ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE KING : กำเนิดราชาคนใหม่

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 1 : เรื่องราว

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 63





     Episode 1 : เรื่องราว






    ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..ตึก


    เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นดังก้องไปทั่วโถงทางเดินด้วยความรวดเร็ว ในยามเช้าที่อากาศสดใส แต่ดูเหมือนเจ้าของเสียงฝีเท้าจะไม่ได้รู้สึกสดใสเหมือนอากาศในวันนี้เลย ใบหน้าที่เรียบเฉยกับดวงตาสีเหลืองอ่อนที่ฉายแววเย็นชา ช่างดูต่างจากรูปลักษณ์ที่น่ารักเสียจริงๆ ยามเช้าในคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่นี้ ช่างเป็นเช้าที่ไม่รื่นรมย์เลย


    อรุณสวัสดิ์ครับ คุณไค


    เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้คนถูกเรียกหยุดฝีเท้าลง และในขณะที่เธอกำลังจะหันมาตอบ สีหน้าที่เคยเรียบเฉยและเย็นชาตั้งแต่เมื่อกี้ก็หายไปอย่างกับคนละคน


    อรุณสวัสดิ์ วันนี้มาเช้าจังเลยนะ


    ไคยิ้มให้กับลูกน้องในกลุ่มที่เลยเห็นหน้าค่าตามาบ้างอย่างสดใส แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้รู้สึกถึงความสดใสนั้นเลย


    คะ ครับ.....พอดีว่าผมถูกเรียกจากบอสให้มาช่วยงานนิดหน่อยน่ะครับ คุณไคเองก็มาเช้าจังเลยนะครับ มีอะไรรึเปล่าครับ....”


    อืมฉันก็ถูกเรียกจาก ‘บอส’ มาเหมือนกัน ลำบากหน่อยนะที่ถูกเรียกมาตั้งแต่เช้าเลย ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะ


    พูดจบไคก็เดินจากไปเงียบๆ ทิ้งให้ลูกน้องที่ยืนอึ้งและขนลุกซู่กับเสียงนิ่มๆของเธอและไม่รู้ว่าเขาได้ยินผิดไปรึเปล่าเมื่อเธอพูดว่า ‘บอส’ มันดูเหมือนจงใจกระแทกเสียงและแดกดันเอามากๆ พลอยให้เขาต้องมายืนภาวนาให้บอสอยู่รอดในวันนี้ ช่างเป็น ‘เลขา’ ที่น่ากลัวจริงๆ






    ก๊อกๆ


    เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง แต่ชายหนุ่มเจ้าของห้องกลับไม่ทีท่าที่จะสนใจ เขายังคงก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างในกระดาษใบแล้วใบเล่า จนสักพักคนที่อยู่ด้านนอกก็เคาะประตูขึ้นอีกครั้ง


    เชิญครับ


    ในคราวนี้เจ้าของห้องตอบรับอย่างนิ่งๆโดยที่มือยังคงขยับไม่หยุด คนถูกเชิญค่อยๆเข้ามาในห้องและรีบเดินตรงมาที่โต๊ะทำงานกลางห้องที่มีแต่ตู้เอกสารมากมายวางอยู่รอบห้อง


    อรุณสวัสดิ์ไค มาเช้าจังนะ


    อิบุกิเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มทักทายเมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ยอมพูดอะไร


    ปัง!...


    ยังจะมายิ้มร่าอีกนะอิบุกิ!”


    ไคทุบโต๊ะตรงหน้าอิบุกิจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องพร้อมกับตวาดใส่หน้าด้วยความโมโห ทำเอาอิบุกิรีบจับกระดาษที่วางกระจายกันอยู่บนโต๊ะแน่นเพราะกลัวมันปลิว ยิ่งเป็นเอกสารสำคัญด้วยเล่นเอาเขาใจหายไปแว็บนึงเลย


    โมโหอะไรของเธอตั้งแต่เช้าเนี่ยหรือว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้า?”


