สังเวียนเสน่หา (จบแล้ว)
ปานนิลเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกยายเก็บจากกองขยะมาชุบเลี้ยง แต่เมื่อยายจากไป เธอก็ถูกขายขาดให้กับเจ้าของอาณาจักรใต้พิภพ ที่นั่น...เธอได้พบกับเขา ผู้ที่มีปมปูมหลังเจ็บปวดไม่ต่างกัน
ผู้เข้าชมรวม
3,466
ผู้เข้าชมเดือนนี้
30
ผู้เข้าชมรวม
ดราม่า ความรัก นิยายรัก โรแมนติก แอบรัก คลั่งรัก เศร้า รัก นิยายโรมานซ์ ท้อง โรมานซ์ แก้แค้น ลูก มาเฟีย นิยายโรแมนติก
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดระยะ ทำให้เวลาเย็นย่ำที่ดวงตะวันใกล้ตกดินดูมืดมิดเร็วกว่าปกติ หญิงชราแบกถุงใส่ของที่เก็บมาทั้งวันใส่ในพ่วงข้างที่ยึดติดไว้กับรถจักรยานยนต์ แล้วยืนเท้าสะเอวหายใจเหนื่อยหอบ มือข้างหนึ่งยกขึ้นปาดหน้าผากที่เต็มไปด้วยหยาดฝนและเม็ดเหงื่อ ก่อนจะตัดสินใจเดินกะเผลกขึ้นคร่อมจักรยานยนต์พ่วงข้างคันนั้น
แต่แล้วเสียงสุนัขเห่ากรรโชกก็ดังขึ้นอย่างผิดปกติ...
นางคุ้นเคยกับกองขยะแห่งนี้มานานปี รู้จักสุนัขจรจัดทุกตัวเพราะเป็นคนคอยจุนเจืออาหารและสร้างเพิงพักชั่วคราวให้ จึงรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นทำให้สุนัขเหล่านั้นพากันเห่าเสียงดัง เหมือนกำลังพบเจออันตราย หรือเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่างที่กำลังดึงดูดความสนใจของพวกมัน
“ไอ้แดง ไอ้ดำ เป็นอะไรลูก ไปเจออะไรเข้าล่ะ” นางรีบลงจากรถ ใจก็นึกว่าสุนัขเหล่านั้นคงเจองูหรืออาจเป็นตัวเงินตัวทองที่ชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้เช่นกัน
หญิงชรายืนเรียกสุนัขทีละตัวแต่กลับไม่มีตัวไหนวิ่งมาหานาง ยิ่งทำให้น่าสงสัย นางจึงยอมเดินตากฝนไปดูพวกมัน เพราะไหนๆ ก็เปียกโชกไปทั้งตัวอยู่แล้ว
“ไปเจออะไรเข้าล่ะไอ้หมาพวกนี้” นางดุ่มๆ ตามไป ก็เห็นว่าสุนัขตัวใหญ่ที่นางเรียกว่าไอ้ดำนั้นกำลังคาบผ้าอะไรบางอย่างแล้วพยายามดึงลาก ส่วนเจ้าแดงก็ยืนเห่าอยู่ข้างๆ แกว่งหางกระโดดไปมาเหมือนจะเร่งให้นางไปถึงเร็วๆ
“อะไรของเอ็ง ห๊า! นั่นอะไรไปขุดทำไมเล่าลูก” นางเอ็ดบรรดาสุนัขจร เพราะคิดว่ากำลังรื้อค้นขยะทั่วไปและพวกมันกำลังทำให้นางเสียเวลา ฝนก็ตก บรรยากาศโดยรอบก็มืดครึ้มไปทั่วแล้ว
หญิงชราจึงหยุดเดินแล้วยืนเท้าสะเอวส่ายหน้า ทำท่าจะหันหลังกลับ แต่แล้วหูก็แว่วได้ยินเสียงหนึ่งที่ดังอ้อแอ้แทรกเสียงสุนัขเสียงสายฝน เป็นเสียงของสิ่งมีชีวิตที่แผ่วเบาที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา...
“...” นางรู้สึกขนลุกซู่แล้วเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับความคิดของตัวเอง แต่เท้าก็รีบย่ำไปยังก้อนผ้านั้นแล้วก้มลงสำรวจทันที “ตายแล้ว...เด็กนี่ เด็กที่ไหน ลูกใครกัน” สิ่งที่เห็นคือทารกน้อยเนื้อตัวสกปรกเปื้อนโคลนเปื้อนดินถูกห่อไว้ด้วยผ้าหนาแน่น แล้ววางไว้ในหลุมเล็กๆ นางจึงรีบอุ้มขึ้นมาทันที ใช้มือที่เปียกปอนของตัวเองเช็ดไปที่ดวงตาและใบหน้าน้อยๆ นั้น
เด็กแรกเกิด...สายสะดือยังไม่ได้ตัดด้วยซ้ำ ใครกันช่างใจอำมหิตเอามาทิ้งในกองขยะอย่างนี้ได้ลงคอ และดูเหมือนทารกน้อยก็กำลังอยู่ในอาการไม่สู้จะดีนัก คงจะร้องไห้จนหมดแรง ตอนนี้ถึงมีแต่เสียงอ้อแอ้ให้ได้ยินเพียงเสียงแหบๆ ตัวขาวซีดและสั่นเทา
ช่างน่าเวทนานัก....
