คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : มือที่สาม 1/4
วีรญาเก็บของเตรียมตัวกลับหลังจากเสร็จสิ้นหน้าที่ ร่างเพรียวเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาว และกางเกงยีน หญิงสาวมีสีหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะแค่คิดว่าหลังจากนี้จะไม่ต้องข้องเกี่ยวกับจิรกรและครอบครัวในใจพลันรู้สึกเบาสบายราวกับยกภูเขาออกจากอก
ที่ผ่านมาการร่วมงานก็ไม่ได้แย่ เกษราและกิ่งกาญยังคงให้ความเอ็นดู ทีมงานของเจด้าดูแลเธอดีมากตั้งแต่เริ่มถ่ายแบบไปจนถึงถ่ายโฆษณา ติดอยู่แค่จิรกรคนเดียว ถ้ายังมีเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารของเจด้า เธอขอไม่รับงานจากบริษัทนี้อีก
"วันนี้หวายขับรถกลับเองนะคะพี่แคล พี่ไม่ต้องตามไปส่ง จะได้กลับไปจัดตารางงานให้หวายเร็ว ๆ ไม่ต้องวนไปมา" นอกเวลางานเธออยากให้ผู้จัดการได้พัก อะไรที่สามารถทำเองได้ก็จะไม่รบกวน
"เอาอย่างนั้นเหรอคะลูกสาว ขับไหวแน่นะ"
ดาราสาวตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวทำงาน และกว่าจะจบงานก็ดึกดื่น กลัวจะเพลียจนขับรถไม่ไหว
"ไหวค่ะ หวายโอเค" วีรญาย้ำอีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้น พี่ถึงบ้านจะส่งตารางงานที่อัปเดตแล้วให้แล้วกันนะ"
"ค่ะพี่แคล อืม...หวายจะไปลาคุณเกษและคุณกิ่งก่อนกลับนะคะ พี่แคลไปด้วยไหม? "
"โอเค เดี๋ยวพี่ไปด้วย"
คาร์แคลพาวีรญาไปพบเกษราและกิ่งกาญ ซึ่งถือเป็นมารยาที่หลังเสร็จงานต้องพาดาราในสังกัดไปไหว้ขอบคุณลูกค้าที่ให้โอกาสได้ทำงานร่วมกัน อยู่พูดคุยกันเพียงเล็กน้อยจึงขอตัวกลับ
วีรญาเดินออกมายังไม่พ้นบริเวณจัดงาน หญิงสาวหันกลับไปมองรอบ ๆ อีกครั้ง สอดส่องหาใครบางคนที่ชอบเข้ามาวุ่นวาย พอไม่พบเขาก็รู้สึกแปลกใจพิกล
การจัดงานวันนี้เธอไม่ค่อยเห็นจิรกรเข้ามามีบทบาทสักเท่าไร ทั้งที่เขาคือหนึ่งในผู้บริหารของบริษัท ชายหนุ่มเข้ามาถ่ายรูปรวมตอนปิดงาน หลังจากนั้นก็ไม่เจอเขาอีกเลย
"มองหาใครอยู่คะลูกสาว ไหนว่ารีบกลับ"
"อ่อ...เปล่าค่ะ เราแยกกันตรงนี้นะคะพี่แคล รถหวายจอดอยู่ลานจอดทางนั้น" วีรญาชี้ไปทางฝั่งที่รถของตัวเองจอด แล้วโบกมือลาผู้จัดการคนสนิท ในขณะที่สมองกำลังมีความคิดตีกันไปมา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะไปสนใจการอยู่หรือไปของผู้ชายคนนั้นทำไม การไม่พบเจอมันก็ดีอยู่แล้ว
วีรญาเปิดประตูเข้ามาในรถ กดสตาร์ตเครื่องยนต์ ทว่าสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อประตูรถอีกฝั่งถูกเปิดออกพร้อมกับการเข้ามานั่งของจิรกร ดวงตาคู่งามหรี่ลง ทอแววไม่สบอารมณ์เข้มข้นพลุ่งปราดออกมาทันที เธอสังหรณ์ใจแปลก ๆ ตั้งแต่เขาไม่โผล่หน้ามาให้เห็นในงานแล้ว
"ขึ้นมาทำไม ลงไป” เธอไม่ได้กลัวเขา แต่โกรธมากกว่าที่ชายหนุ่มยังตามระรานไม่เลิก
“ไม่ไป จนกว่าเราจะได้คุยกัน”
“ทำไมคุณถึงไร้มารยาทได้ขนาดนี้ การศึกษาก็ดี สังคมรอบตัวก็ไม่ได้แย่ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หล่อหลอมคุณให้ดีตามเลยใช่ไหม"
ว่าพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยเกรงว่าใครจะมาเห็นเธอและเขานั่งรถด้วยกัน
