกุหลาบส่งออกรึไงนะ?
“ช่วยรับไว้เป็นของขวัญสำหรับโชว์ครั้งแรกของพวกเราด้วยนะครับ”
ไม่รู้ทำไม วันนี้เป็นวันที่ซึลกิรู้สึกอยากกลับบ้านทั้งที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนได้ไม่ถึงชั่วโมง กวาดสายตาไปมองแววตากระอักกระอ่วนของเพื่อนร่วมชมรมที่ส่งมาให้อย่างพร้อมเพรียง สรุปว่าแผนเบี้ยนมันไม่ทำให้คยูฮยอนหยุดได้เลยสินะ. ..ปกติเวลาคับขันแบบนี้การมีซึงวานยืนบื้ออยู่ข้างๆโดยไม่ได้ช่วยอะไรจะทำให้ซึลกิมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาหน่อย
แต่ตอนนี้ไม่มี
“มีใครเห็นซึลกิมั้ย?”
ประตูห้องชมรมที่ถูกเปิดพรวดพร้อมกับเสียงของคนที่ซึลกิคุ้นเคย ซึงวานโผล่หน้ามาเสี้ยวเดียวเพื่อมองหามนุษย์หมีเพื่อนรัก ซึ่งหาไม่ยากเลยเมื่อสมาชิกในชมรมพร้อมใจกันแหวกทางให้เธอเห็นสถานการณ์ภายในห้อง
นึกถึงคนอ้วน คนอ้วนก็มา...
สิ่งที่ซึงวานเห็นคือคนในชมรมนับสิบชีวิตกำลังร่วมเป็นสักขีพยานด้วยการทำหน้าปุเลี่ยนยืนดูคยูฮยอนกำลังยื่นดอกกุหลาบให้ซึลกิ ซึ่งฝ่ายหญิงนั้นทำหน้าเหมือนอยากจะมุดดินหนีไปโผล่ทวีปแอฟริกาให้รู้แล้วรู้รอด ยิ่งเมื่อเห็นแฟนสาว(ปลอมๆ)พรวดเข้ามาได้จังหวะพอดีก็รีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือเต็มที่
“ซนซึงอา”
ซึลกิเรียกชื่อคนที่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยเสียงหวานจ๋อยจนเจ้าตัวถึงกับขนลุกซู่ แต่ด้วยสีหน้าท่าทางของซึลกิแล้วซึงวานรู้ว่าหล่อนไม่ได้กำลังล้อเล่น ทั้งที่บอกไปว่ามีแฟนแล้ว. ..ทำไมถึงยัง...
สุดท้ายซึงวานจึงเลือกเดินเข้าไปกลางวงประชาชีและทำในสิ่งที่ควรจะทำ
“มีอะไรกับซึลกิเหรอคะ” คนมาใหม่เข้าไปคั่นกลางระหว่างคยูฮยอนกับเพื่อนสนิทจนตอนนี้ซึลกิได้แต่ยืนหงอยมองแผ่นหลังของซึงวานที่กำลังจ้องหน้าคยูฮยอนอย่างเอาเรื่อง. ..แมนมากว่ะเพื่อน
“แค่...จะให้ดอกไม้เป็นกำลังใจที่เราจะได้ขึ้นโชว์ด้วยกันวันนี้ครับ”
“ซึลกิไม่ชอบรับของจากคนอื่น ไม่รู้ว่ารุ่นพี่รู้มั้ยแต่ว่าของที่รุ่นพี่ให้มาทั้งหมดซึลกิไม่เคยเก็บไว้เลยนะคะ” ซึงวานตอกกลับไปด้วยมั่นหน้าเหลือล้น ก็ซึลกิไม่เคยเก็บของพวกนั้นไว้จริงๆนี่นา พวกดอกไม้กับตุ๊กตานี่โดนโยนทิ้งหมด ส่วนขนมซึงวานก็ฟาดเรียบ. ..ไม่ได้เห็นแก่กินนะแต่มันเสียดาย
“แล้วก็ขอบคุณที่เป็นห่วงซึลกินะคะ แต่แฟนฉัน ฉันดูแลเองได้”
ท่ามกลางความอึ้งของคนในชมรมที่ไม่เคยเห็นลุคโหดของซึงวานคนเกรียนมาก่อน เจ้าตัวกลับแทบอ้วกจากประโยคที่สรรหามาพูดเมื่อครู่ ไม่รู้จะอยู่ต่อให้เรื่องยิ่งยุ่งทำไมซึงวานจึงหันไปคว้าแขนของซึลกิและจ้ำออกจากห้องชมรมไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว ถ้ามีการมอบรางวัลแด่ผู้ก่อปัญหาแล้วเดินหนียอดเยี่ยม ซึงวานและซึลกิคงได้รับรางวัลนี้คู่กันอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่ไหวแล้วว่ะแก นี่ขนาดลงทุนเป็นเบี้ยน...หรือจะย้ายโรงเรียนหนีดีวะ?”
