ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เลือดรัตติกาล: แสงแห่งรุ่งอรุณ[ดอง!]

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่5 อันตราย!

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 49


    บทที่5 อันตราย!

     

     

    เปรี้ยง!

     

    สายฟ้าฟาดลงมาข้างหน้าต่างห้องนั่งเล่นแสนอบอุ่น ทว่าไม่ได้ทำให้หญิงสาวหนึ่งเดียวนั่งอยู่บนพรมขนสัตว์อ่อนนุ่มขยับเขยื้อนได้ นางเอาแต่จ้องมองเตาผิงทั้งที่ความจริงห้วงคำนึงของนางลอยไปไกลกว่านั้น

     

    ไกลเกินกว่าที่จะมีใครล่วงรู้ได้

     

    ใบหน้าเปื้อนยิ้มของพี่ชายปรากฏอยู่ในจิตใจ ทำให้พลอยยิ้มอย่างไม่ความสุขคนเดียวไม่ได้ ในที่สุดความเป็นจริงก็กลับมาอีกครั้ง โจแอนรู้สึกตัวช้าๆ สายตาสีม่วงเหลือบมองสายฝนกระทบหน้าต่างบ้างเป็นครั้งคราว

     

    น่าแปลกที่พายุรุนแรงตั้งแต่ขึ้นตั้งแต่เมื่อบ่าย เดิมนางกะว่าจะรีบไปล่าสัตว์แล้วรีบกลับ เห็นทีคงจะไม่ได้เสียแล้ว คืนนี้นางจำต้องค้างแรมที่นี่ แม้ว่าจะไม่มีชุดมาเปลี่ยนก็ตามที อีกอย่างนางรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก เหงื่อจากตอนบ่ายทำให้กายเหนียวหนึบ

     

    โจแอน อยู่นี่เอง

     

    หญิงสาวหันตามเสียงเรียกก่อนจะดันแว่นที่เลื่อนหลุดกลับเข้าที่ ทำให้นางเห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่คนที่นางคาดหวังไว้ ทว่าร่างบางก็ขยับยิ้มรับสุภาพ พอตั้งท่าจะลุกไปหา สัญญามือโบกไปมาของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายมาหานางเอง

     

    ขอโทษทีที่ทำให้ต้องมาติดอยู่ที่นี่หนึ่งคืนคริสโตเฟอร์ถอดรองเท้าหนังของตนออกเพื่อมานั่งเคียงข้างนาง ดูเหมือนฝนจะไม่หยุดง่ายๆ จะเอาอะไรอีกไหม ไวน์ เบียร์ หรืออะไรอุ่นๆดับความหนาว ถ้าเจ้าหนาวนะโจแอนส่ายหน้าไปมา แววตาขอบคุณเขาอย่างที่สุด

     

    ไม่ล่ะ ข้าไม่ดื่มอะไรแบบนั้นหรอก ข้าเป็นโรคไม่ถูกกับแอลกอฮอล พูดให้ถูกคือ ข้าคอไม่แข็งน่ะนางหัวเราะเฝือนๆกลบเกลื่อนความอาย ไม่อยากนึกภาพครั้งแรกที่ได้ลิ้มลองเจ้าพวกนั้น เพราะคำยุยงเมื่อหลายสิบปีก่อนของพี่เอริคแท้ๆ ทำให้นางรับคำท้าจิบไวน์เข้าไปอึกใหญ่ ทีแรกก็รุ้สึกตื่นเต้นดี ตื่นเต้นมากจนกล้าบอกรักแขกแปลกหน้าในงานเลี้ยงคืนนั้น หลังจากนั้นนางก็นอนซมปวดหัว ไข้ขึ้นไปหลายวันเหมือนกัน

     

    แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้นางเข็ดหลาบ

     

    ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบจึงเสมองไปทางนาฬิกา มือหนาเอื้อมกุมมือบอบบางเบาๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นในที่สุด ข้าว่าเจ้าควรไปพักผ่อนได้แล้วล่ะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว เจ้าเหนื่อยมาทั้งวัน สมควรเข้านอนเอาแรงเดินทางกลับพรุ่งนี้เช้า

     