    ข้าวเช้าบ้าบออะไรล่ะนี่มันหมายความว่ายังไง?!”


    ไคฟาดซองจดหมายสีขาวลงบนโต๊ะสุดแรงด้วยอารมณ์ที่ขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเห็นท่าทีของบอสตัวเองที่ดูใจเย็นกับเรื่องสำคัญแบบนี้จนเธอเกิดรู้สึกหัวเสียแทน


    จดหมาย?”


    อิบุกิพูดขึ้นพร้อมกับหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน ไม่ถึง 3 วินาทีเขาก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย


    จดหมายมันทำไมเหรอ?”


    จดหมายมันทำไม?! กล้าพูดมากนะนายน่ะ หมายความว่าไงที่ว่านายตกลงไปงานประชุมสภาของรัฐบาลโดยไม่บอกเลขาอย่างฉัน?!”


    อ้อ เรื่องนั้นนี่เอง


    อิบุกิเริ่มเข้าใจถึงเหตุผลที่ไคอารมณ์ขึ้นตั้งแต่เช้าและมาตวาดใส่เขาเมื่อกี้แล้ว แต่ถึงเขาจะรู้เหตุผลเขากลับไม่รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของตัวเองเลย อิบุกิวางจดหมายในมือลงและเตรียมตัวจะอธิบาย


    ถ้าการที่ฉันไม่ได้บอกเธอเรื่องการตกลงนี้ มันทำให้เธอไม่พอใจฉันก็ขอโทษด้วย แต่ถึงฉันจะบอกหรือไม่บอก เธอจะค้านหรือไม่ค้าน ฉันว่าผลมันก็เป็นเหมือนเดิม ฉันถึงได้ตัดสินใจไม่บอกเธอและตอบรับคำขอของพวกเขาไง


    คำขอคำสั่งจากรัฐบาลล่ะสิไม่ว่าถึงจะใช้คำพูดที่สวยหรูยังไง ความหมายที่ซ่อนอยู่ก็มีแต่ ‘จงมาหาพวกเราเดี๋ยวนี้ไอ้พวกราชา’ อ่านยังไงก็น่าโมโห


    เอาเถอะน่า....จริงๆแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่แค่พวกเราที่ได้รับหรอกนะ


    หมายความว่าไง?”


    ไคหันไปถามอิบุกิที่เดินไปชงกาแฟดำที่มุมห้องด้วยความสงสัย ความจริงแล้วข้อความในจดหมายนั้นพูดถึงคำขอจากรัฐบาลที่ต้องการให้กลุ่มราชาสีน้ำเงินมาเข้าร่วมประชุมสภาที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยการประชุมนี้ปกติจะจัดทุกๆครึ่งปีและส่วนใหญ่จะพูดถึงปัญหาของประเทศชาติอะไรทำนองนั้น เลยแทบไม่เกี่ยวกับกลุ่มราชาเลย แต่ที่จู่ๆรัฐบาลก็เรียกราชาไปแบบนี้ ก็แปลว่าต้องการเจรจาอะไรบางอย่างกับพวกเรา ในตอนที่กลุ่มราชาสีน้ำเงินทำสัญญากับรัฐบาลในช่วงแรกๆ พวกเราก็เป็นฝ่ายยอมเสียเปรียบให้ฝั่งนั้นตั้งมากมาย แล้วตอนนี้ยังจะมาให้พูดคุยเรื่องอะไรอีก เรื่องนี้เลยทำให้ไคที่ก็ไม่ได้ชอบรัฐบาลนักโมโหขึ้นมา


    เมื่อวานท่านโคโซส่งจดหมายมาบอกว่าได้รับจดหมายจากรัฐบาลเหมือนกัน


    ท่านโคโซน่ะเหรอแล้วเขาว่าไง?”


    กลุ่มราชาสีทองเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลอยู่แล้ว มีเหรอจะปฏิเสธคำขอ แต่ที่แปลกน่ะมันอีกเรื่อง...”


    ไคนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับอิบุกิที่ไปชงกาแฟดำมาให้ อิบุกิยกกาแฟขึ้นดื่มแล้วจึงเล่าเรื่องต่อเพราะดูไคจะใจจดใจจ่อกับเรื่องที่เขาจะพูดมาก


    ฉันได้ข่าวว่าทั้งราชาสีแดงและราชาสีเขียวก็ได้รับจดหมายเหมือนกัน ไม่เว้นแม้แต่ราชาสีม่วง ซึ่งจากลางสังหรณ์ของฉัน ราชาทั้งหมดก็น่าจะได้รับเหมือนกัน


    ว่าไงนะ?! นายพูดจริงเหรอ?”


    ไคอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินจนนิ่งไปสักพัก เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องเจรจาระหว่างราชาที่ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลแล้ว แม้แต่ราชาสีแดงที่คอยจะบีบรัฐบาลให้อยู่ใต้อำนาจ ราชาสีเขียวที่ดูไม่อยากเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ราชาสีขาวที่แทบไม่สนใจรัฐบาลเลย กับราชาสีม่วงที่เกลียดรัฐบาลอย่างกับอะไรดี ในความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ดีจนเรียกว่าแย่ได้เลยแบบนี้ เธอจึงตกใจและสงสัยมากกว่ามันคือเรื่องอะไรที่ต้องเรียกราชามาทั้งหมดแบบนี้


    แล้วนายรู้มั้ยว่าเพราะอะไร?”


    ฉันยังไม่ค่อยแน่ใจหรอก แต่ก็ดูน่าจะเป็นเรื่องใหญ่อยู่


    นายดูใจเย็นจังนะ


    ร้อนรนไปก็เท่านั้น ที่ฉันตอบตกลงก็เพราะอยากจะลองเจอกับราชาคนอื่นดู ถึงจะรู้สึกว่าโอกาสที่พวกเขาจะมาครบมันแทบไม่มีเลยก็ตาม


    ไคถอนหายใจกับเรื่องที่ได้ยิน ถึงจะเข้าใจเหตุผลที่อิบุกิตัดสินใจตอบตกลง แต่ลางสังหรณ์ของเธอมันบอกว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ ขอแค่มันจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่จนเกิดการต่อสู้กันก็พอ


    เฮ้อ ถ้างั้นฉันขอตัวไปกินข้าวเช้าก่อนนะ อ้อแล้วก็ฉันยังไม่หายโกรธที่นายทำอะไรแล้วไม่ปรึกษาฉัน เพราะงั้นประชุมตอนบ่ายนี้ฉันขอไม่เข้านะ บาย!”


    ดะ เดี๋ยว...ไค!”





     บาร์แห่งนึงในซอยเล็กๆใจกลางเมือง ป้ายชื่อร้านที่ติดอยู่หน้าประตูสว่างวาบขึ้นเมื่อถึงเวลาเปิดทำการ R&K คือชื่อบาร์สุดหรูที่มีเพียงสมาชิกประจำเท่านั้นที่จะเข้าได้ ภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงกับเหล้าหลากหลายชนิดจากทั่วโลก แม้ไม่ใช่ร้านที่ใหญ่มากมาย แต่ก็มีชื่อเสียงมากสำหรับคนในวงการใต้ดิน เพราะที่นี่คือร้านที่เป็นสื่อกลางสำหรับคนขายและคนซื้อ


    กริ๊งๆ....


    เสียงกระดิ่งของร้านดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้า บาเทนเดอร์ของร้านที่พ่วงตำแหน่งเจ้าของร้านยกยิ้มขึ้นทักทายทันทีเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือใคร


    ว่าไงโชวงิคุง วันนี้มาเที่ยวเหรอ?”


