คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ลิลลีออฟเดอะวัลเลย์ (Re-write)
๕
ลิลลีออฟเดอะวัลเลย์
แพร์เข้าไปสะสางงานที่ภาควิชาเพื่อพรุ่งนี้จะได้ว่างไปเที่ยวงานลอยกระทงกับป้องตามนัด เธอชวนเวนดี้และซาร่าห์ เวนดี้มีนัดกับแฟนหนุ่ม ส่วนซาร่าห์เพื่อนอีกคนซึ่งอยู่ภาควิชาเดียวกับเธอแต่มีซูเปอร์ไวเซอร์คนละคนกัน กลับหอด้วยกันบ่อยๆก็ติดพันกับงานวิจัยจะต้องเข้าห้องแล็บถึงค่ำ จึงมีเธอกับโบว์สองคนที่จะไปเที่ยว หญิงสาวนั่งรับประทานแซนวิชแฮมกับน้ำส้ม เสียงโทรศัพท์มือถือดังระรัวอยู่ในกระเป๋า
“ผมจะเข้าตึกช้าสักครึ่งชั่วโมงฝากบอกทันย่ากับเวนดี้ด้วยขอบคุณครับ”
ดร.เลียม ทากาฮาระ หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่นเป็นผู้ช่วยอาจารย์ดร.บีทริกซ์ มีหน้าที่ช่วยเหลือ แนะนำทุกเรื่องอันเกี่ยวเนื่องกับการวิจัย เหมือนเป็นพี่เลี้ยงของนักศึกษาปริญญาเอก เวลานี้สนิทสนมกับกลุ่มนักศึกษาของอาจารย์บีทริกซ์ทุกคน เพราะดูแลกันมาจนปีนี้เป็นปีที่สี่แล้ว ปีแรกเขาแนะนำทั้งการเข้าฟังเล็กเชอร์ว่าควรเข้าวิชาใดบ้างอันจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผน การวิจัยและการเขียนวิทยานิพนธ์ ทั้งการเรียนรู้งานในเรือนปลูกพืชทดลองหรือเรียกกันว่ากรีนเฮ้าส์หากมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเขา อาจารย์ที่ปรึกษาที่นี่เรียกว่าซูเปอร์ไวเซอร์มีภารกิจมาก สอนทั้งนักศึกษาปริญญาเอก ปริญญาโทและทำงานวิจัย จึงต้องมีผู้ช่วยไว้คอยดูแลนักศึกษาปริญญาเอกแทน ตอนเรียนอยู่ปีสองเลียมแนะนำให้เธอและเพื่อนช่วยงานซูเปอร์ไวเซอร์โดยเป็นครูผู้ช่วยสอน ช่วยคุมแล็บนักศึกษาปริญญาตรี ทำให้ได้ประสบการณ์ดี ๆ มากมาย
มีอยู่คราวหนึ่ง... ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมกำลังจะหมดฤดูใบไม้ผลิและเริ่มเข้าฤดูร้อน เขาพากลุ่มนักศึกษาของดร.บีทริกซ์ มีเธอ ทันย่า เวนดี้และฮันส์ไปชมกรีนเฮ้าส์ของบริษัทผู้ผลิตพืชผลการเกษตรยักษ์ใหญ่ใกล้เมืองแคนเทอร์เบอรี
“ที่นี่เป็นกรีนเฮ้าส์ใหญ่ที่สุดในโลก เรือนปลูกพืชแต่ละหลังขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลสิบสนาม” เขาอธิบายและยิ้มกว้าง คงขำสีหน้าทึ่งของพวกเธอ ขณะยืนมองความอลังการตรงด้านหน้าประตูทางเข้าเรือนปลูกพืช
“กรีนเฮ้าส์นี้ปลูกผัก ผลไม้พวกมะเขือเทศ พริกหวาน แตงกวา ใช้แหล่งน้ำของตัวเอง มีการควบคุมการให้น้ำการให้ปุ๋ยและการเฝ้าดูการเจริญเติบโตด้วยคอมพิวเตอร์ควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ยี่สิบแปดองศาเซลเซียสตลอดเวลา พออยู่ในสภาวะเหมาะสมผักพวกนี้จะให้ผลผลิตเร็วขึ้นราวสองถึงสี่เท่า สามารถเลี้ยงคนได้มหาศาล”
