โชกโชน

ลำดับตอนที่ #3 : นางร้ายดาวรุ่ง 1/3

วีรญาตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปร่วมงานบวงสรวงละครเรื่องใหม่ ซึ่งมีตารางจะออกอากาศในสัปดาห์ถัดไป นางร้ายสาวมาก่อนเวลานัดตามแบบฉบับคนมีวินัยอีกเช่นเคย เพราะเธอไม่อยากให้ใครต้องรอ และอยากทำตัวให้เหมาะสมกับโอกาสที่ได้รับ

"วันนี้พี่จะแต่งให้คุณน้องสวยสะพรั่งไปเลยค่ะ เอาให้นางเอกดรอปไปเลย" เสียงจากช่างแต่งหน้าเอ่ยขึ้นขณะที่เริ่มลงมือแต่งแต้มเครื่องสำอางราคาแพงบนแก้มเนียนใส

"จริง เอาให้เริด" ช่างผมผู้ชายทว่าหัวใจหญิงอีกคนแทรกขึ้น

"หวายเชื่อมือพี่อิน กับพี่นาตาลีค่ะ" คนที่ได้รับบทตัวอิจฉายิ้มพลางหยอกเย้าช่างหน้าช่างผมคนสนิท

"พี่ได้ยินว่ามีสัมภาษณ์กับสื่อเรื่องหัวจงหัวใจน้องหวายด้วย ช่วงนี้หัวใจเป็นสีชมพูเหรอคะคนดีของพี่" อินลงรองพื้นไปหาหัวข้อสนทนาไปตามประสาคนคุยเก่ง ซึ่งประโยคที่หลุดออกมาก็ทำเอาคนทั้งห้องแต่งตัวหูผึ่ง

"จริงด้วยกับไฮโซปราบที่เขาเม้าๆ กันมันยังไง?"

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพื่อนกันทั้งนั้น" ดาราสาวบอกปัดด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าข่าวจะมีมูลบ้างก็เถอะ

"เพื่อนแน่นะคะคุณน้อง?"

"อย่าเพิ่งถามอะไรมากแต่งหน้าทำผมไป เดี๋ยวลูกสาวฉันก็ไม่ทันงานทันการกันพอดี" คาร์แคลเบรกคคนทั้งคู่เอาไว้ เพราะกลัววีรญาจะหลุดพูดอะไรที่ทำให้คนได้ฟังเอาไปตีความแบบผิด ๆ ช่วงนี้ดาราในความดูแลกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทุกคำพูดทุกการกระทำย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียง

"รับทราบค่ะคุณแม่คาร์แคล"

คำถามที่มีต่อดาราสาวสวยจบลงแค่นั้น อินและนาตาลีเปลี่ยนเรื่องคุยในระหว่างเปลี่ยนโฉมดาราสาว ไม่นานเสียงหัวเราะสนุกสนานก็ดังขึ้นเป็นระยะ ตามแบบฉบับชายหัวใจหญิงมีจริตตัวแม่เรียกรอยยิ้มให้คนที่พบเจอ

วีรญาใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงก็แต่งตัวเสร็จ หญิงสาวเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสั้นสีแดงเข้ม เปลือยไหล่นวลเนียน ขับผิวขาวผ่องและทรวดทรงให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของสรีระ

"สวยมากค่ะลูกสาว นี่แหละเรียกว่าทำถึง"

คาร์แคลปรบมือให้กับความสวยงามที่ดูลงตัวของวีรญา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชุดที่หญิงสาวใส่บวกกับเครื่องหน้าและหุ่นนาฬิกาทรายของเธอนั้นช่างดึงดูดสายตาแก่ผู้พบเห็น

"ขอบคุณค่ะพี่แคล เราไปกันเลยไหมคะ เดี๋ยวทีมงานจะรอ"

วีรญาเป็นคนจริงจังกับการทำงาน ตรงต่อเวลา และเต็มที่จนวินาทีสุดท้าย

"ไป ๆ"

