ตอนที่ 20 : บทที่ 19
“ฝ่าบาทหมายจะแต่งตั้งข้าให้เป็นรัชทายาท”
“ข้าไม่เข้าใจ...”
แม้เหออี้ผิงจะเฉลียวฉลาดในด้านการศึกษาหาความรู้ แต่เรื่องการเมืองในวังหลวงลึกล้ำซับซ้อนกว่าที่บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งจะเข้าใจได้ การแย่งชิงอำนาจเป็นเรื่องของคนที่อยู่เหนือกว่าผู้คนทั่วไป ในเมื่ออ๋องเฉิงเป็นสายเลือดอันชอบธรรมของจักรพรรดิที่โดดเด่น แม้จะมีองค์ชายอื่น ๆ ก็ไม่น่าผู้ใดเหมาะสมเท่า เหตุใดยังคิดจะชิงบัลลังก์ที่ดูอย่างไรก็ต้องตกเป็นของตัวเองด้วย
หลิวไป๋หลงห่างไกลจากวังหลวงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับศึกสายเลือดนี้มานานแล้ว เหตุใดจักรพรรดิยังคิดจะให้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แทน
“เรื่องพวกนี้เจ้าไม่ต้องเอามาใส่ใจ ข้าเป็นโครงกระดูกไร้ชีวิตผู้หนึ่งคงไม่สามารถทำตามที่ฝ่าบาทต้องการได้” หลิวไป๋หลงบอกไม่ให้คิดมาก แต่สิ่งที่พูดออกไปหาใช่ความจริงทั้งหมด เพราะไม่ได้เอ่ยถึงผู้ที่บงการออกคำสั่งอย่างบิดาให้รู้ แม้ทุกครั้งตนมักจะไม่เห็นด้วยหากครานี้กลับทำเมินเฉย
“คุณหนูน่าสงสารนัก” เหออี้ผิงคิดดูก็ได้แต่รู้สึกผิดที่ไม่อาจปลอบโยนนางได้เหมือนเช่นทุกที
“นางร้ายกับเจ้าขนาดนี้ เจ้ายังมีใจเป็นห่วงนาง” หลิวไป๋หลงเอ็นดูและขุ่นข้องความใสซื่อของภรรยานัก ต่อให้เหอรั่วซีหยิบยื่นยาพิษให้ดื่มก็คงยิ้มรับมาด้วยยินดี แต่ไม่ใช่กับไป๋หลงหากนางร้ายกับเหออี้ผิงแม้แต่เสี้ยวเดียวตนจะเอาคืนให้สาสมเป็นเท่าตัว
แต่หลิวไป๋หลงไม่รู้ ความพยาบาทของสตรีร้ายกาจนัก
“อย่างไรนางก็เป็นคุณหนูของข้า ไม่ให้ข้าห่วงนางได้อย่างไร” เหออี้ผิงไม่อาจตัดความสัมพันธ์นายบ่าวได้ แต่ก็ไม่ลืมว่าตนอยู่ในฐานะอะไรในตอนนี้เช่นกัน หลิวไป๋หลงเคาะนิ้วตีใส่สันจมูกของตนหนึ่งครั้งก่อนจะยิ้มกว้างให้ อี้ผิงก็ได้แต่หลับตาลงเงยหน้าขึ้นรอจุมพิตที่ไม่ช้าก็จะแนบลงมา
สถานการณ์ในเมืองหลวงตอนนี้ระส่ำระสายยิ่ง เมื่ออ๋องเฉิงที่ผู้คนเชื่อว่าจะได้ครอบครองตำแหน่งองค์รัชทายาทกลับมาตายจากไปกะทันหันเช่นนี้ คฤหาสน์บ้านสกุลเหอแม้ยังไม่ได้เกี่ยวดองกลับตกอยู่ในความโศกเศร้า ด้วยเหอรั่วซีที่หมายมั่นจะได้เป็นพระชายาเอกของรัชทายาทท้อแท้สิ้นหวังเจ็บปวดและแค้นเคืองทุกสิ่งบนโลก
เหตุใดบุรุษที่นางรักต้องมาลงเอยด้วยความโชคร้ายเช่นนี้
