คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ท่านหญิงในห้องขัง
ภายในงานเลี้ยงที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม พลันเงียบลงทันทีที่เจ้าชายประกาศถึงการถอนหมั้น
กลางโถงจัดเลี้ยงอันแสนหรูหรานี้ มีบุรุษหนุ่มรูปงาม สีผมบลอนด์ทองสวยงามประบ่า
เจ้าชาย เอลเลียต พระโอรสองค์โตในองค์จักรพรรดิ์
อีกทั้งข้างหลังพระองค์นั้น มีสาวน้อยผมแดงมัดแกละดูน่ารักอยู่อีกคน
สายตาของทั้งสองกำลังมองไปยัง สตรีชั้นสูงผู้หนึ่งที่กำลังถูกจับกุมโดย คนสนิทของเจ้าชาย
สตรีผู้มีผมสีน้ำตาลดั่งช็อกโกแลตรวบสูง และด้วยสภาวะของนางตอนนี้แล้วนั้น ช่างดูไร้ซึ่งความกังวลใดๆ
นางคือ(ว่าที่อดีต) พระคู่หมั้นของเจ้าชาย
ท่านหญิงเรเชล บุตรีคนโตแห่งดยุคเฟอร์กูสัน
ผู้ที่ยืนสั่นอยู่ข้างหลังเอลเลียตผู้ชี้ดาบใส่เรเชลคือบุตรีบารอนผมแกละผู้นั้น
“เรเชล หากเจ้ายังมีสามัญสำนึกอยู่ เจ้าจงขอโทษมากาเร็ตเสียเดี๋ยวนี้!”
ส่วนบุรุษสองคนที่ยืนขนาบข้างล็อคแขนเรเชลอยู่นั้น
นั่นคือ ไซคส์ อบิเกล หัวหน้าองค์รักษ์หลวงคนปัจจุบัน
และอีกคน จอร์จ เฟอร์กูสัน น้องชายของเรเชลเอง
ทั้งสองคนพลันเอ่ยตำหนินาง
“เจ้าสมควรได้รับผลของการกระทำแล้วนังปีศาจร้าย! ล้วนเป็นเจ้าทั้งนั้นที่คอยปลุกปั่นเหล่าสตรีนางอื่นให้คล้อยตาม!”
“……ท่านยอมจำนนในความผิดนี้เสียเถิดท่านพี่ ท่านจะดึงชื่อเสียงตระกูลของเราให้จมโคลนไปถึงไหน?”
บุรุษเหล่านี้กำลังรวมกันรุมวิจารณ์สตรีนางหนึ่งที่นอกจากปากของนางล้วนไม่มีส่วนใดที่ขยับได้เลย แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพูดไปมากเท่าไหร่ นัยน์ตาของนางกลับลุกโชนไปด้วยไฟที่ไม่ยอมจำนน อีกทั้งยังจ้องกลับไปยังบุรุษผู้เป็นตัวเริ่มเรื่องด้วยสายตาเย็นชา
“หม่อมฉันหาได้ทำอันใดให้ต้องขออภัยแก่สตรีของพระองค์เพคะ”
ผิวขาวเนียนดั่งกระเบื้องสวยงามตัดกับผมสีน้ำตาลเข้ม ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยสีชมพูหวานกับดวงตาคู่งามที่เข้มยิ่งกว่าสีโคบอลท์ ดูลึกลับกัดดันและเฉลียวฉลาด รูปหน้าเองก็งามสมวัย
เสื้อผ้าที่ใส่ล้วนสั่งตัดมาอย่างดีโดยเลือกที่จะขับเน้นรูปร่างของผู้ใส่มากกว่าประดับให้ดูหรูหรา
ตัวเรเชลนั้นมีอายุเท่ากับเอลเลียตหากแต่นางดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าด้วยความสุขุมและความใจเย็นที่แสดงออก นางปกปิดความคิดของนางได้ทั้งหมดแม้กระทั่งตอนที่นางเอ่ยปากปฏิเสธข้อกล่าวหาก็ยังคงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
นางยังคงกิริยาเช่นเดิมทำให้ไฟโทสะในใจเจ้าชายพุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว……ด้วยความคิดและคำปฏิเสธจากนางนั้นพระองค์ยิ่งไม่เชื่อและรำคาญ
ทั้งๆที่ ที่จริงแล้ว นางเองก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรไม่ได้เปลี่ยนไปจากปกติเลยยิ่งทำให้เอลเลียตหงุดหงิดหนักกว่าเดิม
สามหาวอะไรเช่นนี้……!
