คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ปะทะ!!(ตัวผม) จู่โจม!!(ยัยผีบ้า) ทรยศ!!(ไอ้นั่นของผม)!!
ปะทะ!!(ตัวผม) จู่โจม!!(ยัยผีบ้า) ทรยศ!!(ไอ้นั่นของผม)!!
ฉันยังไม่ตาย
เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมกับเงยหน้ามองผ่านหน้าต่างยามค่ำคืนไปภายนอก ที่เวลานี้มันก็ดึกสงัดเต็มทีแล้ว
"เรายังไม่ตายสินะ" ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ อีกครั้ง
ทุกครั้งที่มองผ่านเข้าไปในความมืดมิด ก็จะรู้สึกว่าตัวเองก็ยืนอยู่ตรงจุดนั้นทุกครั้ง และครั้งนี้เท่านั้นที่ฉันมีความรู้สึกไม่เหมือนแต่ก่อน ความรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะก้าวเท้าออกจากความมืดเป็นครั้งแรก ความรู้สึกที่มีในตอนนี้ก็คือความโล่งอก ฉันมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่งในโลกนี้ ร่างกายของฉันยังก็อยู่ ถึงแม้ว่าความทรงจำของฉันจะยังไม่กลับคืนมาก็ตาม
หลังจากที่ร้านกาแฟในวันนั้น เวย์ เพื่อนของมิกซ์เงอะงะอยู่ครู่นึงก่อนจะรีบขอตัวตามมะปรางออกไป ทิ้งให้มิกซ์บ่นพึมพำและก็จ้องมองที่โทรศัพท์ตัวเองและก็เป็นเซฟนั่นเองที่โทร.เข้ามาหามิกซ์ตั้งหลายครั้ง แต่มิกซ์เองก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ก็รับได้ซักทีดูเหมือนว่ามิกซ์จะขึ้นเสียงและก็ดูหงุดหงิดด้วย หลังจากพูดคุยได้สองสามประโยคก็วางสายไป แต่เป็นอันว่าเรื่องของฉันก็จบลงแค่นั้นแต่มิกซ์ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรเอาไว้ค่อยถามทีหลังก็ได้ นั่นก็คือ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ใกล้จะรู้ความจริงแล้วสินะ
ฉันถอนหายใจเบา ๆ ท่ามกลางแสงไฟจากด้านนอก อยากปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปไกล ๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแว่วมาจากด้านล่าง อันเป็นที่ตั้งของประตูหน้าบ้านนั่นเอง
"ขโมย" ฉันขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด เพราะมันจะคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ แต่ก็แปลกที่ตรงว่าจะมีขโมยที่ไหนมันจะลอบเข้ามาทางประตูหน้าบ้าง แต่ก็นะ โจรสมัยนี้มันก็มักจะมีวิธีการแปลก ๆ เสมอ
เมื่อคิดได้แบบนั้นก็เลยหันหน้าควับเพื่อที่จะไปปลุกมิกซ์ให้ระวังตัวซักหน่อย
แต่
"มิกซ์" ฉันร้องเรียกเบา ๆ ไปที่เตียงแต่มิกซ์กลับไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงเรียกของฉัน ไอ้เราก็เลยพลอยขมวดคิ้วมุ่นเป็นสองเท่า พอก้าวเข้าไปใกล้ ๆ ก็ถึงได้รู้ว่า มิกซ์ไม่ได้นอนอยู่ที่เตียงเหมือนอย่างเคย
แถมยังเอาผ้าห่มคลุมหมอนข้างเอาไว้อีกแน่ะ --*--
นี่เขาทำเอาไว้เพื่อหลอกผีอย่างฉันรึไงกันนะ ชิ...ชิ...
--.,-- เฮ้อ เพียงแต่เวลานี้ไม่ควรอารมณ์เสียซักเท่าไหร่ แสดงว่าเสียงแว่ว ๆ เมื่อกี้ก็คงจะเป็นมิกซ์ที่แอบย่องออกไปเพื่อให้ไม่ให้ฉันรู้อย่างงั้นหรอ บอกกันดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องแอบเลย
=_='' เอ่อ หรือถ้าจะคิดอีกทีก็ บอกหรือไม่บอกก็มีค่าเท่ากัน เพราะยังไงฉันเองก็อยากรู้อยากเห็น ตามไปด้วยทุกครั้งไปสิ -_-''
พอคิดไปคิดมาว่าตัวเองควรจะตามไปดีมั้ย ความสับสนทำให้ร่างกายหมุนไปหมุนมา (ทำไมฉันชอบเป็นแบบนี้น้า -___-'') สายตามันก็พลันมองไปยังด้านหนึ่งที่มิกซ์ชอบวางสเก็ตบอร์ดสีน้ำเงินสวย ๆ ของตัวเองเอาไว้
และมันก็หายไปพร้อมกับเจ้าของ
อย่างไม่ต้องสงสัย ฝึกเล่นสเก็ตบอร์ดเหงแซะ เอ ฉันก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย ^^" สงสัยได้เชื้อ มิกซ์นักสืบ มาจากเมื่อวาน ฮิฮิ
แล้วจะตามไปดีมั้ยน้า
ฉันก้มหน้าลงมองพื้น...คิดแล้วมิกซ์คงอยากจะมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง แต่บางทีมันก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันนะ ทีเรื่องของฉันยังอุตส่าห์ช่วยเหลือซะขนาดนี้ แต่พอเวลาเรื่องของตัวเองกลับไม่ยอมให้คนอื่นช่วยเลย
ฉันคิดกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับเดินไปยังที่นอนสำรองที่มิกซ์เป็นคนยกเอามาวางไว้ให้ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่จำเป็นเอาซะเลย -__-'' เอาน่า...ถึงฉันเป็นผีแต่ก็ต้องนอนเหมือนกันนะ แฮ่ม ๆ
แต่จะตามไปดีมั้ยหนอ...หรือว่าจะนอนดีน้า
ลางล้อสเก็ตบอร์ดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไม่มีสะดุดไปตามถนนหนทางที่มีแสงไฟสีขาวจากเสาไฟฟ้าข้างทางยังคงสว่างไสวตลอดระยะทางที่ผมแล่นผ่าน
แม้จะดึกดื่นแต่ก็พอที่จะมีผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยู่บ้าง แน่นอนไม่มีใครที่คิดจะสนใจผมหรอก เพราะหากมีใครที่กลับบ้านในเวลาแบบนี้ก็คงที่จะอยากจะทิ้งตัวลงนอนเต็มแก่
คืนนี้ผมนอนไม่หลับครับ ผมชักรู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องให้คิดมากมายถึงขนาดนอนไม่หลับได้เชียวหรอ ผมเองไม่อยากจะคิดถึงไอ้เซฟมันเท่าไหร่หรอกนะ ไอ้นิสัยที่ชอบเป็นเดือนเป็นร้อนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างกรณีที่ผมไม่ได้รับโทรศัพท์มันจะซักขนาดไหนกันเชียว ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาตะคอกใส่ผมเวลาคุยโทรศัพท์เลย ผมก็เลยตะคอกใส่มันกลับ และมันเป็นไงรู้มั้ยครับ -_- มันก็วางสายหายไปเลย และผมเรอะจะต้องไปง้อมัน ไม่มีทางซะล่ะ ผมเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าสู่ปอดลึก ๆ และพยายามสะลัดเรื่องบ้า ๆ เมื่อตอนเย็นทิ้งไป ในขณะที่สายลมเย็น ๆ พัดผ่านใบหน้า อย่างที่ผมเคยบอกแหละครับมันสบายอย่างบอกไม่ถูก
บางครั้งความรู้สึกของตัวผมเองมันก็ยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด...
