ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่รักดารา

    ลำดับตอนที่ #1 : เต็บ-ไทนี่ ห้องเรียนสื่อรัก

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 49


      ก่อนที่ เต๊บ-กีรติ ศิริสุทธิพัฒนา กับ ไทนี่ โนแอล กลิ่นเนียม จะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เขาและเธอสังกัดอยู่ในโมเดลลิ่งของบริษัทแกรมมี่ ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในห้องเรียนแอ็กติงสำหรับคนที่จะก้าวไปเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ปัจจุบันทั้งเต๊บและไทนี่ก้าวเข้าสู่แวดวงบันเทิงอย่างที่ใจต้องการ ไทนี่ สาวสวยวัย 22 ปี กลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่จากละครเรื่อง รักแปดพันเก้า ส่วนเต๊บ หนุ่มวัย 25 ปี เข้ามาเป็นครีเอทีฟและพิธีกรรายการ โอไอซี แม้คอร์สเรียนแอ็กติงจะปิดฉากไปนานแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไป ความรู้สึกดีๆ ที่ต่างมีให้กันในฐานะเพื่อนกลับกลายเป็นคนรู้ใจในฐานะคนรัก

    หนุ่มแรง...ที่น่ารัก
    เต๊บ : ผมเคยเห็นไทนี่จากมิวสิควิดีโอ คิดว่าต้องเป็นลูกครึ่งเนปาลหรือมีเชื้อแขก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไทนี่เป็นน้องของพี่กี้ ( นิโคล เทริโอ ปานพุ่ม ) พอมาเจอตัวจริงก็รู้สึกว่าน่ารักดี
    ไทนี่ : วันแรกที่เรียนแอ็กติง เต๊บไปถึงเป็นคนท้ายๆ ซึ่งพี่ๆ จะเขียนรายชื่อไว้ว่ามีใครบ้าง ซึ่งเต๊บเขียนไม่ชัด ไม้ตรีเหมือนสระอิ อ่านว่า เติบ ไทนี่ยังคิดว่าคนนี้ชื่อแปลกดี พอมาเจอถึงรู้ว่าชื่อเต๊บ เขามาแบบมั่นมาก ผมทรงสกินเฮด ตรงกลางทำเป็นโมฮอก ใส่เสื้อมหาวิทยาลัย ใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ แต่งตัวแรงมาก แต่ก็รู้สึกว่าเขาหน้าตาดี

    ใครปิ๊งใคร
    เต๊บ : ในห้องเรียนจะมีช่วงหนึ่งที่ให้ไว้ใจเพื่อน โดยให้ผู้ชายผู้หญิงต่อแถวสลับกัน แล้วนอนกลิ้งทับกันไปเรื่อยๆ ตัวผมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษก็ไม่ค่อยกล้า คิดว่าผู้ชายไม่ควรทำแบบนี้ แต่ไทนี่บอกว่าไม่เป็นไร นั่นแหละครับที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน
    ไทนี่ : มีวันหนึ่งครูให้เอกซ์เซอร์ไซส์โดยกระโดดข้ามตัวเพื่อน แต่ไทนี่ใส่กางเกงยีนส์คับไปนิด กระโดดข้ามไม่พ้น ทำให้กลิ้งล้มลงพื้นหน้าไถ จำได้ว่าเต๊บเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาช่วย แต่ตอนนั้นไทนี่เบลอๆ อยู่
    เต๊บ : น่ากลัวมากครับ คิดว่าถ้าแขนไม่หัก หน้าต้องถลอกแน่
    ไทนี่ : จากนนั้นเริ่มสนิทกัน แต่หลังจากเรียนแอ็กติงจบก็ไม่ได้เจอกันเลย 3-4 เดือน ต้นปีเต๊บมาทำงานเป็นพิธีกรรายการโอไอซี ส่วนไทนี่ก็มาคุยเรื่องละครที่ตึกแกรมมี่ คิดว่าไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยไปหา พอเต๊บทำงานเสร็จก็ไปกินข้าวกัน
    เต๊บ : ผมว่าเราพัฒนามาจากความเป็นเพื่อน ถ้าให้บอกว่าปิ๊งกันตอนไหนคงไม่มี
    ไทนี่ : ความประทับใจของไทนี่คงเป็นตอนที่เจอกันสมัยเรียนแอ็กติง เต๊บเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว พอสนิทกันมากขึ้น มีวันหนึ่งเต๊บไปแคสติ้งเอ็มวีตัวหนึ่ง แต่ตอนนั้นนางเอกยังไม่มา ไทนี่บอกว่าเดี๋ยวเล่นแทนให้ ทีนี้มันเป็นบทซึ้งๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าเต๊บหล่อ น่ารัก ( หัวเราะ ) เลยโทรไปคุยกับเพื่อนว่าเต๊บน่ารักมาก หลังจากนั้นก็รู้สึกชอบ