เรเชลไม่เคยต่อต้านพระองค์มาก่อนและมักจะวางตัวสุขุมอยู่ตลอด นางคือตัวอย่างของสตรีดีที่เพียบพร้อมต่อการออกเรือน และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นางถูกวางตัวให้เป็นพระคู่หมั้นมาตั้งแต่แรก…แต่กระนั้น ถ้าจะถามว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน มันก็อยู่ตรงพระองค์เองนั่นแหละ
ความคิดของพระองค์ยุ่งเหยิงไปหมด…เหตุผลที่พระองค์ไม่เคยชื่นชอบสตรีนางนี้มาตั้งแต่แรกเลย ต้องโทษที่อุปนิสัยความคิดดั่งผู้ใหญ่ของนาง ยิ่งเหล่าผู้ใหญ่รอบกายล้วนเอาอกเอาใจกระทำคล้ายพระองค์เป็นเด็ก ผนวกกับการกระทำของนาง มันช่างดูเหมือนโดนเยาะเย้ยว่าไม่รู้จักโต!
พระองค์คิดว่าการประจันหน้าแล้วรวมหัวกันยืนกดดันนางจะทำให้กิริยาของนางเสียไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มีเพียงเพิ่มความต้องการที่จะลงโทษ(ชะนี)พระคู่หมั้นที่เอาแต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเท่านั้น
“พอกันที เรเชล จะให้เจ้ามานั่งระลึกความผิดพลาดของตนเองเฉยๆก็กระไรอยู่”
เอลเลียตเชิดหน้าขึ้นพลางมองไซคส์ลากตัวนางลงห้องคุมขัง
“เรเชลเอ๋ย ชีวิตนึงช่างยาวนาน จงเสพสุขกับชีวิตในคุกของเจ้าเสียเถิด”
ในขณะที่เอลเลียตนั้นเอ่ย เยาะเย้ย ออกมา
พลัน สีหน้าของเรเชลที่เคยสุขุมได้เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม สีหน้านี้กลับไม่ใช่สีหน้าที่เอลเลียตต้องการเห็น……รอยยิ้มเหยียดนั่น
“รับด้วยเกล้าเพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันมั่นใจว่าหม่อมฉันจะได้เพลิดเพลินและหรรษาไปกับชีวิตที่ระวางและยาวนานนี่เพคะ”
อารมณ์ที่เปลี่ยนไปฉับพลันของนางคล้ายจะทำให้พระองค์นึกอะไรได้บางอย่าง สีหน้าที่ไม่ใช่สีหน้าที่พระองค์เคยเห็นจากบุตรีดยุคนางนี้มาก่อนชวนให้พระองค์พูดอะไรไม่ออก…แต่ก่อนที่พระองค์จะได้ทำความเข้าใจกระประโยคนั้น เรเชลก็ถูกไซคส์ลากออกไปจากโถงนี้เสียแล้ว
ทางด้านของเรเชล
เรเชลปรายตามองพระคู่หมั้นที่เอาแต่พ่นทฤษฎีและตรรกะไร้สาระออกมาด้วยสายตาเย็นชา
นางไม่มีอะไรจะเอ่ย…คนผู้นี้กู่ไม่กลับแล้ว
มีคนเคยบอกไว้ว่า บุรุษนั้นใช้เวลานานกว่าจะยอมถอนตัวออกจากโลกสวยๆในวัยเด็ก……แต่เจ้าโง่นี่กลับไม่ยอมออกมาทั้งๆที่ควรจะออกตั้งแต่ปีที่แล้ว(ทางENGเขาถึงขั้นใช้ idiot กันเลยทีเดียวนะคะ)
มันจะดูไร้สาระไปไหน อย่างเรเชลน่ะรึจะมาตามราวีกับสตรีนางหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะมีความสลักสำคัญอันใดในชีวิต? และมันก็ค่อนข้างจะน่ารำคาญที่จะต้องมาทนมองชายผู้นี้จ้องจับผิด
ดูเถิดว่าการจะเป็นพระคู่หมั้นน่ะยากเพียงใด
แล้วไหนจะเหล่าฝูงชนที่เอาแต่หัวเราะคิกคักโดยที่ไม่รู้อะไรเอาแต่ส่งยิ้มโง่ๆอย่างมีความสุขที่ในที่สุดความยุติธรรมก็ชนะ นี่พวกเขาเกิดมาแล้วไม่พกสมองออกมาด้วยรึอย่างไร?
จริงๆแล้วนางไม่เคยต้องการจะแต่งให้เจ้าชายเอลเลียตหรืออยากเป็นราชินีเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยฐานะและภาระหน้าที่ในฐานะบุตรีดยุคแล้วนางจำต้องทำ
แล้วเหตุใดนางจึงต้องเดินนำไอ้โง่นี่ไปเรื่อยๆดั่งลูกเป็ดเดินตามแม่มันด้วย?