มันจะมีก็เพียงแต่ ตอนนี้...ผมอยากจะมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองบ้าง
แต่บางทีมันก็ต้องหันกลับไปมองด้านหลังว่ายัยดาลี่จะแอบตามผมมารึป่าว -_-'' สงสัยโรคแบบนี้คงจะรักษาไม่หาย
คุณอาจจะคิดว่าอ้าว ผมมันพวกกลัวผีจนขึ้นสมองนี่หว่า -_- เปล่านะครับ ความจริงแล้วผมไม่ได้เป็นพวกที่กลัวผีหรือว่าขี้กลัวแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีบ้าง แต่ไม่ได้กลัวประเภทที่กลัวจนตัวสั่นแน่นอน ในกรณีที่ผมแอบออกมาจากบ้านเป็นตัวที่ยืนยันกับผมได้เป็นอย่างดี ว่าผมไม่ได้กลัวผี ^^ (ค่อนข้างภูมิใจ แฮะ ๆ) แต่จะกลัวก็แต่ไดอารี่เท่านั้นแหละ -_-ll หากเป็นคุณ แล้วคุณฝันเห็นผีน่าขยะแขยงคุณก็น่าจะเป็นเหมือนกับผมนั่นแหละเนอะ
เมื่อผมเล่นสเก็ตบอร์ดเพลิน ๆ พอรู้ตัวก็มายืนอยู่ในสถานที่ ที่คุ้นเคยซะแล้วสิ ผมชะลอความเร็วลงจากนั้นก็ลงน้ำหนักที่เท้าขวาเพื่อหยุดและแตะเบา ๆ เพื่อให้อุปกรณ์ล้อเลื่อนของผมมาอยู่ในวงแขนด้านขวา จากนั้นก็ใช้เท้าทั้งสองข้างออกเดินแทน
มันเงียบสงัดดีจริง ๆ ... บรรยากาศในตอนมืดนี่มันผิดแผกไปจากตอนกลางวันหรือจากตอนกลางคืนช่วงสามถึงสี่ทุ่มมาก ๆ เลยครับ ลานกว้างที่ยังคงสว่างแต่ร้างไปด้วยผู้คนแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่า มีผมคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้าของในสถานที่แห่งนี้ ถ้าคิดแบบฝันหวานก็อาจจะเป็นเจ้าของโลกใบนี้เลยนะเนี่ย เฮอ ๆ =_=''
"ไหน ๆ ก็ไหน ๆ" ผมพึมพำ ยืดอก กระตุกยิ้ม พร้อมกับกระชับสเก็ตบอร์ดที่อยู่ในแขนแน่น "มีโอกาสได้ซ้อม ก็ซ้อมมันซะเลย"
"ซ้อมอารายย"
0.0ผมสะดุ้งเฮือกผมหันขวับไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว และเสียงแบบนี้จะเป็นใครเป็นไม่ได้นอกจาก...
"ยัยดาลี่มาทำไม!"
