ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    n o l i m i t ♡

    ลำดับตอนที่ #32 : datura

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 73
      0
      9 มี.ค. 64


    Application


     


    Credit Pic : click
      

    “ กุหลาบงามย่อมมีหนามแหลม --- ก็คงเป็นเช่นนั้น พวกเรางดงาม แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็แข็งแกร่ง นี่ล่ะ คือหน่วยกุหลาบม่วงแห่งอาณาจักรโดโลพรีย์ ”

     

         ชื่อ-นามสกุล : เอลลีเทีย เนลลิส ดาเลน/ Alethea Nellis Dalen

    เอลลีเทีย ; สัจธรรม / เนลลิส ; ได้ยิน / ดาเลน ; วงล้อ

    { จงยลยินเสีย เสียงการหมุนของวงล้อแห่งสัจธรรมวงนี้ }


         ชื่อเล่น : เอล / El


         ฉายา : ดาทูร่า / Datura


         อายุ : 28 ปี


         เพศ : หญิง


         ส่วนสูง : 169
     

         น้ำหนัก : 56
     

         หน่วย : กุหลาบม่วง (Purple Rose)
     

         ตำแหน่ง : หัวหน้าหน่วย

     
         ลักษณะคำพูด :

         น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยน เยือกเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงด้วยความเด็ดขาด เอลลีเทียจะพูดมีหางเสียงกับคนที่อายุมากกว่าเสมอ นางค่อนข้างควบคุมน้ำเสียงของตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าโมโหขึ้นมาก็อาจมีขึ้นเสียงบ้างเช่นกัน

         เอลลีเทียจะแทนตนเองว่า 'ข้า' กับทุกคน และจะแทนผู้อื่นว่า 'เจ้า' ในกรณีที่อายุไล่เลี่ยกันหรือน้อยกว่า และ 'ท่าน' กับผู้ที่มียศสูงกว่าหรืออายุมากกว่า บางครั้งนางก็จะเรียกผู้ที่อายุน้อยกว่ามาก ๆ ว่า 'แม่หนู/พ่อหนุ่ม'


         Ex.1

         "ที่ท่านเรียกข้ามา มีธุระอันใดหรือเปล่าคะ ท่านดาเลน?"

         สมาชิกในหน่วยเอ่ยถามอย่างนอบน้อม เอลลีเทียวางถ้วยชากุหลาบของตนลงบนจานรอง ก่อนจะคลี่รอยยิ้มละมุนละไมออกมา

         "รุ่งสางแรกของฤดูเหมันต์ช่างงดงามเสียจริงนะ เจ้าคิดว่าอย่างนั้นหรือไม่?"

         หญิงสาวอีกคนมีท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อคำถามแรกของหัวหน้าหน่วยกุหลาบม่วงเป็นเพียงเรื่องชวนคุยสัพเพเหระเท่านั้น

         "ข้าก็...คิดเหมือนอย่างท่านค่ะ ท่านดาเลน"

         "เรียกเอลลีเทียเถอะ ข้ามิถือสาอันใดหรอก" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

         "นั่งก่อนสิ ข้าอยากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภารกิจของหน่วยเราสักหน่อย ใช้เวลาไม่นานนักหรอก"


         Ex.2

         "...เพราะเหตุใดงั้นรึ?"

         
    "ช่างเป็นคำถามที่ฟังดูเห็นแก่ตัวยิ่งนัก เจ้าหนุ่ม"

         ดวงตาสีลาเวนเดอร์ของหญิงสาวมองเด็กหนุ่มคนหนึ่งอย่างรู้สึกสังเวช

         นอกจากจะทิ้งอาวุธคู่กายเมื่อเจอกับอมนุษย์แล้ว ยังคิดจะเสียสละชีวิตของสมาชิกร่วมหน่วยอีก

         "ข --- ข้า..."