หลังจากเที่ยวชมกรีนเฮ้าส์ยักษ์เสร็จ ผู้ช่วยอาจารย์หนุ่มแพร์กับเพื่อนแวะเที่ยวบ้านพ่อแม่ของเขาที่แคนเทอร์เบอรี พ่อของเลียมเป็นศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นสอนประวัติศาสตร์ ส่วนแม่สอนวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยเคนท์ เวลานี้เกษียณแล้วทั้งคู่
"ทานกันเยอะ ๆ นะครับ แยมพวกนี้แม่ทำเองใช้ผลไม้ในสวนหลังบ้าน" เจ้าบ้านหนุ่มเปิดขวดแยมทั้งสามขวดออกให้
บนโต๊ะมีสโคนอบใหม่กลิ่นหอม คล็อตเทดครีมของเดวอน กับกาชากาแฟ
"งั้นผมไม่เกรงใจละนะ" ฮันส์คว้าสโคนบิออกเป็นสองชิ้นใช้มีดปาดคล็อตเทดครีมทาสโคนตามด้วยแยมราส เบอรี ก่อนจะใส่เข้าปากคำใหญ่
เมื่อทุกคนอิ่มอร่อยกับอาหารว่าง
เลียมพาหนุ่มสาวทั้งสี่เดินเล่นบริเวณสวนหลังบ้าน ต้นเชอรี่ออกลูกพราวดกจนแทบคอนกิ่งไม่ไหว
"พอเชอรีพวกนี้สุกแม่จะเก็บมาทำแยมไว้กินและแจกเพื่อนบ้าน แม่ทำเมื่อไรผมจะเอาไปฝากพวกคุณ" ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อเห็นแววตาลิงโลดของทุกคน
ริมทางเดินเลียบลำธารมีกอไลแล็กซ์สีขาว สีม่วงออกดอกสดสวย แพร์ เวนดี้ ทันย่าเริ่มส่งเสียงชื่นชม
“ยังมีสวยกว่านี้อีก พอเดินพ้นแนวละเมาะนั้นไป” เลียมชี้มือไปข้างหน้าแล้วเดินนำไปที่สะพานไม้ข้ามไปอีกฝั่ง “นั่นไง”
ป่าโปร่งตรงหน้าสวยจนแทบลืมหายใจ... ลานทุ่งหญ้าสีเขียวแต่งแต้มด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ดอกเดซี่ ดอกไอริสสีน้ำเงิน ดอกลิลลีออฟเดอะวัลเลย์แข่งกันชูช่อดอกสีขาวเล็กส่งกลิ่นหอมฟุ้งกลบกลิ่นหอมของดอกไม้อื่น สาว ๆ กรี๊ดไม่หยุดถ่ายรูปกันอยู่นั่นแล้ว
แพร์รับประทานแซนวิชเสร็จ ลุกขึ้นไปรอพบผู้ช่วยอาจารย์ในห้องปฏิบัติการของภาควิชา เห็นทันย่ากับเวนดี้กำลังนั่งคุยกันระหว่างรอเลียม วันนี้ฮันส์เพื่อนชาวสวิสไม่เข้าตึกเรียน แพร์ชวนทันย่าไปเที่ยวงานลอยกระทง
“อยากไปนะ แต่พรุ่งนี้มีนัดปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน” ทันย่ายิ้มให้เธอพลางยกมือเสยผมสีบลอนด์ซอยสั้น ดึงแว่นตาออกมาเช็ดกับเสื้อแล้วสวมเข้าไปใหม่ "เที่ยวเผื่อด้วยก็แล้วกัน"
เลียมผลักประตูกระจกเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับ ขอโทษผมมาช้า”
เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างโปร่ง สูงร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตรผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาว ดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่งใบหน้ามีส่วนผสมของตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว จัดว่าเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่ง
ผู้ช่วยอาจารย์หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่นนั่งฟังปัญหาระหว่างการทำงานในห้องปฏิบัติการของทันย่า แล้วคุยต่อกับเวนดี้ประมาณชั่วโมงก็แล้วเสร็จ เขาหันมาทางเธอ “แพร์ลองเอาผลการทดลองครั้งก่อนมาเทียบหน่อยว่าต่างกันยังไง...”