    นี่เป็นครั้งแรกตลอดคืนนี้ที่ร่างบางเจ้าของดวงตาสีม่วงซีดรู้สึกว่าชายหนุ่มดูแปลกไป มีเสน่ห์ขึ้น หรืออย่างอื่น นางไม่อาจรู้ แต่แววตาสีทองแปลกไปแบบนั้นมันหมายความว่าอย่างไร แววตาที่ทำให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำยามจ้องมองและสบตากัน

     

    มือเรียวเอื้อมไปสัมผัสโครงหน้าแกร่งครู่หนึ่งอย่างเผลอไผล ก่อนจะสะดุ้งรู้สึกตัวเมื่ออีกฝ่ายจับข้อมือนาง ความอบอุ่นแล่นผ่านเข้ามาจนร่างกายร้อนไปหมด เสียดายข้าน่าจะได้สนุกมากกว่านี้ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจ

     

    ว่าอะไรนะคะ?

     

    คริสโตเฟอร์รีบกลบเกลื่อนคำพูดเมื่อครู่ของตัวเองทันที แม้เขาเองยังติดใจคำว่าลูกแกะกลายเป็นหมาป่า แต่มองอย่างไรๆ นางก็ไม่ต่างกับลูกแกะที่รอเขาขย้ำเลยสักนิด ลอร์ดหนุ่มคิดดังนั้นจึงลอบถอนหายใจแผ่วเบา

     

    ไม่น่าเชื่อคำขู่ของเรจน์เลยให้ตาย

     

    แต่พอลองคิดไปคิดมาก็ดันไปหยุดที่เรื่องคืนนี้อีกจนได้ คืนที่มันจะเปิดฉาก และนางจะถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด

     

    คิดดังนั้นเขาจึงค่อยๆเอื้อมมือของตนลูบไล้ใบหน้าขาวเนียนของอีกฝ่ายเช่นกัน โจแอนหน้าชาไร้สาเหตุ ก่อนที่มันจะค่อยๆขึ้นสีเรื่อยน่ามอง พอรวมกับท่าทีขัดเขินนั่นทำให้ลอร์ดหนุ่มไม่อาจรีรอได้อีกต่อไป

     

    เขาต้องได้มัน เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ก่อนที่ความพยายามของเขาจะสูญเปล่าไป

     

    โครงหนน้าแกร่งขยับเข้าใกล้ใบหน้าขาวอมแดงช้าๆ แววตาสีม่วงไร้เดียงสามองเขาไม่เข้าใจ นั่นทำให้เขาค่อยใช้นิ้วไล้ไปตามริมฝีปากชมพูที่เผยอน้อยๆของนางช้าๆ ดูเหมือนคนทั้งสองจะรู้หน้าที่ดี เหลือตาทั้งคู่จึงพริ้มลง

     

    โจแอนนาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่อาจขัดขืนได้ เหมือนกับมนตร์บางอย่างสะกดความเคลื่อนไหวของนาง ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร ทั้งที่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่คงมีครั้งนี้กระมังที่หญิงสาวรู้สึกหวั่นไหวครั้งแรก บางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใด แต่การกะทำทุกอย่างของเขากำลังทำให้นางไม่อาจห้ามกายตัวเองได้

     

    โจแอนคริสโตเฟอร์กระซิบแผ่วเบา

     

    เขาต้องการมัน สิ่งที่จะทำให้เขาแข็งแกร่ง สิ่งที่จะทำให้เขาสามารถเทียบเทียบกับพวกนั้นได้ สิ่งที่จะทำให้เขาพลิกชะตาทั้งหมดมาไว้ในกำมือของเขา

     

    จุมพิตจากนักล่า . . .จะทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง

     

    ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามันไว้ใจไม่ได้!!”

     

    ประตูกระแทกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงตรงเข้ามาพร้อมกระชากลอร์ดหนุ่มขึ้นด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว นั่นทำให้หญิงสาวได้สติรีบลุกขึ้นห้ามการวิวาทของสองหนุ่มทันที

     

    หยุดนะวิล!! ไม่ใช่ความผิดของคริสนางกำลังหอบ แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงหอบ รู้ตัวอีกทีมือหนาก็กระชากร่างจนเซถลาเข้าไปซบแผ่นอกกว้างของผู้ดูแลหนุ่มซึ่งหันไปทำตาขวางใส่ชายหนุ่มที่ควบคุมท่าทีนิ่งสงบของตัวเองได้เป็นอย่างดี