เหล่าดารานักแสดงละครต่างมารวมตัวกันตามนัดหมาย ตัวละครหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือพระเอกและนางเอกของเรื่อง วีระและอริสารับบทนำ ส่วนวีรญาเป็นนางร้ายที่คอยขัดขวางความรักของคู่หลัก เธอมองว่าบทที่ได้รับเป็นอีกตัวละครที่มีความสำคัญ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ให้คำจำกัดความกับสิ่งที่เธอแสดงว่าเป็นตัวร้าย ทำลายความสัมพันธ์ของพระนาง

"ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ"

"นักแสดงเล่าถึงบทบาทและฝากละครเรื่องนี้กันหน่อยครับ"

"ผมรับบทเอกครับ เป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างเจ้าชู้ มีความขี้เล่น แต่ก็มีจุดที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนไปเพราะเจอนางเอก ก็ฝากละครเรื่องเพลิงรักด้วย เป็นละครโรแมนติกดรามาที่ให้ข้อคิดในเรื่องชีวิตครอบครังมากพอสมควรนะครับ อยากให้ติดตามครับ" วีระให้สัมภาษณ์เป็นคนแรก

"ของอรก็รับบทขิมค่ะ เป็นผู้หญิงที่น่ารักสดใส แต่ก็ต้องถูกบังคับจากครอบครัวให้มาแต่งงานกับพระเอก เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก อยากให้ดูจริง ๆ ค่ะ"

"มีเขินไหมคะที่ต้องเล่นเลิฟซีน"

"ก็ต้องมีบ้างครับ จริงไหมอร"

"เขินค่ะเขิน ถามคุณหวายบ้างดีกว่า"

อริสาบอกปัดพลางส่งยิ้มให้กล้องหลายสิบตัวเบื้องหน้า ก่อนจะปรายตามาหาวีรญาเพื่อนสนิทที่เป็นนางร้ายในเรื่อง สื่อเป็นนัยว่าให้อีกฝ่ายได้พูดบ้าง

"สวัสดีค่ะหวายนะคะ หวายรับบทเป็นจีน่า เป็นตัวร้ายของเรื่อง ก็จะร้ายแบบไม่สนใครเลย สู้สุดใจเพื่อให้ได้ครอบครองพระเอก" วีรญาบอกถึงบทบาทของตัวละครที่เธอแสดงในเรื่อง

"บทน้องหวายแซ่บมาก เรามีทำการบ้านเยอะไหมคะ เตรียมตัวยังไงบ้างตอนถ่ายทำ" นักข่าวเริ่มโยนคำถามให้ดาราสาวได้ตอบ

"จริง ๆ เตรียมตัวเยอะในเรื่องของแอคติ้งมากกว่าค่ะ พยายามเข้าใจตัวละคร เหตุผลที่ทำให้ตัวจีน่าร้ายคืออะไร แล้วก็ถ่ายทอดออกมาตามที่เรารู้สึกได้" วีรญาพูดถึงตัวละครในเรื่องและการทำงานของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอเล่นละครออกมาได้ดีคงเป็นเพราะการตีโจทย์ของตัวละคร เธอทำความเข้าใจและเลือกแสดงออกมาให้ใกล้เคียงกับบทมากที่สุด

"เรื่องนี้กระแสเราดีมาก ช่วงนี้ดูเหมือนจะลักกี้อินเกมและได้ข่าวว่าลักกี้อินเลิฟด้วย ใช่ไหม?"

