คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เชลซีฟลาวเวอร์โชว์ (Re-write)
๑
เชลซีฟลาวเวอร์โชว์
เดือนพฤษภาคม คศ.๒๐๑๒ (พศ.๒๕๕๕)
ลอนดอน ,ประเทศอังกฤษ
เมื่อทุกคนมาถึงด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดินสโลนสแควร์เวลาแปดโมงเช้าตามนัด หญิงสาวเรือนร่างโปร่ง สูงปานกลาง ผิวขาวผ่องในชุดเสื้อทีเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสามส่วน สวมหมวกจ็อกกี้สีกรมท่า ยืนมองบริเวณทางเข้างานด้วยอารมณ์เบิกบาน อากาศสดชื่นแจ่มใส ท้องฟ้าสว่างจ้าสมกับเป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ วันศุกร์คือวันอันรื่นรมย์ของเธอ แต่วันนี้พิเศษมากขึ้นไปอีก
"ครั้งนี้ครบรอบการครองราชย์หกสิบปีของควีนอลิซาเบธที่สอง พวกเราเข้าไปดูนิทรรศการไดมอนด์จูบิลลี่กันก่อน" เลียม ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มของสี่หนุ่มสาวนักศึกษาด้านพันธุศาสตร์พืช ชี้มือไปข้างหน้าขณะเดินนำไปยังเต๊นท์จัดแสดงงาน ... เดอะเกรตพาวิลเลียนฮอลล์
ภายในเต๊นท์ขนาดใหญ่มีการจัดแสดงดอกไม้ พรรณไม้จากทั่วโลกและการจัดสวนประเภทต่างๆ รางวัลพันธุ์ไม้ยอดเยี่ยมในปีนี้เป็นของต้นถุงมือจิ้งจอกดอกสีชมพู[1]
งานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์เป็นงานประกวดการจัดสวนและแสดงพันธุ์ไม้ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอังกฤษ จัดโดยราชสมาคมพฤกษศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักรในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. ๑๘๓๓ บริเวณงานอยู่ที่ลานของโรงพยาบาลรอยัล ย่านเชลซี คนอังกฤษรักการจัดสวนเป็นชีวิตจิตใจ ต่างรอคอยงานนี้ ตั๋วเข้างานต้องซื้อล่วงหน้า ถ้ามาซื้อตั๋วผีหน้างานราคาอาจพุ่งขึ้นหลายเท่า แพร์กับเพื่อนจึงซื้อตั๋วกันตั้งแต่สองเดือนก่อน
"โอ้โห ดูนั่นสิ" ทันย่าอุทานเสียงดัง เดินแหวกคนที่กำลังชมสวนแต่ง ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นกดชัตเตอร์
สวนแต่งที่หนุ่มสาวทั้งห้าหยุดดูและถ่ายรูปอยู่นาน เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจมองเห็นธารน้ำใสไหลริน กระท่อมหินแบบชนบทอบอุ่นมีชีวิตชีวา คนจัดใช้มอสมาเป็นองค์ประกอบหลักทำให้โดดเด่น สวนนี้ตรึงตาผู้ชมจำนวนมาก
บริเวณจัดงานคึกคักไปด้วยผู้คนเรือนหมื่นทั้งชาวอังกฤษเองและผู้สนใจจากทั่วโลก มีการจัดสวนหลายโซน นักออกแบบแต่ละสวนใช้ความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ บางสวนขณะเดินเข้าไปมีน้ำพุผุดขึ้นมา บางสวนมีศาลานั่งเล่นเคลื่อนที่ได้รอบสวนสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม แต่ละโซนให้ไอเดียใหม่ ๆ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ระหว่างเดินชมงานแพร์เห็นเลียมเจอเคท... ผู้ช่วยอาจารย์ภาควิชาเคมี เธอขอเดินกับเขา
