ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Red Velvet] : Fake/Fool/Fall [WenGi]

    ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 01 - In Relationship

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58


    O W E N TM.



    CHAPTER 01 - In Relationship

     
     

     

     

     

    “ซนซึง เย็นนี้ไปซ้อมใหญ่เป็นเพื่อนหน่อยสิ”



    จากน้ำเสียงของผู้พูดที่นั่งอยู่ข้างกาย ซน ซึงวานหรือที่เพิ่งถูกเรียกซนซึงจับได้ว่าตอนนี้คัง ซึลกิกำลังอารมณ์ไม่ดี...


    “หืม...ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยชวน มีอะไรรึเปล่า?”


    ถามออกไปในทันที เพราะตั้งแต่ซึลกิเพื่อนรักได้รับเลือกเป็นตัวแทนชมรมขับร้องให้ร้องเพลงในงานต้อนรับนักเรียนใหม่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เจ้าตัวก็ไม่เห็นเคยจะซ้อมให้ดูหรือแม้แต่จะฮัมเพลงนั่นให้ฟังเลยสักครั้ง บอกว่าอยากจะเซอร์ไพรส์


                 
                  แหม...ตื่นเต้นตายล่ะ


     

     “แกรู้ใช่มั้ยว่าต้องมีคนมาเล่นกีต้าร์ให้ฉันตอนร้องเพลง” ซึงวานส่ายหน้าเป็นคำตอบ ส่งผลให้ซึลกิขมวดคิ้วใส่อย่างขัดใจ เสียงของครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์จากหน้าห้องยังคงรักษาระดับความถี่ที่ทำให้ง่วงเหมือนเดิม เขายังคงคุยกับกระดานจนไม่รู้ว่าตอนนี้นักเรียนหญิงมัธยมปลายปีที่สองห้องเอที่ชื่อซึลกิอยากจะเหวี่ยงใส่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆเหลือเกิน


    “เออ นั่นแหละ วันนี้ฉันเพิ่งรู้ว่าใครเป็นคนเล่นกีต้าร์ให้” ซึลกิเว้นจังหวะพอให้ดูน่าติดตาม แต่ซึงวานไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น


    “อาฮะ”


    “พี่คยูฮยอน”


    หืม?

    พอได้ยินชื่อนั้นคนฟังก็หลุดก้อนขำออกมาพรืดใหญ่จนต้องรีบกลั้นไว้ไม่ให้เสียงดัง ซึงวานปิดปากตัวเองแต่ไม่สามารถหยุดแผ่นหลังที่สั่นสะท้านเพราะแรงขำจนโดนซึลกิค้อนเข้าให้


    ใครๆก็รู้ว่าคยูฮยอน รุ่นพี่ในชมรมพวกเธอตามตื๊อซึลกิมาตั้งแต่ปลายเทอมที่แล้ว จนตอนปิดเทอมหล่อนก็สบายใจว่าคงจะไม่เจอไปพักใหญ่และนั่นคงทำให้รุ่นพี่เลิกชอบไปเอง แต่ผิดถนัดเมื่อคยูฮยอนยังติดต่อมาเรื่อยๆ(ส่วนใหญ่เป็นการส่งข้อความมาคุยคนเดียวโดยที่ซึลกิแทบไม่ตอบกลับไป)และจากเวลาสองอาทิตย์ที่เปิดภาคเรียนมาทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม. ..เมื่อเช้านี้มีดอกกุหลาบแดงถูกวางไว้บนโต๊ะของซึลกิพร้อมกับการ์ดที่เขียนว่าตั้งใจเรียนนะหมีน้อย


    เจ้าของลายมือนั้นเป็นลายมือเดียวกับที่ส่งการ์ดมาให้พร้อมกับตุ๊กตาหมีและขนมอีกหลายอย่างในเทอมที่แล้ว และนั่นทำให้ซึลกิอารมณ์เสียมาจนถึงตอนบ่ายของวันนี้


    “นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ” ซึงวานพูดกลั้วหัวเราะ


    “ขำมากใช่มั้ย นี่แหนะ” ซึลกิพูดพลางเอื้อมไปล็อคคอคนข้างกายมาดีดหน้าผากดังเพียะจนเพื่อนสนิททำหน้าเหยใส่ เดาว่าพวกเธอคงจะเสียงดังมากไปจึงถูกสายตาอาฆาตจากครูเพ่งมาจนต้องกลับสู่ความสงบและทำเป็นเขียนยุกยิกในสมุดกันทั้งคู่


