ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My old Friend [exchange to] My Boy Friend

    ลำดับตอนที่ #1 : ช่วงแรก..ต้นปัญหา

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 51


     

                            วันนี้เป็นวันแรก วันแรกที่ฉันจะได้...เดทกับคนรู้ใจของฉัน(มั้งนะ)หรือที่เรียกว่าแฟน      อะฮุ ไม่อยากจะพูดเลย ว่าแฟนคนนี้ของฉันเป็นถึงนายแบบชื่อดังที่กำลังมาแรงในตอนนี้ นี่นับว่าเป็นบุญของฉันอย่างมหาศาลล้นเหลือเลยด้วยซ้ำ ฉันไปสารภาพรักกับเขา และเขาก็ตอบตกลง ซึ่งเราทั้งสองคน คบกันมาได้นานแสนนาน จนใครๆที่รู้ต้องอึ้งตามกันไปเป็นระเบียบ อิอิ เราทั้งสองคนคบกันมาได้นานถึง 2วันแล้ว คิกคิก....นานดีใช่ไหมล่ะ ~ ^ ^ ~  อิอิ  โอ๊ะ! เขาอยู่นั่น เค้ายืนรอฉันอยู่ วันนี้เขาดูดีมาก และแน่นอนว่า สาวๆที่เดินผ่านต้องมองเขาเป็นสายตาเดียวกัน...ทันทีที่ฉันเห็นเขา ฉันก็รีบวิ่งแจ้นไปหาเขาทันที....อยากเดินควงเขาเร็วๆจัง ครึๆ  และดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกตัวแล้วว่าฉันกำลังวิ่งไปหาเขา.....เขาหันมาทางฉันพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น....ฮิฮิ

    น่ารักจัง

                                    ดี แป็ก รอนานไหม แน่นอนว่าฉันเข้าไปทักเขาก่อน

                                   

                                    .......... ไม่มีคำตอบออกมาจากแป็ก ซึ่งนั่นจะไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้ฉันทะเลาะกับแป็กได้.....ฉันเลยรีบควงแขนแป็ก เพื่อที่จะเริ่มการเดทอย่างจริงจังเร็วๆ ขัดแค่เพียงว่า แป็กไม่ยอมเดินไปไหน คอยแต่จะรั้งตัวเองหยุดอยู่กับที่ นั่นทำให้ฉันแปลกใจอย่างมาก เมื่อหันหน้าไปหาแป็ก เขากำลังยิ้มเหมือนเหยียดหยามฉัน......

                                    โจน เขาเรียกชื่อฉันเบาๆ....พร้อมกับยิ้มออกมาราวกับเยาะเย้ยฉัน ฉันมีความรู้สึกแบบนั้น...

     

                                    มีอะไร ฉันพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ ฉันเริ่มกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้น…..และฉันหวังว่าเหตุการณ์ที่ฉันคิดคงจะไม่เกิดขึ้น

     

                                    โจน เรา...เลิกกันเถอะ เราไปกันไม่ได้จริงๆ เธอดีเกินไปสำหรับฉัน

     

    ...........................................................................................................

     

     

     

                            เฮอะ!!! เธอดีเกินไปช่างเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวซะจริง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ2 ปีก่อนของฉันเกิดขึ้นและจบลง ฉันต้องนั่งจมกองน้ำตานานถึง 4 ชั่วโมง มันเป็นเวลาที่ยาวนาน และไร้สาระมากสำหรับฉัน และเพราะเหตุการณ์ทุเรศๆครั้งนั้นมันเลยทำให้ฉันเป็นอย่างทุกวันนี้

     

                                   

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันชื่อ โจน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นหน้าตาของฉันก็ชักจะเหมือนโจรขึ้นทุกวันๆ  ในตอนนี้ฉันอยู่ ม.5 แล้ว และอีกยาวนานฉันถึงจะได้ขึ้นม.6

     

    โจน...เดี๋ยวอีก 2 วัน ก็จะจบ ม.5 แล้ว พวกเราทั้งกลุ่มจะไปเลี้ยงฉลองกัน โจนไปด้วยนะ เหลือโจนคนสุดท้ายแล้ว แกว่ง เพื่อนสาวของฉันเอง ยัยนี่หน้าตามันจิ้มลิ้ม.....

