คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เพราะเคยสูญเสีย 1/1
การถ่ายทำโฆษณายังคงดำเนินต่อ ดาราสาวตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองจนสุดความสามารถ วีรญาแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางได้อย่างมืออาชีพ ทุกอิริยาบถของเธอบนหน้าจอมอนิเตอร์ล้วนเป็นไปตามที่ทีมงานอยากได้
“คุณหวายเก่งจริง ๆ แถมเซ็กซี่มากด้วย เหมาะกับสินค้าที่โชว์เรือนร่าง และสัดส่วนมาก ว่าไหมครับคุณกร” ผู้กำกับหันมาถามความคิดเห็นจากผู้บริหารหนุ่ม
จิรกรไม่ได้ตอบในทันที สายตาคมกล้ายังคงจับจ้องไปที่จอเบื้องหน้า สลับกับภาพจริงที่อยู่ไม่ไกลกัน ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น พิศมองอีกฝ่ายอย่างละเอียด
ดวงหน้าของวีรญาสวยหวานไร้ที่ติ คิ้วโค้งมนลับกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน จมูกสวยกลางใบหน้าเชื่อมทุกอย่างให้ดูสมดุล ริมฝีปากอมชมพูดูเป็นธรรมชาติ สายตาคมไล่สำรวจลงมาเรื่อย ๆ หยุดที่ไหล่เปลือยโผล่พ้นชุดชั้นในเนื้อดีครู่หนึ่ง ผิวกายขาวผ่องและหุ่นทรงนาฬิกาทรายเอวคอดสะโพกผายพอเหมาะ
ภาพรวมเหล่านี้ทำผู้บริหารหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ เพียงแค่มองร่างกายของอีกฝ่าย คำว่า ‘น่ากิน’ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขาทันที ความเย้ายวนผ่านเสื้อผ้าน้อยชิ้นปกปิด เรียกความร้อนรุ่มให้คนมองจนสายตาไม่หลุดโฟกัส
ชั่ววินาทีดวงตาสีดำที่เคยแวววาว พลันหรี่ลง ฉายประกายความไม่พอใจออกมา มือหนากำแน่นจนเป็นหมัดเมื่อรับรู้ว่าไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ได้เห็นความงดงามตรงหน้า วีรญากำลังอยู่ในบทบาทของนักแสดง เธอเป็นนางเอกโฆษณาบรารุ่นใหม่ของเจด้า เนินอกอวบเย้ายวนแม้จะมีชุดชั้นในสีขาวปกปิดกำลังจะถูกถ่ายทอดออกสู่สายตาคนอีกมากมาย
"โอเค คัต เรียบร้อยครับ"
จิรกรได้สติวางหน้าราบเรียบคาดเดาอารมณ์ได้ยาก
เสียงปรบมือจากทีมงานดังขึ้นเมื่อผู้กำกับสั่งหยุดการถ่ายทำ เป็นการสื่อความหมายว่างานได้จบลงแล้ว
วีรญาสวมเสื้อคลุม เดินกลับมายังหน้าจอมอนิเตอร์ ตรวจสอบความเรียบร้อยของงานกับทีมงานอีกครั้ง
"ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ถ้าติดตรงไหนบอกเลยนะคะ หวายถ่ายซ่อมให้ได้” เธออยากให้งานทุกชิ้นที่ทำออกมาดีที่สุด เอาให้ถูกใจผู้กำกับและลูกค้า
"ไม่มีครับ น้องหวายทำได้ดีมาก"
หญิงสาวยิ้มรับ ยกมือไหว้ผู้กำกับการถ่ายทำ และทีมงานทุกคน เว้นเสียแต่จิรกรซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ไม่ได้รับการสนใจจากเธอ เขาถูกเมินราวกับเป็นธาตุอากาศ
"จบงานนี้แล้ว คุณหวายยังเหลืองานอีเว้นท์เปิดตัวศุกร์หน้านะคะคุณคาร์แคล" ทีมงานของบริษัทเจด้า ย้ำกำหนดการกับผู้จัดการของวีรญาอีกครั้ง
"รับทราบค่ะ ลงคิวเรียบร้อยแล้ว"
คาร์แคลเปิดไอแพด เปิดดูตารางงานของดาราสาว เรื่องงานเธอไม่เคยพลาดอยู่แล้ว
"เดี๋ยวก่อนกลับทางเราขอเอกสารเพิ่มเติมของคุณหวายหน่อยนะคะ”
"ได้ค่ะ เดี๋ยวแคลจัดการให้"
วีรญาปล่อยให้ผู้จัดการเช็กตารางงาน ส่วนตัวเองกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมกลับไปพัก ทว่าในขณะที่มือกำลังจะเอื้อมเปิดประตู ร่างสูงของจิรกรก็เข้ามาขวางหน้าเธอ
"อะไรของคุณ ต่างคนต่างอยู่ไม่เป็นหรือไง?"