ซึลกิโพล่งประโยคบ้าบอออกมาแข่งกับลมที่พัดแรงบนดาดฟ้าของตึกดุริยางค์เพื่อขอความเห็นจากซึงวานที่ยืนเท้าคางกับระเบียงกั้นข้างๆ ประโยชน์อย่างหนึ่งของการเป็นเด็กกิจกรรมหน้าตาน่ารักคือพวกเธอสามารถไปขอยืมกุญแจชั้นดาดฟ้าจากลุงภารโรงแล้วแอบเอาลูกกุญแจไปปั๊มไว้คนละชุดโดยไม่มีใครสงสัย แค่เผื่อไว้ว่าบางวันเกิดเบื่อจะได้โดดเรียนขึ้นมานั่งเล่นกันบนนี้. ..เรื่องดีๆแบบนี้ซึลกิกับซึงวานถนัดนักล่ะ
“ย้ายไปไหน ฮอกวอตส์แงะ?”
“เออ อยากเรียนกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลมานานแล้ว ถุย!” ซึลกิพูดติดตลกก่อนจะใส่ศอกกับต้นแขนของซึงวานเบาๆ แล้วทั้งสองคนก็จบลงที่การหัวเราะ อย่างที่บอก...การมีซึงวานยืนบื้ออยู่ข้างๆโดยไม่ช่วยให้คำแนะนำถึงจะดูไร้ประโยชน์แต่ก็ทำให้ซึลกิไม่รู้สึกกังวลเท่ากับต้องอยู่คนเดียว
“แล้วแกจะเอายังไง แผนเบี้ยนไม่เวิร์ค จะบอกทุกคนว่าเราเลิกกันแล้วก็ได้นะ” ซึงวานถามขึ้น
“อ้าวไอ้นี่ เลิกกันอีกแล้ว เพิ่งเปิดตัวเองนะ”
“เออไม่ทันคิด ขอโทษๆ”
“...”