อากาศในตอนบ่ายเริ่มร้อน โชคดีที่ยังไม่มีวี่แววของฝน แพร์ใช้กระดาษเช็ดหน้าซับเหงื่อ รวบผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวยมัดด้วยยางรัดผม คนเข้าชมงานหนาตามากขึ้น เคทชวนเลียมไปดูร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งสวน แพร์ยืนดูสวนแต่งซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศของปีนี้ เธอถือกล้องถ่ายรูปในมือ กระเป๋าใส่กล้องคล้องคอไว้ สะพายกระเป๋าหนังสีดำใบโปรดพาดไหล่ ขยับเท้าถอยออกมาหาระยะถ่ายรูปในมุมกว้าง ... ทันใดนั้นเอง รู้สึกโดนกระแทกตรงไหล่ถลาไปข้างหน้า กล้องถ่ายรูปกระเด็นหลุดมือ หน้าผากกระทบกับเสาเหล็กตรงมุมเต๊นท์ล้มลงไปกองบนพื้นหญ้า
" โอ๊ย "
นี่มันเกิดแผ่นดินไหวหรือไง แพร์เอื้อมมือจับเสาเหล็กยันตัวลุกขึ้น รู้สึกเจ็บหน้าผากและหัวไหล่ขวา
"ไอแอมซอรี" เสียงทุ้มต่ำดังอยู่ข้างหู
แพร์หันกลับเงยหน้าขึ้นมอง เห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ ดวงตาสีดำสนิท คิ้วหนาเข้ม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบรนด์หรูยืนจ้องหน้าเธอเขม็ง เขายื่นกล้องถ่ายรูปให้ แพร์ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ได้ยินประโยคต่อมาเป็นภาษาไทย
"คราวหน้าระวังหน่อยนะครับ" พูดเสร็จเขาเดินโอบเอวหญิงสาวผมทองออกไป
อ้าว นี่ตกลงฉันผิดรึไง แพร์ยืนอึ้ง ... ผู้ชายอย่างนี้ก็มีด้วย เธอไม่เคยเจอใครมารยาทแย่ขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่มาอยู่ลอนดอน
"เป็นอะไรหรือเปล่า แพร์" เลียมวิ่งเข้ามาจับแขนของเธอยกขึ้นแล้วกางออกช้า ๆ เหมือนกลัวหญิงสาวจะเจ็บมากขึ้น " เจ็บไหม "
" นิดหน่อยค่ะ "
" แน่นะ ไปหาหมอไหม " เลียมมองทั่วตัวเธอ สายตาบอกว่าเป็นห่วง
นักศึกษาสาวส่ายหน้า ที่จริงก็เจ็บเหมือนกัน ตรงหน้าผากเจ็บลึก ๆ ชอบกล เอามือลูบดูรู้สึกตึง ...ท่าจะโน แพร์เซ็งในอารมณ์ เหลือบเห็นเคทเดินรี่เข้ามาก็ยิ่งเซ็งมากขึ้น จึงรีบบอกชายหนุ่ม "ไม่เป็นไรค่ะ เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย "
ผู้ช่วยอาจารย์สาว เพื่อนของเลียมเดินเข้ามายืนชิดชายหนุ่ม ตามองแพร์แว่บหนึ่ง "ไปดูด้านนั้นกันต่อนะคะเลียม" เคทพูดเสียงอ่อนหวานจับแขนเขาไว้
อยากแสดงความเป็นเจ้าของก็เชิญตามสบาย แต่อย่ามายุ่งกับเธอก็แล้วกัน แพร์นึกอย่างขุ่นมัวหันมองไปทางอื่น
เขาปลดมือเพื่อนผู้ช่วยอาจารย์สาวลง หันมาพูดกับเธอ "แพร์ไปนั่งพักกันเถอะ พวกเราอยู่ตรงนั้น"