     

    ถ้าอย่างนั้น ราตรีสวัสดิ์โจแอนนา. . .วิลเลี่ยม วัสตัน มีความสุขในคำคืนน่าอภิรมย์นี้น้ำเสียงอำลาสุดท้าย พร้อมกับรอยยิ้มเยือกเย็นนั้น ส่งผลให้ขนของหญิงสาวลุกชันโดยไม่มีสาเหตุ ราวกับว่ามันอาจเป็นคำสุดท้ายที่เธอจะได้ยินภายในค่ำคืนนี้

     

    คำอำลาสุดท้าย. . .จากเขา

     

     

    แกร็ก. . .แกร็กๆ

     

    เฮือก!

     

    สัญชาติญาณทำให้เธอสะดุ้งผุดลุกขึ้นจากเตียงฉับพลัน มือควานหาแว่นทรงรีบนหัวเตียงมาสวมรวดเร็ว สายตาสีอเมทิสต์ซีดกวาดมองไปรอบๆ ทว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ไม่มีแม้แต่เงา หากเสียงประหลาดยังดังต่อไป จนในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าต้นเหตุอยู่ตรงไหน

     

    หญิงสาวในชุดนอนขาวกระโปรงยาว ค่อยก้าวขาจากเตียงช้าๆ แม้จะหวาดกลัว หากศักดิ์ศรีของนักล่าที่มีอยู่เดิมนั้นสั่งให้เรียกความกล้าหาญของเธอที่มีอยู่ออกมาทั้งหมด

     

    ม่านสีชมพูแก่ปลิวท้าลมฝนที่พัดผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่างกว้างซึ่งเปิดอ้าไร้สาเหตุ แม้จะแปลกใจหากความรู้สึกลึกๆกำลังบอกนางว่า มีผู้บุกรุก เท่านั้นเองมือก็ค่อยๆควานหาสิ่งที่จะพอเป็นอาวุธได้ในตอนนี้ นั่นก็คือร่มสีเหลืองนวลหนึ่งเดียวในห้อง ก่อนจะย่องตรงไปยังหน้าต่าง หัวใจเต้นระส่ำราวกับจังหวะรัวกลอง ดังกึกก้องจนแทบได้ยินออกมาข้างนอก ขณะที่ขาค่อยๆลากตรงไปยังเป้าหมาย

     

    ฟึบ

     

    ม่านถูกแหวกออกรวดเร็ว หากไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ตรงนั้น หญิงสาวจึงพยายามผ่าลมฝนเอื้อมมือออกไปปิดหน้าต่างที่เปิดอ้านั้นช้าๆ คงจะคิดมากไปเองนั่นแหละนะ ลมที่สาดเข้ามาทำร่างเธอเปียกปอน ความรู้สึกโล่งใจประหลาดเกิดขึ้น. . .แต่เพียงไม่นาน

     

    เงาของบางอย่างค่อยๆคืบคลานใกล้เข้ามามากขึ้น หญิงสาวไม่แน่ใจว่าควรหันไปเผชิญกับมันดีหรือไม่ ขณะที่ร่างค่อยๆเกร็งขึ้นอัตโนมัติ ร่มยาวที่อยู่ในมือกระชับขึ้น ตอนนั้นเองที่เธอเห็นสายตาสีเหลืองวาวสะท้อนบานหน้าต่าง และนั่นเองที่ทำให้เธอรู้สึกตัวเป็นครั้งแรกว่ามันคือสิ่งที่เธอเฝ้าฝึกฝนมานาน เพื่อเวลานี้

     

    แวมไพร์!”

     

    คำอุทานพร้อมกับหลังกลับยังไม่น่าตกใจเท่าตอนที่ ได้ยินเสียงกระสุนยิงตรงมาทางเธอ นอตันล้มลงรวดเร็ว จนโจแอนเกือบตั้งตัวไม่ทัน หากเขาไม่เข้ามาประคองเธอเอาไว้ในอ้อมแขน เธอก็คงได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ตอนนั้นเองที่เธอเหลือบเห็นปืนในมือของเขา ซึ่งช่วยชีวิตเธอเอาไว้

     