ยัยบ้านั่นที่อยู่ด้านหลังผมในรัศมีสิบเมตร(โชคดีไป) ยกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ "โธ่มิกซ์ นี่มันเวลาอะไรแล้ว เดี๋ยวชาวบ้านเข้าก็แตกตื่นกันหมดหรอก ตะโกนออกมาได้"
=_='' ผมไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นก็ก้าวเท้ายาว ๆ หลายก้าวเพื่อเดินไปด้านหน้า ผมรู้เลยว่าเธอเองก็ตามหลังของผมมาอยู่เหมือนกัน เฮอะ อุตส่าห์คิดว่าหลบยัยนี่ออกมาได้แล้วนะ ผมอดที่จะคิดไม่ได้จริง ๆ ครับ ว่าจะมีช่วงไหนบ้างที่จะทำให้ผมกับเธออยู่แยกกันได้บ้าง เพราะเท่าที่ดูแล้วไม่มีเวลาอย่างนั้นเลย TT_TT ผมจะต้องถูกเงาของผีร้ายตามรังควานแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่ สงสัยผมคงต้องรีบตามหาความจริงเร็ว ๆ ซะแล้ว แต่ผมกลัวว่าความจริงที่ผมกำลังจะตามหา มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา ๆ แต่เป็นเรื่องที่ผมต้องเข้าไปเผชิญกับอันตรายอย่างที่ผมเองไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้ แบบพวกหนังฝรั่งที่ฉายในบ้านเราอ่ะ =_='' คิดแล้วกลัว ฮือ
"คิดอะไรอยู่ล่ะ" ยัยดาลี่ร้องถามผมจากด้านหลัง TT_TT ผมจะบอกได้ไงว่าผมกำลังกลัวอ่ะ ฮือ ฮือ
เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมตอบได้แต่เดิน...เดิน...และก็เดิน... เธอก็เลยเอียงคอและก็ถามต่อ "มิกซ์มานี่ทำไมล่ะ...อ๋อ รู้แล้วมาซ้อมสเก็ตบอร์ดใช่ม้า นี่ ๆ จะเอาไว้สู้กับคนที่ชื่อบีท ๆ อะไรนั่นใช่มั้ย ว่าแล้ว คน ๆ นั้นน่ะ น่ากลัวเนอะ กล้ามงี้เป็นมัด ๆ เลย"
ยัยดาลี่ยังคงพล่ามต่อไป เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมคุยด้วย เธอก็เลยจัดการคุยคนเดียวเหมือนกับว่าผมพูดคุยด้วยซะงั้น ผมหันกลับมาเมื่อมายืนอยู่ตรงกลางลานกว้าง ๆ ยัยดาลี่ยกแขนซ้ายขึ้นมาและแสดงท่าทางที่ไอ้บีทมันเคยทำท่าเยอะเย้ยผม =_=''
"นี่ ๆ มิกซ์ พอถึงวันแข่งนะสู้ตายเลย" ยัยดาลี่หลิ่วตา และชูสองนิ้วสู้ตายให้ผม -_-'' แล้วก็พูดต่อ "อย่าไปแพ้ไอ้คนพรรค์นั้นนะ"
และผมก็ไม่ตอบสนองเธออีกนั่นแหละ ยัยดาลี่ก็เลยทำท่าเหมือนคนโกรธจัด ๆ -_-^ โดยใช้สายตาตั้งคำถามและเท้าสะเอวเป็นเชิงว่า 'ทำไม ถึงไม่ยอมพูดกับฉัน' เอ่อ ก็ผมไม่ได้อยากให้เธอตามมาซักหน่อยนิ T_T และพอทำสายตาแบบนี้ผมก็ยังไม่มีทีท่าอะไรนอกจากสายตานิ่งสนิทเหมือนผีตายซาก(ผมสงสัยว่าตอนนี้ใครคือผีหรือใครคือคนกันแน่?) ยัยบ้านั่นก็เลย ก้าวเท้าพรวดพราด จากที่อยู่ห่างจากผมไปหลาย ๆ วา ก็เข้ามาหาผมมากขึ้นจนผมต้องก้าวท้าวถอยหลังไปหลาย ๆ ก้าว และร้องเสียงหลง
"คร้าบบ เข้าใจแล้ว กรุณาหยุด!!" ผมร้องอย่างรวดเร็วตามจังหวะการเดินของเธอ อีกทั้งยังยกมือห้ามเป็นเชิงรักษาระยะห่างเอาไว้ ก่อนจะกระชากเสียงเข้ม "หยุดและยืนอยู่ตรงนั้นแหละไม่ต้องเดินเข้ามา"
ดูเหมือนว่าที่ยัยดาลี่ทำแบบนี้จะได้ผล เธอก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น แล้วฉีกยิ้มและยักคิ้วให้ผม -_-ll
"ไม่รอดดาลี่ร้อก" เธอส่งเสียงยียวนกลับ -_-^ เฮอะ "แล้วตกลงมาซ้อมใช่มะ"
พอผมจะไม่ตอบเธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาอีก ผมก็เลยต้องรีบพูดก่อนก้าวถอยหลังไปอีกหนึ่งก้าว
"ใช่ ๆ มาซ้อม ๆ"
เพียงเท่านั้นยัยดาลี่ก็เลยทำตาวาว แต่เล่นเอาผมเสียวสันหลังวาบ -_-llll (แล้วตามมาด้วยอาการใจเต้นตึกตัก)
ยัยดาลี่ระริกระรี้บอกให้ผมเล่นให้เธอดูหน่อย พอพูดจบ ยัยผีบ้าก็เลยถอยไปยืนดูห่าง ๆ ซึ่งห่างจากเดิมมาก เพื่อให้ผมเล่นได้สะดวก ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างไม่ค่อยเข้าใจอาการของผีสาวคนนี้เท่าไหร่นัก เธอน่ะมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับเด็กตัวเล็ก ๆ แต่บางทีแล้วกลับดูเจ้าเล่ห์และมีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนพวกหมาป่า แต่ในบางทีนั่นแหละที่ผมคิดว่าเธอเป็นผีที่ดุร้ายและน่าสยดสยอง -_-ll
เมื่อห่างจากจุดที่เธออยู่พอสมควรแล้ว แน่นอนผมก็เล่นตามประสงค์ของยัยดาลี่อย่างไม่ขัดข้องอะไร มีใครเคยคิดบ้างครับว่ากีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีมในที่นี้ผมเน้นแค่อย่างเดียวก็คือสเก็ตบอร์ดที่ผมเล่นอยู่นั้น มันไม่ใช่อะไรที่เล่นได้ง่าย ๆ เลย