แพร์มองตามมือชายหนุ่ม เห็นเพื่อนสามคนนั่งอยู่บนสนามหญ้า เวนดี้ซึ่งอยู่หอพักเดียวกับเธอกวักมือเรียก เลียมจับแขนเธออย่างระมัดระวังพาเดิน เขาก้มลงมองเธอด้วยความเป็นห่วง เคทหน้าตึง เม้มริมฝีปากแน่นเอื้อมมือเกาะแขนเลียมอีกข้าง แพร์นึกขำมันเป็นภาพที่ตลกพิลึก สามคนที่เดินไปด้วยกันมีสีหน้าอารมณ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มซื้อแซนวิชกับน้ำผลไม้กระป๋องให้สองสาวและตัวเอง เขายื่นกล่องอาหารให้เคทก่อน แล้วทรุดตัวลงนั่งใกล้แพร์ เธอเห็นเพื่อนมองมาแล้วยิ้มให้กันเมื่อเลียมแกะฟิล์มถนอมอาหารจากแซนวิชให้เธอ ตอนนี้ความอดทนของเคทคงสิ้นสุดลง
"ฉันจะกลับละค่ะ" ผู้ช่วยอาจารย์สาวพูดเสียงห้วนใบหน้าเหมือนโกรธใครมาสักร้อยชาติ
เลียมยิ้ม ลุกขึ้นยืนร่ำลาเคท
แพร์ไม่ชอบเคท... เมื่อวานเธอเข้าห้องสมุดของวิทยาลัย กำลังยืนเลือกหนังสือตรงชั้นหนังสือด้านใน ได้ยินเสียงผู้ชายคุยกับผู้หญิง เสียงนั้นคุ้นหู
"คุณไม่ได้ยินพวกภาควิชาเคมีคุยกันรึไง ที่นี่ไม่ชอบให้มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ในคณะ เคยมีกรณีอาจารย์กับลูกศิษย์มาแล้ว ถึงจะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ถ้ากระทบกับงานละก็... มันจะทำให้เสื่อมเสียภาพพจน์ของคณะ"
"ผมว่าเลียมรู้ดีว่าเขาควรวางตัวยังไง แล้วอีกอย่างเขาไม่ใช่อาจารย์ประจำของภาควิชา"
"ทำไมจะไม่ใช่ ถึงจะเป็นผู้ช่วยแต่ก็ถือว่าคืออาจารย์เหมือนกันนั่นแหละ"
" เรื่องของหัวใจมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะเคท ถ้าคุณรักใครสักคน แล้วจู่จู่มีคนมาสั่งให้เลิกรัก คุณทำได้ไหม"
นั่นเสียงของฮันส์เพื่อนนักศึกษากลุ่มเดียวกับเธอ แพร์งงกับคำพูดพวกนั้นแต่ไม่อยากเก็บมาใส่ใจ และเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเลียมเกินเลยกว่าการเป็นผู้ร่วมงาน
หญิงสาวมองไปรอบบริเวณที่คนนั่งพักรับประทานอาหาร เต๊นท์ขายอาหาร ขายเครื่องดื่มมีหลายเต๊นท์ก็จริง แต่ก็มีคนเข้าคิวซื้อเป็นแถวยาวทุกเต๊นท์ เธอเห็นชายหญิงสูงวัยคนเอเชียนั่งคุยกันบนสนามหญ้า ป้าเปิดขวดน้ำให้ลุงท่าทางรักใคร่อ่อนโยน แพร์ยิ้มให้ ทั้งคู่ยิ้มตอบ เห็นแล้วคิดถึงคุณลุงคุณป้าที่อยู่กรุงเทพฯ อายุน่าจะพอ ๆ กัน
แพร์กับเวนดี้ขอแยกกลับก่อนตอนบ่ายสาม เพราะเย็นนี้เธอมีนัดสำคัญ เวนดี้เองก็มีนัดกับแฟนหนุ่ม
"พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปรับคุณกับเวนดี้ตอนสิบโมง เราจะได้มีเวลาจัดของ" เลียมบอกระหว่างเดินไปส่งสองสาวตรงประตูทางออก แพร์ยิ้มโบกมือให้ตาดูนาฬิกาข้อมือ... กว่าจะถึงนัดสำคัญอีกตั้งสามชั่วโมง
เวนดี้เพื่อนชาวจีนคว้าแขนเธอเดินก้าวยาวผ่านสวนสาธารณะกว้าง สนามหญ้าเขียวขจีที่เพิ่งถูกตัดเรียบกริบเหมือนปูพรม ดอกไฮยาซินธ์สีเหลืองชูช่อไสว ทิวลิปสีม่วง สีชมพูออกดอกแข่งกันสวยสะพรั่งเป็นแนวริมรั้วเหล็กดัดเตี้ย ๆ ลุงกับป้าคนเดิมเดินจูงมือกันอยู่ข้างหน้า แพร์กับเวนดี้จ้ำเดินจนแซงชายหญิงสูงวัย สาวไทยหันไปโบกมือให้สองลุงป้า