         "ทุกชีวิตมีสิทธิ์ที่จะหวาดกลัวทั้งสิ้น อมนุษย์นั้นไล่ล่ามนุษย์เพราะหวาดกลัวความตายจากความหิวโหย มนุษย์เองก็ต่อสู้เพราะหวาดกลัวความตายจากการถูกไล่ล่าเช่นกัน"

         
    "แต่ถึงกระนั้นแล้ว ในฐานะหน่วยปราบมาร อย่างน้อยถ้าเจ้าไม่คิดจะปกป้องผู้อื่น ก็ไม่ควรกระทำการเห็นแก่ตัวเช่นนี้"

         น้ำเสียงของเอลลีเทียจริงจังขึ้น ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนั้นจะรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่นางพูด เขารีบหยิบดาบของตนที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา และพุ่งตรงมาที่หญิงสาว

         "ท่านมิใช่หัวหน้าของข้าเสียด้วยซ้ำ แล้วถือดีเช่นไรมาพูดจาแบบนี้กับข้า! เป็นแค่หญิงสาวนางหนึ่งแท้ ๆ!"

         ดูเหมือนคำพูดนั้นจะทำให้หัวหน้าหน่วยกุหลาบม่วงรู้สึกโมโหขึ้นมา นางกวัดแกว่งอาวุธคู่กาย ปัดดาบของอีกฝ่ายกระเด็น

         "พูดจาโอหังยิ่งนัก!!" นางกล่าวเสียงดัง เด็กหนุ่มมองมาที่นางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

         "การดูถูกผู้อื่นเป็นการกระทำที่มิเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนสามารถแข็งแกร่งและอ่อนแอได้ทั้งสิ้น มิใช่จะมากำหนดผู้นั้นผู้นี้อย่างเอาแต่ใจตน!"

         และเขาก็ได้ตระหนัก ว่าเหตุใดหญิงสาวคนนี้จึงได้เป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยปราบมารที่เลื่องชื่อนี้


         Ex.3

         "เรียบร้อยแล้วค่ะ ท่านเอลลีเทีย"

         สาวใช้พูดขึ้นเมื่อติดเครื่องประดับลงบนเส้นผมสีกุหลาบที่บัดนี้ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยอย่างสวยงามเสร็จเรียบร้อย

         "ขอบใจมากนะ เจนเน็ต" นางกล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันกลับมามองเงาสะท้อนของตนในกระจก

         งานเลี้ยงเต้นรำในคืนนี้ ท่านพ่อบอกให้นางไปร่วม...

         "ท่านเอลลีเทียงดงามมากเลยค่ะ มิว่าชายใดก็ต้องปรารถนาให้ท่านเป็นคู่เต้นรำในคืนนี้อย่างแน่นอน" เจนเน็ตเอ่ยปากชม แต่เอลลีเทียก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น

         เหตุใดทุกคนจึงคิดว่านางปรารถนาสิ่งนี้กันนะ?

         ท่านพ่อเองก็ดี ผู้ที่อยู่ร่วมชายคานี้ก็ดี ผู้ที่อยู่หน่วยกุหลาบม่วงเช่นนางก็ดี

         นางประทินโฉมตนเองเพียงเพราะเป็นความต้องการของตน ปรารถนาที่จะงดงาม แต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะแข็งแกร่ง...

         ไม่ใช่ว่านางไม่ปรารถนาการมีความรัก แต่นางก็ปรารถนาที่จะได้รับความเท่าเทียมด้วยเช่นกัน


         Ex.4

         "เอลลีเทีย เวลาป่านนี้แล้วเจ้ายังมิหยุดฝึกซ้อมอีกรึ?"

         หัวหน้าหน่วยอื่นเอ่ยปากถามเมื่อยังคงเห็นหญิงสาวกวัดแกว่งเรเปียร์ของตนอยู่ที่ลานน้ำพุ ทวงท่าและแววตาจริงจังเด็ดขาดสมเป็นหัวหน้าหน่วย แต่นางก็ควรจะพักเสียบ้างนะ...