ถ้าคุณคิดแบบนี้มันก็ถูกแหละครับ เมื่อครั้งที่ผมเล่นแรก ๆ ผมก็คิดว่ามันเล่นยากชะมัด -_- มันเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมาธิ ถ้าหากผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวเป็นอันว่าเจ็บตัวแน่ครับ แต่มันจะดีก็ตรงที่ท้าทาย เร้าใจและความรู้สึกอยากจะชนะ อยากจะเล่นให้เป็นนี่แหละ ^^" ความจริงแล้วเวลาฝึกซ้อมจำเป็นต้องมีพวกสนับศอก สนับเข่า และก็หมวกกันน็อคด้วยนะครับกันบาดเจ็บ แต่ผมไม่เอาอ่ะ มันเกะกะ ^^"
พอเริ่มเล่นก็เริ่มจากท่าธรรมดาง่าย ๆ จนชักเริ่มมันส์ผมก็เลยเผลอเล่นท่ายาก ๆ เข้าให้ อย่างกระโดด หมุนตัว บิดเกรียว (=_= เหมือนว่ายน้ำเลยแฮะ) แล้วพอยัยดาลี่เห็นผมทำท่าสุดท้ายจบเท่านั้นและก็กระโดดดีใจและตบมือเสียงดังใหญ่โต ^^"
"โอโห มิกซ์สุดยอด เราไม่เคยเห็นใครเล่นได้เก่งมาก ๆ เท่ากับมิกซ์มาก่อนเลยนะเนี่ย สุดยอด เลย เก่ง ๆ"
ยัยดาลี่ชมเปาะ เล่นเอาผมอดที่จะยืดอกตามคำชมไม่ได้ ^0^ แหม ๆ การที่มีใครมาชมแบบนี้มันก็รู้สึกดีไปอีกอย่างนะครับ เพียงแต่ผมก็ทำท่าแค่ยืดอกนิด ๆ หน่อยเป็นเชิงว่า "ฉันก็มีฝีมือพอตัวนะ" ว่าแต่
"แล้วเธอเคยเห็นใครเล่นอีกงั้นหรอ"
ยัยดาลี่นิ่วหน้าทำท่าคิด "ไม่รู้สิ ก็ "
แล้วเสียงเธอก็หายไป เออใช่สิ -_-'' ก็หน้าของยัยนั่นแปะข้อความไว้ตัวเบอร์เริ้มเลยว่า 'มันจำไม่ได้' นั่นไงผมว่าแล้ว งั้นคำพูดของยัยดาลี่ก็ไม่ถึงกับเป็นคำชมน่ะสิ -*- ก็ยัยนี่ไม่เคยเห็นใครเล่นสเก็ตบอร์ดเก่ง ๆ เลย
พอผมคิดได้แบบนั้น ผมก็เลยทำหน้าหงุดหงิดให้เธอเห็น แต่ยัยดาลี่ดูเหมือนกับว่าไม่ใส่ใจอาการน้อยใจที่ผมกำลังทำอยู่ -_-^ เพราะยัยบ้านั่นกำลังจะเข้ามาหาผม!!!
"นี่ ๆ สอนเราเล่นสเก็ตบอร์ดบ้างสิ"
O0O !!! ผมทำท่าตกใจสุดฤทธิ์ ยัยบ้านี่กำลังคิดอะไรอยู่ ผมคิดในใจขณะก้าวขาถอยหลังไปอีกหลาย ๆ ก้าวโดยอัตโนมัติ
"สอนเราหน่อยน้า สอนหน่อยน้า"
"บ้าดิ" ผมตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่ายหน้ายิก และก็ก้าวถอยหลังไปอีก ก่อนจะตกใจอีกครั้งเมื่อผมดันลืมเอาขาเกี่ยวสเก็ตบอร์ดให้ตามผมมาด้วย T-T
"เป็นผีจะมาเล่นสเก็ตบอร์ดได้ไงกันเล่า"
-3- ยัยดาลี่ทำท่าน้อยใจ "รู้ได้ไงว่าเล่นไม่ได้"
ว่าแล้วยัยบ้า ก็ด้อม ๆ มอง ๆ สเก็ตบอร์ดที่อยู่ตรงหน้าผม TT_TT ขอเถอะ จะขออะไรก็ได้ แต่อย่าขอให้เธอเปลี่ยนใจมาสิงสเก็ตบอร์ดคู่ใจของผมเลยเถ้อ -/I\-
"มิกซ์ไหว้อะไรอ่ะ"
"ก็ไหว้เธอนะสิ!" ผมหลุดปากไปโดยไม่ต้องคิด ก่อนจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็ต้องรีบเก็บมือของตัวเองลงทันที =_='' แล้วก็ เปลี่ยนเป็นทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แทน
ยัยดาลี่นิ่วหน้าอย่างสงสัยก่อนจะคลายออก เพราะความสนใจของเธอเปลี่ยนมาอยู่ที่สเก็ตบอร์ดที่พื้น โอม มันจงไหลมาหาผม .โอมมม -_- เอ ผมรู้สึกว่าผมบ้าขึ้นไปทุกที ๆ
ยัยดาลี่เอียงคอและหันหน้าจ้องเป๋งมาที่ผม -_- ดวงตากลมโตของเธอกำลังมีความมุ่งมั่น มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าซะด้วยสิ เฮ้อ
"สอนเราเล่นหน่อย"
ยัยบ้าย้ำอีกครั้ง ผมชักจะหงุดหงิดแล้วนะ เป็นผีที่อยู่คนละมิติจะมาเล่นของที่อยู่บนโลกมนุษย์ได้ยังไงกันเล่า(นี่ผมกำลังชักแม่น้ำทั้งห้าอยู่นะเนี่ย) โอ้ววว
"เธอจะบ้า" ผมทำเสียงอย่างไม่เชื่อหูและพูดประชดออกไป "เป็นผีจะมาเล่นอะไรแบบนี้ได้ไงกัน ถ้าเธอขึ้นไปยืนบนนั้นได้ฉันจะสอนให้เธอเลย"
ยัยดาลี่นิ่งไป คงจะคิดอยู่ว่าตัวเองจะไปยืนอยู่บนนั้นได้ยังไงล่ะมั้ง เฮอะ ให้มันรู้ซะมั้งสิโว้ย ว่าผีก็อยู่ส่วนผี ^^" ว่างั้นมั้ยครับ
แต่ความคิดของผมมันกลับผิดตาลปัตรมหันต์มโหฬารกาละอภิมหาโลกาวินาศ!!! -[]-'' (เวอร์ไปมั้ยเนี่ย)
เพราะยัยดาลี่ดันเอานิ้วชี้ลองจิ้ม ๆ ดู มันกลับทำให้สเก็ตบอร์ดของผมขยับได้!! โอ้ว ผมอยากจะเอานิ้วจิ้มตาตัวเองและไปเกิดใหม่ซักหลาย ๆ ตลบ
ยังไม่เท่านั้น พอนิ้วใช้ได้จากที่นิ่งไปก็เลยเปลี่ยนเป็นยิ้มที่มุมปากก่อนจะลองวางมือเล็ก ๆ ของตัวเองลงที่สเก็ตบอร์ดของผมแล้วก็ลองเลื่อนไปเลื่อนมา TT0TT ม้ายยย ไอ้สเก็ตบอร์ดทรยศ!!! มันกำลังจะเปลี่ยนเป็นของที่ไม่ใช่ของจากโลกนี่ไปแล้ววว
ผมทำใจไม่ได้ และผมไม่เคยโกรธคำพูดประชดของตัวเองเท่ากับวันนี้มาก่อนนั่นก็คือ ถ้าหากยัยผีบ้าที่อยู่ตรงหน้าผมยืนบนสเก็ตบอร์ดคู่ใจของผมได้แล้วผมถึงจะสอนการเล่นให้กับยัยนี่!!!
