คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ช่วงแรก..ต้นปัญหา
วันนี้เป็นวันแรก วันแรกที่ฉันจะได้...เดทกับคนรู้ใจของฉัน(มั้งนะ)หรือที่เรียกว่าแฟน อะฮุ ไม่อยากจะพูดเลย ว่าแฟนคนนี้ของฉันเป็นถึงนายแบบชื่อดังที่กำลังมาแรงในตอนนี้ นี่นับว่าเป็นบุญของฉันอย่างมหาศาลล้นเหลือเลยด้วยซ้ำ ฉันไปสารภาพรักกับเขา และเขาก็ตอบตกลง ซึ่งเราทั้งสองคน คบกันมาได้นานแสนนาน จนใครๆที่รู้ต้องอึ้งตามกันไปเป็นระเบียบ อิอิ เราทั้งสองคนคบกันมาได้นานถึง 2วันแล้ว คิกคิก....นานดีใช่ไหมล่ะ ~ ^ ^ ~ อิอิ โอ๊ะ! เขาอยู่นั่น เค้ายืนรอฉันอยู่ วันนี้เขาดูดีมาก และแน่นอนว่า สาวๆที่เดินผ่านต้องมองเขาเป็นสายตาเดียวกัน...ทันทีที่ฉันเห็นเขา ฉันก็รีบวิ่งแจ้นไปหาเขาทันที....อยากเดินควงเขาเร็วๆจัง ครึๆ และดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกตัวแล้วว่าฉันกำลังวิ่งไปหาเขา.....เขาหันมาทางฉันพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น....ฮิฮิ
น่ารักจัง
“ดี แป็ก รอนานไหม” แน่นอนว่าฉันเข้าไปทักเขาก่อน
“..........” ไม่มีคำตอบออกมาจากแป็ก ซึ่งนั่นจะไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้ฉันทะเลาะกับแป็กได้.....ฉันเลยรีบควงแขนแป็ก เพื่อที่จะเริ่มการเดทอย่างจริงจังเร็วๆ ขัดแค่เพียงว่า แป็กไม่ยอมเดินไปไหน คอยแต่จะรั้งตัวเองหยุดอยู่กับที่ นั่นทำให้ฉันแปลกใจอย่างมาก เมื่อหันหน้าไปหาแป็ก เขากำลังยิ้มเหมือนเหยียดหยามฉัน......
“โจน” เขาเรียกชื่อฉันเบาๆ....พร้อมกับยิ้มออกมาราวกับเยาะเย้ยฉัน ฉันมีความรู้สึกแบบนั้น...
“มีอะไร” ฉันพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ ฉันเริ่มกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ..และฉันหวังว่าเหตุการณ์ที่ฉันคิดคงจะไม่เกิดขึ้น
“โจน เรา...เลิกกันเถอะ เราไปกันไม่ได้จริงๆ เธอดีเกินไปสำหรับฉัน”
...........................................................................................................
เฮอะ!!! ‘เธอดีเกินไป’ ช่างเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวซะจริง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ2 ปีก่อนของฉันเกิดขึ้นและจบลง ฉันต้องนั่งจมกองน้ำตานานถึง 4 ชั่วโมง มันเป็นเวลาที่ยาวนาน และไร้สาระมากสำหรับฉัน และเพราะเหตุการณ์ทุเรศๆครั้งนั้นมันเลยทำให้ฉันเป็นอย่างทุกวันนี้
ฉันชื่อ โจน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นหน้าตาของฉันก็ชักจะเหมือนโจรขึ้นทุกวันๆ ในตอนนี้ฉันอยู่ ม.5 แล้ว และอีกยาวนานฉันถึงจะได้ขึ้นม.6
“โจน...เดี๋ยวอีก 2 วัน ก็จะจบ ม.5 แล้ว พวกเราทั้งกลุ่มจะไปเลี้ยงฉลองกัน โจนไปด้วยนะ เหลือโจนคนสุดท้ายแล้ว” แกว่ง เพื่อนสาวของฉันเอง ยัยนี่หน้าตามันจิ้มลิ้ม.....