    เด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าโชวงิถอดฮู้ดและหน้ากากปิดปากออกเมื่อเดินเข้ามาในร้าน


    คิดว่าผมจะมาเที่ยวในร้านเหล้าทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะรึไง


    โชวงิตอบนิ่งๆอย่างห้วนๆ ทำเอาคนที่หยอกเล่นๆหัวเราะกับท่าทีอย่างชอบใจ


    ถ้าริวล่ะก็ไม่อยู่หรอก เห็นว่าช่วงนี้งานยุ่ง


    เจ้าของร้านพูดขึ้นเมื่อเห็นโชวงิกำลังมองไปทั่วร้านเหมือนหาใครบางคน


    ดีแล้วที่ไม่อยู่....”


    โชวงิพึมพำเบาๆแล้วจึงถือกระเป๋าเหล็กสีเงินที่เอามาด้วยขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์


    ของจากคุณคาเซย์


    ขอบคุณนะ พอดีลูกค้าเขาเร่งมาแถมยอมจ่าย 2 เท่าเพื่อให้ได้ของเร็วด้วย ใจป้ำจริงๆ


    พูดจบเจ้าของร้านก็จัดการเปิดกระเป๋าเพื่อเช็คของอย่างละเอียด ภายในกระเป๋านั้นมีเพียงหลอดทดลองแก้วที่ภายในบรรจุของเหลวสีเงินหนึ่งหลอด เขาหยิบหลอดนั้นขึ้นมาดูและยกขึ้นสูงเพื่อให้มันกระทบกับแสงไฟ ของเหลวสีเงินเปลี่ยนเป็นของเหลวสีใสที่มีความใกล้เคียงกับน้ำมาก เมื่อเช็คของเสร็จเขาก็เอามันเก็บเข้ากระเป๋าอย่างเดิม


    แล้วนี่นายจะกลับเลยรึเปล่า ดื่มสักแก้วมั้ย?”


    ก็บอกแล้วไงว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ


    อายุ 18 แล้วดื่มไปก็ไม่เป็นอะไรหรอกน่า นายนี่หัวแข็งในเรื่องแบบนี้เหมือนกันนะ ฮ่าๆ


    พูดจบเจ้าของร้านก็เดินไปหลังร้านสักพักและกลับมาพร้อมกับห่อผ้าที่ห่อกล่องขนาดเรียวยาวกลับมาด้วย เขาวางมันลงบนเคาน์เตอร์และเลื่อนไปตรงหน้าโชวงิ โชวงิที่เลื่อนสายตาขึ้นมองคนอายุมากกว่าสลับกับห่อผ้าด้วยใบหน้างงๆก็เอ่ยขึ้น


    อะไร?”


    ของที่นายตามหาไง


    โชวงิอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาลังเลอยู่สักพักที่จะเปิดกล่องนั้น เจ้าของร้านที่เห็นดังนั้นจึงจัดการเปิดกล่องนั้นเพื่อให้เขาดู ซึ่งของข้างในก็คือดาบญี่ปุ่นที่มีลวดลายมังกรสีเงินที่ฝัก โชวงิค่อยๆจับดาบขึ้นมาดูและดึงดาบออกมาเพื่อดูใบดาบ ลวดลายสีเงินส่องแสงระยิบระยับเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลุกวาวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


    ฉันได้มันมาจากคนๆนึง เห็นบอกว่าถ้ามีคนจ่ายให้อย่างงาม ก็พร้อมที่จะปล่อยทันที นายว่าไง?”


    “.....เท่าไหร่


    “10ล้านเยน


    “10ล้านเยนอะไรมันจะแพงขนาดนั้น


    นายก็รู้นิว่าใครเป็นคนตีดาบเล่มนี้ ของแบบนี้ราคาแพงก็แน่อยู่แล้ว


    โชวงิถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินตัวเลขของดาบในมือตัวเอง ถึงเขาจะค่อนข้างถานะทางบ้านดี แต่ก็ใช่ว่าจะได้ใช้เงินตามใจตัวเองได้ แต่เพราะดาบเล่มนี้คือดาบที่เขาตามหามานาน เขาจึงลังเลมากๆเพราะไม่อยากจะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไป


    มีใครอยากจะได้ดาบเล่มนี้อีกมั้ย?”