    วิลเลี่ยม เจ้ามาทำอะไรที่นี่!?เธอรู้สึกว่าการที่ชายหนุ่มเข้าห้องนอนเธอแบบนี้มันไม่ถูก และแม้น้ำเสียงกับใบหน้าของนางจะถือดีแค่ไหน ทว่าในใจของนั้นกำลังโล่งอกเมื่อเห็นเขาเข้ามา พาเธอหลบออกจากนอตันที่ค่อยๆยันตัวขึ้นจากพื้นช้าๆ แสยะยิ้มร้ายกาจให้ เพียงแค่นั้นก็ทำให้วิลเลี่ยมรีบพาโจแอนหลบออกไปจากห้องในทันที ปิดประตูไล่หลังจังหวะเดียวกับที่มันกำลังจะกระโจนเข้าหา

     

    เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของพวกเขา ชายหนุ่มจึงได้ดันโต๊ะ ตู้และเสื้อเกราะซึ่งอยู่บริเวณโถงทางเดินนั้นมาปิดบังหลังประตู ไม่ให้มันหนีออกมาได้ แต่เหมือนอีกฝ่ายพยายามจะพังประตูออกมาจึงได้แต่กระแทกมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนในที่สุดก็ยเป็นฝ่ายอมแพ้

     

    เสียงครึกโครมนั่นหายไปเองในที่สุด

     

    ไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้าถูกกัดรึเปล่า?คำตอบที่ได้เป็นเพียงการส่ายหัวเท่านั้น หญิงสาวรู้สึกไม่สู้ดีนักจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ที่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่ตัวเองจะคาดถึง นั่นทำให้นางตั้งสติไม่ถูก ทั้งที่ถูกฝึกหนักเพื่องานนี้แท้ๆ แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ร่างกายก็กลับนิ่งทื่อราวกับหิน

     

    กะ. . .เกิดอะไรขึ้นวิลชายหนุ่มดึงนางเข้ามากอดปลอบ

     

    ไม่เป็นไร เจ้าอยู่กับข้า เจ้ายังไม่พร้อม ท่านโรเชสเตอร์คงรู้ดีจึงส่งข้ามาดูแลเจ้า ไม่เป็นไรแล้วข้าอยู่นี่ เจ้าจะไม่เป็นไร จะไม่เป็นไร ข้าสัญญา ข้าสัญญา. . .คำพูดอ่อนโยนที่ทำให้ใบหน้าขาวซีดกลับมามีเลือกฝาดแต่งแต้มอีกครั้ง

     

    ข้าเชื่อเจ้าเธอว่าด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนคำถามใหญ่จะแล่นเข้าหัวชะงักช่วงเวลาแสนโรแมนติกของหนุ่มสาว เอ่อ วิล เจ้านั่นคือ. . .นั่นคือมัน. . .พวกมันใช่ไหม พวกที่เป็นอริกับข้า. . .กับเราชายหนุ่มร่างสูงพยักหน้าช้าๆ ท่าทางเขาจะรีบพลุนพลันออกจากห้องมาทั้งๆที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นแน่ ผมเผ้าจึงดูยิ่งเหยิงกว่าทุกที เสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมลวกๆติดกระดุมจากด้านล่างเพียงสองสามเม็ด จึงเผยให้เห็นแผ่นออกเปลือยถนัดตา รู้ดังนั้นใบหน้าของนางจึงขึ้นสีมากกว่าเดิมหลายเท่า

     

    ข้านึกอยู่แล้วว่าที่นี่ไม่น่าไว้วางใจ ข้าคิดว่าไอ้ลอร์ดนั่นต้องอยู่เบื้องหลังแน่ๆโจแอนผลักกายออกห่างรวดเร็ว ผมสีดำเป็นลอนน้อยๆยุ่งเหยิงพอๆกับชายหนุ่ม แววตาสีอเมทิสต์วาวโรจน์ไม่ใคร่พอใจต่อคำพูดเมื่อครู่ สักเท่าใดนัก

     

    เหลวไหล! คริสไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่ ข้าเชื่อใจเขา

     

    ก็เพราะเชื่อใจมากไป ถึงได้ทำให้เจ้ามีภัยยังไงเล่าเขาเขย่าตัวนาง เห็นแววตาดื้อรั้นมองมาแล้วรู้ได้ทันทีว่าคงต้องมีการโต้เถียงกันอีกนานแน่

     