“ไม่ไปอ่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงหนักแน่นและรวดเร็วทันที
“ทำไมอ่ะ” แกว่งถามฉันพลางทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้
“จะกลับบ้านไปดูแลน้อง แด๊ดกับมัม” ฉันพูดโดยไม่สนใจหรือแม้แต่จะมอง
หน้าแกว่ง เพราะตอนนี้สายของฉันจับจ้องอยู่ที่ เลย์ชิ้นใหญ่ที่กำลังจะเข้าปากฉันในไม่กี่วินาทีนี้
“โจน...ฉันรู้สึกว่าแกจะใช้เหตุผล เลี้ยงน้อง พ่อ แม่ มา 5 ปีแล้วนะ ทุกครั้งที่พวกเราจะไปไหน แกต้องเอาน้องของแกที่โตจนจะขึ้นคร่อมแกได้ทั้งตัว เอาพ่อและแม่ของแกที่ยังแข็งแรงฟิตปึ๋งปั๋ง มาอ้างตลอดเลยนะ” นี่ก็เพื่อนของฉันอีกขึ้น ลูกอ๊อด ยัยคนนี้ตัวสูงและรู้ทันฉันไปหมด....คราวนี้ก็เหมือนกัน..
ให้ตายสิ
“ก็ไม่อยากไปอ่ะ ไปไม่ได้รึไง” ฉันพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองหน้าแกว่งกะลูกอ๊อดอย่างเอาเรื่อง
“เออ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป แม่ง ชวนนิดชวนหน่อยทำมองหน้า นี่ถ้าเราชวนแกไปต่างประเทศนี่ไม่ชกเราเลยรึไง” อ๊อดทำท่าไม่พอใจและน้ำเสียงของอ๊อดทำให้ฉันรู้เลยว่า ไอ้นี่กำลังน้อยใจ........มันทำให้ฉันรู้สึกยวบยาบ นิสัยขี้เห็นใจคนอื่นของฉัน(เมื่อ 2 ปีก่อน) มันผุดขึ้นมา ทำให้ฉันตอบกลับไป
“เออ ไปก็ไปว่ะ แต่อย่าเกิน 2 ทุ่มแล้วกัน เดี๋ยวมัมด่า” ฉันพูดขึ้นก่อนที่จะสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นหลัง พร้อมกับล้วงกระเป๋าตังค์เช็คสภาพเงินที่ยังคงอาศัย พักพิงอยู่ในนี้อยู่
ให้ตาย เหลือแค่ 2 พัน จะพอใช้อีก 3 ไหมเนี่ย.....
ตุ้บ!!!!
ฉันชนกับบางอย่างซึ่งฉันรู้สึกได้ว่ามันนุ่ม และจากการคาดเดาเหตุการณ์และความน่าจะเป็นจากสมองอันเท่าขี้มดของฉันมันส่งข้อมูลมาว่า ฉันชนกับมนุษย์................และเป็นอย่างที่คิด ฉันชนกับมนุษย์ร่างสูงคนนึง ซึ่งบอกได้เลยว่าน่าตาดีใช้ได้เลยทีเดียว เสียอย่างไม่น่าทำผม สกินเฮดเลย
“ขอโทษครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ สุภาพมาก็ควรที่จะสุภาพกลับสินะ
“ อือ ไม่เป็นไร คราวหน้าคราวหลังหัดดูทางด้วย” เฮ้...ฉันพูดอะไรออกไปนะ ถ้าเป็นเมื่อ 2 ปีก่อน ถ้าฉันชนใคร ฉันนี่แทบจะก้มลงกราบเค้าเลยด้วยซ้ำ.....แล้วมาดูปัจจุบันนี้สิ ปากพล่อยน่าตบจริงๆเลย
“โจน!!ไปได้แล้ว อย่าชักช้า!! เชิญเลยเชิญมาเป็นครอบครัวเรา เชิญมาเป็นพี่น้องร่วมพ้องเผ่า..” ให้ตาย...ไอ้พวกเพื่อนบ้า.... ถ้าพวกนี้ได้พูดคำว่า อย่าชักช้า เมื่อไหร่ เมื่อนั้นมันจะต่อเพลงด้วยเพลงจากเรื่อง Brother Bear หนังเรื่องนี้ก็นานแล้วด้วยสิ และเป็นเพราะการเรียกที่แสนจะพิสดารของเพื่อนๆปัญญาอ่อนพวกนี้ ฉันเลยจำจะต้องรีบวิ่งไปหาพวกมัน เพราะฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ.....