“งั้นเรามารักกันให้ลืมโลกไปเลยดีกว่า เอาให้รุ่นพี่คยูฮยอนเลี่ยนไปเลย”
“อืม...เห็นด้วยค่ะที่รัก เพิ่งจะมีความคิดเห็นที่ดีก็วันนี้ ไหนมาจุ๊บทีซิ” พูดจบซึลกิก็คว้าคอซึงวานเข้าไปใกล้แต่คนตัวเล็กกว่ากลับขืนตัวไว้เต็มที่แถมทำท่าสะดีดสะดิ้งจนเกินความจำเป็น
“เอ้าขัดขืนทำไมคะ ไม่รักแฟนแล้วเหรอคะซนซึงอา~” ซึลกิพูดล้อแล้วเริ่มแกล้งคนในอ้อมแขนหนักข้อขึ้นจนสุดท้ายก็จุ๊บแก้มของเพื่อนสนิทได้สำเร็จ หมีตัวโตหัวเราะพอใจแล้วปล่อยซึงวานให้เป็นอิสระ คนโดนแกล้งมองค้อนและยกมือขึ้นมาถูแก้มที่เพิ่งเสียความบริสุทธิ์เบาๆ
“ไอ้หมีกิ ลามปาม. ..ฉันต้องไปช่วยเพื่อนจัดซุ้มห้องแล้ว แกก็ไปเตรียมตัวแสดงไป” ซึงวานตัดบทไล่หมีขี้แกล้งและทำท่าจะเดินหนีออกไปแต่โดนซึลกิรั้งไว้ก่อน
“แล้วแกไม่มาดูฉันแสดง?” ซึลกิมองนาฬิกาข้อมือ. ..อีกประมาณสามสิบนาทีก็ถึงคิวของเธอแล้ว
“เออเดี๋ยวไป ห้องเราทำซุ้มจัดดอกไม้ เดี๋ยวฉันจัดให้แฟนช่อใหญ่ๆเลย เอาไปตอกหน้าคนทั้งหอประชุมนั่นล่ะ”
ร้ายกาจ
ซึลกิมองซึงวานยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะยิ้มตอบกลับไป บางทีซึงวานก็น่ารักจนซึลกิคิดว่าถ้าตัวเองเป็นผู้ชายก็คงจะจีบไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมยังไม่มีใครถูกใจจนซึงวานยอมเดทด้วยซักที
“ซนซึงแฟนกิน่ารักจังค่ะ มาให้จุ๊บอีกทีมา” ซึลกิหยอกและทำท่าจะเดินเข้าไปหาซึงวานแต่อีกคนกลับผลักออกและรีบวิ่งหนีก่อนจะโดนแกล้งอีกครั้ง ซึลกิยิ้มขำ แล้วก็ต้องตะโกนตามหลังเมื่อนึกขึ้นได้
“ไม่เอาดอกกุหลาบแล้วนะเว่ย ได้ของพี่คยูฮยอนเยอะแล้ว!!”
การแสดงของซึลกิและคยูฮยอนเป็นไปตามที่ซ้อมไว้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่ซึลกิกำลังกังวลคือเพลงที่ใกล้จะจบเต็มทีแล้วแต่ยังไม่เห็นหัวคนที่บอกว่าจะมาดู. ..อุตส่าห์เลือกเพลงที่นางชอบมาร้อง ไม่มีดอกไม้อะไรนั่นก็ได้ ตอนนี้ซึลกิแค่อยากให้ซึงวานได้ฟังเพลงที่หล่อนเคยอยากฟังจากเธอนักหนา
เมื่อมาถึงท่อนสุดท้ายซึลกิก็ทันได้เห็นคนที่เพิ่งเปิดประตูหอประชุมเข้ามาและรีบแหวกกระแสประชาชีที่กำลังดูการแสดงอยู่เต็มไปหมดเพื่อตรงมาที่เวที ในมือของหล่อนมีดอกทิวลิปหลากสีช่อใหญ่ ยิ้มกว้างจนซึลกิเริ่มกลัว
หญิงสาวผู้มากับดอกทิวลิป...ซน ซึงวาน ยื่นช่อดอกไม้ให้ซึลกิเมื่อพยางค์สุดท้ายจบไปพอดี
“ร้องเพราะมากหมี”
ท่ามกลางความฮือฮาของคนในหอประชุม ซึงวานยังอุตส่าห์เล่นมุกตลกหน้าด้านให้ซึลกิหงุดหงิดได้ เหลือบไปมองหน้าคนเล่นกีต้าร์แล้วค่อยหายหงุดหงิดขึ้นมาหน่อย. ..ถ้าซึลกิทำผู้ชายร้องไห้บนเวทีจะบาปมากไหมเนี่ย
“แกไม่ได้ฟังเลยอ้วน แกเพิ่งเข้ามาเมื่อกี๊...”