     

    ไม่ไปอ่ะ ฉันตอบด้วยเสียงหนักแน่นและรวดเร็วทันที

     

    ทำไมอ่ะ แกว่งถามฉันพลางทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้

     

    จะกลับบ้านไปดูแลน้อง แด๊ดกับมัม ฉันพูดโดยไม่สนใจหรือแม้แต่จะมอง

    หน้าแกว่ง เพราะตอนนี้สายของฉันจับจ้องอยู่ที่ เลย์ชิ้นใหญ่ที่กำลังจะเข้าปากฉันในไม่กี่วินาทีนี้

     

                                                    โจน...ฉันรู้สึกว่าแกจะใช้เหตุผล เลี้ยงน้อง พ่อ แม่ มา 5 ปีแล้วนะ ทุกครั้งที่พวกเราจะไปไหน แกต้องเอาน้องของแกที่โตจนจะขึ้นคร่อมแกได้ทั้งตัว เอาพ่อและแม่ของแกที่ยังแข็งแรงฟิตปึ๋งปั๋ง มาอ้างตลอดเลยนะ นี่ก็เพื่อนของฉันอีกขึ้น ลูกอ๊อด ยัยคนนี้ตัวสูงและรู้ทันฉันไปหมด....คราวนี้ก็เหมือนกัน..

    ให้ตายสิ

                                                    ก็ไม่อยากไปอ่ะ ไปไม่ได้รึไง ฉันพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองหน้าแกว่งกะลูกอ๊อดอย่างเอาเรื่อง

                                                   

                                                    เออ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป  แม่ง ชวนนิดชวนหน่อยทำมองหน้า นี่ถ้าเราชวนแกไปต่างประเทศนี่ไม่ชกเราเลยรึไง อ๊อดทำท่าไม่พอใจและน้ำเสียงของอ๊อดทำให้ฉันรู้เลยว่า ไอ้นี่กำลังน้อยใจ........มันทำให้ฉันรู้สึกยวบยาบ นิสัยขี้เห็นใจคนอื่นของฉัน(เมื่อ 2 ปีก่อน) มันผุดขึ้นมา ทำให้ฉันตอบกลับไป

     

                                                    เออ ไปก็ไปว่ะ แต่อย่าเกิน 2 ทุ่มแล้วกัน เดี๋ยวมัมด่า ฉันพูดขึ้นก่อนที่จะสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นหลัง พร้อมกับล้วงกระเป๋าตังค์เช็คสภาพเงินที่ยังคงอาศัย พักพิงอยู่ในนี้อยู่

                                    ให้ตาย เหลือแค่ 2 พัน จะพอใช้อีก 3 ไหมเนี่ย.....

     

                                                    ตุ้บ!!!!

                                    ฉันชนกับบางอย่างซึ่งฉันรู้สึกได้ว่ามันนุ่ม และจากการคาดเดาเหตุการณ์และความน่าจะเป็นจากสมองอันเท่าขี้มดของฉันมันส่งข้อมูลมาว่า ฉันชนกับมนุษย์................และเป็นอย่างที่คิด ฉันชนกับมนุษย์ร่างสูงคนนึง ซึ่งบอกได้เลยว่าน่าตาดีใช้ได้เลยทีเดียว เสียอย่างไม่น่าทำผม สกินเฮดเลย

                                                    ขอโทษครับ เขาพูดอย่างสุภาพ สุภาพมาก็ควรที่จะสุภาพกลับสินะ

     

                                                    อือ ไม่เป็นไร คราวหน้าคราวหลังหัดดูทางด้วย เฮ้...ฉันพูดอะไรออกไปนะ ถ้าเป็นเมื่อ 2 ปีก่อน ถ้าฉันชนใคร ฉันนี่แทบจะก้มลงกราบเค้าเลยด้วยซ้ำ.....แล้วมาดูปัจจุบันนี้สิ ปากพล่อยน่าตบจริงๆเลย

     

                                                    โจน!!ไปได้แล้ว อย่าชักช้า!! เชิญเลยเชิญมาเป็นครอบครัวเรา เชิญมาเป็นพี่น้องร่วมพ้องเผ่า..” ให้ตาย...ไอ้พวกเพื่อนบ้า.... ถ้าพวกนี้ได้พูดคำว่า อย่าชักช้า เมื่อไหร่ เมื่อนั้นมันจะต่อเพลงด้วยเพลงจากเรื่อง Brother Bear หนังเรื่องนี้ก็นานแล้วด้วยสิ  และเป็นเพราะการเรียกที่แสนจะพิสดารของเพื่อนๆปัญญาอ่อนพวกนี้ ฉันเลยจำจะต้องรีบวิ่งไปหาพวกมัน เพราะฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ.....