เหอรั่วซีหลังจากกลับมาจากสกุลหลิวไม่นาน ก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนร้องไห้ ก่อนบิดาจะบุกเข้ามาแล้วเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ
“ซีซี เจ้ากลับมาจากสกุลหลิวแล้ว ได้เรื่องอย่างไร... หลิวไป๋หลงที่เจ้าเห็นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่” เหอซือหงไม่ได้สนใจเรื่องการตายของอ๋องเฉิงมากนัก เพราะรู้ตัวแล้วว่าตนเดินหมากผิดพลาด ไม่ควรตามใจบุตรสาวให้รักมั่นอยู่กับอ๋องเฉิงที่ไม่ได้อยู่ในสายพระเนตรขององค์จักรพรรดิ ทั้งยังเลือกให้บ่าวรับใช้ชายไปแต่งงานกับว่าที่รัชทายาทเสียได้
“ท่านพ่อ ท่านห่วงเพียงเรื่องนี้หรือ แล้วข้าเล่า... ข้าต้องสูญเสียคนรักไปท่านไม่สนใจความรู้สึกข้าเลยหรือ” เหอรั่วซีลุกขึ้นอาละวาดใส่บิดาที่ดูจะห่วงอำนาจมากกว่าความรู้สึกของลูกสาวคนเดียวเช่นตน
“พ่อต้องสนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้เหตุการณ์ในเมืองหลวงวุ่นวาย หากเราเดินพลาดเพียงก้าวทั้งสกุลเหอก็อาจจบสิ้น ทุกสิ่งที่พ่อทำมาตลอดไม่นับว่าเป็นการเสียเปล่าหรือ”
“เสียเปล่า... ท่านพ่อไม่เสียเปล่าแน่ ในเมื่อลูกบุญธรรมของท่านกำลังจะได้ดี มีบุญวาสนาได้เป็นพระชายาเอกขององค์รัชทายาทแล้ว” เหอรั่วซีประชดประชัน หากต้องการให้สกุลเหอยิ่งใหญ่เพียบพร้อมด้วยอำนาจ การที่บุตรบุญธรรมปลอม ๆ ผู้หนึ่งกำลังจะได้รับตำแหน่งสูงส่งเหนือผู้อื่นในแผ่นดิน สกุลเหอจะยังมีสิ่งใดให้ต้องกังวล
“แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้ จะเรียกว่าเป็นคนสกุลเหอได้อย่างไร” เหอซือหงคิดว่ารับบ่าวมาเป็นบุตรบุญธรรมก็เพื่อส่งให้ไปตายแทนบุตรสาว ใครจะคิดว่าชีวิตจะพลิกผันสามีที่ว่าตายไปแล้วกลับกำลังจะได้ขึ้นเป็นเจ้าของตำหนักตงกง และจะได้ครอบครองแผ่นดินนี้
ความยิ่งใหญ่ อำนาจวาสนาที่เหอซือหงทะเยอทะยานใฝ่ฝันมาทั้งชีวิต ไม่สิ้นหวังแม้จะมีทายาทเป็นสตรี ลงทุนทุกอย่างมาก็เพื่อมาพบว่าต้องหมดสิ้นเพราะเดินหมากผิดเพียงแค่ก้าวเดียว สนับสนุนอ๋องเฉิงเชื่อข่าวลือเรื่องการตายของหลิวไป๋หลงจนไม่ยอมส่งเหอรั่วซีไปแต่งเข้าสกุลหลิวตามการหมั้นหมาย
“ข้าไม่ต้องการพูดถึงบ่าวทรยศชั่วผู้นั้น”
“ตอบพ่อมาก่อน ว่าเจ้าเห็นหลิวไป๋หลงจริง ๆ ใช่หรือไม่” เหอซือหงยังเซ้าซี้ถามไม่ยอมเลิกรา จนบุตรสาวที่ฟุบหน้าอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมาตะโกนใส่เสียงดังด้วยความโกรธแค้น