TT-TT ไม่เอานา ไม่เอาอ่ะ ฮือ
และมันเป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ ยัยดาลี่เอาเท้าข้างหนึ่งของตัวเองลงบนไอ้นั่นของผม(สเก็ตบอร์ด) โดยที่ตอนแรกที่ผมเจอเธอผมยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็นช่วงที่ต่ำกว่าลำตัวของเธอมาก่อนจนถึงตอนนี้ ยัยผีบ้าส่งยิ้มหวานชวนขนหัวลุกให้ผม และก็พูดด้วยเสียงหวานเลี่ยนจนผมคลื่นไส้(หน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ) "มิกซ์สัญญาแล้วนา"
ง่ะ .-[]-''' ผมช็อคค้างไปหลายวินาที และปาดเหงื่อ และหัวใจที่กำลังเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
ช่วยตอบทีเถอะ ผมควรจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผีมั้ยครับ? TT-TT
คิดไปคิดมาผมได้คำตอบกับตัวเองว่าสมควรเป็นอย่างยิ่ง ผิดสัญญากับอะไรน่ะผิดได้แต่อย่าผิดสัญญากับผีจะดีกว่า คติประจำใจของผมที่เพิ่งจะคิดได้สด ๆ เมื่อสามสิบวินาทีที่แล้ว(นี่ผมคิดนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย TToTT)
เอาวะก็ได้ สอนก็สอน!
"งะ งั้น" ทำไมเสียงผมมันสั่น ๆ อ่ะ "เอางี้นะ เอ่อ เธออยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันจะสอนเธอจากตรงนี้โอเค"
ยัยดาลี่ก็พยักหน้ารับโดยว่าง่ายอย่างไม่ขัดข้องอะไร ออกจะรู้สึกตื่นเต้นซะด้วยซ้ำ --*--
"ก่อนอื่นก็วางเท้าที่ไม่ถนัดไว้ด้านหน้า เออ..เท้าซ้ายใช่มะ ส่วนเท้าที่ถนัดเอาไว้ด้านหลังเพื่อบังคับทิศทาง เข้าใจ เฮ้ย! ตอนแรกเริ่มจากขาข้างเดียวก่อนดิเดี๋ยวมันจะล้ม เข้าใจมะ สมองมีเอาไว้ทำอะไร"
ผมก็สอนไม่เป็นอ่ะนะ ก็อย่างว่า เวลาผมเรียนผมก็เรียนเองนี่หน่าไม่มีใครมาสอน --*-- พอได้ทีจะสอนใครซักคนก็ดันเป็นผี และมีหรือที่ผมจะเกรงใจ ผมก็ใส่ไม่ยั้งอ่ะดิถามได้ ยัยดาลี่ก็เลยทำหน้ามุ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร เธอทำตามที่ผมบอกอย่างว่าง่ายโดยการเอาขาซ้ายขึ้นก่อน พอผมร้องบอกว่าอย่าเพิ่งเอาขาขึ้นทั้งสองข้างก็ชักขากลับแบบเก้ ๆ กัง ๆ หึหึหึ ผมหัวเราะในใจอย่างชั่วร้าย -_-+ รู้สึกสะใจพิลึกผมจะสอนจนให้ยัยนี่ขยาดสเก็ตบอร์ดไปอีกนานเลยทีเดียว
แต่ผมก็ดันลืมไปอีกว่า เป็นผีมันล้มไม่ได้แล้วก็เจ็บไม่ได้นี่หว่า TT^TT เอ๊ะ แต่ไม่แน่นา เพราะว่าสเก็ตบอร์ดของผมยังเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว ไม่แน่ว่าพื้นลานกว้างแถวนี้อาจจะอยากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้วยก็ได้ อ๊ะ []-'' นี่ผมกำลังคิดอะไรของผ้มม!!