ทั้งคู่ยิ้ม โบกมือมาให้สองสาว
" กู๊ดบาย ... " แพร์ยิ้มกว้าง เอ่ยลาก่อนหันตัวกลับ
จนกระทั่งถึงริมถนนเชลซีบริดจ์ เพื่อนของเวนดี้... ปิง หนุ่มจีนหุ่นสูงชะลูดยิ้มกว้างเดินเข้ามาหา ในมือของเขามีถุงพลาสติกใบใหญ่บรรจุกล่องขนมเต็มทั้งสองถุง เวนดี้กับปิงทักทายกันเป็นภาษาจีนสองสามประโยค
"ผมทำตั้งแต่เมื่อวานได้หกสิบกล่องพอไหม" เขายิ้มจนตาหยีขณะหันมาถามเธอ มือทั้งสองข้างยกถุงขึ้นโชว์
"เท่านี้ก็เยี่ยมแล้วค่ะปิง ขอบคุณมาก" แพร์รีบบอก ดูจากจำนวนขนมชายหนุ่มคงใช้เวลาทั้งคืนทำให้ เธอชำระเงินค่าขนมให้เขา
ปิงเดินไปส่งแพร์กับเวนดี้ที่สถานีรถไฟใต้ดิน เขาพาเดินเข้าตรอก พื้นปูหินสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แต่ละก้อนเท่ากันหมดเหมือนตารางหมากรุก ตึกย่านนี้ก่ออิฐสีแดงคล้ำตัดกับประตูหน้าต่างกระจกขอบสีขาว ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรเท่าไร ระหว่างทางได้ยินเสียงร้อง เขาวางถุง... ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้สองสาวเดินตามมา เธอกับเวนดี้วิ่งไปหลบตรงมุมตึก...ผู้ชายชาวอาหรับสองคน คนหนึ่งตัวสูงผอม อีกคนตัวเตี้ยรูปร่างหนากว่า คนร้ายตัวสูงกระชากกระเป๋าสะพายจากหญิงสูงวัยรูปร่างบอบบาง เธอส่งเสียงขอให้ช่วย ชายสูงวัยยื่นกระเป๋าใส่เงินให้คนร้าย มือของเขาโชกเลือด มันคว้าไปหยิบของในนั้นออกแล้วเหวี่ยงกระเป๋าทิ้ง
ผู้ชายคนนั้นอ้อนวอนให้ปล่อยผู้หญิงกับตัวเขา "อย่าทำอะไรเราเลยนะ"
"เร็ว เดี๋ยวตำรวจมา"
คนร้ายตัวเตี้ยตะโกนบอกคนร้ายอีกคน แล้วควักมีดจ้วงแทงหญิงคนนั้นไม่ยั้ง
" หยุดนะ " ปิงพูดเสียงดัง
หนุ่มโย่งชาวจีนพุ่งเข้าใส่คนตัวเตี้ย ชนจนล้มลงด้วยกันทั้งคู่ คนร้ายลุกขึ้นได้ก่อนเงื้อมีดแทงปิงเลือดไหลทะลักจากโคนขา
" โอ๊ย " ปิงร้องลั่น
"แส่ดีนักนะมึง"
ปิงต่อยกลับ
เธอเห็นผู้ชายอีกคนโดนคนร้ายตัวสูงยิง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอกับเวนดี้ทำอะไรไม่ถูก ยืนจับมือกันอกสั่นขวัญแขวน
"โทรเรียกเก้าเก้าเก้าเร็วเวนดี้" แพร์กระซิบเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา ตาคอยหันไปมองเหตุการณ์
ชายหญิงเคราะห์ร้ายล้มลงนอนจมกองเลือด ปิงโดนรุม วายร้ายตัวสูงล้วงปืนออกมายิงปิง เขาร้องลั่นผงะหงายหลัง ไม่นานเสียงไซเรนรถเก๋งตำรวจดังโหยหวนมาแต่ไกล ตามมาด้วยนายตำรวจขี่มอเตอร์ไซด์อีกสองคัน รถตำรวจยังไม่ทันจอดสนิท คนร้ายทั้งสองเผ่นขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไปได้ ตำรวจหนุ่มสองคนวิ่งลงมาดูผู้เคราะห์ร้ายชายหญิง เธอกับเวนดี้รีบเข้าไปดูปิงซึ่งนอนอยู่ที่พื้น เขายังลืมตาใบหน้าบิดเบี้ยวบอกความเจ็บปวด
" คุณเห็นเหตุการณ์ใช่ไหมครับ " ตำรวจหนุ่มผมแดงหันมาถามสองสาว