    ปลื้มที่เธอใส่ใจ
    เต๊บ : ตอนที่เริ่มสนิทกัน เหมือนเราได้เรียนรู้กันมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าไทนี่เป็นห่วงผมมาก
    ไทนี่ : วันที่เจอกันครั้งแรก เต๊บไม่สบายมาก
    เต๊บ : ไทนี่ก็จัดยาให้ คอยโทรถามตลอดว่ากินยาหรือยัง กินข้าวหรือยัง คือผมเป็นคนง่ายๆ บางทีก็มีดื้อบ้าง เล่นกีตาร์นอนตีหนึ่งตีสอง ช่วงแรกก็ไม่เข้าใจ แต่ไทนี่บอกว่ามีความสุขที่ได้ดูแลผม เวลาผมไปทำงานต่างจังหวัด ผมแทบไม่ต้องทำอะไร ไทนี่จะเตรียมให้ทุกอย่าง ผมประทับใจตรงนี้
    ไทนี่ : การเทกแคร์ของเราจะไม่เหมือนกัน อย่างไทนี่จะเตรียมโน่นเตรียมนี่ให้ แต่เต๊บจะคอยดูแล เวลาไทนี่ไปถ่ายละครดึกๆ ดื่นๆ เต๊บจะมาอยู่เป็นเพื่อน บางครั้งบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เขาก็ยืนยันจะรออยู่ด้วย เป็นผู้ช่วยชีวิตไทนี่อยู่ตลอดเวลา และยังเข้ากับครอบครัวไทนี่ได้ จะสนิทกับพ่อและน้องชายไทนี่

    รักที่กล้าเปิดเผย
    ไทนี่ : ไทนี่คิดว่าตัวเองเป็นคนปกติคนหนึ่ง ที่เราคบกันไม่ได้เป็นเรื่องผิด แต่ถ้าปิดบังเหมือนเราทำผิดมากกว่า สมมติวันนี้เราไม่ได้ออกมาพูด แล้วมีใครถ่ายรูปไปลงหนังสือ เกิดแด๊ดดี้เห็นแล้วมาถามยิ่งแย่กว่า คือไม่ได้แย่สำหรับใคร แต่แย่สำหรับตัวเ และความเข้าใจของคนที่บ้าน
    เต๊บ : สำหรับเรื่องนี้แค่คนที่เรารักรับรู้ก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าเราขอเป็นคนคนหนึ่งเหมือนกับทุกๆ คนได้มั้ย เราคือคนหนึ่งคนที่ทำมาหากิน ไม่ได้เป็นดาราใหญ่โต ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องปิดบัง อุ๊ย...มีแฟนแล้วเรตติ้งจะตก ผมไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่แรกแล้ว ที่สำคัญคือผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นอยู่ โชคดีที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเปิดทั้งคู่ คนไทยบางคนยังอาย ไม่กล้าพาแฟนเข้าบ้านให้เจอพ่อแม่
    ไทนี่ : เมื่อก่อนนี้ไทนี่จะรู้สึกว่าเราเป็นลูกครึ่ง คงมีความแตกต่าง ถ้าคบกับเต๊บอาจมีความไม่เข้าใจเกิดขึ้น แต่ด้วยความที่เต๊บเคยไปเรียนต่างประเทศ ทำให้เขาเข้าใจตรงนี้
    เต๊บ : เราเหมือนมีพื้นฐานคล้ายๆ กันด้วย ทำให้เข้าใจกัน คือถ้าผมมีความเป็นไทยจ๋า ก็อาจจะไม่เข้าใจ ฝรั่งกับคนไทยต่างกันโดยสิ้นเชิง แค่กินข้าวคนไทยกินกับข้าวรวมกัน ฝรั่งกินของใครของมัน แค่นี้ก็แตกต่างแล้ว แต่โชคดีที่เรามีทั้งสองอย่าง

    ความรัก ความคาดหวัง และคำว่า...เพื่อน
    เต๊บ : เรื่องความรักคาดหวังมากไม่ได้ คาดหวังในที่นี้หมายความว่าเราต้องเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ ต้องมีบ้านใหญ่โต มีเงินเยอะๆ ที่จริงถ้าไม่ได้เงินหรือบ้านไม่ได้มาทำร้ายเราหรอก ที่มาทำร้ายเราคือความคาดหวังนั่นแหละ ฉะนั้นเราจึงไม่ได้วาดฝันใหญ่โตมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้วาดฝันไว้เลย
    ไทนี่ : สิ่งที่ทำได้คือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับเวลา แต่มีบ้างอย่างไปงานแต่งพี่ตุ๊ก-พี่บ๊วย ก็รู้สึกว่าน่ารักจัง ที่ไทนี่รู้สึกอีกอย่างคือ บางคนที่คบกันโดยไม่มีพื้นฐานของความเป็นเพื่อนมาก่อนก็ลำบาก เพราะไม่มีโอกาสที่จะได้ศึกษากัน แต่ไทนี่กับเต๊บเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก่อน
    เต๊บ : บางทีความรู้สึกเป็นแฟนมันต้องมีเกรงใจกัน ต้องเปิดปิดประตูรถให้ แต่คู่เราเป็นแบบเพื่อนมาก ไทนี่ไปซื้อของตรงโน้น เดี๋ยวไปเจอกันตรงนี้นะ เล่นกัน แกล้งกัน สนุกดี ผมคิดว่าเราทำทุกวันให้มีคุณค่ามากที่สุดดีกว่า เวลาทำงานผมให้ใจกับงาน ส่วนความรัก ผมก็ให้ใจไทนี่เต็มร้อย ส่วนอนาคตจะเป็นยังไง แล้วค่อยว่ากันครับ


    ขอบคุณ เรื่อง / ภาพ จากนิตยสาร In Magazine ( ฉบับวันที่ 25 มิถุนายน )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×