ท่านหญิงเรเชลผู้ยินยอมแต่งกับเจ้า(ชาย)โง่เอลเลียตตามภาระหน้าที่นั้น จริงๆค่อนข้างจะไม่แยแสต่อมุกตลกโง่ๆนี่ ไม่แม้แต่จะสนใจว่าเอลเลียตจะพ่นวาจาอะไรออกมากลับกัน นางกลับต้องการให้พูดต่อไปจนทนไม่ไหวเองมากกว่า
แล้วก็เป็นอย่างที่นางคิด
“เรเชลเอ๋ย ชีวิตนึงช่างยาวนาน จงเสพสุขกับชีวอตในคุกของเจ้าเสียเถิด”
ท่านหญิงผู้นี้เริ่มควบคุมใบหน้าของตนไม่อยู่ นางค่อยๆเผยรอยยิ้มกว้างทาบทับกิริยาเย็นชาที่กำลังทำอยู่ ความรู้สึกที่แท้จริงของนางค่อยๆหลุดออกมา
“รับด้วยเกล้าเพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันมั่นใจว่าหม่อมฉันจะได้เพลิดเพลินและหรรษาไปกับชีวิตที่ระวางและยาวนานนี่เพคะ” นางจะทำมันแน่นอน นี่คนๆนี้ไม่รู้เลยรึไงว่าในอนาคตมันต้องแบกรับอะไรไว้บ้าง?
ดูเผินๆนั้นคล้ายจะเป็นเจ้าชายเองที่รับสั่งอะไรผลีผลามไม่เข้าท่า แต่ในความเป็นจริงนั้นแผนการเหล่านี้หลุดลอยมาถึงเรเชลได้สักพักแล้ว นางรึคิดไว้ว่าอะไรๆที่นางคำนวณวางเอาไว้จะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่…
ดูเหมือนว่านางจะคาดหวังจากชายคนนี้สูงเกินไปหน่อย ถึงจะออกมาอย่างที่คิดเลยก็เถอะ
นั่นหมายความว่าสิ่งที่นางเตรียมไว้นั้นก็ไม่ไร้ประโยชน์อีกต่อไปอีกทั้งเจ้านั่นยังทำให้การหมั้นนี้เป็นโมฆะไปเองเสียนี่ แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้นางหัวเราะออกมาแล้ว
ภายนอกที่ดูใจเย็นขัดกับจิตใจที่คล้ายดั่งถูกไฟฉายแสงจนเร่าร้อน เดินตามไซคส์ที่ลากนางลงคุกใต้ดิน
ตามรับสั่งของเจ้าชาย นางสามารถโยนหลักสูตรการเป็นราชินีอันเป็นวิชาหลักของนางทิ้ง แล้วก็ไปใช้ชีวิตเช่นคนว่างงานได้เลย
ถูกขังอยู่ในคุกใต้ราชวังที่ไม่มีใครเข้ามาหลายปีงั้นหรอ…แค่คิดเรเชลก็ตื่นเต้นกับชีวิตของตนต่อจากนี้แล้ว
พอกันทีกับการวางตัวเป็นราชินีที่แสนทรมาน
พอกันทีสำหรับการจัดตารางพบปะผู้คน
พอกันทีกับการสั่งสอนทฤษฎีที่แสนไร้สาระจากอาจารย์ที่ครอบครัวหามาให้
พอกันทีกับเสียงหนวกหูที่รบกวนการนอน และ เวลามากมายให้อ่านหนังสือ
ในที่สุดนางก็มีช่วงเวลาที่จะได้ทำในสิ่งที่อยาก นางจะนั่งจิบชาสบายๆเมื่อใดก็ได้ อีกทั้งจะไม่มีผู้ได้มาโวยวายนางที่นอนยันเที่ยงวัน เวลาที่นางต้องการในที่สุดก็มาถึงแม้จะเป็นเพียงชีวิตในห้องคุมขังก็ตาม
สติของนางตอนนี้ลงไปอยู่ที่ฝ่าเท้าแล้ว นางอยากจะกระโดดโลดเต้นเหลือเกิน แต่นางต้องอดทนก้าวเดินต่ออย่างสุขุมสู่อนาคตอันเฉิดฉายไปก่อนล่ะนะ…
[TBC JAA]
***************
เมอร์รี่คริสมาสต์เจ้าค่ะทู๊กกกกกกคนนนนนน
จริงๆคือลืมไปแล้วว่าต้องลงตามฉบับชะนีติดเกม
แต่ ก็วันที่ 25 อยู่ ลงตอนนี้ก็ไม่สายเนอะ *หลบ*
เจอกันอีกทีกับตอนใหม่คือปีหน้าวันอาทิตย์เลยโน๊ะ!!
รักทุกคนมากๆน๊า ปีใหม่ขอให้มีความสุขสมปรารถนา
หวังอะไรตั้งใจให้ดีอย่าขอเยอะนะ ขอแล้วเขาไม่ให้ต้องหาเองค่ะ(แง)
เจอกันจ้า
หญิงตรี
ความคิดเห็น