    “หึๆๆ”


    แต่ซึลกิได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของเพื่อนสนิทที่ยังคงขำไม่เสร็จอยู่ มือเล็กกำปากกาแน่นและพูดเสียงเย็น


    “ถ้ายังไม่หยุดขำฉันโกรธแกแน่อ้วน” ฉายาอ้วนของซึงวานที่ถูกเรียกเมื่อหลายปีก่อนเพราะความจ้ำม่ำเจ้าเนื้อนั้น ถึงในปัจจุบันซึงวานผู้ผอมเพรียวจะไม่เหมาะกับมันอีกแล้วแต่ซึลกิก็ยังชอบหลุดออกมาเวลาคิดจะกวนประสาทหรือไม่ก็โดนอีกฝ่ายกวนประสาทเอา นั่นทำให้เสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงกระแอมและเงียบลงในที่สุด

     

    ถึงจะกวนประสาทแค่ไหน พอขู่ว่าจะโกรธให้ซนซึงก็แพ้ทุกทีล่ะนะ...

     

     
     

     

     

    ภายในหอประชุมใหญ่ของโรงเรียนเงียบเชียบหลังจากที่สมาชิกวงดนตรีประจำโรงเรียนเก็บของและพากันแยกย้ายหลังจากซ้อมเสร็จไปก่อนหน้านี้ คิม แทยอน ครูสาวที่ปรึกษาชมรมขับร้องที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่พร้อมกับนักเรียนในชมรม 2 คนช่วยกันจัดการระบบเครื่องเสียงใหม่ให้พร้อมใช้งานและรอ...


    สุดท้ายซึงวานก็ยอมมาดูซึลกิซ้อมจนได้ ตัดสินใจปล่อยซึลกิไว้บนเวทีและลงมานั่งแถวหน้าสุดของที่นั่งผู้ชมและเคาะนิ้วกับหลังมืออีกข้างเป็นจังหวะพลางมองคนบนเวทีจับไมค์แน่น ท่าทีกัดริมฝีปากของเจ้าตัวทำให้รู้ว่ากำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อย


    เสียงเปิดประตูหอประชุมเรียกให้ซึงวาน ซึลกิ และแทยอนที่กำลังจะนั่งลงข้างซึงวานหันไปมอง คนมาใหม่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีร่างสูงโปร่ง เขาขยับสายสะพายกีต้าร์บนบ่าพร้อมเดินเข้ามาคำนับทักทายและโปรยยิ้มให้กับทุกคนก่อนจะขึ้นเวทีไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้เยื้องกับซึลกิ หญิงสาวคำนับให้โจ คยูฮยอนและเขาก็ยิ้มกว้างจนซึลกิต้องหันมาทำหน้าเหยให้ซึงวานยิ้มมุมปากกลับไป


    “ไม่คิดเลยนะครับว่าจะได้มาเล่นกีต้าร์ให้น้องซึลกิ” คยูฮยอนเอ่ยในขณะที่กำลังรูดซิปกระเป๋าและหยิบกีต้าร์ออกมา เสียงของเขาดูตื่นเต้นและดีใจ


    “ค่ะ” ซึลกิเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจอกันอย่างนี้

     “เห็นกุหลาบที่พี่ให้ตอนเช้ารึเปล่าครับ?”


    “เอ่อ...เห็นค่ะ” ซึลกิตอบเสียงอ่อย ไม่อยากบอกว่าพอเห็นดอกกุหลาบนั่นเธอก็หักมันเป็นสองท่อนและเอาไปทิ้งทันที ได้แต่ยิ้มแหยให้รุ่นพี่ก่อนจะตัดบทให้การซ้อมครั้งนี้จบๆไปเสียที


    “เรามาซ้อมกันเลยเถอะค่ะ” พูดใส่ไมค์ให้เสียงกังวานไปทั้งห้อง เสียงปรบมือเปาะแปะจากครูที่ปรึกษาและเพื่อนสนิทของนักร้องดังขึ้นเมื่อรู้ว่าการแสดงกำลังจะเริ่ม ซึลกิหลับตาลงเรียกสมาธิ เสียงกีต้าร์จากคยูฮยอนเริ่มบรรเลงขึ้นตามด้วยเสียงร้องของหญิงสาว


    I am not a kind of girl

    Who should be rudely barging in

    On a white veil occasion


     