         "มิได้หรอก ไม่ว่าจะอยู่หนแห่งใดก็มิมีใครเข้าใจข้าเลย ข้าหงุดหงิดมากนะรู้ไหม"

         เอลลีเทียว่าทั้งที่ยังคงฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้ของตนเองอยู่

         "ข้าน่ะ...อยากจะเป็นเหมือนท่านเอเชอร์ รอสเต้ --- ยอดอัศวินในตำนานผู้นั้น ข้านับถือเขาจากใจจริง แต่รู้ไหม ทุกคนล้วนแล้วแต่หัวเราะเยาะข้า"

         "ข้ายังไม่เคยเห็นเลยสักคนนะ ---"

         "อย่างน้อยก็เมื่อหลายปีก่อนล่ะ"

         นางเลิกฝึกซ้อมแล้ว ย้ายตัวเองมานั่งตรงขอบน้ำพุ คู่สนทนาของเธอก็เช่นกัน

         "ตอนนั้นพวกเขาบอกว่ามันเป็นไปมิได้ เพราะข้าเป็นผู้หญิงน่ะ..."

         ถึงเอลลีเทียจะไม่ได้แสดงสีหน้ามากนัก แต่ตอนนี้นางก็รู้สึกแย่อยู่จริง ๆ


         ลักษณะรูปร่าง :

         เอลลีเทีย ดาเลน หญิงสาววัยยี่สิบแปดปีเจ้าของเรือนร่างสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวกระจ่างราวกับหิมะที่ส่องประกายในฤดูเหมันต์ เส้นผมยาวสลวยนุ่มลื่นสีชมพูกุหลาบดูคล้ายกลีบผกา ดวงตาทรงเสน่ห์สีม่วงลาเวนเดอร์ที่งดงามดั่งไข่มุกใต้ท้องทะเลลึก มือทั้งสองข้างของนางนั้นเรียวงาม แม้ภายนอกจะดูเหมือนนางไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายนัก แต่ถึงกระนั้น เรี่ยวแรงของนางก็มีมากกว่ารูปร่างที่ผู้อื่นเห็นไม่ใช่น้อย อีกทั้งดวงหน้าของเอลลีเทียนั้นก็งดงามอย่างไร้ที่ติ ความงามอันเงียบสงบที่แลดูเยือกเย็นดุจราชินีหิมะ ใบหน้าถูกตบแต่งพองามด้วยเครื่องสำอาง กลิ่นกายหอมฟุ้งจากเครื่องหอมที่นางใช้เป็นประจำ อีกทั้งรอยยิ้มที่มักจะประดับประดาอยู่บนใบหน้าของนาง ทำให้ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้เลย ว่าหญิงสาวผู้นี้นั้นงดงามดั่งคำล่ำลือที่เคยได้ยินมา

         โดยปกติแล้วเอลลิเทียจะแต่งกายด้วยเครื่องแบบของหน่วยปราบมารเมื่ออยู่ในเวลางาน พร้อมกับเกล้าผมไว้บนศีรษะเพื่อความสะดวกสบาย แต่ถ้าเป็นนอกเวลางาน นางจะสวมชุดกระโปรงยาวที่มีสีสันโทนสว่าง ถ้าเป็นฤดูเหมันต์ก็อาจมีผ้าคลุมไหล่ด้วย พร้อมกับเครื่องประดับอย่างต่างหูหรือสร้อยคอ (ซึ่งนางก็มีเก็บไว้หลากหลายแบบเลยทีเดียว) ทรงผมของนางนั้นมักจะเปลี่ยนไปตามความชอบหรือความต้องการของตัวนางเอง หรือถ้าเป็นเวลาออกงานสำคัญ นางมักจะสวมชุดกระโปรงยาวที่ดูหรูหรา และเครื่องประดับที่ทำจากเพชรพลอย


         ประวัติ

         เอลลีเทีย เนลลิส ดาเลน เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของขุนนางชั้นสูงผู้ร่ำรวยคนหนึ่งในอาณาจักรโดโลพรีย์ มารดาของเอลลีเทียเสียชีวิตไปตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก เพราะการที่บิดาของนางต้องทำงานจนแทบไม่มีเวลาให้ ดังนั้นวัยเด็กของเอลลีเทียจึงมักจะใช้เวลาอยู่กับพวกสาวใช้และพี่เลี้ยงในคฤหาสน์มากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน นางก็ได้ร่ำเรียนวิชาการต่าง ๆ จากอาจารย์ที่มาสอนให้ในคฤหาสน์ด้วย