“โถลูก...เวรกรรมแท้ๆ ไม่ต้องกลัวนะ ยายจะช่วยหนูเอง” นางรีบพาสิ่งมีชีวิตเล็กๆ นั้นกลับไปด้วยโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังในทันที
ขนาดหมาเป็นสัตว์เดรัจฉานมันยังมีจิตเมตตารู้ว่าต้องเอื้อเฟื้อความช่วยเหลือ แล้วมนุษย์ที่เป็นสัตว์ประเสริฐแท้ๆ คนใดหนอ ที่มันช่างใจมาร ทิ้งเด็กแรกเกิดที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ไว้เผชิญชะตากรรมในกองขณะอันโสมมอย่างนี้
ซานฟานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
“เด็กพวกนี้ถูกฝึกขั้นพื้นฐานมาอย่างดีทุกคน รับรองว่าไม่ทำให้คุณผิดหวัง” ชาวต่างชาติร่างใหญ่ในชุดสูทสีเทาเข้มยืนหันหลังให้คู่สนทนากล่าวขึ้น
“ดีมาก....ให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่เสียแรงที่ข้ามน้ำข้ามทวีปมาถึงที่นี่”
“ถ้าคุณพร้อมจ่าย ผมก็ยินดีให้บริการเต็มที่ รับรองได้ว่าเด็กของผมจะไม่เหมือนที่คุณเคยมีในสังกัดแน่นอน”
“หากเด็กมันอยู่สร้างเงินให้ผมได้สักสิบยี่สิบปี...ที่เสียให้คุณไปก็ถือว่าเล็กน้อย” ลีโอนาร์ท ชายวัยสามสิบต้นๆ นั่งอยู่ตรงชุดโซฟารับแขกแสยะยิ้มด้วยความพึงพอใจ จดปลายปากกาลงบนกระดาษเช็คใส่ตัวเลขจำนวนสิบหลักโดยไม่ลังเล ก่อนจะเก็บปากกาใส่กระเป๋า แล้วส่งเช็คใบนั้นให้กับทนายของคู่ค้าซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
อีกฝ่ายก็ยิ้มรับด้วยความยินดี พร้อมกับตรวจสอบตามระเบียบ...
“เรียบร้อยครับบารอน” ทนายหันไปมองกับชายร่างใหญ่ที่กำลังหมุนตัวเดินกลับมา
“ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจกันนะครับ...ลีโอนาร์ท ถ้าคุณต้องการนักสู้เพิ่มก็บอกผมได้เลย คุณไม่ต้องเดินทางมาก็ได้ ผมจะเดินทางไปหาคุณที่เมืองไทยด้วยตัวเอง” บารอนยื่นมือขวาให้ลีโอนาร์ท ทั้งคู่จับมือแสดงความเคารพซึ่งกันและกันในฐานะคู่ค้าที่ดี
“ไม่มีปัญหาครับบารอน...แล้วเจอกัน” ลีโอนาร์ทปรายตามองเด็กชายหลากหลายเชื้อชาติในชุดสูทสุภาพยืนเรียงหน้ากระดานกันอยู่ทั้งยี่สิบกว่าคน เขากระหยิ่มยิ้มย่องในใจเป็นอย่างมาก เพราะเหล่านี้คือ ‘สินค้า’ เกรดพรีเมียม ที่จะทำให้เขาเป็นเจ้าแห่งอาณาจักรในโลกมืด โลกที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใดๆ อย่างไรข้อกังขา
เด็กชายแต่ละคนอยู่ในช่วงอายุสิบห้าปีถึงสิบแปดปี แต่มีร่างกายกำยำล่ำสันเกินวัยอย่างที่เขาต้องการ และตอนนี้เด็กทั้งหมดก็เป็นของเขาแล้ว
ด้วยการแลกกับเงินจำนวนไม้น้อย...แต่มันก็คุ้มค่า
“แล้วเจอกัน...” บารอนยิ้มแล้วพยักหน้าให้ แล้วการเจรจาก็จบลง
ลีโอนาร์ทกับลูกน้องอีกสี่ห้าคนพาเด็กชายทั้งหมดเดินออกจากห้องนั้น เพื่อขึ้นรถลีมูซีนไปยังลานจอดเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งก็อยู่ในอานาเขตคฤหาสน์แห่งนี้ที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่าร้อยไร่ เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เจ้าของจะต้องการ
หากประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ อาจจะมีมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านบาทไทยเลยทีเดียว
เมื่อทุกคนอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ก่อนจะไปรวมตัวกันอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยมีลีโอนาร์ทนั่งตรงโซฟาตัวยาว มีพนักงานให้บริการนำเครื่องดื่มมาให้ รอบกายเขาแวดล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดที่ยืนหน้านิ่งราวกับไร้ความรู้สึก
“ต่อไปนี้...ขอให้พวกเธอเรียกฉันว่าป๊า เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน” เขากล่าวเป็นภาษาอังกฤษ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม “พักผ่อนเสียให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ไปอยู่ประเทศไทยกับฉันพวกเธอจะมีทุกอย่างตามที่ต้องการ แลกกับการทำงานให้คุ้มค่า และฉันก็เชื่อว่าพวกเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอย่างที่บารอนได้รับรองเอาไว้”
เมื่อลีโอนาร์ทกล่าวจบ พนักงานต้อนรับสองคนก็เดินมาพากลุ่มเด็กชายไปที่ห้องพัก
เครื่องบินโดยสารส่วนบุคคลเหินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางก็คือประเทศไทย...
โดยนำพาชีวิตเด็กชายชาวต่างชาติต่างภาษาทั้งยี่สิบคนกลับไปด้วย ชะตาชีวิตที่ไม่เคยกำหนดได้เองมาตั้งแต่เกิดของพวกเขา บัดนี้ได้ถูกเปลี่ยนมือจากอีกคนสู่อีกคน
และชีวิตใหม่...ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วโดยไม่อาจรู้เลยว่ามันจะยิ่งเลวร้ายกว่าที่ผ่านมาหรือเปล่า
ผลงานอื่นๆ ของ เฌอรามิล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เฌอรามิล
ความคิดเห็น