ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลอยปรารถนา

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24
      1
      24 ก.พ. 65

    “เจน! แกเห็นข่าวนี้หรือยัง” เสียงตะโกนดังมาตั้งแต่หน้าประตูร้าน เรียกว่าดังก่อนที่โมบายแขวนหน้าประตูจะดังขึ้นก่อนเสียงอีก

                    พลอยปรารถนาโผล่พรวดเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่มีเธอและเจนิสาทำร่วมกันภายในวิลล่าย่านธุรกิจอย่างหัวเสีย และเสียงของเธอก็ทำเอาเจนิสาตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวจนเกือบทำกล่องเครื่องประดับล็อตใหม่ที่จะเอามาตั้งหน้าร้านนั้นร่วงลงพื้นให้เสียของ

                    “อะไรของแก! วิหารพระตีรมูรติสร้างใหม่ใกล้บ้านหรือไงยะ ถึงได้แหกปากจนเสียงลอดประตูมาก่อนที่จะเปิดอีกเนี่ย” 

                    “อ้าว... ปกติเห็นชอบว่ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง วันนี้ฉันเอาเสียงมาก่อนก็ว่าด้วยเหรอ เอาใจยากจังอะ” พลอยปรารถนาทำปากขมุบขมิบ แต่ก็รีบเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นเพื่อนสาวถอนหายใจแรง

                    “คืองี้ ฉันเพิ่งเห็นข่าวว่าพระตีรมูรติที่ไปไหว้น่ะ ไม่ใช่พระตีรมูรติที่เขาขอเรื่องความรักกันจริงๆ แกรู้ไหม หัวใจฉันจะสลายเมื่อได้รู้อะ หรือนี่ทำให้ฉันอาภัพอับแฟน ไม่มีคนควงแขนมาตลอดเลยหรือเปล่าวะเจน” พลอยปรารถนาทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะทิ้งตัวเองลงโซฟารับรองที่จัดไว้ให้ลูกค้าเข้ามานั่งรอเลือกสินค้า และก็ทำตัวอ่อนปวกเปียกซบพนักโซฟาสะอื้นไห้

                    อย่างหลอกๆ...

                    “สาบานว่าเสียใจจริง อาการปลอมมากค่ะสาว” เจนิสาแอบแขวะ 

                    “เฮ้ย! มันเฟลนะแก เข้าใจฟีลปะว่าคนมันหวังอะ ใครๆ ไปขอพรต่างก็รู้ว่าเด่นเรื่องความรัก แล้วพอรู้ว่าไม่ใช่พระตีรมูรติที่คิดกัน ฉันควรต้องรู้สึกยังไง คือที่ผ่านมาไหว้ผิดที่มาตลอด โอ้ย!” พลอยปรารถนายกสองมือกุมขมับแล้วทำท่าเหมือนจะแดดิ้นตาย ที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด

                    “แล้วคนที่ไปไหว้แต่ดันสมหวังคืออะไรวะ แสดงว่าก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทพแล้วปะเรื่องแบบนี้” เจนิสาให้ความเห็นในอีกแง่หนึ่ง คนที่กำลังกุมขมับซังกะตายถึงกับผุดลุกขึ้นนั่งอย่างต้องการเปิดประเด็น

                    “เออ... นั่นสิ แล้วคนพวกนั้นเขาได้ได้ยังไงกัน แล้วฉันล่ะ ทำไมไม่ได้บ้าง ในเมื่อไม่ใช่พระตีรมูรติ ก็ไม่ควรได้พรเรื่องความรักเหมือนกันมั้ยอะ” ใบหน้าหวานทำหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจัง 

                    “อ๋อ ก็ไม่ยาก ดวงเรื่องคู่แกมันนกไงพลอย” 

                    เจนิสาตัดบทด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คนที่ยังทำหน้าจริงจังถึงกับออกอาการเหวอ