         พอเติบโตเป็นสาวแรกรุ่น เอลลีเทียก็เป็นเด็กสาวที่มีหน้าตางดงาม นางชอบที่จะประทินโฉมตนเอง เลือกเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับต่าง ๆ ตามความต้องการ เหล่าสาวใช้เองก็ดูจะสนุกสนานไปกับการช่วยเหลือนางในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ในวัยนั้นเอลลีเทียต้องศึกษาเรื่องต่าง ๆ มากมาย --- มารยาท การวางตัวในสังคม วาทศิลป์ การศึกษาในระดับที่สูงขึ้น หรือการร่วมงานเลี้ยง การเต้นรำด้วยเช่นกัน นางไม่เคยได้จับดาบ ฝึกต่อสู้ ถูกท่านพ่อห้ามปรามว่าไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่พอได้ยินแบบนั้นบ่อย ๆ นางก็ไม่ชอบใจ...

         ใครกันที่เป็นผู้กำหนด ว่าผู้หญิงไม่ควรจับดาบต่อสู้น่ะ?

         ในวันหนึ่ง นางได้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติของเอเชอร์ รอสเต้ วีรบุรุษที่ช่วยมนุษยชาติจากเหล่าอมนุษย์ นางชื่นชมเขามาก และอยากจะเป็นแบบนั้นให้ได้บ้าง หลังจากนั้น นางเริ่มไปดูและฝึกการต่อสู้จากทหารองครักษ์ที่รู้จักกันจนเริ่มมีพื้นฐานขึ้นมา พออายุได้สิบหกปีก็คิดจะเข้าหน่วยปราบมารเพื่อเดินตามรอยของบุคคลที่นางชื่นชม ในตอนแรก ๆ บิดาของนางไม่เห็นด้วย แต่ถึงกระนั้น เอลลีเทียก็ยังยืนกรานคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

         " ข้าจะทำให้ได้ ท่านพ่อ นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ เข้าเป็นหน่วยปราบมาร ปกป้องมวลมนุษย์จากเหล่าอมนุษย์ทั้งหลายด้วยกำลังและปัญญาที่ข้ามี ข้าจะไม่ท้อหรือถอดใจเป็นอันขาด และสักวัน ข้าให้สัญญา ว่าท่านพ่อจะต้องภูมิใจในตัวข้า "

         ในที่สุด บิดาจึงยินยอมให้นางทำในสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าในตอนแรกจะไม่ใช่เรื่องง่าย นางต้องพบเจอกับสิ่งแย่ ๆ เสียงหัวเราะเยาะ คำดูถูก การโดนล้อเลียนต่าง ๆ นานา วินาทีแห่งความเป็นความตายเมื่อยามได้ออกไปต่อสู้กับเหล่าอมนุษย์ แต่ถึงกระนั้น นางก็ไม่เคยคิดจะล้มเลิกความตั้งใจของตนตามที่เคยกล่าวเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไป เอลลีเทียก็เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นางถูกชื่นชมว่าเป็นผู้มากความสามารถ สังกัดอยู่ในหน่วยกุหลาบม่วง งดงาม แต่ก็แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ใด...

         จนกระทั่ง นางได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยกุหลาบม่วง เมื่ออายุครบยี่สิบสี่ปี
     

         นิสัย

         เอลลีเทีย เนลลิส ดาเลน เปรียบเหมือนหิมะสกาวท่ามกลางแสงอาทิตย์อันอบอุ่น นางสุขุม ใจเย็น ท่าทางดูมั่นคงไม่ครั่นคร้ามต่อสิ่งใด แต่ในขณะเดียวกัน นางเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยน จิตใจดี เป็นทั้งปราการป้องกันและที่พักพิงใจของสมาชิกหน่วยกุหลาบม่วงทุกคน รอยยิ้มที่มักจะประดับอยู่บนใบหน้าของนางนั้นทำให้ทุกคนใจชื้นได้ทุกครั้งไป นางเข้ากับคนอื่นได้อย่างง่ายดายนัก ทั้งมนุษยสัมพันธ์และอัธยาศัยดี แลดูเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ใคร ๆ ก็บอกว่านางเหมือนกับนางฟ้าแห่งเหมันต์ฤดูเชียวล่ะ