    Speak Now…


    นี่มันบ้าชัดๆ. ..ซึลกิก็รู้ว่าซึงวานคลั่งเพลงนี้มากแค่ไหน


    เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่าเซอร์ไพรส์จากซึลกิก็ตอนนี้ เพลงนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ซึงวานซื้อกีต้าร์มาฝึกเล่นเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าคลั่งขนาดไหนแต่จำได้ว่าช่วงนั้นร้องกรอกหูซึลกิทุกวันอยู่หลายอาทิตย์จนอีกคนออกปากว่าเริ่มจะเกลียดเพลงนี้ ส่วนซึงวานก็บิลด์ตลอดว่าถ้าซึลกิลองได้ร้องคงจะเพราะน่าดู. ..ไม่คิดเลยว่านางจะเอามาร้องในเวทีแรกของตัวเอง



    เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมเพิ่งจะทำตัวน่ารักก็วันนี้...



    ซึงวานรู้ตัวว่าพูดไม่ผิดจริงๆเมื่อพบว่าเสียงของซึลกิเหมาะกับเพลงนี้มากแค่ไหน กำลังตั้งท่าจะยิ้มกว้างไปให้แต่ก็สะดุดเพราะสายตาแทะโลมจากคยูฮยอนที่ส่งมาอย่างปิดไม่มิด ชายหนุ่มเล่นกีต้าร์ไปก็มองนักร้องไปแถมยังยิ้มหวานซะเหลือเกิน ซึงวานที่กะจะหันไปถามครูคิมว่ารู้สึกแปลกๆเหมือนกันหรือเปล่าก็ได้คำตอบเป็นยิ้มหวานไม่แพ้กันที่นางส่งไปให้คยูฮยอน...โอเค...รุ่นพี่คยูฮยอนปลื้มซึลกิเลยพยายามให้ได้โชว์คู่กัน ครูคิมปลื้มรุ่นพี่คยูฮยอนเลยดันเขาให้ได้เล่นกีต้าร์ให้ซึลกิจริงๆ


    ถ้าตอนเลือกตัวแทนไม่ใช้การโหวตจากคนในชมรม ครูคิมก็คงเลือกให้คยูฮยอนโชว์เดี่ยวไปแล้วล่ะมั้ง


    ตอนนี้ซึลกิเห็นสายตาของคยูฮยอนแล้ว หล่อนได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาให้ซึงวานแต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ไม่มีวันไหนที่ซึงวานรู้สึกอยากให้เพลง Speak Now จบเร็วเท่าวันนี้เลย


    สงสารมนุษย์หมีบนเวที. ..มันจะรู้ตัวไหมว่าตอนนี้มันทำหน้านอยด์มาก


    “...When they said speak no-ow


    ในที่สุดเพลงก็จบ ซึงวานรีบปรบมือรัวๆก่อนที่ครูคิมจะปรบมือตามและเอ่ยชมคยูฮยอนว่าเล่นได้ดีมาก ในขณะที่พูดกับซึลกิแค่ว่า พรุ่งนี้เตรียมตัวมาให้ดีนะ หลังจากนั้นหล่อนก็ขอตัวออกไปเพราะมีธุระที่ต้องทำและปล่อยให้ซึลกิกับคยูฮยอนตัดสินใจเอาว่าจะซ้อมอีกหรือจะกลับบ้านเลย ซึ่งแน่นอนว่าซึลกิเลือกที่จะกลับ โดยที่ไม่รู้ว่าจะไม่ได้กลับไปง่ายๆ

     
     

    “เดี๋ยวก่อนครับน้องซึลกิ!


    เสียงจากผู้เล่นกีต้าร์บนเวทีหยุดซึลกิที่ลงจากเวทีมาถึงตัวซึงวานอย่างไวหมายจะคว้ามือรีบหนีกลับบ้านให้ชะงักและหันกลับไปมอง เช่นเดียวกับครูคิมที่เดินไปเกือบจะพ้นประตูหอประชุมอยู่แล้ว


    “เราก็รู้จักกันมานานแล้วนะครับ พี่ว่าตอนนี้มันถึงเวลาแล้วล่ะ”


    ซึลกิเลิกคิ้วให้ประโยคข้างต้น นึกสงสัยขึ้นมาในใจว่าระยะเวลาไม่ถึงปีนี่เรียกว่ารู้จักกันมานานหรือเปล่า การที่รุ่นพี่เป็นคนเข้าหาเธออยู่ฝ่ายเดียวนี่ก็คงพอเรียกว่าคนรู้จัก(ที่ไม่อยากรู้จัก)ได้อยู่หรอกมั้ง แต่ซึลกิเองก็ไม่ได้อยากรู้จักนี่นา แล้วไอ้ถึงเวลาที่พี่แกว่าน่ะ...เวลาอะไร?