    นายเป็นคนแรกที่ฉันให้ดูดาบเล่มนี้ นี่เป็นบริการพิเศษที่นายคอยส่งของให้เลยนะ


    “......”


    โชวงิจับดาบแน่น ในใจรู้สึกดีใจมากที่เขาเป็นคนแรกที่ได้เห็นเพราะจะได้ตัดคู่แข่งออกไป แต่ปัญหาคือราคาต่างหาก


    ขอเวลาสัก....2 เดือน


    “2 เดือนฉันว่ามันนานไปนะ คนขายคงไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่


    งั้นเดือนนึง!”


    เดือนนึง.... โอเค แล้วฉันจะบอกคนขายให้ว่ามีคนขอซื้อ


    เจ้าของร้านยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ ทำเอาโชวงิเกิดหมั่นไส้ท่าทีที่ดูเหนือกว่าของอีกฝ่ายขึ้นมา ช่างเป็นคนที่น่าโมโหจริงๆ


    ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อน


    อืม แล้วมาเที่ยวใหม่นะโชวงิคุง


    ไม่ทันพูดจบโชวงิก็เดินออกจากร้านไปโดยที่ไม่มีท่าทีที่จะฟังเลย ทำเอาเจ้าของร้านต้องส่ายหัวให้กับท่าทีเด็กๆของเขา


    จริงด้วย ต้องโทรไปหาเขาก่อน...”


    เจ้าของร้านเดินไปหยิบโทรศัพท์และกดโทรหาใครบางคน หลังจากต่อสายไม่นานเจ้าของปลายสายก็รับด้วยเสียงเรียบๆ


    (ว่าไงครับโอนเนอร์...)


    ไงยูกิคุง ตอนนี้ว่างจะคุยมั้ย


    (ครับ ว่ามาเลย)


    เรื่องดาบที่ฉันขอให้นายขายน่ะ เขาตกลงจะซื้อแล้วนะ แต่เพราะคนซื้อยังเป็นนักเรียนอยู่เลยว่าจะมาขอเวลาสักเดือนนึงให้เขาได้หาเงิน


    (งั้นเหรอครับ คงเป็นคนที่คุณเอ็นดูมากเลยนะครับถึงได้ใจดีให้เวลาเขาขนาดนั้น)


    ก็นะ พอดีว่าคนรู้จักของฉันเขาฝากฝังมา จะไม่ดูแลก็กลัวจะผิดใจ แต่ถ้านายอยากได้เงินเร็วๆเดี๋ยวฉันจะจ่ายนายก่อน นายว่าไง


    (อืม.....ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้)


    ขอบใจนะ แล้วจะอุดหนุนนายบ่อยๆแล้วกัน ยูกิคุง






     ชั้นใต้ดินของสำนักงานกู้เงินนอกระบบ


    ยูกิวางสายจากโอนเนอร์ของร้านบาร์ R&K ที่เขามักใช้บริการขายของให้กับลูกค้าประจำของทางร้าน ซึ่งก็ได้เงินตอบแทนมามากกว่าขายให้กับตลาดมืดเสียอีก นั่นแหละคือข้อดีของการขายตรงแบบนี้


    ใครโทรมาเหรอฮะคุณยูกิ?”


    ยูกิหันไปมองต้นเสียงที่เพิ่งกลับมาจากการไปสวดอ้อนวอนที่โบสถ์มา เรนยิ้มให้กับยูกิด้วยรอยยิ้มที่สดใส แต่ใบหน้าของยูกินั้นกลับไม่มีแม้แต่รอยยิ้มตอบกลับมาเลย


    โอนเนอร์น่ะ เขาโทรมาบอกว่าฉันขายของได้


    จริงเหรอฮะดีใจด้วยนะฮะ อย่างนี้ก็ได้เงินอีกน่ะสิ


    ใช่ แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี


    คุณยูกิอยากได้อะไรเหรอฮะ ถึงได้ต้องหาเงินขนาดนั้น


    ยูกินิ่งไปกับคำถามของเรนและลังเลอยู่สักพักว่าจะพูดดีมั้ย จนตัดสินใจกวักมือเรียกเรนให้เข้ามาใกล้ เรนที่ไม่รู้อะไรก็เดินเข้ามาอย่างงงๆจนเดินมายืนอยู่ข้างๆโซฟาที่ยูกินอนอยู่ ยูกิค่อยๆลุกขึ้นนั่งและค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ตัวเล็กกว่าพร้อมกับพูดใส่หูเบาๆ


    เรื่องของฉัน...”