                    “ฉันจะไปฆ่าไอ้เพลง โทษฐานที่มันให้ฉันมาไหว้ที่นี่” พลอยปรารถนากัดฟันกรอด มือเล็กเรียวกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ หมายจะหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความไปว่าน้องสาวสักยกหนึ่ง แต่ก็ถูกเจนิสาเบรกเอาไว้ก่อน

                    “เท่าที่จำได้ แกเป็นคนตั้งใจไปไหว้ก่อนที่ไอ้เพลงมันจะดูดวงเป็นเสียอีกนะ แกน่ะคิดเองเออเองมาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัยแล้ว อย่าไปโทษน้องมันเลย ยอมรับซะเถอะว่าคนมันจะไม่ผัว ทำไงได้” 

                    มือที่กำลังจะกดพิมพ์ว่าน้องสาวหยุดชะงักมายกมะเหงกให้เพื่อนแทน พลางทำหน้าคว่ำ               

                    “นี่เพื่อนไง เข้าข้างหน่อยได้มั้ยอะ ก็ไอ้เพลงมันบอกว่าดวงฉันยังไงก็มีคู่ เพราะฉะนั้นไม่รู้แหละ ขอด่ามันก่อน ยิ่งวันนี้วาเลนไทน์แล้วมารู้ความจริง ฉันจะถามมันว่าทำไมไม่บอกแต่แรก ไอ้น้องบ้า! เสียฤกษ์กันพอดี” 

                    เจนิสาส่ายหน้าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวัน ได้แต่ภาวนาให้สองพี่น้องไม่ตีกันตายไปเสียก่อน

                    “เอาเวลาไปด่ามันมาช่วยกันจัดของเถอะ อีกนิดจะถึงเวลาเปิดร้านแล้ว” 

                    

                    ร้านนี้เป็นไอเดียของพลอยปรารถนา ที่จบเอกการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้า โดยมีเจนิสาที่จบเอกการออกแบบเครื่องประดับที่หญิงสาวไปดึงตัวมาช่วยกันสร้างร้านนี้ขึ้นมา เนื่องจากทราบว่าเจนิสามีปัญหากับทางบ้านเพราะไม่อยากลงไปดูแลธุรกิจเครื่องประดับไข่มุกประจำที่ภาคใต้ ทำให้คนสองคนที่มีปณิธานเดียวกันได้มารวมตัวกันเป็นร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับสำหรับสาวทันสมัยใหม่ไม่ตกยุค โดยที่คุณภาพและราคาจับต้องได้

                    ในปีแรกที่ร่วมกันลงทุน ร้านของสองสาวก็พอมีลูกค้าบ้างประปรายยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่นัก แต่พอน้องสาวของพลอยปรารถนาเริ่มผันตัวมาเป็นแม่หมอทำนายดวงชะตา มาช่วยกันหาไอเดียกันใหม่และปลดปล่อยพลังมูเตลูใส่ร้านกันสุดฤทธิ์ ชีวิตและธุรกิจของทั้งคู่ก็เกิดโด่งดังขึ้นมาจนถึงขั้นบอกได้ว่า พิษเศรษฐกิจก็แทบไม่เกิดผลกระทบอะไรกับพวกเธอเลย

                    พลอยปรารถนาเลยกลายเป็นสาวที่รักการดูดวงสุดใจ และเชื่อสนิทถึงการกระทำใดก็แล้วแต่ที่ต้องพึ่งพาดวงเป็นหลัก จนบางทีเจนิสาก็อ่อนอกอ่อนใจ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าร้านนี้ของทั้งคู่รอดพ้นจากการถูกขับออกจากวิลล่าด้วยเหตุผลว่าไม่มีคนเข้าร้านแล้วแทนที่ด้วยร้านอื่น เจนิสาคงถอนตัวไปนานแล้ว 

                    และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจนิสามักจะเข้าข้างเพลงมนตรามากกว่าพลอยปรารถที่เป็นเพื่อนซี้เสียอีก