เธอซักถามและชายหนุ่มอธิบายจนเป็นที่เข้าใจ เลียมพูดขึ้น
“ผมมีข่าวดี เดือนมิถุนาปีหน้าผมได้งานที่สถาบันวิจัยพันธุ์พืชแล้วนะครับ พวกคุณจบกันพอดี วันนี้จะเลี้ยงชากับขนม เสียดายที่ฮันส์ไม่เข้ามา”
“ดีใจด้วยนะคะ แต่ฉันยังติดงานอยู่คงต้องขอสละสิทธิ” ทันย่าพูด ทำตาปรอยแล้วก้มหน้าอ่านวารสารพืชเล่มใหม่ต่อ
เวนดี้ติดนัดกับแฟน เลียมกำลังดีใจจะได้เริ่มต้นทำงานอย่างจริงจังในฐานะนักวิจัยหลังจากเรียนจบปริญญาเอกด้านพันธุศาสตร์พืชมาสองปี ในเมื่อทั้งเวนดี้และทันย่าไปไม่ได้ แพร์ก็ไม่อยากปฏิเสธให้เสียน้ำใจ
เธอเดินคุยกับเลียมอย่างสบายใจมาตามถนนเอ็กซิบิชั่น อากาศยามบ่ายเย็นฉ่ำ ต้นเมเปิ้ลสูงใหญ่ริมถนนใบเปลี่ยนเป็นสีส้มทั้งต้น อาคารสองข้างทางเก่าแก่สวยงาม ด้านขวามือคือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ภายในจัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์ในยุคต่างๆ ใกล้กันคือพิพิธภัณฑ์ประวัติ ศาสตร์ธรรมชาติอันเป็นแหล่งรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนสำคัญของสิ่งมีชีวิตทางประวัติศาสตร์โลกกว่าแปดสิบล้านชิ้น บางชิ้นมีอายุเก่าแก่เป็นพันล้านปีตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ แพร์เข้าไปดูหลายครั้งด้วยความประทับใจ
ทางซ้ายมือคือพิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและอัลเบิร์ต เป็นตึกสไตล์วิกตอเรียอันโอ่อ่าสวยงาม ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมงานประติมากรรม ภาพวาด ศิลปะและโบราณวัตถุจากทั่วโลกนับล้านชิ้น โดยเฉพาะหน้าร้อนต้นไฮเดรนเยียร์ออกดอกใหญ่เบ่งบานสีชมพู ม่วง ฟ้า เต็มพรึ่ดบริเวณรอบตึก แพร์กับโบว์ชอบไปนั่งจิบน้ำชา ชมดอกไม้และคุยกัน
พอผ่านสถานีรถไฟใต้ดินเซาธ์เคนซิงตันข้ามถนนโอลด์บรอมพ์ตันถึงร้านขนมคัพเค้กชื่อดัง ...ฮัมมิงเบิร์ดคัพเค้ก เธอลงทุนซื้อหนังสือเบเกอรีสูตรของร้านโดยเฉพาะไว้หลายเล่ม แต่ยังไม่เคยลองทำสักครั้ง ถึงหน้าร้าน เลียมแตะแขนหญิงสาว
“คุณอยากนั่งข้างนอกหรือข้างใน"
เธอได้ยินเสียงเรียก
“น้องแพร์”
หญิงสาวมองไปเห็นอภิษิตและชายหนุ่มอีกคนนั่งดื่มกาแฟอยู่ด้านนอกร้าน เธอหันไปพูดกับเลียมเสียงเบา
“นั่งข้างในดีกว่า ฝากสั่งเรดเวลเวตกับซอล์ตคาราเมลอย่างละชิ้น ชาเอิร์ลเกรย์นะคะ เดี๋ยวแพร์ตามเข้าไป”
เธอเดินไปยังโต๊ะอภิษิต ยกมือไหว้ชายหนุ่มทั้งสองคน
“สวัสดีค่ะพี่ษิต สวัสดีค่ะ...”