         แต่ถึงยังไง เคยมีคนบอกอยู่เหมือนกัน ว่าเอลลีเทียนั้นเปรียบเสมือนมารดาของใครหลาย ๆ คน บางทีถ้าเจอคนทำผิด นางก็มักจะตักเตือนอยู่เสมอ ใส่ใจและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี นางเป็นคนที่ทั้งอ่อนโยนและเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน สามารถให้คำปรึกษา ดูแล และปกป้องคนอื่นได้ และถึงแม้ว่านางมักจะพูดจาอย่างใจเย็นอยู่เสมอก็ตาม แต่ถ้านางโมโหขึ้นมาจริง ๆ ก็ใช่ว่านางจะไม่ขึ้นเสียงนะ บางคนบอกว่าเอลลีเทียเป็นคนที่สังเกตอารมณ์ได้ยาก แต่ที่จริงแล้วนางก็เป็นคนที่ซื่อตรงไม่น้อยเลยล่ะ แค่นางใจเย็นและมีความอดทนสูงต่างหาก นางจึงโกรธยากหน่อยยังไงล่ะ

         'สตรีชั้นสูงที่สง่างามดุจดั่งดอกกุหลาบ' เคยมีคนบอกว่านางเป็นเช่นนั้น ทวงท่าของนางทั้งอ่อนช้อยและองอาจ ทั้งการวางตัว กิริยามารยาท การแต่งกาย การต่อสู้ ทักษะความเป็นผู้นำของนางนั้นไร้ที่ติ ไม่มีผู้ใดปฏิเสธในด้านนี้ได้ เอลลีเทียนั้นเป็นผู้ที่รักในการดูแลตนเอง ชอบในการเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ชอบแต่งกายให้สวยงาม ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุผลอื่นนอกจากซะว่านางชอบที่จะทำหรอก เอลลีเทียเป็นคนที่ไม่สันทัดในการเอาอกเอาใจผู้อื่นสักเท่าไร (ไม่นับในกรณีที่เป็นความเข้าอกเข้าใจหรือให้คำปรึกษา) นางมักจะทำสิ่งต่าง ๆ ตามแบบฉบับของนางเองมากกว่า แต่ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยังคงรักษากฎระเบียบแบบแผนตามกำหนดพอสมควร จงรักภักดีกับหน้าที่การงาน แล้วยังแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

         เอลลีเทียยังเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนมาก บางครั้งถึงขั้นดื้อรั้นไปเลยก็มี นางไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ถ้ายังไม่ลองทำดูก่อนหรอกนะ นางรักความยุติธรรม ความเท่าเทียม ไม่ว่าจะในด้านไหน ๆ และจะไม่พอใจมากถ้าใครทำเหมือนสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ นางไม่เคยดูถูกทั้งความฝันและความพยายามของผู้อื่น อีกทั้งยังให้กำลังใจคนผู้นั้นอีกด้วย นางชื่นชมผู้ที่มีความสามารถ แต่ก็ชื่นชมผู้ที่มีความมุ่งมั่นและพยายามด้วยเช่นกัน
     

         ปราณ : บุปผา / วารี
     

         อาวุธ :

         เรเปียห์ (rapier) ; เป็นกระบี่ใบยาว ผอมบาง ปลายแหลมคม ใช้ต่อสู้โดยการแทงหรือจิ้ม (อาจใช้ฟันได้ในบางองศา แต่ไม่สะดวกเพราะใบดาบบาง) โกร่งดาบจะมีลวดลายที่สลับซับซ้อน (อ่านเพิ่มเติม : click)
     

         จุดอ่อน

         ขีดจำกัดของความสามารถด้านพละกำลัง ; ถึงนางจะมีเรี่ยวแรงที่มากกว่าขนาดตัวของนางก็จริง แต่ก็ใช่ว่านางจะต่อกรกับพวกอมนุษย์ที่ตัวใหญ่มาก ๆ ได้นะ

         ความปลอดภัยของพวกพ้องและมนุษยชาติ ; หากผู้ใดเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ หรือพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย นางจะกระวนกระวายขึ้นมาทันที


         ความสามารถพิเศษ :