    ตอนนั้นเองที่หน้าต่างบานใหญ่ในโถงทางเดินแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี ร่างทมิฬของปิศาจร้ายโฉบผ่านเข้ามา หนุ่มสาวทั้งสองถึงกับผงะถอยหลัง เมื่อนัยน์ตาเหลืองปูดโปนบนใบหน้าแหลม นั้นจ้องมองตรงมาอย่างหิวกระหาย ทุกฝีก้าวที่ตรงเข้ามา ทำให้โจแอนผงะถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

     

    วิลเลี่ยมสาดกระสุนใส่นอตันหลายนัด กันหญิงสาวไว้ด้านหลังท่าทีปกป้อง เล็งเข้าที่จุดสำคัญเพื่อตรึงร่างนั้นติดกับกำแพงใกล้ๆไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้. . .แค่เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นที่มันหยุดนิ่งราวกับไร้ชีวิต

     

    ไม่นานนิ้วขาวซีดค่อยๆกระดิกไปมา เป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวแน่น แล้วออกฝีเท้าวิ่งไปพร้อมกับนาง

     

    หลังจากแน่ใจว่าพ้นระยะอันตรายแล้วทั้งคู่จึงหยุดเพื่อพักหายใจ ด้วยความอ่อนล้า โจแอนพยายามรวบรวมสติกลับคืนมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรู้และเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ก็เพื่อวันนี้ มันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เกมเก่าแก่แต่บรรพบุรุษ

     

    ต้องฆ่าก่อนที่จะถูกอีกฝ่ายฆ่า!

     

    วิล เจ้าเหลือกระสุนอีกเท่าไหร่?ชายหนุ่มมองปืนในมือของตนก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าพอใจเท่าใดนัก

     

    สามนัด

     

    จำนวนที่น้อยเกินกว่าจะเอาชีวิตรอดและรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า แม้ดูเหมือนจะหมดหวัง หากไม่ในสายตาสีม่วง ซึ่งรู้สึกว่ามันคงจะได้ว่าถึงเวลาที่เธอจะต้องพร้อมแล้ว สำหรับการต่อสู้ในค่ำคืนนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นคำคืนที่ยาวนานที่สุดหรือไม่ เธอจะต้องทำมัน

     

    แล้วหญิงสาวจึงเหลือบไปเห็นดาบเก่าของชุดเกราะตัวหนึ่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดโถงทางเดินนั่น หญิงสาวหยิบมันขึ้นมา แม้มันจะหนักกว่าดาบที่ใช้ฝึกอยู่สักเท่าตัว แต่นางก็พยายามประคองมันไว้ด้วยสองมืออย่างมั่นคง แววตามุ่งมั่นรอคอยศัตรูที่คาดว่าจะต้องไล่ตามมาพบในอีกไม่ช้าแน่

     

     นาฬิกาตรงทางเดินตีส่งเสียงสิบสองทีน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก มันกำลังบ่งบอกให้รู้ว่านี่เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว หลังจากที่เสียงกังวานเงียบลง รอบด้านก็ดูวังเวงว่างเปล่า ลมฝนปะทะบานหน้าต่างส่งเสียงซาๆเป็นระยะๆ บรรยากาศไม่น่าพิสมัยที่สุดเท่าที่โจแอนเคยเจอก็ว่าได้

     

    แปลก. . .ปกติมันต้องตามาแต่ทำไม. . .ถึง?ชายหนุ่มว่าหารู้ไม่ว่าสิ่งที่กำลังพูดถึงนั้นอยู่เบื้องหลังของตน

     

    วิลระวัง!!”เธอหวีดร้องเมื่อร่างของนอตันโถมเข้าทับชายหนุ่มทำให้เขาล้มลงไปกับพื้น

     

    วิลเลี่ยมพยายามต่อสู้ขัดขืน ในที่สุดก็จำยอมยิงกระสุนอีกนัดออกไปเมื่อไม่มีทางเลือกมากนัก ทำให้มันผงะถอยหลังออกห่าง ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มใช้ขาถีบยันส่งผลให้ร่างปิศาจกระเดนห่างไปอีกหลายเท่านัก

     