นายตำรวจซักถามเธอกับเวนดี้สั้น ๆ ระหว่างนั้นรถพยาบาลมาถึงพอดี บุรุษพยาบาลทำการเคลื่อนย้ายผู้เคราะห์ร้ายชายหญิงทั้งสองซึ่งนอนแน่นิ่ง แพร์เพิ่งเห็นถนัดตา... โธ่ ลุงกับป้าที่เพิ่งเดินผ่านสวนสาธารณะด้วยกันนี่เอง รู้สึกสงสารสองผู้สูงวัยที่โดนทำร้ายอย่างทารุณกลางวันแสก ๆ แพร์ก้มลงหยิบกระเป๋าหนังสีดำสำหรับใส่เงินตกอยู่บนพื้นสภาพฉีกขาด เธอยื่นให้ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน ตำรวจอีกคนเข้าประคองปิง เขาบาดเจ็บสาหัสหางตามีเลือดไหลริน ใบหน้าแตกยับ กลางลำตัวและขาเลือดแดงเถือก ผู้บาดเจ็บทั้งสามคนถูกนำส่งโรงพยาบาลทันที
เธอหันกลับไปมองที่เกิดเหตุด้วยความรู้สึกสลดหดหู่ บนพื้นทางเดินมีคราบเลือดเปรอะ กลิ่นคาวเลือดลอยมากระทบจมูก เห็นแผ่นกระดาษสีขาวเล็ก ๆ สะท้อนแสงอาทิตย์พลิกไปมาตามแรงลมไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ... คงปลิวมาจากที่ไหนสักแห่ง
"แพร์ คุณตำรวจรอ" เวนดี้ตะโกนเร่ง
สาวไทยกับสาวจีนต้องไปสถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำ กว่าจะเสร็จเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น ทำไปทำมาเวลาที่เหลือเฟือแต่แรกหดหายกลายเป็นต้องรีบล่ก ๆ ไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับหอพักด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเป็นห่วงปิงและสองลุงป้า
หกโมงสี่สิบห้านาที แพร์ขึ้นรถเมล์หมายเลขเก้าสิบสี่ลงป้ายหน้าห้างเซลฟริดเจสบนถนนออกซ์ฟอร์ด เดินไปจนถึงห้างเฮาส์ออฟเฟรเซอร์เลี้ยวซ้ายเข้าตรอกเล็กแคบ ถนนปูหิน สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้าแบรนด์เนม ร้านกาแฟ ร้านขายตุ๊กตาเครื่องกระเบื้อง มีร้านอาหารไทยตกแต่งสวยงามร้านหนึ่ง เธอเร่งเดินสลับวิ่งมาตลอดทาง
ในที่สุดก็ถึงหัวมุมถนนมารีโบนส์ หน้าร้านเป็นกระจกทั้งสองด้าน ร้านปลาทอด...โกลเด้นโบ๊ท โชคดีพี่ป้องยังมาไม่ถึง
ค่ำนี้เป็นนัดสำคัญที่แพร์รอมาทั้งอาทิตย์ รุ่นพี่ซึ่งเธอสนิทและนับถือเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เดินทางจากบริสตอลมาลอนดอน เขาจะเลี้ยงอาหารร้านโปรดเพื่อฉลองในโอกาสวิทยานิพนธ์ผ่านแล้ว นอกจากนี้เขายังได้ทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยต่ออีกสองปีเรียกว่าโชคดีสุด ๆ ได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกเพียบแถมยังได้เงินด้วย ตัวเธอเองก็อยากทำเหมือนพี่โป้งนะ ถ้าเรียนจบก็อยากสมัครทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์ต่อสักสองสามปี แต่คงยากเพราะคุณลุงคุณป้า ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่สองคนในชีวิตของเธอรอวันหลานสาวคนเดียวเรียนจบ ตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทางมาที่นี่ รู้ดีว่าท่านทั้งสองรักและเป็นห่วงที่สุด อยากให้รีบเรียนรีบกลับบ้าน เธอจึงมุ่งมั่นกับการเรียนเพื่อจบตามแผนให้ได้ภายในสี่ปี