    คุณยูกิอ่ะ!!”


    เรนถึงกับหัวเสียขึ้นมาเมื่อถูกยูกิแกล้งเอา ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ถูกทำบ่อยๆ แต่ก็ดูเหมือนเรนจะไม่ค่อยเรียนรู้ที่จะรับมือกับนิสัยที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของยูกิเลย เพราะงั้นยูกิถึงได้คอยแกล้งเรนอยู่ตลอด


    ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..


    นั่นไงพ่อนายมาแล้ว


    ยูกิพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังเดินลงมาข้างล่าง ซึ่งคนๆนั้นก็คงหนีไม่พ้นบอสของพวกเรา 


    จริงด้วยคุณโคคุกลับมาแล้ว!”


    ไม่นานคนที่ถูกพูดถึง โคคุโอะก็เดินเข้ามาข้างในด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย


    ยินดีต้อนรับกลับฮะคุณโคคุ!”


    อืม แล้วยูกิล่ะ


    คุณยูกิก็อยู่ตรง...อ้าวหายไปไหนแล้วล่ะ!”


    เรนวิ่งมาดูที่โซฟาที่ยูกิเพิ่งนั่งเมื่อกี้ แต่ในตอนนี้มันกลับว่างเปล่า โคคุโอะที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มมองไปรอบๆห้องที่ดูไม่มีอะไรผิดปกติเลยจนเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจึงพูดขึ้นนิ่งๆ


    ยูกิ ตอน 3 ทุ่มมาหาฉันที่ห้องทำงานด้วย


    พูดจบโคคุโอะก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เรนมองตามอย่างงงๆ แต่ที่งงกว่านั้นคือจู่ๆยูกิก็โผล่ออกมาจากที่ไหนไม่รู้หลังจากที่โคคุโอะออกไปแล้ว


    ซวยแล้วไง....”





    ====================



    สวีสดีค่ะ! 

    ในที่สุดก็เข้าเนื้อเรื่องสักทีหลังจากทุกคนรอมานาน5555


    ก่อนอื่นขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นให้กำลังใจนะคะ

    บางครั้งในตอนที่รู้สึกไม่อยากแต่งแล้วมานั่งอ่านคอมเม้น

    มันรู้สึกมีกำลังใจจริงๆค่ะ ขอบคุณที่ยังรอติดตามนะคะ


    ส่วนเนื้อเรื่องเนี่ยงจากเป็นตอนแรก

    เลยอยากจะค่อยๆเล่าถึงกลุ่มราชาแต่ละกลุ่มว่าเป็นยังไงค่ะ

    ถึงตัวละครจะยังออกมาไม่หมด แต่จะพยายามให้ทุกตัวได้มีส่วนร่วมค่ะ

    แน่นอนว่าเรื่องนี้มีฉากแอคชั่นค่ะ ถึงไรท์จะไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเขียนได้ดีมั้ย

    แต่ก็จะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ! 


    ฝากติดตาม Ep 2 ด้วยนะคะ

    คิดว่าคงจะลงในอีกไม่กี่วันค่ะ




    ====================



    New!





    โอนเนอร์ของร้าน R&K

    ・พ่วงตำแหน่งเจ้าของร้านและบาเทนเดอร์

    ・อายุ 40

    ・เป็นผู้ไร้สี

    ・รับงานขายและรับซื้อของจากตลาดใต้ดิน

    ・ประวัติยังคงเป็นปริศนา




    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×