ซึลกิก้มลงกระซิบก่อนจะแสร้งยิ้มหวานให้แฟนสาวปลอมๆ จับแก้มจับมือกันเล็กน้อยและรับดอกไม้ช่อโตนั้นไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินเข้าไปหลังเวทีอย่างสวยงามตามด้วยเสียงปรบมือจากผู้ชม ปล่อยให้ซึงวานรับหน้ากับพวกคนในชมรมที่กระจายตัวอยู่ในหอประชุมเพื่อเป็นหน้าม้าและตอนนี้กำลังกระจายข่าวไปทั่ว ‘เค้าเป็นแฟนกันนะรู้ยัง’ ได้ยินเสียงแว่วจากคุณน้องคิม เยริมอยู่ไม่ไกล
เอาล่ะ...ตอนนี้ข่าวเบี้ยนของเธอสองคนคงได้ระบาดไปค่อนโรงเรียนแล้วเรียบร้อย
เย็นนั้นซึงวานเลือกเดินไปส่งซึลกิที่บ้านและถือโอกาสไปนอนเกลือกกลิ้งพร้อมขนมนมเนยที่แม่ของซึลกิเอามาให้ลองชิมไม่ขาด ทีแรกที่แม่เห็นช่อดอกไม้ในมือซึลกินางก็ดีใจใหญ่ที่ลูกสาวขายออกบ้างแล้ว แต่พอบอกว่าซึงวานเป็นคนเอามาให้นางก็...ก็ยังฟินอยู่นั่นแหละ คุณนายคังน่ะปลื้มซึงวานจะตาย เห็นบ้าทำขนมเหมือนกันหน่อยนี่มองข้ามหัวลูกสาวในไส้ไปเลย
“ทำไมต้องเอาดอกทิวลิปหลายๆสีด้วยวะ มัวแต่เลือกสีอยู่ล่ะสิเลยเข้ามาตอนเพลงจบพอดี”
ซึลกิทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงของตัวเองข้างๆร่างของเพื่อนที่นอนอืดอยู่ เอามือเขี่ยช่อดอกไม้เล่นไปมาและบ่นอีกสองสามคำในหัวข้อเดิม บ่นตั้งแต่เดินออกมาจากโรงเรียนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่น
“แกร้องให้ฉันฟังใหม่ก็ได้นี่ เดี๋ยวเล่นกีต้าร์ให้เลย บ่นจั๊ง” ซึงวานพูดตัดรำคาญด้วยตอนนี้หนังท้องที่ตึงจากขนมของแม่ซึลกิกำลังพาให้หนังตาหย่อนเสียแล้ว
“ที่จริงแกควรขอบคุณฉันที่ทำพี่คยูฮยอนเงิบได้ขนาดนั้น แล้วอีกอย่าง มันไม่ใช่แค่ทิวลิปหลายสีนะ”
“หัวหน้าบอกว่ามันแปลว่า ดวงตาของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้”
“แล้วไงวะ?”
“ก็ไม่แล้วไง แค่คิดว่ามันเจ๋งดี” เสียงของซึงวานเริ่มเบาลงแล้ว ชักสงสัยว่าแม่ของเพื่อนหมีใส่กัญชาเข้าไปในขนมหรือเปล่า ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเมามากกว่าอิ่ม
แต่ประโยคที่ซึงวานเพิ่งพูดออกมาทำให้ซึลกินึกสนุก มนุษย์หมีทิ้งตัวลงเท้าแขนข้างตัวซึงวานและเริ่มจ้องหน้าอีกคนด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำเอาซึงวานที่ตาเริ่มปรือขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อะไร...”
