ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่รักดารา

    ลำดับตอนที่ #3 : ป๊อก-ตั๊ก สุขที่มีกันและกัน

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 49


    “ความรัก” เป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ไม่สามารถคาดหวังได้ เพียงแต่ว่าเราจะทำยังไงให้รักครั้งนี้สดใสเสมอ อย่างความรักของ “ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก” กับหนุ่ม “ตั๊ก-นภัสกร มิตรเอม” แม้ว่าจะไม่หวือหวาเท่าคู่อื่น แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขกับความรักเรียบๆ ไหนๆ ก็ร่วมปลูกต้นรักกันมากว่า 3 ปี คอลัมน์ “เปิดประตูใจ” เราจึงขอเกี่ยวก้อยทั้งคู่มาเป็นแขกรับเชิญ

    ความรู้สึกครั้งแรกที่เจอกันเป็นยังไง ปิ๊งกันเลยหรือเปล่า?
    ตั๊ก : ป๊อกจะบุกเร็วครับ แต่นิสัยผมเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ถ้าพูดคือพูดในงาน ถ้าไม่ใช่เรื่องงานก็จะไม่ค่อยได้คุยกับใครมาก ถ้าใครจะคุยต้องเข้ามาคุยเอง แต่ผมคุยนะไม่ได้ปิดกั้นตัวเองอะไรมากมาย อย่างเจอป๊อกครั้งแรกก็ปกตินะ ยังไม่ได้คิดอะไร
    ป๊อก : ส่วนตัวป๊อก ถ้าป๊อกรู้สึกว่าอยากจะรู้จักใคร ป๊อกจะถามเรื่องราว รายละเอียดของคนคนนั้น แต่เหมือนเป็นการพูดคุยกันมากกว่า ส่วนกับพี่ตั๊กก็คุยกันไปคุยกันมาจนมาถึงทุกวันนี้ แรกๆ ก็แอบส่งเมสเสจ คือป๊อกไม่กล้าโทรฯไปหาเขา ( หัวเราะ )

    จริงๆ ตั๊กดูจากภายนอกแล้วค่อนข้างที่จะเป็นหนุ่มเซอร์ แรก ๆ ป๊อกรับได้แค่ไหน?
    ป๊อก : ป๊อกชอบค่ะ รู้สึกว่าสบายดี ที่เจอคนมาจีบส่วนใหญ่จะเป็นประเภททานข้าวหรู จึงมีความรู้สึกว่าการที่เราต้องไปเจอกันแต่ละครั้ง ฉันแต่งตัวดูดีแล้วหรือยัง มันลำบากนะ มันเหนื่อย ป๊อกเองไม่สามารถที่จะเป็นอย่างนั้นได้ตลอดเวลา เพราะป๊อกรู้สึกว่าเราไม่ใช่ เจอกับพี่ตั๊กครั้งแรก เห็นพี่ตั๊กเอาผ้าขนหนูมาโพกหัว เดินเอาอาหารออกมาจากข้างในร้าน ยังมองว่าน่ารักดี เหมือนคนขายบะหมี่เกี๊ยว หลังจากนั้นเราก็รู้แล้วว่าพี่ตั๊กเขาเป็นคนแบบนี้ ที่ชอบเขา เพราะว่ามีอยู่วันหนึ่ง คุณพ่อเราเขาไปซ่อมหลังคาบ้าน พอลงมาโอ้...พ่อก็โพกผ้าขนหนู นึกขึ้นได้พี่ตั๊กเหมือนพ่อป๊อกนี่เอง

    เมื่อคนสองคนมาจากคนละที่ เลี้ยงกันมาคนละแบบ พอมาคบ กันมันต้องปรับตัวกันยังไงบ้าง?
    ตั๊ก : ของผมคงจะเป็นเรื่องการสื่อสารระหว่างกัน อย่างเมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไปไหนมาไหนไม่ค่อยได้โทรฯบอกใคร อย่างคุณแม่ผมบางทีผมยังไม่โทรฯบอกเลย หายไป 3-4 วันจนแม่ต้องโทรฯ ตาม ลูกยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับคนที่ห่วงเรา แต่พอคบกับป๊อกก็เปลี่ยนไป อีกอย่างหนึ่งผมถือว่าผมเป็นผู้ชาย และโตกว่า ผมสามารถให้คำปรึกษา ทำให้เขาสบายใจในบางอย่างซึ่งช่วยให้เขาเองมีความสุข ส่วนเรื่องการพูดจาผมจะพยายามที่จะถนอมน้ำใจ โดยไม่พูดอะไรที่มันรุนแรง ผมใช้เหตุผลเป็นส่วนใหญ่
    ป๊อก : เรื่องเอาแต่ใจป๊อกน้อยลง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อย่างเวลาที่พี่ตั๊กมีเหตุผลมา ป๊อกจะเข้าใจว่าเป็นอย่างนี้ พี่ตั๊กสอนให้ป๊อกใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ แต่เรื่องนิสัยพี่ตั๊กไม่เคยให้ป๊อกต้องปรับ เรื่องกุ๊กกิ๊กก็ตามสบาย ป๊อกมีความรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะมีเขา พอมีพี่ตั๊กก็กลายเป็นการเพิ่มความรู้สึกดีขึ้นมากกว่าที่ทำให้เรารู้สึกมีภาระ เหนื่อยอกเหนื่อยใจ หรือมีแฟนมาอยู่ข้างๆ แล้วฉันเหมือนเอียงไปข้างหนึ่ง แต่ป๊อกรู้สึกสบายจังเลย

    คนเราคบกันเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นสิ่งสำคัญ เราเห็นด้วยหรือเปล่า?
    ตั๊ก : ผมถือว่าสำคัญนะครับ ไม่ว่าเราจะไปทำอะไรก็แฮปปี้มากกว่าคนที่เรียกว่ามีชนักติดหลัง หรือวัวสันหลังหวะ เวลาจะเดินไปไหนคงจะต้องระแวง ระวังตัว แต่ทุกวันนี้ผมเดินไปไหนมาไหน ไปกับใครก็ได้ ไม่ต้องรู้สึกว่าห่วงหน้าพะวงหลัง อย่างที่บอกผมเป็นคนตรงๆ บอกทุกแง่มุม ไม่ซับซ้อน
    ป๊อก : อย่างช่วงนี้พวกปาปารัซซี่ บางคนจะบอกว่าต้องระวังตัวมากขึ้น ซึ่งโอเคเราต้องระวังตัวอยู่แล้วในระดับหนึ่ง แต่ป๊อกกับพี่ตั๊กไม่กลัวขนาดที่ว่าเดินจับมือ ถ้าพ่อแม่ป๊อกรับทราบ พ่อแม่พี่ตั๊กรับทราบ ท่านแฮปปี้ ป๊อกถือว่าท่านเป็นคนที่สุดยอด คนอื่นไม่มีความสำคัญที่จะทำให้ป๊อกรู้สึกกลัวเกรง แต่ถ้าพ่อแม่ยังไม่รับทราบนี่สิกลัว

    มุมมองความรักของเราเปลี่ยนแปลงไปมั้ย?
    ตั๊ก : เราอายุมากขึ้น ( หัวเราะ ) ที่ผ่านมาต้องคิดด้วยว่า ปัจจุบันเราแฮปปี้ดีอยู่แล้ว แต่ในอนาคตเราอยากที่จะมีจุดหมายร่วมกัน ที่น่าจะไปด้วยกัน แต่นั่นคืออนาคต ปัจจุบันเรามีอะไรต้องทำก่อน นี่คือสิ่งที่เราคุยกันบ่อยๆ ว่าวันข้างหน้าเราจะไปทำอะไรกัน อยู่กันแบบไหน อีก 3-4 ปีหน้าตาผมจะเป็นยังไง คุณจะเห็นผมแก่ลงไปอีกนะ แน่นอนว่ามุมมองความรักของเราก็ต้องโตขึ้นด้วยตามกาลเวลา ไม่ใช่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ความรักครั้งนี้ค่อนข้างที่จริงจัง และอยากที่จะให้มันยืดยาว
    ป๊อก : เราเข้าใจกันมากขึ้น เราไม่ใช่คนแปลกหน้าเหมือนแต่ก่อน ป๊อกเคยถามพี่ตั๊กว่า อีกหน่อยถ้าป๊อกมีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างไปจากนี้ จะรักอยู่ไหม พี่ตั๊กบอกว่ายังรักอยู่ แล้วถ้าป๊อกแปลงเพศเป็นผู้ชาย พี่ตั๊กจะรักอยู่มั้ย ( หัวเราะ ) พี่ตั๊กก็อึ้งๆ ไป วันนั้นป๊อกเลยได้คำตอบว่าพี่ตั๊กไม่รักป๊อกจริง ( หัวเราะ )

    หลายคนมองว่าทั้งคู่หน้าตาเหมือนกัน น่าจะเป็นเนื้อคู่กันตั๊กว่ายังไงบ้าง?
    ตั๊ก : อาจจะคล้ายกันนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมป๊อกและคุณแม่ไปทำบุญกันที่วัด นั่งๆ อยู่ก็มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเดินมาแล้วบอกว่าครอบครัวนี้น่ารักจัง ลูกหน้าตาเหมือนกันมาก ส่วนเรื่องที่บอกว่าหน้าเหมือนกันแล้วต้องเป็นเนื้อคู่กันนั้น ผมเฉยๆ นะ ผมว่าพ่อแม่ผมก็หน้าไม่ได้เหมือนกัน แต่ท่านก็อยู่กันมาถึงทุกวันนี้

    คบกันมากว่า 3 ปีแล้วเมื่อไหร่จะแต่งงาน?
    ตั๊ก : ส่วนใหญ่จะคุยกันแหย่ๆ มากกว่า คุยกันแบบสนุก คงจะไม่แต่งเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าแต่งเมื่อไหร่ก็คงจะบอกกันให้รับรู้
    ป๊อก : ป๊อกเป็นผู้หญิง ถามผู้ชายดีกว่า

    มองอนาคตร่วมกันยังไง?
    ตั๊ก : สักวันหนึ่งเราคงอยู่ด้วยกันแหละ ครับ แต่อนาคตก็ยังเป็นเพียงความคิดของวันนี้ ซึ่งเราอย่าเพิ่งไปคาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าถามว่าอยากจะให้เกิดขึ้นมั้ย อยากให้เกิดขึ้นครับ
    ป๊อก : แต่อย่างหนึ่งที่เราคิดเหมือนกัน เราอยากอยู่เงียบๆ ไม่ชอบความอึกทึก วุ่นวาย อย่างหนึ่งที่ป๊อกชอบในตัวพี่ตั๊กก็คือ สมถะ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เราไม่ได้แอนตี้ใคร แต่เราบอกก่อนว่าเราชอบของเราแบบนี้ อนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงต้องว่ากันอีกทีหนึ่ง

    สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย



    ภาพจาก : นิตยสาร In Magazine

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×