"น่าจะแค่ลักกี้อินเกมค่ะ ขอทำงานก่อนเรื่องอินเลิฟเอาไว้ทีหลัง"

"แล้วกับไฮโซปราบนี่ยังไงครับน้องหวาย ข่าววงในบอกว่ามีนัดกินข้างกันสองต่อสอง"

"หวายกับคุณปราบรู้จักกันค่ะ เราเป็นพี่น้องกันยังไม่อยากลงรายละเอียดความสัมพันธ์มาก อย่างที่บอกค่ะขอโฟกัสที่งานก่อนไว้ถ้าคืบหน้ายังไงจะแจ้งพี่ ๆ นักข่าวนะคะ"

“แต่เห็นว่ามีนัดทานข้าวกัน”

“พี่น้องหรือเพื่อนก็นัดทานข้าวกันได้ค่ะ ยังไงก็ฝากละครที่กำลังจะออนแอร์ในสัปดาห์หน้าด้วยนะคะ นักแสดงและทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันมาก ขอบคุณพี่ ๆ สื่อทุกสำนักด้วยค่ะ”

วีรญายังคงมีสติไม่พูดกระทบหรือพาดพิงบุคคลที่สามซึ่งเป็นบุคคลนอกวงการมากเกินไป และไม่ลืมปิดท้ายด้วยการฝากละครที่เธอแสดงกับทุกสื่อที่มาร่วมทำข่าว

“โอเค ขอบคุณน้องหวายมากค่ะ”

ดาราสาวส่งยิ้มหวาน ๆ หลังตอบคำถามแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น สิ่งหนึ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ดีไม่แพ้แสดงละครเลยคือ เธอไม่เคยตายไมค์มีไหวพริบในการตอบคำถามและเอาตัวรอดทุกสถานการณ์

ดวงตาคมคายเพ่งมองข่าวบันเทิงบนหน้าจอโทรทัศน์ของร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เดิมทีจิรกร มหาศาลทรัพย์ ไม่ได้สนใจกับข่าวอะไรแบบนี้ มันค่อนข้างไร้สาระและไกลตัวสำหรับเขา ทว่าคนที่กำลังให้สัมภาษณ์บนหน้าจอตอนนี้คือข้อยกเว้น

"ดาราชอบตอบอย่างนี้เนอะ”

พี่น้องจริงรึเปล่าก็ไม่รู้" เสียงของเจ้หงส์ แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวพูดแทรกขณะที่ดูรายการเดียวกัน

จิรกรพยักหน้าตอบรับเบา ๆ ในขณะที่รอยยิ้มบนใบหน้าค่อย ๆ เลือนหาย เพราะดาราที่เป็นหัวข้อในการสนทนานั้นเป็นคนที่เคยตนรู้จักอย่างลึกซึ้ง ลึกจนเขาไม่อยากแสดงความเห็นอะไรที่เกี่ยวกับเธอด้วยซ้ำ

"แต่เจ้ว่านางร้ายคนนี้สวยนะ สวยกว่านางเอกด้วยซ้ำว่าไหมคุณกร?" จิรกรแค่นยิ้ม รูปร่างหน้าตาของวีรญาคงเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่อาจโต้แย้งได้ เธอสวยดูดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

"ดาราก็ต้องสวยทุกคนแหละครับเจ้"

มือหนารวบช้อนและตะเกียบเข้าหากัน บ่งบอกว่ามื้ออาหารกำลังจบลง แม้เขาจะแตะมันไปเพียงไม่กี่คำ

"นั่นสิ วาสนาใครจะได้คนสวย ๆ อย่างนี้ไปเป็นแฟน น่าอิจฉาเนอะ"

สายตาของคนฟังเหลือบมองไปยังหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง พลางนึกในใจขึ้นว่า เมื่อก่อนก็เป็นวาสนาเขานี่แหละที่ได้ครอบครองผู้หญิงที่อยู่ในหัวข้อสนทนา แต่มันแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

ทุกวันนี้เขาและวีรญาต่างเลือกเดินตามเส้นทางของตัวเอง ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ล้วนกลายเป็นอดีต และอดีตที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าคนบางคนเหมาะที่จะอยู่ในความทรงจำมากกว่าชีวิตจริง

******

ฝากติดตามด้วยน๊า^^