    ที่นี่ไม่ปลอดภัย เราต้องหลอกล่อมันไว้จนกระทั่งเช้า ถึงตอนนั้นข้าอาจดูแลเจ้าไม่ได้ดีนัก เจ้าต้องดูและตัวเองด้วยนะโจสายตามั่นคงที่ส่งมาให้ทำให้โจแอนรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำได้ทุกอย่าง ต่อให้เผชิญหน้ากับเจ้าพวกนี้อีกสักเท่าไหร่ เพียงมีเขาเธอก็จะยืนหยัดต่อไปได้

     

    เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วยละวิลคนพูดเป็นห่วงตามที่กล่าว หากคนฟังดูเฉยสนิทราวกับไม่ได้รับรู้สึกที่เพิ่งได้ยินมา แต่แล้วโจแอนก็คิดผิดที่ว่าเขาไม่ฟัง ครู่ต่อมาที่เขาหันมานั้น ทำให้ใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวกลับมาแดงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

     

    ข้าจะระวัง

     

    รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าแข็งกระด้างหากหล่อเหลาเป็นครั้งแรกคล้ายกับต้องการบอกว่าไม่เป็นไร เธอจะไม่เป็นไร เพียงมีเขาอยู่ด้วย ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆเขา

     

    มันจะดีขึ้นเอง. . .

     

    โจแอน หลบ!!”

     

    ภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวตกตะลึง ปากอ้าค้าง ตาเบิกโพล่ง ทว่าไม่มีเสียงใดๆเปล่งออกมาได้ ราวกับถูกดูดกลืนไปเสียหมด ทันทีที่เห็นร่างของเขาค่อยๆล้มลงเพราะถูกเล็บยาวเหยียดแทงทะลุจากด้านหลัง

     

    ฉึก!!

     

    หวงคิดทำงานไปอย่างเชื่องช้า ภาพทั้งหลายที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นเพียงสิ่งเลือนราง ซ้อนกับเป็นลำดับ ร่างสูงค่อยๆล้มลง เสียงสายฝนดูจะเงียบหายไปในเวลานี้ มีเพียงเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังลั่นท่ามกลางความเงียบงันอันน่ากลัว

     

    วิล!!!!!!!!!”

     

    หนีไปโจ หนีชายหนุ่มตะโกนก้อง น้ำเสียงบ่งความความเจ็บลปวดอย่างปิดไม่มิด ขณะพยายามดันตัวออกจากกรงเล็บแหลมยาวที่เสียบแทงทะลุอกซ้ายของตนจนน่ากลัว เลือดสีแดงกระเด็นเปรอะเปื้อนพื้นและผนังรอบด้าน มือกระเด็นตกลงพื้นลื่นไถลไปอยู่เบื้องเท้าของหญิงสาวนางมองมันแล้วหยิบมันขึ้นมาเก้ๆกังๆ เห็นชายหนุ่มดิ้นรนอดเป็นห่วงมิได้ นางจึงเล็งเป้าเตรียมยิง หวังให้กระสุนฝังอกปิศาจร้าย มือข้างที่เป็นอิสระอยู่กระชากกริซเงินวาววับยามต้องแสงจางๆ ออกจากที่ซุกซ่อน จ้วงแทงไปยังศัตรูไม่คิดชีวิต จนมันผงะถอยหลัง ดึงเล็บออกจากอกเขา พร้อมกับร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

     

    เมฆครึ้มเคลื่อยผ่าน เผยให้เห็นจันทร์ดวงโตสุกใสลอยเด่นหราอยู่บนฝากฟ้ากลางสายฝนที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง เมื่อสายตาสีเหลืองเยียบเย็นเหลือบเห็นมัน ร่างนั่นก็ทรุดฮวบลงกับพื้น เนื้อตัวเย็นเชียบราวกับซากศพ มีเพียงลมหายใจรวยรินเท่านั้นที่บ่งบอกว่ายังมีชีวิตอยู่ มันกุมอกด้วยความทุกข์ทรมาน เสียงครางผพแผ่วชวนขนลุกดังขึ้นจากพื้น นอตันตะเกียดตะกายด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ยันกายลุกขึ้น แรกทีเดียวมันหันมามองคนทั้งคู่พร้อมตั้งท่ากระโจนใส่ ซึ่งชายหนุ่มผู้ไม่เจียมสังขารของตนหางมือตั้งหลักปกป้องร่างบางด้านหลังเต็มที่ โชคดีเป็นของเขาเมื่อนอตันไม่สามารถทำดั่งใจปรารถนาได้ จู่ๆมันก็เดินโซซัดโซเซบิดตัวไปมาด้วยเสียงกระเส่า มือที่เต็มไปด้วยกรงเล็ฌบยาวทั้งสองกระชากบานหน้าต่างเปิด วินาทีน่าใจหายทำให้โจแอนหยุดชะงักกึก แววตาสีอเมทิตส์เบิกกว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อร่างนั่นทิ้งตัวออกจากหน้าต่างชั้นสามแล้วหายลับไป