จิรกรกัดฟันกรอด ข่มความไม่พอใจเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึม หากคำพูดเป็นดั่งมีดคม ๆ ร่างกายเขาคงทะลุทะลวงไปนานแล้ว
"ผมมีเรื่องจะคุย ถ้ากลัวเป็นข่าวก็รีบขับรถออกจากตรงนี้ แล้วไปหาที่เงียบ ๆ คุยกัน" จิรกรถือวิสาสะคาดเข็มขัดนิรภัย เตรียมเป็นผู้โดยสารนั่งรถไปกับเธอ
"ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอก ? "
ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องทำตามจิรกร เขาไม่ได้มีแต้มต่อกับเธอขนาดนั้น
"ผมมีเรื่องสำคัญ อยากตกลงกับคุณจริงๆ ถือว่าผมขอ"
จิรกรเสียงอ่อนลง เขายากคุยเรื่องความสัมพันธ์ของเธอและปริญ เผื่อว่าหญิงสาวจะลดระดับความสนิทกับผู้ชายคนนั้นเพื่อความสบายใจของลลินดา
"แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุย มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย ไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนให้คนช่วย แล้วบอกว่าคุณเข้ามาลวนลามฉันในรถ" เธอเริ่มขู่จิรกรกลับบ้าง เขาจะได้ไปให้พ้นสายตาสักที นาทีนี้ไม่ว่าเขาต้องการคุยเรื่องอะไรเธอก็ไม่สนใจทั้งนั้น
"จะเอาอย่างนั้นก็ได้ จะได้รู้กันไปเลยว่าถ้าผมทำอย่างที่คุณพูดจริง ๆ ผลเสียมันจะเกิดขึ้นกับใคร" แน่นอนว่าเขาไม่กลัว เขามันคนทั่วไป ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง ต่อให้เป็นข่าวผลกระทบคงไม่มาก
“คุณกร!” กิริยาที่พยายามรักษาให้เป็นปกติเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นน่ากลัว เธอปฏิเสธอยู่ปาว ๆ เขายังไม่ฟังอะไรอยู่อีกหรือ ช่างหน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว
ดวงตาสีดำสนิทมองนิ่งไปที่ดวงตาของคู่สนทนา ก่อนจะเอ่ยสรรพนามที่ติดปากด้วยน้ำเสียงเจืออ้อนวอนอีกฝ่ายว่า
“เฮียขอคุยด้วยนิดเดียว สัญญาว่าถ้าคุยเสร็จจะไป”
จิรกรหลุดใช้สรรพนามแสนเคยชินออกไป เขามักแทนตัวเองว่า 'เฮีย' และเรียกวีรญาว่า 'หนู' มันเป็นคำเรียกติดปากเมื่อตอนยังรัก
"ฉันไม่..."
"หนูก็รู้ว่าเฮียพูดคำไหนคำนั้น คุยเสร็จเฮียจะไปทันที เฮียสัญญา" เขายังคงหว่านล้อมไม่หยุด พยายามใช้ความจริงใจเข้าช่วยเพื่อหวังให้วีรญาเปิดโอกาสได้พูดคุยกันอีกสักครั้ง และหากมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เขาจะไม่รบกวนเธออีก
วีรญากำมือแน่น เบนหน้าไปอีกฝั่งของรถ พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ คล้ายกำลังอดกลั้น เธอต้องทนกับผู้ชายคนนี้อีกนานแค่ไหนกัน
ใช้ความคิดและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยรู้นิสัยของจิรกรดีว่าเขาเป็นคนชอบเอาชนะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ครั้นจะยืนกรานปฏิเสธเขาคงจะตามตอแยไม่เลิกจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ
"ได้ ฉันจะคุยกับคุณ แต่ช่วยกรุณาอย่าเรียกฉันด้วยสรรพนามแบบนั้นอีก เราไม่สนิทกันขนาดนั้น"
เธอตำหนิเขาตอกย้ำให้รับรู้ว่าไม่ควรเอาคำพูดเดิม ๆ มาใช้ในวันที่ความสัมพันธ์มันร้าวราน
อยากรู้เหมือนกันว่าจิรกรจะมาไม้ไหนอีก ระหว่างเธอและเขามีเรื่องอะไรให้ต้องพูดคุยกัน ?
ความคิดเห็น