“ดวงตาของฉันทำแกคลั่งไคล้เหรอซนซึง”
คิ้วของซึงวานยิ่งขมวดยุ่งกว่าเดิม
“ไม่เอาไม่เล่น ง่วงแล้ว” คนง่วงปัดป่ายมือที่เริ่มไต่ขึ้นมาเชยคางของตัวเองเล่น แต่ก่อนซึลกิก็ไม่เห็นแกล้งถี่ขนาดนี้ เห็นยอมช่วยยอมเล่นเป็นแฟนหน่อยเลยได้ใจหรือไง?
ซึลกิไม่ยอมหยุดแต่กลับจับมือที่ขัดขืนของซึงวานไว้และเริ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้น
“เล่นอะไร ไม่ได้เล่น ก็แกบอกว่าตาฉันทำให้แกคลั่งไคล้”
“ฮื่อ...” ซึงวานยังคงปัดป้องแต่ก็ใช้แรงเท่ามดสะกิด ขี้เกียจเกินกว่าจะเถียง. ..มันก็แค่ความหมายของดอกไม้
“ที่จริงแกแอบหลงรักฉันล่ะสิอ้วน”
เมื่อขัดขืนไม่สำเร็จสุดท้ายซึงวานเลยต้องจบลงด้วยการจ้องมองตาของซึลกิกลับแบบใกล้ๆและตรงๆกว่าทุกครั้ง ซึลกิมีตาชั้นเดียวแต่ดูเรียวสวยเข้ากับใบหน้า จมูกรั้นกับปากบางนั่นก็ผสมกันพอเหมาะจนน่ารัก ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ซึงวานมีความรู้สึกว่าเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของตัวเองก็มีความสวยอยู่ในตัวกับเค้าเหมือนกัน ซึลกิเป็นคนมีเสน่ห์. ..ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีคนชอบเยอะแยะ
ความจริงแล้วซึงวานก็มีคนมาชอบเยอะเหมือนกันแต่ดันไม่เคยมีใครถูกใจเลยซักคน...หรือว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะเธอหลงรักคัง ซึลกิมานานแล้วแต่ไม่รู้ตัวกันนะ?
เมาขนมจนเพ้อแล้วซน ซึงวาน
“ตลก”
คนตัวเล็กกว่าพูดและเด้งตัวขึ้นจากเตียงให้หลุดพ้นพันธนาการของมือซึลกิ ซึงวานเสยผมตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะเหลือบไปมองซึลกิที่เริ่มยันตัวขึ้นมานั่งด้วยกัน
“แก...เล่นงี้เดี๋ยวแม่เปิดประตูเข้ามาก็ช็อคพอดี”
“ถ้าแม่เห็นเดี๋ยวบอกก็ได้ว่าเราเป็นแฟนกันแล้ว” คำพูดของคัง ซึลกิทำให้ซึงวานส่ายหน้าด้วยความเอือม ซึลกิน่ะเก่งแต่ปาก สู้เธอที่รายงานพ่อกับแม่ว่าแกล้งเป็นแฟนกับซึลกิเพื่อหลอกรุ่นพี่ไปแล้วก็ไม่ได้
ตอนพ่อกับแม่ของเธอรู้ก็แปลกใจกันใหญ่เพราะคิดว่าลูกตัวเองกับซึลกิคบกันตั้งนานแล้วแต่กลายเป็นว่าไม่เคยคบแต่เพิ่งแกล้งคบกันซะงั้น นาทีนั้นซึงวานแทบจะเอาหัวโขกกับพื้นเลยทีเดียว
“เออแล้วตอนร้องเพลงเสร็จแกไปทำอะไรอยู่หลังเวทีวะ ตั้งนานกว่าจะออกมา”
ซึงวานถามและซึลกิยังไม่ได้ตอบอะไร แค่นั่งเหม่อและเคาะปลายเท้ากับพื้นเล่นเหมือนกำลังใช้ความคิด สักพักก็ยิ้มออกมาจนตาหยี
“แกรู้จักแทยงห้องบีมั้ย?” อยู่ดีๆก็ถามกลับมา. ..นี่เหรอเรื่องที่กำลังคิดอยู่
“ที่เล่นกีต้าร์ให้วงของโรงเรียน?”