     

                                                    เดี๋ยว!!!” สกินเฮดเรียกฉันเสียงดัง จนฉันตกใจ ขาสะดุดกับขาตัวเองจนล้มไม่เป็นท่าต่อหน้ากลางฝูงนักเรียนที่กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้านกันนับร้อย....อายจริงๆเลย.!!!!

     

                                                    อะไร ฉันค่อยพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปถามสกินเฮดด้วยสายตาที่บ่งบอกได้เลยว่าไม่พอใจ

     

                                                    อะ เอ่อ...เธอคือ โจน โจน สุขุมมาร ใช่ไหม สกินเฮดถามคิ้วเลิกขึ้นข้างนึง  แล้วเขารู้จักชื่อฉันได้ยังไงกันหว่า

     

                                                    ใช่ นายรู้จักฉันด้วยเหรอ ฉันถามกลับด้วยความสงสัย

     

                                                    เราไง เรา เวน บวรเวนจกิจ ปรสิตที่พักใจ ไงล่ะ .....สกินเฮด......บวรเวนจกิจ........ปรสิตที่พักใจ........ชื่ออะไรเนี่ย ทุเรศจริง

     

                                                    ไม่ เราจำไม่ได้ นายคือใคร ฉันพูดแล้วบวรเวนจกิจก็หุบยิ้มทันที บ่งบอกได้ว่าคงผิดหวังอย่างแรง

     

                                                    เราบวรเวนจกิจ คนที่อยู่ข้างๆบ้านด้วยกันไง ปรสิตพูดในสิ่งที่สามารถทำให้ฉันรื้อฟื้นอะไรบางอย่างได้

     

                                                    อ้อ!ไอเวน!!” ฉันรู้แล้ว เขาคือเวน เวนเป็นคนที่ฉันนับถือมากคนนึงเลยล่ะ เขาเป็นคนที่เรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เก่งทุกอย่าง เราทั้งสองคนมีบ้านใกล้กัน ตั้งแต่ตอนที่ฉันอยู่ ป.1 จนถึง ม.3 เลยละ แต่ทำไมฉันถึงลืมเขาได้นะ ให้ตายสิ

     

                                                    ถูกต้อง!”เวนชี้นิ้วมาทางฉันทั้งสองมือ ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาเวนพร้อมกับเกาะแขนเขาอย่างคิดถึง ฉันว่าเขาเนี่ยแหละ จะเป็นเจ้าชายที่พิชิตใจฉัน อิอิ ฉันเริ่มเหมือนเดิมแล้วแฮะ เวลาที่เจอเขา เวนคือคนเดียวที่ฉันเกาะแขน ในรอบ 2 ปีมานี้ แม้แต่เพื่อนฉันยังไม่เกาะแขนเลย....พูดถึงเพื่อน พวกมันก็มา....ตายยากจิง

     

                                                    ไอ้โจน...ทำอะไรอยู่ว่ะเนี่ย นานติ๊ปเป๋ง อ้าวๆๆๆ นี่นิสัยเดิมกลับมาแล้วรึไง นี่อย่าบอกนะว่าไปฉุดพ่อหนุ่มสุดหล่อเฟี้ยวนี่มา...เฮ้อ สอนไม่รู้จักจำ บอกกี่ร้อยรอบแล้วเนี่ยว่าอย่าไปฉุดใครเขา สงสารเขาบ้าง ดูซิ เขาหน้าตาจิ้มลิ้ม เหมาะกับหน้าอย่างแกที่ไหนเนี่ย ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย ไป....ไป....ไปได้แล้ว ไอ้นึง เพื่อนสาวของฉันอีกคน เข้ามาก็ร่ายบทสวดยาวเหยียดทันทีเลย......