ที่พิเศษกว่านั้นวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดป้องเสียด้วย แพร์ตั้งใจจะเซอร์ไพรซ์เขา เธอสั่งชีสเค้กบลูเบอร์รีจาก ร้านครัมส์แอนด์ครีมไว้ ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านโกลเด้นโบ๊ท
แพร์มองผ่านผนังกระจกพบว่าคนนั่งเต็มทุกโต๊ะ พนักงานชายที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเดินออกมาบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า รอสักครู่มีโต๊ะรอชำระเงินอยู่ เธอมองรอบห้องมีหลายโต๊ะเป็นคนทำงานบริษัทออกมารับประทานอาหารค่ำ
โต๊ะริมสุดติดกระจก แพร์สะดุดตาสาวสวยไฮโซนั่งดื่มเหมือนรอใครสักคน ยังไม่มีอาหารวางบนโต๊ะ สาวคนนั้นคอยเหลือบดูนาฬิกาข้อมือเป็นระยะ แล้วหันมามองที่ประตูร้าน ...รมิตา แพร์พึมพำเธอรู้จัก...พี่สาวของเชอรี่เพื่อนเรียนภาควิชาชีววิทยาตอนอยู่กรุงเทพฯ รุ่นเดียวกันแต่อยู่คนละกลุ่ม
ลูกค้าโต๊ะใกล้ประตูทางออกลุกขึ้นพอดี พนักงานเก็บจานและแก้วบนโต๊ะพ่นสเปรย์ทำความสะอาดพลางใช้ผ้าเช็ดโต๊ะอย่างรวดเร็ว แล้วส่งสายตาบอกให้เข้ามานั่งได้ เธอสั่งเครื่องดื่มโคล่าไว้ก่อน ดื่มคู่กับการรับประทานปลาทอดแล้วเข้ากันดี แก้เลี่ยนด้วย สั่งเสร็จแพร์รีบวิ่งออกไปนอกร้านเพื่อรับเค้ก อย่างมากก็แค่ห้านาที กลับมาแล้วค่อยสั่งอาหาร พี่ป้องคงมาถึงพอดี
พนักงานร้านเบเกอรีประคองเค้กลงกล่องกระดาษสีขาว แล้วฉีดสเปรย์บลูเบอรีลิเคียวร์ลงไปบาง ๆ ที่หน้าเค้ก กลิ่นเหล้ากับกลิ่นมูสบลูเบอรีหอมละมุนขึ้นมาจากกล่อง หัวใจของแพร์พองฟูเมื่อมอง ... มันสวยน่ากินมาก ... เค้กทรงกลมขนาดสองปอนด์มีสี่ชั้น ชั้นล่างเป็นเนื้อเค้กวานิลลา ชั้นถัดไปเป็นครีมชีสสีขาวนวลแล้วจึงเป็นมูสบลูเบอรีสีม่วงเข็ม เนื้อของมูสมีบลูเบอรีหมักเหล้าผสมอยู่ ด้านบนสุดโรยผลบลูเบอรีสดเต่งสีม่วงคลำ้เต็มหน้าเค้ก พี่ป้องต้องปลื้มใจสุด ๆ เขาชอบกินชีสบลูเบอรีมากแต่ยังไม่เคยลองของเจ้านี้ ร้านนี้มีชื่อเสียงเรื่องชีสเค้ก โดยเฉพาะบลูเบอรีชีสเค้กถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยทีเดียว
แพร์เดินแกมวิ่งถือถุงกระดาษสีขาวใบใหญ่ใส่กล่องเค้กข้ามถนนกลับมา ยังไม่ทันก้าวเท้าขึ้นขอบทาง เสียงแตรรถดังลั่นข้างหู พร้อมกับรถสปอร์ตสีตะกั่วพุ่งเข้ามาจอดตรงที่เธอยืน
ว้าย !
แพร์สะดุ้งโหยงร้องวี้ดปล่อยถุงกระดาษในมือ ตัวรถกับตัวเธอห่างกันไม่เกินห้าเซนติเมตร หญิงสาวยืนหอบหายใจแรง ดวงตาเบิกกว้างนึกว่าจะสิ้นชีพก่อนเรียนจบเสียแล้ว เธอมองผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ก้าวลงจากรถมายืนจ้องตรงหน้า ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันเขม็ง
"นาย นายมัน ..."