“ใช่ๆ” ซึงวานคิดว่าในโรงเรียนคงมีน้อยคนที่ไม่รู้จักแทยงหนุ่มฮอตคนนี้ เขาเล่นดนตรีให้วงดังของโรงเรียนตั้งแต่มัธยมปลายปีแรกแถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก หน้าตาก็หล่อเหมาะจะเก็บไว้ทำเบ้าให้ลูก
“ปกติเราไม่เคยคุยกันเลยนะ แต่ตอนฉันแสดงเสร็จอยู่ดีๆเขาก็เข้ามาทักแล้วก็บอกว่าฉันร้องเพลงเพราะแหละ”
“อืม ก็ดีหนิ”
“มันไม่ใช่แค่ดีเว่ย นี่แทยงเลยนะ แท-ยง-เลย-นะ!” ซึลกิพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ซึ่งซึงวานก็เข้าใจเพราะการได้คุยกับแทยงถือเป็นความฝันของชะนีน้อยใหญ่ในโรงเรียน แล้วนี่ถึงขนาดเขาเข้ามาชวนคุยเองเลยด้วย
“แล้วเขาก็ถามว่างานพรอมคืนสู่เหย้าเดือนหน้าอยากไปร้องเพลงด้วยกันมั้ย วงเขากำลังหานักร้องผู้หญิงอยู่พอดี แต่ฉันยังไม่ได้ตอบอ่ะ ขอไปคิดดูก่อน”
“อ้าวทำไมไม่ตอบตกลงไปเลยวะ อุตส่าห์ได้ร้องกับวงของโรงเรียน” ซึงวานท้วง ซึลกิยิ้มมุมปากและเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์แบบน่าหมั่นไส้กลับมาให้
“แม่สอนว่าเป็นผู้หญิงให้เล่นตัว”
ถุย...
“แล้วก็นะ ถ้าฉันตกลงไปเลยเขาก็ไม่ขอแลกเบอร์ไว้เผื่อฉันหนีไปดิ”
พูดจบมนุษย์หมีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์เบอร์ที่เมมชื่อไว้ว่า’แทยง’ให้ซึงวานดู ใบหน้าหมวยนั่นฟินจนปิดไม่มิด ซึงวานกล้าฟันธงว่าตอนนี้ถ้าแฟนคลับแทยงรู้ว่าซึลกิได้เบอร์ของเขามาแบบง่ายๆเพื่อนรักของเธอคงต้องโดนดักตบแน่
“แม่ได้บอกปะว่าเล่นตัวกับอ่อยนี่ไม่เหมือนกันนะ” ประโยคนั้นทำให้ซึลกิหันมาขยับปากล้อเลียนเพื่อนสนิทก่อนจะหันไปส่งข้อความไปให้เบอร์ที่เพิ่งได้มาวันนี้แทน เบอร์ที่คนค่อนโรงเรียนอยากจะได้เก็บไว้
[เราตัดสินใจได้แล้ว เราอยากร้องเพลงให้วงเธอนะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย :) ]
ก่อนที่ซึงวานจะได้แซะเพื่อนขี้อ่อยของตัวเองต่อแทยงก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับรออยู่ก่อนแล้ว
[จริงเหรอ! ดีเลย งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะนัดซ้อมนะ ขอบคุณมากซึลกิ]
แหม. ..ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูแล้วมั้งน่ะ