สายตาและน้ำเสียงของหญิงสาวติดจะเหวี่ยงเล็กน้อยเพราะเธอไม่ชอบที่จิรกรตามมาวุ่นวาย เห็นหน้าเขาทีไรอารมณ์ร้อน มันปะทุขึ้นมาทุกที
"อย่ามองกันด้วยสายตาอย่างนั้นสิ ผม…มาดีนะ"
ประโยคท้ายเน้นหนัก ขณะเหลือบมองอีกฝ่ายตรง ๆ เขาแค่อยากมาขอบคุณเธอแทนทีมงาน ในฐานะผู้บริหารคนหนึ่ง หรือจะเรียกว่ามาคุยตามมารยาทคงไม่ผิด
“มีอะไรก็รีบพูดมาฉันจะไปเปลี่ยนชุด ไม่อยากเสียเวลา”
นักธุรกิจหนุ่มไหวไหล่ ใจหายเล็กน้อยที่ตัวเองถูกลดทอนความสำคัญจนไม่เหลือ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเคยเป็นที่หนึ่งสำหรับเธอ วีรญากำลังทำให้เขาเข้าใจการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เปลี่ยนจนไม่หลงเหลือเยื่อใย
"ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารของเจด้า ผมอยากขอบคุณที่ให้เกียรติร่วมงานกับเรา" จิรกรเป็นตัวแทนพี่สาวเอ่ยขอบคุณวีรญา แม้ลึก ๆ จะไม่อยากทำ แต่ในเมื่อรับปากแล้วเขาก็ไม่อยากเสียคำพูด
"แค่นี้ใช่ไหมคะ ฉันรีบ" แน่นอนว่าเธอไม่ซาบซึ้ง
"คุยกับผมมันเสียเวลาขนาดนั้นเลย? จะโกรธอะไรกันนักกันหนาทั้งที่เรื่องมันจบไปตั้งนาน" เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอดีตภรรยาถึงได้ตั้งท่าจงเกลียดจงชังกันนักทั้งที่ความบาดหมางในอดีตมันสิ้นสุดลงไปแล้ว
"คุณไม่เป็นฉันคุณไม่รู้สึกหรอก"
"รู้สึกอะไร แค่คนเราเลิกกันไม่จำเป็นต้องโกรธต้องเกลียดกันก็ได้ ผมเคยเป็นสามีที่แย่บ้างผมยอมรับ แต่อย่าลืมว่าผมไม่เคยใจร้ายกับคุณสักครั้ง อยากหย่าผมก็ไม่ได้รั้งไม่ได้ระราน"
วินาทีนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมของวีรญา เธอทำราวกับเขาทำผิดร้ายแรงจนยากจะอภัย ตั้งแต่วันหย่าจนถึงตอนนี้เขารับรู้ว่าดวงตากลมโตคู่นั้นเจือไปด้วยความหม่นเศร้าปนเกลียดชังยามสบมองกัน
เขาถูกเมินราวกับเป็นธาตุอากาศ
"จบงานนี้แล้ว คุณหวายยังเหลืองานอีเว้นท์เปิดตัวศุกร์หน้านะคะคุณคาร์แคล" ทีมงานของบริษัทเจด้า ย้ำกำหนดการกับผู้จัดการของวีรญาอีกครั้ง
"รับทราบค่ะ ลงคิวเรียบร้อยแล้ว"
คาร์แคลเปิดไอแพด เปิดดูตารางงานของดาราสาว เรื่องงานเธอไม่เคยพลาดอยู่แล้ว
"เดี๋ยวก่อนกลับทางเราขอเอกสารเพิ่มเติมของคุณหวายหน่อยนะคะ”
"ได้ค่ะ เดี๋ยวแคลจัดการให้"
วีรญาปล่อยให้ผู้จัดการเช็กตารางงาน ส่วนตัวเองกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมกลับไปพัก ทว่าในขณะที่มือกำลังจะเอื้อมเปิดประตู ร่างสูงของจิรกรก็เข้ามาขวางหน้าเธอ
"อะไรของคุณ ต่างคนต่างอยู่ไม่เป็นหรือไง?"