"คุณอีกแล้วหรือ..." เขาพูดเสียงเข้ม ทำสีหน้ารำคาญ ก่อนจะเดินผ่านตัวเธอไป
ไอ้... ไอ้ผู้ชายลูกกะตาดำเหมือนอีกา
หญิงสาวโกรธจนหูอื้อ ดวงตาจับจ้องเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่กำลังผลักประตูกระจกเข้าไปในร้านปลาทอดอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่าทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง แพร์กำมือแน่นกว่าจะตั้งสติได้ ก้มลงหยิบถุงใส่กล่องเค้กที่ตั้งใจจะเซอร์ไพรซ์พี่ป้อง จะกลับไปซื้อใหม่ตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เค้กร้านนี้ต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน เธอเสียใจจนน้ำตาคลอ รีบเดินตามเข้าไปในร้าน... ยังไงต้องพูดให้สำนึก คนอะไรผิดแล้วไม่ขอโทษสักคำ ... แต่แล้วก็ชะงักเปลี่ยนใจเมื่อเห็นเขาเข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจก
ฮึ... ที่แท้ก็พวกเดียวกับเชอรี่
แพร์วางถุงกระดาษลงบนเก้าอี้ข้างตัว รินโคล่าเย็นเฉียบใส่แก้วยกดื่ม นับหนึ่งถึงสิบในใจพยายามขจัดความขุ่นมัวออกไป หญิงสาวหยิบรายการอาหารออกมาดู อาหารในร้านนี้ล้วนเป็นปลามีทั้งปลาค็อด ปลาแฮดด็อก เครื่องเคียงแล้วแต่จะเลือกมันฝรั่งทอด เมล็ดถั่วลันเตาต้ม สลัดผักสด ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอดังระรัว
"มีอุบัติเหตุนิดหน่อยอีกสิบนาทีพี่จะถึง ช่วยสั่งปลาค็อดกับมันทอดให้พี่ด้วยนะ"
ไม่นานชายหนุ่มวัยราวสามสิบปี รูปร่างสันทัดผิวขาว ผมดำสนิทตัดสั้น สวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยแจ็กเก็ตกับกางเกงยีนส์ สะพายเป้สีดำ เดินยิ้มกว้างเข้ามานั่งที่โต๊ะ แพร์ยิ้ม พนมมือไหว้
" เป็นไงมั่ง วิทยานิพนธ์ของน้องแพร์ " เขาถามเมื่อวางเป้แล้วลงนั่งเก้าอี้ตรงข้าม
" ยังตรวจแก้อยู่ค่ะ มกราน่าจะเรียบร้อย " คนเป็นศิษย์ตอบพลางยื่นแผ่นรายการอาหารสีขาวให้ติวเตอร์สมัยเรียนมัธยมที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนที่ประเทศอังกฤษในเวลาไล่เลี่ยกัน
ป้องสั่งขนมปังทาเนยกับสลัดผักสดเพิ่ม แพร์ตาโต ขนมปังทาเนยร้านนี้เนื้อนุ่มกลิ่นหอมอร่อยมาก พ่อครัวหั่นขนมปังให้ซะหนา แล้วก็ทาเนยหนามากด้วย ปกติเวลาแพร์มากับเพื่อนแค่สองคนจะไม่สั่งเพราะปลาทอดกับเครื่องเคียงจานเดียวก็อิ่มตื้อ
" พี่หิว " เขาตอบสั้น ๆ ตามองหน้าเธอเขม็ง " หน้าผากไปโดนอะไรมา "
" เมื่อเช้าแพร์ดวงไม่ดีโดนชน หน้าผากโขกเสา เมื้อกี้ก็ทำถุงใส่เค้กวันเกิดจะให้พี่ป้องตก... เซ็ง " เธอกัดฟันพูดไปได้ไม่กี่คำพอท้ายประโยคเสียงชักสั่น อารมณ์โมโหกลับมาอีกรอบ
" ถือว่าฟาดเคราะห์ไป พี่ขอบใจมากเรื่องเค้ก " ป้องแตะแขนคนเป็นน้องเบา ๆ
พนักงานเสิร์ฟวางอาหารจานใหญ่ลงตรงหน้า ปลาค็อดชิ้นยาวชุบแป้งทอดกรอบสีเหลืองทอง เคียงมากับมันฝรั่งแท่งสี่เหลี่ยมทอดกรอบ และเม็ดถั่วลันเตาสีเขียวสดต้มใหม่กลิ่นหอมฉุย ควันสีขาวลอยขึ้นเป็นไอ