"แล้วก็ใช้ขาขวาที่อยู่ที่พื้นน่ะดันให้มันเลื่อนไปด้านหน้า โอเค ๆ" ผมส่งเสียงบอกเมื่อยัยดาลี่เริ่มเล่นและก็เล่นได้ท่าทางไม่เลวซะด้วย =_= ดีใจดีมั้ยเนี่ย เมื่อเริ่มชินเธอก็ยกขาขวาขึ้นไป แต่ก็ทรงตัวไม่อยู่และก็ล้มลงมา อย่างว่าแหละครับ ใครมันจะเล่นได้เลยตั้งแต่เริ่มเล่นกันล่ะ
แต่ดูท่ายัยดาลี่จะไม่ยอมแพ้ก็เริ่มเล่นต่อไป ผมก็ได้หมุนตัวบ้างเดินตามบ้าง และก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรต่อ จนแล้วจนรอดดูเหมือนว่ายัยดาลี่ไม่รู้จะทำยังไงให้อยู่บนสเก็ตบอร์ทรยศของผมให้ได้นาน ๆ
"โห่ มิกซ์สอนต่อดิ" ยัยบ้าดาลี่ส่งเสียงถามเบา ๆ และเริ่มตั้งสเก็ตบอร์ดใหม่ "ทำยังไงให้มันยืนอยู่ได้นาน ๆ ล่ะ"
ผมหัวเราะในลำคอ "ของแบบนี้มันอยู่ที่การฝึกนู่น ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน สร้างความลำบากให้เคยชิน แล้วมันก็จะไม่มีคำว่าลำบากเข้าใจมั้ย
ยัยดาลี่บ่นว่าไม่ได้พูดว่าลำบากซักหน่อย แต่ผมรู้ดีว่าเธอพูดคำนี้อยู่ในใจ ผู้หญิงก็งี้แหละ เออ ผมจะบอกว่า เคยมีผู้หญิงคนนึงเหมือนกันนะครับที่เข้ามาเล่นในสนามแต่มันก็นานมาแล้วล่ะ ผมมองจากที่ไกล ๆ หน่วยก้านดีใช้ได้เลย ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยคุยด้วยก็เถอะ แต่ผ่านไปซักพักผมก็ไม่เห็นเธออีก อย่างว่าแหละครับ กีฬาประเภทนี้มันอันตรายถ้าหากว่าเล่นผาดโผนมาก ๆ ส่วนผมน่ะถลอกปอกเปิกมาเยอะ เคยแขนหักมาครั้งนึงทำเอาแม่ด่าจนหูชา =_='' ใครเจอมาก ๆ เข้าทนไม่ไหวก็เลิกเล่นไปเอง ^^"
ยัยดาลี่เม้มปาก "พอหมดแรงส่งแล้วมันก็หยุดอ่ะ ทำยังไงให้มันไปได้เรื่อย ๆ เหมือนกับมิกซ์เล่นอ่ะ"
ผมแกล้งถอนหายใจ นั่นมันคือกลยุทธ์ขั้นสูง ฮ่า ๆ ๆ ผมล้อเล่นน่ะครับ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก "ก็ ช่วงแรกใช้ขวาในการส่งใช่มั้ยล่ะ แล้วต่อไปยกเท้าขวาขึ้นไปวางไว้ด้านหลังที่วางเท้าน่ะ และก็ลองหาวิธีการเองดูดิของแบบนี้มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง"
"ขนาดนั้นเลยหรอ"
ยัยดาลี่นิ่วหน้าให้กับคำอธิบายของผม ก็สมควรที่จะงงอยู่หรอกนะ -_- แต่ผมก็ยังยืนยันว่าควรจะเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีกว่า มันเหมือนกับการหัดขับรถจักรยานนั่นแหละ ผมคิดว่างั้นนะ มันเป็นสิ่งที่ใครก็สอนให้ไม่ได้
"มันต้องใช้เวลา งั้นจะสอนเคล็ดให้นิดนึง เท้าขวาให้ขยับติดสเก็ตบอร์ดในลักษณะตรงกันข้ามกับการวิ่ง ขยับไป-มานะ"
เอาสิครับ คราวนี้ยัยดาลี่ตีสีหน้างงยิ่งกว่าเดิมอีก ^^"
"ขยับตรงข้าม ยังไงอ่ะ"
ผมไม่ตอบได้แต่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ เอ...ผมจะบอกว่าผมอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นตอนผมนอนนั่นแหละ แต่ยัยดาลี่น่ะ อยู่ในชุดที่ผมเรียกว่าน่าจะเป็นชุดสีขาวสะอาด ซึ่งมันน่าจะมาจากโรงพยาบาลอะไรซักแห่ง =_= (นี่ผมเพิ่งจะมาอธิบายได้ไงเนี่ย)
เมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบาย ยัยดาลี่ก็เลยลองโดยการเล่นแบบที่ผมสอน ลองเองนั่นแหละคือวิธีที่ถูก แต่จะผิดก็คือ ทำไมความเร็วมันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมล่ะฟะ
หงุดหงิดผมรึไง ^^"
ยัยบ้านั่นเร่งเครื่องเป็นบ้าเป็นหลัง มันทำได้แต่เพียงช่วยให้มันไปไกลขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น ผมยิ้ม ๆ ในท่าทางของเธอที่ใช้ขาขวาถีบ ๆ ที่พื้น และก็ยกขาขวาขึ้นและก็ถีบ ๆ อีกเนื่องจากแรงส่งที่ค่อยลดลงแล้วแทนที่ด้วยความเฉื่อย คุณคงนึกภาพคนเพิ่งหัดเล่นออกใช่มั้ยละครับ มันดูตลก ๆ อิอิอิอิ .
ดาลี่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อย่างแน่วแน่ว่าลูกถีบครั้งต่อไปของเธอจะทำให้เครื่องติด (ประมาณนั้นเลย =_=) ว่าแล้วเจ้าตัวก็หันหน้ามาหาผมด้วยสายตาแน่วแน่ แต่ผมก็เลิกคิ้วสูงอย่างวัดฝีมือของเธอว่า 'มันจะทำได้เร้อ' เท่านั้นยัยดาลี่ก็พ่นลมออกจมูกแรง ๆ และก็เริ่มเล่นอีกครั้ง
โอ้ว คราวนี้ดูเหมือนว่าเธอจะจับทางถูกอย่างที่ผมบอกได้แล้วแฮะ ผมยังไม่เคยเห็นใครที่เล่นของแบบนี้ได้เร็วขนาดนี้มาก่อน คุณรู้มั้ยครับ ขนาดไอ้เซฟเองมันยังเล่นไม่ได้ มันก็เลยเปลี่ยนไปเล่นอินไลน์สเก็ตเลยครับ ^^ ขนาดนั้นเชียวนา
แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนมันก็เกิดขึ้น !!!!!!!!!!!