                    “แล้วนี่เด็กๆ ไปไหนหมด เห็นเหลือแต่แอดมินสองคนเอง” พลอยปรารถนาที่ยอมเลิกสนใจเรื่องอื่นแล้วหันมาช่วยจัดของ เอ่ยถามกับเพื่อนซี้ด้วยเห็นว่าวันนี้ร้านดูโล่งเพราะไม่มีน้องๆ พนักงานเข้ามาช่วยส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเหมือนวันอื่น

                    “อ้อ! ฉันลืมบอกไป ถ้าวันนี้แกจะลาไปที่ไหน เห็นทีจะไม่ได้นะ เพราะม่อนกับปลาขอลาหยุดไปเดตกับผู้ของพวกนาง” เจนิสาพูดไปพลางจัดของเตรียมหน้าร้านไป

                    แต่คนฟังอย่างพลอยปรารถนากลับชะงักค้างมือที่กำลังจัดของเอาไว้ทันที เพียงแค่ได้ยินคำว่า ‘เดต’

                    ในร้านนี้มีพนักงานแค่สี่คน เป็นแอดมินคอยตอบคำถามและรับออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์สองคน และพนักงานขายพร้อมจัดส่งอีกสองคน นั่นเท่ากับว่าวันนี้ สองคนที่หายไป ต้องแทนที่ด้วยเจ้าของร้านทั้งสองมาทำแทนแบบเต็มตัว

                    “เดี๋ยวนะ ยายสองคนนั้นมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมีด้วยเหรอ ไอ้ขอลาไปเดตกับผู้เนี่ย หืม! มีลูกจ้างที่ไหนใช้เหตุผลนี้ในการลาได้ด้วยเหรอ”

                    “ฉันเป็นคนให้ลาเองนั่นแหละ ช่วงปีใหม่ลากมายันตรุษจีนพวกนางก็ไม่ได้หยุด ลาวันวาเลนไทน์วันเดียวจะเป็นอะไรไป” เจนิสายักไหล่ราวไม่ยี่หระ 

                    พลอยปรารถนาเข่นเขี้ยวอย่างหมั่นไส้ ไม่ใช่หมั่นไส้เพื่อนสาว แต่เป็นลูกน้องทั้งสองคนของตัวเองต่างหาก ที่มีแฟนก่อนเธอ ทั้งที่ทุกคนต่างพูดเสียดิบดีว่าจะรอให้เจ้านายอย่างเธอมีแฟนก่อน แล้วพวกหล่อนจะเดตกันทีหลัง แต่ที่ไหนได้...

    “เชอะ! วาเลนไทน์แล้วยังไง อย่าให้ถึงตาฉันบ้างก็แล้วกัน” 

                    หญิงสาวสะบัดพรืด ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมเปิดร้านต่อไปด้วยความหมั่นไส้ลูกน้องเล็กๆ ทำเอาเจนิสาหยุดขำไม่ได้ที่เห็นหน้าตางอง้ำของเพื่อน 

                    พลอยปรารถนาเป็นคนน่ารัก ไม่ได้สวยจัดจนน่าตกตะลึงหรือไปชิงมงกุฎสาวงามได้ แต่ก็มองแล้วเพลินตาด้วยความตาโตแก้มป่อง ทำให้เป็นสาวหน้าเด็กตลอดกาลที่สุดในกลุ่ม แต่ก็น่าแปลกที่เจ้าตัวไม่เคยได้มีแฟนจริงๆ จังๆ กับใครเลยสักคน ให้คบกันได้นานสุดเดือนเดียวก็เลิก ต่อให้มีคนมาขายขนมจีบ แต่ก็ไม่เคยได้สานต่อสักราย สร้างความงุนงงให้เพื่อนในกลุ่มเป็นอย่างมาก