“มาซะที หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว” ป้องจัดแจงตักซอสทาร์ทาร์สีขาวข้นราดลงบนเนื้อปลา บีบมะนาวลงไป ใช้ส้อมจิ้มปลาเข้าปาก
"รสชาติไม่เปลี่ยนนะร้านนี้" เขาพูดพลางเคี้ยวไปด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย "น้องแพร์ลองราดซอสทาร์ทาร์ด้วยสิ อย่างนั้นจะอร่อยได้ไง" ป้องเลื่อนโถกระเบื้องใส่ซอสครีมสีขาวข้นมาตรงหน้ารุ่นน้องสาว
"แพร์ไม่ชอบ มันเลี่ยน ปลาก็ทอดอยู่แล้วยังจะใส่ซอสเข้าไปอีก" เธอคว้าขวดเกลือ พริกไทยเหยาะลงไปในจานเล็กน้อย ยิ้มให้ป้อง "นี่แหละ อร่อยที่สุดละค่ะ"
“อาจารย์กับคุณป้าเป็นไงบ้าง”
“สบายดีค่ะ คุณลุงว่าจะมาเที่ยวที่นี่กับคุณป้ากลางปีหน้า”
“พี่จะชวนไปเที่ยวงานลอยกระทงด้วยกัน ปีที่แล้วก็ไม่ได้ไป ปีนี้ได้ข่าวว่าทางวัดจัดงานยิ่งใหญ่มากเป็นงานลอยกระทงและก่อพระเจดีย์ทราย พี่นัดพวกเราไว้หลายคน พี่แต๋วกับพี่ก้อยจะออกร้านขายผัดไทยด้วย ไปอุดหนุนพี่เค้าหน่อย อาทิตย์หน้าค่อยนัดเจอกัน” ชายหนุ่มพูดยืดยาว “ชวนเพื่อนไปเยอะ ๆ เค้าจะได้เห็นประเพณีของเรา”
แพร์ยิ้มรับ “ไปแน่คะพี่ป้อง”
ป้อง ปองวิชช์ ศิริวิเศษกุลเป็นลูกศิษย์ของดร.พิพัฒน์ บุณยะภัค ลุงของแพร์ หลังจากสอนอยู่ที่ภาควิชาฟิสิกส์สามปีก็ได้ทุนเรียนต่อปริญญาเอกที่บริสตอล ตอนเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมดร.พิพัฒน์เคยให้เขามาเป็นติวเตอร์สอนวิชาฟิสิกส์ให้ที่บ้านหลายปี จึงคุ้นเคยกับแพร์และครอบครัวของอาจารย์เป็นอย่างดี เมื่อหญิงสาวมาเรียนต่อที่นี่ ผู้เป็นลุงจึงฝากฝังให้ป้องช่วยดูแลหลานสาวคนเดียว เพราะชายหนุ่มนั้นนอกจากเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจและป๊อปปูลาร์กว้างขวางในหมู่นักเรียนทุน
พอทั้งคู่รับประทานเสร็จ แพร์อวยพรวันเกิดเขา แต่ไม่กล้าให้ชีสเค้ก
"พี่ไม่ถือหรอกน้องแพร์"
เขาคว้าถุงกระดาษยกกล่องเค้กออกมาเปิด เธอกลั้นใจชำเลืองมอง
เค้กเละทั้งก้อน...
ชายหนุ่มชวนเธอใช้ช้อนตักกินจนเกลี้ยง แถมยังชมว่าเค้กอร่อยมากและขอบคุณเธอ หญิงสาวรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย
แพร์เข้าห้องพักเดินไปผลักหน้าต่างกระจกบานใหญ่เพื่อรับลมเย็น หลังจากอาบน้ำใส่ชุดนอน รู้สึกเจ็บหัวไหล่ หน้าผากบวมปูดเหมือนลูกมะนาวสีม่วงคล้ำ ปวดระบมมากขึ้น เธอหยิบยาหม่องออกมาทาเบา ๆ มองแผลแล้วนึกโมโห
ไม่เคยมีวันศุกร์ไหนแย่เท่านี้มาก่อน แต่ที่แย่ที่สุด... ก็คือนายนั่น
__________________
สวัสดีค่ะทุกคน วอลนัทนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรก
ตัวของวอลนัทชอบอ่านนิยายโรมานซ์ อ่านแล้วมีความสุข และเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามทำให้โลกใบนี้น่าอยู่และมีความหมาย
ก่อน... ดวงดาวจะเต็มฟ้า เล่าชีวิตรักของนักศึกษาไทยในต่างแดนผ่านบรรยากาศชนบทอันงดงามของประเทศอังกฤษและสองบทเพลงคลาสสิกสุดไพเราะ
ฝากติดตามผลงานของวอลนัทด้วยนะคะ
สุขสันต์วันคริสมาสต์ค่ะทุกคน
ฝากภาพสวย ๆ จากงานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์มาดูเล่นนะคะ
ความคิดเห็น