ยัยผีบ้านั่นดันเล่นแล้วเกิดหยุดไม่ได้!! []-'' ยัยบ้า แล้วไงรู้มั้ยครับ เจ้าตัวก็ได้แต่ยืนล่อกแล่กอยู่บนสเก็ตบอร์ดที่แล่นไปด้วยความเร็วสูงด้วยความที่ไม่กล้ากระโดดลงมาเพราะกลัวหน้าจะขมำไปครูดกับพื้นปูนสาก ๆ มือก็กางออกไว้ทรงตัวอย่างกับคนเล่นเป็นยังไงยังงั้น
ส่วนปากก็
"มิกซ์!!! มันหยุดยังไงอ่ะ หยุดอ่ะหยุด!!"
ผมตะโกนตอบเธอไปอย่างเร่งรีบ "ใช้เท้าขวาดิ กดมันลงไป เอ้ย!"
ผมรีบเกินไปจนบอกผิดนั่นมันทำให้กระดานมันยกขึ้นต่างหากเล่า []-'' ดีที่ยัยดาลี่ไม่ยอมทำตามเพราะว่าทำไม่ได้นั่นแหละ "ไม่ใช่ ๆ นะ ยืนเฉย ๆ ดิ ยืนเฉย ๆ เดี๋ยวมันก็หยุดเอง"
ยัยดาลี่ส่ายหน้ายิก "ไม่เอาอ่ะไม่เอา เดี๋ยวเราล้ม"
"เธอจะล้มลงกับพื้นว่าง ๆ หรือว่าจะพุ่งตัวไปชนกับต้นไม้ดีล่ะห๊า เลือกเอาดิ!!!"
"ไม่เอาทั้งสองอย่าง!!"
--*-- บ๊ะ... ผมรู้สึกว่าเสียงของผมจะตะโกนไปไม่ถึงเจ้าตัวซะแล้วแฮะ ก็คุณเธอเล่นไปไกลซะเหลือเกิน ผมก็เลยวิ่งตามไป และร้องบอกไปด้วย "เอางี้ดิวิธีเก็บสเก็ตไง เท้าซ้ายกดลงให้ท้ายกระดานมันกระโดด แล้วเธอก็วิ่งลงไป เดี๋ยวฉันจะรับสเก็ตบอร์ดของฉันเอง"
ดูเหมือนยัยดาลี่จะเงียบไปเหมือนพยายามจะทำตามที่ผมบอก แต่มันแปลกกว่านั้นสิครับ คุณเธอทำอีท่าไหนไม่รู้ทำให้สเก็ตบอร์ดทรยศของผม มันทรยศผมยกกำลังสอง []- !!!
ตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้าอยู่กับยัยดาลี่และก็สเก็ตบอร์ด เพราะมันดันหมุนควงสว่านร้อยแปดสิบองศาและก็กำลังวิ่งเข้าหาตัวผมด้วยความเร็วสูง!!!!!!!
จากที่ผมเคยวิ่งตาม ผมต้องหยุดและหมุนตัว เพราะดันเป็นตัวผมเองที่ต้องวิ่งหนี!!!!
ผมวิ่งหน้าตั้งกับสองขาที่โกยอ้าวสายลมเย็นแล่นปะทะใบหน้า "ยัยบ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ"
"มันหยุดไ ม่ได้อ่ะมิกซ์ ทำไง ๆ ๆ ๆ"
ยัยผีบ้า สร้างปัญหาแค่สมองเสื่อมอย่างเดียวไม่พอยังจะสร้างปัญหาอื่นให้ผมได้อีกหรอเนี่ย ผมไม่มีเวลาที่จะได้คิดเรื่องหยุมหยิมแบบนี้หรอกนะ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนมีรถสิบล้อวิ่งไล่เพื่อที่จะบดขยี้ผมให้กลายเป็นศพทับตากแห้ง TToTT
หรือนี่คือแผนการที่แท้จริงของยัยผีบ้าที่จะเอาผมไปด้วย .โอ้ว...วิธีการเอาวิญญาณไปจะเอาไปดี ๆ ไม่เป็นหรือไงฟะ ผมอยากไปแบบคนธรรมดา ๆ TTOTT
"อ๊ากส์!!"
และสวรรค์ก็ไม่เคยเข้าข้างผมซักนิด เพราะเท้าเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับก้อนหินก้อนใหญ่เป้ง จนผมคิดว่ามันมาตั้งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง! เล่นเอาผมสะดุดหน้าคะมำราวกับจับกบได้สิบตัว ระหว่างที่ผมกำลังร้องโอดโอยเพราะแรงปะทะกับพื้นคอนกรีต รถบรรทุกด้านหลังก็ไม่มีแม้แต่จะลดความเร็วลงเลย
นี่ผมจะกลายเป็นศพทับตากแห้งจริง ๆ ใช่ม้ายยยย
ไม่อาวววว!!!
ผมพลิกตัวและคลานถอยหลังโดยหงายตัวขึ้นเพื่อมองไปด้านหน้า(ฟ้าสวยชะมัด) ด้วยสภาพที่ทุลักทุเลเต็มที ระหว่างที่ผมกำลังหลับตาปี๋ยอมรับสภาพเป็นกบตากแห้ง(กบดีกว่า ศพมันไม่สวย T-T) วินาทีที่ผมอ้าปากค้าง ก็ยกมือที่ถลอกจนเลือดซิบขึ้นมาบดบังใบหน้าของตัวเอง (เอาวะบังได้แค่หน้าก็ยังดี)
ผมกำลังนอนหงายเพื่อรอให้รถทับ...
แต่มันก็แปลกที่มันไม่มีเหตุการณ์ถูกทับอย่างที่ผมคิด...
นี่สวรรค์กำลังเข้าข้างผม ยัยดาลี่หยุดรถบรรทุกได้แล้วใช่มั้ย? /^o^/
"อูยย..."