    คำตอบของคำถามที่เกิดขึ้นภายในหัวทุกคนคือการที่คยูฮยอนเดินไปหยิบขาตั้งไมค์จากหลังเวทีมาขยับให้เท่ากับระดับที่เขานั่งอยู่ เคาะไมค์สองสามครั้งเพื่อทดสอบเสียงและเริ่มดีดกีต้าร์ขึ้นมา

     

    요즘 따라 내꺼인 내꺼 아닌 내꺼 같은
    ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นของฉัน แต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้น
    니꺼인 니꺼 아닌 니꺼 같은
    ฉันรู้สึกว่าฉันก็เป็นของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน
    이게 무슨 사이인 건지 사실 헷갈려 무뚝뚝하게 굴지마

    ระหว่างเราคืออะไรฉันก็ไม่แน่ใจ อย่าทำตัวห่างเหินไปอย่างนี้เลย

    연인인 연인 아닌 연인 같은 나만 애매하게 대하는  
    รู้สึกเหมือนว่าเราเป็นคนรักกันแต่ก็ไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อไหร่ที่เธอเจอฉันก็ไม่เคยทำให้มันชัดเจน

    때로는 친구 같다는 말이 괜히 요즘 듣기 싫어 졌어
    ช่วงนี้ฉันเลยเกลียดทุกครั้งเวลาที่ได้ยินว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน

     


    Some…


    อืม. ..เพลงนี้เป็นเพลงที่เนื้อหาโมเมที่สุดในสามโลก


    ซึงวานหันไปมองซึลกิที่กำลังสตั๊นสลับกับครูคิมที่สตั๊นไม่แพ้กัน(คงเพราะกำลังปลาบปลื้มกับเสียงร้องของคยูฮยอน) ก่อนจะไปหยุดที่คนบนเวทีที่ส่งยิ้มหวานมาให้ซึลกิ


    “พี่ไม่อยากรู้สึกไปเองอีกแล้ว ถ้าซึลกิก็รู้สึกดีกับพี่เหมือนกัน...”

     

    “คบกับพี่นะครับ”


    จากสีหน้าสตั๊นในตอนแรกของซึลกิ ตอนนี้มันบวกอาการอ้าปากค้างเพิ่มเข้าไปด้วย หลังจากคำสารภาพถูกปล่อยออกมาซึงวานก็รู้สึกถึงมวลบรรยากาศภายในหอประชุมที่กดดันขึ้นหลายเท่าตัว


    “นะครับ?” เสียงนั้นย้ำอีกครั้ง ซึลกิหยุดเหวอแล้ว หล่อนหันมาส่งสายตาเป็นเชิงถามคนข้างกายว่า เอาไงดี แต่ก็เหมือนที่ผ่านมา ซึงวานไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง


    “ฉัน...ขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่ได้ชอบ...”


    “ไม่ได้ชอบพี่เหรอครับ ไม่เป็นไร ยังไงพี่ก็ไม่ยอมแพ้หรอก ซักวันพี่คงชนะใจซึลกิจนได้” ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าความมั่นใจของผู้ชายที่ชื่อคยูฮยอนอีกแล้ว. ..เป็นครั้งที่สองที่ซึลกิหันมาขอความเห็นผ่านดวงตาตี่นั่น คิดว่าปฏิเสธไปแล้วจะจบแต่มันดันแย่กว่าเดิมอีก


    “ถึงตอนนี้ซึลกิจะยังไม่มั่นใจ แต่เรายังมีเวลาศึกษากันอีกเยอะครับ”


    ใครก็ได้ส่งยาสลายมโนไปให้เขาที...