“เดี๋ยว!!!” สกินเฮดเรียกฉันเสียงดัง จนฉันตกใจ ขาสะดุดกับขาตัวเองจนล้มไม่เป็นท่าต่อหน้ากลางฝูงนักเรียนที่กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้านกันนับร้อย....อายจริงๆเลย.!!!!
“อะไร” ฉันค่อยพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปถามสกินเฮดด้วยสายตาที่บ่งบอกได้เลยว่าไม่พอใจ
“อะ เอ่อ...เธอคือ โจน โจน สุขุมมาร ใช่ไหม” สกินเฮดถามคิ้วเลิกขึ้นข้างนึง แล้วเขารู้จักชื่อฉันได้ยังไงกันหว่า
“ ใช่ นายรู้จักฉันด้วยเหรอ” ฉันถามกลับด้วยความสงสัย
“เราไง เรา เวน บวรเวนจกิจ ปรสิตที่พักใจ ไงล่ะ” .....สกินเฮด......บวรเวนจกิจ........ปรสิตที่พักใจ........ชื่ออะไรเนี่ย ทุเรศจริง
“ไม่ เราจำไม่ได้ นายคือใคร” ฉันพูดแล้วบวรเวนจกิจก็หุบยิ้มทันที บ่งบอกได้ว่าคงผิดหวังอย่างแรง
“เราบวรเวนจกิจ คนที่อยู่ข้างๆบ้านด้วยกันไง” ปรสิตพูดในสิ่งที่สามารถทำให้ฉันรื้อฟื้นอะไรบางอย่างได้
“อ้อ!ไอเวน!!” ฉันรู้แล้ว เขาคือเวน เวนเป็นคนที่ฉันนับถือมากคนนึงเลยล่ะ เขาเป็นคนที่เรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เก่งทุกอย่าง เราทั้งสองคนมีบ้านใกล้กัน ตั้งแต่ตอนที่ฉันอยู่ ป.1 จนถึง ม.3 เลยละ แต่ทำไมฉันถึงลืมเขาได้นะ ให้ตายสิ
“ถูกต้อง!”เวนชี้นิ้วมาทางฉันทั้งสองมือ ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาเวนพร้อมกับเกาะแขนเขาอย่างคิดถึง ฉันว่าเขาเนี่ยแหละ จะเป็นเจ้าชายที่พิชิตใจฉัน อิอิ ฉันเริ่มเหมือนเดิมแล้วแฮะ เวลาที่เจอเขา เวนคือคนเดียวที่ฉันเกาะแขน ในรอบ 2 ปีมานี้ แม้แต่เพื่อนฉันยังไม่เกาะแขนเลย....พูดถึงเพื่อน พวกมันก็มา....ตายยากจิง
“ไอ้โจน...ทำอะไรอยู่ว่ะเนี่ย นานติ๊ปเป๋ง อ้าวๆๆๆ นี่นิสัยเดิมกลับมาแล้วรึไง นี่อย่าบอกนะว่าไปฉุดพ่อหนุ่มสุดหล่อเฟี้ยวนี่มา...เฮ้อ สอนไม่รู้จักจำ บอกกี่ร้อยรอบแล้วเนี่ยว่าอย่าไปฉุดใครเขา สงสารเขาบ้าง ดูซิ เขาหน้าตาจิ้มลิ้ม เหมาะกับหน้าอย่างแกที่ไหนเนี่ย ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย ไป....ไป....ไปได้แล้ว” ไอ้นึง เพื่อนสาวของฉันอีกคน เข้ามาก็ร่ายบทสวดยาวเหยียดทันทีเลย......