                    จนเวลามันล่วงเลยมาจนที่อายุเฉลี่ยของทุกคนเริ่มเข้าสามสิบแล้วนี่ล่ะ พลอยปรารถนาถึงได้ตระหนักรู้ว่าตอนนี้เหลือตัวเองเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ยังไม่ได้แต่งงาน

                    ไม่สิ... แม้กระทั่งแฟนยังไม่มีเข้ามาเลยสักคน ขนาดเจนิสายังวางแผนมีลูกต้นปีหน้าแล้วด้วยซ้ำไป

                    “เจน แกว่าฉันส่งให้ไอ้เพลงมันไปเรียนลงนะหน้าทอง สักลายมือเส้นเนื้อคู่ หรือไม่ก็สร้างยันต์เรียกคู่ดีไหมอะ” พลอยปรารถนาถามขึ้นลอยๆ 

                    เจนิสาได้แต่ทำหน้าแหย “ปล่อยน้องมันเป็นหมอดูไพ่แบบนั้นต่อไปเถอะ อย่าหาเรื่องเลย ไม่ควรทำค่ะสาว”

                    “นี่ฉันก็ว่ามูแทบทุกอย่างที่ไอ้เพลงมันบอกแล้วนะ หรือเป็นเพราะว่าตอนขอพร ฉันขอให้คนดีๆ เข้ามาในชีวิตและสานสัมพันธ์กันได้มั่นคงยืนยาว แต่อะไรมันจะบังเอิญไม่มีคนดีๆ ตกลงมาถึงฉันขนาดนี้วะ เทวดาเขาลืมคิวเนื้อคู่ของฉันหรือเปล่าอะ”

                    พลอยปรารถนาบ่นอุบ

                    “ดูสิ นี่ขนาดใส่กำไลข้อมือหินนำโชค เปลี่ยนเบอร์เสริมเสน่ห์ เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์เสริมดวง แต่งตัวสีเสริมดวงทุกวัน ยังแห้งแล้งขนาดนี้ ถ้าดวงดีจะฮอตขนาดไหน เสียแต่ว่าไม่ฮอต สวยล่ะอยากจะบ้าตายรายวัน”       

                    ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะขนาดตัวเจ้าของยังหาทางเสริมดวงขนาดนี้ สินค้าที่ขายในร้านก็ล้วนแล้วแต่อ้างอิงจากดวงชะตาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ออกมาเป็นคอลเลคชั่นสีเสริมดวงตามวันเกิด ตามราศี ไหนจะเครื่องประดับที่นอกจากจะเสริมบุคลิกภาพแล้ว ยังมีการเติมหินมงคล หรือไม่ก็จี้สัญลักษณ์มงคล แฝงความมูเตลู แต่ก็ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะแบบนี้ธุรกิจของเธอจึงไปรอดเพราะคนซื้อด้วยความเชื่อ ความศรัทธา เลยไม่เป็นปัญหาในยามนี้

                    แต่เรื่องเสริมด้านความรักดูจะไม่ถูกโฉลกกันกับพลอยปรารถนาสักเท่าไหร่นี่ล่ะที่เป็นปัญหา

     

     

     


    สาระมีอยู่จริง : พระตีรมูรติที่ไหว้กันตรงเซ็นทรัลเวิลดิ์ ไม่ใช่พระตีรมูรตินะคะ ใครที่อยากไหว้ขอพร เสริมดวงเรื่องความรักกับพระตีรมูรติโดยตรง ไปที่สี่แยกห้วยขวางกันได้เลยจ้า

    และอีกเทพที่แนะนำคือเจ้าแม่ทับทิม ท่านเด่นในเรื่องเสน่ห์ ความรัก การอุปถัมภ์ (จริงๆก็ได้ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน หรือขอลูก แต่ส่วนใหญ่จะเน้นขอให้สมหวังดังปรารถนา) อยากลองไปไหว้ พุ่งตัวไปที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานซังฮี้ได้เลยค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×