ซึงวานเบ้ปากเป็นรูปสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนอย่างเดิม พร้อมทั้งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกหมั่นไส้ซึลกิหรือแทยงดี
หลายวันต่อมาซึลกิไม่ค่อยได้กลับบ้านพร้อมซึงวานเหมือนเมื่อก่อนเพราะต้องอยู่ซ้อมกับวงของแทยงจนค่ำ แต่เวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันที่โรงเรียนก็เล่นบทหวานน้ำตาลทรายแดงได้ไม่ขาดตกบกพร่อง(และจะหวานเป็นพิเศษเวลารุ่นพี่คยูฮยอนอยู่แถวนั้น)จนโดนทั้งเพื่อนในห้องและในชมรมหมั่นไส้
ซึงวานคิดว่าซึลกิสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งทำให้เธอเขินเหมือนกับที่หล่อนแกล้งเธอบนดาดฟ้าและที่บ้านเมื่อคืนวันงานรับน้องใหม่ แรกๆซึงวานก็รำคาญไม่น้อย แต่เมื่อโดนบ่อยเข้าก็ชักจะชิน พักหลังมานี้ซึงวานสังเกตได้ว่านับวันใบหน้าเพื่อนรักของเธอก็ดูสดใสอิ่มเอิบขึ้นมากแม้ไม่ได้แกล้งเธอ มันก็เป็นเรื่องดีล่ะนะ แต่จะว่าไปก็ดูอิ่มเอิบเกินไปหน่อย...
นั่นทำให้ซึงวานอยากเอ่ยปากถาม
แต่ก่อนที่จะได้ถามเธอก็โดนตัดบทขึ้นมาเสียก่อน...
“นี่ แกล้งทำเป็นว่าเราทะเลาะกันแล้วกำลังจะเลิกกันได้ปะวะ?”
“ฮะ!?”
เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ซึลกิไม่มีซ้อมและเธอสองคนได้กลับบ้านพร้อมกัน ซึ่งซึงวานก็เลือกแวะไปบ้านซึลกิก่อนตามเคย ขณะที่เธอและซึลกิกำลังนั่งเล่นไพ่อีแก่กินน้ำกันอยู่ในห้องนอน เจ้าของห้องก็เอ่ยประโยคคำถามที่จะว่ากวนตีนก็กวนตีน แต่ดูจากหน้าแล้วหล่อนดูจะจริงจังมากกว่า
“แล้วพี่คยูฮยอนล่ะ?” ซึงวานถามหยิบไพ่จากมือซึลกิหนึ่งใบ ไม่ได้อยากได้สี่ดอกจิกเลยให้ตาย
“ถึงตอนเขามาตื๊ออีกทีฉันก็คงมีแฟนใหม่ไปแล้ว”
“ฮะ!?”
ซึลกิส่งเสียงในลำคอและมองไพ่ในมือนิ่งในขณะที่ซึงวานทำตาโตเป็นไข่ห่านไปแล้ว นี่เธอโดนลบความจำหรือโดนวาร์ปไปช่วงไหนของชีวิตหรือเปล่า ทำไมถึงรู้สึกว่าตามอะไรไม่ค่อยทัน
“ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกว่าแทยงแอบชอบฉัน เพราะเขาชอบมาชวนคุย เทคแคร์นู่นนี่ตลอด แต่ฉันก็รู้แหละว่าทุกคนในวงรู้ว่าฉันเป็นแฟนกับแกอยู่ ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ”
"..."