“ใช่ที่ไหนเล่า นี่เพื่อนฉัน เขาชื่อ เวน บวรเวนจกิจ” ฉันพูดพลางเกาะแขนเวนแน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าฉันอยากแกะแขนเขานานๆเพราะฉันเริ่มรู้สึกว่า ความแรด ความโหยหาผู้ชายมันพุ่งซ่านขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่หายไปยาวนานถึง 2 ปี....แต่ เอ๊ะ! ฉันจำได้ว่า....
“เวน นายเป็นเกย์ ไม่ใช่เหรอ” ฉันเงยหน้าขึ้นพลางถามเวนที่กำลังโดน นึงหยิกแก้ม พลางสำรวจใบหน้าเวนอย่างถี่ถ้วน ราวกับจะเอาเซลล์ผิวหนังของเวนไปทำเป็นยาเสน่ห์ยังงั้นแหละ แต่พอเวนได้ยินที่ฉันพูดเขาสะดุ้ง แล้วตอบกลับมาเบาๆว่า
“ใช่ที่ไหนเล่า คนที่เป็น ฉันที่ไหน พี่ชายฉันตะหาก” เออ จริงด้วย พี่ชายของเวนซินะที่เป็นเกย์ จะว่าไปก็น่าเสียดายอยู่ พี่ชายของเวนหล่อลากไส้จะตายไป
“เอิ่มม...เวนจ๊ะ คือว่าพวกเราเนี่ย กำลังจะไปกินเลี้ยงฉลองจบ ม.5กัน ไม่ทราบว่า เวนจะว่างไปกับพวกเราไหมจ๊ะ” เมียง เพื่อนสาวที่แสนจะอยากผู้ชายเอามากิน(แต่หาไม่ได้)เข้ามาหว่านล้อมพูดกับเวนด้วยสายตาปรือๆ ปากเผยอนิดๆ แน่นอนว่าเวนมองเมียงด้วยสายตากลัวๆ
“อีเหลี่ยม!! กลับมานี่เลย อย่าไปยุ่งกับชาวบ้านเขา!” มวย เพื่อนสาวฉันอีกคน ยัยนี่ชอบเก็บตัว.....ตะโกนมาแต่ไกลเพื่อที่จะเรียกเมียง(เหลี่ยมนี่เป็นรูปหน้าของเมียง)
“จริงด้วย ไปด้วยกันไหม ไปกินเลี้ยงฉลองกัน” ฉันชวนเวนทันที
“นี่!ชวนเขาดีๆสิ ไปมองหาเรื่องเขาแบบนั้น เขาจะไปด้วยไหมล่ะ สอนไม่รู้จักจำ!” นึงพูดขึ้นพร้อมกับเอาฝ่ามือมาตบที่ตาฉันเบาๆ
“อะไรเล่า!ฉันกำลังใช้สายตาอ้อนวอนอยู่นะ!” ฉันกำลังจะเถียงต่อ แต่ก็โดนแกว่งเข้ามาตบปากซะก่อน
“อย่า! อย่าเถียง ยิ่งเถียง ยิ่ง...” แกว่งพูดแล้วหยุดจังหวะลง ซึ่งเป็นการหยุดจังหวะที่นานมากสำหรับฉัน
“ ยิ่งอะไร!” ฉันถามเสียงดัง แล้วถลึงตาจ้องหน้าแกว่งอย่างเอาเรื่อง
“ยิ่งกวนทีนนะเซ่!” อ๊อดเข้ามาสมทบ รุมด่าฉันทันที ไอ้พวกเพื่อนบ้า ว่าแต่ชาวบ้านเค้านะ พวกแกก็หน้าตากวนพอๆกับฉันนะแหละ
“อ๊อด! แกว่ง! ชาตินี้พวกแกเคยตายไหม! อีเหลี่ยม! ออกห่างจากเวนเดี๋ยวนี้เลยนะ!” โอย...ให้ตายพวกนี้ วุ่นวายกันจริงๆ ฉันจะด่ากับอ๊อดกับแกว่งซะหน่อย เมียงก็เข้ามาหว่านเสน่ห์แบบอุบาทว์ๆให้เวนทันที ทุเรศจริงๆ
ความคิดเห็น