    “พอเถอะค่ะ ยังไงฉันก็คงทำแบบนั้นไม่ได้ ฉัน...มีแฟนแล้ว” ประโยคนั้นทำเอาผู้รับสารทั้งสามคนหันไปมองซึลกิเป็นตาเดียว ซึงวานตกใจในทีแรกว่าเพื่อนสนิทแอบไปคบกับใครตอนไหนแต่เมื่อพบว่ามันเป็นเพียงการด้นสดก็ชักจะอยากฟังว่าเจ้าตัวจะเอายังไงต่อ


    ถามว่ารู้ได้ยังไง ก็เวลาซึลกิโกหกน่ะ...หูจะแดงแปร๊ดแบบนี้ทุกที


    “เมื่อไหร่? ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เลยล่ะครับ?” ตอนนี้ถึงตาคยูฮยอนที่จะต้องสตั๊นบ้างแล้ว


    “นานแล้วค่ะ เราแค่ไม่ได้บอกใคร”


    “คนคนนั้นเป็นใครครับ บอกพี่ได้มั้ย เขาดีกว่าพี่ยังไง” ตำแหน่งดราม่าคิงในปีนี้ได้แก่โจ คยูฮยอน. ..ซึงวานเกือบหลุดขำออกมาทั้งที่คนบนเวทีแทบจะร้องไห้แล้ว ก็แค่ไม่เข้าใจว่าจะตะโกนใส่ไมค์ให้มันยิ่งดังทำไม


    “แน่ใจเหรอคะว่าอยากรู้?” ซึลกิถามก่อนจะหันมามองคนตัวเล็กกว่าข้างกายที่ขมวดคิ้วเป็นเชิงถามว่าหล่อนกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ มนุษย์หมีแค่ยิ้มมุมปากก่อนจะยักคิ้วให้ซึงวานหนึ่งที


    หลังจากนั้นซึงวานก็รู้สึกถึงฝ่ามือของตัวเองที่ถูกประสานกับมือของเพื่อนสนิทแน่น ซึลกิขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นอีกจนหูแดงๆนั่นแทบจะชนหัวซึงวานอยู่แล้ว. ..อย่าคิด..เล่นอะไรพิเรนท์ๆเลยนะ

     

    “ฉันกับซึงวานกำลังคบกันอยู่ค่ะ ฉันไม่อยากปิดใครอีกแล้ว”

     

    นั่นไงล่ะ

     

    “รุ่นพี่ตัดใจเถอะค่ะ ฉันไม่อยากให้ฉันกับซึงวานมีปัญหากันมากกว่านี้” สุดท้ายแล้วความสตั๊นก็ตกมาเป็นของซึงวานจนได้ คนตัวเล็กขมวดคิ้วใส่เพื่อน(ไม่สิ แฟนสาวที่แอบคบกันแบบลับๆ)ด้วยไม่คิดว่าจะเล่นไม้นี้ บอกว่าคบกับผู้หญิงเพื่อให้ผู้ชายเลิกตามตื๊อเนี่ยนะ...ไม่มีจะปรึกษากันก่อนเลยซักนิด ไม่ได้แคร์เลยว่านอกจากรุ่นพี่คยูฮยอนแล้วยังมีครูที่ปรึกษาที่เค้าว่ากันว่าเป็นขาเมาท์ประจำวงการยืนฟังอยู่ด้วย เดาได้เลยว่าพรุ่งนี้คนทั้งชมรมรู้แน่ว่าเธอสองคนเบี้ยนกัน


    “ซึลกิ ฉันว่า...”


    “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันกับซึงวานขอตัวกลับแล้วค่ะ”


    “ซึลกิ”


    “ไปกันเถอะซนซึง” เสียงอ่อยของซึงวานถูกขัดขึ้นมาและตัดจบไปเสียอย่างนั้น ซึลกิคำนับคยูฮยอนและหันไปคำนับครูคิมรั้งให้คนข้างกายคำนับตามอย่างงงๆ มือที่จับกันไว้อยู่ถูกดึงให้เดินตามซึลกิออกไปจากหอประชุมพร้อมกับสถานะใหม่ของเธอสองคน

     

    เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมเพิ่งจะรู้ว่าเราเป็นแฟนกันก็วันนี้...

     

     

     

     

     

     

     

    แกเล่นอะไรของแกวะคัง ซึลกิ!

     

     





     

    TBC.

     

    เราคาดว่าเรื่องนี้จะเป็นฟิคยาวที่ไม่ยาวมาก อาจไม่ถึง 10 ตอนด้วยซ้ำ ฮาาา อย่างที่โปรยไว้ค่ะว่ามันดูคอมเมดี้ แต่มีดราม่าจริงๆนะเออ ดีชั่วยังไงติชมกันได้นะคะ สกรีมเฉยๆก็ได้ ไรท์เปิดกว้าง 555

    ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะฮะ เลิ้บ <3

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×