         ✾ วาทศิลป์

         ✾ การวางแผนด้านต่าง ๆ

         ✾ ร้องเพลง

         ✾ ความคล่องแคล่วว่องไวสูง

         ✾ การฟันดาบ

         ✾ พูด อ่านและเขียนได้หลากหลายภาษา


         สิ่งที่ชอบ

         เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่สวยงาม ; เอลลีเทียชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับตามความชอบของนาง และถ้าเจอแบบที่ถูกใจก็มักจะซื้อติดมือมาด้วยเสมอเลยล่ะ

         ชากุหลาบ ; นางชอบดื่มชาและสามารถชงชาได้หลายแบบ แต่ที่ชอบที่สุดก็คงเป็นชากุหลาบนี่แหละนะ

         ฤดูหนาว ; เอลลีเทียชอบเพราะฤดูกาลนี้มีอากาศเย็น หิมะขาวโพลนดุจปุยเมฆ น้ำแข็งที่เปล่งประกายยามสะท้อนแดด นางจะดูอารมณ์ดีขึ้นเมื่อฤดูหนาวมาเยือน

         หนังสือ ; นางชอบการเรียนรู้และศึกษาในเรื่องต่าง ๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก หากมีเวลาว่างบางครั้งก็ไปอ่านหนังสืออยู่หอสมุดประจำเมืองด้วย

         การได้รับคำชมหรือการยอมรับ ; มันน่าปลื้มใจออกนะ นางไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก นอกจากยิ้มบาง ๆ เท่านั้น
     

         สิ่งที่ไม่ชอบ :

         การโดนเย้ยหยันหรือดูถูก ; เอลลีเทียไม่ชอบอะไรแบบนั้น ปฏิกิริยาของนางคือการขมวดคิ้วหน่อย ๆ แต่บางทีก็ตอกกลับไปบ้างหากรู้สึกว่ามันเกินไป

         เสียงฟ้าร้อง/ฟ้าผ่า ; จริง ๆ นางก็รู้สึกกลัวนิดหน่อยน่ะ... ถึงจะไม่ได้แสดงท่าทางอะไร แต่ที่จริงนางก็ตกใจเหมือนกันล่ะ

         เวลาที่ตัวเองป่วย ; ก็มันทั้งทรมานและทำสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่สะดวกเลยนี่นา นางจึงได้พยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงตลอดเพื่อที่จะได้ไม่ป่วยไง


         สิ่งที่เกลียด :

         ความอยุติธรรม ; เพราะมันทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมและไม่ถูกต้องไงล่ะ

         คนเห็นแก่ตัว ; ถ้าแค่นิด ๆ หน่อย ๆ นางอาจแค่หงุดหงิด แต่ถ้ามากจนเกินไปนางจะโกรธมาก


         สเปค : คนที่ให้เกียรติและเข้าใจนางและผู้อื่น ไม่ดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร มีความมุ่งมั่นตามแบบฉบับของตนเอง


         เพิ่มเติม :

         ✾ ฉายา ดาทูร่า (Datura) ของเอลลีเทียนั้น มีที่มาจากชื่อของดอกลำโพง เป็นดอกไม้สีขาวที่มีลักษณะเหมือนกังหันลม ทุกส่วนของพืชชนิดนี้มีพิษ และถูกใช้เป็นอาวุธสังหารและใช้ในพิธีกรรมของแม่มด และนอกจากนี้ ดอกไม้ชนิดนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของดวงจันทร์และความนอบน้อมอีกด้วย ซึ่งก็สามารถบ่งบอกถึงตัวตนบางส่วนของเอลลีเทียได้ ว่าถึงนางจะเป็นคนที่งดงาม สุขุมเยือกเย็นหรืออ่อนน้อมถ่อมตน แต่นางก็มีอันตรายที่ผู้อื่นคาดไม่ถึงถ้าหากไม่ประสงค์ดีกับนางเช่นกัน

         ✾ เอลลีเทียสามารถทำอาหารได้บางอย่าง และทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรพวกนี้นักเพราะเหล่าสาวใช้จะจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด และนางก็ยังยุ่งเกินกว่าที่จะได้ทำด้วย


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×