“พี่นภครับน้องแพร์” นภบอกชื่อตัวเอง
นัยน์ตาคมสีดำสนิทเป็นประกายวับของเพื่อนอภิษิตจ้องหน้าจนแพร์รู้สึกแปลก ๆความจริงเธอไม่สนใจเขาสักนิดเพราะเท่าที่รู้จักก็ไม่ประทับใจแต่แรก ถึงจะเป็นเพื่อนพี่ก้องก็เถอะ ผู้ชายคนนี้ไร้มารยาท ท่าทางเจ้าชู้ไม่น่าไว้ใจ
“เชิญน้องแพร์ตามสบายนะครับ” อภิษิตยิ้ม ผายมือไปที่ประตูร้าน
หญิงสาวยิ้มน้อย ๆ ก้มศีรษะให้สองหนุ่มแล้วผลักประตูเข้าไปในร้าน
“เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมยังรู้สึกว่าคุณเพิ่งเข้าเรียนใหม่อยู่เลย นี่อีกไม่กี่เดือนจะจบแล้ว”
เธอมองเลียมใช้ช้อนตักเค้กวนิลามีครีมสีชมพูอ่อนทาเนื้อเค้กไว้อย่างหนา สายตาทั้งคู่ฉายประกายบางอย่างออกมาชั่ววินาทีแล้วกลับเป็นสุภาพดังเดิม
แพร์จำได้ ...หลังจากกลับจากทริปเค้นต์ครั้งนั้นราวอาทิตย์เดียว เธอเก็บข้อมูลและจดผลการเจริญเติบโตของต้นพิทูเนียเสร็จ เดินออกมาจากเรือนปลูกพืชทดลอง ถอดเสื้อกาวน์สีขาวออกแขวน หยิบเสื้อโค้ตกันฝนพาดแขนเตรียมตัวกลับหอพัก พอเงยหน้าขึ้นเห็นเลียมถือห่อกระดาษมัดใหญ่ใบหน้าดูขัดเขิน
“ผมกลับบ้าน... ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ออกดอกเต็มไปหมด เห็นคุณชอบผมเลยเก็บมาฝาก”
แพร์เอื้อมมือรับ “ขอบคุณนะคะ หอมจัง”
พอถึงห้องพัก เธอค่อย ๆ แกะกระดาษหลายชั้น และถุงใส่สำลีชุ่มน้ำตรงโคนก้านดอกไม้สีขาวแสนบอบบาง อย่างเบามือ จัดใส่แก้วน้ำได้ถึงสามใบ ปีถัดมาเธอได้ของฝากจากชายหนุ่มแบบนี้อีก...หญิงสาวรู้ว่าเขาชอบเธอ ... นอกจากเรื่องให้ดอกไม้เขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้อึดอัด คงสุภาพเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยน...
เลียมยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มหลังจากกินเค้กวนิลาหมด
"คริสต์มาสนี้ผมอยากชวนคุณไปร่วมฉลองกับครอบครัวของผมที่แคนเทอร์เบอรี ช่วงนั้นครอบครัวน้องสาวและอาเขยจะมาด้วย ไปนะครับ” สายตาที่มองเธอครั้งนี้ไม่เก็บความรู้สึกเหมือนเคย
“ช่วงนั้นแพร์มีนัดกับโบว์ ขอบคุณนะคะที่ชวน” เธอนึกถึงญาติผู้ใหญ่ของเลียมซึ่งเคยพบเมื่อหลายเดือนก่อน "คุณอาของคุณเป็นยังไงบ้างคะ"
"สุขภาพดีขึ้นมาก อากลับไปอยู่นิวยอร์กเกือบเดือนแล้ว ปลายเดือนนี้จะมาอังกฤษอีกที"
"ผมขอคุยกับคุณได้ไหม" ชายหนุ่มทอดเสียงอ่อนโยน
แพร์เลิกคิ้วมองหน้าเขา
"ที่ผ่านมาผมไม่กล้า คิดว่าคุณอาจยังไม่พร้อมที่จะฟัง"
แพร์มองเลียมสูดลมหายใจเข้า มือสองข้างเลื่อนมากุมกันบนโต๊ะ ชายหนุ่มจ้องเข้ามาในดวงตาเธอ หญิงสาวใจ เต้นตึ๊กตั๊กเดาได้ว่าเขาจะพูดอะไร
"ผมอยากบอกคุณว่า ตั้งแต่เรารู้จักกัน ผมมีความรู้สึกที่ดีกับคุณมาก ความรู้สึกนี้มันเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน แพร์ครับผมรักคุณ รักคุณมาก"
แพร์ตกตะลึง เมื่อได้ยินคำว่ารักขึ้นมาจริงๆก็อดตกใจและกังวลไม่ได้ เลียมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอที่นี่
"คุณรู้สึกอย่างไรกับผมบ้าง" เลียมเอื้อมมือกุมมือข้างหนึ่งของเธอ เสียงของเขาอ่อนหวานจนแพร์สะท้อนในอก
"ฉันขอบคุณมากที่มอบความรู้สึกดี ๆให้ ตลอดเวลาที่เรารู้จักกันคุณช่วยเหลือฉันทุกอย่าง คุณเป็นเพื่อนรักของฉันนะคะ"
เลียมหน้าหมองลงไม่นาน แล้วกลับมายิ้มใหม่ "อย่าเพิ่งปฏิเสธผมเลยนะ ขอโอกาสผมบ้างได้ไหม"
"ฉันไม่อยากให้คุณเสียเวลา มิตรภาพของเรามีค่ากว่าทุกสิ่งนะคะ"
"ถ้าอย่างนั้น เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม และผมจะขอรักคุณต่อไป วันหนึ่งคุณอาจใจอ่อนก็ได้" เลียมยิ้มดวงตาฉายแววหวาน พลางยกมือเธอขึ้นจุมพิต
หญิงสาวส่ายหน้าช้า ๆ ปฏิเสธเลียมอีกครั้งอย่างนุ่มนวล เธอไม่ต้องการทำร้ายจิตใจชายหนุ่มพอ ๆ กับไม่ต้องการหลอกลวงเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างเขา
"อย่ากังวลแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงผม ถึงเวลานั้นผมจะยอมรับการตัดสินใจของคุณ"
อภิษิตยิ้ม มองหน้าเขาทันทีเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปในร้าน
“เฮ้ยแกจะเปลี่ยนใจไม่พนันก็ได้นะ ท่าทางจะมีคนมาชอบน้องแพร์เยอะว่ะ” อภิษิตหัวเราะเบา ๆ พลางยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
“แค่นี้ไม่เท่าไรหรอก คนอย่างฉันไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แกคอยดูก็แล้วกัน” ชายหนุ่มบอกเพื่อนพลางยักไหล่ แต่ภายในใจขุ่นมัว
รู้สึกเหมือนถูกสบประมาทในเรื่องที่ตนเองทะนงตัวว่ามีดี เขาประกาศไปแล้วว่าจะลงสนามแข่งจีบผู้หญิงคนนี้ ผลของเกมนี้มีอย่างเดียว เขาต้องชนะ
.........................................................
สวัสดีค่ะ วันสุดท้ายของปีเก่าแล้วนะคะ ขอให้ทุกคนเริ่มต้นสิ่งดีๆในปีใหม่และติดตามตอนต่อไปกันเลยนะคะ
ความคิดเห็น