     

                                                    ใช่ที่ไหนเล่า นี่เพื่อนฉัน เขาชื่อ เวน บวรเวนจกิจ ฉันพูดพลางเกาะแขนเวนแน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าฉันอยากแกะแขนเขานานๆเพราะฉันเริ่มรู้สึกว่า ความแรด ความโหยหาผู้ชายมันพุ่งซ่านขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่หายไปยาวนานถึง 2 ปี....แต่ เอ๊ะ! ฉันจำได้ว่า....

     

                                                    เวน นายเป็นเกย์ ไม่ใช่เหรอ ฉันเงยหน้าขึ้นพลางถามเวนที่กำลังโดน นึงหยิกแก้ม พลางสำรวจใบหน้าเวนอย่างถี่ถ้วน ราวกับจะเอาเซลล์ผิวหนังของเวนไปทำเป็นยาเสน่ห์ยังงั้นแหละ แต่พอเวนได้ยินที่ฉันพูดเขาสะดุ้ง แล้วตอบกลับมาเบาๆว่า

     

                                                    ใช่ที่ไหนเล่า คนที่เป็น ฉันที่ไหน พี่ชายฉันตะหากเออ จริงด้วย พี่ชายของเวนซินะที่เป็นเกย์ จะว่าไปก็น่าเสียดายอยู่ พี่ชายของเวนหล่อลากไส้จะตายไป

     

                                                    เอิ่มม...เวนจ๊ะ คือว่าพวกเราเนี่ย กำลังจะไปกินเลี้ยงฉลองจบ ม.5กัน ไม่ทราบว่า เวนจะว่างไปกับพวกเราไหมจ๊ะ เมียง เพื่อนสาวที่แสนจะอยากผู้ชายเอามากิน(แต่หาไม่ได้)เข้ามาหว่านล้อมพูดกับเวนด้วยสายตาปรือๆ ปากเผยอนิดๆ แน่นอนว่าเวนมองเมียงด้วยสายตากลัวๆ

     

                                                    อีเหลี่ยม!! กลับมานี่เลย อย่าไปยุ่งกับชาวบ้านเขา!” มวย เพื่อนสาวฉันอีกคน ยัยนี่ชอบเก็บตัว.....ตะโกนมาแต่ไกลเพื่อที่จะเรียกเมียง(เหลี่ยมนี่เป็นรูปหน้าของเมียง)

     

                                                    จริงด้วย ไปด้วยกันไหม ไปกินเลี้ยงฉลองกัน ฉันชวนเวนทันที

     

                                                    นี่!ชวนเขาดีๆสิ ไปมองหาเรื่องเขาแบบนั้น เขาจะไปด้วยไหมล่ะ สอนไม่รู้จักจำ!” นึงพูดขึ้นพร้อมกับเอาฝ่ามือมาตบที่ตาฉันเบาๆ

     

                                                    อะไรเล่า!ฉันกำลังใช้สายตาอ้อนวอนอยู่นะ!” ฉันกำลังจะเถียงต่อ แต่ก็โดนแกว่งเข้ามาตบปากซะก่อน

     

                                                    อย่า! อย่าเถียง ยิ่งเถียง ยิ่ง...แกว่งพูดแล้วหยุดจังหวะลง ซึ่งเป็นการหยุดจังหวะที่นานมากสำหรับฉัน

     

                                                    ยิ่งอะไร!” ฉันถามเสียงดัง แล้วถลึงตาจ้องหน้าแกว่งอย่างเอาเรื่อง

     

                                                    ยิ่งกวนทีนนะเซ่!” อ๊อดเข้ามาสมทบ รุมด่าฉันทันที ไอ้พวกเพื่อนบ้า ว่าแต่ชาวบ้านเค้านะ พวกแกก็หน้าตากวนพอๆกับฉันนะแหละ

     

                                                    อ๊อด! แกว่ง! ชาตินี้พวกแกเคยตายไหม! อีเหลี่ยม! ออกห่างจากเวนเดี๋ยวนี้เลยนะ!” โอย...ให้ตายพวกนี้ วุ่นวายกันจริงๆ ฉันจะด่ากับอ๊อดกับแกว่งซะหน่อย เมียงก็เข้ามาหว่านเสน่ห์แบบอุบาทว์ๆให้เวนทันที ทุเรศจริงๆ  

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×