สายตาและน้ำเสียงของหญิงสาวติดจะเหวี่ยงเล็กน้อยเพราะเธอไม่ชอบที่จิรกรตามมาวุ่นวาย เห็นหน้าเขาทีไรอารมณ์ร้อน มันปะทุขึ้นมาทุกที
"อย่ามองกันด้วยสายตาอย่างนั้นสิ ผม…มาดีนะ"
ประโยคท้ายเน้นหนัก ขณะเหลือบมองอีกฝ่ายตรง ๆ เขาแค่อยากมาขอบคุณเธอแทนทีมงาน ในฐานะผู้บริหารคนหนึ่ง หรือจะเรียกว่ามาคุยตามมารยาทคงไม่ผิด
“มีอะไรก็รีบพูดมาฉันจะไปเปลี่ยนชุด ไม่อยากเสียเวลา”
นักธุรกิจหนุ่มไหวไหล่ ใจหายเล็กน้อยที่ตัวเองถูกลดทอนความสำคัญจนไม่เหลือ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเคยเป็นที่หนึ่งสำหรับเธอ วีรญากำลังทำให้เขาเข้าใจการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เปลี่ยนจนไม่หลงเหลือเยื่อใย
"ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารของเจด้า ผมอยากขอบคุณที่ให้เกียรติร่วมงานกับเรา" จิรกรเป็นตัวแทนพี่สาวเอ่ยขอบคุณวีรญา แม้ลึก ๆ จะไม่อยากทำ แต่ในเมื่อรับปากแล้วเขาก็ไม่อยากเสียคำพูด
"แค่นี้ใช่ไหมคะ ฉันรีบ" แน่นอนว่าเธอไม่ซาบซึ้ง
"คุยกับผมมันเสียเวลาขนาดนั้นเลย? จะโกรธอะไรกันนักกันหนาทั้งที่เรื่องมันจบไปตั้งนาน" เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอดีตภรรยาถึงได้ตั้งท่าจงเกลียดจงชังกันนักทั้งที่ความบาดหมางในอดีตมันสิ้นสุดลงไปแล้ว
"คุณไม่เป็นฉันคุณไม่รู้สึกหรอก"
"รู้สึกอะไร แค่คนเราเลิกกันไม่จำเป็นต้องโกรธต้องเกลียดกันก็ได้ ผมเคยเป็นสามีที่แย่บ้างผมยอมรับ แต่อย่าลืมว่าผมไม่เคยใจร้ายกับคุณสักครั้ง อยากหย่าผมก็ไม่ได้รั้งไม่ได้ระราน"
วินาทีนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมของวีรญา เธอทำราวกับเขาทำผิดร้ายแรงจนยากจะอภัย ตั้งแต่วันหย่าจนถึงตอนนี้เขารับรู้ว่าดวงตากลมโตคู่นั้นเจือไปด้วยความหม่นเศร้าปนเกลียดชังยามสบมองกัน
วีรญาเหมือนได้สติว่าไม่ควรรื้อฟื้นอดีต หญิงสาวส่ายศีรษะไปมา เป็นอีกครั้งของวันที่เธอต้องปรับอารมณ์ตัวเอง
"เอาเป็นว่าเราต่างคนต่างอยู่ และฉันหวังว่าเราจะไม่จำเป็นต้องพบกันอีก” เธอทำหน้าที่ของตัวเองสุดความสามารถแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของทีมงาน และคงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องเจอหน้าจิรกรอีก
“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
สิ้นคำจิรกรก็ก้าวถอยหลังเพื่อให้ทางกับวีรญา ความจริงเขาไม่ได้อยากกวนใจเธอนัก แค่อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้จบ ๆ ไปเหมือนกัน
ดวงตาคมเข้มมองตามร่างบอบบาง กระทั่งประตูปิดลง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ชั่ววินาทีรอยยิ้มที่มีเหมือนไม่มีพลันผุดขึ้นจาง ๆ แม้เขาจะหงุดหงิดกับการกระทำของอดีตภรรยาอยู่บ้าง ทว่าลึก ๆ แล้วกลับมีความยินดีที่ได้เห็นเธอสุขกายสบายใจ
จิรกรเดินกลับออกมาหลังจากปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกบางอย่างครู่ใหญ่
มันเป็นอีกครั้งที่เขาเลือกจะหันหลังให้ผู้หญิงคนนั้น ทุกย่างก้าวเชื่องช้าทว่ามั่นคง เพราะคิดว่าของขวัญที่ดีที่สุดที่สามารถมอบให้เธอได้คือการเดินออกจากชีวิต
ความคิดเห็น