     

    สายตาที่จับจ้องอยู่ เต้มไปด้วยความระแวงและตกใจ หากแต่เสียงร้องโอดโอยของใครบางคน ปลุกให้ร่างบางตื่นจากภวังค์มาพบความเป็นจริง แล้วสีหน้าซีดเซียวกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย

     

    วิล!! วิลเลี่ยม เลีมฟอร์ด!! คุณไม่เป็นไรนะ? หากตอนนี้ความงุนงงที่ว่ายังต้องมาหลังสวัสดิ์ภาพของชายหนุ่มผู้ค่อยๆล้มลงกองอยู่กับพื้น โดยมีโจแอนเข้าไปประคองร่างอ่อนแอของเขาขึ้นมาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นห่วง

     

    ข้าบอกให้หนีไป ไม่ได้ยินหรือไงหญิงสาวส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น แม้แววตาไม่พอใจหากยามนี้ความไม่ชอบใจทั้งหลายทั้งปวง ต้องละลายหายไปยามเห็นสีหน้าซีดเผือกของคนในอ้อมแขน ที่ยิ้มเจื่อนๆมาให้

     

    มันไปแล้วล่ะคำตอบนั่นเรียกคำถามได้เป็นอย่างดี

     

    ไปไหน? พวกมันไม่ได้ตายแค่เพราะกระสุนฝังอกพวกมันหรอกนะ เจ้าอย่าลืมสิดวงตาสีอ่อนตัดกับเส้นผมของชายหนุ่มกำลังทำให้เยือนยิ้มมาให้ มือหนาคว้ามือบางมากุม แล้วก็อย่าลืมว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะปกป้องเจ้าเสมอ โจแอนนา เซซิเลียนหญิงสาวคว้ามือนั้นแนบแก้มอย่างหวงแหน พลันวิลเลี่ยมลุกขึ้นยืนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับเขาไม่เคยได้รับบาดแผลสาหัสมาก่อนหน้านี้

     

    ชายหนุ่มในวงแขนพยายามทรงตัวจนยืนขึ้นได้ในที่สุด เขาค่อยๆสำรวจดูบาดแผลบริเวณอกด้านขวาที่ยังคงมีเลือดไหลซึมผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวของตน ช้าๆ ใบหน้าที่เคยใจดีกลับกลายมาแข็งกระด้างดังเดิม พร้อมด้วยคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันกันเป็นเชิงครุ่นคิด ก้มมองร่องรอยอีกฝ่ายที่หายออกไปทางหน้าต่างโดยไร้เหตุผล

     

    วิล เจ้าหายแล้ว เจ้าทำได้ไง!?โจแอนประหลาดใจทว่าคนถูกถามเพียงทำหน้าเฉย แสร้งเสเปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น ไปเถอะ อยู่ตรงนี้นานๆไม่ค่อยปลอดภัยพอหญิงสาวพยายามจะเอ่ยปากถามอีกครั้ง เหมือนเขาจะรู้ทัน หันหลังกลับมาจุ๊ปากให้นางเงียบเสียงลงทันที

     

    ชู่ว์ ข้าต้องการสมาธิโจแอนไม่ทันจะได้ร้องค้าน อีกฝ่ายถลาตัวไปข้างหน้ารวดเร็ว จนหญิงสาวแทบจะตามอารมณ์เขาไม่ทัน นางจำต้องออกฝีเท้าตาม แม้ชายกระโปรงบางเบาของนางจะเป็นอุปสรรค์ทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกก็ตาม เธอตัดสินใจหยุดฝีเท้า โน้มตัวลงฉีกชายด้านข้างให้แหวกเป็นทางถึงเข้าทั้งสองข้างพร้อมตัดสินใจร่างสูงไปติดๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×