“แต่พอหลังๆมานี้ฉันรู้สึกว่า...ฉันน่าจะปลื้มเขาเหมือนกัน”
“เฮ่ย”
“ฉันก็เลยบอกเขาไปว่าที่จริงแล้วเราไม่ได้เป็นแฟนกัน แค่โกหกพี่คยูฮยอนแต่คนดันรู้กันหมด เขาก็ยิ้ม แล้วก็ถามว่างั้นจีบฉันได้ใช่มั้ย ฉันเลยรู้ว่าเขาชอบฉันจริงๆ”
ร้าย...ร้ายนักทั้งชายหญิง
ซึงวานอยากจะหงุดหงิดที่เพื่อนเพิ่งมาเล่าเรื่องทั้งหมดเอาตอนที่มันมาไกลขนาดนี้แล้ว แต่พอคิดว่าถ้าเกิดกับตัวเอง ทั้งที่ยังอยู่ในสถานะแกล้งเป็นแฟนกับเพื่อนสนิทแถมยังไม่แน่ใจว่าเขาชอบเราจริงและเราชอบเขาจริงหรือเปล่า เธอก็คงปล่อยให้มันเกิดและทำแบบเดียวกัน
สรุปแล้วแทยงชอบซึลกิตั้งแต่รู้ว่ายังเป็นแฟนกับซึงวานอยู่ แต่ซึลกิเพิ่งชอบเขากลับเมื่อไม่นานมานี้ พอรู้ว่าซึลกิไม่ได้มีแฟนจริงก็เลยกะจะเดินหน้าเลยงั้นสิ
แล้วปัญหาจะตกอยู่ที่ใคร. ..ก็ตกที่คู่เบี้ยนปลอมของแม่นางที่นั่งหน้าเจื่อนถือสี่ดอกจิกอยู่ตรงนี้ไง
“แต่แกก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟนปลอมอย่างฉัน”
“ช่าย”
“ก็เลยต้องเลิกก่อนถึงจะจีบแบบเปิดเผยได้”
“เยส”
“...”
“ช่วยฉันหน่อยน้าา เราจะได้ไม่ต้องมาเล่นเป็นแฟนกันแล้วด้วยไง ไหนอยากเลิกตั้งแต่วันแรก”
“บอกว่าอยากตอนไหน?”
“ก็แกโทรมาถามว่าเมื่อไหร่จะเลิก” นั่นสินะ...แต่ก็ไม่ได้พูดว่าอยากเลิกเสียหน่อย
แต่ก็ใช่ว่าจะอยากเล่นต่อ...แต่ก็ไม่ได้บอกว่าอยากเลิกเล่นนี่...
พอเถอะ...
ซึงวานเชื่อแล้วว่าเวรกรรมมีจริง ที่ตอนประถมชอบไปสั่งให้ซึลกิปั่นการบ้านวิชาคัดลายมือให้นั้น ตอนนี้มันส่งผลให้เธอจำเป็นต้องช่วยเหลือเพื่อนรักในการตกเป็นทุกๆสถานะที่นางอยากให้เป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้โดยมีสิ่งตอบแทนกลับมาเพียงแค่การได้เห็นซึลกิมีความสุขและไม่ถูกตามรังควาน
แต่นั่นก็ดูจะเป็นสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าพอเพราะยังไงซึงวานก็อยากเห็นซึลกิมีความสุขมากกว่าทำหน้าบูดเป็นหมีเบื่อเหมือนตอนหล่อนอกหักสมัยมัธยมต้น
ให้ทำอะไรก็ทำวะ แค่ไม่สั่งให้ไปตายก็พอ
“เออ...ก็ได้ แล้วฉันต้องทำยังไงบ้าง?”
TBC.
รู้สึกว่าขึ้นตอนสองแล้วเรื่องเดินไปไวและเริ่มยุ่งมากค่ะ แต่บอกเลยว่าเรื่องยังยุ่งได้มากกว่านี้อีก ฮาาาา คาแรกเตอร์ตัวละครทุกตัวเป็นแค่จินตนาการนะฮะ ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสื่อมเสีย(ไรท์ชอบทุกคนที่เอามาเป็นตัวละครเลยนะ) แล้วก็เราเป็นแค่คนเขียน เขียนเอาสนุก คงไม่สามารถบังคับให้ใครมาติดตามได้ แต่ถ้าจะติดตามเรื่องนี้ก็ขอบคุณมากๆค่ะ เข้ามาอ่านถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากๆแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะะ -/\-
ความคิดเห็น