ผมได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหู เล่นทำเอาผมตัวแข็ง เสียงนั้นจะเป็นเสียงของใครอื่นเป็นไม่ได้ นอกจากเสียงของผีที่อยู่กับผม
แล้วเสียงนั้นมาอยู่ที่ข้างหูผมได้ไงกัน...ระหว่างที่คิดอยู่นั้น ผมก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทีละช้า ๆ และสายตาของดาลี่ก็อยู่ห่างกับผมแค่สองนิ้ว
สองนิ้วจริง ๆ ครับ ความรู้สึกของผมในตอนนี้ ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า มันแข็งและไม่มีความรู้สึกไปแล้ว ยัยดาลี่กำลังรู้สึกว่าตัวเองปวดแขนโดยไม่สนใจผมที่ถูกเธอนอนทับอยู่
แต่มันก็ไม่เชิงทับอะนะครับ เพราะว่าเธอใช้แขนทั้งสองข้างยันเอาไว้ให้ห่างจากตัวผมนิดหน่อย แล้วความเจ็บปวดของผีที่ผมไม่เข้าใจนั่นค่อย ๆ ทุเลาลง จากนั้นเจ้าตัวก็เลยเบนสายตามาทางผมที่อยู่ห่างกันแค่นิดเดียว
และเราก็อยู่ในท่านี้นานหลายวินาทีเนื่องจากต่างคนต่างอึ้งด้วยกันทั้งคู่
ยัยดาลี่เองก็จ้องตาใสแป๋วมาทางผม ก่อนจะฉีกยิ้ม นั่นทำให้จิตใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวใจเต้นเร็วอย่างหยุดเอาไว้ไม่ได้
"มิกซ์เจ็บมั้ย"
ยัยผีบ้ากระซิบเสียงหวาน ผมควรจะบอกให้เธอลุกออกไปจากตัวของผมเดี๋ยวนี้ ... แต่ผมกำลังอึ้งและพูดไม่ออก ร่างกายหรือปากจะขยับยังไม่กล้าเล้ย ทำไมอ่ะ ทำไม ฮือ... T-T
เมื่อเห็นผมไม่ตอบยัยดาลี่ก็ได้แต่จ้องเขม็งกลับมาด้วยความสงสัย ในระยะที่ผมกับเธอห่างกันแค่นิ้วหรือแค่สองนิ้ว ผมอยากจะบรรยายหน้าของเธอในตอนใกล้ ๆ แบบนี้เสียเหลือเกิน ใบหน้าเกลี้ยง ทำไมถึงมีเม็ดเหงื่อเล็ก ๆ ผุดขึ้นได้ก็ไม่รู้ ส่วนคิ้วสวย ๆ ของเธอก็ขมวดกันอย่างน่ารัก ให้ตายสิ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผี...ละก็นะ TT^TT ผมคงจะรู้สึกอะไรด้วยไปแล้ว
ดูเหมือนว่ายัยดาลี่จะรู้สึกตัวแล้วว่า เราอยู่ในท่านี้นานเกินไป ก็เลยพยายามลุกขึ้นพรวดพราด และก็ดูเหมือนว่าแขนมันจะหมดแรงก็เลย...
ก็เลย...
ปากของเธอเกือบจะชนกับปากของผมแน่ะ โอ้ว ผมเกือบจะถูกผีสาวจู่โจม!! TT_TT ดีที่มันแค่หวืดนะครับเนี่ย ยัยดาลี่ก็เลยหน้าแดงแปร๊ดอย่างที่ผมไม่เคยเห็น(ส่วนผมน่ะเหรอ ถ้ายัยนี่เห็นก็คงรู้ว่าผมก็หน้าแดงไม่แพ้เธอเช่นกัน) ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อนเหมือนเมื่อกี้
แล้วคุณรู้อะไรมั้ยครับ ว่าผมไม่รู้สึกว่าเธอล้มมาทับผมเลยซักนิดเดียว ผมเห็นก็แค่ร่างและก็อาการของคนตรงหน้าของผมแค่นั้น
แค่นั้นจริง ๆ...
เมื่อเธอลุกไปได้แล้ว ผมก็ลุกตาม อาการแข็งหายไปในทันที และยัยดาลี่ก็ยืนห่างกับผมประมาณสามถึงสี่ก้าว โดยที่เจ้าตัวหันหลังให้ผม ไม่รู้สินะครับ แสงไฟนีออนในตอนกลางคืน แม้จะสว่าง แต่ผมก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าตอนนี้เธอทำหน้าแบบไหน
เมื่อเวลาผ่านไปพอที่ผมจะได้สติ โดยไม่ได้พูดหรือว่าบ่นอะไรต่อ ซึ่งอาจจะผิดวิสัยคนขี้บ่นอย่างผมซักนิด(ถ้าอารมณ์ไม่เสียนะครับ) ผมก็เดินไปเก็บสเก็ตบอร์ดของผม ถึงผมจะบอกว่ามันทรยศ แต่มันก็ถือว่าเป็นเพื่อนคนนึงที่ผมมากอยู่ดี มันอยู่ห่างออกไปนิดหน่อย
จากนั้นหันหลังเดินไป ในตอนนั้นผมคิดว่า
ถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านแล้ว
"ระ เราขอโทษ มันเป็นอุบัติเหตุ อ่ะ"
ยัยดาลี่หมุนตัวและเดินตามผมมา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผมที่ค่อย ๆ ห่างออกไปผมไม่ตอบ ได้แต่เดินไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความมืดมิด และเริ่มเงียบมากขึ้นทุกจังหวะการก้าวเท้าซึ่งเสียงก็มีแค่เสียงฝีเท้าของผมเพียงคนเดียว ผมรู้สึกว่าผมลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปเสียสนิท
ใช่ครับ มันเป็นอุบัติเหตุ...แต่มันเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงมากที่สุดในชีวิตของผม!!!!!!
ผมไม่สนใจคนที่เดินตามผมมาด้านหลัง ผมกำลังยกมือเอามากุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้
ผมไม่รู้วิธีที่จะทำให้หัวใจของผมเต้นช้าลง มันเต้นเร็วเอามาก ๆ ผมไม่เข้าใจเลยว่าอาการแบบนี้ของผมมันเรียกว่าอะไรกันแน่?
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น