“ชายชั่วแกล้งตายผู้นั้นยังอยู่ดีมีสุข ในขณะที่คนรักของข้าตายอย่างทุกข์ทรมาน ท่านได้สิ่งที่ต้องการแล้วใช่หรือไม่ท่านพ่อ ปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียวสักที” เหอรั่วซีตะโกนบอกบิดาอย่างปวดร้าว เหตุใดสวรรค์ถึงได้ใจร้ายกับนางถึงเพียงนี้
“แน่นอน ที่หลิวไป๋หลงยังอยู่ย่อมเป็นสิ่งที่เราต้องการ ในเมื่อเจ้าเองก็นับว่าเคยหมั้นหมายกับทายาทสกุลหลิวมาก่อน หากจะรื้อฟื้นสัญญาขึ้นมาเพื่อสืบสายเลือดสกุลหลิวเอาไว้ ย่อมต้องดีกว่าได้สะใภ้เป็นบุรุษแน่...” เหอซือหงจะเริ่มกระดานอำนาจใหม่อีกครั้ง ครานี้การตัดสินใจจะต้องไม่ผิดพลาดซ้ำสอง
เหอรั่วซีอยากหวีดร้องเช่นสตรีวิปลาสในตำหนักเย็นเมื่อได้ยินสิ่งที่บิดาเอ่ยออกมา แต่ชั่วครู่กลับคิดถึงการแก้แค้นที่หมายมั่นเอาไว้ นางจึงลุกขึ้นปาดน้ำตาเชิดหน้าขึ้นแล้วบอกกับบิดาอย่างชัดเจนว่า
“เช่นนั้น ทำไมท่านพ่อไม่รีบส่งข่าวไปที่สกุลหลิว ให้รีบจัดการเรื่องแต่งงานของข้าเล่า”
เหอซือหงจัดการรวดเร็วรีบส่งคนที่ไว้ใจได้มาขอเข้าพบหลิวเย่และฮูหยินหลิวเพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างหลิวไป๋หลงและเหอรั่วซี ทั้งยังหอบของกำนัลมีค่ามากมายมามอบให้ด้วย พร้อมทั้งชักแม่น้ำทั้งห้าเรื่องการสืบสายเลือดทายาทของสองตระกูล หากไร้ซึ่งการตอบสนองจึงเดาว่าไม่น่าเป็นผลสำเร็จ คิดไม่ถึงว่าหลิวเย่จะตอบรับง่ายดาย อีกสามราตรีให้แม่สื่อนำเกี้ยวเจ้าสาวแต่งเข้าคฤหาสน์หลิว
หากนับตามความเป็นจริงแล้วเหอรั่วซีแต่งเข้ามาทีหลังย่อมต้องอยู่ในฐานะฮูหยินรองของหลิวไป๋หลง แต่ทว่านางยืนกรานจะต้องมีฐานะเหนือกว่า หลิวเย่ยอมรับคำขอนั้นโดยไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้บุตรชายที่เอาแต่อยู่ในเรือนกับเหออี้ผิงตลอดเวลาให้ทราบจนกระทั่งเมื่อเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าจวน
ทั่วทั้งคฤหาสน์ตกแต่งด้วยผ้าแพรแดง เหออี้ผิงบังเอิญออกมาเดินเล่นลำพังจึงเห็นว่าสกุลหลิวกำลังจัดเตรียมพิธีแต่งงานแต่ไม่ทราบว่าเป็นงานของผู้ใด พ่อบ้านชราเดินมาบริเวณที่ตนกำลังยืนมองอยู่ด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยเรียก
“ฮูหยินน้อย...”
----------
ติดตามเนื้อหาที่เหลือ รวมถึงตอนพิเศษได้ในฉบับรวมเล่มนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ใช่น้องมันเข้าใจผิด ซดยาพิษคืนวันงานนะ!